=======================================
“บอย.... บอยทำแบบนั้น.. ทำไมอ่ะ?” แน่นอนว่าในหัวเธอไม่สามารถทำความเข้าใจถึงเรื่องที่ได้ยินอยู่
“เรา... เราแค่อยากเห็นเป้สนุกกับคนอื่นบ้าง..” น้ำเสียงผมแหบพร่า รู้สึกเหมือนคอแห้งผากมีเม็ดทรายเกาะอยู่ข้างใน เป้เองฟังแล้วก็ซึมหนักขึ้นไปอีก ด้วยว่าเธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกันแน่ในตอนนี้ รู้สึกผิดที่ลักลอบไปมีชู้ โกรธสามีตัวเองที่สรรหาชายอื่นเข้ามาทำให้เธอหวั่นไหว
“งั้นที่แมนขู่ว่าจะฟ้องบอย.... แต่บอยก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย?” เธอตาแดงก่ำ ปล่อยโฮน้ำมูกน้ำตาไหลเปียกเลอะเทอะใบหน้าสวยๆ จนหาความน่ารักไม่ได้
เราคุยกันอยู่เกือบสองชั่วโมง แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น จนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจออกมานอนข้างนอกที่โซฟาหลับแขก เพื่อให้เป้ได้ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นก่อน แล้วกะว่าเดี๋ยวจะค่อยๆ คุยกันใหม่ให้อะไรๆ มันไม่แย่ลงไปกว่านี้ แต่จนแล้วจนรอด ผมยังไม่มีโอกาสปรับความเข้าใจกับเป้อีกซักที เราคุยกันน้อยลงเรื่อยๆ เธอเริ่มถามคำตอบคำกับผมจนผมเองก็อึดอัดและหงุดหงิดที่จะชวนเธอคุยต่อ แม้ว่าเราจะนอนเตียงเดียวกันได้แล้ว แต่ก็ต่างคนต่างนอนหันหลังให้กัน ไม่ได้มีอะไรกุ๊กกิ๊กก่อนนอนเหมือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังร่วมแบ่งปันความรักเวลาอยู่กันสามคนพอ่แม่ลูกอย่างดีที่สุดเพื่อที่ว่าจะไม่ให้ไปกระทบกับความรู้สึกของเจ้าลูกชาย ผมเองได้แต่เก็บปัญหานี้เอาไว้ข้างในคนเดียวอยู่ร่วมๆ เดือน คิดหัวแทบแตกว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี จนกระทั่งเหมือนจะมีคนที่สังเกตเห็นความอึดอัดในใจผมที่ซ่อนอยู่ คนๆ นั้นก็คือแม่ยายของผมนั่นเอง
“บอย เป็นไงบ้างลูก ช่วงนี้งานหนักเหรอ? เห็นดูจะเหนื่อยๆ นะ”
“อ๋อ... นิดเหน่อยครับคุณแม่ แต่ก็เรื่อยๆ แหละครับ เดี๋ยวก็ปกติแล้ว” ผมพูดหลบตาแกเพราะกลัวจะอ่านใจผมออกว่าแอบพาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน หลงเข้าไปในเส้นทางกามรสอันสุดแสนจะโลดโผด นานแล้วที่ผมไม่ได้คุยจริงๆ จังๆ กับแกมากมายอะไรนัก โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ที่แกตรวจพบก้อนเนื้อร้ายในปอด ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะเป็นมะเร็งรึเปล่า เลยทำให้เธอมักจะไปพักอยู่กับลูกชายของเธอบ้างเป็นระยะๆ
“หรือมีปัญหาอะไรกับเป้รึเปล่า? เห็นช่วงนี้ดูนิ่งๆ ตึงๆ กัน บอกแม่ได้นะ” พอได้ยินคำพูดที่แฝงความห่วงใยนั้นผมก็กลั้นไม่อยู่ครับ น้ำตาไหลแหมะออกมาทันที ผมพรั่งพรูระบายความรู้สึกอัดอัดที่มีเล่าถึงปัญหาเรื่องที่ว่าตอนนี้เข้าหน้ากับเป้ไม่ติดเพราะทะเลาะกันอยู่ ออกไปให้เธอฟัง แม้ว่าจะไม่กล้าบอกสาเหตุต้นตอของเรื่องทั้งหมด เพราะมันเกินกว่าที่คนเป็นแม่อย่างเธอจะรับได้ก็ตาม เธอเอามือบีบไหล่ผมแล้วพูดปลอบใจอยู่พักนึง แล้วรับปากว่าจะไปช่วยคุยกับภรรยาของผมให้ ซึ่งผมก็ได้แต่กล่าวขอบคุณเธอ
ผ่านไปสองวัน เป้ก็เอ่ยชวนคุยกับผมขึ้นมาในระหว่างเตรียมตัวเข้านอน
“บอย... ขอคุยอะไรด้วยหน่อยดิ”
“หืมม?”
“เป้..... เป้ขอโทษที่ทำไม่ดีกับบอย...” น้ำเสียงเธอสั่นระริกเหมือนคนกำลังกลั้นใจไม่ให้ร้องไห้
“เฮ้ย เป้ทำไม่ดีกับบอยตรงไหนอะ?”
“ก็เป้.... ก็เป้นอกใจบอยไปมีคนอื่น” เธอพูดจบน้ำตาก็เริ่มไหลรินออกมาทีละนิด
“เป้!.. เป้ไม่ต้องขอโทษบอย บอยต่างหากที่ต้องขอโทษเป้ที่ไปพาไอ้โจ้เข้ามา”
“บอยไม่ผิดหรอก....อึ่กก.... อึ่กก... เป้ผิดเองที่ไม่ยอมบอก เผลอใจไปกับน้อง” ผมเองฟังแล้วก็อ่อนใจ ไม่รู้จะปลอบเธอยังไง เลยได้แต่ดึงเธอเข้ามากอดแล้วลูบหัวเธอเบาๆ แบบที่เธอชอบให้ทำ
“บอยยกโทษให้เป้นะ... อึ่กก...กก .. ฮือออออ” ผมไม่รู้ว่าแม่ยายของผมไปพูดกับเธอยังไง แต่ที่แน่ๆ คือคนเป็นแม่ลูกกัน คำพูดและคำแนะนำบางอย่างย่อมมีน้ำหนักมากพอที่จะให้เราฉุกคิดอะไรได้เสมอ
“เป้ฟังบอยนะ... ไม่ว่ายังไงเป้ก็คือผู้หญิงที่บอยรักที่สุด เป็นภรรยาและแม่ของลูกบอย บอยไม่มีวันทิ้งเป้ไปเด็ดขาด เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันเป็นประสบการณ์ที่มันผ่านไป เป้ไม่ต้องกลัวว่าบอยจะรังเกียจเป้นะ เพราะที่ผ่านมาบอยยอมรับว่าบอยเองก็พอใจไม่น้อย เวลาได้เห็นเป้สนุกกับน้องๆ บอยก็สนุกไปด้วย มันเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในชีวิตคู่ของเราเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะมาแยกเราสองคนให้ขาดจากกัน” ผมพร่ำพูดความรู้สึกที่กดเก็บไว้มานาน เป้เองก็ตั้งใจฟังโดยไม่มีท่าทีต่อต้าน
“บอย... เป้รักบอยนะ...”
“บอยก็รักเป้ รักมากด้วย” ผมพูดแล้วก้มไปจูบปากเธอเบาๆ ที่ริมฝีปาก เธอเองก็หลับตาแล้วโน้มจูบตอบเบาๆ เช่นกัน เราสองคนกอดกันอยู่ในท่านั่งพับเพียบบนเตียง นานพอสมควรแล้วที่เราไม่ได้มีโอกาสสัมผัสเรือนร่างของกันและกันบนเตียงนี้ นับนิ้วไปมาก็ร่วมสองเดือนครึ่งแล้ว
ผมค่อยๆ ใช้มือรูดเสื้อนอนสายเดี่ยวของเป้ออกทางไหล่ซ้าย ดึงสายมันหลุดพ้นแขน จนหน้าอกของเธอค่อยๆ ปรากฏออกมาตรงหน้าผม เต้านมเธอยังคงสวยได้รูปอยู่ มันโค้งคล้อยลงบ้างตามวัยที่ผ่านเลยไป หัวนมมีสีน้ำตาลนิดๆ เพราะถูกดูดดุนมาพอสมควร แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดอย่างนึงที่ผมเคยเห็นในชีวิต มันคือเต้านมที่ฟูมฟักเลี้ยงดูลูกชายตัวน้อยของเราให้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ผมค่อยๆ ไล่ลิ้นโลมเลียวนตามหัวนมของเธอเบาๆ ใช้มือที่เหลือขยำหมับที่หน้าอกอีกข้าง เป้ครางฮืมมมมมม ด้วยความพึงพอใจ เธอเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมาร่วมเดือนแล้วแทบไม่ต่างกับผม อารมณ์ของเราทั้งคู่จึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อถูกสัมผัสด้วยรสมือและริมฝีปากที่คุ้นเคย
ผมประกบจูบเข้ากับเป้อีกครั้งอย่างอ่อนโยน มันแตกต่างจากรสจูบอันดูดดื่มและเร่าร้อนที่โจ้หรือแมนเคยมอบให้เธอ แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นรสจูบที่เธอเคยได้รับเป็นครั้งแรกเมื่อตอนที่คบกับผมใหม่ๆ สมัยเรียน รอยจูบที่ยังคงแผ่วเบาและทะนุถนอมเธอไม่ต่างอะไรจากสิบกว่าปีก่อน ผมรูดเสื้อยืดตัวเองออกทางหัว เช่นเดียวกับเป้ที่ถลกเสื้อสายเดี่ยวของตัวเองออกเช่นกัน กางเกงขาสั้นกุดของเธอคือชิ้นต่อไปที่ถูกถอดออก สองขาเธอแนบสนิทเพื่อปกปิดร่องกลางที่เปียกชื้นไว้ด้วยความเขินอาย ผมโน้มตัวลงไปไล่จูบตามน่องเธอ ไล่ขึ้นไปถึงบริเวณหน้าขา
เธอแสดงอาการจั๊กกะจี้นิดๆ แต่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความสยิวอย่างช้าๆ สองมือผมจับขาเธอแบะอ้าออก ระดมลิ้นปาดเข้าไปตรงบริเวณร่องกลางของเธอ กลีบแคมของเธอดูแตกต่างจากเมื่อหลายเดือนก่อนไม่น้อย มันอ้าออกพอประมาณ ไม่ได้หุบเกือบสนิทเหมือนก่อน สีของมันเปลี่ยนจากชมพูอมแดงไปเป็นแดงเข้ม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นคล้ำจนกลายเป็นสีน้ำตาล
“อือออออออออออ....อออ” เป้ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างไม่เก็บอารมณ์ เมื่อผมดูดชิมเข้าไปตรงบริเวณเม็ดเสียวที่ยื่นชูชันอยู่ มือเธอเกาะกุมหัวของผมอย่างพึงใจ บางจังหวะก็ออกแรงกดหัวผมลงเพื่อให้สัมผัสเข้ากับร่องเสียวเธอหนักขึ้น ผมเลียจนน้ำเงี่ยนเป้ชะโลมไปทั่วใบหน้า ก็ตัดสินใจว่าคงได้เวลาอันสมควรแล้ว ที่จะส่งท่อนควยอุ่นๆของสามีเธอคนนี้ ให้กลับคืนสู่รูรักที่ห่างหายไปนาน ลำควยที่แม้จะไม่ได้ยาวใหญ่เหมือนกับของใครๆ แต่มันก็คือท่อนควยที่คอยมอบความสุขให้กับเธอมาตลอดระยะเวลาหลายปีในชีวิตคู่ของเรา
ผมถอดกางเกงนอนตัวเองออก จับท่อนเนื้อที่แข็งผงาดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ จรดเข้าไปกับปากทาง ค่อยๆ ออกแรงดันเข้าไปช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง เป้ร้องอ๊ะ... วินาทีที่มันเบียดเสียดเข้าไป มันค่อนข้างเข้าง่ายกว่าแต่ก่อนมาก เพราะถูกขยายพื้นที่เพื่อรองรับท่อนควยที่ยาวใหญ่กว่าของผมอยู่พอสมควรก่อนหน้านี้ ไม่ต่างอะไรจากการขับซูซูกิสวิฟท์เข้าไปจอดในพื้นที่สำหรับรถอีซูซูดีแม็คซ์เลยล่ะครับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นความอบอุ่นที่ห่อหุ้มลำควยของผมเอาไว้ด้วยความรักของเธอ มันคือร่องรักเพียงหนึ่งเดียวที่ผมจะคิดเสียบควยเข้าไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่นี้
เป้พยายามขมิบตอดเป็นระยะๆ เพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์ความเสียวให้กับผม ผมเองรู้ดีว่าตัวเองคงไม่ได้มีลีลาหวือหวาและเย็ดเก่งเหมือนไอ้โจ้กับไอ้แมน จึงพยายามใช้เทคนิคเดิมๆ ที่เคยทำให้เธอเสร็จ ด้วยการเย็ดบดอัดให้ถูไถกับเม็ดเสียวของเธอแบบเน้นๆ ซึ่งมันก็ยังได้ผลดีอยู่ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เสียวในระดับเดียวกับไอ้สองคนนั้น แต่มันก็ยังเสียวซ่านมากพอที่จะพาอารมณ์ของเธอให้พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดได้ในที่สุด
“อ๋าาาา.... บอยยย.... ยยย บอยยยย....” เสียงเธอร้องครวญครางในทำนองที่คุ้นหู เป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบางอย่าง ผมได้ยินก็ยิ่งเงี่ยนง่าน เร่งตะบันอัดควยเข้าออกรูหีของเธอเน้นๆ แบบหนักๆดังปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ได้อีกประมาณสองนาที เราทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันแน่นในท่าเบสิค สองขาเป้เกี่ยวกระหวัดตัวผมไว้ มือเกร็งจิกหลังแน่น ปากก็ประกบจูบกันนัวเนีย พร้อมๆ กับร่างที่สั่นสะท้าน เมื่อผมปล่อยน้ำเชื้อแห่งความรักเข้าไปในช่องท้องของเธอแบบหมดหลอด เรานอนกอดกันหมดแรง เหงื่อโซมกายทั้งคู่จนที่นอนเปียกไปหมด ไม่รวมถึงน้ำรักของผมกับเป้ที่ค่อยๆ ไหลเปรอะไปตามผ้าปูที่นอนจนเปียกเป็นดวงๆ เป้มองหน้าผม ผมก็มองหน้าเป้ เราสบตาแต่ไม่ได้พูดอะไรกัน แล้วเป้ก็ยิ้มๆ ตีไหล่ผม
“บอยอ่า แตกในอีกแล้วนะ เดี๋ยวก็ท้องขึ้นมาหรอก” คำพูดของเป้ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้ แม้ว่ารสเสียวจากเซ็กส์ที่พึ่งผ่านไปจะเทียบกับคนอื่นๆ ไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อย มันก็เป็นเซ็กส์ที่ก่อตัวขึ้นจากความรักความผูกพันธ์ล้วนๆ ซึ่งมีคุณค่ามากมายกว่าเซ็กส์ที่เธอเคยมีกับรุ่นน้องคนอื่นๆ แบบเทียบกันไม่ได้
“ท้องก็ดีสิ เจ้าโอมจะได้มีน้องสาวอีกคนไง”
“โหยยย บอยมาท้องแทนเค้ามั้ยล่ะ เหนื่อยนะรู้มั้ยกว่าจะคลอดออกมาแต่ละคน อ้วนก็อ้วนด้วย ทำอะไรก็ลำบากไปหมด ฮึ” เป้พูดงอนๆ จนผมอดง้อเธอไม่ได้
“สัญญาเลยว่าถ้าเป้ท้องนะ บอยจะเป็นคนดูแล คอยปรนนิบัติให้เป้สบายเอง ไม่ต้องห่วงเลย” เธอได้ยินก็ยิ้มกว้าง แล้วขยับเข้ามากอดผมแน่น พลางจุ๊บปากผมเป็นการขอบคุณ
“เป้รักบอยที่สุดเลย”
“จ้า บอยก็รักเป้เหมือนกัน รักมากด้วยรู้มั้ย” เรานอนกอดกันจนหลับไปพร้อมๆ กับใบหน้ายิ้มแฉ่งทั้งคู่ มันเป็นอีกหนึ่งคืนที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต ค่ำคืนที่ทำให้ผมได้ค้นพบสัจธรรมชีวิตเล็กๆ ว่า บนโลกอันกว้างใหญ่และแสนจะวุ่นวายนี้ ขอเพียงแค่มีใครหนึ่งคน ที่พร้อมจะเข้าใจและเคียงข้างสนับสนุนเรา ไม่ว่าเราจะเคยตัดสินใจผิดพลาด หรือทำเรื่องเลวร้ายลงไปก็ตาม ขอเพียงแค่นี้จริงๆ ชีวิตก็ไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว..
เรื่องราวทั้งหมดระหว่างเป้กับผมและหนุ่มๆ รุ่นน้องก็เลยจบลงด้วยประการฉะนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดก็ผ่านมาได้ประมาณ 3 ปี แล้ว ตอนนี้ครอบครัวของเราก็กลับมาหวานชื่นกันอีกครั้งเหมือนเดิม ผมกับเป้ก็ยังพยายามทำตัวเหมือนคนจีบกันใหม่ๆ เหมือนเช่นคำแนะนำที่เคยได้รับจากไอ้โจ้ในตอนแรก บางวันก็แกล้งโทรไปคุยจีบเธอกระหนุงกระหนิงในเวลางานก็มี เรื่องที่พอจะเสียใจอยู่บ้างก็คือเรื่องที่อาการป่วยของคุณแม่เป้ทรุดหนักลง จนสุดท้ายท่านก็เสียไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ผมเองก็พยายามปลอบใจเป้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่เธอเองก็เข้มแข็งมากพอที่จะผ่านเรื่องราวความสูญเสียครั้งนี้ไปได้เมื่อมีกำลังใจจากครอบครัวรอบข้าง
ส่วนเจ้าโอมลูกชายตัวน้อยนั้นก็เติบโตขึ้นทุกวัน ตอนนี้เข้าชั้นเตรียมประถมแล้ว แถมได้เลื่อนขั้นกลายเป็นพี่ชายคนโตให้กับน้องเอม น้องสาววัย 9 เดือนของเค้าอีกด้วย ส่วนเรื่องบนเตียงของเราน่ะเหรอครับ ทุกวันนี้ก็ยังซู่ซ่าไปตามเรื่อง แม้จะไม่ได้มีตัวช่วยอย่างเจ้าพวกรุ่นน้องจอมแสบ และจำนวนครั้งก็อาจจะลดลงเหลือเพียงอาทิตย์ละครั้ง แต่เราก็พยายามช่วยกันมอบความรักและรสสัมผัสให้แก่กันอย่างเต็มที่ พูดคุยในสิ่งที่เราต้องการมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเซ็กส์ครั้งสุดท้ายที่เราจะมีให้แก่กัน
และนั่นแหละครับ คือเคล็ดลับที่ทำให้ชีวิตคู่ของเรายังคงสวยงามจนถึงทุกวันนี้
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว #15
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น