วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 11





บ่ายแก่ๆวันหนึ่ง สายลมโชยระเรื่อย ท่านออกญาโหราธิบดีนั่งอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ ในใจครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาฝันเห็นเมื่อคืน จนกระทั่งคุณหญิงจำปาเดินลงมาตาม
“คุณพี่เจ้าคะ วันนี้อากาศเย็นนัก ไฉนท่านลงมานั่งตากลมอยู่นี่ ประเดี๋ยวอาการป่วยจะยิ่งกำเริบนะเจ้าคะ”
คุณหญิงจำปาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เพราะพักหลังมานี้สุขภาพของท่านออกญาไม่ใคร่จะดีนัก สามวันดีสี่วันไข้ บางครั้งบางคราวหนักถึงขนาดไอปนเลือดออกมาก็มี
“เมื่อคืนข้าฝันถึงพ่อศรี เขานำแหวนวงหนึ่งมามอบให้ข้า”
ท่านออกญาเล่าถึงความฝันเมื่อคืน ที่ได้เห็นลูกชายคนโต คือศรีปราชญ์ พี่ชายแท้ๆของพ่อเดช คุณหญิงจำปาพอได้ยินก็ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความดีใจเพราะคิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวน พลันเอ่ยถามขึ้นมา
“โถ...พ่อศรีของแม่ คุณพี่เจ้าคะ ฝันของท่านในครั้งนี้ จะเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่เจ้าคะ”
ท่านออกญาได้แต่ส่ายหน้าและไม่ได้พูดอันใดต่อ สีหน้ามีแต่ความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
...
ราวกับเป็นนิมิตบอกเหตุ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สุขภาพของท่านออกญาก็ทรุดลงเรื่อยๆจนถึงกับลุกขึ้นเดินไม่ได้ คุณหญิงจำปาก็เป็นกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งเพลานี้พ่อเดชยังไม่ถึงกำหนดกลับมาจากฝรั่งเศส ยิ่งทำให้คุณหญิงกระวนกระวายใจยิ่งนัก
กลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่ท่านออกญายังนอนซมด้วยพิษไข้จนไม่รู้สึกตัว ก็ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งแอบขึ้นเรือนมาอย่างเงียบๆ เขาก้มลงกราบข้างเตียงของท่านออกญา ก่อนจะเดินเข้าไปในหอนอนของคุณหญิงจำปา เมื่อคุณหญิงเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนยามวิกาลก็อุทานออกมา
“พ่อศรี!! พ่อศรีจริงๆด้วย ลูกกลับมาอยุธยาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่”
แท้จริงแล้วผู้ที่มาเยือนคือศรีปราชญ์นั่นเอง เขาลอบเข้าอยุธยามาโดยมิมีผู้ใดล่วงรู้ เหตุเพราะเขามีอาญาติดตัวจากการที่ไปล่วงเกินนางสนมคนหนึ่งของขุนหลวง จนต้องโทษเนรเทศไปอยู่เมืองนครศรีฯ การเหยียบแผ่นดินอยุธยาของเขานั้นถือเป็นการละเมิดพระราชอาญา ต้องโทษสถานหนัก แต่ด้วยลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาต้องกลับมา
“ลูกมานี่เพราะคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน และมีนิมิตบอกเหตุทำให้ลูกรู้ว่ากำลังมีสิ่งไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณพ่อ”
“คุณพ่อของเจ้าป่วยหนักมาพักใหญ่แล้ว จนแม่ใจคอไม่ดีเลยกลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไป แต่พอเห็นลูกกลับมาเช่นนี้ก็ทำให้แม่คลายใจยิ่งนัก มาเถิดพ่อศรีของแม่ ให้แม่ได้กอดให้หายคิดถึงเถิดหนาลูก”
แล้วพ่อศรีก็ตรงเข้าสวมกอดคุณหญิงจำปา ใบหน้าของเขาซบลงตรงเนินอกของคุณหญิงพอดิบพอดี  กลิ่นหอมของแป้งร่ำที่ปะพรมอยู่ทั่วตัวทำให้เขาสูดดมอย่างชื่นใจเป็นที่สุด เขาซุกหน้าลงตรงร่องอกของคุณหญิงโดยมีเสื้อผ้าและท่อนสไบปกคลุมอยู่สองชั้นแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความนุ่มละมุนจากทรวงอกของนาง
“นานเหลือเกินคุณแม่ ที่ลูกไม่ได้โอบกอดคุณแม่เช่นนี้ ทำให้ลูกนึกถึงวันเก่าๆยิ่งนัก วันที่พวกเราอยู่กันพร้อมหน้า วันที่พวกเรามีความสุขด้วยกัน คุณแม่จำได้เหมือนลูกใช่หรือไม่”
พ่อศรีเอ่ยแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาคุณหญิงจำปาอย่างเว้าวอน สายตานั้นมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ภายใน ความหมายที่รู้กันเพียงสองคนระหว่างเขากับนาง คุณหญิงจำปาเห็นแววตานั้นแล้วก็หวนนึกไปถึงเมื่อครั้งอดีตของนาง อดีตที่นางไม่เคยลืมและจะไม่มีวันลืม
...

25 ปีก่อน แม่หญิงจำปาในวัย 14 กำลังเป็นสาวแรกรุ่น ใบหน้าสะสวยรูปร่างสมส่วน นางเป็นลูกสาวของข้าหลวงในขุนหลวงพระองค์ก่อน และถูกพระราชทานให้เป็นเมียของออกพระโหราธิบดี ขุนนางหนุ่มอนาคตไกลในยุคนั้น เพียงปีแรกที่แต่งงานกันนางก็ให้กำเนิดบุตรชาย ตั้งชื่อว่าพ่อศรี และมีบุตรคนที่สอง คือพ่อเดช ในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น หลังจากคลอดบุตรคนที่สองแล้วท่านออกพระก็ไม่เคยขึ้นเตียงกับนางอีกเลย ด้วยรสนิยมของท่านออกพระนั้นไม่พิสมัยหญิงมีบุตรแล้วเท่าใดนัก แต่ก็ยกย่องเชิดชูแม่หญิงจำปาเป็นเมียเอกอย่างสมเกียรติและมอบหมายให้ดูแลเรื่องภายในบ้านทั้งหมดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จวบจนพ่อศรีย่างเข้าวัยรุ่นอายุได้ 13 ขวบปีกำลังอยู่ในวัยคะนอง ส่วนคุณหญิงจำปาก็ย่างเข้า 28 ปีกำลังเป็นสาวสะพรั่ง ใบหน้างดงามผุดผ่องเป็นที่ต้องตาของผู้พบเห็น รูปร่างของนางนั้นอวบอัดเสียจนแม้จะแต่งตัวมิดชิดเพียงใดก็ไม่สามารถปิดบังหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักและสะโพกผายใหญ่งอนงามนั้นได้ ยามเข้าวัดทำบุญแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าพอเห็นคุณหญิงจำปาแล้วก็เกือบจะรักษาศีลไว้ไม่อยู่ ต้องแอบไปปลงอาบัติกันบนกุฏิสักยกสองยกจึงจะสงบใจลงได้ ยิ่งชาวบ้านร้านตลาดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต่างโจษจันถึงความงดงามของเมียท่านออกพระจนรู้กันทั่วทั้งพระนคร
แต่ใครเลยจะรู้ว่าแม้คุณหญิงจำปาจะงามหยดย้อยถึงเพียงนี้ แต่ก็ยังมิเป็นที่พึงพอใจของท่านออกพระอยู่ดี ด้วยนิสัยเจ้าชู้ของท่านออกพระทำให้เขาเที่ยวไปเล่นจ้ำจี้กับบ่าวสาวๆในเรือนจนไม่เคยหันมาสนใจเมียเอกอย่างนางอีกเลย ปล่อยให้นางว่างเว้นจากเรื่องบนเตียงอยู่หลายปี จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ความจริงทุกอย่างถูกรับรู้โดยบุตรชายคนโตของนาง
...
วันนั้นพ่อศรีกำลังเล่นชนไก่อยู่กับพวกบ่าว จู่ๆก็นึกอยากจะไปเดินเล่นที่ตลาดวัดนางชี จึงเดินขึ้นเรือนไปหมายจะขออนุญาตจากคุณหญิงจำปา แต่พอเดินมาจนเกือบจะถึงหอนอนของคุณหญิงก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันสลับกับเสียงสูดปากครางซี้ดซ้าด เขาจึงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ พลางย่องเข้าไปใกล้แหล่งที่มาของเสียงนั้นอย่างเงียบกริบ
“ซี้ด...อูว...อย่างนั้นแหละ..ดี ดูดแรงๆ...อืม...อา...ข้าเสียวเหลือเกิน เอ็งรีบเข้าเถิด ข้าจะรอไม่ไหวอยู่แล้ว...อืม”
เสียงที่เขาได้ยินนั้นเป็นเสียงของคุณหญิงจำปาแม่ของเขาไม่ผิดแน่ เพราะเสียงนั้นดังมาจากหอนอนของนาง เสียงนั้นกระเส่าจนทำให้ใจเขาเต้นโครมครามรู้สึกแปลกๆจนท่อนเนื้อกลางหว่างขามันเริ่มแข็งตัวขึ้นมา เขาค่อยๆย่องเข้าไปหาทางแอบดูตามช่องรอยแตกของผนังไม้จึงได้เห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในห้องจนได้
คุณหญิงจำปาที่ตัวเปล่าเปลือยล่อนจ้อนไม่มีเสื้อผ้าติดกาย กำลังกอดรัดอยู่กับบ่าวผู้หนึ่งซึ่งหันหลังให้จากมุมที่เขามองทำให้เห็นไม่ชัดว่าเป็นผู้ใด แต่พ่อศรีไม่ได้สนใจเรื่องนั้น กลับสนใจร่างเปลือยของมารดาตัวเองมากกว่า เพราะตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มมาเขาก็มีความสนใจในเพศตรงข้ามมาโดยตลอด หากแต่มิมีหญิงใดที่มีเสน่ห์ชวนมองมากไปกว่าคุณหญิงจำปา แม่แท้ๆของเขาอีกแล้ว เขาเคยแอบดูแม่ตัวเองอาบน้ำที่ท่าน้ำหลายหน หน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกผ้าถุงที่นุ่งไว้เห็นเป็นก้อน เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายใหญ่ยิ่งทำให้ควยเขาแข็งจนแทบระเบิด มาบัดนี้เขาได้เห็นชัดๆแบบไม่มีเสื้อผ้าปิดบังยิ่งเร้าอารมณ์เขามากขึ้นไปอีก หัวนมป้านใหญ่สีน้ำตาลบนยอดอกถูกบ่าวผู้นั้นสลับดูดไปมาซ้ายทีขวาที ส่วนมือก็ขยำขยี้จนพ่อศรีเห็นแล้วกลัวมันจะแหลกเหลวคามือ คุณหญิงจำปาส่งเสียงครางบิดตัวไปมา บ่าวผู้นั้นค่อยๆจับร่างของนางเอนลงนอนหงาย คุณหญิงจำปาจึงกดศีรษะของมันลงไปตรงเนินโคกสวาทของนาง บ่าวผู้นั้นมีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย
“คุณหญิงขอรับ บ่าวเกรงว่า...”
“เอ็งรังเกียจของข้างั้นรึ”
“มิได้ขอรับ บ่าวมิกล้ารังเกียจหรอกขอรับ บ่าวจะทำให้คุณหญิงเดี๋ยวนี้ขอรับ”
“หึ...มันก็ต้องอย่างนั้นสิ ข้าเป็นนาย เอ็งเป็นบ่าว ไม่ว่าของต่ำแค่ไหนในร่างของข้า ก็ยังสูงกว่าทุกอย่างในตัวของเอ็ง แม้แต่ตีนข้า หากข้าสั่ง เอ็งก็ต้องเลีย เข้าใจไหม...ซี้ด...อูย...อย่างนั้นแหละ”
คุณหญิงจำปาออกคำสั่งให้บ่าวผู้นั้นใช้ปากและลิ้นเลียโคกสวาทของนาง แม้จะไม่เต็มใจนักแต่เมื่อเป็นคำสั่งมันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงกระนั้นมันก็ยังแอบภูมิใจอยู่ลึกๆว่าบ่าวชั้นต่ำอย่างมันได้มีโอกาสเสพสังวาสกับหญิงสูงศักดิ์ผู้งดงามอย่างคุณหญิงจำปา แม้จะตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็คงหาโอกาสเช่นนี้ไม่ได้ มันจึงตั้งใจดูดเลียเนินโคกนั้นจนคุณหญิงจำปาสะบัดหน้าไปมาทั้งดิ้นทั้งครางด้วยความสยิว สองมือกดหัวบ่าวคนนั้นและแอ่นเนินนูนเหมือนจะให้ปากกับลิ้นของมันแน่นสนิทกับร่องหลืบของนางยิ่งขึ้น นางส่ายสะโพกไปมา สักพักก็ร้องบอกให้หยุดเลียเพราะนางจะทนไม่ไหวแล้ว
“เอ็งรีบเตรียมเรือได้แล้ว ข้าอยากโล้สำเภาเต็มแก่แล้วไอ้ม่วง”
คุณหญิงจำปาออกคำสั่ง พ่อศรีที่แอบฟังอยู่ได้ยินชื่อบ่าวที่คุณหญิงพูดออกมาแล้วถึงกับหูผึ่ง นี่แม่ของเขาแอบเล่นชู้กับบ่าวคนสนิทของพ่อของเขารึนี่ แต่คิดได้แค่นั้นก็ต้องหยุดไว้แล้วหันกลับมาดูต่อ เพราะตอนนี้ไอ้ม่วงเปลื้องผ้าของมันออกจนล่อนจ้อนตามคุณหญิงจำปาแล้ว ส่วนคุณหญิงก็นอนหงายถ่างขาแยกออกแล้วชันเข่าขึ้น ทำให้ร่องรูของนางเปิดเผยออกอย่างเต็มที่ ตอนนี้เองที่พ่อศรีได้เห็นหีของแม่ตัวเองชัดๆ กลีบแคมอวบอูมนั้นแยกออกจากกันเล็กน้อยมองเห็นเนื้อในเป็นสีชมพูเรื่อๆ พงหมอยที่ปกคลุมอยู่ก็มีไม่มากอีกทั้งยังเรียบตรงเป็นระเบียบมิได้รกรุงรังหยิกหยอยเหมือนของไอ้ม่วงผู้เป็นบ่าว ซึ่งบัดนี้กำลังยืนควยแข็งโด่เป็นลำชี้ไปทางคุณหญิงที่จ้องมองมันตาไม่กะพริบ
“ใหญ่จริงๆนะไอ้ม่วง ถูกใจข้ายิ่งนัก นับว่าข้าคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจให้เอ็งมาช่วยคลายความกำหนัดให้ข้า หวังว่าเอ็งคงจะช่ำชองการโล้สำเภาและมิทำให้ข้าผิดหวังนะ”
คุณหญิงเอ่ยชมความใหญ่โตของท่อนควยของมัน ไอ้ม่วงรีบตรงเข้าไปขึ้นคร่อมร่างของคุณหญิง พลันท่อนควยของมันก็ถูกมือนุ่มๆของคุณหญิงคว้าหมับแล้วรูดกระทอกเข้าออกเล่นเบาๆสองสามที ก่อนจะนำไปจ่อที่ปากรูหอยด้วยตัวเอง
“ออกเรือเลยไอ้ม่วง อ่าวของข้ามีน้ำขึ้นจนเต็มสองฝั่งแล้ว...อ๊ะ...อูว...ซี้ด...เบาๆก่อนสิ ไฉนจึงกระแทกเข้ามาแรงนัก ให้ข้าตั้งตัวด้วยสิ...อืม”
เพราะพอสิ้นเสียงให้สัญญาณจากคุณหญิง ไอ้ม่วงก็กดเอวกระเด้าส่งท่อนควยใหญ่ยาวของมันจมหายเข้าไปในรูหีของคุณหญิงทันที จนคุณหญิงครางอู้เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นมันก็เริ่มถอนสะโพกออกแล้วกดกลับเข้าไปใหม่ช้าๆ ส่งท่อนควยของมันมุดเข้ามุดออกในรูหีของคุณหญิงเป็นจังหวะ คุณหญิงจำปาก็แอ่นเอวเด้งสะโพกขึ้นลงรับการกระเด้าของมันไปพร้อมๆกัน ปากก็ส่งเสียงครางซี้ดซ้าด
“อืม...ดี...อูว...แรงๆเลยก็ได้ ข้าเสียวจะแย่แล้วไอ้ม่วง...ซี้ด”
ไอ้ม่วงก้มลงไปดูดหน้าอกของคุณหญิงไปพลาง ซอยสะโพกเข้าออกไปพลาง จนคุณหญิงเสียวสยิวบิดส่ายไปมา สองมือก็โอบกอดไอ้ม่วงและกดศีรษะของมันให้จมแน่นลงไปกับเนินอกของนางยิ่งขึ้นไปอีก ไอ้ม่วงก็โหมกระเด้าซอยควยใส่คุณหญิงแบบไม่คิดชีวิต ส่วนพ่อศรีที่แอบดูอยู่ข้างนอกก็ถึงกับเงี่ยนจนทนไม่ไหว ต้องชักท่อนควยของตัวเองออกมารูดตามไปด้วย
“โอว...ข้าจะเสร็จแล้ว..ไอ้ม่วง..ข้าจะไม่ไหวแล้ว...อูว...ซี้ด...พี่ม่วงจ๋า..น้องจำปาเสียวเหลือเกิน”
คุณหญิงจำปาเงี่ยนจนลืมสิ้นทั้งชนชั้นหรือยศศักดิ์ใดๆ ถึงกับเอ่ยเรียกบ่าวสั้นๆราวกับเรียกคนรัก และแทนตัวเองด้วยชื่อเสียแล้ว ไอ้ม่วงเองก็ผสมโรงตามไปด้วย
“น้องจำปาจ๋า..น้องจำปาที่รักของข้า ข้าเย็ดเก่งถูกใจเจ้าหรือไม่”
“ซี้ด...จ้ะพี่ม่วง..พี่ม่วงเย็ดเก่งเหลือเกิน น้องจำปาเสียวไปหมดทั้งตัวแล้ว”
แม่จำปาตอบรับขณะที่ยังเด้งสะโพกรับการซอยควยไม่หยุด
“อูว...เสียวที่ไหนหรือจ๊ะน้องจำปา”
ไอ้ม่วงอยากให้แม่จำปาแสดงความร่านออกมาให้มากกว่านี้อีก จึงแกล้งถามไป
“ก็..ข้างล่างโน่นไงจ๊ะพี่...อา”
คุณหญิงจำปายังกระดากปากมิกล้าพูดออกมาตรงๆ ไอ้ม่วงจึงแกล้งหยุดไม่ซอยควยต่อ แล้วถามซ้ำอีกครั้ง
“ตรงไหนหรือจ๊ะน้องจำปา พี่ฟังไม่ถนัด”
“ก็..ก็..ตรงหีนั่นไงจ๊ะพี่ รีบๆเย็ดน้องต่อเถอะเจ้าค่ะ น้องเสียวหีจนจะทนไม่ไหวแล้ว...โอว”
แม้จะอายเหลือทน แต่ความเงี่ยนมีมากกว่า ทำให้คุณหญิงจำปาพูดออกมาตรงๆในที่สุด สมใจไอ้ม่วงมันนักที่ทำให้คุณหญิงผู้สูงศักดิ์ลดตัวลงมาเย็ดกับมันแบบถึงอกถึงใจเช่นนี้ มันจึงกระดกสะโพกซอยควยสนองตอบคุณหญิงอีกครั้งเป็นการตอบแทน มันกระแทกเอวใส่คุณหญิงแบบไม่ลืมหูลืมตาอยู่เกือบสิบนาที จนพ่อศรีที่แอบดูอยู่ชักว่าวจนเสร็จไปแล้วถึงสองครั้ง ไอ้ม่วงก็ยังไม่หยุดเย็ดนายของมัน จนกระทั่งในที่สุด ไอ้ม่วงก็ร้องออกมา
“โอว...น้องจำปาจ๋า พี่จะไม่ไหวแล้ว น้องจำปาจะเสร็จหรือยังจ๊ะ”
“ซี้ด...น้องเสร็จไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้หรอกจ้ะพี่ รู้แต่ว่า...ซี้ด...น้องเสียวเหลือเกิน พี่ม่วงจะเสร็จตอนไหนก็ตามใจพี่เถอะจ้ะ น้องยอมทุกอย่างแล้ว”
“งั้นพี่ของเสร็จข้างในได้ไหมจ๊ะน้องจำปา”
“จ้ะ...ซี้ด...จะข้างนอกข้างในก็ตามใจพี่เลยจ้ะ...ซี้ด...น้องไม่ไหวแล้ว...โอว...”
ในที่สุด ไอ้ม่วงมันก็จมเรือสำเภาของมันกลางอ่าวของคุณหญิงจำปา น้ำเงี่ยนขาวขุ่นแตกทะลักเนืองนองออกมาจนเต็มร่องรูหีของคุณหญิง ไหลเยิ้มออกมาด้านนอก ส่วนคุณหญิงจำปาก็ร้องครางหวีดหวิวด้วยความสุขสมจนนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะนอนแผ่หราหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน ไอ้ม่วงเองก็ถอนท่อนควยออกมานั่งหอบอยู่ข้างเตียงของนาง
หลังพายุพัดผ่านไป ลมสงบลงแล้ว คุณหญิงจำปาก็ได้สติ และลุกขึ้นมาแต่งกายกลับคืนดังเดิม ก่อนจะพูดกับไอ้ม่วงผู้เป็นบ่าวด้วยน้ำเสียงปกติเช่นเคย
“ไอ้ม่วง เอ็งอย่าเอาเรื่องที่โล้สำเภากับข้าวันนี้ไปแพร่งพรายที่ไหน ไม่งั้นข้าจะไม่ไว้ชีวิตเอ็งแน่ เข้าใจหรือไม่”
“ขอรับคุณหญิง บ่าวไม่บังอาจหรอกขอรับ แค่นี้ก็นับเป็นบุญของบ่าวเหลือเกินแล้วขอรับ ที่คุณหญิงลดตัวลงมาสมสู่กับบ่าวเยี่ยงผัวเมียเช่นนี้”
“ไอ้ม่วง!! ระวังปากของเอ็งไว้ มิเช่นนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน เมื่อกี้ข้าแค่เผลอไผลไปชั่วครู่เพราะอารมณ์พาไป จงอย่าได้คิดกำเริบมาพูดจาลามปามเยี่ยงนี้อีก”
คุณหญิงจำปาตวาดใส่ไอ้ม่วงลั่น ด้วยความเขินอายในสิ่งที่ตัวเองแสดงออกไปเมื่อครู่จนหน้าแดงถึงใบหู จึงต้องแกล้งทำเป็นโกรธเพื่อกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น
...
พ่อศรีกลับมาที่หอนอนของตัวเอง ในใจครุ่นคิดถึงแต่สิ่งที่เห็นมาเมื่อครู่ พลางคิดวางแผนการบางอย่าง แม่ของเขายังสาวยังสวย รูปร่างก็งดงาม อายุอานามก็แค่ 28 ย่าง 29 ปี ยังมีความต้องการเชิงชู้สาวอยู่เต็มเปี่ยม หากแต่ท่านออกพระผู้เป็นบิดาหาได้เอาใจใส่คุณหญิงไม่ จึงทำให้นางมีความเงี่ยนง่านสุมอยู่เต็มอกหาที่ระบายออกไม่ได้ จนต้องแอบมาเล่นชู้กับบ่าวในเรือนเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อเป็นการช่วยแม่ของเขาให้ได้
...
ตั้งแต่วันนั้นพ่อศรีก็ไม่ยอมออกจากเรือนไปไหนไกลๆอีก แม้จะต้องเรียนหนังสือแต่ก็ใช้สิทธิ์ของความเป็นลูกขุนนางเรียกพระอาจารย์มาสอนถึงเรือน ส่วนไอ้ม่วงเขาก็พยายามเรียกใช้สอยมันบ่อยๆจนมันไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณหญิงอีกเป็นการกันท่าไปในตัว คุณหญิงจำปาเองพอไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยความต้องการก็เริ่มอัดอั้นเพราะความเงี่ยนที่สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความหงุดหงิดและพาลอารมณ์เสียใส่บ่าวไพร่คนอื่นบ่อยๆ เมื่อพ่อศรีเห็นแม่ตัวเองหงุดหงิดมากๆเข้าก็รู้ได้ทันทีว่าแผนของเขาเริ่มเห็นผลแล้ว ค่ำนั้นเมื่อคุณหญิงเข้าหอนอนแล้วเขาจึงเดินเข้าไปเคาะประตูห้องนอนของคุณหญิง
“คุณแม่ขอรับ ลูกเองขอรับ ขอลูกเข้าไปคุยกับคุณแม่สักครู่หนึ่งได้ไหมขอรับ”
คุณหญิงจำปาเมื่อเห็นลูกชายมาหาจึงเปิดประตูให้
“ลูกมาหาแม่เวลานี้ มีเรื่องอันใดหรือพ่อศรี”
“ลูกเห็นพักนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบายกายสบายใจนัก ดูอารมณ์ร้อนอยู่บ่อยๆจนบ่าวไพร่เกรงกลัว ลูกจึงอยากมานวดผ่อนคลายให้คุณแม่ขอรับ เผื่อว่าคุณแม่จะอารมณ์ดีขึ้น”
พ่อศรีเริ่มเข้าแผนที่ตัวเองวางไว้
“แม่มิได้เป็นอันใดหรอกพ่อศรี แค่ช่วงนี้แม่มีเรื่องที่ต้องกังวลหลายอย่าง จึงทำให้หงุดหงิดไปบ้าง ลูกมิต้องลำบากหรอก”
คุณหญิงจำปาพูดกลบเกลื่อนความจริงที่ว่านางหงุดหงิดเพราะไม่ได้ระบายความใคร่ในตัวออกต่างหาก
“เช่นนั้นก็ขอให้ลูกได้ลองนวดคุณแม่ดูเถิด ลูกรับรองว่าคุณแม่จะต้องผ่อนคลายด้วยฝีมือลูกแน่ๆขอรับ”
คุณหญิงจำปาทนลูกชายรบเร้าไม่ไหวจึงยินยอมให้เขาได้นวดให้ในที่สุด
นางเอนกายลงนอนคว่ำหน้ากับเตียง ชุดที่นางสวมอยู่ตอนนี้ก็เป็นชุดที่ใส่ไว้สำหรับเข้านอน ซึ่งมีแค่ผ้าแถบผืนเดียวที่รัดพันหน้าอกอวบใหญ่คู่นั้นเอาไว้ ส่วนผ้าคลุมไหล่นั้นถูกดึงออกไปวางไว้ข้างหมอนเพราะพ่อศรีบอกว่ามันเกะกะไม่สะดวกต่อการนวด ท่อนบนของนางจึงเปลือยไหล่และท่อนเอวให้ลูกชายได้เห็น ส่วนสะโพกเบื้องล่างนั้นมีผ้าถุงนุ่งขมวดปมไว้หลวมๆ แต่ลูกชายตัวดีของนางก็ถลกมันขึ้นมาอยู่บนต้นขา ทำให้ตั้งแต่หัวเข่าลงไปจนถึงปลายเท้านั้นไม่มีสิ่งใดปกคลุม
พ่อศรีเริ่มนวดจากข้อเท้าก่อน แล้วไล่ขึ้นมาที่น่อง บีบๆจับๆจนคุณหญิงจำปาเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นเขาก็เลื่อนมือขึ้นมาบีบนวดที่ต้นขาโดยเขยิบตัวมานั่งคร่อมปลายเท้าคุณหญิงเอาไว้ สายตาก็มองลอดชายผ้าเข้าไปจนถึงร่องหลืบที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน แม้จะเห็นไม่ชัดเท่าใดนักแต่ก็เห็นเป็นกลีบแคมหีที่อวบอูบอยู่ในซอกหว่างขานั้น ต้นขาที่เบียดชิดทำให้ร่องเสียวปิดสนิทจนไม่เห็นติ่งแตดเนื้อใน แต่แค่นั้นก็ทำเอาควยของพ่อศรีลุกตั้งอยู่ในกางเกงเป็นที่เรียบร้อย
จากต้นขาพ่อศรีเริ่มขยับนวดสูงขึ้นมาที่เอวและหลัง การกดจุดบีบนวดของเขาช่างชำนาญจนน่าทึ่ง ทำให้คุณหญิงรู้สึกสบายตัวจนแทบจะเคลิ้มหลับไปอยู่แล้ว หากนางมิได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างเป็นแท่งแข็งๆที่ทิ่มตำอยู่ตรงร่องก้นของนางทุกครั้งที่ลูกชายขยับตัว คุณหญิงจำปามิได้เอ่ยอะไรออกมาเพราะอยากรู้ว่าลูกชายตัวดีของนางคิดอะไรอยู่หรือไม่
พ่อศรีเห็นคุณหญิงจำปานอนนิ่งอย่างสบายตัวจนคิดว่าหลับไปแล้ว เขาจึงลองคลายผ้าแถบที่รัดหน้าอกของนางออกอย่างแผ่วเบา เหลือบไปเห็นหน้าอกของนางที่กดทับอยู่กับเตียงจนเนื้อหน้าอกนั้นปลิ้นออกมาด้านข้าง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะนวดหัวไหล่ของนางไปพลาง มือก็แกล้งป่ายไปโดนหน้าอกของนางเหมือนไม่ตั้งใจ คุณหญิงที่ทำเป็นหลับอยู่ก็รู้สึกสะท้านกายทุกครั้งที่หน้าอกของนางถูกสัมผัส ความเงี่ยนเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆจนร่องรักของนางรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่เอ่อออกมา
ไม่นานนักเขาก็พลิกตัวคุณหญิงให้นอนหงาย คุณหญิงก็แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกตัวปล่อยให้ลูกชายจัดท่าจัดทางเอาตามใจชอบ บัดนี้หน้าอกของนางจึงเปลือยเปล่าท้าทายสายตาของลูกชายเต็มๆ มันใหญ่โตทะลักล้นเสียจนเขาจ้องมองแทบลืมหายใจ เขาเลื่อนตัวขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่เหนือสะโพกของนาง ตาก็จ้องไปที่หน้าอกใหญ่งอนงามคู่นั้นพลางบีบนวดไหล่และแขนไปเรื่อยๆ บางจังหวะก็แกล้งปัดมือไปเฉี่ยวโดนตรงใต้ราวนมบ้าง ด้านข้างบ้าง หนักๆเข้าถึงกับปัดไปโดนหัวนมของนางจนคุณหญิงจำปาแทบสะดุ้งแต่ก็ยังเก็บอาการเอาไว้ได้อยู่ หากแต่หัวนมของนางกลับแข็งชูชันขึ้นมาตามอารมณ์เงี่ยนอย่างช่วยไม่ได้
พ่อศรีนวดไปเรื่อยๆจนย่ามใจ จากแค่ปัดมือไปโดนหน้าอกจึงกลายเป็นบีบจับเข้าเต็มทั้งสองมือแล้วขยำบีบเค้นอย่างไม่เกรงใจเจ้าของเต้าคู่นั้น คุณหญิงเองก็รู้สึกเสียวจนเคลิ้มเริ่มปล่อยอารมณ์ไปกับเจ้าลูกชายตัวดี ปล่อยให้เขาบีบขยำโดยไม่ขัดขืนใดๆแต่ยังคงแกล้งนอนหลับตานิ่งอยู่อย่างเก่า เพียงแต่กิริยาที่บิดตัวไปมานั้นไม่ได้เหมือนคนนอนหลับอีกต่อไปแล้ว พ่อศรีเองก็รับรู้ได้ว่าแม่ของเขาไม่ได้หลับ แต่เต็มใจยอมให้เขาฟอนเฟ้นเต้าคู่นั้น เขาจึงไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ตัดสินใจก้มลงไปเอาปากงับหัวนมทั้งสองข้างแล้วดูดเลียราวกับเด็กทารกดูดนมแม่ คุณหญิงจำปาสะดุ้งนิดหนึ่งที่ลูกชายหาญกล้าถึงขนาดใช้ปากดูดสองเต้าของนาง แต่ความเสียวซ่านกลับเอาชนะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจนนางได้แต่สูดปากครางเบาๆและเผลอเอามือไปลูบหัวของลูกชายไปพร้อมกัน
พ่อศรีเริ่มขยับจัดท่าใหม่โดยแทรกตัวลงกลางหว่างขาของคุณหญิง เอาเข่าดันให้ขาของคุณหญิงกางแยกออกจากกันช้าๆ มือข้างถึงก็ถลกเลิกผ้าถุงขึ้นมากองไว้บนเอวไปพร้อมๆกับโลมเลียสองเต้านั้นไม่ยอมหยุดปาก ร่างของคุณหญิงจำปาตอนนี้จึงมิต่างอะไรจากเปลือยเปล่า เพราะทั้งสองเต้าอวบและเนินโคกหีนั้นไม่มีสิ่งใดปิดบังอีกต่อไป นิ้วของพ่อศรีเริ่มซุกซนลงไปสำรวจร่องรูหอยของมารดาตนเอง เมื่อสอดเข้าไปในช่องแคบกลางกลีบแคมนั้นก็พบว่ามีน้ำรักเจิ่งนองออกมาเต็มรูหอยแล้ว เขาจึงเสียบนิ้วเข้าไปในช่องรักนั้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก จากนั้นจึงเริ่มแซะนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ แทงขึ้นทีลงที ส่ายซ้ายทีขวาที จนสะโพกของคุณหญิงจำปาแอ่นตามทิศทางของนิ้วลูกชาย จนในที่สุดคุณหญิงจำปาก็ทนนอนนิ่งอยู่ต่อไปมิได้
“อูว...พ่อศรีลูกแม่ ลูกนวดอะไรของลูกกันแน่เนี่ย ทำเอาแม่เสียวเกร็งไปหมดแล้ว...ซี้ด”
คุณหญิงแกล้งเอ่ยถามทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าลูกชายของนางนั้นหมายจะทำสิ่งใด
“ลูกจะนวดให้คุณแม่หายจากอาการกำหนัดยังไงล่ะขอรับ คุณแม่จะได้ไม่ต้องไปพึ่งพาบ่าวไพร่คนไหนให้เป็นที่เสื่อมเสียเกียรติอีก”
“พ่อศรี!! ลูกรู้ด้วยหรือว่าแม่...เอ่อ...วันนั้น เจ้าคงเห็นทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้วสินะ”
“ขอรับคุณคุณแม่ ลูกเห็นหมดทุกอย่าง ลูกต้องกราบขออภัยคุณแม่ด้วยที่เสียมารยาทแอบดูในวันนั้น แต่คุณแม่อย่ากังวลไปเลย ลูกจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ถ้าคุณแม่ยินยอมให้ลูกได้ทำเหมือนในวันนั้นบ้าง”
คุณหญิงจำปารู้สึกอับอายยิ่งนักที่ความลับของนางถูกล่วงรู้เข้าโดยบุตรชายของตนเอง หากแต่ยังพอมองเห็นหนทางที่จะรักษาความลับนี้ต่อไปได้อยู่ อีกทั้งเป็นสิ่งที่นางหวังจะได้อยู่แล้วด้วย นางจึงแกล้งเอ่ยต่อไปว่า
“หากพ่อศรีหมายใจจะกระทำกับแม่ดังเช่นที่ลูกเห็นในวันนั้น แม่ก็สุดปัญญาที่จะห้ามได้ ลูกอยากทำกระไรก็ทำเถิด แม่ยอมทุกอย่างแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อศรีจึงยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มคุณหญิงทันที แต่บังเอิญคุณหญิงหันหน้ากลับมา ปากของทั้งคู่จึงประกบกันโดยไม่ตั้งใจ ทั้งพ่อศรีและคุณหญิงจำปาต่างก็รู้สึกตกใจ เพราะในสมัยนั้นยังไม่เคยมีใครรู้จักวิธีการจูบมาก่อน แต่ความซาบซ่านที่แล่นผ่านริมฝีปากนั้นทำเอาทั้งคู่ไม่อยากถอนปากออกจากกันเลยแม้แต่น้อย กลับประกบกันไว้ในท่านั้นก่อนที่สัญชาตญาณในตัวจะสั่งให้พ่อศรีพยายามสอดลิ้นเข้าไปในปากของมารดาตนเอง ทีแรกคุณหญิงจำปาก็หุบปากไว้แน่นไม่ยอมให้ลูกชายสอดลิ้นเข้ามาได้ แต่ซักพักก็เหมือนเรี่ยวแรงจะหดหายจนยินยอมอ้าปากออกแล้วแลกลิ้นพันกันอย่างเสียวซ่าน ทั้งคู่ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันว่าการจูบกันเช่นนี้มันไปกระตุ้นความเงี่ยนในใจให้เพิ่มขึ้นเสียจนควยของพ่อศรีแข็งจนแทบระเบิด ส่วนหีของคุณหญิงจำปาก็ตอดขมุบขมิบหลั่งเอาเมือกลื่นออกมาจนฉ่ำเยิ้มไปทั้งหว่างขา
คุณหญิงจำปาเคลิบเคลิ้มกับรสจูบอยู่นาน จนกระทั่งรับรู้ถึงควยแข็งๆของพ่อศรีที่ทิ่มตำอยู่บริเวณเนินเสียวกลางหว่างขา ด้วยความที่พ่อศรีนั้นยังไม่เคยโล้สำเภากับหญิงสาวคนไหนมาก่อนจึงทำให้หาทางเข้าปากอ่าวไม่เจอ คุณหญิงนึกขำอยู่ในใจเบาๆที่เห็นลูกชายเงอะงะเช่นนั้นทั้งที่ทีแรกเล้าโลมได้ช่ำชองเสียจนหีนางเปียกเยิ้มไปหมด แต่พอถึงเวลาเอาจริงขึ้นมากลับไม่เป็นประสาเสียอย่างนั้น นางจึงช่วยอำนวยความสะดวกให้โดยคว้ามือไปจับท่อนควยหมายจะเอามาจ่อที่ปากรูหีตนเอง แต่ก็ต้องร้องอุทานเบาๆเมื่อท่อนควยที่นางสัมผัสนั้นใหญ่โตเกินเด็กอายุสิบสามเหลือเกิน ขนาดของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าไอ้ม่วงเลยทีเดียว แถมมีแววจะใหญ่ได้มากกว่านี้อีกในอนาคตหากเขาเติบโตขึ้น คุณหญิงจำปาถึงกับยิ้มกริ่มเมื่อคิดว่าได้เจอเพชรเม็ดงามอยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง นางคงได้อาศัยควยท่อนนี้คลายกำหนัดให้นางไปยาวๆอย่างแน่นอน
หลังจากที่จับท่อนควยยักษ์นั้นจ่อตรงปากทางเข้าแล้ว คุณหญิงก็พยักหน้าเป็นสัญญาณพร้อมกับดึงสะโพกของพ่อศรีเข้าหาตัวเอง พ่อศรีก็ออกแรงกดช้าๆจนท่อนควยผลุบเข้าไปในรูหีของผู้เป็นแม่ ความอบอุ่นในรูหีแผ่ซ่านจนเขาสัมผัสได้ ร่องรักของคุณหญิงนั้นตอดรัดควยของเขาแน่นหนึบราวกับจะดูดเอาบางสิ่งออกไปจากท่อนควยของเขา เสียงสูดปากครางเบาๆจากคุณหญิงจำปายิ่งทำให้เขาลำพองใจกดท่อนควยฝังจมลึกลงไปในรูหีมากขึ้น คุณหญิงถึงกับกัดริมฝีปากด้วยความเสียวซ่าน มือสองข้างก็บีบแขนของพ่อศรีแน่นจนเผลอจิกเล็บลงไปทำเอาพ่อศรีเจ็บแปล๊บที่ท่อนแขน แต่เขาก็หาได้ใส่ใจเพราะความเสียวที่ท่อนควยนั้นมีมากมายเกินกว่าจะสนใจอย่างอื่น
เนิ่นนานเพียงใดไม่รู้กว่าที่ท่อนควยของพ่อศรีจมหายเข้าไปในรูหีของคุณหญิงจนมิดด้าม แต่พอหนอกควยแนบสนิทกับเนินหีของนางแล้ว ก็ได้ยินเสียงระบายลมหายใจออกมายาวๆจากคนทั้งสอง พ่อศรีมองใบหน้าของคุณหญิงจำปาแล้วก็รู้สึกราวกับฝันที่เป็นจริง ผู้หญิงที่เขาหลงรักมากที่สุดบัดนี้ได้ยอมพลีกายเป็นเมียของเขาแล้ว แม้จะรู้ดีว่าการเสพสังวาสระหว่างแม่กับลูกนั้นเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงแค่ไหน แต่ในเมื่อความต้องการของเขากับแม่มีตรงกัน ความเสียวและความมันจึงบังเกิดในที่สุด เขาเริ่มต้นถอนสะโพกออกมาช้าๆจนคาไว้ตรงคอหยัก คุณหญิงจำปาก็แอ่นเอวตามด้วยความเสียดายกลัวว่าควยจะหลุดออกจากรูหี พ่อศรีเองก็ฉวยจังหวะที่คุณหญิงแอ่นเอวขึ้นสูงกระแทกกลับเข้าไปอย่างแรงจนมิดด้าม ได้ยินเสียงคุณหญิงจำปาครางดังอู้ พอชักกลับออกมาอีกนางก็แอ่นเอวตามอีก แต่ทุกครั้งเขาก็กระแทกกลับเข้าไปเหมือนเดิมจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังพั่บๆๆๆ คุณหญิงจำปาได้แต่สะบัดหน้าไปมาสูดปากครางอย่างเสียวซ่าน ท่อนควยของลูกชายนางสร้างความกระสันเสียวให้แก่นางอย่างมากมายเหลือเกิน
พ่อศรีกระเด้าเอวเร็วขึ้นๆจนร่างของคุณหญิงกระเด้งไปกระดอนมา หน้าอกคู่สวยนั้นก็กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะตามไปด้วย พ่อศรีเห็นแล้วจึงเอื้อมมือไปขยำบีบอย่างมันมือ เขาเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมวันนั้นไอ้ม่วงถึงขยำนมคุณหญิงรุนแรงนัก เพราะความอวบหยุ่นเด้งสู้มือจากเต้านมนางนั้นช่างยั่วยวนให้เขาใส่แรงบีบอย่างเต็มที่โดยไม่กลัวมันบุบสลายเลย ยิ่งบีบแรงเท่าไหร่คุณหญิงก็ยิ่งร้องครวญครางดังมากขึ้นเท่านั้น
“ซี้ด...ลูกจ๋า แม่เสียวเหลือเกินจ้ะลูก ลูกทำแม่รุนแรงเหลือเกิน...โอย...ช้าๆหน่อย แม่จะหายใจไม่ทันแล้วลูก...ซี้ด...อา”
“คุณแม่ขอรับ ตอนนี้คุณแม่มิใช่แม่ของลูกอีกต่อไปแล้วนะขอรับ คุณแม่จะเรียกแทนตัวเองว่าแม่ไม่ได้แล้วนะขอรับ”
“ซี้ด...อูว...แล้วจะให้แม่พูดอย่างไรละจ๊ะ...อืม”
“ก็เรียกชื่อเฉยๆ แบบที่ผัวเมียเขาเรียกกันยังไงล่ะขอรับ”
พ่อศรีกระตุ้นให้แม่ของเขาพูดให้เหมือนกับวันที่เย็ดกับไอ้ม่วง เพราะเขารู้สึกว่ามันได้อารมณ์ดีเหลือเกิน คุณหญิงจำปาเองก็เสียวจนหูอื้อตาลาย ยอมเออออตามลูกชายไปด้วย
“ได้สิ...อา...แต่อายุของศรีน้อยกว่าข้า ข้าก็ต้องเรียกเจ้าว่าน้องศรี ส่วนเจ้าก็เรียกข้าว่าพี่จำปาก็แล้วกันนะ...ซี้ด...โอว...ทำไมจู่ๆก็กระแทกรุนแรงอย่างนี้...อืม...น้องศรีจ๋า”
พอได้ยินแม่ตัวเองพูดเช่นนั้น พ่อศรีก็มีกำลังใจมากขึ้น จึงเผลอกระเด้าแรงขึ้นอย่างลืมตัว
“โอว...พี่จำปาจ๋า หีพี่จำปาเย็ดมันควยน้องดีเหลือเกิน”
“ว้าย...ทำไมหยาบคายจังเลยน้องศรี...โอว...ซี้ด...หีเหออะไรกัน ข้าอายไปหมดแล้ว”
“จะอายทำไมกันเล่า คนเย็ดกันมันก็ต้องพูดตรงๆสิจ๊ะพี่จำปา มันถึงจะเสียวไงละจ๊ะ”
“จ๊ะน้องศรี จะเย็ดหรือจะทำอะไรพี่ก็ทำเถอะ พี่เสียวหีไปหมดแล้ว”
ยิ่งตอบโต้กันเท่าไหร่ คุณหญิงจำปาก็ยิ่งเงี่ยนง่านมากขึ้นเท่านั้น จนพูดคำตรงๆออกมาได้อย่างไม่กระดากปาก
“อืม...เสียวควยเหลือเกินพี่จำปาจ๋า ข้าจะเอาจริงละนะ...ซี้ด”
“เอาเลยจ้ะน้องจ๋า พี่เสียวเหลือเกินแล้ว...โอว”
จากนั้นทั้งคู่ก็กระเด้งสะโพกใส่กันถี่ยิบโดยไม่ยอมพูดอะไรกันอีก ต่างจ้องตากันแล้วให้ควยกับหีได้เสียดสีกันแทนทุกคำพูดและความรู้สึกใดๆ จนกระทั่ง
“โอว...ผัวเสียวเหลือเกินเมียจ๋า ผัวใกล้ละนะ”
จากแทนตัวเองว่าพี่กับน้อง ตอนนี้พ่อศรีลามปามถึงขั้นเรียกเมียเรียกผัวกันแล้ว แต่คุณหญิงจำปาก็หาได้กลัวไม่ นางตอบโต้อย่างรู้ใจทัน
“อืม...เอาเลยผัวขา..ผัวเย็ดเมียถึงใจที่สุดไปเลยค่ะ...ซี้ด...ผัวทำให้เสร็จไปเลยนะคะ เมียพร้อมแล้ว...โอว...อา”
แล้วพ่อศรีก็โหมกระเด้าชุดสุดท้าย ก่อนจะระเบิดน้ำกามเข้าใส่โพรงหีของผู้เป็นแม่อย่างเนืองนองในที่สุด
“อ๊า...เมียเสียวเหลือเกินผัวจ๋า...ซี้ด...ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้เลย...อา”
แล้วพ่อศรีก็ฟุบลงบนอกของคุณหญิงจำปาพลางหอบหายใจอย่างหมดแรง ท่อนควยยังกระตุกฉีดน้ำเงี่ยนเป็นระลอกๆไม่ยอมหยุด คุณหญิงจำปาเองก็ร่างเกร็งกระตุกเช่นเดียวกัน มือก็โอบกอดลูกชายไว้อย่างสุดเสน่หา
...
หลังจากโล้สำเภากันจบไปแล้ว พ่อศรียังนอนคลอเคลียอยู่ข้างกายคุณหญิงจำปาโดยไม่ยอมให้ใส่เสื้อผ้า ต่างโอบกอดกันด้วยร่างเปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น พลันพ่อศรีก็เอ่ยทำลายความเงียบออกมา
“คุณแม่ขอรับ เหตุใดจึงยอมให้ไอ้ม่วงมันมากระทำเช่นนั้นกับคุณแม่ล่ะขอรับ”
“แม่...แม่เหงาจ้ะลูก แม่เหงาจนทนไม่ได้ เพราะพ่อของลูกตั้งแต่มีอะไรกันครั้งสุดท้ายจนแม่ตั้งท้องพ่อเดช เขาก็ไม่เคยแตะต้องแม่อีกเลย จนแม่ทนไม่ไหว...ก็เลย”
คุณหญิงพูดไม่จบประโยค เพราะอับอายเหลือจะกล่าว พ่อศรีก็เลยถามแทรกขึ้นมาเพราะทนรอฟังต่อไปไม่ไหว
“เหตุใดคุณพ่อจึงไม่สนใจคุณแม่ล่ะขอรับ คุณแม่ทั้งสวย ทั้งรูปร่างก็ดี แถมยังเย็ดเก่งอีกต่างหาก”
คุณหญิงจำปาตีแขนพ่อศรีดังเพี๊ยะเพราะความทะลึ่งของเขา แต่ก็จำยอมเล่าความจริงออกมาให้ฟัง
“เพราะแม่ตั้งท้องได้ง่ายดายนัก เพียงเดือนแรกที่เข้าหอกันแม่ก็ตั้งท้องลูกทันที เพิ่งจะได้เสียกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง พ่อของลูกก็ต้องรอไปอีกเก้าเดือนจนแม่คลอด หลังจากอยู่ไฟครบกำหนดจนร่างกายของแม่พร้อมรับการหลับนอนอีกครั้ง พ่อของลูกก็จับแม่โล้สำเภาอีกรอบ จนเกิดเป็นพ่อศรีนี่แหละ นับรวมๆกันแล้วแม่โดนพ่อเจ้าโล้สำเภากันยังไม่ทันถึงยี่สิบครั้งเองกระมัง เขาคงเบื่อจึงหันไปมีเมียอื่นน่ะสิลูก”
“แล้วคุณแม่ร่วมรักกับไอ้ม่วงวันนั้น รวมถึงกับลูกในวันนี้ คุณแม่ไม่กลัวจะตั้งท้องอีกหรือขอรับ”
พ่อศรีถามด้วยความสงสัย เพราะทั้งไอ้ม่วงและเขาต่างปล่อยน้ำเข้าใส่หีของคุณหญิงจำปาเต็มๆ
“แม่ได้ยาดีมาจากพระอาจารย์ที่เมืองละโว้ เขาว่ายานี้มีฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ได้ แม่จึงลองกินดูแล้วถึงไปมีอะไรกับไอ้ม่วงยังไงล่ะ”
พ่อศรีจึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด มิน่าเล่าเครื่องเพศของแม่ของเขาจึงยังกระชับแน่นเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาเท่าใดนัก เพราะกลัวว่าจะท้องอีกท่านออกพระจึงไม่อยากเสพสังวาสกับคุณหญิงจำปานั่นเอง ปล่อยให้คุณหญิงที่เพิ่งได้ลิ้มลองรสชาติแห่งการเสพสังวาสไม่กี่ครั้งต้องเปลี่ยวเหงาจนหาคนมาช่วยคลายกำหนัด
“งั้นจากนี้ไปลูกขออาสาทำหน้าที่คลายความเหงาแทนคุณพ่อเองนะขอรับ”
คุณหญิงจำปาไม่ได้ตอบคำแต่หันไปจูบลูกชายแทนคำตอบ ทั้งคู่จึงเริ่มโล้สำเภากันใหม่เป็นรอบที่สอง แถมยังมีรอบที่สามที่สี่ต่อกันไปจนเกือบเช้า
...
ตัดกลับมา ณ ปัจจุบัน คุณหญิงจำปาย้อนรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมาแล้วก็หันมาสบตากับลูกชายอีกครั้ง พ่อศรีกล่าวขึ้นมาอีกว่า
“ไม่คิดว่าลูกจะมีโอกาสทำหน้าที่แทนคุณพ่อได้เพียงไม่นาน ก็ต้องถูกคนใจหยาบใส่ความลูกจนโดนเนรเทศไปไกลถึงเมืองนครฯ ทำให้คุณแม่ต้องเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเป็นเวลานานเช่นนี้”
“โถ...ลูกแม่ มันก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว แม่ทำใจยอมรับความเหงานั้นได้แล้วล่ะลูก”
“แต่ลูกแสนเสียดายเวลาที่ผ่านไปนัก คุณแม่ของลูกในวันนั้นทั้งสาวทั้งสวย ทั้งร้อนแรงประดุจไฟ หากชายใดได้เสพสมคงจักต้องติดตาตรึงใจไปจนวันตาย”
คุณหญิงจำปาถึงกับขุ่นเคืองใจเล็กน้อยพี่พ่อศรีพูดเช่นนั้น เพราะยามนี้นางอายุอานามก็ปาเข้าไป 39 จะ 40 ปีอยู่ไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว รูปร่างก็เปลี่ยนไปตามวันเวลา หน้าอกที่ใหญ่โตก็หย่อนคล้อยลงไปบ้างแล้ว มิได้เต่งตึงชูชันเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่ช่วงล่างของนางนั้นนางมั่นใจว่ายังคงฟิตกระชับดังเดิม เพราะตลอดสิบปีมานี้นางมิเคยให้ผู้ใดล่วงล้ำรูสังวาสของนางอีกเลย ยกเว้นแต่เพียงนิ้วของนางเท่านั้น
“ลูกจะหาว่าแม่แก่แล้ว ไม่ชวนมอง ไม่น่าเสพสังวาสด้วยแล้วกระนั้นหรือ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น