วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560

Chinese Family 1/2 เมื่อผมได้ครอบครองนางฟ้า



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าทั้งๆที่หลับไปได้แค่สามชั่วโมงด้วยความเคยชินมองไปข้างตัวก็ไม่เห็นแบมแล้ว เมื่อคืนตอนที่แบมรู้สึกตัวมองเห็นน้องเจ้านายแก้ผ้านั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆเธอคงทำอะไรไม่ถูกเลยคว้าเสื้อผ้าวิ่งขึ้นห้องนอนแล้วหมกตัวอยู่แต่ในห้องน้ำ ผมเรียกเธอเท่าไหร่ก็ไม่ตอบได้ยินแต่เสียงสะอึกสะอื้นนานจนผมมานอนรอบนเตียงเผลอหลับไป ใจนึงก็อยากจะต่อกับแบมให้ตัวเองเสร็จสมไม่ต้องค้างคาแต่ก็รู้ว่าเพิ่งเกิดเรื่องก็ดูจะใจร้ายกับเมียสาวเกินไปหน่อย

หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเดินลงมาเห็นพี่เบียร์และลูกๆนั่งทานอาหารดูข่าวภาคเช้าไปด้วย แบมเห็นผมลงมาก็เดินเข้าไปในครัวทันทีผมเดินตามเข้าไป

"แบมโกรธพี่เหรอ" ผมถามเธอ
"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะพี่เบียร์อยู่" แบมเปิดน้ำล้างจานไปด้วยไม่มองหน้า ผมชงกาแฟร้อนให้ตัวเองแล้วเดินออกมาสมทบกับคนอื่นๆก็ไม่เห็นน้องเจ้านายนั่งอยู่ที่โต้ะแล้ว

"เมื่อคืนเธอขึ้นไปนอนกันตอนไหนอ่ะ พี่ตื่นมาตีห้ากว่านอนอยู่ที่เดิมเลยน้ำท่าก็ไม่ได้อาบ" พี่เบียร์ถามผมแทนคำทักทายเช้าวันใหม่
"สงสัยพี่เบียร์จะเหนื่อยมั้งครับขับรถมาทั้งวันครับ ผมจะเรียกแล้วแต่เห็นว่ากำลังนอนหลับสบาย"
"แล้วไปเที่ยวอเมริกาคราวนี้จะไปไหนกันบ้างเนี่ย" ผมหันไปคุยสบตากับน้องนุ่นอยากลองเช็คปฏิกริยาของเธอ
"ไม่รู้ค่ะ แล้วแต่แม่" นุ่นตอบน้ำเสียงปกติ สายตาเธอมองสบตาผมประหนึ่งว่าเธอไม่แคร์ว่าเห็นอะไรเมื่อคืน ผมได้แค่ยิ้มบางๆตอบ
"แล้วน้องนายล่ะครับทานข้าวอิ่มแล้วเหรอ" ผมถามพี่เบียร์
"ไม่รู้เดินออกไปไหนเมื่อกี๊ยังนั่งอยู่ ไม่ไหว เหลือขอเหลือเกิน"
"นี่ตอนแม่หลับเจ้านายมันหนีออกไปเที่ยวใช่ไหม" พี่เบียร์ถามนุ่นกับแนน
"เห็นเดินขึ้นไปข้างบนนะครับ น่าจะไปนอนแหละ" ผมโกหกแก้ให้หลานตัวแสบปกติผมก็ไม่ใช่พวกขี้ฟ้องอยู่แล้ว


ประเมินสถานการณ์ตอนนี้คิดว่าน้องนุ่นคงจะยังไม่ได้ฟ้องเรื่องราวอะไรที่เธอเห็นเมื่อคืนซึ่งผมมั่นในว่าเธอเห็นส่วนน้องเจ้านายกับผมนั้นน่าจะหมดฤทธิ์ไปอีกนานเลย เหลือแค่น้องแบมเมียสาวของผมซึ่งผมคิดว่าน่าจะคุยกับเธอได้เพราะอย่างไรเราก็ผัวเมียกัน

ช่วงสายเมื่อทุกคนอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยออกไปซื้อเสื้อผ้าข้าวของที่อยากจะเอาไปเที่ยวอเมริกาด้วย ผมขอปฏิเสธโดยอ้างว่าจะอยู่รอครูเปียโนอีกคนมาสัมภาษณ์งาน หลังจากที่ทุกคนออกไปจากบ้านแล้วผมลองกลับไปเพลย์กล้องวงจรปิดดูอีกครั้งเลือกเฉพาะตอนที่น้องเจ้านายกำลังกัดแทะเรือนร่างของแบมเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว นึกเสียดายที่ไม่ได้หันกล้องกลับมาตอนที่ผมจับน้องนุ่นและแนนแก้ผ้าแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะในโทรศัพท์ผมมีรูปเปลือยของหลานสาวทั้งสองเกือบร้อยรูปและคลิปวิดีโอและก็ดีที่ไม่มีหน้าผมปรากฏในรายการนี้ให้เป็นหลักฐาน

ผมเข้าไปในห้องเตรียมไว้เพื่องานสอนที่เพิ่งตั้งเสียงเปียโนอัพไรท์เสร็จไม่นานลองเล่นเพลงโน้นเพลงนี้ได้ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ต้องเลิกเพราะรู้ตัวว่าไม่มีสมาธิเลย จากที่เคยกลัวว่านิสัยการทุ่มเทฝึกซ้อมของผมจะทำให้ชีวิตครอบครัวของเราระหองระแหงเหมือนที่เคยเกิดกับแฟนคนที่ผ่านๆไปของผม แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ผมตัวติดกับแบมจนแทบไม่ได้ซ้อมเลยยิ่งผมคิดว่าตัวเองไม่ได้รักเธอผมยิ่งสนุกสนานราวกับแบมเป็นของเล่นชิ้นใหม่

เดินออกมาจากห้องเปียโนในใจคิดว่าอารมณ์นี้ควรจะต้องสาวออกสักหนึ่งน้ำซึ่งเป็นกลเม็ดของชายคนโสดที่ผมใช้เป็นประจำจะได้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปเที่ยวเสี่ยงเอสด์ที่ไหน ก็ง่ายๆเงี่ยนเมื่อไหร่ก็แค่หาดูหนังโป๊..ชักว่าวเสร็จแล้วก็ซ้อมและอาจเพราะเมื่อคืนผมได้นอนค่อนข้างน้อยเลยคิดว่าเมื่อสบายตัวแล้วจะงีบสักหน่อย เดินผ่านห้องเก็บของที่ผมเอากระเป๋าเดินทางของทุกคนมาเก็บนึกอะไรได้บางอย่างจึงเปิดเข้าไป

ลองสำรวจดูกระเป๋าเดินทางใบเขื่องของแต่ละคนพบว่าไม่มีกระเป๋าใบไหนล้อคกุญแจหรือรหัสไว้ ผมเลือกเปิดกระเป๋าของน้องแนนก่อน เสื้อผ้าของเธอถูกพับซ้อนกันไว้อย่างเป็นระเบียบแยกเสื้อและกางเกงซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกางเกงขาสั้นแบบสั้นมากๆคงตั้งใจว่าจะไปอวดขาขาวสไตล์เอเชียให้พวกฝรั่งดูแน่ๆ ที่ผมมองหาคือชุดชั้นในของหลานสาวซึ่งถูกเก็บซ้อนไว้ด้านล่างชุดชั้นในของน้องแนนเป็นสีอ่อนๆมีกางเกงในสีครีมขาวแบบที่ผมเปิดดูเมื่อคืนหรือพวกลายการ์ตูนก็มีอยู่หลายตัวอาจเพราะไปเที่ยวตั้งสิบกว่าวันอาจไม่สะดวกซัก ผมหยิบกางเกงในและเสื้อชั้นในของเธอมาเก็บไว้หนึ่งชุดคิดว่าเธอคงไม่รู้หรือไม่ก็อาจคิดว่าลืมหยิบมาจากบ้าน

เป้าหมายต่อไปคือกระเป๋าเดินทางของน้องนุ่น นองนุ่นเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ในกระเป๋ารวมถึงพาสปอร์ตด้วยผมลองเปิดๆดูพบว่าเธอไปมาแล้วหลายประเทศพอสมควร เสื้อผ้าของน้องนุ่นส่วนใหญ่จะเป็นชุดแซ็กสั้นบ้างยาวบ้างสีสันก็จะออกทึมๆไม่ค่อยสดใสเหมือนของน้องแนน สิ่งที่ผมมองหาก็คือชุดชั้นในของเธอน้องนุ่นมีเซอไพรส์ให้ผมประหลาดใจอีกครั้งเพราะเป็นคอลเลคชั่นสีดำทั้งหมดทุกตัวไม่ว่าจะเป็นยกทรงหรือกางเกงใน เธอเตรียมยกทรงและกางเกงในแบบซีทรูไปด้วยซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเนื้อผ้าบางใสแจ๋วเสียขนาดนี้จะเอาไปใส่ตอนไหนหรือที่ไหน จึงคิดเอาเองว่าน้องนุ่นต้องเป็นคนที่มีนิสัยรสนิยมทางเพศอะไรสักอย่างที่น่าค้นหาขนาดเหตุการ์เมื่อคืนน้องนุ่นยังสบตาไม่เขินอายผมเลย นึกถึงที่พี่เบียร์เคยเล่าว่านุ่นกับแนนนั้นถึงจะเป็นฝาแฝดหน้าเหมือนกับเปี๊ยบแต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย คนนึงออกจะหวานๆอีกคนห้าวๆ บางทีสองคนนี้ก็คุยกันกระหนุงกระหนิงบางทีก็ทะเลาะกันรุนแรงจนอาม่าต้องบอกว่าจะแจกมีดให้คนละเล่ม

ผมเลือกชุดชั้นในของนุ่นมาเก็บไว้รวมกับของแนนอีกหนึ่งชุด เป้าหมายต่อไปคือกระเป๋าของพี่เบียร์พี่สาวเมียผม เนื่องจากพี่เบียร์ดูแลรูปร่างของตัวเองด้วยการฝึกโยคะต่อเนื่องยาวนานเป็นสิบปีหุ่นทรงของเธอจึงยังเหมือนสาวๆไม่ผิดเพี้ยนมองจากหน้าตาคล้ายคนอายุสามสิบกว่าๆทั้งที่อายุจริงของพี่เบียร์เกือบจะสี่สิบสามแล้วประกอบกับพี่เบียร์เป็นคนชอบแต่งตัวยิ่งไม่มีผัวด้วยแล้วบางทีชุดอยู่บ้านหรือชุดโยคะของพี่เบียร์และพี่โบก็เล่นเอาผมอึ้งได้เหมือนกัน

เสื้อผ้าของพี่เบียร์จะออกแนวรัดรูปแทบทุกชุดอาจเพราะอเมริกาช่วงนี้ตรงกับฤดูร้อนอากาศจึงอยู่ในระดับสบายๆสำหรับคนไทย ตอนแรกผมไม่คิดจะเก็บชุดชั้นในของพี่เบียร์ไว้เพราะนึกถึงสองแคมของคนวัยเกินสี่สิบมันคงไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่แต่พอเห็นชุดชั้นในของพี่เบียร์เข้าจริงๆเป็นแนวเซ็กซี่ทุกตัว กางเกงในเป็นลายเสือดาวเสือโคร่งและสารพัดเสือส่วนใหญ่จะเป็นจีสตริงสายบางๆเสื้อยกทรงสีสันฉูดฉาดคาดว่าน้องนุ่นคงได้รสนิยมชุดชั้นในเสียวๆแบบนี้มาจากแม่ไม่มากก็น้อย

ผมไม่เก็บชุดชั้นในของพี่เบียร์มาเพราะคิดว่าผู้ใหญ่คงรอบคอบในการจัดข้าวของมากกว่าเด็กสาว ผมสะดุดตากับถุงผ้ากำมะหยี่สีเทาขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กลองเปิดสายรัดที่รวบไว้ก็ต้องประหลาดใจที่สุด ในถุงนั้นมีดิลโด้หรืออวัยวะเทียมของเพศชายแบบมีสวิชท์เมื่อลองกดดูมันจะสั่นและควงหรือจะเลือกให้ชักเข้าออกและเลือกความแรงได้นอกจากนั้นยังมีแฟลชไดร์ฟอีกหนึ่งอันผมรีบวิ่งขึ้นไปเปิดดูกับคอมพ์บนห้องนอนปรากฏภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าของพี่เบียร์ในอิริยาบทต่างๆซึ่งดูจากมุมแล้วคาดว่าจะถ่ายด้วยตัวเอง มีคลิปวิดีโอช่วยตัวเองกับเซ็กทอยส์รูปแบบต่างๆทั้งแบบสะท้อนจากกระจกหรือไม่ก็ยกมือถือจ่อของตัวเองแหวกซะจนแทบจะเห็นมดลูก

แต่ที่เด็ดจริงๆคือพี่เบียร์มีภาพนิ่งและคลิปเปลือยตัวเองในที่สาธารณะเยอะมากวิวด้านหลังก็มีทั้งในประทศและนอกประเทศ เรือนร่างในร่มผ้าไม่ว่าจะเป็นแผ่นหลังหน้าอกท้องน้อยของพี่เบียร์จะมีรอยสักสีสวยงามมองเผินผ่านๆนึกว่าเจ้าแม่ยากูซ่า จนผมเริ่มคิดว่าครอบครัวเชื้อสายจีนของภรรยาผมนี้แต่ละคนชักไม่ธรรมดาเสียแล้ว

กระเป๋าใบสุดท้ายคือของน้องนาย ถึงตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรมันเลยอาจเพราะผมยังไม่ได้รักแบมเพราะเอาเข้าจริงๆผมกับแบมก็เพิ่งรู้จักกันจริงๆเพียงสองเดือนกว่าๆแต่การกระทำของน้องเจ้านายเมื่อคืนนี้ระเบิดอารมณ์ผมมากจากที่เคยเสียดายอยู่บ้างที่ตัดสินไม่กลับไปเรียนต่อป.เอกที่ญี่ปุ่นกลายเป็นรู้สึกดีถึงแม้จะแค่ตอนนี้ก็เถอะ วันนึงผมก็ต้องเบื่อแบมวันนึงผมก็ต้องหมดความตื่นเต้นกับสาวๆครอบครัวนี้ มีแค่เปียโนเท่านั้นที่ผมไม่เคยเบื่อและไม่มีวันเบื่อ แต่มันก็ไม่เคยให้อารมณ์แบบใจแตกกระเจิงแบบนี้กับผมเลย

ผมเดินขึ้นไปบนห้องนอนเลือกดูชุดชั้นในของแบมที่เธอแยกไว้ในตะกร้าผ้าใช้แล้วสำหรับซักด้วยมือ ผมเลือกกางเกงในตัวจิ๋วสีชมพูอ่อนมีคราบจางๆที่บริเวณเป้ามาตัวนึงแล้วกลับลงมาที่ห้องเก็บของเปิดกระเป๋าน้องนายแล้วแอบยัดลงไปล่างสุดเป็นของขวัญรางวัลตอบแทนให้มันที่เปิดโลกใบใหม่ให้กับผม ส่วนซองยานอนหลับหลายซองของมันที่แอบซ่อนอยู่ผมเก็บออกมาจนหมดเพราะไม่อยากให้ต้องมีปัญหากับตรวจคนเข้าเมืองที่โน่น(เด็กนี่มันอ่อนเชิงจริงๆ)

ด้วยความที่แบมเป็นลูกหลงอายุห่างจากพี่สาวคนรองเกือบสิบห้าปี แบมจึงถูกเลี้ยงดูมาพร้อมๆกันกับลูกของพี่เบียร์และพี่โบซึ่งก็มีลูกสาวอีกสองคนเรียนมหาวิทยาลัยแล้วทั้งคู่ แบมจึงสนิทสนมกันกับพวกหลานๆมากจึงไม่แปลกที่น้องเจ้านายจะชอบเธอเพราะแบมเป็นคนสวยน่ารักและวัยไม่ได้ห่างกันมาก เมื่อผมที่มาจากไหนก็ไม่รู้จะมาแย่งแบมไปอยู่กรุงเทพมันก็คงจะเกลียดผมเป็นธรรมดา

ผมถือกางเกงในและยกทรงของหลานสาวน่ารักทั้งสองเข้าไปในห้องนอนรับแขกใหญ่ที่จัดไว้ขึ้นไปนอนบนเตียงที่มีข้าวของของนุ่นและแนนวางอยู่ กำกางเกงในเนื้อผ้านุ่มรูดกับท่อนเนื้อขนาดชายไทยไม่เล็กไม่ใหญ่เปิดดูภาพลับเฉพาะของหลานไปด้วยไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยเพราะครุกรุ่นจะแตกมิแตกแหล่มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจึงเดินกลับไปที่ห้องตัวเองกะว่าจะงีบสักหน่อย

แต่พอเอนตัวลงนอนยังไงก็นอนไม่หลับเหมือนทั้งหมดมันยังสนุกแบบไม่สุดอย่างไรก็ไม่รู้รีบลุกออกจากบ้านขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีถัดจากซอยบ้านผมไปอีกสองซอยสิ่งที่ผมได้กลับมาก็คือกล้องจิ๋วแอบถ่ายฟูลเอชดีมาสองอัน อ่านคู่มือศึกษาการใช้เล็กน้อยแล้วจัดการซ่อนกล้องจิ๋วไว้ในพุ่มกอดอกไม้ประดิษฐ์จัดมุมให้ตรงไปที่ตู้อาบน้ำ อีกอันแอบไว้ที่ใต้อ่างล้างหน้ากะมุมและระดับความสูงว่าอยู่ในระดับที่จะได้เห็นของสงวนของแต่ละคนได้ชัดในระยะใกล้ๆ แล้วสมองจึงยินยอมให้ไปสงบงีบหลับได้

เมื่อคิดจะเล่นมันก็ต้องเล่นให้สุดไม่ว่าจะเป็นเปียโนหรืออะไรก็ตาม

แบมและครอบครัวของพี่เบียร์กลับมาถึงเกือบห้าโมงเย็นแต่ละคนหอบหิ้วของพะรุงพะรังจนต้องจัดกระเป๋าเดินทางกันใหม่ ผมอยู่รอช่วยขนของจนไม่เห็นว่ามีใครรู้สึกอะไรผิดสังเกตุจึงขอตัวไปซ้อมเปียโนส่วนแบมก็ยังไม่ยอมพูดอะไรกับผมเหมือนเมื่อเช้า กำหนดการคือเราจะต้องออกจากบ้านกันสักสองทุ่มเพราะค่อนข้างไกลจากสนามบินและเผื่อเวลาไว้ให้การจราจรด้วย

ผมปิดประตูห้องซ้อมเอาโทรศัพท์ตั้งบนที่วางโน้ตเสียบสายชาร์ตแล้วก็คอนเน็คกล้องตามคู่มือรอดูภาพจากกล้องภายในห้องน้ำ ห้องนอนรับแขก นางเอกหนังแอบถ่ายคนแรกและครั้งแรกในชีวิตของผมเริ่มทยอยกันเข้ามาอาบน้ำทีละคน น้องนุ่นกับแนนรูปร่างสูงโปร่งผอมไหล่กว้างแบบหุ่นนักกีฬาว่ายน้ำผิวขาวละเอียดแบบพวกลูกหลานคนจีน ทั้งสองคนเข้ามาอาบน้ำพร้อมๆกันแต่ดูหมือนจะรีบๆลีลาในการอาบน้ำจึงไม่หวือหวาเท่าคุณแม่ เพราะกว่าพี่เบียร์จะเริ่มอาบน้ำได้ก็เซลฟี่ตัวเองถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นเสียนาน

ผมชอบรอยสักของพี่เบียร์ตั้งแต่ได้เห็นในแฟลชไดร์ฟคอลเลคชั่นส่วนตัวลับสุดยอดนั้นแล้วตอนที่ได้เห็นอีกครั้งผมเผลอใช้มือบดเจ้าหนูของตัวเองไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว ลีลาการอาบน้ำของพี่เบียร์นั้นดูเพลินสบายตายิ่งเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ช่วยกันกับพี่สาวดูแลธุรกิจมูลค่าหลายร้อยล้านมันยิ่งขับให้รอยสักของพี่เบียร์สวยงาม

เราทานมื้อเย็นคุยอะไรกันนิดหน่อยฝากซื้อข้าวซื้อของเพื่อรอเวลาขับรถไปส่งพี่เบียร์และครอบครัวที่สนามบิน ก่อนออกจากบ้านพี่เบียร์ยังกำชับให้เราดื่มน้ำจากเครื่องกรองน้ำแร่นี้เท่านั้นอยู่เสียนานยังดีสภาพการจราจรไม่โหดร้ายอย่างที่คิด

"แบมยังไม่พูดกับพี่เลยตั้งแต่เมื่อเช้า" ผมพยายามแก้ไขบรรยากาศในรถขณะขับกลับจากส่งพี่เบียร์และลูกๆที่สนามบิน
"เมื่อคืนพี่ภพทำอะไรอ่ะ" แบบถามผมไม่มองหน้าไม่มีคะมีขาหางเสียงเหมือนปกติเคย
"พี่จะสั่งสอนน้องเจ้านาย"
"แบมไม่เข้าใจค่ะ แล้วพี่เบียร์กับนุ่นแนนก็นอนอยู่ตรงนั้นพี่ภพไม่อายเค้าบ้างเหรอ"
"คนอื่นเค้าหลับกันหมดแล้ว" ผมเก็บเรื่องที่สังเกตุเห็นน้องนุ่นแอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้
"แบมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"แล้วมันเกิดอะไรล่ะพี่ภพก็เล่าให้แบมฟังสิ เอาเลย เล่าเลย!!"

"เจ้านายมันวางยานอนหลับทุกคนในบ้านในน้ำแร่นั่นแหละเพื่อจะออกไปเที่ยว"
"พี่เห็นก่อนเลยดื่มน้ำนั่นเข้าไปแค่นิดเดียว" แบมได้ยินแล้วตกใจ
"แต่พอทุกคนหลับแล้วมันไม่ได้หนีไปเที่ยวเลยน่ะสิ"
"มันล่วงเกินแบมนะ" ผมมองหน้าสบตากับเธอ
"พี่เห็นมันล้วงควักสารพัดจนมันแก้ผ้าทำท่าจะใส่ของมันพี่เลยทนไม่ได้ต้องสั่งสอนมัน" ถึงตอนนี้แบมนิ่งฟังอย่างเดียวมีน้ำตารื้นให้เห็น
"แล้วพี่ภพสั่งสอนน้องนายยังไง" เสียงแบมติดๆขัดๆ
"พี่ก็เลยให้มันดูให้มันจำว่าแบมเป็นของของพี่เป็นเมียพี่ ถึงมันจะหวงแบมยังไงแต่มันหมดสิทธิ์นั้นไปแล้วตั้งแต่เราแต่งงานกัน" ผมทำเป็นเสียงแข็ง ตั้งแต่แต่งงานกันมากเรายังไม่เคยทะเลาะกันเลย

"แบมเคยจับได้ว่าน้องนายแอบดูแบมอาบน้ำ" แบมดูเย็นลงและเหมือนจะคล้อยตามเหตุผลของผมค่อยๆเล่าเรื่องราวที่ผมยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับครอบครัวใหญ่ของเธอ
"แบมเคยเตือนน้องนายตรงๆหลายครั้งแต่น้องนายก็ไม่เชื่อไม่ฟัง"
"แบมเตือนมันแล้วมันก็ยังแอบดูอีกแบบนั้นน่ะเหรอ" ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ได้ยิน
"ก็ไม่รู้จะทำยังไงอ่ะพี่ภพ สงสารน้องนายด้วยเลยไม่กล้าฟ้องพี่เบียร์"
"แล้วแบมก็เลยต้องอาบน้ำให้มันดูทุกวันๆ เหรอ!!"
"ตอนหลังนี่แบมอาบทั้งยังไม่ถอดผ้าถุงเลยพี่ภพ55" ผมรู้สึกดีที่ได้ยินเธอหัวเราะได้

"แล้วเสียวป่ะ" ผมหยอกเธอเล่นหมุนพวงมาลัยออกจากด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วน
"เสียวอะไรพี่ภพ!! หลานนะ!!"
"อ้าว.. หลานก็หลานผู้ชาย แบบรู้ทั้งรู้ว่ามีผู้ชายแอบดูตอนอาบน้ำอยู่นี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ" ผมยิ้มถามชี้นำเข้าเรื่องต่อ
"บ้าแล้วพี่ภพ55"
"ยังไม่ตอบพี่เลยเอ้า..นี่ถามจริงๆนะ ตอนนี้จู๋พี่แข็งไปหมดแล้วเนี่ย" ผมจับมือแบมมาจับน้องชายที่แข็งปั๋งมาสักพักเพราะบทสนทนา
"55" แบมได้แต่หัวเราะจะชักมือกลับแต่ผมดึงไว้ไม่ยอม
"เสียวป่ะ"
"เสียวสิ ไม่งั้นแบมก็ฟ้องพี่เบียร์ไปแล้วล่ะ"

ผมแกล้งรูดซิปกางเกงงัดท่อนเนื้อออกมาใส่มือแบมเล่นๆแต่เธอกลับชักมันขึ้นลงอย่างที่ผมไม่คาดคิด พอเธอโน้มตัวลงมาทำท่าจะอมมันผมเลยต้องห้ามไว้ก่อนเพราะยังไม่ได้ล้างทำความสะอาดแต่แบมก็ยืนยันว่าไม่เป็นไรจนผมต้องบอกว่าเดี๋ยวจะเกิดอันตรายเธอจึงยันตัวขึ้น

"เมื่อคืนตอนอยู่ในห้องทีวีแบมเสร็จไหม" ผมให้สัญญาณไฟแล้วชิดซ้ายลดความเร็วลงเพราะอยากจะคุยเรื่องเสียวๆกับแบม
"ไม่รุ.. อุ๊ย..พี่ภพ!!" ผมแกล้งเอามือซ้ายไปบีบหน้าอกเธอจนเธอห่อตัวหนี
"ไหนว่าจะมองถนนไง!!"
"เอาจริงๆดิแบม คุยกันแบบผัวเมียอ่ะ"
"คิดดูนะเราแต่งงานกันซินแสก็บอกให้ถือศีลสามวันหลังจากนั้นแบมก็มีประจำเดือนอีกตั้งหลายวัน"
"เรามีอะไรกันมาแบมยังไม่เคยเสร็จให้พี่เห็นเลยสักที มีเมื่อคืนนี้นี่แหละ"
"แบมไม่รู้ ลืมตายังแทบไม่ขึ้นเลย"
"พอแบมลืมตามาเห็นน้องนายอ่ะอีกแป้ปเดียวแบมก็เสร็จเลย" ผมเริ่มพูดไปเรื่อย

"พี่ว่าเรายังมีอะไรกันไม่มากพอนะแบม" ผมเสนอเหตุผลบ้าๆบอๆ
"โหย.. วันนั้นสามรอบเลยนะ" แบมหลุดปากไม่ทันคิด
"มันไม่ใช่แบบนั้น พี่จะอธิบายยังไงดีล่ะ อืม.."
"เอาเป็นว่าแบมเล่นเปียโนก็แล้วกันนะ บางทีเล่นเพลงเดิมๆซ้ำๆจุดหมายปลายทางมันก็คือความเบื่อหน่ายน่ะ"
"บางทีเล่นผิดสักโน้ตนึงถึงมันจะฟังเพี้ยนไปแต่บางทีก็ทำให้เราหายเบื่อหน่ายได้นะ" แบมเงียบฟังไม่พูดอะไรส่วนผมกำลังมีปัญหากับรถที่มาขอแทรกช่องทางฉุกเฉินซ้ายสุด ทำไมมึงไม่แซงขวาไปวะ

"เราไม่ได้มีอะไรกันในชุดแต่งงานด้วย ก็แบมมีเมนส์พอดีอ่ะเดี๋ยวไปเช่ามาใหม่เลย" เหมือนเธอจะรู้สึกผิดนิดๆที่ไม่ยอมให้ผมมีอะไรด้วยเพราะซินแสประจำตระกูลขอให้ถือศีลสามวัน
"ไม่เอาอ่ะ เอาชุดอื่นดีกว่า" ผมด้นสดอิมโพรไวซ์ไปเรื่อยไม่รู้ปลายทาง
"ชุดอะไรพี่ภพ"
"ชุดบิกินี่!!55" ผมเริ่มรู้สึกว่าคุยกับแบมหรือแซวกันได้อย่างเพื่อนสนิท
"โอ้ยถ้าไปทะเลนะเดี๋ยวแบมใส่ให้ดูเลย"
"เคยใส่แล้วเหรอ"
"ยัง!!สิ พี่ภพจะบ้าเหรอแค่ชุดว่ายน้ำมีกระโปรงป๊าแบมยังไม่ให้ใส่เลย" แบมเงียบไปเพราะคิดถึงพ่อ

"แล้วชุดโนบราแบบพวกฝรั่งอ่ะ แบมกล้าป่ะ" ผมเปลี่ยนบรรยากาศให้ทะลึ่งขึ้น
"พี่ภพไม่หวงแบมเหรอ" ผมสตันท์ไปหนึ่งนาทีกับคำถามนี้ในใจอยากจะตอบไปเลยทันทีว่าไม่หวง

"ไม่รูสิ เราคุยกันแบบแมนๆเลยได้รึเปล่าล่ะ" ผมไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป
"ได้สิพี่ภพ แมนๆเลยนะ" แบมจริงจังเล็กๆตอบกลับมา

"แบมเคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้ไหม"
"อืม.. ก็มีคนที่แบมชอบนะ แต่ก็แบบว่าแอบชอบอ่ะ ทำไมเหรอ"
"แล้วทำไมเค้าไม่ชอบแบมล่ะน่ารักขนาดนี้" ผมทำเหมือนกำลังเริ่มจีบเธออยู่
"เค้าก็เคยมาบอกว่าชอบแบมนะ แต่แบมชอบเขาแบบแอบชอบไงแบมก็เลยปฏิเสธพี่เขาไป"
"แล้วเขางงไหมเพราะพี่งงมาก55"
"โอ้ย.. อย่างแบมจะไปชอบใครได้ป๊าแบมดุอย่างกับเสือ แค่คนงานมองแบมนะป๊าไล่ออกไปเลย" นี่ถ้านายกแอ๊ดไม่โดนยิงตายผมไม่มีวันได้ดอมดมนางฟ้าน้องแบมคนนี้แน่

"แล้วแบมก็ทำงานที่บ้านมาเรื่อยเลยเหรอ"
"ใช่ เรียนจบก็กลับบ้านป๊าให้ทำงานเลย"
"ไม่เคยมีแฟน.. ทำงานที่บ้าน.. ป๊าโหดและหวงสุดๆ" นี่ผมได้สาวบริสุทธิ์ไปแล้วหรือนี่ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะหรือว่าเพราะเธอเล่นโยคะแหกแข้งแหกขากับพี่สาวซะเยื่อในอุดมคติขาดไปซะแล้ว

"พี่ภพ พี่ภพ" แบมเรียกผมกลับคืนจากภวังค์ความคิด
"แล้วพี่ภพเคยมีแฟนรึเปล่า"
"มีสิ มีทั้งคนไทยคนญี่ปุ่นคนเกาหลี" ผมอวดอ้างสรรพคุณนิดๆ
"แล้วตอนพี่ภพรับปากอาม่าแต่งงานกับแบมพี่ภพไม่มีแฟนเหรอ" แบมอยากรู้

"พี่ไม่มีแฟนมาเกือบสามปีแล้วมั้ง ตอนป.โทนี่โสดสนิท"
"บางคนเค้าก็รำคาญเสียงมันเพราะพี่มีเปียโนไฟฟ้าอยู่ในห้อง"
"แต่ส่วนใหญ่จะเลิกเพราะไม่มีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน"
"แล้วพี่ภพตอบแต่งงานกับแบมทำไมล่ะ ฟังดูชีวิตก็ดีนะมีแต่เปียโน" แบมคงไม่รู้ว่ามีคนที่ทำอาชีพอย่างผมอยู่ในโลกด้วย

"แต่งงานเหรอ ตอนแรกพี่ไม่สนที่คุณแม่บอกเลยนะเพราะใกล้จะกลับไปญี่ปุ่นเต็มที"
"แต่พอเห็นรูปเท่านั้นแหละ"
"รูปไหน.." แบมยิ้ม
"รูปในเฟสบุ้ค แม่พี่เปิดให้ดู"
"อ้าว.. แม่พี่ภพเป็นเพื่อนกับแบมด้วยเหรอ ไม่รู้เลยนะ"
"แม่พี่ใช้รูปโพรไฟล์เป็นรูปการ์ตูนอ่ะแบมไม่รู้หรอก" ผมยังไม่รู้เลย
"อ่ะ เห็นรูปแล้วทำไม"

"ไม่ใช่เห็นแล้วรักเลยนะ ไม่ใช่"
"แล้วเห็นแล้วเป็นไง" แบมอยากรู้จนเดินตามมาถึงปากบ่อหลุมพรางของผม
"เห็นแล้วบ้าคลั่ง แบบผู้ชายบ้าคลั่งผู้หญิงอ่ะ"
"บ้าคลั่ง.. ยังไง"
"แบมเคยบ้าคลั่งใครรึเปล่าล่ะ"
"อืม.. เจมส์จิ"
"ใช่แบบบ้าดารานั่นแหละใกล้เลย"
"แต่ของพี่เป็นดาราอีกแบบนึง"
"ดาราอะไรพี่ภพ" แบบสงสัยขนาดดึงแขนเสื้อผมบังคับให้รีบตอบ
"แบบดาราเอวีตอนพี่อยู่ญี่ปุ่นอ่ะ" ดูน้องแบมจะอึ้งไปสักนิดนึงจากคำตอบของผม

"ตอนเห็นตัวจริงแบมโคตรน่ารัก แบบว่าใช่เลยเห็นแล้วอยากกอดอยากฟัด" ถึงตอนนี้ผมจอดชิดขอบทางด้านซ้ายบนถนนมอร์เตอร์เวย์ภาคตะวันออก มองซ้ายมองขวาแล้วงงตัวเองว่าขับมาทำไมนี่มันคนละทางกับบ้านวนไปวนมากลับมาทางสนามบินอีกแล้ว

"แล้วพี่ภพรักแบมบ้างไหมล่ะ" เธอคงอยากถามคำถามนี้กับผมมาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน
"พ่อแม่พี่สั่งมาว่าให้ดูแลแบมให้ดีและพี่ก็รับปากกับคุณแม่แบมและพี่สาวของแบมเหมือนกัน"
"พี่สัญญากับแบมได้แค่พี่จะดูแลแบมตลอดไปจนกว่าจะตายจากกัน" ผมจูบเบาๆที่หน้าผากและริมฝีปากของเธอ

"พี่เคยบอกตัวเองว่าจะไม่รักใครอีกนอกจากพ่อกับแม่"
"ถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่ได้รักแบมนะ ขอโทษจริงๆที่ต้องตอบตรงๆ"
"แต่เชื่อมั่นว่าอยู่กันไปพี่จะรักแบมแน่ๆ พี่อยู่กับเปียโนมานานเกินไปแล้ว"
"ถ้าให้แบมเลือกระหว่างการได้มีชื่อเสียงระดับโลกกับการได้ครอบครองนางฟ้าไปจนกว่าจะตายแบมจะเลือกอะไร" แบมโดนผมร่ายคาถาถ้าไม่ซึ้งก็คงจะงงจนพูดอะไรไม่ออก

"ทีนี้จะตอบคำถามว่าแล้วพี่หวงแบมบ้างไหม" เปิดใจเข้าเรื่องกันสักทีครับ
"แบมเหมือนสุดยอดแกรนด์เปียโนประเมิณค่าไม่ได้อ่ะ"
"เวอร์และพี่ภพ55" ผมเหยียบคันเร่งเบาๆออกตัวอีกครั้ง
"แล้วนี่จะไปไหนเนี่ย" แบมมองซ้ายมองขวา
"ไปพัทยากันป่ะ" แบมเลิกคิ้ว
"แล้วบ้านอ่ะพี่ภพ"
"ก็ปิดบ้านแล้วเปิดไฟไว้ด้วย เดี๋ยวโทรบอกนุ้ยว่าให้มาดูช่างเข้าร้านพรุ่งนี้"
"ดีด้วย อยู่บ้านก็ฝุ่นเยอะ ไปกี่วันดีอ่ะ"
"ไม่ได้เอาอะไรมาเลยพี่ภพ มีแต่โทรศัพท์ที่ชาร์ตยังไม่มีเลย"
"ไปซื้อเอาใหม่สิ ถือว่าเราสองคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปด้วยกัน"
"ฮันนีมูนเลยแล้วกันนะ มันแต่รอทำบ้านอยู่เนี่ย"
"ไม่เอา.. แบมจะไปฮันีมูนญี่ปุ่นนน" แบมเริ่มออกลีลาติงต๊องแบบที่พวกผู้หญิงน่ารักเขาเป็นกัน

"แบมสอนโยคะให้พี่หน่อยสิ" ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีระหว่างขับรถ
"โอ้ย.. เอาจริงก็ดีสิแบมชวนตั้งหลายครั้ง"
"เอาจริงสิเรื่องนี้พี่ยอมแบมเลยวันไหนขี้เกียจจิกด่าได้เลย" ผมเริ่มจากข้อเสนอก่อนเสมอ
"พี่อยากอยู่เป็นหนุ่มอย่างแบมกันพวกพี่เบียร์พี่โบไปนานๆจนแก่ไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ต้องเป็นภาระแบม"
"ได้เลย สุริยะนมัสการก่อนเลยพี่ภพจะได้หายปวดหลัง"

"คุยกับแบมสนุกดีอ่ะเหมือนพี่คุยกับเพื่อนเลย55"
"งั้นเดี๋ยวแบมคุยเป็นเพื่อนก็ได้ ไงเพื่อน"
"เรียกไอ้ภพซิ"
"ไอ้ภพ"
"ไอ้เหี้ยภพ.."
"ไอ้เหี้ยภพ" แบมยิ้มไม่รู้ว่าผมต้องการอะไร
"พอแล้ว นี่ผัวนะ" เราหัวเราะกันตรงด่านจ่ายเงินมอร์เตอร์เวย์

"แล้วพี่ภพอยากเริ่มชีวิตใหม่ทำไมล่ะ ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่เดี๋ยวร้านก็เปิดโรงเรียนก็เปิด" แบมยังติดค้างสงสัย
"มันเหมือนพี่ฝึกซ้อมกับเปียโนถูกๆเปียโนโรงเรียนมาเป็นสิบๆปี"
"แล้วอยู่ดีๆอาม่าท่านก็ซื้อแกรนด์ตัวที่ดีที่สุดในโลกมาให้พี่เล่นอ่ะเปลี่ยนรึเปล่าล่ะ"
"ไม่ใช่อาม่าพี่ภพ!! ม้า!! นั่นแม่แบมนะแต่ท่านแก่อ่ะ"
"อ้าว.. เล่นแม่ซะแล้วอยู่ดีๆ" ผมแซวแบมเล่นๆ
"พี่ภพอ่ะ.."

"พี่เหมือนอยู่บนสวรรค์เวลาได้เล่นได้ลูบไล้สัมผัสแกรนด์ตัวนั้น"
"ตั้งชื่อเปียโนตัวนั้นว่าแบมก็แล้วกัน" ผมอยากจะอ้วกตัวเอง
"หวงไหม หวงนะ เพราะว่าดีที่สุดในโลก"
"พี่ภพแบมจะอ้วก"
"ท้องเหรอแล้ว.." คราวนี้ผมโดนครูโยคะต่อยที่ต้นแขนตามแรงผู้หญิง

"แต่พี่ก็อยากอวดคนอื่นเหมือนกันนะ"
"อีกหน่อยแบมก็คงยังรูปร่างดีเหมือนพี่โบพี่เบียร์อยู่แล้ว โอ้ว.. สวรรค์สี่สิบปี"
"โอ้ย.. อีกหน่อยก็เบื่อเชื่อเหอะ" แบมร้องเป็นทำนองเพลงลูกทุ่งแต่ผิดเนื้อและโกงเมโลดี้
"มันมีวิธีที่จะทำให้ไม่เบื่อนะ หรือจะเรียกว่าตื่นเต้นก็ได้"
"ยังไง เพื่อนภพ"
"ไอ้เหี้ยภพซิ"
"ไอ้สัตว์ภพ55"
"พอและ"

"พี่เคยฝันว่าอยากให้แฟนแต่งตัวโป๊ๆ เหมือนเวลาเราแอบมองแฟนคนอื่นอ่ะ"
"แบบกางเกงตัวเมื่อวานที่ใส่ไปเดินห้างนะเหรอ เหมือนแบมใส่กางเกงในเดินเลยอ่ะ"
"แล้วชอบไหม พี่ชอบมากนะ"
"รู้สึกเหมือนพี่เข็นเปียโนแบมเดินไปด้วยกันอ่ะ ผู้ชายผู้หญิงคนแก่ลูกเล็กเด็กแดงแม่งมองกันหมดทั้งห้างอ่ะ"
"เวอร์อีกแล้วพี่ภพ"
"เหมือนพี่ถือลูกระเบิดเข้าไปในห้างแล้วโยนอ่ะ แม่งตายกันหมดเลยพริตต้งพริตตี้"
"ที่หนึ่งของโลกกก.." ผมตะโกนลั่นรถ แบมหัวเราะใหญ่
"โอ้ยเค้ามองกันเพราะโป๊ซะขนาดนั้นหรือเปล่าพี่ภพ"
"สมัยนี้ใครๆมันก็โป๊ทั้งนั้นแหละ แต่ก่อนมันจะมีแต่พวกตัวอิจฉาพวกดาวยั่วใช่ป่ะ"
"ตอนนี้นางเอกแม่งโป๊ที่สุดของเรื่องแล้วอ่ะ" ผมชอบดูรายการทีวีในระยะหลังนี้ขึ้นเยอะ
"นี่ถ้าป๊ามาเจอนะแบมโดนกระโดดถีบแน่"
"ป๊าแบมไม่อยู่แล้ว" ถ้ายังอยู่ผมอาจโดนยิงทิ้งไปแล้ว

"ถ้าพี่ขอให้แบมแต่งตัวโป๊ๆเวลาไปไหนมาไหนได้ไหมอ่ะถือว่างานนี้ซื้อเสื้อผ้าใหม่กันเลย" ผมรุกหนัก
"แบมกลัวเจอคนรู้จักน่ะสิ"
"ก็มากับสามี ทำไมอ่ะ" ผมมีเหตุผลเสมอ

"ไปคราวนี้แบมใส่บิกินี่นะ"
"ดูที่ก่อนสิ" สำเร็จไปแปดขั้นในทีเดียวเพราะแบมไม่ปฏิเสธผม
"โนบราล่ะ"
"ในห้องนะ โอเค" แบมก้มหน้าเล่นโทรศัพท์

ผมตัดสินใจเลี้ยวซ้ายออกจากมอร์เตอร์เวย์เปลี่ยนจุดหมายจากพัทยาไปทางจันทบุรีแทน

"ไปเกาะช้างกันดีกว่า" ผมบอก
"อื้ม.. เดี๋ยวดูที่พักในเน็ต" แบมหยิบไอแพดขึ้นมาดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น