วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560
ร้านของชำ 5
เจ๊อ้อยก็ลุกตรงไปยังรถคันนั้นทันที
เห็นเด็กที่มากับรถกับเจ๊อ้อยคุยกันนิดหน่อยก็มีการขนของลงจากรถเจ๊อ้อยคงยืนคุมดูแลของที่มาส่งอีกนาน
ดูเหมือนจะไม่สนใจในร้านซะแล้ว ผมละสายตามาที่น้องเอ๋
ผมทนไม่ไหว อยากจะเข้าไปร่วมวง
จึงทำเสียงลูกบิดดังแกร๊กแล้วเดินออกมาพรวดทันที
น้องเอ๋ดูท่าทางตกใจมาก แกรีบรวบเสื้อผ้ามาปิดนมไว้
แต่คงใส่กระโปรงไม่ทันแน่ แกจึงไม่สนใจกระโปรง
รีบวิ่งเข้าหลังหลานมาทางผม แต่ไม่ทันจะออกวิ่ง
ก็ดูเหมือนพี่ชาติจะดึงมือแกไว้
แกจึงถลาล้มลงพี่ชาติรีบคว้าตัวน้องเอ๋มากอดไว้ที่ตัก
“คุณแอบชอบน้องเอ๋ไม่ใช่เหรอ หีน้องเอ๋สวยถูกใจมั๊ยคุณ”
พี่ชาติเอ่ยปาดถามผมเสียงยานๆแบบคนเมา
“ป๊าคะ” น้องเอ๋ตวาดพี่ชาติอย่างโกรธและอายเต็มที่
ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะทั้งเมาและเงี่ยนมากเหมือนกัน
จึงตอบไปแบบแห้งๆว่า สวยครับ ชอบมากครับ
พอจบคำพูดแค่นั้นเอง น้องเอ๋ที่กำลังล้มอยู่บนตักพี่ชาติ
ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาจนพี่ชาติดึงไว้ไม่ทัน
แกลุกขึ้นมาตบหน้าผมฉาดเบ้อเร่อดังเผียะ
ลมหายใจที่ประดังออกมาจากจมูกของน้องเอ๋ด้วยความโกรธ
มีกลิ่นเบียร์ปนมาด้วยนิดหน่อย
สายตาน้องเอ๋ทั้งเขียวทั้งแดงกร่ำไม่รู้เพราะเมาหรือโกรธหรืออายกันแน่
พอน้องเอ๋ตบผมแค่นั้น ผมแทบจะสร่างเมา
แล้วน้องเอ๋ก็เผ่นวิ่งขึ้นบรรไดขึ้นไปบนบ้าน
ผมแหงนตามขึ้นไป
เห็นชัดทุกอย่างจนกระทั่งถึงหน้าห้องที่คงจะเป็นห้องน้องเอ๋
มันคงจะเป็นความบังเอิญที่ตำแหน่งที่ผมยืนอยู่ถ้าแหงนมองขึ้นข้างบน
จะมองทะลุไปจนถึงเพดานหลังคาและชั้นบนของบ้านนี้เป็นแค่ชั้นลอยเท่านั้นเอง
ซึ่งตรงที่พี่ชาตินั่งทำบัญชีอยู่นั้นถ้าแหงนมองขึ้นไปก็ต้องทะลุผ่านชั้นบันไดห่างๆนั้นแน่นอน
ก็แอบคิดแผลงๆในใจว่า
แกอาจจะตั้งใจให้ชั่งทำไว้เผื่อแอบมองในร่มผ้าลูกสาวแก
"รีบไปปลอบน้องสิคุณ ชอบน้องเอ๋อยู่ไม่ใช่เหรอ"
พี่ชาติพูดกับผมด้วยน้ำเสียงยานๆเหมือนเดิม
ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูก ก็เลยทำตามที่พี่ชาติบอกก็แล้วกัน
พอผมขึ้นไปถึงหน้าห้องน้องเอ๋
ได้ยินแต่เสียงสะอื้นร้องไห้เล็ดลอดออกมาแต่ผมเข้าไปไม่ได้เพราะห้องล็อก
จึงกลับลงมา
เห็นพี่ชาติเมาหลับในท่าแหงนหน้าโกรนครอกๆเรียบร้อย
ผมไม่รุ้จะทำยังไงต่อไปดี
จึงตัดสินใจหยิบเบียร์อีกขวดแก้เขิน
แล้วก็เดินไปจ่ายตังกับเจ๊อ้อยที่หน้าร้านที่ยังดูเหมือนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
จ่ายเสร็จไม่เอาตังทอนมันล่ะ แล้วก็รีบกลับห้องพักทันที
พอไปถึงห้องพัก โดนสาวน้อยตบหน้ามายังเจ็บไม่หาย
แต่นึกถึงเรือนร่างอันเปลือยเปล่าขาวโพรนสมส่วนไปหมดของน้องเอ๋แล้ว
ก็ลืมความเจ็บ จึงรึบเข้าห้องน้ำจัดแจงว่าวออกมาทันที
ร้านของชำ season2
วันต่อๆมา
ผมก็ยังคงสำรวจบริเวณของโครงการแล้วก็มานั่งพักที่ม้าหินอ่อนตัวเดิมเหมือนอย่างเคย
แต่ไม่เห็นน้องเอ๋เลย
ผมก็ได้แต่จิบเบียร์ที่หน้าร้านไปพลางๆ
บางวันลูกค้าในร้านว่างๆพี่ชาติก็มานั่งคุยเป็นเพื่อน
บางวันเจ๊อ้อยก็มานั่งคุยด้วยอีกคน
ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะฝ่ายอีกฝ่ายคือลูกสาวของบ้านนี้
พี่ชาติแกบอกว่า
ตั้งแต่วันนั้น
น้องเอ๋มาถึงบ้านจะรีบตรงขึ้นไปที่ห้องเก็บตัวอยู่คนเดียว
จนปิดร้านถึงยอมลงมาข้างล่าง
เจ๊อ้อยก็เสริมขึ้นมาบ้าง"ยัยลูกคนนี้
พักนี้ชักจะขี้เกียจเกินไปแล้ว ไม่ยอมมาช่วยขายของ"
"น้องเอ๋คงยังอายอยู่นะ" พี่ชาติพูดขึ้นมาแค่นั้น
เจ๊อ้อยถามกลับทันทีว่าผัวพูดเรื่องอะไร"อายอะไรกันเหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอก" พี่ชาติพูดไปยิ้มหัวเราะไป
ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆแห้งๆ ซึ่งก็สองจิตสองใจ
ทั้งอยากปลอบโยนขอโทษน้องเอ๋
ทั้งอยากจะเห็นร่างกายน้องเอ๋แบบเต็มๆตาอีกสักครั้งเป็นบุญตา
หลังจากนั้นผ่านไปราว2สัปดาห์ ผมก็ยังคงสำรวจโครงการต่อไป
พอใกล้เวลาบ่ายแก่ๆ
เป็นเวลาที่เด็กนักเรียนทยอยกลับบ้านกัน
ผมก็ไม่ลืมที่จะมานั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนร้านพี่ชาติ
ดูน้องนักเรียนผ่านไปผ่านมาเป็นการพักผ่อนอารมณ์
ยิ่งดูก็ยิ่งนึกเสียดายที่สมัยเราเรียน
ทำไมไม่นุ่งสั้นกันอย่างนี้บ้าง
ทั้งที่ไม่ได้เป็นโรงเรียนอินเตอร์
แต่น้องๆก็ใส่สั้นกันดูแล้วสบายอารมณ์มาก
ยิ่งน้องบางคนใส่สั้นเหนือเข่าเยอะมาก
ดูแล้วมีอารมณ์ไม่น้อย
น้องบางคนที่มีความขาวเนียนของเรียวขา ใต้กระโปรงบานสั้นๆ
เห็นทีไรควยแข็งทุกที
พอเห็นภาพนี้เข้าผมหวนคิดถึงน้องเอ๋ขึ้นมาทันที
คิดท้อในใจว่าต่อไปนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นน้องเขาอีกแล้ว
ผมจึงวางทุกอย่างไว้บนม้าหินอ่อนปล่อยให้โต๊ะโล่งๆอย่างนั้น
แล้วก็เดินไปเล่นที่ฝั่งตรงข้ามร้านพี่ชาติ
ซึ่งก็ไม่ไกลมากนักเพราะเป็นตรอกเล็กๆ
ผมหันกลับมาทางร้านพี่ชาติเพื่อจะดูให้เต็มๆตาสักที
ก็ยังคงเห็นพี่ชาตินั่งกดเครื่องคิดเลขพร้อมกับมืออีกข้างก็จับปากกาทำบัญชียิ๊กๆ
ส่วนเจ๊อ้อยก็ยืนดูเช็คของในร้านฝั่งที่มีม้าหินอ่อน
คงจะเผื่อดูแลของที่ผมทิ้งไว้ที่ม้าหินอ่อนตัวนั้นด้วย
แล้วภาพที่ผมเห็นก็ทำให้ผมอยากจะขอบคุณสวรรค์เป็นที่สุด
เพราะผมเห็นน้องเอ๋ซ้อนท้ายมอไซค์น้องชายกลับมา
พอลงจากรถได้
น้องเอ๋ก็รับกระเป๋าจากน้องชายแล้วเดินตรงเข้าไปในร้าน
ทักทายสวัสดีพี่ชาติกับเจ๊อ้อย
ปล่อยให้น้องชายขับรถออกไปอีกครั้ง
ผมฉวยโอกาศนี้เดินกลับมาที่ร้านพี่ชาติแล้วก็นั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนตัวเดิมอย่างเงียบๆ
“อ้าว แล้วนั่นออกไปไหนอีกล่ะ” เจ๊อ้อย
ถามอย่างสงสัยที่เห็นลูกชายขับรถออกไปต่อโดยไม่ยอมเข้าบ้าน
“มันไประชุมกีฬาสีค่ะม้า
น้องเอ๋ได้เป็นเชียร์หลีดเดอร์ด้วย วู้วๆๆ”
น้องเอ๋วางกระเป๋าทั้งของน้องและของตัวเอง
แล้วตอบม้าพร้อมกับหมุนตัวโชว์
ผมเองก็แอบนั่งมองอยู่หน้าร้าน
ดูน้องเอ๋สะบัดสะโพกหมุนตัวกลับไปกลับมาซะแรงมาก
จนประโปรงนักเรียนตัวสั้นๆที่บานมากอยู่แล้ว
ปลิวบานออกไปอีกเหมือนนักบัลเลต์มากกว่าเชียร์ลีดเดอร์
มันสะบัดปลิวเสียจนกระโปรงเปิดขึ้นสูงแทบจะขนานกับพื้น
เผยให้เห็นเสื้อนักเรียนที่ยังเหน็บในกับกางเกงในของน้องเอ๋ได้อย่างชัดเจน
ผมนั่งมองกระโปรงนักเรียนน้องเอ๋ที่สะบัดปลิวตามแรงหมุนตัวของน้องเอ๋
เช่นเดียวกับพี่ชาติ
“สวยมั้ยคะป๊า “
น้องเอ๋หยุดสะบัดสะโพกพร้อมกับถามความเห็นจากพ่อ
ผมเองก็อยากจะบอกว่าน้องเอ๋สวยบาดใจเหลือเกิน
ส่วนเจ๊อ้อยเองก็หยุดเช็คของแล้วมานั่งชื่นชมลูกสาวตัวเองเช่นกัน
“ไหนลองทำใหม่ให้ป๊าดูอีกทีซิ” “แป๊บนะคะ ร้อน
ขอน้องเอ๋ดึงเสื้อออกก่อน”
น้องเอ๋ดึงเสื้อออกจากหัวกระโปรงปล่อยให้ลอยชายสบายๆ
แล้วก็สะบัดสะโพกอย่างแรงอีกที
“ไม่ใช่อย่างนั้น เอาใหม่” พี่ชาติบอกน้องเอ๋ทำใหม่ “หา?
อ๋อ” น้องเอ๋ที่ทำเหมือนงงในตอนแรก
แต่ดูเหมือนน้องเอ๋จะเข้าใจแล้ว คงเหลือแต่ผมที่ยังงง
ว่าน้องเอ๋ทำไม่ถูกตรงไหน ก็ทำเหมือนเมื่อกี๊ทุกอย่าง
น้องเอ๋หยุดหมุนตัว
ใช้มือจับชายกระโปรงนักเรียนยกขึ้นจนสูงสุดกระโปรง
ผมมองตาค้างขณะที่เจ๊อ้อยเอื้อมมือของแกไปจับกางเกงในของน้องเอ๋
แล้วร่นมันลง
ส่วนน้องเอ๋เองก็ยกเท้าขึ้นทีละข้างเพื่อให้เจ๊อ้อยถอดกางเกงในตัวเองออกได้โดยง่ายแม้จะมีสะดุดรองเท้านักเรียนอยู่บ้าง
ผมมองตาแทบถลน ดูแล้วทั้งน้องเอ๋ทั้งเจ๊อ้อยคล่องมากๆ
ควยผมตุงแข็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
อยากจะชักว่าวออกให้รู้แล้วรู้รอดไป
เจ๊อ้อยถอดกางเกงในของน้องเอ๋มากำไว้ในมือ
ปล่อยให้น้องเอ๋สะบัดกระโปรงโชว์อีกรอบ “สวยมั้ยคะ วุ้ว”
แกสะบัดซ้ายขวาสลับกันอย่างแรงมากเหมือนเดิม
ทำเอากระโปรงนักเรียนของแกมันเปิดขึ้นมาจนแทบขนาดกับพื้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่มีเสื้อนักเรียนบัง
ไม่มีกางเกงในบังเหมือนตะกี๊ สิ่งที่เห้นจึงเป็นหีล้วนๆ
มีหมอยปกคลุมสีดำๆ
กับก้นขาวๆของสาวน้อยสุดสวยคนหนึ่งเท่านั้น
สักพักน้องเอ๋ก็หมุนตัวควงสว่านเป็นเกลียว สักรอบครึ่ง
ก็หยุดเพราะดูเหมือนจะล้ม
แต่ก็เหมือนโลกของน้องเอ๋ได้หยุดหมุนลงเมื่อเธอดันหยุดตอนที่หันมาทางผมพอดี
น้องเอ๋ทำหน้าตกใจอย่างมาก เดินกระทืบเท้าปังๆ
ขึ้นบันไดเข้าห้องไป
เจ๊อ้อยเองพอเห็นว่าผมกลับมานั่งอยู่ตรงมาหินอ่อนตอนไหนไม่รู้
ก็รีบยัดกางเกงในลูกสาวเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่น้อย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น