วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

เมียสี่เผ่าพันธุ์ 05



ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ เมื่อสร้อยสุดาไปแล้ว พระนางเทวีฯได้เข้ามาหาพนา คลาดกันเพียงนิดเดียว
“เสด็จมาดึกดื่นกิจอันสำคัญหรือพระนางฯ”
พระนางเทวีฯนั่งลง
“ไม่มีกิจอันไดมาหาเจ้าไม่รึ”
“หามิได้เพียงกระหม่อมเห็นว่า เพลานี้ราตรีเงียบสงัดแล้ว”
พระนางเทวี ยิ้ม มองชายหนุ่ม ..ตั้งแต่แรกพบนางรู้สึกผูกพัน ถูกชะตากับพนามาก อยากที่จะดูแลเอาใจใส่
“นี่ถ้าลูกเรายังมีชีวิตคงรูปงามไม่ต่างจากเจ้าเป็นแน่ น่าเสียดายที่ไม่อาจได้อยู่ใกล้ชิดเรา”
พนาจึงถามว่าเพราะเหตุได
“เหล่าครุฑจับลูกเราไป..”
..ภาพในอดีตหวนกลับ เมื่อครั้งพระโอรสของนางยังพระเยาว์ ติดนาง ร่ำเรียกนางว่าเสด็จแม่ตลอด เวลานางยืน เขาชอบกอดทางด้านหลังแล้วเอาพระพักตร์แนบแก้มก้น หรือไม่กอดทางด้านหน้า พระพักตร์ซุกไว้หน้าขาเสมอ เวลาที่ยกขึ้นมาอุ้ม ชอบที่จะซบบรรทมที่ทรวงอกนานแสนนาน

ครานึงเมื่อวัยเจ็ดพรรษา(เจ็ดขวบ) ได้พาออกมาชื่นชมธรรมชาติดินแดนมนุษย์ เพียงเผลอห่างพระโอรสได้ชั่วครู่ จู่ๆมีครุฑตนนึงมาจับพระโอรสของนางไป พอนางทราบนางตามไม่ทันซะแล้ว
“มิน่าพระนางฯจึงร่วมมือกับท่านพ่อตาของเรา”
พนาคิด ..
“ขอเรากอดเจ้าซักครั้งนึงได้ไหม เราคิดถึงลูกของเราเหลือเกิน”
พนาเห็นความรักที่นางมีต่อลูกช่างล้นเหลือ ซาบซึ้งปลาบปลื้ม เขาเองอยากมีแม่ให้โอบกอดบ้าง.. ขยับเข้าหาให้พระนางเทวีฯโอบกอด

พอได้โอบกอด นางรู้สึกมีความสุขมาก ทำให้ยิ่งคิดถึงพระโอรสของนางยิ่งนัก พนาเองรู้สึกอบอุ่นอายสัมผัสจากนาง ..

ถ้าไม่เจอเรื่องที่มหัศจรรย์มาก่อน เขาไม่เชื่อแน่ว่าพระนางฯ พระชนมายุกว่าพันปีแล้ว ด้วยพระพักตร์ที่แสนจะแรกแย้ม สวยละมัย งดงามดุจนางฟ้าอัปสร เฉกเช่น ภรรยาเขาทั้งสี่นาง แต่พนารู้สึกต่างออกไปตรงที่วรกายนางดังมีแสงจรัสเป็นประกายอันชวนน่าหลงไหลไปอีกแบบ

..เพียงกายสัมผัสพระนางเทวีฯเองก็รู้สึกซาบซ่านยิ่งนัก
“แค่นี้พอกระหม่อม”
พนาเป็นฝ่ายถอยออกมา พระนางฯถามด้วยความสงสัย แต่พนาไม่ตอบ สายตาของพระนางส่งความหมายเพื่อคาดคั้นคำตอบ พนาจึงตัดสินใจบอก
“พระนางสุดแสนงดงาม กระหม่อมเป็นมนุษย์ที่มีกิเลสเกิดกำหนัดได้ง่าย กลัวว่า...กลัวว่า..เอ่อ..จะคิดเลยเถิดกับพระนางฯ”
พระนางฯแย้มสรวลไม่คิดว่าพนาจะพูดออกมาตรงๆ
“เจ้าเป็นมนุษย์จริงแน่หรือ?”
พระนางทรงตั้งปุจฉา  ซึ่งนางไม่แน่ใจตั้งแต่แรกพบแล้ว
“จริงซี่กระหม่อม ..บ้านกระหม่อมอยู่เมืองรุ้งฟ้า แห่งอาณาจักรมิณฑิฬานคร กระหม่อมเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกตายายพบในป่า เลี้ยงเอาไว้”
พระนางได้ฟัง นั่นแปลว่าพนายังไม่รู้ต้นกำเนิดของตนเอง นางเองอยากพิสูจน์
“ไหนลองกอดเราอีกครั้งนึง”
พนาอึกอัก ใจนั้นอยากกอดอยู่แล้วแต่ในใจกลัวคิดถลำลึก ..พนาจึงค่อยๆเข้ากอดพระนางเทวีฯ นางกำกับคาถา เพื่อพิสูจน์ความเป็นตัวตนของพนา พลัน กายของพนาเปล่งสีทองประกาย พนาเองตกใจและแปลกใจตนเองยิ่งนักว่าเกิดอะไรขึ้น
“อือออ..เจ้าต้องไม่ใช่มนุษย์ ความรู้สึกแบบนี้เจ้าต้องเป็นเทพ อา..อา..แต่เจ้ายังต่างออกไป ..โอยยย..ทำไม เจ้าวิเศษยิ่งกว่านั้น อือ ทำไมกัน ทำไมเราห้ามใจตนเองไม่อยู่”
นางกำกับคาถาเพื่อปลดปล่อยอายในตัวของพนา เพียงนางได้สัมผัสอายของพนา นางรู้สึกเร่าร้อน ปลุกอารมณ์กำหนัด มิอาจต้านทานได้แม้จะต่อต้าน
“ช..ช...ช่วยเราที อือออ..”
พระนางฯ ส่ายวรกายไปมา พนางุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมพระนางเกิดอารมณ์แสดงท่าทางยั่วเช่นนี้ วรกายที่ส่ายไปมาเย้ายวนอารมณ์ของพนามาก

..พนาหักห้ามใจจะผละออก แต่ถูกโอบกอดไว้แน่น
“ช่วยเราที ไม่งั้นเราแย่แน่”
พระนางเป็นฝ่ายรุกเข้าประกบจุมพิตดูดปากจ๊วบๆๆๆ เปลื้องวรกายตนเอง จดหมด
“..พระนาง..”
วรกายของพระนางเทวีฯงดงามสุดแสนที่พนาจะจินตนาการ วรกายที่เปล่งปลั่งส่องแสงประกาย ไม่ห้ามใจตนเองอีกต่อไปแล้ว พนาระดมไซ้ไปทั่ว ปทุมถันชูชั้น คลึงได้สุดมันส์ในอารมณ์  มืออีกข้างจับแก้มก้น จากนั้นล้วงเข้าไปที่เนินสวาท พระนางฯเด้งเนินสวาทสู้มือพนา ครางขึ้นมา
“หีของนางช่างใหญ่อูมจริงๆ สมกับเผ่าพันธุ์ของพระนาง”
พนาไม่คิดว่าจะได้สัมผัสหียักษ์ถึงสองนาง เนินอวบยิ่งใหญ่สวยงาม ..พนาคิดในใจ หรือยักษิณีจะหีใหญ่ด้วยกันทุกนาง
“ขอดูของเจ้าบ้าง”
พนามิทันได้ถอดชุดถูกพระนางฯร่ายมนต์ ให้ชุดของพนาหลุดออกไปเองจนพนาเปลือยเปล่า
“โอ้ นี่หรือของเจ้า”
พนาแปลกใจแท่งงามตนเองทำไมจึงประกายเป็นสีทองเช่นนี้ พระนางอ้าปากเลียหัวแดงถาก โลมเลียแท่งงาม

เพียงไม่นาน พระนางจัดการขึ้นคร่อมแหวกกลีบร่องตนเองจ่อที่หัวบาน กดซวบลงไป
“อ้า...โอยยย...ซวบบบบ..พรืดดด”
พระนางเทวีฯกดลงจนหมด โยกส่ายไปมาอย่างเร่าร้อน พนาเด้งสะโพกสวนควยใส่ร่องสวาทพระนางเทวีฯ
“พลั๊กๆๆๆๆ ปั๊กๆๆๆๆ ป๊าบๆๆๆๆ”
พนาพลิกกายอยู่ด้านบนโยกขย่มบ้าง กดเน้น กระแทกไม่ยั้งด้วยอารมณ์ที่หมั่นเขี้ยว

..พนาเย็ดท่านี้นานแสนนาน ท้ายสุดเป็นท่านั่งเข้าหากัน มือยันพื้นทางด้านหลังทั้งสองฝ่าย ขยับ แท่งงาม- ร่องสวาทเข้าหากัน เย็ดท่านี้นานพอควร จากนั้นพระนางฯค่อยๆนั่งบนตักพนา ขย่มลง จนน้ำควยพนาทะลักพุ่งปรี๊ด พร้อมที่พระนางกระตุกเฮือกบ่งบอกถึงจุดหมาย
“โอยยย อา..”
พระนางคราง กอดพนาแน่น ไม่อยากห่างจากพนา ควยยังถูกตอดรัดอยู่ในร่องสวาท

..พระนางฯค่อยๆผ่อนคลายแต่ยังนั่งอยู่บนตักพนา ให้แท่งงามอยู่ภายในของนางอย่างนั้นสบตาแย้มสรวลพนาเลิ่กลั่ก ขอพระราชทานอภัยที่ล่วงเกิน
“เจ้าทำให้เรานึกสึกสวามีของเรา”
ตรัสจบพระนางฯจุมพิตอีกครั้ง
“เจ้าไม่ใช้มนุษย์ เจ้าเป็นเทพ”
พระนางเอ่ย พนายังไม่เชื่อจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าเป็นเทพ ต้องอยู่บนสรวงสวรรค์ไปแล้ว
“เจ้าอาจเป็นเทพที่ไปจุติที่โลกมนุษย์ก็เป็นได้ เพราะพอเราปลดปล่อย อายกายของเจ้าแผ่ซ่านทำให้เราเกิดกำหนัด อดใจไม่ไหว”
พนาพอเข้าใจ ยังค้านในใจเรื่องการเป็นเทพ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเรื่องพระนางฯไม่กริ้วโกรธไดๆ กลับส่งรอยแย้มสรวลให้ ซบที่อกเขา
“ต่อไปเจ้าคือคนรักของเรา เรารักเจ้า”
พนาเองก็รัก ไม่ใช่รักเพราะอารมณ์สวาทที่ได้ลิ้มรส แต่เพราะเขารู้สึกผูกพันลึกซึ้งอย่างบอกไม่ถูก

พนาถามถึงพระสวามีของนาง นางเล่าว่า เป็นเทพ พบรักกันบนดินแดนมนุษย์ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่มรรคผล จนมีลูกด้วยกัน ไม่นานเขามรรคผลไร้รูปเป็นนิรันด์ตลอดกาล
“แม้แต่ลูกที่เขาไว้ดูเป็นต่างหน้าของหัวใจก็กลับถูกพวกครุฑจับไปอีก”
พระนางฯทรงกรรแสง พนาเห็นใจยิ่งนักโอบกอดอีกครั้ง
“กระหม่อมพร้อมรักและดูพระนางอย่างดีที่สุด”
พระนางแย้มสรวลโอบกอดพนาตอบแน่น

..พระนางรู้สึกถึงแท่งงามที่ส่ายไปมาในร่องสวาท เช่นเดียวกับพนาที่รู้สึกว่าร่องสวาทรัดแท่งเขา ตอดรอบแท่งงามถี่ยิบ ทั้งสองส่งสายตาให้กัน พระนางฯขย่มลงอีกครั้ง ป๊าบๆๆๆ เสียวซ่านขึ้นมาทันควัน น้ำควยน้ำหีกระฉอกเยิ้มฉ่ำออกมาชะโลมเนินอูม-แท่งงาม
“เอ่อ...ควยเทพเย็ดมันส์อย่างนี้ทุกแท่งไหม?”
พนาพูดตรงๆ พระนางแย้มสรวล
“ไม่รู้สินะ เราเคยกับสวามีและเจ้าเท่านั้น”
“แล้วพระสวามีของพระนางเป็นอย่างไรควยเย็ดมันส์มากไหม?”
“มันส์ซี่ มันส์มาก ถึงเราจะไม่เคยเสพสวาทกับมนุษย์ หรือชาวบาดาลหรือเผ่าพันธุ์ไหน แต่เรามีจิตที่รับรู้ได้ว่ากายเทพให้ความสุขกว่าไดๆทั้งปวง”
“งั้นควยกระหม่อมก็เย็ดมันส์หีพระนางมากเลยละซี”
พระนางคิดว่าพนาช่างพูดช่างเจรจา ขยับเอามือเข้าโอบคล้องคอขย่ม
“มันส์สุดๆเลยละ มันส์ยิ่งกว่าแท่งควยของสวามีเราที่ว่าเลิศเลอแล้วซะอีก”
“ทำไมถึงเป็นเช่นในเมื่อกระหม่อมกับเขาต่างเป็นเทพเช่นกัน”
“อืม..ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะว่า เจ้าเป็นเทพที่จุติที่โลกมนุษย์กระมัง ด้วยมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีกิเลสหนา เมื่อเทพกลายเป็นมนุษย์ อาจจะทำให้รสวาทของเจ้าเลอเลิศก็เป็นได้ เพราะ เจ้าเป็นเทพก็จริงแต่มีกลิ่นอายที่แตกต่างออกไปอีก”
พระนางตรัส ..ขย่มต่อในคืนนั้น อย่างสุขสมด้วยกันทั้งสอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น