วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว เสียวคูณสอง #1


 

ก็ตามชื่อนะฮะ ภาคต่อจากเรื่องแรกที่เคยเขียนไป
เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคู่ของบอย-เป้ ที่กำลังจะได้มาสนิทสนมกับคู่ของรุ่นน้องอย่างโจ้-กุ๊กแบบแนบแน่นสุดๆ

แต่ช่วง 5 ตอนแรก จะเป็นมุมมองของสาวเป้ที่เล่าย้อนกลับไปในช่วงต้นอีกที
ถ้าใครเบื่อๆ ขี้เกียจอ่านซ้ำ ก็ข้ามไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยมาตามตั้งแต่ตอน 6 อีกที :)

จบ.



---------------

“ช่วงนี้งานยุ่งเหรอลูก?” เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยทักขึ้น เรียกความสนใจจากหญิงสาวที่กำลังนั่งใจลอยอยู่บนโซฟาให้หันกลับไปมองตามที่มา   
“อะไรนะคะ?” เธอขานรับกลับไปด้วยคำถาม เนื่องจากไม่ทันตั้งใจฟัง
“แม่ถามว่าช่วงนี้งานยุ่งเหรอ เห็นเราทำหน้านิ่วคิ้วขมวดบ่อยๆ” ผู้เป็นแม่เอ่ยทวนคำถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย

“อ๋อ... เปล่าค่ะแม่” เธอฝืนยิ้มตอบแล้วก็นิ่งเงียบไปอีก ฝ่ายแม่ที่จับสังเกตถึงความกลัดกลุ้มในใจของลูกสาวได้ จึงเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาด้วยตัวเอง
“หรือว่ามีปัญหากับบอยรึเปล่า? บอกแม่ได้นะ” คำพูดของผู้เป็นแม่เล่นเอาคู่สนทนาถึงกับเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“แม่รู้เหรอคะ...?” เธอเอ่ยออกมาได้แค่นั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้ารับเบาๆ

พอเห็นแบบนั้นแล้ว หญิงสาวจึงเริ่มนึกถึงภาพใบหน้าของชายหนุ่มคู่ชีวิตที่ชื่อว่า 'บอย' ขึ้นมา.... นึกถึงภาพรอยยิ้มอบอุ่นใจดีที่เขาเคยมีให้เธอมาตลอด ภาพช่วงเวลาที่ทั้งคู่เริ่มคบหากันในฐานะคู่รักหนุ่มสาว ก่อนจะตามมาด้วยภาพที่ชายหนุ่มค่อยๆ คุกเข่าลงข้างหน้าเธอ พร้อมกับเอ่ยประโยคที่จะทำให้เธอไม่มีวันลืมไปอีกชั่วชีวิต...

“แต่งงานกันนะเป้...”

ประโยคสั้นๆ เพียงห้าพยางค์ ที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตเธอ ทั้งที่ดีงาม... และเลวร้ายเกินกว่าที่จะทำใจยอมรับได้... ซึ่งพอมองย้อนกลับไปแบบนี้แล้ว เธอก็ได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ ด้วยความเศร้าใจ

=======================================

เป้ หญิงสาวหน้าตาเรียบๆ หมวยๆ วัย 30 ต้นๆ เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวย-รวย-เก่ง หรือว่าประสบความสำเร็จอะไรมากมาย ทรวดทรงก็ไม่ได้โดดเด่น ออกอวบนิดๆ ตามประสาคุณแม่ลูกหนึ่ง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นผู้หญิงวัยทำงานธรรมดาๆ คนนึง ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสังคมรอบๆ ตัวนี่แหละ แต่สิ่งหนึ่งที่มันค่อนข้างจะพิลึกพิลั่น จนต้องหยิบยกเอามาขยายความให้คุณฟังก็คือ... เรื่องราวกุ๊กกิ๊กบนเตียงที่เหมือนจะธรรมดา... แต่ไม่ธรรมดาของเธอนั่นเอง

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 13 ปีที่แล้ว... สาวเป้ในคราบของนิสิตเฟรชชี่ปีหนึ่งคณะสถาปัตย์ฯ ผู้กำลังตื่นตาตื่นใจกับโลกใบใหม่ในรั้วมหาฯลัย ก็ได้มาพานพบและทำความรู้จักกับบอย ชายหนุ่มรุ่นพี่ต่างคณะ ผู้ซึ่งจะกลายมาเป็นสามีของเธอในอนาคต ผ่านทางสาวบีเพื่อนซี้ของเธอนั่นเอง

ด้วยความที่พี่ชายของบี เป็นเพื่อนซี้กลุ่มเดียวกันกับหนุ่มบอย ทำให้ทั้งคู่มักจะได้เจอหน้าคร่าตากันอยู่บ่อยๆ เวลาที่พี่ชายและน้องสาวไปมาหาสู่กัน ซึ่งสาวเป้เองก็มองชายหนุ่มไว้แค่เพียงในฐานะของ 'เพื่อนของพี่ชายเพื่อน' อีกที โดยที่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น เนื่องจากเธอเองก็พึ่งจะเลิกรา และอยู่ในช่วงห่างๆ กับทีแฟนเก่าได้ไม่นานเท่าไหร่ จึงทำให้เป้ไม่ได้คิดสนใจมองใครอีกในเวลานั้น

ซึ่งฝ่ายหนุ่มบอยเองก็ดูท่าว่าจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นกัน เวลาเจอหน้ากันก็มีแค่ทักทายบ้างตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องคนรู้จัก ไม่ได้มีการชวนคุยสานต่อความสัมพันธ์อะไรมากมายเท่าไหร่ แม้ว่าทั้งคู่จะเคยคุยๆ เล่นๆ กันบ้างเป็นครั้งคราวผ่านทาง MSN ก็ตาม

“อ้าว ยังไม่กลับเหรอเป้?” หนุ่มบอยเอ่ยทัก เมื่อเห็นหญิงสาวยังนั่งเล่นอยู่ที่ม้านั่งหน้าตึกในช่วงพลบค่ำเพียงลำพัง
“แฮะๆ ยังค่ะพี่ อีกเดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ ขี้เกียจเจอรถติด... แล้วพี่บอย ยังไม่กลับเหรอ?” สาวเป้ตอบยิ้มๆ พลางถอดหูฟัง MP3 ของตัวเองออก ด้วยไม่รู้จะคุยอะไรต่อเธอจึงลองถามคำถามเดียวกันกลับไป

“อ๋อ พี่พึ่งแก้แบบงานเสร็จน่ะ ก็เลยลงมาช้าหน่อย พวกไอ้เอ ไอ้ม่อนมันชิ่งกันไปหมดแล้ว ไม่ยอมรอเลย” บอยตอบพลางทำหน้าเซ็งๆ นิดๆ
“แล้วนี่จะกลับยังล่ะ? เป้ต้องขึ้นรถข้างหน้านี้ใช่มั้ยล่ะ เดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อนก็ได้ ยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเสนอตามมารยาท

หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ แล้วจัดแจงเก็บข้าวของเข้ากระเป๋าเป้แล้วลุกสะพายเดินตามชายหนุ่มรุ่นพี่ไป ทั้งคู่เดินมาหยุดตรงหน้าป้ายรถเมล์ด้านหน้ามหาฯลัย ซึ่งหญิงสาวมักจะมารอคอยขึ้นรถกลับบ้านที่นี่เสมอ

“เออ แล้วนี่เป้กินมื้อเย็นอะไรรึยัง?” หนุ่มบอยเอ่ยถามขึ้นมา
“ยังเลยค่ะ ว่าจะกลับไปกินที่บ้านนั่นแหละ” เป้ตอบกลับไปเรียบๆ
“ไปกินร้านป้านางกันมั้ย? เดินเลยไปข้างหน้านี้เอง นี่พี่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน” ชายหนุ่มเสนอไอเดียขึ้นมากะทันหัน เล่นเอาหญิงสาวแทบตั้งตัวไม่ติด แต่เธอก็ยอมตอบตกลงไปด้วยกัน

ชายหนุ่มกับหญิงสาวนั่งทานก๋วยเตี๋ยวกันสองคนเงียบๆ โดยที่หนุ่มบอยก็คอยชวนเธอคุยเป็นระยะๆ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ทั้งเธอและเขาได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันแบบสองต่อสองอย่างนี้ โดยที่ไม่มีเพื่อนๆ คนอื่นๆ มาเอี่ยวด้วย บรรยากาศแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้หญิงสาววัยว้าวุ่น เกิดอาการเขินๆ เกร็งๆ ขึ้นมาชอบกล เนื่องจากเธอไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดี ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไร เพราะที่ผ่านมาเธอก็ไม่ค่อยได้สนใจรุ่นพี่คนนี้ซักเท่าไหร่ เนื่องจากนิสัยที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อยของเขา

แต่พอได้ลองมาใช้เวลานั่งคุยกันจริงๆ จังๆ หญิงสาวจึงได้พบว่า ชายหนุ่มรุ่นพี่เองก็เป็นคนอารมณ์ดี และกวนตีนยิ่งกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก

“เออ พี่ถามอะไรหน่อยดิ” หนุ่มบอยเปิดประเด็นขึ้นมา
“อาฮะ?”
“ตกลงแล้วนี่ เป้ไม่ได้เป็นทอมใช่ป่ะ?”

“เฮ้ย! บ้า!! ไปเอามาจากไหนพี่!? เป้เนี่ยนะทอม?”
“อ้าว.. ก็เห็นเป้ดูห้าวๆ ตัดผมสั้นๆ แถมตัวติดกับยัยบีตลอดเวลา ใครๆ เค้าก็นึกว่าเป้เป็นแฟนบีกันหมดดิ” ชายหนุ่มอธิบายให้เธอเข้าใจ
“เฮ้ยยย... ไปกันใหญ่แล้ว เป้เป็นผู้หญิงงง ยัยบีนี่ก็เพื่อนกัน ดูยังไงเป็นทอมเนี่ย?” สาวเป้โอดครวญด้วยความร้อนใจ

“ก็เป้เล่นใส่เสื้อกับกระโปรงตัวหลวมโพรกงี้ รองเท้าคอนเวิร์สงี้ แถมดันรัดนมมาเรียนอีก จะไม่ให้พี่เข้าใจผิดได้ไง” หนุ่มบอยพูดด้วยสีหน้าทะเล้น
“กวนแระๆ อันหลังนี่มันแบนเองตามธรรมชาติป่ะ...” เป้พูดค้อนๆ แก้มป่อง กำหมัดค้างกลางอากาศ ทำท่าว่าจะเงื้อต่อย เรียกเสียงหัวเราะคำโตจากชายหนุ่ม

“สรุปว่าไม่ได้เป็นทอม?” หนุ่มรุ่นพี่ถามพลางตักลูกชิ้นเข้าปาก
“ไม่ได้เป็นดิ” สาวรุ่นน้องตอบ ใช้ตะเกียบคีบชิ้นเกี๊ยวเข้าปากเช่นกัน
“แล้วก็ไม่ได้คบกับบีอยู่?” หนุ่มรุ่นพี่ถามต่อ มือก็แกะห่อแคปหมูไปด้วย
“อาฮะ”  สาวรุ่นน้องว่าพลางใช้ช้อนตักน้ำซุปขึ้นซดเสียงดังซ้วบบ...บบ

“งั้นก็ดีเลย พี่จะได้เดินหน้าจีบได้เต็มที่” บอยเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาเป็นประกาย
“พรืดดด....ดด ห๊ะ!? พี่จะจีบเป้เนี่ยนะ...?” เป้อุทานออกมาด้วยความตกใจ เผลอพ่นน้ำซุปกระเด็นออกจากปาก
“เปล่า... จีบบี!” ชายหนุ่มยิงมุกจบก็หัวเราะร่วน ปล่อยให้สาวรุ่นน้องออกอาการหน้าแตกเขินอายจนแก้มแดง

พอทานกันเสร็จ ชายหนุ่มก็ยังมายืนรอเป็นเพื่อนเธอ รอจนกระทั่งส่งเธอขึ้นรถเมล์เรียบร้อยแล้วตัวเองจึงเดินข้ามฟากไปรอรถที่ป้ายฝั่งตรงข้าม ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเพียงการกระทำเล็กๆ น้อยๆ  ที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก และชายหนุ่มเองก็อาจจะแค่ทำไปตามมารยาท แต่สาวน้อยวัย 18 อย่างเป้ก็อดที่จะปลื้มใจในความมีน้ำใจของชายหนุ่มรุ่นพี่ไม่ได้

น่าแปลกที่ยิ่งนานวัน หนุ่มบอยก็ยิ่งดูมีท่าทีใกล้ชิดสนิทสนมกับสาวเป้มากขึ้นทุกที จนเธอเองชักจะเริ่มรู้สึกได้ถึงบรรยากาศขัดเขินแปลกๆ ระหว่างทั้งคู่ แรกๆ เธอก็ยังคิดว่าหนุ่มบอยคงจะตั้งใจมาจีบสาวบีเพื่อนซี้ของเธออย่างที่เคยพูดไว้เล่นๆ เนื่องจากบีเองก็เป็นสาวสวยหน้าตาดีคนนึงในมหาฯลัย ในขณะที่ตัวเธอเองนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่พอมายืนเทียบกันกับสาวเพื่อนซี้ข้างๆ ก็เลยออกจะดูหมองๆ ลงไปบ้าง

นานๆ ที ชายหนุ่มก็จะแวะเวียนเอาขนมมาฝากเธอบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงเริ่มแชทมาคุยเล่นกับเธอทาง MSN อยู่บ่อยๆ ทั้งคู่จึงเริ่มที่จะสนิทสนมกันในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสาวเป้ก็เริ่มแน่ใจแล้วว่าหนุ่มรุ่นพี่นั้นตั้งใจที่จะเข้าหาเธอต่างหาก

และหลังจากที่สนิทกันจนโทรคุยเล่นได้เป็นปกติแล้ว ชายหนุ่มจึงลองเอ่ยปากชวนหญิงสาวไปดูหนังด้วยกันแบบสองต่อสอง เพราะรู้ดีว่าเธอนั้นชอบดูหนังเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว ซึ่งสาวเป้เองก็ตอบตกลงไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แค่นึกดีใจที่มีคนช่วยออกค่าตั๋วให้ฟรีๆ

ซึ่งหนังเรื่องแรกที่ทั้งคู่ตัดสินใจดูด้วยกันก็คือ... 'Blade'

“เป้ชอบดูหนังแนวนี้ด้วยเหรอ?”
“อืม ก็ดูได้หมดอ่ะพี่”
“เออ แปลกดี”
“แปลกไงอ่ะพี่”

“ไม่รู้ดิ ก็หนังมันดู... ยังไงๆ ไม่รู้ มีแต่ฉากฆ่ากันโหดๆ พี่นึกว่ามันจะบู๊กันสนุกกว่านี้ซะอีก”
“เอาน่ะ ลองดูไปก่อน เดี๋ยวก็บู๊กันแล้วมั้ง”
“อืมๆ” ชายหนุ่มเออออตามแล้วเงียบไป แต่นั่งดูไปได้อีกไม่กี่นาที ก็เริ่มตามเรื่องราวในหนังไม่ไหว จึงใช้มือสะกิดหญิงสาวเพื่อหมายจะชวนคุยอีกรอบ

“เป้ๆ...” หนุ่มบอยกระซิบเบาๆ
“อย่าพึ่งชวนคุยซี่.. เป้ดูหนังอยู่” หญิงสาวครางบ่นอย่างขัดเคืองใจ จนชายหนุ่มต้องรีบถอยกรูด
“อ่ะๆ โอเคๆ” เขาว่าแล้วหันกลับมาเพ่งความสนใจกับฉากในหนังแทน พอหนังจบ สาวรุ่นน้องจึงใช้มือสะกิดปลุกหนุ่มบอยที่เผลองีบหลับไปในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเพื่อเดินออกจากโรง

“โหย พี่อ่ะ หลับเฉยเลย ช่วงท้ายมันออกจะสนุก” สาวเป้บ่นตัดพ้อ
“โทษที สงสัยเมื่อคืนพี่นอนดึกไปหน่อย” หนุ่มบอยตอบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“ดึกอะไรเล่า ก็พี่วางหูจากเป้แล้วก็นอนเลยไม่ใช่อ่อ?” หญิงสาวยังไม่ยอมเลิกรา
“เออๆ นั่นแหละ 5 ทุ่มก็ดึกแล้วนะนั่น.. ป่ะๆ กลับเหอะ เดี๋ยวจะไม่มีรถ” ชายหนุ่มพูดตัดบทดื้อๆ

ทั้งคู่ค่อยๆ ใช้เวลาไปเที่ยว ไปดูหนัง กินข้าวด้วยกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เวลาเลิกเรียน หนุ่มบอยก็จะมารอรถเมล์เป็นเพื่อน หรือถ้าวันไหนที่เลิกไวๆ ก็จะนั่งรถไปส่งเธอที่บ้านด้วยกัน ก่อนจะขึ้นรถย้อนกลับมาที่มหาฯลัย แล้วนั่งรถอีกต่อกลับหอตัวเอง

จากที่เธอไม่เคยมองเห็นหนุ่มแว่นคนนี้อยู่ในสายตาเลย แต่เพราะความใจดีของชายหนุ่ม บวกกับความเป็นคนมองโลกในแง่ดีมีอารมณ์ขัน จึงทำให้สาวเป้เริ่มที่จะประทับใจในตัวรุ่นพี่คนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแม้แต่สาวบีเพื่อนซี้ก็ยังแสดงท่าทีเชียร์แบบออกหน้าออกตา คอยพูดเป่าหูให้ทั้งคู่คบหากันเป็นแฟนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่เธอก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจซักเท่าไหร่ว่าชายหนุ่มจะคิดกับเธอเช่นไรกันแน่

=======================================

“หูยย เป้พึ่งรู้นะเนี่ย ว่าพี่บอยจะเป็นคนกวนตีนขนาดนี้” สาวเป้บ่นงอนๆ หลังจากที่โดนชายหนุ่มแกล้งพูดเล่นมุกล้อเลียนอย่างเจ็บแสบ ระหว่างที่โทรคุยเล่นกันอยู่
“แหม... พี่ก็กวนตีนเฉพาะกับคนที่สนิทกันเท่านั้นแหละ ถ้าไม่สนิทนี่พี่ไม่เล่นด้วยให้เสียมือหรอกนะ”
“อ้าว.. แล้วนี่เป้เผลอลดตัวไปสนิทกับพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? มั่วป่าววว?” หญิงสาวแกล้งกระเซ้าหยอกกลับไป

“เอ้า! ยัยนี่! ดูพูดเข้า... นับวันชักจะปากดีขึ้นทุกทีนะเรา” บอยบ่นงุบงิบ
“ก็พี่เริ่มก่อนเองนา กวนมากวนกลับ ไม่โกง สม ฮ่าๆๆ” เป้หัวเราะตอบกลับมาอย่างสะใจ
“เออ ตามสบายเลย”

“แล้วนี่ พรุ่งนี้คาบแรกกี่โมงอ่ะ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเปลี่ยนเรื่อง
“9 ครึ่งง่ะ พี่ล่ะ?”
“บ่าย”
“ดีๆ งั้นพรุ่งนี้เช้าฝากซื้อหมูปิ้งร้านเดิมมาให้เป้ด้วยนะ” หญิงสาวกล่าวไหว้วานเป็นการตบท้าย

“ห๊ะ? พี่เข้าหลังเธอตั้งเป็นชั่วโมงนะ? มานั่งรอกว่าจะจบคาบแรก มันจะไม่หิวก่อนเหรอ” หนุ่มบอยทักท้วง
“เอ้า... พี่ก็เอามาให้เป้ ก่อนที่เป้จะเข้าเรียนไง ไม่เห็นยาก”
“โอ้โห! แม่คุณ สรุปคือพี่ก็ต้องแหกขี้ตาตื่นถ่อเอาหมูไปให้เธอตั้งกะ 8 โมง 9 โมงเนี่ยนะ?” หนุ่มรุ่นพี่อุทานออกมา
“ถูกต้องนะคร้าบบบ” หญิงสาวเลียนเสียงแบบคุณปัญญา พลางทำนิ้วเป็นสัญลักษณ์แฟนพันธุ์แท้อยู่คนเดียว

“โอ๊ย ไม่มีทางอ่ะ ง่วงจะตาย ใครจะไปตื่น” บอยบอกปฏิเสธไปห้วนๆ
“เออ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป ก็แค่จะจำไว้.. จำไว้เลยนะ ฝากแค่นี้... ก็ไม่ได้” เป้พูดงอนๆ จนชายหนุ่มต้องยอมเป็นฝ่ายง้อ
“น่ะ... งอแงอีก เออๆ เดี๋ยวซื้อไปให้ก็ได้”
“จริงอ่ะ? จริงๆ นะ?” สาวเป้ส่งเสียงดีอกดีใจลอดมาทางโทรศัพท์

“อืม ประมาณ 9 โมงละกันนะ เช้ากว่านี้ไม่ไหว ง่วง” บอยยื่นข้อเสนอ
“ขอบคุณค้าบบบบ ใจดีจังเลย” เป้รับคำอย่างว่าง่าย
“ฮึ ไม่ต้องมายอเลย แถวบ้านตัวเองก็ร้านหมูปิ้งแท้ๆ”
“ก็มันไม่อร่อยเท่าร้านนั้นนี่นา...” เป้ทำเสียงละห้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบกันไปอีกครู่ใหญ่ๆ

“เออพี่บอย เป้ขอถามอะไรหน่อยดิพี่?” สาวเป้เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบเป็นคนแรก
“หืมม?” หนุ่มบอยครางตอบในลำคอ
“ตกลงทุกวันนี้ เราสองคนนี่ยังไงอ่ะ?” หญิงสาวถามคำถามที่ค้างคาใจเธอมาพักใหญ่ๆ
“หมายถึงยังไง?” ชายหนุ่มทวนคำถามอีกครั้ง

“คือ... นี่พี่กำลังจีบเป้อยู่ป่ะ? หรือว่าเรากำลังคบกันอยู่? เป้ไม่ค่อยเคลียร์ว่ะ” เป้พยายามอธิบาย
“อืมมมมม.... พี่ว่า มันน่าจะอยู่ระหว่างกึ่งกลางล่ะมั้ง... แล้วเป้รู้สึกยังไงกับพี่ล่ะ?” บอยถามกลับไปบ้าง
“เป้ว่าพี่ก็โอเคนะ คุยกันรู้เรื่องดี” เป้ตอบกลับมาตรงๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“แล้วตกลงตอนนี้มีแฟนอยู่เปล่า” บอยถามเข้าประเด็นทันที
“โห่... ไอ้บ้า คุยกันมาจนถึงขนาดนี้แล้วจะถามทำแป๊ะอะไรฟะ?” เป้ส่งเสียงเคืองๆ ตอบกลับไป
“เออน่า ตอบมาเหอะ” ชายหนุ่มยังคงดึงดันเอาคำตอบให้ได้
“ไม่มี”

“แล้วตอนนี้อยากมีมั้ย?” บอยถามต่อไปอีก
“ก็... เรื่อยๆ ยังไงก็ได้” เป้ตอบกลับไป พยายามทำน้ำเสียงให้ดูปกติที่สุด
“แล้วถ้าพี่จะขอคบกับเราเป็นแฟน เป้จะว่ายังไง” คำพูดของชายหนุ่มรุ่นพี่ ทำเอาหญิงสาวแทบหลุดกรี๊ดออกมา

“ก็... เดี๋ยวขอลองไปคิดดูก่อน... สักสองเดือน” หญิงสาวตอบเสียงสั่น แกล้งพูดยั่วเย้าชายหนุ่มไปเล่นๆ
“โว๊ะ! จะคิดอะไรนานขนาดนั้นฟะ อย่าเล่นตัวดิ ตกลงจะยอมคบกับพี่เปล่า นี่อุตส่าห์ยอมทนเขินถามไปตรงๆ แล้วนะเนี่ย” บอยโวยวายแบบเซ็งๆ
“โห... นี่เขินแล้วเหรอเนี่ย?”

“เออ... สรุปจะไม่ตอบใช่มะ งั้นวางหูแล้วนะ...” หนุ่มบอยยื่นคำขาด แล้วก็เว้นช่วงรอ ขณะที่หญิงสาวก็ยังนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเหมือนกัน รออยู่เกือบๆ 10 วินาที ก่อนที่เธอจะส่งเสียงกลับมา
“... นี่วางสายไปแล้วยังเนี่ย?” หญิงสาวแกล้งถามกวนๆ

“เออออ! วางจริงๆ แระไอ้บ้า” บอยทำเสียงดุใส่
“เดี๋ยวๆๆ ดิ้ โห... คนแก่ใจน้อยว่ะ ขอคิดแป๊บนึงก็ไม่ได้...” สาวรุ่นน้องรีบยื้อชายหนุ่มไว้ก่อน แทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ หนุ่มบอยที่รู้ตัวว่ากำลังโดนล้อเลียนจึงออกอาการงอนๆ บ้าง
“เนี่ย ก็เราเอาแต่เล่นตัวแบบเนี้ย”
“โอเคๆ ตอบแล้วๆ”

“ตกลงคำตอบคือ...?” บอยถามย้ำอีกครั้ง
“คบ... ก็ได้... มั้ง” เป้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ทำไมต้องมีมั้งด้วยฟะ?” ชายหนุ่มถามเสียงเซ็งๆ
“อ่ะๆ คบก็ได้ค่า” สาวน้อยตอบเสียงใสอย่างร่าเริง

“จริงดิ!?”
“เอ๊า! พี่นี่ยังไงเนี่ย... พอจะยอมคบแล้วก็ดันไม่เชื่อซะงั้น”
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่หมายถึง เราน่ะแน่ใจแล้วใช่มั้ย? นี่ก็พึ่งจะคุยกันได้ไม่นานเท่าไหร่เอง”
“อืม... ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เป้ว่าพี่บอยก็เข้ากับเป้ได้ดีนิ ถ้าเกิดลองคบกันแล้วมันไม่เวิร์คจริงๆ ถึงตอนนั้นค่อยกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมก็ได้”

“โหย อย่าฝันเลย ถ้าเกิดพี่โดนเป้ทิ้ง รับรองไม่คุยต่อแน่ หน้ายังไม่อยากจะมอง”
“โว๊ะ! ตานี่... รู้ได้ไงว่าเป้จะเป็นคนทิ้ง ตัวเองนั่นแหละ อาจจะหนีไปมีกิ๊กก่อนก็ได้”
“ไม่อ่ะ ไม่มีทาง พี่ว่าเป้ต้องแอบหนีไปมีคนอื่นก่อนพี่ชัวร์ พนันกันมั้ยล่ะ?”
“เออ มาเด้” หญิงสาวตอบกลับไปอย่างท้าทาย

“พอๆๆ ยังไม่ทันจะได้คบกันเลย จะรีบไปมีกิ๊กกันซะแล้ว งั้นตกลงตอนนี้... เราเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้วนะ” หนุ่มบอยเปลี่ยนโทนเสียงไปเป็นนุ่มนวลใจดีอีกครั้ง
“อื้อ...” สาวเป้ตอบทันควัน
“แล้ว... เราจะคุยกันยังไงดี หมายถึง... จะให้เรียกกันเหมือนเดิมมั้ย หรือต้อง... ตัวเอง เค้า... เรา... เธอ?” บอยเอ่ยถาม

“ไม่รู้อ่ะ เราก็ได้มั้ง ดูเก๋าดี แต่เป้ไม่เรียกบอยว่าพี่แล้วนะ บอกไว้ก่อน อิอิ” หญิงสาวพูดอย่างอารมณ์ดี
“นั่นง่ะ มาถึงก็ปีนเกลียวเลย” ชายหนุ่มบ่นขำๆ
“ก็เรียกพี่แล้วมันดูไม่สนิทนี่นา เรียกแบบนี้แหละ ดีแล้ว บอย.. บอย... บอยขา ฮ่าๆๆๆ” เป้หัวเราะร่วน
“เออ จะเรียกอะไรก็เรียกไปเหอะ ยัยจืด!” บอยตอกกลับเบาๆ

“เดี๋ยวจะโดนเพ่นกบาล เรียกให้ดีๆ เลยนะ” สาวเป้แว้ดกลับมาทันที
“อื้อหือ รู้สึกว่าพอเป็นแฟนกันแล้ว คุณน้องจะดุขึ้นเยอะเลยนะครับ ขอถอนตัวตอนนี้ทันมั้ยฮะ?”
“ฮะฮะฮ่า ช้าไปแล้วล่ะนาย ทำใจซะนะ มีแฟนเป็นจิ๊กโก๋อย่างเรา พ่อดุด้วย ขอบอก...” หญิงสาวแกล้งขู่

“ไม่เห็นเป็นไร เดี๋ยวค่อยแวะไปทักทายซักหน่อย” หนุ่มรุ่นพี่พูดท้าทายไปอย่างไม่กลัว
“เอาซี้ กล้าก็มา ขอบอกว่าพ่อเป้พกปืนติดบ้านด้วยนา ถ้าทำเป้เสียใจ... ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ ฮี่ๆๆ”
“จ้ะแม่คุณ งั้นเราไปนอนแล้วนะ ง่วงละ ฝันดีครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อหมูปิ้งไปให้”
“ค่า ฝันดีค่ะ ไว้พรุ่งนี้เช้าเจอกัน บ๊ายบาย” ทั้งคู่กล่าวลา ก่อนจะกดวางสายไปด้วยหัวใจที่พองโตขึ้นมาพร้อมๆ กัน

=======================================

ทั้งสองคนคบหากันเป็นแฟนแบบง่ายๆ โดยที่เพื่อนๆ ของทั้งคู่ต่างก็สนับสนุนเป็นอย่างดี หนุ่มบอยกับสาวเป้เองก็ยังคงทำตัวเหมือนเคยๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาหวานชื่นมากไปกว่าที่ผ่านๆ มา มันเป็นความสัมพันธ์ในแบบค่อยๆ ฟูมฟักดูแลกันและกัน ต่างคนต่างเป็นกำลังใจ คอยให้คำปรึกษาทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว และเรื่องเพื่อนๆ

เวลาว่างก็มักจะพากันไปเที่ยวเดินเล่น ดูหนัง และหาอะไรกินกันเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็เห็นจะเป็นเรื่องของการถูกเนื้อต้องตัว จับมือถือแขนกันตามประสาคนเป็นแฟนนั่นแหละ แรกๆ สาวเป้เองก็ออกอาการเขินๆ อยู่เหมือนกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้เธอเองก็พึ่งจะเคยมีแฟนแบบปั๊บปี้เลิฟมาแค่คนเดียว แถมยังคบหากันแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้มีช่วงเวลาลึกซึ้งอะไรใดๆ นอกจากการไปรับไปส่งตอนกลับบ้านเท่านั้น

ตอนแรกที่หนุ่มบอยเอ่ยปากขอจับมือในโรงหนังนั้น เล่นเอาหญิงสาววัยรุ่น ถึงกับว้าวุ่นใจจนดูหนังไม่รู้เรื่องไปครึ่งค่อนเรื่องเลยทีเดียว แต่ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากมือของชายหนุ่ม กลับสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอได้มากกว่าหนังที่กำลังดูเสียอีก พอได้จับมือกันบ่อยๆ เข้า สาวเป้จึงเริ่มเสพติด และกลายเป็นฝ่ายยื่นมือไปจับมือบอยก่อนแทน

พอการจับมือกันเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติคุ้นชินแล้ว หนุ่มบอยก็ค่อยๆ ขยับความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก ด้วยการเอ่ยขอกอดเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังใช้เวลานั่งเล่นด้วยกันที่หอของชายหนุ่ม สาวเป้ถึงกับออกอาการสะดุ้งตกใจ และคิดไปว่าแฟนหนุ่มกำลังพยายามจะรวบหัวรวบหางขอมีอะไรกับเธอด้วย จนหนุ่มบอยต้องรีบยืนยันว่าจะไม่ล่วงเกินเธอเด็ดขาด แค่เพียงอยากกอดแก้คิดถึงเธอเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้ว หญิงสาวก็ยอมตอบตกลงไปแบบกล้าๆ กลัวๆ

สัมผัสแน่นๆ จากท่อนแขนของชายหนุ่ม เล่นเอาเป้ถึงกับเผลอเคลิบเคลิ้ม ล่องลอยไปกับความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่เข้ามา ความสุขที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเผลอยื่นมือไปกอดเขาตอบโดยไม่รู้ตัว แอบรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนเนื้อบริเวณกลางตัวที่บดเบียดเข้ากับร่างเธอ ใบหน้าของหญิงสาวร้อนวูบวาบไปหมด

หนุ่มสาวทั้งคู่ยืนกอดกันตัวกลมอยู่เป็นนาที ก่อนที่หนุ่มบอยจะก้มหน้าลงมาประกบปากจูบเธอโดยไม่ได้ตั้งตัว... เพี้ยะ!! เสียงฝ่ามือนุ่มๆ ของหญิงสาวตบเข้าไปเต็มแก้มของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ

“บอยอ้ะ! เป้บอกแล้วไงว่ายังไม่พร้อม...” เป้ดุด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“อูยยย... ขอโทษๆ เราเผลอตัวไปหน่อย ก็เป้ดันตัวหอมขนาดนี้นี่นา” คำแก้ตัวของบอยฟังดูแปร่งๆ ชอบกล จนหญิงสาวต้องลองก้มหน้าลงไปดอมดมหัวไหล่ของตัวเองเพื่อพิสูจน์

“หอมเหิมอะไร อย่ามาอ้างเลย คิดเรื่องทะลึ่งอยู่อ่ะดิ มิน่า ข้างล่างงี้แข็งขึ้นมาเลยนะ”
“บ้า... ไม่ได้คิดทะลึ่งเฟ้ย แค่ตื่นเต้นขึ้นมาเฉยๆ”
“ไม่ต้องเลย ไม่เอาแล้ว เป้ไม่อยู่ดีกว่า เดี๋ยวโดนคนหื่นๆ มันปล้ำเอา” หญิงสาวว่าพลางหยิบกระเป๋า

“หู่ยยย เป้อ่ะ จะรีบกลับไปไหน ยังไม่ 5 โมงเลย” บอยออดอ้อนเนื่องจากยังไม่อิ่มจากรสสัมผัส
“ไม่อ่ะ เย็นแล้ว เดี๋ยวรถติด ป่ะๆ ลงไปส่งเลย เป้จะกลับบ้านแระ” สาวเป้พูดจบแล้วก็เดินเปิดประตูนำหน้าไป ทิ้งให้แฟนหนุ่มต้องรีบเดินตามไปส่ง

=======================================

ซึ่งแม้ว่าตอนแรกหญิงสาวจะแสดงท่าทีไม่พอใจออกไปยังไง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เธอเองกลับเฝ้าฝันถึงแต่รสจูบอันสุดแสนจะนุ่มนวล ซึ่งตัวเองพึ่งจะเคยได้รับเป็นครั้งแรกในชีวิต มันเป็นประสบการณ์ที่ดูเรียบง่าย เกิดขึ้นแบบกะทันหันโดยไม่ทันคาดคิด ก่อนจะผ่านพ้นไปในชั่วเสี้ยววินาที แต่พอเวลาผ่านไป กลับทิ้งตะกอนของความสุขเอาไว้ฝังลึกลงไปในหัวใจของหญิงสาวจนมันเปี่ยมล้นออกมา

และหลังจากผ่านไปราวๆ 2 อาทิตย์ เธอจึงยอมเปิดใจ ปล่อยให้ชายหนุ่มได้มีโอกาสมอบความสุขให้กับเธออีกครั้ง ผ่านทางริมฝีปาก...

สาวเป้ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะปล่อยใจรับความสุขจากรสสัมผัสของแฟนหนุ่ม ทั้งการกอด การจูบ หรือแม้แต่การปล่อยให้ร่างกายเบียดเสียดสัมผัสกันภายนอกเนื้อผ้า เธอค่อยๆ คุ้นเคยกับการกระทำเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมองมันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรมากมายเท่าไหร่ แม้ว่าบางครั้งฝ่ามือของชายหนุ่มจะเผลอสัมผัสโดนเข้าที่หน้าอกหน้าใจของเธอบ้าง แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ออกอาการโวยวายใดๆ นอกจากทำหน้าเขินๆ อายๆ

ขณะที่ทางฝั่งของบอยเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าแฟนสาวของตัวเองนั้น ทั้งสดซิง ทั้งอ่อนด้อย และไร้ประสบการณ์ทางเพศแบบแทบจะศูนย์เปอร์เซนต์เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าตัวเค้าลองเกลี้ยกล่อมตะล่อมดูดีๆ ก็คงจะสามารถหาทางเจาะไข่แดงเธอได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มเองกลับไม่เคยคิดที่จะฝืนใจเธอเลยแม้แต่น้อย โดยปล่อยให้เวลาและบรรยากาศที่เหมาะสมเป็นใจ เป็นฝ่ายคืบคลานเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยตัวของมันเอง

ซึ่งก็ต้องรอไปเกือบๆ 2 ปี จนกระทั่งหนุ่มบอยกำลังจะเรียนจบนั่นแหละ ทั้งคู่จึงได้กลายเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์...

มันเป็นวันหยุดธรรมดาๆ เหมือนที่ผ่านๆ มา สาวเป้และหนุ่มบอยเองก็พึ่งจะกลับมาพักเหนื่อยที่ห้องหอของฝ่ายชาย หลังจากที่พากันไปตะลอนทัวร์ เดินซื้อของกระจุกกระจิกที่สวนจตุจักรกันจนขาลาก หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ค่อยๆ ถอดรองเท้าผ้าใบของตัวเองวางไว้ที่ชั้นรองเท้า พอเดินเข้าไปล้างเท้าในห้องน้ำเสร็จเธอก็กระโดดทิ้งตัวลงไปบนที่นอนนุ่มๆ ทันที

“เฮ้ออออ เมื่อยโคตร” เป้ครางออกมาด้วยความอ่อนล้า
“ยังมีหน้ามาบ่นอีก ก็ชวนกลับตั้งกะบ่าย 3 แล้วยังจะดื้อขอเดินต่อเอง” หนุ่มบอยหันหน้ามาแซว
“แต่บอยก็ได้ของเหมือนเค้านั่นแหละน่า อย่ามาพูดเลย ฮึ ตัวเองซื้อเยอะกว่าเค้าอีก” หญิงสาวโต้กลับไปทันควัน
“แต่เสื้อเรารวมกันแล้วยังถูกกว่ารองเท้าเป้อีกนา” ชายหนุ่มเองก็ยังไม่ยอมแพ้ พร้อมกับปีนขึ้นมานอนพักข้างๆ แฟนสาว

“เออ บ่นไปเหอะ คราวหน้าเป้ไปคนเดียวก็ได้ เชอะ! ดูดิ ทีก่อนเป็นแฟนนะ ไปรับไปส่งไม่เคยจะบ่น... พอเป็นแฟนกันแล้วล่ะ บ่นเป็....” หญิงสาวพูดได้ถึงแค่นั้นแล้วก็เงียบเสียงไป เพราะโดนแฟนหนุ่มโน้มตัวเข้ามาประกบปากจูบอย่างกะทันหัน สาวเป้ที่กำลังตกใจจึงได้แต่หลับตาปี๋ ก่อนที่จะประกบบดปากตัวเองตอบโต้กลับไปโดยอัตโนมัติ ทั้งคู่ดูดปากกันอยู่เกือบๆ นาที หนุ่มบอยจึงค่อยๆ ถอนปากออก

“ฮื่อออ นี่แน่ะ พูดมากนัก” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
“แฮ่กๆ... ไอ้บ้า หาว่าเค้าพูดมากเหรอ” หญิงสาวโวยพร้อมกับเอามือตีแขนแฟนหนุ่มดังเพี้ยะๆ ไม่หยุด จนบอยต้องใช้มือรวบตัวสาวเป้มากอดไว้เพื่อให้เธอหยุดตีเสียที
“โอ๊ยๆ พอแล้วๆ ยอมแล้ว ไม่ว่าแล้วคร้าบ” ชายหนุ่มโอดโอยพร้อมกับหอมแก้มเธอเป็นการขอโทษ

“ฮึ! ไม่ต้องเลย งอนแล่ว! เอ๊ะ อย่าซี่...” สาวเป้อุทานออกมาเมื่อแฟนหนุ่มเริ่มใช้มือลูบไล้สัมผัสหน้าอกนุ่มๆ ของเธอ ช่วงหลังๆ นั้น ทั้งเธอและบอยเริ่มที่จะมีการสัมผัสลูบไล้ร่างกายของกันและกันมากขึ้น เวลาที่ทั้งคู่นอนกอดจูบกัน ซึ่งที่ผ่านๆ มาก็เป็นเพียงแค่การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าด้านนอกเท่านั้น แตกต่างไปจากครั้งนี้... ที่หนุ่มบอยกำลังพยายามสอดมือล้วงเข้าไปใต้เสื้อยืดของเธอแบบตรงๆ!

“บอย... อย่า....” เป้พยายามร้องห้ามเสียงอ่อย รู้สึกตื่นเต้นและขัดเขินไปพร้อมๆ กันจนทำอะไรไม่ถูก มือไม้อ่อนปวกเปียกไปหมด รสจูบเมื่อครู่ เหมือนไปปลุกสวิตซ์อารมณ์วาบหวิวในหัวเธอให้พร้อมทำงานขึ้นมา
“เป้... อีกไม่กี่วัน... เราก็กำลังจะเรียนจบอยู่แล้วนะ เราไม่รู้ว่าพอเราจบไปทำงาน เรากับเป้จะได้เจอกันน้อยลงรึเปล่า ไม่รู้ว่าต่างคนต่างจะยุ่งจนไม่มีเวลาให้กันมั้ย เราอยากใช้เวลาที่เหลือนี้กับเป้ให้มากที่สุดนะ รู้มั้ย?” ชายหนุ่มพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกไปตามตรง หญิงสาวรุ่นน้องได้แต่รับฟังเงียบๆ ไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป

“แต่ว่า...” เธอพูดออกมาได้แค่นั้น
“เราสัญญา ว่าเราจะไม่ทิ้งเป้ไปไหน เป้เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เราอยากแต่งงานด้วย อยากมีลูกด้วยกัน อยากใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด... เป้จะยอมเป็นของเราได้มั้ย?” คำพูดของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวนั่งน้ำตาคลอ แม้ที่บ้านของเธอจะเคยพร่ำสอนมาตลอดว่าให้เก็บรักษาพรหมจารีย์ไว้จนถึงวันแต่งงาน แต่ในใจของเธอเองกลับนึกต่อต้านมันมาโดยตลอด แม้ว่าจะยอมทำตามคำสั่งสอนของพ่อแม่มาจนถึงทุกวันนี้ก็ตาม

จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเธอเก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ แล้วไปพบว่าเรื่องบนเตียงหลังแต่งงานมันเกิดเข้ากันไม่ได้ ทำไมผู้หญิงที่ไม่ซิงแล้วถึงต้องถูกลดคุณค่าลงไปเหมือนกับสินค้ามือสอง ในขณะที่ผู้ชายกลับมีสิทธิ์เป็นฝ่ายเลือกได้ตลอด และในเมื่อ ณ เวลานี้ ตอนนี้ นาทีนี้ ชายหนุ่มที่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของเธอนั้น กำลังเอ่ยขอโอกาสที่จะเดินหน้าความสัมพันธ์กับเธอให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก... ทำไมเธอจึงควรจะเลือกโยนมันทิ้งไป...?

ก็ทีพี่ปู พี่ชายคนโตของเธอยังไปทำผู้หญิงท้องจนต้องแต่งงานตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ได้เลย ไม่เห็นพ่อแม่จะว่าอะไรบ้าง ซ้ำยังกลับไปเสียเงินสู่ขอจัดงานแต่งเป็นเรื่องเป็นราว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้อุ้มหลานสาวกันถ้วนหน้า ทีลูกสาวตัวเองล่ะห้ามนู่นห้ามนี่ จะมีแฟนซักคนยังต้องคอยรายงานเป็นฉากๆ ทำไมโลกมันช่างไม่ยุติธรรมแบบนี้?

เมื่อคิดแบบนั้นแล้ว หญิงสาวจึงหลับตาลง และพยักหน้าเบาๆ เป็นการส่งสัญญาณว่าเธอพร้อมแล้ว...

ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวปีนขึ้นมาคร่อมร่างของเธอไว้ ก้มลงไปประกบปากจูบช้าๆ อย่างแผ่วเบา ใช้มือข้างนึงสอดเข้าไปคลึงบีบหน้าอกของเธอใต้เสื้อ รู้สึกได้ถึงอาการสั่นสะท้านเล็กๆ จากร่างกายของแฟนสาว บอยจูบปากเป้ไป ขณะที่มือก็คอยรูดเสื้อเธอออกไปด้วยผ่านทางหัว มองเห็นยกทรงสีผ้าฝ้ายขาว ห่อหุ้มเต้านมไซส์ 34B ของเธอไว้

ความขาวเนียนของผิวกาย เร่งเร้าให้ชายหนุ่มต้องรีบถลกขอบยกทรงเลื่อนขึ้นไปกองไว้เหนือราวนม สาวเป้รีบใช้สองมือปกปิดหน้าอกตัวเองไว้ด้วยความเขิน แต่หนุ่มบอยก็รีบใช้มือจับง้างข้อมือของเธอให้อ้าออกดังเดิม

“อย่างจ้องดิ้บอย เป้อายนะ”
“ไม่เห็นต้องอายเลย นมเป้ขาวสวยจะตาย”
“สวยบ้าอะไรเล่า นมก็ไม่มี ฮือออ”

“โธ่... ไม่ต้องอายนะคนดี เป้น่ะสวยที่สุดในสายตาบอยเลยรู้มั้ย” ชายหนุ่มว่าพลางก้มลงไปใช้ปากจูบเข้าที่ยอดปทุมถัน เล่นเอาหญิงสาวถึงกับร้องซี้ดดดดส์ เนื้อตัวแอ่นเกร็ง
“โอ๊ยยย บอย... เบาๆ” เป้ครวญครางเสียงกระเส่า

หนุ่มบอยใช้ปากดูดนมแฟนสาวจนหนำใจแล้วก็ถอนปากออก จ้องมองสำรวจเรือนร่างของหญิงสางตรงหน้าอย่างชื่นชม แม้ว่าขนาดหน้าอกหน้าใจของเธอมันจะเล็กไปซักหน่อย แต่ความขาวเนียนของมันก็ทำให้ชายหนุ่มเกิดอารมณ์มากพอสมควร ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป้าหมายลงไปสำรวจของลับของเธอที่ด้านล่างแทน

บอยใช้มือแกะกระดุมกางเกงยีนส์ของเป้ด้วยความเร่งรีบ ยิ่งรีบก็ยิ่งลนลานจนพาลให้ช้าลงไปอีก สาวเป้ที่เห็นแบบนั้นเลยออกแรงช่วยอีกทาง ด้วยการขยับสะโพก พร้อมกับรูดกางเกงยีนส์ออกไปจากหน้าขาตัวเอง เผยให้เห็นเจ้ากางเกงในสีขาวตัวจิ๋ว ที่มาพร้อมกับความอวบอูมโหนกนูนจนมองเห็นได้เป็นร่อง

หนุ่มบอยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มันเป็นภาพที่สวยงามจนชายหนุ่มแทบหยุดลืมหายใจ เขารีบใช้สองมือรูดกางเกงในตัวจิ๋วของเธอออกทันทีโดยไม่รอช้า ยื้อยุดฉุดแย่งกับเจ้าของอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะอาศัยแรงหื่นแย่งมันมาจากหน้าขาของเธอได้ในที่สุด สาวเป้รีบพลิกตัวนอนตะแคงหลบทันทีเพื่อไม่ให้แฟนหนุ่มได้จ้องสำรวจของสงวนของเธอได้แบบชัดเจน แต่หนุ่มบอยกลับเอามือดันขาขวาของเธอที่ทับอยู่ด้านบน ให้ลอยสูงขึ้นไปในอากาศ จนกลีบสาวโค้งสวยของเธอ โผล่หน้าออกมาทักทายแบบอล่างฉ่างเต็มๆ ตา

“บอย ไม่เอาาาา....” หญิงสาวรีบซุกหน้าหลบกับหมอนด้วยความเขิน พยายามออกแรงดิ้นขัดขืนอย่างไร้ผล ในขณะที่หนุ่มบอยจับยึดหน้าขาเธอไว้แน่น พร้อมกับค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปสำรวจร่องเสียวของเธอ ใกล้ขึ้นทุกที... ทุกที... จนกระทั่ง....

“ว้ายย! ตายแล้ววว...ววว” สาวเป้ร้องเสียงหลงเมื่อโดนลิ้นของแฟนหนุ่มจู่โจมปาดเลียไปตามรอยแยกของกลีบร่อง บางจังหวะก็จ่อลิ้นบี้ลงไปที่เม็ดเสียวของเธอตรงๆ จนหญิงสาวถึงกับตัวแอ่น สูดปากร้องซี้ดซ้าดเหมือนโดนทานของเผ็ดเข้าไป รู้สึกตัวลอยหวิวๆ เหมือนอยู่ในสภาพไร้แรงดึงดูด จังหวะที่แฟนหนุ่มกดลิ้นมุดคว้านเข้ามาในหี เล่นเอาสาวเป้เผลอครางออกมาดังๆ โดยไม่รู้ตัว

อารมณ์ที่ถูกกักเก็บมาตลอด ทำให้แค่เพียงไม่นาน หญิงสาวก็พลันถึงจุดสุดยอดไปแบบง่ายๆ ภาพในหัวสว่างวาบขึ้นมาเหมือนกับดอกไม้ไฟระเบิดโป้งป้าง มันระเบิดวูบวาบเป็นระลอกๆ ติดต่อกัน เนื้อตัวสั่นกระตุก เสียวจี๊ดๆ คันๆ ยุบยิบตรงบริเวณหว่างขา ก่อนจะระเบิดน้ำรักทะลักออกมาท่วมปากท่วมลิ้นของแฟนหนุ่มจนเลอะเยิ้มเป็นคราบ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหอบแฮ่กๆ อย่างหมดสภาพ...

มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่หญิงสาวพึ่งเคยได้พบเจอเป็นครั้งแรก มันทั้งเสียว ทั้งจั๊กจี้ ทั้งรู้สึกอิ่มเอมและมีความสุข จนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดใดๆ ได้เลย...

หนุ่มบอยใช้ปากกับร่องรักของแฟนสาวจนมันเปียกเยิ้มเป็นที่น่าพอใจแล้วก็ค่อยๆ ถอนปากออก ขยับตัวถอดเสื้อยืด รูดกางเกงขาสั้นของตัวเองออกไปอย่างลวกๆ ตามด้วยกางเกงในรอสโซ่แบบเต็มตัว

วินาทีที่ท่อนเนื้อของชายหนุ่มผงาดหงึกหงักออกมาดูโลกกว้างนั้น สาวเป้ยังคงก้มหน้างุดๆ ซุกกับหมอนใบนุ่มอยู่โดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น เธอกำลังพยายามซ่อนตัวจากประสบการณ์ความอายที่พึ่งเคยได้ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิต จนไม่ทันได้สังเกตว่าชายหนุ่มกำลังจูงมือเธอ พาไปสัมผัสเข้ากับวัตถุแข็งๆ บางอย่าง... วัตถุที่เคยหลับใหล แต่ตอนนี้กำลังตื่นตัวเต็มที่แล้ว...

“อุ๊ย...!” เป้อุทานออกมาเบาๆ พร้อมกับจะชักมือกลับ แต่บอยยังคงรั้งข้อมือเธอไว้อย่างนั้น พร้อมกับค่อยๆ ออกแรงดึงสโตรคให้มือเธอรูดท่อนลำขึ้นลงช้าๆ
“อืมมม ดีจังเลยเป้” ชายหนุ่มครางฮือออกมาอย่างพึงพอใจ ในขณะที่ในหัวของหญิงสาวนั้นกำลังปั่นป่วนชวนเตลิดได้ที่ หัวใจของเธอเต้นแรงระส่ำไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้ลองสัมผัสเข้ากับท่อนลำของแฟนหนุ่มสุดที่รักแบบเนื้อๆ เน้นๆ

แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยได้สัมผัสมันผ่านเนื้อผ้ากางเกงด้านนอกมาบ้างแล้วเป็นครั้งคราว แต่สัมผัสที่ได้รับในครั้งนี้มันกลับแตกต่างออกไป มันทั้งแข็งแกร่ง ทั้งอุ่น แถมยังกระตุกสู้มือ เวลาที่เธอลากมือขึ้นลงเป็นจังหวะ รสสัมผัสที่เกิดขึ้นทำให้เธอสนใจจนต้องยอมชะเง้อหน้าขึ้นมาจ้องมองมันอย่างจริงๆ จังๆ

ภาพท่อนลำแดงคล้ำขนาดกำลังพอดีๆ บริเวณปลายหัวบานโร่ทรงเหมือนดอกเห็น ส่วนปลายเรียวแหลมนิดหน่อย ดูคล้ายหัวลูกศรมนๆ พอเห็นว่าเจ้าของดุ้นเนื้อเองก็กำลังจ้องสบตาเธออยู่ด้วย สาวเป้จึงรีบผงะปล่อยมือออกทันที

หนุ่มสาวทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ร่องหีที่เปียกเยิ้มของเป้ กำลังดึงดูดลำควยที่แข็งโด่เด่ของบอย ให้ทิ่มแทงเข้ามาอย่างเว้าวอน ชายหนุ่มขยับเข้าไปทาบทับร่างของหญิงสาวในท่าหันหน้าเข้าหากัน จับจ่ออาวุธประจำกาย ถูไถบริเวณปากทางขึ้นลงไปมา เพื่อให้หญิงสาวเตรียมรับมือกับความเสียวซ่านที่กำลังจะเกิดขึ้น เป้นอนตาปรือ ปล่อยให้บอยค่อยๆ ขยับตัวโกร่งก้นเกร็งสะโพก ทำท่าว่ากำลังจะดันท่อนเนื้อเข้าไปด้านในในไม่ช้า

“เดี๋ยว... เดี๋ยวก่อนบอย... ใส่ถุงก่อน” หญิงสาวรีบละล่ำละลักร้องห้าม หนุ่มบอยที่ได้ยินจึงเหมือนได้สติ รีบเอื้อมคว้าเอากล่องถุงยางในช่องด้านในของกระเป๋าเป้ ฉีกซองแล้วสวมใส่ทันที
“โห... ถึงขั้นเตรียมติดกระเป๋าไปด้วยเหรอเนี่ย นี่กะจะเอาไปใช้กับใครไม่ทราบ หา?” เป้ถามเสียงดุๆ
“ก็ใช้กับเธอนี่แหละ โดนแน่ ฮี่ๆๆ” บอยตอบพร้อมกับกระโจนเข้าหาเธอ กลับเข้าประจำที่ในตำแหน่งเดิม ก่อนที่จะออกแรงกดสอดท่อนเนื้อเข้าไปอีกครั้ง

กลีบเนื้อสาวที่เคยประกบสนิท ตอนนี้ถูกลำควยของชายหนุ่มแทรกตัวมุดทิ่มเข้าไปจนกลีบแคมเผยออ้าออก ติ่งเนื้อเสียวด้านบนถูกดันออกมาจนมันชี้ชูชันมองเห็นได้อย่างชัดเจน เนื้ออ่อนสีแดงอมชมพูของหญิงสาวดูเปียกลื่นมันวาวเมื่อถูกอาบด้วยน้ำหล่อลื่น ซึ่งกำลังไหลซึมออกมาเหมือนเขื่อนแตก พงหมอยรูปสามเหลี่ยมด้านบนของเธอเองก็ถูกคราบน้ำเงี่ยนเกาะติดกันจนเปียกลู่ไม่เป็นทรง

“อุ๊...! เบาๆ ก่อนบอย เป้เจ็บ... โอ๊ะ... โอ๊ยยย! โอ๊ยยย” สาวเป้แหกปากร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกชายคนรักกดท่อนลำมุดเข้าไปในตัวเธอได้เพียงแค่คืบ
“อูยยย... ของเป้... แน่นมากเลย... ทนหน่อยนะเป้” ชายหนุ่มพยายามพูดปลอบใจ ขณะกดอัดท่อนเนื้อมุดเข้าไปอีก
“ฮือออ... โอ๊ยยย เป้เจ็บ... ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว เอาออกไปก่อน” หญิงสาวเอาแต่ร้องครวญครางให้หยุดการกระทำ

หนุ่มบอยได้ยินแล้วก็นึกสงสาร แต่ครั้นจะให้ถอนตัวออกก็ใช่ที่ จึงยอมปล่อยแช่ท่อนลำเสียบค้างเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะเปลี่ยนไปเพ่งสมาธิด้วยการจูบปาก สลับกับดูดนมแฟนสาวแทน เพื่อหวังจะช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น.... ซึ่งก็ได้ผล เพราะร่องรูด้านล่างของเธอนั้นเหมือนจะค่อยๆ คุ้นชินกับวัตถุแปลกปลอมชิ้นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ความเปียกชื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเสียดสี ดูจะลดทอนความเจ็บปวดลงไปได้พอสมควร

“ซี้ดดดดส์... โอ้ยบอยย มันแน่นนน....นนน อือออ...” หญิงสาวร้องออกมาเบาๆ ใบหน้านิ่วคิ้วขมวด หลับตาปี๋ ตัวเกร็งไปทั้งร่าง
“อีกนิดเดียวนะคนดี เข้าไปได้เกินครึ่งแล้ว ฮึบ.. อ่ะ.. อูยยย อู๊ยยย...” บอยพยายามปลอบเธอ พร้อมกับบดควยเข้าไปแบบเนิบๆ จนในที่สุด ท่อนลำขนาด 5 x 5 นิ้ว ก็มุดหายเข้าไปในรูหีของเธอได้จนมิดด้าม พอชายหนุ่มสังเกตเห็นหยดเลือดไหลซึมออกมาจากปากรูแล้วก็เกิดนึกสงสารเธอขึ้นมาจับใจ

บอยก้มหน้าลงไปจูบปากสาวเป้เป็นการปลอบโยน ทั้งคู่จ้องสบตาด้วยกันอย่างหวานซึ้ง แม้ว่าหญิงสาวจะเจ็บแทบเจียนตาย แต่ก็ยังพยายามส่งยิ้มตอบกลับไปหาแฟนหนุ่ม ก่อนที่หนุ่มบอยจะค่อยๆ เกร็งตัว ขยับสะโพกถอนควยมุดเข้าออกหีเธอแบบช้าๆ เนิบๆ รอจนเธอเริ่มชินกับจังหวะการเคลื่อนไหว แล้วจึงค่อยๆ ออกแรงเย็ดเธอแรงขึ้นเรื่อยๆ สองมือก็เอื้อมไปบีบขยับเต้านมไปด้วยอย่างเมามัน สาวเป้ได้แต่หลับตาสะบัดหน้าไปมา นอนถ่างขารับความเสียวระลอกแล้วระลอกเล่าที่แฟนหนุ่มยัดเยียดมาให้เธอได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ

“อ๊ะ.... อ๋าาาา บอยย.... โอ๊ยยย... เค้าเสียวว.... ฮืออออ....อออ” เป้ร้องครวญเสียงสั่นกระเส่า ใบหน้าหมวยๆ จืดๆ ของเธอในตอนนี้ดูเร่าร้อนแตกต่างจากปกติเป็นคนละคน แว่นตากรอบโตที่เธอสวมใส่ แทบจะกระเด็นหลุดออกจากใบหน้าอยู่แล้ว เมื่อโดนแฟนหนุ่มกระแทกกระทุ้งลำตัวซ้ำๆ

ความตื่นเต้นจากประสบการณ์ริลองร่วมรักเป็นครั้งแรก ทำให้อารมณ์ของหญิงสาวพุ่งทะยานกลับคืนมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะพึ่งเสร็จสมอารมณ์หมายไปเมื่อไม่ถึง 10 นาทีที่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับหนุ่มบอยที่กำลังเสียวซ่านได้ที่ ชายหนุ่มเร่งตะบันท่อนควยมุดหีเธอพรวดๆ ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกเสียวจี๊ดขึ้นมาที่บริเวณปลายหัวควย ภาพกลีบแคมที่เคยปิดสนิทของแฟนสาว ตอนนี้กำลังอ้าอมท่อนเนื้ออ้วนของตัวเองมุดเข้ามุดออกอย่างน่าดูชม

ภาพตรงหน้ากระตุ้นอารมณ์จนชายหนุ่มยากจะกักเก็บอารมณ์เอาไว้ได้ เร่งตะบันบั้นเด้าหนักๆ อีกไม่กี่นาที ก็หลุดปากร้องฮู้วออกมายาวๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่สาวเป้ทะยานขึ้นถึงจุดสุดยอดอีกเป็นครั้งที่สอง ร่องรูด้านในของเธอเกิดอาการขมิบตอดอย่างรุนแรง เนื้อตัวสั่นเฮือกๆ ผวาเข้ากอดแฟนหนุ่มเอาไว้แน่น จิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังจนมันเป็นรอยยาว ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็แอ่นตัว ขมิบก้นหงึกๆ กระฉูดน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเลอะเต็มถุงยางอย่างสุดกลั้น

“อ... โอ๊ยยย บอย.... เค้า....เค้า... อ๊ะ.. อ๋าาาาา” สาวเป้หวีดร้องออกมาจับใจความไม่ได้ เมื่อร่างกายล่องลอยถึงสวรรค์ไปเป็นครั้งที่สอง...

ร่างของทั้งคู่สั่นสะท้านเคว้งคว้างอยู่เกือบ 10 วินาที ก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปนอนกอดกันตัวกลมด้วยความเหนื่อยอ่อน ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อที่พรั่งพราวเป็นประกาย หนุ่มบอยรีบถอดถุงยางออกมามัดลวกๆ แล้วโยนทิ้งลงไปข้างเตียง ทั้งคู่นอนหอบเอาแรงอยู่อีกครู่ใหญ่ๆ จ้องสบตากันโดยไม่พูดอะไร พอหนุ่มบอยอมยิ้ม สาวเป้จึงหลุดขำออกมาบ้าง

“ยิ้มอะไร? ไอ้พี่บ้า” หญิงสาวโวยวายเบาๆ ด้วยความเขิน คว้าผ้าห่มไปคลุมตัวเอาไว้
“ก็คนมีความสุข ก็ต้องยิ้มดิ” ชายหนุ่มตอบออกไปอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับถามต่อ
“แล้วเป้ล่ะ มีความสุขมั้ย?” สาวรุ่นน้องไม่ตอบอะไร เพียงแต่อมยิ้มเขินๆ พร้อมกับพยักหน้า

“เรามีความสุขมากเลยนะรู้มั้ย” บอยว่าพลางเอื้อมมือไปลูบผมเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“อือออ... เป้ก็มีความสุขเหมือนกัน” เป้ตอบพลางขยับหัวเข้าไปซุกกับหน้าอกของแฟนหนุ่ม ความรู้สึกจากเซ็กส์ครั้งแรกในชีวิตของเธอออกมาค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว เธอเสร็จสมอารมณ์หมายถึงสองครั้งสองคราไล่เลี่ยกัน แม้ว่าในช่วงแรกๆ มันจะยังเจ็บๆ อยู่บ้าง แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันกลับมีแต่ความรู้สึกหวิวๆ แปลกๆ เกิดขึ้น จนกลายเป็นความเพลิดเพลินไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่เธอเคยคิดว่ามันจะยากลำบากกว่านี้เสียอีก

มันเป็นความรู้สึกสุขสมที่เธอคิดว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอยอมแลกมันเพื่อให้ได้มา สิ่งที่เป็นเพียงคุณค่าในเชิงนามธรรมอย่างความเป็นสาวบริสุทธิ์ ซึ่งสังคมต่างยกย่องเชิดชูไว้บนหิ้ง... ความบริสุทธิ์มันมีคุณค่ามากกว่าความรักหรือ? หญิงสาวเพียงนึกสงสัยอยู่ในใจ

“บอยได้เป้แล้วจะทิ้งเป้ป่ะ?” แฟนสาวเอ่ยถามคำถามจริงจังด้วยน้ำเสียงเหมือนจะยั่วเย้า
“ไม่หรอก... มีแต่จะอยากแต่งงานกับเป้มากขึ้นด้วยซ้ำ” คำตอบของแฟนหนุ่มสร้างความพึงพอใจให้เธอ
“งั้นก็รีบๆ มาขอดิ”
“โห่ย ขอเก็บตังค์ก่อนดิ ใจร้อนนน” บอยพยายามพูดเบรค

“เร็วๆ นะ ยิ่งช้ายิ่งแพง” หญิงสาวพูดต่อไปเรื่อยๆ
“เฮ้ย ไรฟะ?” หนุ่มบอยร้องเสียงสูง
“ดอกเบี้ยมันแพง ไม่รู้เหรอ ใช้บริการไปแล้วไม่จ่าย เดี๋ยวตีตายเลย” สาวเป้เล่นมุก เรียกเสียงหัวเราะออกมาดังๆ

ก่อนที่สุดท้าย ทั้งคู่จะได้แต่งงานกันจริงๆ... แม้ว่าจะต้องรอจนเกือบ 10 ปีก็ตาม...

=======================================

ซึ่งแม้ว่าทั้งบอยและเป้จะเคยๆ คุยกันไว้คร่าวๆ แล้วว่า พวกเค้าอาจจะไม่ได้มีพิธีแต่งงานหรูหราเว่อร์วังอลังการอะไรมากมาย เนื่องจากทั้งคู่ไม่ใช่คนที่บ้าพิธีรีตองใดๆ แล้วก็ไม่ได้ห่วงเรื่องหน้าตาทางสังคมกันซักเท่าไหร่ แถมยังคบหาและรู้ใจกันมานาน จนแทบจะสามารถเดินไปจดทะเบียนแต่งงานกันแบบง่ายๆ ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่ถึงกระนั้นแล้ว แฟนหนุ่มก็ยังแอบทำเซอร์ไพรซ์ครั้งใหญ่ ด้วยการบุกมาขอเธอแต่งงานถึงกลางออฟฟิศของฝ่ายหญิง โดยที่สาวเป้เองก็ไม่เคยคาดคิดและไม่ทันที่จะตั้งตัว

“แต่งงานกันนะเป้...” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กๆ พร้อมกับคุกเข่าลงข้างนึง ก่อนจะควักกล่องใส่แหวนออกมาเปิดโชว์เธอ แม้ว่าสาวเป้จะเป็นคนใจเด็ดใจแข็งอยู่พอสมควร แต่พอเจอเข้ากับสถานการณ์สุดโรแมนติกแบบนี้ โดยเฉพาะกับแฟนหนุ่มอย่างบอย ที่ไม่ค่อยจะเป็นคนโรแมนติกหวานๆ อะไรมากมายเท่าไหร่ ก็เล่นเอาเธอถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และหลุดปากตอบตกลงออกไปแบบง่ายๆ

“อือ.... อื้อๆ...” คำตอบรับของหญิงสาว เรียกเสียงปรบมือจากเพื่อนร่วมงานที่ยืนลุ้นอยู่รอบๆ จนดังกระหึ่ม บ้างก็รู้เห็นเป็นใจกับแผนการของชายหนุ่มมาก่อนแล้ว บ้างก็แค่บังเอิญเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี จนกลายมาเป็นสักขีพยานให้กับความรักของหนุ่มสาวทั้งคู่โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ล้วนแฝงเอาไว้ด้วยความยินดี

พิธีแต่งงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยทำพิธีช่วงเช้ากันแบบเงียบๆ ที่บ้านของสาวเป้ ส่วนงานฉลองช่วงเย็นนั้นก็จัดขึ้นเล็กๆ ที่ศูนย์ประชุมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ โดยเลือกเชิญเฉพาะญาติๆ และเพื่อนที่สนิทจริงๆ เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดงานที่ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าสิ้นเปลืองและเปล่าประโยชน์ และเก็บออมเงินทุนเอาไว้ใช้สำหรับไปเที่ยวฮันนีมูนที่ต่างประเทศกันสองต่อสองแทน

มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ ที่สองหนุ่มสาวได้ตัดขาดจากโลกใบเดิมที่คุ้นเคย ปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติกของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย สถานที่ซึ่งทั้งคู่ได้ประสานวิญญาณเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะของคู่ชีวิตอย่างเป็นทางการ...

“เป้มาดูดาวบนฟ้าดิ โคตรเยอะเลยอ่ะ วิบๆ วับๆ เต็มไปหมดเลย” หนุ่มบอยในชุดเสื้อยืดกางเกงบ็อกเซอร์ เอ่ยปากชักชวนภรรยาสาวให้มายืนดูดาวบนระเบียงโรงแรมร่วมกัน
“ไหนๆๆ โห! สวยจังเลย ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้นะเนี่ย” สาวเป้ในชุดผ้าคลุมอาบน้ำ เดินเช็ดผมตามออกมาอย่างว่าง่าย ก่อนที่เธอจะเผลอร้องอุทานตาโตด้วยความชอบใจ
“ถ้าเป็นที่กรุงเทพฯคงไม่ได้เห็นภาพท้องฟ้าสวยๆ แบบนี้แน่ๆ เลย”

“ก็แหงสิ ที่กรุงเทพฯตอนนี้คงยังฟ้าสว่างโร่อยู่เลยมั้ง” ภรรยาสาวแกล้งพูดแซว
“เออ กวนอีก หมายถึง ฟ้ามันคงไม่โปร่งแบบนี้เฟ้ย ฮึ” หนุ่มบอยทำหน้างอนๆ กอดอก
“รู้แล้วจ้า แหม ล้อเล่นก็ไม่ได้ โอ๋ๆ อย่างอนเค้าเลยนะ” หญิงสาวอ้อนพลางกางแขนกอดซุกร่างสามีแน่น เธอก้มหน้าลงไปสูดดมกลิ่นหอมๆ ของสบู่ ซึ่งยังคงติดตามตัวหลังจากที่ชายหนุ่มพึ่งจะอาบน้ำเสร็จหมาดๆ เมื่อครู่

“บอยตัวหอมจัง... ซื้ดดดด....ดดด.... แฮ่ๆ.... เค้าชอบ” เป้สูดกลิ่นกายของชายคนรักเข้าไปเต็มปอด พร้อมกับซุกหน้าลงไปแนบอก บอยจึงตอบโต้ด้วยการใช้มือลูบหัวเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“ทำท่าทางซะหื่นเลยนะครับ... คุณเมีย” บอยพูดแซวอย่างอารมณ์ดี
“อ้าว ก็หื่นไง ไม่รู้เหรอ นี่แน่ะ” สาวเป้ตอบพร้อมกับล้วงมือเข้าไปกำท่อนเนื้อของสามีเต็มกำมือ

“เฮ้ย! บ้า ทำอะไร เดี๋ยวใครเห็น” บอยพยายามจะดึงมือเป้ออก แต่เธอยังคงแกล้งฝืนจับยึดมันเอาไว้แน่น จนชายหนุ่มต้องเปลี่ยนมาประคองร่างหญิงสาว พาหลบเข้ามาในห้องด้วยความเร่งรีบแทน
“ยัง... ยังไม่ปล่อยอีก เดี๋ยวมันปึ๋งปั๋งขึ้นมาแล้วจะมาร้องไม่ได้นะ” บอยแกล้งพูดขู่ แต่สาวเป้กลับเงยหน้าสบตากับเขาด้วยสีหน้าที่เย้ายวน แววตาของเธอดูเคลิบเคลิ้ม คล้ายกับกำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง

“บอย... คืนนี้เป้มีรางวัลจะให้บอยแหละ...” เป้เอ่ยเบาๆ ด้วยน้ำเสียงขี้เล่น พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้าง ค่อยๆ รูดกางเกงบ็อกเซอร์ของชายหนุ่มจนมันหล่นลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า ก่อนจะดันตัวเขาให้นั่งลงไปบนเตียง
“ตอบแทนที่บอยทำตัวน่ารักมาตลอด...” เธอโน้มหน้าไปกระซิบเข้าที่ข้างใบหู ซุกไซร้เข้าไปที่ซอกคอจนร่างของชายคนรักออกอาการสั่นสะท้านเล็กน้อย

มันเป็นความตั้งใจลึกๆ ของเธอ นับตั้งแต่วันที่ชายหนุ่มลงมือเซอร์ไพรซ์เธอ ด้วยการเอ่ยปากขอแต่งงานแบบโรแมนติกสุดๆ ต่อหน้าคนอื่นๆ อีกนับสิบ ซึ่งเป้เองรู้ดีว่าสามีของเธอนั้นเป็นคนค่อนข้างจะขี้อาย และไม่ค่อยจะถนัดกับเรื่องราวกุ๊กกิ๊กโรแมนติกอะไรซักเท่าไหร่ ซึ่งการที่เขายอมทำอะไรเสี่ยวๆ แบบนี้ได้ ก็คงจะต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงอยากที่จะตอบแทนสามีด้วยสิ่งที่เขาชื่นชอบที่สุด

ซึ่งนั่นก็คือ... เซ็กส์อันสุดแสนจะเร่าร้อนในคืนนี้นั่นเอง...

“อืมมม....” หนุ่มบอยครางฮือออกมา เมื่อโดนภรรยาสาวใช้มือซ้ายรูดท่อนลำเล่นเบาๆ ขณะที่ปากก็คอยดูดไซร้ซอกคอของเค้าไปด้วย
“เสียวเหรอออ....?” สาวเป้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ายวน ยิ่งออกแรงบี้คลึงปลายหัวบานแดงโร่หนักข้อขึ้นไปอีก
“อูยยย เสียววว...ววว” บอยครางกระเส่า
“คืนนี้บอยเสร็จแน่ เป้จะปล้ำบอยบ้าง อิอิ” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อราวกับลูกตำลึง

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวเองได้สั่งสมความรู้ในเรื่องบนเตียงมาจากแฟนหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทั้งท่วงท่าและลีลาที่เขาชื่นชอบนั้น เธอเองก็จำได้ขึ้นใจจนหมดแล้ว เพียงแต่ไม่บ่อยครั้งเท่าไหร่ ที่เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นจู่โจมคู่ขาของตัวเองแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีโอกาสไหนที่จะเหมาะสมไปกว่าช่วงเวลาของการฮันนีมูนนี้อีกแล้ว

เป้ค่อยๆ ประกบปากจูบบอยอย่างนุ่มนวล แต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนดูดดื่ม ลิ้นของเธอเป็นฝ่ายเปิดฉากสอดเข้าไปสัมผัสกับปลายลิ้นของอีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่ว เกี่ยวกระหวัดพัวพันไปมาราวกับงู หญิงสาวบดปากจูบชายหนุ่มอยู่หลายนาที ก่อนที่จะถอนปากออก มองเห็นหยดน้ำลายยืดยาวติดกันเป็นสาย

เธอใช้มือปาดน้ำลายเช็ดปากแบบลวกๆ จ้องหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มซุกซน ขณะที่หนุ่มบอยก็ออกอาการเขินๆ ทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังเข้าโหมดร้อนร่านได้ถึงปานนี้ รสจูบเมื่อครู่ ยังไม่ช่วยให้เธออิ่มหนำใจได้ซักเท่าไหร่ สาวเป้ค่อยๆดันร่างของสามีให้นอนหงายลงไปบนเตียง ก้มลงไปคุกเข่าลงที่หว่างขาของอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ แลบลิ้นเลียลงไปที่บริเวณปลายหัวควยเบาๆ เสียงดังแผลบบ...บบบ

“อุ๊..! ซี้ดดดดส์” บอยร้องแอ่นตัวเกร็ง ใช้สองมือจับยึดศีรษะของเป้เอาไว้โดยอัตโนมัติ หญิงสาวเห็นอีกฝ่ายออกอาการเสียวซ่านก็ยิ่งสาแก่ใจ ก้มหน้าก้มตาดูดเม้มท่อนลำแบบเน้นๆ บางจังหวะก็ก้มต่ำลงไปเลียถึงพวงไข่สองข้าง ก่อนจะเลียไล่ขึ้นมาตามแท่งเนื้อจนสุดลำโคน ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะอ้าปากอมครอบลงไปถึงปลายเงี่ยง พร้อมกับออกแรงดูดรูดขึ้นลงแรงๆ จนชายหนุ่มเผลอสูดปากซี้ดซ้าดอย่างถึงอกถึงใจ

เป้ผงกหัวโม้กควยให้บอยอยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะขยับตัวเปลี่ยนท่า ปีนขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนใบหน้าของชายหนุ่ม  ร่อนสะโพกบดอัดร่องเสียวของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของสามีแรงๆ ดังพรืดๆ บอยที่รู้งานดีก็แลบลิ้นออกมาช่วยปาดเลียติ่งเนื้อที่ยื่นพ้นออกมาจากกลีบแคมให้เธอด้วย

หญิงสาวเสียวแปล๊บไปทั่วทั้งร่าง น้ำหล่อลื่นทะลักทลายออกมาเป็นสาย เมื่อปลายลิ้นสากๆ แตะสัมผัสเข้ากับเม็ดแตดกลมนูนของเธอ แต่ยังพยายามฝืนก้มลงไปแลบลิ้นเลียเข้าที่ปลายหัวบาน พร้อมกับใช้มือถอกรูดท่อนลำไปด้วย รสชาติเค็มๆ คาวๆ ของมันช่วยกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้หงี่เงี่ยนขึ้นไปอีก ใช้ปากดูดกลืนท่อนลำของอีกฝ่ายเข้าไปเต็มปาก ทั้งขบ ทั้งดูด รูดอมเข้าไปเกือบสุดลำ

“โอ๊ยเป้.... พะ... พอก่อน เดี๋ยวเราแตก..” ชายหนุ่มละล่ำละลักบอกเสียงสั่น ภรรยาสาวจึงยอมถอนปากออกช้าๆ จังหวะที่ริมฝีปากครูดไปกับท่อนเนื้อจนหลุดออก เสียงดังโบ๊ะเต็มสองหู
“อาราย... แค่นี้จะไปแล้วเหรอ? จะรีบไปหนายย?” สาวเป้แกล้งพูดแซวอย่างสะใจ
“น่านะ ขึ้นให้เราหน่อย เราทนไม่ไหวแล้ว” หนุ่มบอยร้องออดอ้อนอย่างน่าสงสาร เรียกรอยยิ้มให้มาปรากฏขึ้นที่มุมปากของภรรยา

ปกติแล้วเป้มักจะต้องรับบทบาทเป็นผู้ถูกกระทำ ได้แต่แหกปากกรีดร้องครวญครางในท่านอนหงาย หรือไม่ก็นอนคว่ำ ปล่อยให้หนุ่มบอยตะบี้ตะบันอัดท่อนเนื้อมุดเข้าออกร่างเธอตามใจชอบ ตรงกันข้ามกับวันนี้ ที่ชายหนุ่มต้องมาเป็นฝ่ายร่ำร้องขอความเห็นใจจากเธอบ้าง

สาวเป้ที่กำลังคึกคักสุดขีด ค่อยๆ หย่อนสะโพกลงไปจ่อไว้กับหน้าขาของชายหนุ่ม ใช้มือจับเล็งท่อนลำด้านล่างให้ตรงกับร่องรู ก่อนจะออกแรงกดสะโพกลงไปช้าๆ จนปลายหัวมุดเข้าไปด้านในได้เกือบครึ่งนิ้ว เธอหลับตาขมวดคิ้ว เม้มปากแน่นด้วยความเสียวซ่าน ค่อยๆ ฝืนทิ้งตัวลงมาเรื่อยๆ ทีละนิด ทีละนิด จนกลีบสาวโอบอูม ค่อยๆ อ้าอมท่อนเนื้อเข้าไปได้เกือบสุดลำ

แม้จะคุ้นเคยกับเจ้าอาวุธประจำกายของชายหนุ่มมานานพอสมควรแล้ว แต่ทุกๆ ครั้งที่มีอะไรกัน หญิงสาวก็ยังรู้สึกจุกเสียดหน่วงๆ ตรงบริเวณหว่างขา ไม่ต่างอะไรจากวันที่เธอกับเขาได้ร่วมรักกันเป็นครั้งแรก

“แฮ่... แน่นเลย” สาวเป้ครางหอบด้วยน้ำเสียงน่ารัก ตั้งหลักพักเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะใช้สองมือยันลงไปบนอกของสามี ค่อยๆ โหย่งก้น ขย่มควยของชายหนุ่มช้าๆ ท่อนลำที่คุ้นเคย ถูกรูดเข้ารูดออกแบบขึ้นสุดลงสุด บางจังหวะก็เกือบที่จะเด้งหลุดออกมาอยู่รอมร่อ เหลือเพียงปลายเงี่ยงจากขอบหัวบาน ที่ยังคงเกี่ยวคาปากทางเอาไว้ได้

สองมือของบอยที่ว่างอยู่ก็เอื้อมไปบีบคลึงเต้านมคู่งามของเป้ ซึ่งกำลังแกว่งไกวไปมาอย่างมันมือ ก้อนเนื้ออวบขาวถูกปลายนิ้วบีบบี้จนมันปลิ้นทะลักออกมาตามง่ามนิ้วอย่างน่าดูชม ชายหนุ่มพยายามเอนตัวขึ้นมาด้านหน้า ใช้ปากดูดเลียลงไปที่ยอดปทุมถัน ซ้ายที ขวาที เหมือนเด็กน้อยที่กำลังเอร็ดอร่อยกับไอติมทั้งสองแท่งในมือ

“อืออ.....อออ โอ๊ย..! บอย ดูดเบาๆ หน่อย เป้เจ็บ” ภรรยาสาวหลุดร้องออกมาเบาๆ
“อื้อๆ โทษทีนะ” สามีหนุ่มตอบสั้นๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ลิ้นตวัดเลียไปที่หัวนมของเธอแทนเพื่อปลอบประโลม พยายามเด้งควยสวนสู้อีกทาง เพื่อเร่งเร้าอารมณ์เสียวของเธอให้พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลำควยของชายหนุ่มมีคราบน้ำเงี่ยนใสๆ เปียกเยิ้มเป็นมันวาว จังหวะที่ดุ้นเนื้อมุดทิ่มเข้าไปในรู น้ำหล่อลื่นของหญิงสาวก็จะคอยพุ่งกระฉอกสวนทางออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

“อ๊ะ... อ๋าาาาสสส์... อาาาา บอย... เป้ใกล้แล้วนะ.... โอ๊ย ตรงนั้น.....นนน” สาวเป้ที่กำลังเงี่ยนได้ที่ร้องบอก สะบัดหน้าไปมาอย่างเมามัน ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่กลับรู้สึกร้อนผ่าวๆ ไปทั้งตัว
“อืมมม” หนุ่มบอยพึมพำกลับมา ทั้งๆ ที่หัวนมเธอยังคาเต็มปาก

เป้ที่ถูกจู่โจมจากทุกทิศทาง เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา เดี๋ยวด้านล่างอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายของเธอไต่ทะยานขึ้นถึงชั้นบรรยากาศแห่งความสุขด้วยความรวดเร็ว รู้ตัวดีว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เธอเองจะต้องถึงจุดสุดยอดน้ำแตกคาควยของสามีหนุ่มแน่ๆ จึงเร่งออกแรงร่อนหีถูอัดกับหน้าขาของหนุ่มบอยแรงขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้น... แรงขึ้น... จนชายหนุ่มที่นอนอยู่ด้านล่างชักจะไม่ไหวเหมือนกัน

ใบหน้าของบอยเริ่มที่จะบิดเบี้ยว กัดฟันกรอดๆ สองมือเปลี่ยนมาจับยึดที่บั้นท้ายของเธอ พร้อมกับออกแรงดึงรั้งเข้าหาตัว เสียงดัง ปั้บ... ปั้บ....บบ ปั้บบ...บบบ ปั้บ....บบบบ ปั้บบบบบบบบ..บบบบบ สนั่นลั่นห้อง

ก่อนที่ทั้งคู่จะทะยานพุ่งเข้าเส้นชัยไปแทบจะพร้อมๆ กัน สาวเป้กรีดร้องกรี๊ดๆ แอ่นหน้าเริ่ด หลับตาพริ้ม บดสะโพกอัดกับหน้าขาสามีแรงๆ ในขณะที่หนุ่มบอยเองก็สุดที่จะทานทนอีกต่อไป เด้งสะโพกสวนควยทิ่มเข้าหีเธอ พร้อมกับกระฉูดน้ำกามขาวข้นเหนียวหนืด พุ่งเข้าโพรงหีของเธอแบบเต็มๆ ปริมาณที่กักเก็บมาหลายวัน ทำให้มันไหลเยิ้มจนล้นนองออกมาตามหน้าขา ก่อนจะหยดแหมะลงไปบนเตียง

ทั้งคู่ทิ้งตัวลงนอนกอดกันตัวกลม หอบหายใจแฮ่กๆ สลับกันเป็นจังหวะ หมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะขยับตัวลุกขึ้นได้อีก ตรงกันข้ามกับปริมาณแห่งความสุขที่เปี่ยมล้น จนมันทะลักทลายออกมาเลอะเต็มที่นอน...

“ดีมั้ยบอย? เป้ทำถูกใจอ๊ะป่าว?” เป้เอ่ยถามขณะกำลังนอนหนุนแขนบอยอย่างสบายอารมณ์
“สุดยอดเลยเป้... แทบขาดใจแน่ะ เป้เก่งที่สุดเลย” สามีหนุ่มกล่าวชมภรรยาสาวพร้อมกับยกนิ้วให้
“ดีจังที่บอยชอบ ไว้วันหน้าเป้ค่อยลองทำอีกทีก็แล้วกันเนาะ”

“เฮ้ย ไม่ต้องวันหลังหรอก เดี๋ยวคืนนี้ลองอีกทีตอนยกสองเลยก็ได้” หนุ่มบอยยั่วเย้าด้วยสีหน้าทะเล้น
“โอ๊ยย..... บอยอ่ะจะไหวรึเปล่าเถอะ ดูดิ๊ คอพับหลับสนิทไปแล้วเนี่ย” หญิงสาวพูดแซวพร้อมกับใช้มือจับดุ้นเนื้อของชายหนุ่มเล่นอย่างเอ็นดู
“ยัยนี่ ดูถูกกันแบบนี้ เดี๋ยวจะโดนดี!” หนุ่มบอยออกอาการฮึดฮัด ก่อนจะเริ่มต้นออกแรงปลุกปล้ำภรรยาสาวของตัวเองอีกรอบ พร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนชอบใจของเหยื่อสาว ที่ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าเหนือกรุงเวียนนาในค่ำคืนนี้...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น