วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว #2

 
 
=======================================

ผ่านไป 2-3 เดือน ผมลองทำตามคำแนะนำที่ไอ้โจ้บอกมา ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดีครับ ผมกับเป้โทรคุยกระหนุงกระหนิงกัน พอเลิกงานก็รีบกลับบ้านมาเจอหน้า ทั้งกอดทั้งหอมกันฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง ช่วงวันหยุดก็พากันไปเดทตามห้างที่เราเคยควงแขนกันไปสมัยเรียน ผิดกันแค่คราวนี้มีเจ้าตัวน้อยพ่วงไปด้วย และทำให้วันดีคืนดี เธอจะมีอารมณ์หื่นๆ มาชวนขึ้นเตียงอยู่เป็นระยะๆ นั่นคือผลดีที่เห็นได้ชัดแจ่มแจ้ง แต่!..... ไอ้เจ้าอาการแข็งไม่เต็มที่และเสร็จไวของผมนี่สิ มันดันไม่ยอมหนีหายไปไหนสักที!

“ช่วงนี้บอยเหนื่อยรึเปล่าเนี่ย” เป้ถามหลังจากพึ่งเสร็จภารกิจกับผมไปหมาดๆ และเป็นอีกครั้งที่ผมชิงน้ำแตกไปก่อนคนเดียว จนต้องเปลี่ยนมาใช้นิ้วช่วยทำให้เป้จนเสร็จตาม
“ก็ไม่นะ งานที่บริษัทก็เรื่อยๆ นะช่วงนี้ ทำไมเหรอ” ผมถามทั้งที่พอรู้เหตุผลอยู่แล้ว
“ไม่ใช่ๆ เป้หมายถึงว่า เวลาเรามีอะไรกันน่ะ หลังๆ บอยรีบทำรีบเสร็จเร็วขึ้นทุกทีเลย แถมบางทียังเหมือนแข็งไม่สุดด้วย บอยไม่มีอารมณ์เหรอ”
“บ้าดิเป้ ถ้าไม่มีอารมณ์เราจะชวนมาทำทำไมล่ะ”
“นั่นสิ เป้ว่าเป้ก็ยังใสๆ สวยๆ อยู่นะ ถ้าบอยไม่เอานี่ ก็น่าจะมีคนรอจองอยู่หลายคนนะเนี่ย” เป้พูดพลางทำหน้าทะเล้น เล่นเอาผมหลุดขำก๊ากออกมา แต่ก็อดฉุกใจคิดไม่ได้ นี่เป้หมายความว่าไงวะที่ว่ามีคนรอเอา


“อ้าว ใครที่ไหนแอบมาจองมาชอบเมียผมอีกเนี่ย” ผมแกล้งถามหยอดๆ ไป
“หา? อ๋อ..! บ้า! พูดเล่นย่ะ อีตานี่ก็ดันจริงจังอีก”
“แน่ใจนาไม่ใช่ว่ามีหนุ่มๆ ที่ออฟฟิศมาจีบลับหลังนา”
“บอยเอ๊ยย ผัวก็มีแล้ว ลูกก็มีแล้ว ใครที่ไหนมันจะตาถั่วมาเอาล่ะ” เธอตอบพลางเอานิ้วมาบี้จมูกผมเล่นด้วยความหมั่นไส้
“เอ๊าะเหรอออ แล้วคุณเมียล่ะครับ มีแอบไปชอบหนุ่มๆ ที่ไหนรึเปล่า”
“โอ๊ยยย ก็เต็มไปหมดล่ะค่า ทำไงได้ ก็อินทีเรียหนุ่มๆ ที่ออฟฟิศมีแต่เอ๊าะๆ หล่อๆ น่ากินทั้งนั้นนี่ค้าา” โอ้โหดูความแสบของภรรยาผมซะก่อน คำพูดคำจาปากร้ายไม่เบา

“ถามจริงๆ ที่ออฟฟิศมีคนไหนสเป็คเธอมั่งป่ะเนี่ย” ผมยังไม่ยอมแพ้
“แน่ะ มาหึงอะไรเอาป่านนี้เนี่ย”
“ไม่ๆๆ บอยแค่อยากรู้เฉยๆ เว่ย”
“อ่ะ ก็มีมั้ง”
“จริงดิ คนไหนอ้ะ!?”
“โอ๊ย บอยไม่รู้จักหรอก น้องเค้าพึ่งเข้าได้ไม่นาน อยู่ฝ่ายกราฟฟิกนู่น”
“ชื่อรายย?”
“ชื่อ...ชื่อต้น” เป้ตอบเขินๆ
“จะเขินทำไมฟะ ไหนบอกไม่ได้ชอบไง” ผมอดขำกับอาการของเธอไม่ได้
“ไอ้พี่บ้า! ไม่ได้เขินเฟ้ย” เธอร้องเสียงแหว แล้วตีแขนผมดังเพี๊ยะๆๆ

หลังจากคืนนั้นในหัวผมก็เริ่มคิดถึงคำพูดของไอ้โจ้ขึ้นมา เรื่องที่ว่าเวลามีคนมาจีบแฟนเรา แล้วจะคึกคักเป็นพิเศษ ให้ตายเถอะ แม่งพูดถูกเป๊ะเลยครับ แค่คิดภาพว่าเป้กับน้องต้นเค้าเริ่มสนิทชิดเชื้อกัน มีหยอกล้อถึงเนื้อถึงตัวกันในหัว ควยผมก็แข็งปั๋งแทบจะระเบิดแล้ว หรือจริงๆ แล้วนี่คือรสนิยมทางเพศลึกๆ ของผมวะ พอหึงแล้วถึงควยแข็งเนี่ย?? พอผ่านไปอีกหลายอาทิตย์ ผมจึงลองถามเลียบๆ เคียงๆ เป้ดูถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่

“เป้จ๋า” ผมเอ่ยปากทักหลังจากพาลูกเข้านอนกับคุณยายเรียบร้อยแล้ว โดยพยายามไม่ให้ดูมีพิรุธที่สุด
“ว่าไงเหรอ” เป้ถามโดยไม่ได้หันหน้ามามอง เธอกำลังง่วนอยู่กับการรวบมัดผมให้เป็นทรงหลังจากอาบน้ำหมาดๆ ลำคอเรียวระหงของเธอเผยให้เห็นไรขนปลายๆ ดูน่าซุกไซร้ชะมัด เป้สวมชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง ข้างล่างเป็นกางเกงผ้าลื่นขาสั้นกุดสีครีม ซึ่งเป็นชุดนอนชุดโปรดของเธอ
“น้องกราฟฟิกที่เข้าใหม่คนนั้น ที่บอกว่าหล่อๆ นี่ชื่ออะไรนะ” ผมแกล้งถาม ทั้งๆ ที่จำชื่อได้ขึ้นใจ
“ต้นน่ะเหรอ ทำไมเหรอ” ได้ผลครับ คราวนี้เธอหันควับมามองผมเต็มๆ ด้วยความสงสัย

“เปล่าหรอก ก็เห็นบอกว่าตรงสเป็คเป้ไง เลยอยากรู้ว่าลาออกไปรึยัง”
“โอ๊ะ ตานี่ไปไล่เค้าอีก... ยังย่ะ น้องเค้ายังอยู่ดี ผ่านโปรแล้วด้วย” เป้ตอบพลางแลบลิ้นใส่ผม
“นั่นไง ดีใจอ่ะดิ อย่าให้รู้นะว่าเดี๋ยวนี้สนิทกันแล้ว”
“ทำมาย ทำมายยย ถ้าสนิทกันแล้วหึงหราาา” เป้ยังคงกวนผมไม่เลิก ยิ่งดูน่ารักน่าตีเข้าไปอีก
“เฮ้ยๆๆ อะไรๆ บอกมาเลย นี่ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ย”
“ก็แค่รู้จักกันเฉยๆ ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นหรอกน่า”
“เหรอๆๆ มีแอบไปเที่ยวไปกินข้าวกับน้องเค้ายังเนี่ย”
“โอ๊ยย ประจำ วันก่อนก็ยังพึ่งไปร้องคาราโอกะกันมาอยู่เลย.... ฮี่ๆๆ” คำตอบของเธอเล่นเอาผมเหวอไปโดยไม่ทันตั้งตัว

“ไปกันเป็นกลุ่มย่ะ! แหม คิดว่าไปเดทกันสองคนรึไงอีตาบ้า” เป้พูดพลางเคาะกะโหลกผมเบาๆ สองที
“แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าแอบไปเที่ยวกันสองต่อสอง” ผมแกล้งทำท่าหึงเล่นๆ
“ทำไมๆ ถ้าไปจริงๆ แล้วจะทำไมยะ” เป้ก็ยิ่งยั่วผมต่อ
“เราก็จะแอบหนีไปซั่มกับพลอยมั่งอ่ะดิ อิอิอิ” ไม่ทันขาดคำ เป้ก็ฟาดหมอนข้างเข้ากบาลผมเต็มๆ ทันที เพราะดันพูดชื่อแฟนเก่าผมออกมายั่วโมโหเธอ

“เดี๋ยวโดนๆๆ นี่เค้าแค่สมมติว่าไปเที่ยวเฉยๆ นะ แต่ของบอยเล่นถึงขั้นไปมีอะไรกับพลอยเลยเหรอ โห เลิกๆๆ แบบนี้ต้องเลิกเลย ไอ้ผู้ชายหลายใจ ฮึ” เธองอนไม่หยุดจนผมต้องเข้าไปกอดง้อเธออยู่นาน
“โอ๋ๆๆ บอยพูดเล่นน่า หายงอนน้า”
“ฮึ ไปเลย ไม่รักแล้ว ชิ่วๆ” เธอนอนตะแคงกอดหมอนข้าง ไม่ยอมหันกลับมาหาผม
“อ่ะๆ เดี๋ยวเรายอมให้เป้ไปเที่ยวกะน้องต้นวันนึงก็ได้” ผมพูดง้อเธอไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่เธอรีบหันกลับมามอง เหมือนงงๆ ว่าทำไมผมถึงพูดแบบนั้นออกมา

“ยังไงเนี่ย ประชดหรือยังไง?”
“เปล่านะ ก็บอกให้ไปเที่ยวได้วันนึงไง”
“จู่ๆ นึกไงเนี่ย ตะกี้ยังหึงอยู่เลย”
“ก็ไม่ได้ทำไมหรอก ก็แค่ไปเที่ยวกัน เดินเล่น กินข้าวเฉยๆ เหมือนเพื่อนไง”
“มั่ว! เค้าไม่เคยไปเดินเที่ยวสองต่อสองกับเพื่อนผู้ชาย ตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วย่ะ”
“อ่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนงั้นให้เป็นกิ๊กกันวันนึงก็ได้” คราวนี้เป้ทำตาโตเลยครับ เหมือนเดาไม่ถูกว่าผมกำลังจะเล่นอะไรกันแน่
“ทำเป็นเก่งๆ เดี๋ยวคอยดูเหอะ ไปจริงๆ แล้วอย่ามาร้องนา”
“เราอ่ะไม่ร้องหรอก แต่เธอสิไม่แน่ อาจจะร้องเสียงหลงก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ” ผมพูดสวนไปก่อนจะโดนเป้ตีแขนดังเพี้ยะอีกที

“ไอ้ทะลึ่ง ในหัวก็คิดแต่เรื่องเนี้ย เป็นกระต่ายรึไงยะ?.... ว่าแต่ที่บอกว่าให้ไปเที่ยวได้น่ะ พูดจริงเปล่า?”
“เอ้า พูดจริงดิ ระดับนี้แล้วจะโกหกทำไม”
“เออดี จะบอกว่าน้องเค้าชวนไปดูหนังกันสองคนหลายทีแล้ว แต่เป้ปฏิเสธเค้าไปตลอดเลย” ผมได้ยินแล้วควยกระตุกเลยครับ นี่แสดงว่าไอ้น้องต้นมันก็แอบเล็งเป้อยู่เหมือนกันนี่หว่า พอเข้าทางแบบนี้ผมเลยรีบยุส่ง
“อ้าวก็ดีแล้วนี่นา เป้ก็ชอบดูหนังอยู่แล้ว ทำไมไม่ไปดูกับน้องเค้าล่ะ” ผมรู้ว่าเธอน่ะเป็นคนชอบดูหนังโรงจริงๆ ตั้งแต่สมัยคบกันแรกๆ แล้ว อาทิตย์นึงดูสองเรื่องสามเรื่องก็ยังมี แต่ไอ้ผมนี่สิไม่ค่อยจะถูกโรคกันซักเท่าไหร่ เข้าไปดูทีไรมิวายจะหลับทุกที เธอก็เลยมักจะต้องไปดูคนเดียว หรือดูกับเพื่อนๆ เป็นส่วนใหญ่ จนมาช่วงมีลูกนี่แหละที่เธอเริ่มไม่ได้เข้าโรงหนังอีกเลย

“มันจะดูน่าเกลียดอ่ะดิบอย ผู้ชายผู้หญิงไปดูหนังกันสองคน เป้ก็ไม่ได้โสดแล้วนะ ลูกเต้าก็มีแล้ว”
“โหย คิดมากไปเปล่า ก็แค่ไปดูหนังกับเพื่อนธรรมดาๆ เอง บอยเป็นผัวเป้ทั้งคน ยังไม่คิดมากขนาดนั้นเลย”
“บอยไม่คิด แต่อีพวกที่ออฟฟิศมันจะคิดอ่ะดิ ช่างมันเหอะ ยังไงน้องเค้าก็ไม่ได้ชวนมาพักนึงแล้ว ไว้ถ้าเค้าชวนคราวหน้าค่อยไปก็แล้วกัน” เป้พูดตัดบทแล้วชิงนอนไปซะก่อน ทิ้งให้ผมต้องค้างคาใจปวดควยตุ้บๆ อยู่คนเดียว กว่าจะข่มตานอนได้ก็ล่อไปตีสอง

หลังจากนั้นผ่านไปอีกเกือบเดือน ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษระหว่างเป้กับต้น ผมก็ยังคงปรึกษากับไอ้โจ้อยู่เป็นระยะๆ เวลาที่นัดไปกินเหล้ากัน ทั้งเรื่องปัญหาเกี่ยวกับไอ้หนูผม รวมไปถึงเรื่องเจ้าหนุ่มต้นที่ดูจะมีใจให้กับภรรยาผมอยู่พอสมควร ซึ่งแม่งก็มาพร้อมคำแนะนำเด็ดๆ อีกแล้วครับงวดนี้

“ก็นี่ไงวะพี่ พี่ก็บอกเองว่าตอนฟังพี่เป้เล่าน่ะ พี่ทั้งหึงทั้งหื่นไม่ใช่เหรอ แล้วแบบนี้มันจะมีปัญหาตรงไหนอ่ะ เวลาเอากันพี่ก็บิวท์พูดเรื่องไอ้ต้นอะไรนี่ดิ จะได้ช่วยปลุกอารมณ์”
“ห่า! แม่งปลุกอารมณ์กู แต่พาลจะดับอารมณ์เป้อ่ะดิ เคยลองพูดไปทีนึง แม่งทำเอาเป้เข้าโหมดจริงจังขึ้นมาเลย ไม่ได้ย้งไม่ได้เย็ดกันละคืนนั้น”
“แล้วพี่ไปพูดอีท่าไหนวะเนี่ย” ไอ้โจ้ถามพลางคีบน้ำแข็งเติมใส่แก้ว
“กูก็กำลังนัวๆ กันอยู่นั่นแหละ แล้วแค่ลองถามแย๊พๆ ดูว่า เป้ เป้อยากลองมีอะไรกับต้นมั้ย กูก็นึกว่าเค้ากำลังมีอารมณ์ไง เห็นพวกเรื่องเสียวมันชอบบิวท์กันตอนนี้... แค่นั้นแหละ ปังเลย”
“โอ้โหพี่ พี่แม่งโคตรทื่อเลยว่ะ พูดแบบนั้นเค้าก็สะดุดหมดดิ”

“แล้วมึงจะให้กูพูดยังไงวะ แค่พยายามจะบิวท์ตัวเองให้ปึ๋งปั๋งตอนนั้นก็ปวดกบาลละ ใครแม่งจะมานั่งนึกคำพูดให้มันสวยๆ อีกวะ”
“ใจเย็นพี่ ผมก็ว่าพี่พูดถูกจังหวะแล้วแหละ เพียงแต่...” แม่งจะเว้นช่วงเก็กขรึมทำไมผมก็ไม่เข้าใจ
“แต่อะไรวะ?” ผมรีบถามต่อด้วยความข้องใจ
“แต่พี่เป้เค้ายังไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับต้นไงพี่”

“อ้าว ก็เค้าบอกว่านี่สเป็คเค้าแล้วไง”
“โธ่พี่ ผู้หญิงเค้ามีสเป็คที่ชอบอยู่ แต่ไม่ได้แปลว่าถึงเวลาจริงๆ เค้าจะรีบถ่างขาให้ไอ้นั่นเย็ดทันทีเสียเมื่อไหร่... มันมีจังหวะอยู่นา จากที่แค่ชอบมองชอบอะไร กว่าจะเริ่มชอบพอ จนกระทั่งตกหลุมรักน่ะ”
“แม่ง แค่สมมติตอนเอากันเนี่ยนะ แม่งซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เฮ้ย ผู้หญิงก็ต้องซับซ้อนดิพี่ แบบนี้แหละถึงจะน่าค้นหา นี่ เดี๋ยวผมมีอะไรดีๆ ให้พี่ดู” โจ้พูดพลางล้วงมือหยิบสมาร์ทโฟนคู่ใจของมันขึ้นมา ก่อนที่จะกดเล่นวิดีโอในเครื่องแล้วยื่นมาให้ผม

“อื๊อออ... อื๊มมมม...  อ๊ะ.. อ๊าาาา” เสียงผู้หญิงร้องครวญครางดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์ จนผมต้องรีบกดหรี่เสียงทันควัน สลับกับเสียงเนื้อกระแทกกันดังปั่บๆๆๆ เคล้าคลอไปกับเพลง I Believe I Can Fly ของอาร์ เคลลี่ ทำไมพวกคลิปโป๊ที่เคยเห็นมันชอบเปิดเพลงนี้ตอนเย็ดกันจังเลยวะ? ภาพของหญิงสาวหุ่นเพรียวบางที่กำลังโก่งโค้งอยู่บนเตียง ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผู้ชายคนที่กำลังถ่ายคลิปเธออยู่ ซึ่งก็คงไม่พ้นไอ้โจ้นี่แหละ กระหน่ำเย็ดเธออย่างเมามันในท่าด็อกกี้ ผมพึ่งเคยเห็นควยไอ้โจ้ก็ในคลิปนี่แหละ ควยมันทั้งอวบ ทั้งหนา แถมยังยาวใหญ่ ขนาดที่ว่าซอยเข้าออกแค่ครึ่งโคนก็ยังดูยาวกว่าควยผมอีก คะเนดูแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 7 นิ้วแน่ๆ

ส่วนน้องนางเอกในคลิปนี้ก็ดูจะร้อนแรงไม่เบา ชุดเดรสสั้นสีเทาของเธอถูกถลกจนสองเต้าเปลือยเปล่า กระโปรงด้านล่างร่นขึ้นไปกองอยู่เหนือเอว เผยให้เห็นแก้มก้นและกลีบแคมที่แบะอ้ารูดรับท่อนควยที่กำลังพุ่งเข้าออก สองขาของเธอฉีกกว้าง เด้งก้นร่อนรับแรงกระแทกอย่างสู้ไม่ถอย ด้วยความที่เธอนอนก้มหน้าหันหลังให้กล้อง ผมเลยไม่เห็นใบหน้าของเธอชัดๆ ผมยาวลอนของเธอสั่นไหวไปมาตามแรงกระแทก ท่อนลำผมเริ่มตื่นตัวด้วยฤทธิ์จากบทรักในจอสี่เหลี่ยม จนกระทั่งถึงวินาทีที่ไอ้โจ้เปลี่ยนมานอนหงาย และดึงให้เธอหันมานั่งคร่อมมันนั่นแหละ ผมถึงได้เห็นหน้าเธอชัดๆ และมันทำให้ผมต้องตะลึง! ยิ่งกว่าผลลัพธ์ในเว็บ ohozaเสียอีก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น