วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 13 “Ice Lady!!”


“ทะ…ทำยังไงดีพี่!!!…มีคนอยู่ข้างนอก!!!”
…จอยหน้าตาหวาดหวั่นนั่งนิ่งแช่รูหีกดทับร่างผมซึ่งได้อมกลืนแท่งควยซะมิดมองไม่เห็นแม้แต่โคน…กิจกรรมโยกย้ายส่ายสะโพกต้องหยุดชะงัก…มีเพียงเสียงลมพ่นออกปากและเสียงหายใจของพวกเราเท่านั้นที่ถี่ระรัวไม่หยุด…น้องถามพี่แล้วพี่จะถามใครกันเล่า?…ขณะนี้ไม่เข้าใจว่าความเสียวซ่านที่เกิดมันมาจากกิจกรรมร่วมเพศร่วมเสียวกับเด็กหญิง“ไอริณ”หรืออาการเสียวสันหลังเพราะว่ามีบุคคลมารู้เห็น“ความรักต้องห้ามในรั้วโรงเรียน”…
“ถามแล้วไม่ตอบน๊า~~…ไม่ต้องตกใจหรอกจอย…อ้อยเอง…พี่บอลก็คงอยู่ในนั่นด้วยสินะคะ”
…คนที่อยู่ข้างนอกคือน้องสาวผม?…
“อ้าว!!…อ้อยหรอ?…โอ้ย!!…ค่อยยังชั่ว…นึกว่าอาจารย์…อื้อออออ…งั้นก็ต่อกันเถอะพี่”
…พอรู้ว่าคนนอกห้องคือเพื่อนรัก…จอยถึงกับเป่าปากเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกแล้วก็โยกคลึงสะโพกร่อนต่อ…ผมก็พลอยโล่งใจไปเป็นกองเสยควยสวนสู้เช่นเดียวกัน…ทีแรกมันทำท่าจะหดกลับพองตัวแข็งยืนหยัดสู้แรงบดกระทั้นซึ่งถาโถมเข้ามาอีกครั้ง…
“โอววววว…ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วพี่…ซีดสสส…มีคนเป็นต้นทางให้เราแล้ว…อื๊อออออ”
“เออ!!…ยัยบ้า!!!…รีบเย็ดให้เสร็จๆเถอะ…เกิดมีอาจารย์หรือใครมาจะแย่”
“ระ…รู้แล้วน่า…อ้าสสสสส…พี่ขา…น้ำหีจอยไหลเต็มรู…เยิ้มไปทั่ว…อุ๊ก!!”
…จอยยกก้นกระแทกหน้าขาพั่บๆๆ…เที่ยวนี้เธอขย่มแบบนันสต๊อปเหมือนต้องการให้น้ำควยผมกระฉูดอย่างรวดเร็ว…
“อ๊าวววว…พี่บอลขา…ยอดไปเลย…ความรู้สึกนี้…รู้สึกแบบนี้…อูยยยยย”
…ความรู้สึกของเธอคือหวั่นใจว่าใครนอกจากอ้อยจะมาได้ยินเสียงเสพสุขกามรักซึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นและคึกคนอง…จอยรวบรวมกำลังโยกบั้นท้ายส่ายเอวอย่างรุนแรงทำให้ผมร้องอย่างเหลืออดต่ออาการเสียวซ่าน…คล้ายขวัญมาก…เด็กคนนั้นเวลาเย็ดก็เรี่ยวแรงดีเหลือเกิน…ขณะนี้ตัวผมแทบจมลงไปในเบาะทุกขณะๆเพราะแรงขย่มบดหีขยี้อย่างนับครั้งไม่ถ้วนจากเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่าเกือบ 5 ปี…
“อูววววว…จอย…น้องจอยจ๋า…สุดยอดๆๆ…โอออออ”
…จอยแยกขาออกยกตูดขึ้นสูงและบดขยี้ลงมาอย่างแรงหลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน…ทั่วร่างเธอสั่นเทาและเขม็งเกร็ง…
“อ๊าาาาา…เสียวแทบน้ำหีเล็ด…ลีลาจอย…ปะ…เป็นไงคะ…เด็ดมั้ย?”
“เด็ดดวง…หีจอยรสชาติเด็ดจริงๆ…พี่อร่อยควยเหลือเกิน…มาขอพี่เด้งสู้บ้าง…น้องจะได้ไม่เหนื่อย…อึบบบ…อ้าสสสส…รู้มั้ย…พี่ชอบหีเด็ก…เด็กผู้หญิงอย่างน้องๆเย็ดมันส์…โอววววว…พี่ชอบทุกคน”
…เสียงอ้อยเงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้…เธอคงเงี่ยหูฟังพี่ชายกับเพื่อนรักเย่อควยแอ่นหีเย็ดโต้ตอบด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านไม่น้อยแน่ๆ…
“อ้อยยังอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?…อุ…อูยยยย”
“อยู่ค่ะพี่…ไม่ต้องเป็นห่วง…มะ…ไม่มีใครมาค่ะ”
…เสียงน้องสาวดังขาดช่วงเช่นนี้แสดงว่าเธอหงี่เงี่ยนจริงๆ…ทำไงได้น้องรักพี่อยากให้อ้อยเข้ามาด้วยแต่จอย(กับผม)ดันเอาสิ่งกีดขวางปิดประตูซะแน่นหนา…ครั้นจะลุกเปิดให้เด็กน้อยใส่แว่นก็กําลังบีบไหล่ยกตูดขย่มควยพรึ่บพรั่บอย่างบ้าระห่ำแถมอารมณ์เสียวสยิวมันจะสะดุดไม่ต่อเนื่อง…
“อ๊อก!!…โอ้ยยยย…หนูใกล้เสร็จแล้ว…ควยพี่ครูดแตดจอยทุกที…อึ๊ยยยยย…เสียวจะขาดใจตายอยู่แล้วววว…ถ้าพี่ชอบ…หีจอย…ก็เย็ดให้หนูหีแหกน้ำแตก…เร็วเข้า…ซีดสสสสสส”
…ผมจำเป็นต้องลืมน้องสาวชั่วคราวก่อนรีบปฎิบัติการส่งสาวน้อยเด็กเรียนใส่แว่นวัย 14 ไปสวรรค์ซะที…ก้นขาวๆถูกมือผมบีบขยำเป็นรูปมือสีแดง…ผมเกร็งฟันจับบั้นท้ายเด็กหญิงกระแทกขึ้นลงพร้อมสวนควยตัวเองเป็นระวิง…จอยตัวสั่นพั่บๆส่ายหน้าบีบนมลูกน้อยๆครางอย่างกระสันต์หฤหรรษ์…
“อูยยยยย…โอววววว…ครั้งนี้…พี่บอลออก…ข้างนอกนะคะ…ซีดสสสสส…จอยอยากให้อ้อยเห็นน้ำควยของพี่”
…เอ้ย!!…แล้วน้องก็ไม่บอกก่อน…ผมก็จะน้ำแตกจวนพุ่งแหล่มิแหล่…เราเปลี่ยนท่าเป็นเย็ดท่าหมาอีกครั้งเป็นการส่งท้าย…ผมกระเด้าไม่กี่ครั้งสาวน้อยก็กรีดร้องอย่างมีความสุขโดยไม่ยอมอดกลั้นเสียงไว้อีกแล้ว…
“กรี๊ดดดดด!!!!…ออกแล้วววว”
…พี่ก็จะออกแล้ว!!!!…หีบีบควยเหลือเกิน…อาาาาา…ทั้งดูดทั้งตอดแน่นหนึบไปหมด…แม้จะติดใจในความกระชับของช่องรักของจอยจนอยากน้ำแตกข้างในอีกครั้งแค่ไหนแต่ต้องอดใจไว้…พยายามตัดใจดึงมังกรออกจากถ้ำจ่อมันไปที่ร่องก้นเด็กหญิงและพุ่งน้ำควยปรี๊ดเป็นสายสีขาวปะทะเลอะเปรอะแก้มก้น…จอยพลิกตัวนอนตะแคงทำให้น้ำสืบพันธุ์ไหลไปทางช่องคลอดไม่ได้…ท่อนเอ็นกระตุกเป็นระยะพลางส่งน้ำขาวขุ่นคาวคลุ้งออกเป็นชุดๆ…ผมเหงื่อไหลโทรมร่างรู้สึกราวกับจะเป็นลมหน้ามืดเพราะภายในห้องมันร้อนอบเหลือเกิน…รวบรวมแรงลุกดันรถเข็นเก็บลูกบอลออกและเปิดประตู…อ้อยรีบก้าวมาข้างในโดยไม่ลืมปิดประตูล๊อคชั่วคราวพอเธอเห็นสภาพของพี่ชายและเพื่อนสาวก็หน้ามุ่ยบ่นอุบอิบ…
“หมดสภาพ…รีบลุกซิยะหล่อน…นี่น้ำ…เช็ดหน้าล้างตัวล้างหีซะ…น้ำเงี่ยนเต็มตูดเลย…พี่ก็ด้วยค่ะ”
“ช่วยพยุงหน่อยอ้อย…โอย~~…ระบมขาจัง…เล่นวอลเลย์ก็ยังไม่ใช้แรงมากขนาดนี้”
“เดียะ!!…ทำครวญ…เตะขาพับซะดีมั้ง?”
“อ้อยนี่รู้ใจดีจริงๆ…มาให้พี่หอมแก้มทีสิ”
“อย่าเพิ่งเข้ามานะคะ…กลิ่นคาวหึ่งเชียว…รีบๆล้างตัวซี่…ช้าเดี๋ยวมีใครมาเห็น”
“ไม่มีใครมาใช่มั้ย?”
“ถ้ามีมาเธอจะอยู่รอดปลอดภัยเห็นหน้าฉันอีกหรือยะ?”
“อุแหม…ขอบใจๆ”
…พวกเราล้างเนื้อล้างตัวแบบลวกๆและรีบแต่งตัวตามเดิม…พอแน่ใจว่าไม่หลงลืมเหลือหลักฐานอะไรไว้ในห้องแล้ว…จอยก็ปิดประตูห้องเก็บอุปกรณ์ตามเดิม…คราวนี้เป็นการถาวร?…
…………………………………………………………………………………………………………
“มอมแมมเชียวนะ 2 คนเนี้ย~~”
…น้องสาวยังกอดอกค่อนแคะพี่ชายกับเพื่อนรักไม่มีเลิกราขณะเดินไปหน้าโรงเรียนด้วยกัน…
“อ้อยรู้ได้ไงว่าจอยอยู่นี่?”
“จะยากอะไร?…ก็เธอเคยพูดเองนิว่าจะพาพี่บอลมาที่นี่…แหม~~…พอยัยขวัญอวดเข้าหน่อยก็รีบแจ้นพาพี่ฉันมาทำสนุกสมใจอยากจนได้”
“ฮิๆๆ…คราวนี้จอยสมหวังแล้ว…ก็อ้อยน่ะใจดีแบ่งให้ฉันบ้างสิ…ตัวเองกกพี่บอลอยู่แล้วบ่อยๆน๊า~~”
“ไม่สมหวังก็แปลก…ทำพี่ฉันโทรมซะขนาดนี้…ขอบคุณอ้อยด้วยนะคะพี่…หนูอุตส่าห์มาคอยดูเป็นต้นทางให้”
“ขอบใจจ้า…น้องรักของพี่น่ารักจริ๊งๆ”
“กลิ่นยังมีติดตัวนะคะ”
“อ้อยไม่สานต่อรึ?…รู้นะว่าอยู่เป็นต้นทางแต่ก็คงแอบฟังฉันกับพี่บอลเย็ดกัน…แอบฟังเสียงครวญครางอย่างเร่าร้อนของพวกเรา…ฟังเสียงควยเฉาะกับหีจนชุ่มฉ่ำ…เงี่ยนไม่เบาสิท่า?”
“เฮ้ยๆๆ!!!…อย่ามายั่วกระสันต์ฉันนะยะแค่นี้ก็หีแฉะแย่แล้ว…ก็อยากคร่อมตอหรอกแต่พี่บอลหมดแรงหอบแฮ่กๆแบบนี้จึงยังไม่ซ้ำเติมดีกว่า”
“ห้องมันทึบก็เลยร้อนน่ะสิ…เหงื่องี้ไหลเต็มตัว…ตอนน้ำเงี่ยนพุ่งพี่แทบเป็นลม…หีจอยทั้งรัดทั้งตอด”
“พอได้แล้ว!!…พี่ก็จะแกล้งยั่วอ้อยอีกคนใช่มั้ยคะ?…ระวังเถอะยั่วมากๆจะโดนน้องสาวข่มขืนไม่รู้เนื้อรู้ตัว”
…อ้อยคงทั้งงอนทั้งเงี่ยนสังเกตจากแก้มงี้แดงสุกปลั่ง…ตอนช่วยพยุงเดินผมก็โดนเธอหยิกเอวซะทีหนึ่ง…
“ก่อนไปทำงานหนูจะคิดบัญชีพี่”
“โอ๋ย!!!…งั้นพี่ก็ทำงานไม่ไหวสิอ้อย”
“น้องไม่รู้หนูไม่รับทราบ!!…อยากแอบมาเอากันก่อนดีนัก…เตรียมใจไว้เลยนะคะ”
…สงสัยงานนี้มีหวังผมเหลือแต่หนังแน่มั้ง…จอยโบกมือบ๊ายบายด้วยความแช่มชื่นทั้งใจและกาย…เธอคงรู้ว่าต่อไปผมจะโดนน้องสาวสําเร็จโทษอีท่าไหน…
…………………………………………………………………………………………………………
...วันรุ่งขึ้น…
“บอล…ทำไมมึงถึงมากับพี่แคท…น้องฝนไม่มาเรียนเหรอ?”
“วันนี้ฝนไม่มา…ถ้าอยากรู้รายละเอียดมึงก็ถามตัวพี่สาวเองสิ…ชั้น 6 แน่ะ”
…ผมตัดบทรีบเข้าห้องเรียนปล่อยให้เชนไปถามพี่แคทเองว่าทำไมฝนน้องรหัสขวัญใจของมันถึงไม่มาเรียน…สักครู่ก็กลับ…คงได้คำตอบดีๆสมใจ…
 “นี่เธอเหม็นหน้าใครมาจากไหนมิทราบครับ?”
“ฮ่าๆๆ…คงเหม็นตอนเห็นหน้าอุบาทส์ๆของมึงน่ะแหละ…พี่เขาพูดอะไรบ้าง?”
“กูถามว่าฝนเป็นอะไรทำไมถึงไม่มาเรียน…พี่แคทมองเขม็งตอบแบบไม่เต็มใจตอบว่าฝนไม่สบาย…
พอถามเป็นไข้หรือเป็นอะไร?…คุณเธอพูดเสียงขุ่นทันที…แค่รู้ฝนไม่สบายก็พอแล้วไม่จำเป็นจะต้องรู้อะไรมากนัก”
“กูนึกแล้วพี่เขาต้องพูดอะไรในทำนองนี้…ประจำ”
“พูดเสร็จหล่อนสาวเท้าสวบๆไม่มีเหลียวหลังกลับอีกเว้ย…ให้ตายสิ…หยิ่งเป็นบ้า”
…เคย์เพื่อนผมอีกคนหนึ่งในก๊วนเข้ามาร่วมวงสนทนาอีกคน…
“แต่กูชอบพี่เขามากๆว่ะ…บอลมึงช่วยหน่อยสิ…กูตัดสินใจแล้ว”
“อย่าเลย…กูขอเตือน…มึงรับมือพี่เขาไม่ไหวหรอกก็ดูพี่ยุทธของเราสิ…เป็นยังไงล่ะ?…หน้าแตกแหลกละเอียด”
“มึงอ้างแบบนี้อยากเก็บไว้กินคนเดียวใช่มั้ยเล่า?…หนอย!….มีแฟนน่ารักอยู่ทั้งคนแล้วยังจะคิดรวบสาวที่กูปิ๊งอีก”
“ไม่ใช่โว้ย!!…กูเตือนมึงนี่เพราะว่าโอกาสจีบพี่แคทสำเร็จมีน้อยกว่า 1 ในหมื่นอีก…รู้ไว้ซะ”
“พี่เขามีแฟนแล้ว?”
“เท่าที่กูรู้…ไม่มีหรอกมั้ง?…เดาตามนิสัยน่ะ”
“ไหงงั้น?…ครั้นจะเป็นเลสเปี้ยนหรือเป็นทอมแต่ท่าทางก็ไม่ใช่เลยนี่หว่า”
“ช่วยกูหน่อยสิ…นะกูขอร้อง…คนนี้น่ะใช่เลย”
…ใจจริงผมไม่ค่อยอยากช่วยไอ้เคย์สักเท่าไหร่…ไม่ใช่คิดจีบพี่เขาซะเองหรอก(แค่นี้ก็ปวดหัวมากพอ…ใครจะกล้ากันวะ?…ลูกพี่ลูกน้องกันอีกต่างหาก)แต่มีบทเรียนจากพี่ยุทธนามาหมาดๆจึงไม่อยากเสี่ยงส่วนสาเหตุที่ฝนไม่มาเรียนต้องนึกย้อนไปเมื่อเช้าเป็นเพราะว่าสาวน้อยจอมซนมิสร่างซาซื้อซุปหน่อไม้และผลไม้ดองมากินบรรเทาอาการเปรี้ยวปากกับสาและอ้อยตั้งแต่เย็นวานพอตอนเช้าวันนี้ก็ได้เรื่องเกิดอาการปวดท้อง…ร่างกายอ่อนเพลียต้องดื่มนํ้าเกลือแร่และกินยาแก้ปวดท้อง…แม่กวางบอกถ้าอาการไม่ดีขึ้นคงต้องนอนให้น้ำเกลือ…ผมยังจําหน้าตาที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวไม่เข้าเรื่องเข้าราวรวมทั้งเสียงร้องโหยหวนของญาติสาวผู้น้องได้แม่น…หรือนี่คือจุดอ่อน?…
(“แง~~ไม่อาวนะป้า…ม่ายอ๊าว~~~ให้ตายยังไงฝนก็ไม่นอนโรง`บาล…ไม่ๆๆๆ”
…สาวเขี้ยวแหลมได้ยินถึงกับร้องจ๊ากยืนกรานดึงดันนอนคุดคู้กอดหมอนข้างแน่นหนาจะไม่ยอมไปโรงพยาบาลแม้แต่ห้องของสาเธอก็บอกจะไม่ย่างกรายออกไปสักเพียงก้าวเดียว…แม่กวางจะปลอบประโลมใช้น้ำเย็นเข้าลูบยังไงก็ไม่เอาท่าเดียว…อารมณ์พี่แคทจึงเกิดซ็อตฟิวส์ขาดดุน้องสาวสุดดื้อยกใหญ่ด้วยระดับความขุ่นเคืองที่ไม่น้อยเพราะเธอเคยสั่งห้ามไม่ให้กินของหมักของดองพวกนี้หลายครั้งแล้วแต่ฝนไม่เชื่อฟัง…ปกติชอบทำตัวเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่เวลาโมโหก็ว่าได้แสบสันต์เหมือนกัน…
“เห็นแก่กินตามใจปาก!!…เป็นไง?…นี่ไม่รู้ว่าจะเข็ดหลาบมั้ย…พี่เตือนตั้งหลายครั้งแต่ไม่เคยฟังกันบ้าง
…โรงพยาบาลน่ะถ้าอาการไม่ดีขึ้นมันก็จำเป็น…คุณป้าถ้าจะพาไปก็บอกแคท…หนูจะจับเด็กดื้อยัดใส่รถเองค่ะ…ถึงเวลานั้นต้องรักษาโรคกลัวเข็มฉีดยาให้หายขาดด้วย”
“อือ~~~”
…ฝนหน้าสลดซึมจ๋อยเมื่อถูกพี่สาวตําหนิเป็นชุดๆ…ผมเห็นแล้วชักสงสารรู้สึกว่าพี่แคทพูดแรงไปหน่อย…
“อย่าดุฝนเลยค่ะพี่…สาก็เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ห้าม”
“อ้อยก็ผิดที่ไม่ช่วยห้ามพี่ฝนด้วยค่ะ”
“แล้วทำไมสากับหนูอ้อยถึงไม่เป็นอะไรอ่ะ?…ไม่แฟร์เลยนี่นา…ฝนเป็นคนเดียว”
“ก็คงเป็นเพราะว่าเธอกินมากกว่าใครเพื่อนน่ะสิ”
“เอาเถอะๆ…ไม่มีใครผิดทั้งนั้น…แม่จะหยุดงานวันหนึ่งอยู่ดูแลฝนเองจ้ะ”
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณป้า…ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นรีบโทรบอกหนูนะคะ…ฟู่~~!!…เด็กคนนี้ทำไมชอบก่อแต่เรื่องยุ่งยากน่ารำคาญนักน้า~~…พ่อแม่ตักเตือนเท่าไหร่ๆก็ไม่ฟัง”
“พี่ใจร้าย!!…พี่แกล้งฝน…ใจร้ายๆๆๆ…คอยดูสิคอยดู…ต่อให้ตายหนูก็ไม่ไปโรง`บาลแน่…ฮึ!!”
“ฝน!!…ทําไมน้องถึงได้ดื้อแบบนี้?…ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
…ฝนทิฐิพุ่งแรงไม่ยอมสนใจพลิกตัวคว้าผ้าห่มคลุมโปงนอนหลบหน้าพวกเราซะงั้น…หญิงสาวผู้พี่คงเบื่อหน่ายจึงไม่พูดไม่จาอะไรอีก…ผมอยู่ในเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดและได้ยินพี่แคทพูดทุกประโยค…อืม…ต่อว่าฝนอย่างโน้นอย่างนี้แต่เนื้อแท้ก็ร้อนใจห่วงใยน้องสาวมากพูดง่ายๆคือเป็นประเภทปากร้ายใจอ่อน…นึกแล้วก็ขำเผลอยิ้มจนโดนสังเกตเห็นแต่ไม่พูดอะไรต่อก็ต้องรีบไปเรียนเหมือนกันส่วนอ้อยสาจะรับหน้าที่ไปส่ง…
“เราอุตส่าห์ตักเตือนดีๆก็หาว่าใจร้าย…หาว่าแกล้ง…??…โธ่เอ้ย!!…อะไรอีกเนี่ย?”
…ถัดจากบ่นพึมพำพี่แคทก็ร้องโวยลั่นเพราะยางรถด้านหน้ายุบไปล้อหนึ่ง…
“โดนตะปูตำหรือเปล่าก็ไม่รู้?…บ้า!!”
“ค่อยตามช่างซ่อมทีหลังเถอะครับ…นี่ใกล้ได้เวลาแล้ว”
 “เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย…แย่จัง…ใครแกล้งเจาะยางหรือเปล่า?”
…เอ่อ…ไม่อยากจะซํ้าเติมนะ…ก็พี่หยิ่งเชิดใครต่อใครไปทั่วจนโดนเขม่นล่ะมั้งแต่คงไม่มีใครแกล้งหรอกครับ…ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้…อุบัติเหตุ…อาจรั่วแต่เมื่อวานแล้วเพิ่งมาเห็นตอนนี้…
“ถ้ารู้ว่าเป็นใครจะซัดให้น่วมทีเดียว…มันน่านัก!!…ทำไมฉันต้องเจอเรื่องบ้าๆตั้งแต่เช้าตรู่เลย”
…โหว~~ “ซัดให้น่วม?” ปากกล้าท้าทายเก่งเหมือนกันนะเนี่ยพี่แคท…อืม…ก็ลูกสาวตำรวจนี่หว่า…
“เดี๋ยวป้าตามช่างมาดูให้เองจ้ะ…รีบไปเรียนเถอะ”
“พี่ไปกับพวกหนูก็ได้”
“ไม่ต้องจ้ะสา…คนละทางเลยรบกวนเปล่าๆ…เอางี้…พี่จะไปกับบอล”
…เฮ่ย?…ไหงจะไปกับเรา…ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดซ้อนท้ายรถผมเลยสักครั้ง…พูดใหม่อีกทีซิครับ…
“ไม่รบกวนบอลจนเกินไปใช่มั้ย?”
…จะรบกวนเกินไปได้ยังไง?…โอ้เยส!!…ความจริงไม่ได้ฝันไปว่ะ…สาวสวยอันดับ1ของคณะจะซ้อนท้ายรถผมเพื่อไปเรียนด้วยกัน…คุยอวดยืดอกพวกเพื่อนๆได้อีกนานเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบครั้งนี้อีกเมื่อไหร่…คิดๆดูก็ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าภูมิใจเหมือนกันนะ…พี่แคทรวบมัดผมยาวก่อนสวมหมวกเพื่อไม่ให้เกะกะก่อนขึ้นนั่งซ้อนท้าย…เห็นแล้วทำให้ใจผมตื่นเต้นและเกร็งนิดๆ…จะคิดอะไรมากก็นึกซะว่าข้างหลังเราคือ…วุ้ย!!…เปรียบกับอะไรไม่ได้แฮะ…
“พี่ขี่ให้ก็ได้นะบอล”
“ไม่ต้องหรอกครับ…ผมจะทําอย่างงั้นได้ไง…อีกอย่างพี่ก็ใส่กระโปรงยาวมันไม่ถนัดหรอก”
“แต่พี่ขี่มอไซด์เก่งนะ…อาจจะเก่งกว่าเธอด้วย…เอ้า!!…รีบไปกันเถอะ”
…ใจยิ่งเต้นตึกตักๆ…พี่แคทใช้น้ำหอมและแป้งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ…เส้นผมก็มีกลิ่นแชมพูจางๆเย็นๆโชยเข้าจมูก…หัวไหล่ของเธอแนบแซะหลังผมแถมยังสัมผัสถึงลมหายใจของหญิงสาวผู้พี่ได้อย่างแผ่วๆ…อยากจะขี่ช้าๆเพื่อให้ไปถึงช้าๆแต่เวลามันก็มีจำกัดเกินไป…ไอ้เคย์เอ้ย~~…มึงเห็นเข้าคงแทบวิ่งเข้ามาเขกกบาลกูแน่ๆว่ะ…นึกมาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มจะขำญาติสาวเพราะพี่แคทก็มีความเขินอายเยี่ยงผู้หญิงทั่วๆไปแต่ผมไม่เคยเห็นแบบนี้จากเธอมาก่อน…คือช่วงทางที่ใกล้ถึงมหาลัย…พี่แคทถามว่า…
 “เมื่อครู่เธอขำอะไรพี่?”
 “อ๋อ!!…ไม่มีอะไรครับ…ผมแค่คิดว่าพี่น่ะก็รักฝนมากเหมือนกัน”
“พูดแปลก…ฝนเป็นน้องสาวถ้าไม่รักห่วงใยเด็กคนนั้นแล้วจะให้พี่ไปรักใคร?”
“ครับๆ…แต่พี่แคทมักชอบดุฝนบ่อยๆทั้งที่ความจริงพี่รักและเป็นห่วงฝนมากที่สุดยิ่งกว่าใครๆ”
“ไฟเขียว!!…อย่ามัวพูด”
…พี่สาวคนสวยได้ยินผมพูดแทงใจดำก็อาจจะรู้สึกเขินมั้งถึงเอากำปั้นเขกหมวกกันน็อคเบาๆ)นี่แหละคือเหตุการณ์ทางบ้านทั้งหมดก่อนมาเรียน…
“มึงยิ้มอะไรวะ?”
“เปล่า”
…เนื่องจากต้องกลับพร้อมกันเมื่อเธอเป็นฝ่ายเลิกเรียนก่อนจึงมานั่งคอยผมหน้าห้อง…ไอ้เคย์ตาโตราวไข่ห่านอาศัยจังหวะอาจารย์เผลอโบกไม้โบกมือพร้อมมอบรอยยิ้มที่มันคิดว่าหล่อเท่สุดๆให้แต่พี่แคทกลับเฉยเสียแถมไม่ยอมมองแม้แต่หน้ามันด้วยซ้ำ…ไอ้เคย์ยังไม่ละความพยายามลุกยกมือไหว้อาจารย์ก่อนเดินออกไป…ผมกับเชนดูการกระทำทุกอย่างของเพื่อน…
“คิดว่าไงวะ?”
“ก็ดูต่อไปสิ”
…ผมตอบไอ้เชนแต่ในใจคิด…โฉ่งฉ่างจริงๆทำเล่นหูเล่นตาแบบนี้พี่แคทคงจะชอบนี่นะ…เห็นมันตั้งหน้าตั้งตาชวนสาวสวยให้คุยด้วยแรกๆพี่เขาก็คุยหรอกแต่นานเข้าไอ้เคย์เริ่มออกลายไม่รู้พูดอีท่าไหนสักครู่รุ่นพี่สาวหน้าบึ้งลุกหนีไปเลย…เพื่อนจะตามแต่ผมให้เข้าห้องมาก่อน…สีหน้ามันดูผิดหวัง…
“ตอนแรกกูก็ชวนคุยเรื่องปกติแหละ…จากนั้นพี่แคทเหล่หน้ากูถามไม่อยากเรียนหนังสือหรือไงถึงออกมานั่งคุยได้…กูงี้อึ้งแดกในพริบตาแต่ยังลื่นชวนคุยต่อว่าวันนี้จะไปดูน้องๆปี 1 ร้องเพลงเชียร์หรือเปล่า…เธอตอบว่า…วันนี้ไม่มีเวลาว่างจะไปกูได้ช่องถามว่างั้นวันหยุดว่างมั้ย?…อยากชวนพี่ไปทานอาหารเดินเที่ยวหรือดูหนัง…พี่แคทไม่ตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธกูรีบเสียบว่าอยากจะโทรหาและขอเบอร์”
“โห!!…แล้วได้ป่ะ?”
“ได้ป๊ะมึงสิ!!…ถ้าได้กูจะหน้าเหี่ยวแบบนี้เร๊อะ?…พี่แคทตอบห้วนๆไร้สาระ…เอาเวลาไปร่ำเรียนหนังสือมันจะเข้าท่ากว่าแค่นั้นแหละลุกเดินหนีจากไปเลย…ใจแข็งไม่ใช่เล่นแต่กูไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่”
…ถึงช่วงเบรค15นาทีพี่แคทยังอยู่แถวนั้นเธอกวักมือเรียก…ไม่นานเกินรอไอ้เคย์ก็โดนสับเละผ่านทางผมทันที…
“เพื่อนเธอคนนี้มารยาทแย่มากๆ…เมื่อกี้พูดจาลามปามพี่อย่างไม่อายปาก…ถ้าไม่ติดว่ามีอาจารย์อยู่ใกล้ๆล่ะก็โดนตบปากไปแล้ว”
“หา?…เคย์มันแค่ถามว่าพี่เรียนเสร็จแล้วหรือแค่ชวนไปดูหนังเท่านั้นนี่ครับ”
…พี่แคทฟังผมพูดจบหน้าตาเธอก็มึนตึงยิ่งขึ้นอีก…สงสัยไอ้เคย์มันต้องทำบ้าอะไรมากกว่านั้น…
“ไม่ใช่แค่นี้!!!…เพื่อนเธอบอกว่าพี่น่ะสวยอย่างงั้นน่ารักอย่างงี้อยากขอคบด้วยเพราะเขายังไม่มีแฟนพูดไปก็มองตัวพี่ไปทําสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มกิริยาน่าเกลียดน่าคลื่นไส้”
…เคย์…มึงนี่จีบผู้หญิงไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ย~~…ไอ้นิสัยชอบเล่นหูเล่นตาแซวสาวๆแบบมึงทำบ่อยๆมันใช้กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้…นี่ยังหาเรื่องให้กูติดร่างแหโดนว่าไปด้วย…เวลานี้พี่แคทยัวะน่าดูทีเดียว…
“ผมขอโทษพี่แทนเพื่อนด้วยแต่มันไม่มีเจตนาร้ายอะไรหรอกครับ”
…แม้จะกล่าวขออภัยอย่างสุภาพแต่ดีกรีโทสะในใจของรุ่นพี่สาวยังดูเหมือนไม่ค่อยลดลงสักเท่าไหร่…
“ถึงมีเจตนาดีแต่เพื่อนเธอคนนี้พี่ไม่มีทางไว้ใจอย่างเด็ดขาด…คนชื่อเชนก็เช่นเดียวกันพี่ไม่มีทางให้ฝนอยู่ด้วยตามลําพังแน่…เธอคบกับกลุ่มคนแบบนี้นานๆไปมันไม่เป็นผลดีต่อตัวเองหรอก”
“พี่…”
“เอ้า!!…ได้เวลาเรียนแล้วกลับเข้าห้องไปเถอะ…พี่จะเดินเล่นฆ่าเวลาแถวๆนี้ก่อน…โชคดีๆ”
…วันนี้พี่แคทก็ดูแปลกๆตามปกติ(?)ไม่ว่าการพูดหรือกระทำแต่ไอ้พวกนี้มันน่ามั้ย?…ตามกวนใจสร้างความรำคาญจนทำให้ “Ice Lady” ชังน้ำหน้าซะแถมพาลฉุนเฉียวมาถึงผมอีกคน…พอถึงตรงนี้กรุณาอย่าสงสัยว่าคืออะไร?…นี่คือฉายาของพี่สาวคนสวยที่ได้รับจากกลุ่มเพื่อนในห้องผมซึ่งเจ้าตัวคงยังไม่รับทราบ…ความหมายก็ตรงตัวและแต่งเติมให้ดูสวยหรูขึ้นจะได้ดังนี้“สตรีผู้เย็นชาและเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง”พวกเราทุกคนในห้องเห็นพ้องต้องกันว่าเหมาะสมกับพี่แคทอย่างสุดๆหรือใครจะเถียง?…
…………………………………………………………………………………………………………
…และวันรุ่งขึ้นคือวันหยุด…ที่บ้าน…ผมเอาแต่เดินวนไปเวียนมาในห้องรับแขกเพราะดันรับคำขอร้อง(แกมบังคับ)จากไอ้เคย์อย่างเสียไม่ได้และคำขอร้องนั้นก็สุดลำบากใจจะทำยังไงดี?…
“มีอะไรก็พูดออกมา”
“คือ…ผม”
“อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมพูดสักทีแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องปกติสิ”
…พี่แคทก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในห้องรับแขกส่วนอาการปวดท้องของฝนนั้นดีขึ้นมากซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่นอนในห้องพี่สาวตลอดเวลาเช้า…ล่วงจน10โมงแล้วยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น…เมื่อวานทะเลาะกันแต่วันนี้ดันเข้าไปนอนห้องเขา…เออ…ดี…
“เอ่อ…เคย์มันอยากชวนพี่แคทไปดูหนังตอนบ่ายโมงวันนี้น่ะครับ”
…คิดในใจว่าพี่ต้องตอบสนองอย่างใดอย่างหนึ่งกลับแน่…ครั้งนี้เธอพับหนังสือพิมพ์เลิกอ่านทันที…
“งั้นเธอคงรู้คำตอบของพี่ดีอยู่แล้วนะ”
“ทราบดีครับ…แต่พี่จะไม่ไปหน่อยหรือแค่ดูหนังเองนะครับ”
“แค่นั่งคุยกันเมื่อวานพี่ยังไม่อยากคุยนาน…ดูหนังจึงไม่เคยคิดจะไป…ยิ่งกับเพื่อนคนนี้ของเธอ”
“พี่ไปหน่อยเถอะครับ…มันให้ผมขอร้องมา…ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ยังดีครับ”
“ไม่”
…ทำไมหัวดื้ออย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้?…มันเสียหายตรงไหนนักหนากะอีแค่…อารมณ์ผมก็ชักจะไม่ผ่องใสเหมือนกัน…
“ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ...ทําไมพี่ถึงเกลียดผู้ชายนัก...แค่การที่เพื่อนผมชวนมันเป็นเรื่องลําบากใจให้กับพี่มากนักหรือครับ?...ผมเองก็ไปด้วยและทุกอย่างก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว..”
…พูดจบหญิงสาววัย 21 ปีก็หัวเราะดังออกมาแต่คงเป็นการทําแบบประชดกันแน่ๆ...
“ฮึ!!...หึๆๆ...ฮะๆๆ...พี่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าแค่คําขอของเพื่อนใจเสาะคนหนึ่งก็ทําให้ครั้งนี้เธอกล้าต่อปากต่อคําพูดจาบังคับพี่...ฮะๆๆๆ...นึกไม่ถึงจริงๆ”
“พี่อย่าเปลี่ยนเรื่องพูด...บอกผมมาก่อนสิว่าทําไมพี่จึงปฏิเสธคําชวนของเพื่อนผมคนนี้และผ่านๆมาครั้งแล้วครั้งเล่าก็บอกปัดไมตรีจิตดีๆของผู้ชายทุกคนที่พยายามมอบให้”
…พี่แคทผู้มีจิตใจแข็งแกร่งราวหินผาได้ยินก็หยุดยิ้มประชดประชันทันที...เธอเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้างบนโซฟา...สะบัดเส้นผมแขนท้าวกับพนักพิงเชิดใบหน้ามอง...ร่างกายหยุดนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปปั้นมีเพียงดวงตาที่ยังกระพริบ…ผมรู้ว่าหล่อนต้องไม่พอใจแต่เก็บอาการได้ซะสนิทไม่แสดงอาการไม่สบอารมณ์ออกมาให้เห็น...
“อยากรู้นักรึ?...ได้...คําตอบก็ง่ายๆสั้นๆ...พี่เกลียดผู้ชาย…เกลียดแบบไม่จําเป็นต้องบอกเหตุผล…เอาเป็นว่าเธอแค่นำคําตอบนี้ไปบอกนายเคย์นั่นก็พอ”
…ตอบแบบกําปั้นทุบดินจริงๆแต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากรู้...
“เสียใจ...ผมทําตามไม่ได้...พี่บอกมาก่อนสิว่าเพราะอะไร...ผมจะได้ไปบอกเพื่อนอย่างสมเหตุสมผล”
…พี่สาวหัวแข็งถอนหายใจยาวพลางถอดแว่นตาวางบนโต๊ะหยิบแก้วชานมขึ้นดื่ม…
“เฮ้อ~~...บีบคั้นจังนะ..เพื่อนคนนี้เป็นอะไร?...ถามจริงๆเถอะว่าระหว่างเพื่อนฝูงกับญาติพี่น้อง…เธอรักฝ่ายไหนมากกว่ากัน?”
…คําถามนี้ทําให้ผมอึ้ง...ประกายดวงตาของพี่แคทเยือกเย็นสงบนิ่งเงียบรอฟังคําตอบ...
“ผมรักทั้ง 2 ฝ่ายพอๆกันครับแต่สรุปพี่จะไม่ไป?”
“อย่างงั้นเราก็ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันอีก...จงจําไว้ด้วยว่าไม่มีใครจะมาออกคําสั่งให้พี่ทําตามได้ถ้าพี่ไม่เห็นด้วยและไปบอกเพื่อนเธอว่าความตั้งใจของเขานั้นใช้ได้แต่จงเอาไปใช้กับผู้หญิงคนอื่นกับพี่มันไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด”
…เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็เตรียมแจ้งข่าวน่าผิดหวังนี้ให้รู้และปลอบให้มันทําใจแต่ก่อนหน้านั้นสาวสวยพูดออกเสียงดังสำทับมาอีก...
“ส่วนเธอเองก็อย่าทําตัวให้พี่ไม่ชอบหน้ามากไปกว่านี้และคราวหลังอย่าริอาสาเป็นพ่อสื่อให้ใครอีก...นี่คือครั้งที่ 2 อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนแต่ไม่ต้องเข้าใจอะไรหรอกนะแค่ไปบอกเพื่อนของเธอตามนี้ว่าให้เลิกหวังอะไรลมๆแล้งๆได้แล้ว…มันไม่มีทางเป็นจริงได้เลย”
…เข้าใจแล้ว…เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วครับ…เป็นอันว่าไอ้เคย์คือรายที่2ต่อจากพี่ยุทธนาที่ถูกหญิงสาวนาม “สุรีย์พรรณ”ตัดเยื่อใยอย่างไม่มีชิ้นดี…จากนี้ใครจะเป็นรายต่อไปล่ะ?…เพราะรู้ว่ามีหนุ่มๆหลายคนในคณะและจากคณะอื่นคอยจ้องเข้ามา“หาโอกาสลองของ”กับผู้หญิงลูกพี่ลูกน้องคนนี้…มีเสน่ห์ชวนหลงไหลตรงไหนกันนะทำไมผู้ชายที่แวดล้อมผมถึงพากันติดบ่วงหลงชอบกันไปหมด…จะแจกแจงคร่าวๆให้ฟัง…นิสัยเงียบขรึมเย็นชาและไม่เคยปรนนิบัติเอาอกเอาใจใคร…กิริยาไม่อ่อนหวานนุ่มนวลพยายามตีตัวออกห่างจากเพศตรงข้ามอย่างชัดเจน…มารยาทก็นับว่าดีแต่กับผู้หญิงด้วยกันเท่านั้นส่วนกับผู้ชาย…สังเกตจากน้ำเสียงการพูดจะรับรู้ได้ทันทีว่าทั้งห้วนและแข็งกระด้างไม่ค่อยเป็นมิตร…โดยรวมแล้วนับว่าพี่แคทน่ะเป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดเอาการทีเดียวและผู้หญิงลักษณะนี้ก็ไม่ใช่สเป็คซะด้วย…ลักษณะหญิงสาวที่ผมชอบต้องเป็นอย่างกุน…สา…น้องอ้อย…คือมีนิสัยอ่อนหวานนุ่มนวลช่างปรนนิบัติเอาอกเอาใจ…กิริยาเรียบร้อยไม่แข็งกระด้างมีมนุษยสัมพันธ์ดีถึงจะเจ้าแง่แสนงอนนิดๆก็น่ารักดีไม่หยอก…มารยาทดีมีกาลเทศะรู้จักให้เกียรติให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย…แต่อย่าง 2 พี่น้อง “เทวะกรนันท์” นี่ผมรับมือไม่ไหวไม่อยากตอแยสักนิดครับและลำพังผู้หญิงที่ผมข้องแวะด้วยก็มีไม่ใช่น้อย…ถึงตัวผมจะยอมรับมานานแล้วว่าพี่แคทสวยกว่ากุนและฝนก็น่ารักพอๆกับสา…ถึงแม้มีรูปโฉมงดงามแต่อุปนิสัยเข้ากันไม่ได้ก็ไม่อาจทําให้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข…ดังนั้นขอยกเว้นแค่2คนนี้ล่ะกันเพราะพวกเธอมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง…เป็นบุตรสาวสุดรักสุดหวงของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คุณอาวงศ์ศักดิ์และคุณอาอรนิภาน้องสาวแท้ๆของคุณพ่อของผมเอง…
…………………………

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น