วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

KAT Sidestory 1 “หลากหลายความรู้สึก!?”



“บีบแตรหา…โอ้ว้าว!!…สวยจังเลย…ขอโทษคร้าบ”
“ขี่รถไม่มีมารยาท!!…บีบแตรก็เพราะขี่ตัดหน้าฉัน!!…อยากหาเรื่องซวยใส่ตัวเองนักรึ?”
…ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันฉันอาจถูกด่าไปนานแล้ว…อาจเพราะหน้าตานี่มั้งใครต่อใครถึงไม่ค่อยกล้าว่าอะไรแต่แบบนี้มันก็ทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากกับตัวเองไม่รู้จักจบสิ้น…สดๆร้อนๆก็เมื่อกี้นี้…
“ถูกต้อง…พี่พูดกับเธอแบบนั้นแค่คราวนี้จะไม่ถือสาแต่ถ้ามีคราวหน้าอีกพี่จะไม่รับฟังคําแก้ตัวอะไรทั้งนั้น…เชื่อฟังรุ่นพี่เป็นสิ่งดีก็จริงแต่ให้มันมีขอบเขตและคิดถึงคนอื่นหน่อยเถอะ”
…(ผู้หญิงอะไรเย็นชาชะมัด)หลายคนอาจคิดแบบนี้เหมือนๆกันไม่เว้นแม้แต่เธอสินะบอล…โอเค…นิสัยของพี่คงเป็นอย่างพวกเขาว่าแถมยังหยิ่งมากๆด้วยคือผู้ชายทั้งในและนอกคณะมักมาตีสนิทชวนคุยหรือไม่ก็ทำตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มพยายามจะทอดไมตรีเข้าหาแต่เจอตอกหน้าหงายไปซะทุกรายล่าสุดก็ยุทธนาประธานคณะ…ให้ตายเถอะใครไม่เจอไม่มีทางรู้…ฉันเกลียดการกระทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรเพราะมันน่ารำคาญน่าหงุดหงิดซึ่งแค่ตัวเองก็หนักใจเหลือเกินรับพออยู่แล้วยังต้องคอยเป็นนายทัพกันท่าห้ามให้น้องสาวอีก…ไม่ขอเถียงว่าฝนเป็นเด็กน่ารักถึงแม้จะซนไปบ้าง(มากๆเลย)มนุษยสัมพันธ์ดีเข้ากับคนอื่นได้ง่าย…นิสัยร่าเริงอยากรู้อยากเห็น…แก่นแก้ว?…คำสุดท้ายนี้มันไม่ใช่ข้อเสียสำหรับพี่สาวอย่างฉันหรอกแต่เป็นเพราะฝนยังอายุน้อยเกินกว่าจะมาเอาใจใส่เรื่องความรักมากกว่าเรื่องเรียนและยังมองไม่เห็นเลยว่ามีใครคนไหนจะมาห่วงใยเลี้ยงดูสาวน้อยคนนี้ดียิ่งไปกว่าแม่,พ่อและฉันผู้เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของเธอ…
“เอ้า!!…ตกจนได้นะ…หนักซะด้วยสิ…หยุดพักข้างทางดีกว่ามั้งขับต่อไปคงไม่ดีแน่”
…ความจริงฉันชอบอากาศแบบนี้นะเพราะฝนตกอากาศก็เย็นสดชื่น…ถ้าให้ดีได้นอนกับที่นอนหมอนนุ่มๆผ้าห่มอุ่นๆสักผืนก็เยี่ยม…ในรถมันดูอึดอัดไปนิดนึงเบาะหน้ามีกระป๋องน้ำอัดลมวางอยู่ซึ่งแก้วอุตส่าห์มีน้ำใจให้มา…เอาเก็บไว้ให้ฝนดีมั้ย?...เราทำใจดื่มหมดนี่ไม่ไหว…
“ไม่รู้ชอบอะไรกันหนักหนา…ถ้าเปลี่ยนเป็นนมคงหมดไปนานแล้วหรือจะเอาไปให้สาดี?”
…สายฝนยังตกอย่างหนาเม็ด…ป่านนี้บอลไม่เปียกแย่แล้วหรือ?…ดูๆก็ไม่เห็นมีเสื้อกันฝนติดตัวเกิดเป็นหวัดขึ้นมาพี่กุนรู้เข้าคงไม่สบายใจ…เวลาโทรมาหาเราก็มักถามถึงบอลบ่อยๆและฝากฝังให้ช่วยดูแลแทนด้วย…โชคดีมหาศาลนะบอลเธอมีหญิงคนรักอันแสนวิเศษยิ่ง…สวยทั้งรูปโฉม…งดงามทั้งกิริยามารยาท…ในความคิดของฉันพี่กุนคือคนที่ต้องให้ความเคารพอย่างสูงสุดเหมือนกับพ่อและแม่เลยทีเดียวเพราะเธอเป็นผู้มีพระคุณมากเกินกว่าบรรยายด้วยคำพูด…ดังนั้นการได้รับคำขอร้องจากพี่กุนสำหรับฉันแล้วถือเป็นข้อปฎิบัติซึ่งไม่อาจโต้แย้งหรือขัดขืนได้แต่กลับกันใครก็ตามที่ทำให้พี่กุนต้องเศร้าโศกเสียใจฉันจะไม่ให้อภัยคนผู้นั้นอย่างเด็ดขาด…ยังไงถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้ถึงขั้นลงไม้ลงมือจะเป็นการดีที่สุด…
“หืม?…ตกหนักกว่าเดิมอีกแบบนี้คงไม่ได้ไปไหนพอดี…พักสายตาสักนิดก็ดีนะแคทเอ้ย”
…เครื่องยนต์และที่ปัดน้ำฝนยังทำงาน…ฉันถอดแว่นออกเร่งแอร์ปรับเบาะให้เอนอีกหน่อยก่อนค่อยๆหลับตาลงแต่ในใจยังคิด…ผู้คนบอกว่าตัวเรามักทำเย็นชาและไม่ค่อยพูดกับเพศตรงข้ามแต่ผู้ชายที่พบเจอก็ไม่เห็นจะมีส่วนดีถึงครึ่งของคุณพ่อสักคนเดียวหรือเราไม่ได้ใกล้ชิดมากจึงไม่รู้…ผู้ชายที่เป็นคนดีแบบนั้นจะมีอีกหรือเปล่า?…ฮึ!!…ช่างมันเถอะ…ไม่เกี่ยวอะไรด้วยนี่นาเพราะตัวเราไม่คิดชอบใครทั้งนั้น…ถ้ามีคนยุ่มย่ามกับเราและฝนมากนักก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าจัดการซะตรงนั้นล่ะ…ฉันไม่ได้เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นซะทีเดียวแต่น้อยคนนักจะรู้และคงน้อยคนอีกล่ะมั้งจะได้เห็นกับตา…พอเถอะเรื่องไร้สาระรกสมอง…ตอนนี้ฝนกำลังซ้อมเชียร์หรือหยุดพักเพราะฝนตกกันนะ?…กรุงเทพฯจะตกเหมือนที่นี่หรือเปล่า?พี่กุนจะกลับถึงคอนโดหรือยัง?…สาคงกลับถึงบ้านแล้ว…ป้ากวางก็คงรับอ้อยจากโรงเรียนเรียบร้อย…บอลจะกลับไปหอโดยไม่เปียกฝนหรือเปล่า?…ส่วนทางบ้านที่ลำปาง…คุณแม่กับคุณพ่อกลับถึงบ้านด้วยกันหรือไม่นะ?…จากบ้านมานานรู้สึกคิดถึงอยากหาเวลาพาน้องกลับไปเยี่ยมบ้าง…ปิดเทอมช่วงตุลานี่แหละ…ชวนคุณป้ากับทุกคนไปด้วยกันก็ดี…คิดคาดเดาอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามเรื่องไม่ช้าสติรวมทั้งความรู้สึกเริ่มเลือนราง…เสียงสายฝนตกลงมากระทบกับรถ…เสียงสายลมดังอื้ออึงพัดผ่าน…ภาพของต้นไม้ไหวเอนลู่ตามแรงพายุฝน…ท้องไร่ท้องนารอบๆมีสีขาวโพลนทั่วไป…ฉันเริ่มจะมองไม่เห็นภาพไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นแล้ว…ทุกอย่างรอบๆตัวมันดำมืดลงไปทุกทีๆ…
…………………………………………………………………………………………………………
(ตึก!!)
...เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่เพราะเสียงเหมือนมีอะไรตกนี่เองมันทำให้ฉันลืมตาตื่น…
“แว่นหล่น?”
...ฉันหยิบผ้าเช็ดของใช้ประจำวันส่วนตัว…ปกตินอกจากเวลาเรียนก็มักจะสวมไว้เสมอยกเว้นเพียงเวลานอน(แน่ล่ะมีใครใส่แว่นตอนนอนกันบ้าง?)และก็มีคนบอกอีกนั่นแหละว่าตอนถอดแว่นฉันดูสวยกว่าตอนใส่…หึ!…ปากคนก็พูดกันไป…ตอนนี้เวลา 5 โมงกว่าแสดงว่าหลับเพลินไปเกือบชั่วโมงฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รับทราบ…ฉันหวีผมเสร็จก็ก้าวออกจากรถหยิบขวดน้ำเพื่อล้างหน้าและดื่มแก้ง่วง…
“อากาศหลังฝนตกสดชื่นดี…ฝนตกแดดออกและยามเย็นแดดร่มลมตก”
“พี่แคท…ทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ?”
...มีรถมาจอดทางด้านหลังขณะฉันกำลังเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่…
“อ้าว!!…สา…อ้อยด้วย…พอดีพี่จอดรถหลบฝนแล้วเผลอหลับน่ะจ้ะ…2 คนมาทําอะไรกัน?”
“พี่สาแวะรับอ้อยและชวนมาซื้อของค่ะ”
“เรากะไปซื้อของในห้าง…เจอพี่ก็ดีแล้วไปด้วยกันหน่อยนะคะสาอยากซื้อกระโปรงแบบเดียวกับพี่แคทพอดี”
“กระโปรงตัวนี้ที่พี่ใส่อยู่มันสั้นเหนือเข่ามากไปหน่อยแต่มีแค่ตัวนี้ตัวเดียวที่สั้นกว่าตัวอื่น…สานุ่งสั้นๆมากไม่ดีนะและของพี่กุนก็มีไม่ใช่หรือ?”
“โอ๋ย!!…ของพี่กุนงี้ทั้งผ่าทั้งแหวกอย่างโป๊เลยล่ะ…นั่งแยกขาเพียงนิดเดียวคนอื่นก็เห็นอะไรต่ออะไรหมดแน่ค่ะ…แบบนั้นมันเกินไปสาจะเอาแบบของพี่แต่ให้ยาวกว่านิด”
“พี่บอลเคยบอกกับพี่สาและพี่กุน…บอกไม่ชอบให้นุ่งสั้นเพราะมันไม่เรียบร้อยค่ะ”
“เอางั้นเหรอ?…ก็ได้พี่จะช่วยเลือกให้…สาขับล่วงหน้าไปก่อนจ้ะ…พี่มีอะไรจะสะสางอีกนิดนึง”
…ที่บอกน้องสาอย่างนั้นเพราะเหลือบเห็นยุทธนานั่งรถมากับเพื่อนของเขาซึ่งก็รู้จักดีแต่ไม่อยากพูดถึง…
“แคท”
“สวัสดียามเย็นค่ะ…คุณประธานคณะ”
…ด้านหลังของฉันมีคนที่ยังพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่ซึ่งคงไม่ใช่พรหมลิขิตนำพามาเจอกันที่นี่หรอก…ณ.ริมถนนนอกเมืองใกล้ทุ่งนาเขียวชะอุ่มเวิ้งว้างไกลสุดลูกหูลูกตา…
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นฉันว่าคุยกับคุณรู้เรื่องแล้วนะ…ยุทธนา”
…ประธานคณะผู้หล่อเหลาเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆหลายคนเรียนเก่งอยู่ชั้นปี 3 เช่นเดียวกับฉันแต่ต่างโปรแกรมวิชา…ตอนกลางวันเขาพยายามตามหาเพื่อขอเคลียร์เรื่องเมื่อคืนขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่…ฉันตอบไม่เป็นไรและบอกว่าไม่ต้องโทรหาอีกเพราะเป็นการรบกวนเจ้าของบ้าน…ตอนนั้นก็รับคำดีและยังพูดเองว่าเวลาคุยกับผู้ชายคนไหนฉันมักทําหน้าไม่สบอารมณ์ราวกับไม่ต้องการเสวนาด้วย…ข้อนี้น่ะถูกต้องแต่ยังมาอีก…นี่แหละถึงบอกเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องไงล่ะ…
“ผมชอบแคทจริงๆนะ…จะไม่เปิดโอกาสให้พิสูจน์ความจริงใจกันบ้างเลยเหรอครับ?”
“ฉันบอกคุณอย่างชัดเจนไปแล้วนี่คะว่าขอให้เราคบกันแบบเพื่อนเพราะมิตรภาพของเพื่อนฝูงยั่งยืนกว่าแบบชายหญิง”
“ผมไม่ต้องการคบแบบเพื่อน…แคทก็รู้ว่ามีผู้ชายมากมายต้องการจีบแคท…จะยอมอยู่เฉยๆรอให้คนอื่นชิงไปได้ยังไงในเมื่อผมชอบแคทอย่างจริงใจนับตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ”
“รู้ดีเลยค่ะแต่ฉันไม่สนว่าใครจะตามเฝ้าตามจีบเพราะเมื่อไม่สนองตอบก็ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจและฉันเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ…คุณกรุณาพูดให้ดีกว่านี้”
“ขอโทษครับ…แต่เพราะแคทมีคนที่ชอบอยู่แล้วใช่มั้ยถึงปฏิเสธทุกคนแบบนี้?”
“หึ…ฉันจะต้องบอกคุณด้วยรึ?”
“บอกสิครับ…ไม่งั้นผมก็จะตามตื๊อไม่เลิกรา”
“ไม่มีใครมาออกคำสั่งให้ฉันทําโน่นทำนี่ได้!!…แต่ถ้าอยากรู้…ใช่…ฉันมีคนที่ชอบแล้วซึ่งตัวเองก็คอยติดตามฟังข่าวเฝ้าดูคนๆนั้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเสมอ”
…สีหน้าของยุทธนาขณะนี้แค่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเขาสงสัยอยากรู้รวมทั้งมีแววแห่งความผิดหวัง…
“ฉันมีหน้าที่เฝ้ามองพวกเธอด้วยความรักตลอดจึงไม่ว่างจะรับไมตรีจิตจากใคร…สายตาของฉันมีแต่คน 2 คนนี้เท่านั้นคือน้องสาวกับพี่สาว”
“ก็หมายความว่าแคทยังไม่มีผู้ชายที่ชอบเลยสักคน…งั้นผมยังมีความหวังอยู่และเชื่อว่าสักวันหัวใจของแคทจะเปิดกว้างยอมรับความรักแบบชายหญิง”
…อา…ท่าทางเขาจะดีใจขึ้นมาน่ะนะยังไงซะฉันคงทําให้เขาผิดหวังถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจดีใจที่มีผู้ชายหล่อๆเรียนเก่งฐานะดีมาบอกชอบแต่ขอย้ำว่าไม่ใช่ฉันคนนี้…
“คุณอย่ารอให้เสียเวลาเลยค่ะ…ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมกับคุณและยังมีเรื่องอื่นต้องทำอีกมากมายเกินกว่ามาเสียเวลากับเรื่องรักๆใคร่ๆ”
“ผมจะรอแคทเพียงคนเดียวเท่านั้น…จะไม่มีวันยอมเลิกหวังเด็ดขาด”
“ช่าง…เปล่า…ประโยชน์…จะบอกอะไรให้นะคะ…ถ้าวันไหนฉันเกิดชอบใครและแน่ใจว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมกับฉันก็จะเป็นฝ่ายบอกความรู้สึกของตัวเองให้เขาคนนั้นรับรู้เอง…ไม่ต้องจีบเจิบกันให้เสียเวลาแต่วันนั้นมันคงไม่เกิดขึ้นหรอก…ตราบใดที่ยังมีน้องสาวสุดรักให้ดูแลและภารกิจสำคัญจากผู้มีพระคุณซึ่งละทิ้งไปไม่ได้…เพราะอย่างงั้นเลิกล้มความคิดนี้ซะเถอะ”
“แต่ผม”
“น่ารำคาญ!!!…ไม่ยอมเข้าใจซะที…ฉันเกลียดคนพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้ที่สุด”
...ว่าแล้วก็หยิบของสิ่งหนึ่งที่วางใกล้ๆเบาะคนขับผ่านทางกระจกรถ…ยุทธนาเห็นมันเข้าก็หน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด…ต้องอย่างนี้สิ…คนที่พูดจาไม่รู้เรื่องจะโดนแบบนี้เอาง่ายๆ…
“คะ…แคทใจเย็นๆก่อนนะครับ…ยังไง…ยังไงเราไว้คุยกันวันหลังนะ…วันนี้แคทคงอารมณ์ไม่ดีผมจะไม่กวนใจอีกแล้ว”
...รีบเผ่นเชียวนะ…ใช่…ใครบ้างจะไม่กลัว…ไม่นึกเลยว่าปัจจุบันก็ต้องเอามันมาถือในมืออย่างเช่นในอดีต…ของสิ่งนี้ที่อยู่ในมือของฉันใช้โจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ออมมือ…ฮึ…เมื่อรู้ถึงความร้ายกาจของฉันแล้วก็อย่ามาเกาะแกะตามตื๊อกันอีกต่อไป!!!…
…………………………………………………………………………………………………………
...ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะแต่มันไม่ไหวจริงๆ…บอกได้คำเดียว…เบื่อ…กว่าจะเรียนจบต้องพูดปฎิเสธแบบนี้อีกสักกี่คนกันนี่…เหนื่อยใจมากๆทั้งที่เพิ่งเปิดเทอมได้แค่ 2 เดือนแท้ๆแต่รู้สึกฉันจะใจเย็นขึ้นคงเพราะวันนี้ฝนตกอากาศเย็นสบายดีล่ะมั้ง…เมื่อก่อนกับคนพูดจาไม่รู้เรื่องต้อง…เลิกคิดดีกว่า…อ้าว!!…ได้การ…น้ำอัดลมนี้ให้สากับอ้อยแบ่งกันดื่มโดยไม่บอกฝนเพราะขืนรู้เข้ามีหวังงอแงกับเรา…น้องสาวคนนี้แค่ของกินนิดๆหน่อยๆก็ทำให้เป็นเรื่องได้ตลอด…ป่านนี้สากับอ้อยรอเราแย่แล้ว…สาวิตรี…หญิงสาวคนรักอีกคนหนึ่งของบอลรวมพี่กุนด้วย…น่ารักสวยกันทั้งคู่…เธอช่างเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาอะไรอย่างนี้บอลเอ๋ย…ขอทุกคนรักใคร่และทะนุถนอมเอาใจใส่ให้ดีล่ะกัน…โดยเฉพาะน้องชายของพี่…ฮะๆๆ…ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นเกินเหตุอย่างทำตัวช่วยเป็นพ่อสื่อให้อีกนะจ๊ะเพราะพี่ลำบากใจมากๆซึ่งเมื่อกี้ก็เป็นผลพวงจากการกระทำของเธอเหมือนกัน…ถึงแม้ดินฟ้าอากาศจะเปลี่ยนแปลงแต่ความรู้สึกของพี่ที่มีต่อผู้ชายทุกคนก็จะไม่เปลี่ยนแปลงตาม…เธอเห็นพี่เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้นเสมอ…ความคิดทุกอย่างชัดแจ้งมีความคําตอบในตัวชัดเจนเหมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่นั่นไง…
…………………………………………………………………………………………………………

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น