วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว 9

 
 

หลังจากตกลงสัญญงสัญญากันเสร็จสรรพ ไอ้โจ้ก็เริ่มปฏิบัติการณ์จีบภรรยาผมทันที มันคอยชวนเป้คุยเล่นคุยหยอดทุกครั้งที่มีโอกาส แม้ว่าบางทีเป้จะแค่ตอบสั้นๆ เพราะขี้เกียจคุยก็ตาม ผมเองก็กลัวแผนจะไม่คืบหน้า เลยหาโอกาสช่วยด้วยการชวนมันมานั่งกินเบียร์ที่บ้านบ่อยๆ พาลให้ทั้งเป้และโจ้ได้ปะหน้ากันเป็นระยะๆ และด้วยความที่ไอ้โจ้เองก็หน้าตาดีพอสมควร เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน แถมยังคารมจัดจ้านไม่มีเบื่อ เลยยิ่งทำให้พักหลังๆ เป้ดูจะสนิทสนมกับมันไม่น้อยหน้าไปกว่าผมเลย

“พี่เป้วันนี้แต่งตัวเซ็กซี่จังเลยนะครับเนี่ยยยยย” ไอ้โจ้เอ่ยแซวขณะที่ภรรยาผมยกกับแกล้มมาตั้งบนโต๊ะรับแขก ยิ่งเมาแล้วไอ้นี่ยิ่งลามปามไม่เกรงใจใครเลย
“เซ็กซี่บ้านป้าแกดิ! เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์เนี่ยนะ มันโป๊ตรงไหนอีบ้า?” คำโต้ตอบของเธอทำเอาผมฮาออกมาดังๆ เลย
“เอ๊าา เสื้อผ้าน่ะไม่ได้โป๊หรอกครับ แต่ตูดพี่เนี่ยสิ บึ้บบั้บจนแทบจะทะลุกางเกงออกมาแล้วเนี่ย”
“ปากดีนัก นี่แน่ะ หาว่าชั้นตูดใหญ่เหรอ” เป้แว้ดเสร็จก็ฟาดไหล่โจ้ไม่หยุด ตำแหน่งโดนหวดนั่นมันหน้าที่กูโว้ยไอ้โจ้
“โอ๊ย ผมล้อเล่นพี่ โอ๊ย! พี่บอยช่วยด้วย!”

ทั้งสองคนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการสนับสนุนแบบลับๆ จากผม บางวันผมก็ชวนโจ้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันกับเป้ตามร้านนั่งดื่มใกล้บ้าน พอได้จังหวะบางทีก็ทำเป็นขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ หรือออกมาคุยโทรศัพท์คนเดียวบ้าง เพื่อเปิดช่องให้ทั้งคู่ได้คุยกันเองยาวๆ จนผ่านไปอีกไม่กี่เดือน ไอ้โจ้ก็ส่งแคปหน้าจอไลน์ระหว่างมันกับเป้มาให้ผมได้ดู

–----

“พี่บอยเค้ารอบเดียวก็ลงไปนับสิบแล้วย่ะ 555”

“โอ๊ย ไม่เชื่อหรอกครับ มีแฟนสวยๆ แบบพี่ เป็นผมคงจัดสักสองยกทุกวันอ่ะ” (สติกเกอร์เด็กทำตาปริบๆ)

“หื่นแบบแกคืนเดียวสามรอบก็คงไหวมั้ง 5555+” (สติกเกอร์รูปหมีเบ่งกล้ามมีพื้นหลังเป็นฟ้าฝ่า)

“โห แบบนั้นคงฟ้าเหลืองตายคาเตียงกันพอดีครับพี่” (สติกเกอร์รูปกระต่ายนอนป่วย)

“5555”

แค่ประโยคที่คุยกันล่าสุดก็ทำเอาผมใจร้อนรุ่มด้วยความหึงหวงแล้วครับ พอได้อ่านบทสนทนาแบบเต็มๆ จึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะแอบเช็คไอดีไลน์เธอ ด้วยการล็อคอินเข้าไปอ่านในคอมอีกทีหนึ่ง พอย้อนกลับไปมองก็ถือว่าโชคดีนะเนี่ย ถ้าผมทำแบบนี้ช้าไปสักปีสองปี รับรองว่าโดนจับได้แน่ครับ เพราะไลน์แม่งดันเพิ่มระบบแจ้งเตือนเข้ามาทำห่าอะไรก็ไม่รู้ ทำให้ได้รู้ว่าช่วงนี้ เป้กับโจ้เริ่มคุยเล่นกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยโจ้ก็ต้องทักมาชวนคุยวันละครั้งสองครั้ง เรื่องไร้สาระบ้าง เรื่องเป็นงานเป็นการบ้าง นานๆ ทีก็มีหยอดเรื่องใต้สะดือเข้ามาเป็นครั้งคราว

เดี๋ยวนี้เป้เองก็สนุกที่จะพูดคุยกับมันมากขึ้น ยิ่งสองคนนี้เคยเป็นคู่กัดกันในวงสนทนามาก่อน ถ้ามีครั้งไหนที่พูดคุยกันติดพัน ก็มักจะลากยาวไปเป็นชั่วโมงเลยก็มี ซึ่งผมก็ต้องแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นพฤติกรรมติดแชทในช่วงหลังๆ ของเธอ เพื่อเปิดช่องให้เธอได้เริ่มเดินหน้ากับโจ้มากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งเป้ก็ทักผมขึ้นมาว่าเย็นนี้เธอจะเข้าไปที่คอนโดโจ้นะ เล่นเอาผมหูผึ่งเลยครับ ไม่คิดว่าอะไรๆ มันจะไปเร็วขนาดนี้

“บอย วันนี้เย็นๆ เค้าจะแวะไปหาโจ้ที่คอนโดนะ บอยจะไปด้วยกันมั้ย?”
“หา?? อ้าว เข้าไปทำไมอ่ะ ไอ้โจ้นัดเหรอ?”
“อือ ก็โจ้มันว่าจะแต่งห้องมันอ่ะ แล้วอยากได้คนช่วยดูตีม ดูเฟอร์นิเจอร์ให้ ก็เลยมาวานให้เป้ไปช่วยดู จริงๆ มันก็ส่งรูปห้องมันมาให้แล้วแหละ แต่มันมีไม่ครบทุกมุม เป้เลยว่าจะไปดูห้องจริงๆ ดีกว่า ง่ายกว่า ไหนๆ มันก็ยืนยันจะจ่ายตังค์ค่าที่ปรึกษาให้ด้วย เย็นนี้บอยว่างมั้ยล่ะ” คำตอบของเธอพอจะทำให้ผมโล่งใจอยู่บ้าง ว่าเธอคงไม่ได้กะจะไปเอากับมันคืนนี้แน่ๆ เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังชวนให้ผมไปเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งอันที่จริงผมเองก็ว่างอยู่แล้ว แต่เมื่อโอกาสเปิดกว้างแบบนี้ ไม่ต้องสบตากันก็พอจะเดาได้ว่าไอ้โจ้กำลังจะเริ่มแผนการให้มันจริงจังขึ้นไปอีกขั้น

“วันนี้เค้าติดประชุมเย็นอ่ะดิ เป้ไปคนเดียวถูกมั้ยอ่ะ?” ผมตอแหลไปแบบเนียนๆ หน้าด้านๆ
“อ้าวเหรอ? เป้ก็นึกว่าบอยว่าง เลยนัดโจ้มันว่าจะเข้าไปดูวันนี้แล้วอ่ะดิ อืม เอาไงดีหว่า หรือจะเลื่อนมันไปก่อนดี”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ก็แค่แวะเข้าไปดูห้องมันให้เสร็จๆ เลยไม่น่าจะนานหรอกมั้ง อีกอย่างบอยจะได้ฝากเป้แวะซื้อคริสปี้ครีมตรงเซ็นลาดด้วย กำลังอยากกินพอดีเลย”
“โห อีตานี่ แทนที่จะมาเป็นเพื่อนก็ไม่มา ดันเพิ่มภาระให้เค้าอีก ไม่เอาย่ะ อยากกินก็มาซื้อเอง ฮึ!”
“โหยยยย เป้อ่ะ งั้นถ้าบอยไปลาดพร้าว เป้จะรอบอยรึไง?”
“ถ้าเธอกล้ามา ชั้นก็กล้ารอย่ะ”
“โอเค๊ งั้นเดี๋ยวประชุมเสร็จโทรหา”
“อือ ไวๆ อ่ะ”

ผมนั่งทำงานเล่นฆ่าเวลารอจังหวะ กะว่าให้เป้ไปถึงที่ห้องไอ้โจ้ซักชั่วโมงนิดๆ แล้วค่อยโทรไปหาเธอ ระหว่างนั้นก็แชทไลน์คุยกับไอ้โจ้ไปด้วย

“ว่าไงครับมึง ชวนเมียกูขึ้นห้องเลยเหรอไอ้สลัด”

“ก็ผมบอกให้พี่เค้าชวนพี่มาด้วยไง ไหงพี่ไม่มาล่ะ” (สติกเกอร์ตัวการ์ตูนทำหน้า แหะ แหะ)

“มึงหยั่มมา กูรู้นะมึงทำไรอยู่ 555”

“5555 แค่อยากเปลี่ยนห้องนั่งเล่นเฉยๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมคุยเล่นกับโจ้ไปเรื่อยๆ จนเป้ไปถึงคอนโดได้พักหนึ่ง ก็เลยกดสายไปหาเธอ

“ฮัลโหล เธอๆ เค้ายังประชุมไม่เสร็จเลยอ่ะ เธอไปดูคนเดียวได้ป่าว?”
“หึ เค้าอยู่ห้องมันตั้งกะปีมะโว้แล้วย่ะ นี่เดินดูจนทั่วแล้ว ถ่ายรูปไปครบแล้วด้วย นี่ไง เบี้ยวตลอดๆ แล้วยังไงเนี่ย เลิกกี่โมง?”
“น่าจะเสร็จสักสองทุ่มมั้ง นี่กินข้าวกินไรรึยังอ่ะ?”
“ยังดิ ก็รอกินพร้อมบอยเนี่ย ว่าจะชวนไปกินชาบูตรงที่ลาดพร้าว โห่ยย เค้าหิวจนไส้กิ่วแล้วนะ”
“ขอโทษๆๆๆ แล้วยังไงดีอ่ะ แถวนั้นมีอะไรกินมั้ย?”
“ไม่รู้ดิ เดี๋ยวต้องลองถามโจ้ดู มันก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ไม่งั้นเค้าไปหาไรกินกับมันก่อนนะ แล้วไปเจอบอยที่บ้านเลยละกัน จะได้ไม่ต้องคอย เสียเวลากันเปล่าๆ”
“อืมๆ แบบนั้นก็ได้ โทษทีนะเป้ เค้าติดประชุมจริงๆ” ผมพูดไปทั้งที่ตอนนี้ในออฟฟิศเหลือผมกับน้องเก่งรุ่นน้องในแผนก นั่งดูยูทู้บกันอยู่
“อือๆ ไม่เป็นไรๆ รีบๆ กลับแล้วกันนะ บาย”
“บายจ้า” ผมพอวางหูไอ้รุ่นน้องก็แซวขำๆ ทันทีว่าโกหกหนีเมียไปเที่ยวเหรอพี่ ก็เฮฮากันไป แต่ในหัวผมคิดอยู่แค่ว่า ทั้งสองคนที่คอนโดตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างน้ออออออ นั่งเล่นได้อีกพักนึงก็ตัดสินใจกลับไปรอที่บ้านดีกว่า

พอเป้กลับมาถึงบ้าน ผมก็ทำท่าทีเฉยๆ ไม่ได้ถามอะไรเธอเป็นพิเศษ เพราะกลัวว่าจะเผลอทำไก่ตื่นไปซะก่อน เธอเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีมีพิรุธอะไรออกมา ผมเลยยังไม่ค่อยแน่ใจว่าวันนี้มีเหตุการณ์อะไรพิเศษรึเปล่า พอเธอขอตัวไปอาบน้ำ ผมก็เลยแอบไลน์ถามไอ้โจ้ทันที

“นี่มึงได้ทำไรเมียกูป่ะเนี่ย?”

“????
ทำไมง่ะ พี่เป้เค้าว่าไงเหรอ”

“เปล่า เค้าก็ดูเฉยๆ
กูเลยสงสัยว่ามึงได้ทำอะไรไปบ้างรึเปล่า”

ไอ้โจ้ส่งสติกเกอร์ทำหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์
“ผมดูดปากพี่เป้ไปเรียบร้อยแล้ว
นานด้วย”

“จิงดิ ที่ห้องอ่ะนะ”

“ใช่พี่ พอดีผมมีพิซซ่าเหลือเมื่อวาน
เลยนั่งกินกัน ดื่มเบียร์ไปด้วยคนละกระป๋อง
ผมก็เล่นมุกเดียวกับไอ้ต้นน่ะแหละ
ทำเป็นเขินๆ สารภาพว่าชอบพี่เค้า
แล้วก็รีบกอดเลยตอนเค้ายังงงๆ”

“อ้าว แล้วเค้าไม่ตกใจเหรอวะ”

“เค้าก็ตกใจแหละ แต่พอเผลอๆ ผมก็เลยก้มไปจูบเลยไง
ตอนแรกเค้าก็ตัวแข็ง แต่ซักพักก็เหมือนจะจูบตอบผมนะพี่
ผมว่าลิ้นเค้าสู้ลิ้นผมว่ะ
แต่จูบกันแป๊บนึงเค้าก็พยายามจะดันผมออก ก็เลยผละกันก่อน แล้วเค้าก็ขอกลับไป ผมก็ไม่ได้รั้งว่ะ”

คำบอกเล่าของไอ้โจ้ทำเอาผมนิ่งเฉยไม่ได้ พอเป้อาบน้ำเสร็จเตรียมจะเข้านอนผมจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำบ้าง อ้างว่าท้องเสีย พอปิดประตูห้องน้ำเรียบร้อย ผมก็ดิ่งเข้าไปค้นตะกร้าเสื้อผ้าใส่แล้วทันที ชุดเดรสกระโปรงที่เป้ใส่ทำงานเมื่อเช้ายังพับไว้อยู่ด้านบนสุด ผมรื้อลงไปจนเจอชุดชั้นในแล้วหยิบขึ้นมาสำรวจทันที พอเห็นแล้วก็อดใจสะท้านไม่ได้ เพราะกางเกงในผ้ายืดสีขาวแบบเต็มตัวของเธอนั้น ตรงกลางเป้าของมันมีคราบน้ำเลอะๆ เกาะเปื้อนอยู่เป็นดวง นี่แสดงว่าตอนจูบกับมันวันนี้ทำให้เธอมีอารมณ์จนมีน้ำเงี่ยนซึมออกมาเลยสิท่า ผมลองหยิบขึ้นมาดมๆ ได้กลิ่นออกคาวนิดๆ เป็นกลิ่นที่ผมคุ้นเคยดี เอาลิ้นแตะๆ ดูก็รสชาติไม่ต่างจากเวลาที่ลงลิ้นให้เธอตอนมีอะไรกัน ยิ่งทำก็ยิ่งควยแข็งมีอารมณ์ สุดท้ายเลยต้องรูดควยช่วยตัวเองไปหนึ่งน้ำ แล้วออกมานอนกอดกับเป้หลับไปด้วยกัน

หลังจากวันนั้น ทุกครั้งเวลาที่เจอกันสามคน เป้ก็มักจะแอบออกอาการเขินๆ เวลาต้องปะหน้าโจ้อยู่เสมอ จนช่วงวันลอยกระทงที่ผ่านมา ผมเลยหาจังหวะชวนโจ้ไปเดินเล่นที่งานวัดตรงภูเขาทอง พร้อมๆ กับภรรยาผมและลูก ลูกเด็กเล็กแดงวิ่งเบียดเสียดแย่งกันเล่นเครื่องเล่นกันนัวเนียไปหมด บางคนก็สนุกกับการยิงเป้า สอยดาว บ้างก็เดินชมขนมและอาหารที่มาออกร้านซ้ำๆ กันทุกปี ผมเองตั้งใจว่าจะเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนสนุกกันเต็มที่ จึงอาสาจูงลูกเดินเล่นเครื่องเล่นแบบไม่ยอมห่างมือ พอเป้เห็นผมไม่ว่าง จึงหันมาชวนโจ้ไปช่วยเธอยิงเป้าหวังจะเอาตุ๊กตากระต่ายกลับบ้านเป็นของให้ลูกคืนนี้



=======================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น