วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หนาวนี้





สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนเลย ชื่อมายค่ะ เกิดและโตในกรุงเทพฯ เป็นสาวเมืองกรุงแท้ๆ แต่จับพลัดจับผลูให้ต้องย้ายมาใช้ชีวิตอยู่บนยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นดอยอะไรใช่ไหมคะ เอาเป็นว่ามายขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ มายย้ายมาอยู่ที่นี่จะ 3 ปีแล้วค่ะ

สาเหตุที่มายต้องย้ายมาอยู่ยอดดอยที่อากาศหนาวเจี๊ยบตลอดทั้งปีแบบนี้ก็ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะย้ายตามพี่ชาติ สามีของมายมาอยู่ที่นี่ค่ะ พี่ชาติทำงานเป็นข้าราชการที่ต้องดูแลเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ เขาถูกสั่งย้ายมาอยู่บนดอยแห่งนี้ และด้วยความที่จะต้องห่างไกลกัน ทำให้เขาขอมายแต่งงานทันทีที่เรียนจบ เพราะเขารู้ว่าขืนปล่อยมายไว้กรุงเทพฯ อาจถูกแมวคาบไปเสียก่อน 55

มายคิดอยู่นานพอสมควรถึงจะตอบตกลง จริงอยู่ว่ามายรักพี่ชาติ แต่การต้องจากบ้านเกิดไปอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ แถมบนยอดดอยแบบนี้ก็ทำให้มายสับสนเอาการ แถมหลายคนยังเตือนมายว่า อย่าเพิ่งรีบแต่งงานเกินไปตั้งแต่อายุ 22 แต่ทำไงได้ละคะ ก็คนมันรักไปแล้ว

พี่ชาติแก่กว่ามายกว่า 20 ปีได้ แกอายุ 40 กว่าๆ แล้วค่ะ มายรู้จักกับพี่ชาติก็ตอนที่เขามาบรรยายพิเศษที่มหาลัยตอนมายเรียนอยู่ปีหนึ่ง มายเริ่มคุยกับพี่ชาติก็เพื่อจะขอข้อมูลเพิ่มเติม เอาไปเอามากลายเป็นว่ามายประทับใจพี่ชาติก็ตรงที่แกเป็นคนอบอุ่น เราคลิกกันตอนไหนไม่รู้ แต่อยู่ดีๆ มายก็ตกหลุมรักคนแก่เฉยเลย

ที่สำคัญพี่ชาติต่างจากเด็กหนุ่มมหาลัยทั่วไปที่มาจีบมาย เพราะเกือบทั้งหมดออกแนวลามกและหวังแต่เรื่องแบบนั้น แต่พี่ชาติให้เกียรติมายอย่างมาก

“มาย... ชั้นเสียดายความน่ารักของแกว่ะ..” นังก้อย เพื่อนสนิทของมายตั้งแต่เรียนมัธยมเคยบอกแบบนี้ “ดูสิ.. ทั้งขาวทั้งสวย หุ่นก็ดี หนุ่มๆ ตอมเพียบ ... แต่ไปเอาคนแก่ซะงั้น..”

มายได้แต่หัวเราะแห่ะๆ ไม่เป็นเราก็ไม่เข้าใจหรอกใช่ไหมคะ

นังก้อยบอกว่า มายมีหนุ่มมาติดเพียบเพราะตรงสเปกหนุ่มไทยส่วนใหญ่ ด้วยความที่หน้าเด็ก ผิวขาวเนียนละเอียดและตาโตแบบสาวญี่ปุ่น สูงกำลังดี เอวบาง สะโพกกลมกลึง แถมหน้าอกของมายออกจะล้ำเกินหน้าใครตั้งแต่เด็กๆแล้วสงสัยคุณแม่ให้มาเยอะไปหน่อย บางทีมายก็อายที่หนุ่มๆ มองหน้าอกมายก่อนที่จะมองหน้ามายด้วยซ้ำไป

มายก็มีคุยเล่นๆ กับหนุ่มที่เข้ามาจีบไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมาก เพราะพี่ชาติดูแลมายดีเหลือเกิน เชื่อมั้ยคะว่าพี่ชาติไม่เคยล่วงเกินมายเลยจนถึงวันแต่งงาน!

ช่วงแรกที่มาอยู่บนดอยห่างไกลแบบนี้ เราสองคนตัวติดกันตามประสาข้าวใหม่ปลามัน ทุกอย่างดูสวยงามไปหมด อากาศหนาวๆ เย็นๆ เกือบตลอดทั้งปีทำให้มายและพี่ชาติแฮปปี้อย่างมาก เป็นคู่รักที่คนละแวกนี้รู้จักกันดีว่าหวานจ๋อยที่สุดบนดอยเลยก็ว่าได้

เวลาเกือบ 3 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความตื่นตาตื่นใจในธรรมชาติรอบตัวก็เริ่มลดลงไปบ้าง พี่ชาติทำงานอย่างขยันขันแข็งตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่ด้วยความที่อายุ 40 กว่าแล้วเขาจึงไม่แข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ

หลายคนคงอยากรู้เรื่องชีวิตเซ็กส์ของเราสองคนใช่มั้ยคะ พี่ชาติเป็น “คนแรกและคนเดียว” ของมาย จริงๆแล้วเราก็เหมือนกับคู่รักทั่วไป ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย แถมเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยหน้าที่การงานของพี่ชาติที่ต้องออกเดินทางค้างแรมกลางป่าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เรื่องนั้นห่างหายไปบ้าง ซึ่งมายก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ

บางครั้งมายต้องอยู่บ้านพักราชการคนเดียว 3-4 วันเพราะพี่ชาติต้องลงไปประชุมต่างจังหวัด หรือเดินทางเข้าป่า มายก็ต้องหางานฟรีแลนซ์ทำบ้าง อย่างงานแปลเอกสารส่งทางอีเมล์ซึ่งก็เป็นนังก้อยที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ช่วยส่งงานให้มายจึงมีอะไรทำแก้เบื่อแถมยังไม่ตังใช้อีกด้วย การลงจากดอยไปเข้าเมืองก็สามารถทำได้ แต่ด้วยระยะทางที่ไกลเอาเรื่อง มายก็คิดว่าอยู่บนดอยน่าจะดีกว่า

บ้านพักแห่งนี้ถึงแม้จะอยู่บนดอยแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขนาดของบ้านไม่ได้ใหญ่โตนัก มีโถงตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่น มีห้องนอนใหญ่แยกเป็นสัดส่วนและห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้อง ห้องน้ำหนึ่งห้องมีน้ำอุ่นพร้อม ถึงแม้จะไม่ได้ใหม่เอี่ยมหรือหรูหราอะไร แต่ก็อยู่ได้ค่ะ มายไม่ใช่คนติดหรูอะไรอยู่แล้ว

นอกจากพี่ชาติแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมงานอีกคนคือพี่โชค และลูกน้องอีกสองคนคือลุงพัน และน้องเอก พี่โชคเป็นข้าราชการที่มีอายุใกล้เคียงกับพี่ชาติ  แกอาศัยในบ้านพักอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กัน พี่โชคเป็นพ่อหม้าย เมียทิ้ง แกบอกว่าเมียทนความเหงาและน่าเบื่อที่ต้องอยู่กลางป่าไม่ไหว แต่พี่ชาติบอกว่าเพราะพี่โชคแกเป็นคนโผงผางเกินไป

“มาอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้ใครเขาจะเอา..มายเอ้ยย...” พี่โชคบ่นกระปอดกระแปด “จะหาผู้หญิงแบบมายได้ที่ไหนอีก..ไอ้ชาติเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดแล้ว.. มีเมียสวยเหมือนนางไม้ซะขนาดนี้แถมตามมาอยู่ถึงนี่ได้..” พอพี่โชคพูดจบ มายก็หัวเราะด้วยความขบขัน แกเป็นคนพูดจาเสียงดังตรงไปตรงมาแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งเวลาเมาแล้วชอบพูดสองแง่สองง่ามจนมายฟังแล้วต้องหน้าแดงฉ่าทุกครั้ง

ลุงพันเป็นชาวบ้านอายุ 60 กว่าๆ ซึ่งพี่ชาติจ้างไว้เป็นคนนำทางและช่วยดูแลงานทั่วไป เมียของลุงพันเสียไปนานแล้ว ส่วนน้องเอกเป็นหลานลุงพัน อายุยังไม่ถึง 20 เรียนไม่จบก็มาช่วยลุงปลูกไร่ปลูกสวนไปตามเรื่อง ทั้งลุงพันและน้องเอกอยู่บ้านที่เป็นเพิงเล็กๆ เชิงเขา ทั้งสองคนเชี่ยวชาญในเส้นทางป่าแห่งนี้อย่างมาก พนักงานราชการคนอื่นๆ อยู่ในเมือง เดือนละหนสองหนถึงจะขึ้นมาบนดอยพบปะกับพี่ชาติและพี่โชคเพื่อคุยงาน

....................................................................................

ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี กระทั่งถึงช่วงเย็นวันหนึ่งของหน้าหนาวในปีที่ 3 ที่มายมาอยู่ที่นี่ คนที่เคยขึ้นมาบนดอยน่าจะรู้ว่าอากาศช่วงปลายปีบนนี้หนาวยะเยือกจนควันออกปากทั้งเช้าและเย็น ถึงแม้มายจะเริ่มชินกับความหนาวแต่ก็ยังสะดุ้งทุกครั้งที่ต้องอาบน้ำ

พี่ชาติเดินทางเข้าป่าไปแล้ว 3 วันและจะกลับออกมาตอนค่ำ มายรีบอาบน้ำตั้งแต่ตอนเย็น เพราะยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว ห้องอาบน้ำของบ้านพักจะเป็นแบบกึ่งกลางแจ้ง โดยมีส่วนที่เปิดเอาท์ดอร์ยิ่งทำให้อากาศหนาวและลมเย็นๆ พัดเข้ามาจนบางครั้งตัวสั่นงกๆ เลยค่ะ

ถึงแม้จะหนาว แต่มายก็เป็นคนที่อาบน้ำนาน ก็ผู้หญิงนี่คะ ต้องทำความสะอาดให้ทั่วหน่อย มายรู้สึกว่าน้ำยังไม่อุ่นพอจึงเงยหน้าจะปรับอุณหภูมิเพิ่ม

ทันใดนั้น มายเหลือบไปเห็นเหมือนมีคนแอบดูอยู่เหนือกำแพง มันเป็นเงาตะคุ่มๆ มายตกใจอย่างมาก พยายามจ้องมองว่าใช่คนหรือไม่ แต่ด้วยไอน้ำที่ลอยขึ้นมาและความมืดทำให้มองเห็นไม่ถนัดนัก มายตะโกนออกไปทันที

“ลุงพันเหรอ!..” เสียงของมายแข็งและดังด้วยความตกใจปะปนกับความโกรธ

เงาตะคุ่มดังกล่าวผลุบหายไปทันที มายพยายามฟังเสียงฝีเท้า แต่ก็ได้ยินไม่ถนัดนัก พอมายปิดน้ำ ก็มีแต่เสียงแมลงร้องเซ็งแซ่ มายใจเต้นโครมคราม ตั้งแต่อยู่มาจะ 3 ปียังไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน มายรีบอาบน้ำและแต่งตัวทันที

พอพี่ชาติกลับมาถึงบ้านพัก มายลังเลอยู่นานว่าจะเล่าให้แกฟังหรือไม่ แต่สุดท้ายมายก็ทนเก็บไว้ไม่ไหว จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่ชาติฟังตอนกินข้าวด้วยกัน เขาทำตาโตด้วยความตกใจพอสมควร

“จริงเหรอ..” พี่ชาติถามพลางยกเบียร์ขึ้นจิบ

“จริงสิคะ...มายเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ” มายทำหน้าแบบไม่สบายใจ พี่ชาติทำหน้าแปลกใจ

“อืม.. แล้วมายเห็นมั้ยว่าใคร..” พี่ชาติถามต่อ

มายส่ายหัว “มายเห็นไม่ชัดอะ... แต่พอมายตะโกนชื่อลุงพัน.. เงานั่นก็หายไปเลย..”

“อืมม..ลุงพันเหรอ... ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ...” พี่ชาติขมวดคิ้ว “..ไอ้เอกหรือเปล่า..เด็กวัยรุ่นมันชอบอยากรู้อยากเห็น..”



มายส่ายหัวอีก ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ พี่โชคยิ่งไม่ใช่เลยเพราะแกออกเดินทางเข้าป่าไปกับพี่ชาติด้วย ในใจมายคิดว่าจะเป็นใครก็เถอะ เสียดายที่ตอนนั้นน่าจะขว้างอะไรออกไปให้โดนหัวจนโนสักที ฮึ่ม

หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่ชาติบอกว่าพรุ่งนี้จะเรียกทั้งลุงพันกับไอ้เอกมาถามแล้วจะหาวิธีจัดการ ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ มายนั่งดูทีวีอยู่บนเตียง คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าคนที่แอบดูเราอาบน้ำนั้นเป็นใคร มันแอบดูมาหลายครั้งแล้วหรือยัง คิดแล้วมายก็หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอาย

มายเคลิ้มหลับไป รู้สึกตัวอีกทีพี่ชาติมานอนกอดจากด้านหลัง มือแกกุมอยู่ที่เต้านมอวบหยุ่นนอกเสื้อยืด ลูบไล้ไปถึงสะโพกของมาย ส่วนปากซุกไซ้ที่ต้นคอจนขนลุกไปหมด

“อืออ...” มายหายใจแรง รู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น พี่ชาติพลิกตัวมายให้นอนหงาย แสงไฟในห้องมืดสลัว มายตาปรือมองหน้าเขา เห็นใบหน้าคล้ำแดดมีแววกรึ่มฤทธิ์เบียร์ เขาจูบปากเบาๆ ลิ้นสากแหย่แยงเข้ามา มายหลับตาเผยอปากรับจูบของเขา พี่ชาติบดปากหนักขึ้น บางทีมีขบริบฝีปากของมาย เขาหายใจแรงรดแก้ม

 “ฮืออ..” มายเกาะที่ต้นแขนของเขา ตัวของพี่ชาติร้อนซึ่งทำให้รู้สึกอบอุ่นได้อย่างประหลาด มือของเขาบีบเคล้นหนักหน่วงที่เต้านมจนมายต้องห่อตัวด้วยความสยิว นานแล้วที่เราสองคนไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเช่นนี้

“พี่ชาติอะ..เป็นอะไรคะ...” มายเอ่ยถามเขาเบาๆ พี่ชาติไม่ตอบ เขาไซ้ลงมาที่ซอกคอ ลิ้นตวัดเลียติ่งหูจนขนลุก อารมณ์สาวในตัวมายพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที มือเลิกชายเสื้อของมายขึ้น เต้านมอวบขาวปลายถันชูชันท้าทายเขา พี่ชาติไม่รอช้า ก้มลงมาดูดดุนจนมายรู้สึกเสียวแปลบปลาบไปทั่วหน้าอก มายจิกเล็บไปบนท้ายทอยของเขา ความสยิวซ่านก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพิ่งรู้ตัวว่าอารมณ์สาวเหมือนถูกเก็บกดไว้จนแทบจะระเบิดออกมาทันทีที่ถูกกระตุ้น

“จ๊วบบบ...ส๊วบบบ”

พี่ชาติขบเลียดูดหน้าอกของมายไปทั่วจนมายต้องแอ่นหน้าอกรับมือและปากของเขา หายใจแรงหนักด้วยความเสียวซ่าน พี่ชาติบีบเคล้นนมมายหนักมือ แปลกที่มายไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่กลับรู้สึกเสียวอย่างประหลาด เขาถดตัวพรมจูบไปจนถึงสะดือ มายนอนหลับตาบิดเอวด้วยความสยิว มือหยาบของพี่ชาติลูบไล้ไปทั่วสีข้าง บั้นเอวและสะโพกปลุกอารมณ์สาวให้ลุกโชน

มายนอนเอียงคอมองเขา พี่ชาติตาแดง อากาศตอนนี้หนาวเย็น แต่มายกลับรู้สึกหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด พี่ชาติรุกเร้าอย่างรวดเร็ว มือของเขาเดี๋ยวลูบเดี๋ยวบีบที่ต้นขาและเอวของมายอย่างไม่วางมือ

ปกติแล้วมายไม่ได้ใส่ชั้นในตอนนอนอยู่แล้ว พอพี่ชาติรูดกางเกงขายาวของมายออก ตอนนี้ท่อนล่างของมายก็เปลือยเปล่าโดยเหลือแต่ถุงเท้าสีชมพูสำหรับกันหนาวเท่านั้น ส่วนเสื้อถูกเลิกขึ้นไปกองเหนือหน้าอก มายนอนระทวยหายใจแรงจนหน้าอกสะท้อนขึ้นลง

พี่ชาติจับเรียวขาอ้าออก แล้วใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ ที่ปากร่อง รู้สึกว่าของมายฉ่ำแฉะทันทีด้วยอารมณ์สาวที่พรั่งพรู ความเสียวปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย
“อืออออออ...พี่ชาติคะ..” มายครางออกมาเบาๆ

เขาขยับตัวมาบดปากจูบ มือของเขายังทำหน้าที่ป้อนความเสียวต่อเนื่อง มายเผลอแอ่นเนินสาวขึ้นรับด้วยความเสียวที่ได้จากปลายนิ้ว ลิ้นของเราสองคนพัวพันกันอย่างดูดดื่ม มายกอดแผ่นหลังของเขาไว้ พี่ชาติเป็นคนตัวผอม แต่ก็กอดอุ่นอยู่เหมือนกัน

นิ้วกร้านของพี่ชาติเกี่ยวและบดบี้ที่เม็ดสวาทต่อเนื่อง ทำเอามายเสียวซ่านจนต้องหลับตากัดปากตัวเอง เหมือนเขาจะได้ใจ จึงเร่งใช้นิ้วบดบี้จนมายต้องเกร็งหน้าท้อง มือจิกที่ไหล่ของเขา

“อือออ......พี่ชาติ ... มายเสียวววนะ..”

มายครางบอกเขาจากใจจริง มันเสียวจนใจสั่นหวิว ตัวร้อนผ่าว รู้สึกว่าน้องชายของพี่ชาติทิ่มแทงอยู่ตรงหน้าขาทำเอามายเผลออมยิ้มออกมา มายขยับมือมากุมมันนอกกางเกง มันแข็งมากๆ มายบีบคลึงจนเขาถอนหายใจออกมา

“ทำไมแข็งจัง...” มายกระเซ้าถาม เบียดหน้าอกเข้าเบียดตัวพี่ชาติ เราสองคนกอดกันแนบแน่น

“คิดถึงมายน่ะสิ..” พี่ชาติตอบกระซิบแล้วหอมแก้มเบาๆ

“ปากหวานจริง..โกหกกันหรือเปล่า...” มายแกล้งทำเสียงออดอ้อน

 พี่ชาติไม่ตอบ แต่เขาถอดกางเกงตัวเองออก ท่อนเนื้อแข็งผงาดชี้โด่เด่ เขาถอนมือออกจากร่องสวาทแล้วมานั่งหว่างขาของมาย เรียวขาถูกอ้าออก พี่ชาติจับท่อนเอ็นมาจดจ่อทันที มายมองการกระทำของคนรักด้วยความรู้สึกแปลกใจที่ดูพี่ชาติมีอารมณ์กว่าที่เคย ปกติแล้วเขาจะขอมายก่อนว่าจะใส่เข้ามา แต่คราวนี้เขากำลังรุกเร้าอย่างรวดเร็ว

มายไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบด้วยการจับปลายหัวสอดใส่เข้ามาทันที คงเป็นเพราะห่างหายเรื่องนี้ไปนานหลายวันทำให้มายรู้สึกคับแน่นอย่างบอกไม่ถูก พี่ชาติกดท่อนเนื้อผลุบเข้ามาครึ่งลำ มายทั้งจุกและเสียวปะปนกันอย่างแยกไม่ออก แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร

พี่ชาติค่อยๆ จับท่อนเนื้อสอดแทรกเข้ามา ไม่นานนักมันก็เข้ามาจนสุด เขาประคองกอดมายไว้ ร่างของเราสองคนบดเบียดกันจนแทบกลืนเป็นร่างเดียว
พี่ชาติถอนหายใจพรูออกมา มายกอดแผ่นหลังของเขาไว้ด้วยความรัญจวน เรียวขาอ้าออกรับสะโพกของคนรักที่ขยับเริ่มเบาๆ ทำเอามายเสียวกระสันจนเผลอหลุดครางออกมา

“อือออ....มายเสียววววจัง...”

ท่อนเนื้อถูกถอนออกไปเกือบหมดแล้วยัดกลับเข้ามาใหม่อีกหลายครั้ง มันครูดตามผนังเนื้อสาวกระตุ้นความกระสันจนมายแอ่นสะโพกตามจังหวะของเขา ความเสียวพุ่งทวีคูณจนต้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของสามี พี่ชาติบดปากจูบมาย ลิ้นควานตวัดพัวพันกัน เขาหายใจแรง สะโพกเริ่มเร่งจังหวะจะโคนเร็วขึ้น รู้สึกว่าอากาศในห้องเร่าร้อนขึ้นมาทันใด

“ซีดดส...อ๊ออาาาา..อือออ”

มายสูดปากครางออกมาเบาๆ อย่างห้ามไม่ได้ พี่ชาติเคยบอกว่าเราสองคนไม่ควรทำกันเสียงดังเกินไปเพราะกลัวพี่โชคที่นอนอยู่ในบ้านพักใกล้ๆกันจะได้ยิน แต่บางครั้งมันก็กลั้นไม่อยู่จนหลุดครางออกมาเองเพราะความเสียว

พี่ชาติหยัดตัวขึ้น เขาจ้องมองหน้ามายแล้วเร่งบั้นเอวถี่เร็วขึ้น มายเกาะที่แขนของเขา ส่ายหัวไปมาจนผมของมายตอนนี้คงยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว มายหลับตาปี๋ ความเสียวกระสันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามแรงกระแทก พี่ชาติขยับสองมือมาบีบขยำนมมายไว้เต็มมือ สะโพกตะบันท่อนเนื้อเข้ามาแรงและเร็วขึ้น

“อ๊อาา...อ๊อาา...อ๊อาา..อ๊อาา..”

มายหายใจหอบกระเส่า ร้องครางตามแรงกระหน่ำของพี่ชาติ มือจับข้อมือของเขาที่กำลังบีบเคล้นนม พี่ชาติทำแรงขึ้นเร็วขึ้น หายใจหอบถี่ซึ่งมายรู้ว่าเขากำลังจะเสร็จสมแล้ว มายจึงแอ่นสะโพกผายขึ้นบดเบียดรับความเป็นชาย ความเสียวกระสันในตัวมายเองก็กำลังจะถึงขีดสุดเช่นกัน

“ซีดดส...พ..พี่ชาติ...ม..มายไม่ไหวแล้วว..”

 มายครางบอกเขา เสียงเตียงเหล็กดังตามจังหวะปะปนไปกับเสียงครวญกระเส่าของมาย เราสองคนจ้องมองตากัน พี่ชาติเร่งกระแทกเข้ามาถี่ยิบ เสียงดังปักๆๆๆ

ท่อนเนื้อกระหน่ำป้อนความเสียวเข้ามาในตัวมายอีกไม่กี่ครั้งก็รู้สึกเสียวกระสันสุดๆ จนตัวเกร็ง มายแอ่นเนินสาวรับท่อนเนื้อของเขาที่กระหน่ำเข้ามาด้วยความกระสันซ่านสุดขีด รู้สึกหูอื้อวิ้งๆ หลับตาปี๋ กัดปากแน่น จิกที่ปลอกหมอนหวังระบายความเสียว

“อ๊อออาาา....ซีดดดส..อ๊อออาาา..”

มายไม่รู้ตัวเลยว่าครางดังแค่ไหน จะมีใครได้ยินหรือไม่ แต่ตอนนี้มันเกินจะอดกลั้นแล้ว มายร่อนสะโพกรับท่อนเนื้อตามความหฤหรรษ์ซาบซ่าน แต่แล้วพี่ชาติก็ถอนท่อนเอ็นออกมาแล้วขยับมาที่หน้าท้องของมายก่อนจะปล่อยน้ำรักทะลักทะลายออกมา

หน้าพี่ชาติตอนนี้เหยเก รูดน้องชายพ่นน้ำใส่ท้องมายจนมันไหลลงเปรอะเปื้อนเตียง มายนอนหอบหายใจมองหน้าคนรักที่กำลังสุขสมสุดขีด พี่ชาติเอาออกข้างนอกเพราะเราสองคนยังไม่พร้อมที่จะมีน้อง

ร่างผอมบางตัวกระตุกเกร็งอีกครู่เดียวก็หอบหายใจอย่างหมดเรี่ยวแรง มายเห็นแล้วต้องยิ้มออกมา เขาเองก็ยิ้มเขินๆ เช่นกัน ก่อนจะรีบไปหยิบทิชชู่มาเช็ดให้จนเกลี้ยง พี่ชาติเป็นคนแบบนี้แหละค่ะ ขี้อายและเกรงใจมายอยู่เสมอ

เราสองคนกอดกันสักพักก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

......................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น