==================
ชีวิตประจำวันของผมก็ยังวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องงาน เรื่องผู้หญิง สลับกับการสังรรค์ออกดื่มกับเพื่อนๆ บ้างตามประสาหนุ่มโสด เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนจบใหม่ๆ จนตอนนี้ก็ล่วงเลยมาครบ 10 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เคยเบื่อ และไม่เคยคิดอยากหาแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นๆ เขา ก็แหม ผมเองก็ไม่ได้ห่างเหินจากเรื่องสาวๆ เลยนี่ครับ ไอ้ครั้งจะให้ไปหยุดอยู่กับผู้หญิงคนเดียวคนเดิม มันก็ดูจะน่าเบื่อเกินไปไม่ใช่เหรอ สู้คอยเปลี่ยนสาวๆ ในสต็อคไปเรื่อยๆ ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ แบบนี้ยังจะดีกว่าเสียอีก นี่ล่าสุดก็พึ่งไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กับไอ้ปืน เพื่อนในกลุ่มที่พึ่งสละโสดไปหมาดๆ เฮ้อ ไอ้พวกนี้มันจะรีบโยนอิสระทิ้งทำไมกันน้า
“เออลุง ถามไรหน่อยดิ” กุ๊กเอ่ยถามขึ้นมากลางวงเหล้าที่มีผม พี่จ๋อง ไอ้เบส และไอ้แมนเพื่อนสนิทอีกคนนั่งล้อมวงกันอยู่ในร้านประจำไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทนัก
“จะแซวอะไรกูอีกล่ะ ทำเสียงซะจริงจังเลยมึง” ผมคีบน้ำแข็งเติมใส่แก้วแบบไม่ได้หันไปมองมัน
“แหมมมม... หนูยังไม่ได้แซวไรเลยนะวันนี้ แค่จะถามว่าช่วงนี้ว่างเหรอ เห็นมานั่งกินกับพวกหนูตลอด ไม่ดอดไปหาสาวๆ รึไง อิอิอิ”
“นั่นไง ดูทรงก็รู้แล้วว่ามึ๊งงงงต้องเล่นกูแน่ ทำไมวะ คนจะกินเหล้ากับเพื่อนๆ ที่ทำงานบ้างไม่ได้รึไง?”
“เอ๋าา ก็เห็นไม่ได้จิ๊ะจ๊ะกับน้องออยคนนั้นตั้งนานแล้วนี่ เลิกกันแล้วหราาา?” ยัยกุ๊กยังแกล้งถามต่อ น้ำเสียงเชิญชวนน่าเคาะกะโหลกมาก
“เรื่องส่วนตัวเฟ้ย เด็กอย่ายุ่ง นี่แน่ะ” ผมพูดจบก็ดีดหน้าผากมันไปทีนึงเบาๆ แม่งก็ช่างรู้ดีนัก เพราะช่วงหลังๆ นี้ผมก็เริ่มเบื่อลีลาเดิมๆ ของน้องออยซะแล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อพูดคุยอะไรกับเธอซักเท่าไหร่ ส่วนออยเองก็ดูเหมือนจะมีหนุ่มๆ มาติดพันเธอไม่ขาดสายเช่นกัน สุดท้ายแล้วช่วงนี้ผมก็เลยต้องมานั่งทนให้ไอ้กุ๊กมันจิกกัดอยู่ข้างๆ เนี่ย เฮ้อ
“ว่าแต่ที่ถามเนี่ย ทำไม? จะขออาสาเข้ามาแทนที่เค้ารึไงครับ?” ผมแกล้งแซวมันกลับไปบ้าง
“หึ่ยย ไม่มีทางอ้ะ อย่างลุงเนี่ยไม่ได้แอ้มหนูหรอก ถ้าหน้าแบบมาริโอ้จะไม่ว่าซักคำ” ยัยนี่มันก็ช่างปากคอเราะร้ายเหลือเกิน ช่วงหลังๆ ผมก็เริ่มจะเถียงไม่ทันมันแล้ว
“อ้าว ก็นี่ไง ซูเปอร์มาริโอ้เนี่ย ตัวเป็นๆ เลย” ผมพูดแล้วทำท่ายกไม้ยกมือกระโดดแบบตัวการ์ตูนมาริโอ้ เล่นเอาคนในวงขำก๊ากไม่เว้นแม้แต่ยัยกุ๊กไก่
“ระวังเถอะมึงสองตัว ชอบกัดกันดีนัก เดี๋ยวสุดท้ายก็ได้กันเองจนได้” พี่จ๋องร้องแซวอย่างอารมณ์ดี
ยิ่งเหล้าเข้าปากมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งชวนกันคุยเรื่องทะลึ่งตึงตังขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะยัยกุ๊กกับไอ้เบสที่ไม่ได้ขับรถมาทำงาน แม่งกินกันยังกับน้ำเปล่า เติมแล้วเติมอีกไม่เห็นใจรุ่นพี่อย่างพวกผมกันบ้างเลย
“มีคำถามอีกแล้ววว” กุ๊กร้องขึ้นพลางยกมือหรา
“ไรอีกล่ะเอ็ง?”
“เวลาลุงตับๆ กับสาวๆ อ่ะ เคยเจอเคสแปลกๆ มั่งป่าววว?” นั่นไง พอเมาแล้วลามปามนะไอ้นี่
“แปลกๆ ยังไงวะ แต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันป่ะไอ้บ้า”
“โห่ ไม่ดิ ก็แบบ... แบบพวกที่ซาดิสม์ๆ หรืออารมณ์รุนแรงไรเงี้ยมีมั่งป่าว?”
“อารมณ์แรงๆ เหรอ...? ก็เห็นเยอะแยะไป มันก็เรื่องปกตินี่หว่า”
“ยังไงๆ เล่าเลย”
“มึงนี่เซ้าซี้ชิบหาย ก็อย่างบางคนที่ลุคเค้าดูเรียบร้อยๆ แต่เวลาอยู่บนเตียงก็ปล่อยเต็มที่ไม่มีกั๊กนั่นแหละ ยิ่งพวกที่ทำงานเครียดๆ กดดันแบบพวกหัวหน้าคน หรือพวกหมออะไรพวกนี้ เค้าก็มาปลดปล่อยความเครียดลงบนเตียงไง เข้าใจยัง”
“โหหหหห ลุงเคยได้กับหมอด้วยเหรอ?” กุ๊กถามตาโต
“ทำไมวะ ก็คนมันมีสเน่ห์ หน้าตาดี ลีลาเด็ด ผู้หญิงเค้าก็อยากลิ้มอยากลองเป็นธรรมดาป่ะ?”
“แหวะ หลงตัวเอง”
“หมอนี่หมอนวดรึเปล่าพี่?” ไอ้เบสยิงมุกขึ้นมากลางวง เล่นเอาต้องขำก๊ากกันอีกรอบ ไอ้พวกนิ่งๆ เงียบๆ แบบนี้แหละครับ เวลาเล่นมุกทีคนฮากันชิบหาย
เรากินกันอีกพักใหญ่ก็พากันเช็คบิลและเตรียมแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ผมเองดื่มไปไม่หนักเท่าไหร่ เพราะรู้ตัวดีว่าต้องขับรถกลับบ้านแน่ๆ ไม่ต่างอะไรกับพี่จ๋องและไอ้แมนที่เอารถมาเหมือนกัน ส่วนไอ้เบสนี่แม่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าโคตรพ่อโคตรแม่คอทองแดง เหล้าอะไรก็เอาแม่งไม่ลง จะเหลือก็แค่ยัยกุ๊กไก่นี่แหละที่ตอนนี้ป้อแป้สติสตังค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ด้วยความที่พี่จ๋องเองก็ต้องรีบกลับบ้านไปหาครอบครัว ส่วนไอ้แมนก็ไม่ได้คุ้นเคยกับน้องๆ มากนัก ผมเลยรับอาสาขับรถพาน้องๆ ไปส่งบ้านเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ
เราช่วยกันหิ้วปีกกุ๊กไปนอนเบาะหลังให้มันนอนสะดวกๆ คนเดียว ส่วนไอ้เบสก็ขึ้นมานั่งข้างคนขับ คอยชวนผมคุยแก้ง่วงไปตามเรื่องตามราว ผมแวะส่งไอ้เบสที่บ้านก่อนด้วยความที่บ้านมันอยู่ใกล้สุด ร่ำลากันลวกๆ แล้วก็ขับพายัยกุ๊กที่ไม่ได้สติเพื่อไปส่งคอนโดพี่สาวมันแถวๆ รัชดา ผมเองมีเบอร์พี่สาวมันอยู่แล้ว ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร โทรนัดแนะเตรียมให้เธอลงมารับหน้าคอนโดแล้วก็ขับไปตามทางเรื่อยๆ
บนรถปกคลุมไปด้วยความเงียบสนิท ผมชำเลืองมองกระจกหลัง เห็นกุ๊กกำลังนอนหลับสนิทอย่างสบายใจเฉิบ มุมปากมีคราบน้ำลายเกาะแห้งเป็นทาง ไม่มีสภาพความเป็นกุลสตรีเล้ยแม่คุณเอ๊ย ด้วยความที่มันนอนตะแคงหันข้างออกมา ทำให้เสื้อยืดคอกว้างสีเทาเปิดอ้าอาก เผยให้เห็นเนินอกอวบๆ จากสองเต้าที่บดเบียดกัน ทะลักออกมาตามช่องคอเสื้อจนเห็นเป็นก้อนนูนๆ ที่ยุบไปตามแรงกด ซึ่งต้องยอมรับว่านมใหญ่พอสมควรด้วยความที่มันเป็นคนร่างอ้วน ทำให้ไขมันตรงอกก็เยอะตามไปด้วย ผมแอบมองอยู่พักหนึ่งจนต้องเผลอกลืนน้ำลายเบาๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมองเห็นภาพกุ๊กในแง่มุมของความเป็นผู้หญิงแบบจริงๆ จังๆ มาก่อน จนกระทั่งวันนี้ที่ได้เห็นเนินอกมันเต็มๆ นี่แหละ
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ ผมก็พาตัวเองมาถึงหน้าคอนโดพี่สาวมันซะแล้ว เห็นพี่สาวมันยืนรอรับอยู่หน้าร้าน MaxValuในชุดนอนกางเกงนอนแบบเข้าชุด สวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีแดงเข้ม อืม พอเทียบกันแล้วพี่สาวมันก็หน้าตาหมวยๆ ไม่ต่างอะไรจากมันเท่าไหร่ ต่างกันแค่เธอไว้ผมยาวเลยไหล่ดูออกสาวๆ ในขณะที่กุ๊กตัดผมซอยสั้นเปิดติ่งหู เช่นเดียวกับรูปร่างของทั้งคู่ที่สวนทางกันไปคนละเรื่อง เพราะพี่มันตัวสูงกว่า และผอมเพรียวกว่า ขณะที่ยัยกุ๊กนั้นทั้งเตี้ยกว่า แถมยังอวบกว่าจนแทบจะเรียกว่าอ้วนอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพเปรียบเทียบความเป็นหญิงของพี่น้องคู่นี้ชัดเจนขึ้นไปอีก
“ขอบคุณนะคะพี่โจ้” น้องแก้ว สาวออฟฟิศวัย 30 เอ่ยทักขึ้นเมื่อผมเปิดประตูลงจากรถ
“ไม่เป็นไรจ้ะ มาพี่ช่วยผยุงมันขึ้นห้องนะ” ผมอาสาช่วยเธอหิ้วปากยัยน้องสาวจอมอวบขึ้นไปส่งถึงห้อง แม้ว่าน้องแก้วจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ผมก็มักจะแอบคิดอะไรทะลึ่งๆ เวลาที่เจอหน้าเธอทุกที หน้าหมวยๆ น่ารักๆ แบบนี้เวลาโดนเย็ดหนักๆ เธอจะทำหน้ายังไงกันนะ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรจริงจังหรอกครับ เพราะกลัวจะเข้าหน้ายัยกุ๊กไก่ที่ทำงานไม่ติด ข้อหาไปยุ่มย่ามกับพี่สาวมันนั่นแหละ ผมส่งกุ๊กถึงห้องเสร็จแล้วก็เดินลงลิฟท์มากับเธอ เราสองคนกล่าวลากันเรียบๆ แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านโดยที่เธอยืนมองอยู่เงียบๆ จนรถผมเลี้ยวลับมา
วันเวลาก็ยังเดินหน้าไปตามเส้นทางของมัน ผมเองก็ยังคงใช้ชีวิตในแบบฉบับหนุ่มโสดต่อไปเหมือนเดิม จะต่างออกไปก็ตรงที่ สาวๆ ซึ่งสลับวนเวียนกันเข้ามาในชีวิตนี่แหละ ที่คอยจะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำหน้ากัน แม้จะมีบางคนที่ยังแอบแวะกลับมาซ้ำให้พอกระชุ่มกระชวยบ้างนานๆ ที
“อืมมมมมม์...... ” คือเสียงครางกระเส่าที่หลุดลอดออกมาจากปากของสาวสวย ซึ่งกำลังบดอัดสะโพกของเธออยู่ข้างบนตัวผมด้วยความเร้าใจ ในขณะที่ผมเองก็นอนเอนหลังพิงกับหัวเตียง สองมือเกาะกุมเต้านมของเธอด้วยปลายนิ้วทั้งห้า สลับกับการก้มลงไปดูดเลียมันอย่างหิวกระหาย อาภรณ์ของเธอหลุดลุ่ย เสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระโปรงทรงเอสีดำกองตกอยู่ที่พื้นห้อง ยกทรงผ้าลื่นหลุดหายไปไหนแล้วไม่รู้ กางเกงในตัวจิ๋วสีครีมพาดคาอยู่ที่ข้อเท้าซ้าย
“เสียวมั้ยครับแจน?” ผมเอ่ยปากถามกระตุ้นอารมณ์เธอเหมือนทุกที
“อืออออ...ออออ... เสียววววว....ค่ะ โอวววว์...” ผมปล่อยให้เธอขย่มอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะจับเธอเปลี่ยนท่าให้เธอนอนะแคงข้าง แล้วจ่อท่อนควยแข็งปั๋งมุดเข้าไปในร่องเสียวเธอจากด้านหลังทีละน้อย ค่อยๆ กระเด้าเอวแบบเนิบๆ เป็นการยั่วอารมณ์เธอให้พุ่งสูงขึ้นไปอีก ผมรู้ดีเลยว่าท่านี้เธอชอบมาก เพราะลำควยอวบๆ มันบดบี้ครูดกับติ่งเสียวของเธอไปด้วยเวลาที่สาวเข้าออกยาวๆ
“ฮืออออ..... อออ ทำแรงๆ.... เลยค่ะโจ้...” เธอครวญครางร้องขอให้ผมกระแทกแรงขึ้นอีก แต่ผมเองยังต้องการแกล้งยั่วเธอให้ร่านหนักกว่านี้
“ทำอะไร.... แรงๆ ครับ” ผมแกล้งถามทั้งๆ ที่ท่อนควยยังคงสาวเข้าออกช้าๆ ในตัวเธอ
“อึ่กกก.... อือออออ.... ช่วยเย็ดแรงๆ ได้มั้ยคะ? กระแทกหีแรงๆ อ่ะ..!” น้ำเสียงเธอเริ่มขุ่นมัว แต่ยังแฝงไว้ด้วยความร่านอยู่ลึกๆ อาห์ ผมล่ะโคตรสะใจเลยเวลาที่ออกแรงกระเด้าเย็ดจนสาวๆ ที่ดูติ๋มๆ เรียบร้อย ต้องยอมปลดปล่อยอารมณ์ความอยากที่ซุกซ่อนอยู่ภายในออกมาจนหมดเปลือก โดยเฉพาะคุณหมอคนสวยอย่างเธอ
อืมม... หมอแจน หญิงสาวที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่ในวัย 30 ต้นๆ ทั้งหน้าตาที่สะสวย เฉลียวฉลาด อาชีพการงานก็ดี แถมยังมีหน้ามีตาทางสังคม เคยปรากฏชื่อในนิตยสารสุขภาพอยู่บ่อยๆ ท่าทีตอนแรกของเธอก็ดูหวงเนื้อหวงตัวเป็นกุลสตรีดีอยู่หรอก แต่พอได้มาโดนท่อนควยใหญ่ๆ คว้านขยี้รูหีของเธอแบบถึงใจ สุดท้ายก็ถึงกับเงี่ยนง่าน ต้องแอบหนีแฟนมานอนโก่งโค้งให้ผมเย็ดอยู่แบบนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
“อาาาาห์..... อาาาาาาาห์.... อ๊าาาาาาา!” เสียงเธอร้องลั่นห้องเมื่อผมกระเด้าเย็ดเธอแบบเน้นๆ เส้นผมดำขลับของเธอพริ้วสยายไปตามจังหวะกระแทกจนมันยุ่งเหยิงไปหมด เม็ดเหงื่อผุดโซมกายเราทั้งคู่ ทั้งๆ ที่แอร์ในห้องก็เปิดไว้จนเย็นฉ่ำ
“อ๋าาาาา....! โจ้ แจนเสียวหี... โอ๊ยยย ควยโจ้ใหญ่สะใจเหลือเกิน....อ๊ะ.. อ๋าาาา กระแทกแรงงง... แรงงงงง”
“อูยยยย.. แจนจ๋า หีแจนตอดควยเหลือเกิน โจ้เสียวหัว.... ชะมัดเลยยย” ผมพูดไปพลางเอามือตบก้นเธอเบาๆ ดังเพี้ยะ บีบคลึงบั้นท้ายกลมกลึงด้วยความหมั่นเขี้ยว ภาพแคมหีของเธอที่กำลังอ้าหุบ รูดควยผมเข้าออกไปมาจนมันเปียกเยิ้มไปทั้งลำ ชวนให้อารมณ์เงี่ยนของผมพุ่งทะยานสูงขึ้น
“ฮืออออ.... โอ้ววว... แจนจะแตกแล้วนะ ฮือ... เค้าขอแตกนะ”
“ได้ครับแจน เดี๋ยวผมจะเย็ดแจนให้น้ำแตกคาควยผมเลยนะ”
“อ๊าาาา... าาาา อ๊าาาาาาาา..... แจน... แจน..... อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย.....ซี้ดดด ”
ผมอัดควยซอยตั้บๆๆ ได้ไม่นานแจนก็เหมือนจะทนความเสียวไม่ไหว สูดปากร้องกรี๊ด ตัวกระตุกตอดหงึกๆ ฟุบหน้าลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ผมเองก็ขี้เกียจฝืนเอาไว้นานๆ เร่งตะบันเย็ดหีเธอจากด้านหลังดังปั้บๆๆๆๆๆ ! ก่อนจะชักควยออกมา ถอดถุงยางทิ้งแล้วสาวรูดจนแตกเลอะแก้มก้นเธอไปทั่ว สภาพหมอสาวคนสวยตอนนี้กำลังนอนฟุบคว่ำหน้าอย่างหมดแรง ก้นโก่งโค้งเด่นอ้อนควยอยู่บนเตียง ที่ร่องหีของเธอโบ๋บานเป็นโพรง มองเห็นคราบน้ำเงี่ยนเกาะมันเป็นเงาทั่วหน้าขา
ผมเดินไปส่งเธอขึ้นรถหลังจากนอนพักเอาแรงกันเกือบ 2 ชั่วโมง ก็พอดีกับที่ไอ้บิ๊ก เพื่อนในกลุ่มคนนึงโทรมาชวนไปกินข้าวเย็นพรุ่งนี้ ก็เลยตอบตกลงเออออไปเพราะไม่ได้เจอหน้ามันมาพักนึงแล้ว ตกเย็นวันต่อมา ผมใช้เวลาติดอยู่บนรถประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงร้านกับข้าวกึ่งผับที่ไอ้บิ๊กลงหุ้นเป็นเจ้าของร่วมกับเพื่อนมัน ผมมองซ้ายมองขวาอยู่แป๊บนึงก็เห็นไอ้บิ๊กโบกมืออยู่หยอยๆ จากโต๊ะยาวริมกำแพงสุดด้านใน แต่อ้าว นั่นมันมากับสาวสวยที่ไหนล่ะเนี่ย ไม่ใช่แฟนมันนี่หว่า?
“ว่าไงวะไอ้บิ๊ก แหมควงสาวสวยมาโชว์เพื่อนเลยนะมึง” ผมทักแซวให้เจ้าตัวได้ยิน เล่นเอาเธอแอบเขินไปไม่น้อย
“ควงห่าอะไรล่ะ นี่มิ้นท์ ลูกพี่ลูกน้องกู พึ่งกลับจากไปเรียนที่ออสฯ ต้นปีนี่เอง ช่วงนี้แม่เค้าเลยให้มาช่วยดูร้านกับกูเนี่ย” เธอยกมือไหว้ ผมก็รับไว้ลวกๆ แล้วหยอดต่อทันที
“โห มิน่าล่ะ ลูกค้าแน่นร้านผิดกับแต่ก่อนเยอะเลยว่ะ”
“ไอ้ห่า มึงนี่แม่งกวนตีนจริงๆ พอๆ กูชวนมึงมากินข้าวนะสัด ไม่ได้ชวนมาป้อน้องกู” ไอ้บิ๊กพูดขำๆ พลางชักชวนให้ผมไปนั่งกินข้าวร่วมกัน
ไม่นานเพื่อนๆ คนอื่นๆ ในกลุ่มก็ทยอยตามมาจนครบทีม พวกเราเล่าสารทุกข์สุขดิบแบ่งปันกันเหมือนสมัยนั่งกินเหล้าตอนเรียน บางคนก็หน้าที่การงานใหญ่โต บางคนก็ลูกสองแล้ว ส่วนผมเองก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะใจลอยมัวแต่แอบเหล่น้องมิ้นท์คนสวยอยู่เป็นระยะๆ ผิวขาวๆ เนียนนุ่มของเธอ สะท้อนเด่นอยู่ภายใต้บรรยากาศของร้านที่ค่อนข้างมืด ใบหน้าสวยหวานตามแบบฉบับสาวสมัยใหม่ ไม่แน่ใจว่าผ่านการทำจมูกหรือทำอะไรมาบ้าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังชวนให้ควยลุกได้อยู่ดี เส้นผมสีน้ำตาลทองอ่อนๆ ยาวปรกเป็นลอนเกือบถึงกลางหลัง หน้าอกหน้าใจก็ขนาดมาตรฐานไม่ต่างอะไรจากสาวไทยซักเท่าไหร่ แต่ถูกดันให้โดดเด่นอยู่ในชุดเกาะอกสีดำที่แสนจะเปิดเผย
จนหลายๆ ครั้งผมก็เผลอทิ้งสายตาจ้องนานจนเธอแอบสังเกตได้ แต่เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงหัวเราะสนุกสนานไปกับวงสนทนาอย่างเพลิดเพลิน คล้ายกับจะเปิดโอกาสให้ผมได้แอบส่องหน้าอกเธอแบบเต็มๆ สองตา ยิ่งจังหวะที่เธอหัวเราะร่า ยิ่งพาให้สองเต้าของเธอเด้งกระฉอกจนคนดูอย่างผมแทบลืมหายใจ
เราสองคนแลกไลน์กันก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้าน กะว่าเอาไว้สำหรับพูดคุยทำความรู้จัก และให้คำแนะนำภายหลังในฐานะพี่น้อง แต่ผมเองแอบยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจลึกๆ เพราะรู้ดีว่าเธอกับผมต้องได้สานสัมพันธ์กันต่ออย่างลึกซึ้งแน่นอน เราคุยกันมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันนั้น มิ้นท์เองพึ่งกลับจากไปเรียนต่อสายบริหารที่ซิดนีย์มา ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานจริงๆ จังๆ ทำให้ช่วงนี้เธอเลือกที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการลองไปสมัครนางงามตามกองประกวดต่างๆ ซึ่งล่าสุดเห็นว่าได้เข้ารอบ 50 คนสุดท้ายของมิสยูนิเวิร์สด้วย ยิ่งคิดว่าตัวเองจะได้ล่อนางงามก็ยิ่งปึ๋งปั๋งขึ้นมา คอยเชียร์เธอแบบออกหน้าออกตายิ่งกว่าไอ้เพื่อนผมที่เป็นญาติเธอเองซะอีก
หลังจากได้ทำความรู้จักกับเธอแล้วทำให้ผมเองแทบจะลืมเรื่องสาวๆ คนอื่นไปเลย ด้วยความที่เธอทั้งสวย ฉลาด รูปร่างดี และมีเซ้นส์อารมณ์ขันที่ใกล้เคียงกับผม เราจึงยิ่งคุยกันถูกคอขึ้นเรื่อยๆ แต่ติดแค่ตรงที่เธอเองก็ยังไม่ยอมเปิดใจคบหากับผมอย่างจริงๆ จังๆ ซักที เต็มที่ก็ได้แค่ไปกินข้าวดูหนังกันสองต่อสอง แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านโดยไม่เคยได้มีโอกาสไปต่อกันอย่างที่ผมตั้งใจไว้ แต่ยิ่งเธอเล่นตัวปิดโอกาสเท่าไหร่ ไอ้ผมเองกลับยิ่งสนุกและรู้สึกท้าทายที่จะเอาชนะผู้หญิงเก่งๆ แบบเธอ ให้มายอมนอนทอดกายให้ผมได้ลิ้มลองความสุขจากเรือนร่างของเธอให้จงได้ เราคุยกันแทบจะทุกๆ เรื่องแบบตรงไปตรงมาและเปิดเผย ผมเคยลองถามเธอเกี่ยวกับประสบการณ์บนเตียงในช่วงที่ไปเรียนต่อ ซึ่งต้องยอมรับว่าเธอเองก็ค่อนข้างใจถึงและก๋ากั่นพอสมควรทีเดียว แต่ไม่ใช่ในแบบผู้หญิงใจแตกที่เที่ยวนอนกับใครเค้าไปทั่วนะครับ
“พวกหนุ่มๆ ฝรั่งนี่นอกจากจู๋ใหญ่แล้วลีลามันดีมั้ย?” ผมเปิดประเด็นไปตรงๆ หลังจากที่เราสนิทกันในระดับที่สามารถคุยเรื่องทะลึ่งกันได้แล้ว
“555 พี่โจ้ถามอะไรทะลึ่งว่ะ”
“เอ๊าก็อยากรู้นี่นา พี่ไม่เคยไปลองกับหนุ่มๆ ฝรั่งที่ไหนมาก่อนนี่นา ก็เลยคิดว่ามิ้นท์อาจจะพอรู้บ้างไม่มากก็น้อย...”
“แหมๆๆ ไม่เคยลองกับหนุ่มๆ แต่เคยลองกับสาวผมบลอนด์มาแล้วสิท่า”
“ก็ไม่รู้สินะ อิอิ”
“มิ้นท์ก็เคยคบกับฝรั่งแค่ 2-3 คนเท่านั้นแหละพี่ ไม่แน่ใจนะว่าคนอื่นๆ ที่เหลือมันจะเป็นเหมือนกันป่าว แต่หนูว่าพวกนี้เค้าอึดอ่ะ เวลามีอะไรกันทีมันทำกันเป็นชั่วโมงเลยนะ กว่าจะจบแต่ละทีนี่แทบจะสลบ ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน”
“โอ้โห.... แบบนี้มิ้นท์ก็ไม่เบาเหมือนกันน่ะสิ สู้กับหนุ่มๆ ตัวล่ำๆ ได้เป็นชั่วโมงๆ”
“555+ ไอ้บ้า ไม่ถึงขนาดนั้นย่ะ”
เราเริ่มคุยถึงเรื่องใต้สะดือของแต่ละคนลึกลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่แชทกัน ด้วยความที่ผมเองก็ค่อนข้างโชกโชนพอตัว เลยยิ่งชวนให้เธอสนใจใคร่รู้ และคอยอ้อนให้เล่าเรื่องสาวๆ ให้เธอฟังบ่อยๆ
“โห ไม่น่าเชื่อเลย ว่าพี่โจ้จะหื่นได้ขนาดนี้นะเนี่ย”
“ง่ะ ก็มิ้นท์ขอให้เล่าให้เองไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาว่าพี่ได้ไง” ผมส่งสติกเกอร์หน้าอ้อนตามหลังข้อความไป
“ฮิฮิ ใครจะไปรู้ล่ะ ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นคนนิ่งๆ เนี้ยบๆ ที่ไหนได้....”
“อารายๆๆๆ ที่ไหนได้อาราย?”
“ที่ไหนได้ดันทะลึ่งเหมือนมิ้นท์เลยยยย 555”
“55555+”
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
จุดจบยอดนักเย็ด #2
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น