วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

อย่าว่าพี่นะน้อง


     "พ่อคะ..อุ้ยจะมารับโอมไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ    พ่อจะว่ายังไง?   อุ้ยก็เคยบอกพ่อเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือคะว่าเมื่ออุ้ยเรียนจบ  มีงานทำ หน้าที่ของอุ้ยแทนแม่ให้ดีที่สุด"
     กำนันโอดซึ่งเป็นกำนันที่อยู่ในสภาพพ่อม่ายเหลือเพียงแต่ลูกสาว,ลูกชายเพียงสองคนเท่านั้น กำลังครุ่นคิดและนั่งฟังลูกสาวคนโตที่ชื่อ"อุ้ย"หรือ"นวลจันทร์"ซึ่งเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อตอนกลางวันด้วยความตั้งใจ
     "อุ้ยก็ทราบดีแล้วไม่ใช่รึว่าที่บ้านไม่มีใคร?  ขืนอุ้ยเอาไอ้โอมไปอยู่กรุงเทพฯ กับอุ้ยอีกคน พ่อก็คงเงียบเหงาแย่น่ะซิ"
     "แต่พ่อก็มีลูก ๆ ของอาเอกซึ่งเป็นหลาน ๆ ของพ่อนี่นา เด็กพวกนั้นก็มาเที่ยวเล่นคลุกคลีอยู่บ้านเราไม่ใช่รึคะ?..พ่อก็รู้อยู่แล้วว่าอุ้ยเช่าบ้านอยู่คนเดียวไม่ค่อยปลอดภัย และอีกอย่าง อุ้ยก็เป็นผู้หญิงไปไหนมาไหนก็ย่อมมีภัย มีอันตรายรอบด้าน..หากอุ้ยพาโอมไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ก็ย่อมมีโอกาส มีประสบการณ์ดีกว่าจะเรียนต่อที่จังหวัดแบบจมปลักดักดาน ไม่มีคุณภาพและเมื่อจบออกมาก็ไร้ค่า..นะพ่อนะ! ให้อุ้ยพาโอมไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯดีกว่า"
     "แล้วอุ้ยได้ถามไอ้โอมมันบ้างรึยังว่ามันจะไปกับอุ้ยหรือเปล่า?"
     "ก็..แหมพ่อก้อ!  ตั้งแต่อุ้ยมาถึงบ้านอุ้ยยังไม่เคยเจอแม้แต่เงาของนายโอมเลยค่ะพ่อ! ยังไง ๆ อุ้ยก็ต้องพาโอมไปเรียนต่อกรุงเทพฯให้ได้"
     "พ่ออนุญาต!..แต่อุ้ยก็ลองพูดกับน้องชายของอุ้ยเอาเองก็แล้วกัน"
     กำนันโอดพูดตัดบทก่อนที่จะลุกลงไปทำธุระนอกบ้าน..ปล่อยให้นวลจันทร์หรืออุ้ยจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า และทำธุระส่วนตัวเพียงลำพัง
     นวลจันทร์เคยเขียนจดหมายมาถึงพ่อตั้งหลายครั้ง  เกี่ยวกับการที่จะเอาน้องชายคนเดียวของหล่อนไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ตอนที่จบม.ต้นจากต่างจังหวัดที่บ้าน กำนันโอดก็พยายามหน่วงเหนี่ยวและคัดค้านจะไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวไปอยู่กับพี่สาว..เพราะนิสัยของโอมเป็นคนแข็งกร้าวและติดไปทางอันธพาลนิด  ๆ เพราะถูกตามใจมาตั้งแต่เล็ก  ๆ โอมถึงเป็นเด็กวัยรุ่นที่เอาแต่ใจตัวเองตลอดมา กำนันโอดแกก็ติดตามความรู้สึกของพ่อที่อดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ว่า อุ้ยคงจะไม่มีปัญญาที่จะปกครองและปรามโอมให้หมดฤทธิ์พยศได้อย่างแน่ ๆ หากกำนันโอดมีญาณวิเศษ! ที่ว่าอุ้ยต้องการเอาน้องชายคนเดียวแท้  ๆ  ไปอยู่ด้วยกับหล่อนนั้น  มันเป็นเหตุผลลึก  ๆ มันเป็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในจิตสำนึกของอุ้ยที่ยากจะเปิดเผยให้กำนันโอดรับรู้และเข้าใจ และกำนันโอดผู้เป็นพ่อก็ไม่มีโอกาสรับทราบเรื่องราวระหว่างสองพี่น้องที่ไม่น่าเกิดขึ้นมาได้..แกคงไม่นึกและคิดไม่ถึงว่าชีวิตจริงที่เหนือกว่าคำนิยามและยิ่งกว่าชีวิตในนิยายระหว่างน้องชายกับพี่สาว
     "นวลจันทร์" หรือ..อุ้ย! เป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยสาวสดสะพรั่ง รูปทรงองค์เอวและส่วนประกอบที่เป็นเรือนร่างของอุ้ยมีทุกอย่างที่ผู้ชายพึงปรารถนา..แม้อุ้ยกำลังจะย่างเข้าสู่วัยเบญจเพสและผ่านวัยสาวมาหลายปี     แต่อุ้ยไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนใด! ความรู้สึกส่วนลึกของอารมณ์ทั้งแปลกประหลาดที่ถูกเก็บเอาไว้ภายใน..หล่อนมีความผูกพันและห่วงใยอยู่กับน้องชายของหล่อนเพียงคนเดียว!
     หล่อนเริ่มมีจิตใจ  และมีอารมณ์ล้ำลึกที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในแบบซ่านเสียวเตลิดเปิดเปิงกับน้องชายอยู่บ่อย  ๆ  ..อุ้ยพยายามสลัดความคิด  ความรู้สึกอย่างเลื่อนลอยของอารมณ์ตัวเองออกไป   แต่หล่อนก็ทำไม่ได้!!  และเมื่อมันถึงจุดเดือดของอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใน..หล่อนก็จำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเอง  โดยจินตนาการสร้างวิมานทางฝันว่าหล่อนได้ร่วมเพศสัมพันธ์กับโอมผู้เป็นน้องชายเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ใคร่ของตัวเอง!
     นวลจันทร์หรืออุ้ย..เหลือบมองร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนที่ประกอบไปด้วยส่วนโค้ง เว้าและส่วนโหนกนูนตึงเต่งจากกระจกภายในห้องน้ำ พร้อมกับสองมือลูบไล้ไปทั่วร่างงามอย่างลืมตัว..ขณะฟอกสบู่ก็จินตนาการชอนไชไปทั่วบริเวณรูร่องซึ่งอวบอูมโอ่อ่าเหมือนมีกระดองเต่ามาครอบเอาไว้ตรงหน้าขา..
     อุ้ยแหย่ปลายนิ้วเข้าไปในซอกหลืบของตัวเอง..ขณะที่อีกมือที่ฟอกสบู่ถูไปทั่วสองเต้าเต่ง กลับบีบเคล้นส่วนนั้นพร้อมกับปลายนิ้วชี้ก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น พร้อมกับที่อุ้ยแหงนหน้าซู๊ดปากหลับตาปี๋!
     หลายนาทีที่อุ้ยอยู่ในสภาพเช่นนั้น! จินตนาการความสุขของอุ้ยที่วาดวิมานทางฝันว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับน้องชายก็ทะลักทลายหลั่งไหลออกมา..อ่า..ช่างมีความสุขซะเหลือเกิน!
     ชีวิตใหม่ในกรุงเทพฯของโอมซึ่งมาพักอาศัยกับพี่สาวเพียงแค่เดือนกว่า    ๆ จากเด็กชนบทบ้านนอกคอกนามีฐานะของลูกชายกำนันก็มีอันต้องมีชีวิตที่เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง..อุปนิสัยที่เคยเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด ก็ชักจะมีทีท่ากลับมาเป็นเด็กหัวอ่อนว่านอนสอนง่าย..อุ้ยเองก็รู้สึกสุขสบายขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด   เมื่อพ่อเปิดโอกาสให้เอาน้องชายมาอยู่ด้วยสมความตั้งใจ! แต่ความรู้สึกและอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของอุ้ยนั้นมันกลับเพิ่มความรุ่มร้อนเดือดพล่านและมีความปรารถนาต้องการอยู่ตลอดเวลา อุ้ยเองก็ไม่เคยทราบเหมือนกันว่า..ทำไมอุ้ยจะต้องมีความรู้สึกแปลก ๆ กับโอมผู้เป็นน้องชายยังงั้น!
     ตั้งแต่โอมมาอยู่ด้วย    รู้สึกว่าอุ้ยจะเปล่งปลั่งสดสวยเหมือนสาวน้อยแรกรุ่น การแต่งเนื้อแต่งตัวก็บ่งบอกคุณลักษณะและสรรพคุณของตัวเองให้โอมเห็นอยู่บ่อย  ๆ เวลาอยู่บ้าน..ส่วนเวลาออกไปทำงานอุ้ยจะเป็นไปอีกแบบหนึ่ง โดยที่โอมผู้เป็นน้องชายก็คงคิดไม่ถึงหรืออาจจะไม่ค่อยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของพี่สาวที่พยายามจะเปิดเผยความขาวหลาย ๆ ส่วนจากเรือนร่างของตนที่มีเวลาว่างเป็นของตัวเองเมื่ออยู่บ้าน..แต่โอมก็อ่านความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ที่ผิดปกติของพี่สาวไม่ออก..แม้แต่ยามที่อุ้ยนุ่งกระโจมอกด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่งไขว่ห้างอวดขาขาวนวลเนียนเหมือนไข่ปอกให้โอมเป็นอยู่บ่อย ๆ ส่วนอุ้ยก็คอยสังเกตอาการของน้องชาย แต่อุ้ยก็ไม่เคยเห็นอาการผิดปกติของโอมแต่อย่างใด!
     "เฮ้อ!    โอมเอ้ย..ทำไมซื่อบื้อไม่เอาไหนหยั่งงี้นะ..ไอ้เรารึอยากจะให้โอมคิดแบบที่ว่ากับเราบ้าง..แหม!!โอมนี่ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่เอาอ่าว ไม่เอาอ่าวซะจริง ๆ "
     อุ้ยรำพึงกับตัวเองขณะที่น้องชายนั่งนิ่งจ้องดูภาพในโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว หากเด็กผู้ชายคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกับโอมหากว่าได้มีโอกาสยลโฉมของอุ้ยในยามนั้นคงแอบกลืนน้ำลาย  หรือคงแอบเก็บไปจินตนาการทางฝันไปนานแล้ว!..เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาบ้านแล้วเหมือนทุก ๆ วันที่น้องชายมาอยู่ด้วยกันเพียงเดือนกว่า ๆ อุ้ยพยายามที่จะใช้เรือนร่างของตัวเองเรียกร้องให้น้องชายหันมาสนใจ หรือตอบสนองความรู้สึกที่ซ่อนลึก ๆ อยู่ภายในของตัวเองบ้าง อุ้ยจึงพยายามทำทุกอย่างแม้จะต้องใช้เวลาบ้างอุ้ยก็ยอม!
     ..และอุ้ยคิดว่า โอมเกือบจะพร้อมในตอนบ่ายของวันหยุดอีกเดือนต่อมา!
     วันนั้น..อุ้ยตื่นแต่เช้าหลังจากทำความสะอาดบ้าน  ซักเสื้อผ้าของตัวเองและของโอมพร้อมกับอาบน้ำอาบท่าในขณะที่โอมซึ่งนอนดึกในวันหยุดเพราะดูทีวี.จนจบรายการสุดท้ายและตื่นสายเหมือนทุกครั้ง
     ..อุ้ยเหลือบมองน้องชายที่เพิ่งตื่นนอนเพื่อเข้าห้องน้ำ..ขณะที่น้องชายหันมามองร่างงามของพี่สาวซึ่งนั่งชันเข่าอวดขาอ่อนอวบขาวในชุดกระโจมอกด้วยผ้าเช็ดตัวเพราะเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จออกมาใหม่ๆ และกำลังมองหารองเท้าแตะเพื่อจะใส่ออกไปซึ้อกับข้าวเมื่อเปลี่ยนชุดอยู่กับบ้านเสร็จแล้ว.เพียงแวบเดียวที่อุ้ยเหลือบไปเห็นสายตาน้องชายที่รีบหลบสายตาของอุ้ยเลี่ยงเข้าไปห้องน้ำใกล้ ๆ ..โอมมีพิรุธให้อุ้ยรับทราบและรู้เห็นการกระทำของโอมได้เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น!
     อุ้ยแนบสายตาเพ่งมองไปที่รูซึ่งอุ้ยแอบตระเตรียมเอาไว้ตรงฝาผนังห้องน้ำเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา   ด้วยอารมณ์ที่อยากรู้อยากเห็นและมีความปรารถนาบางอย่าง ภาพที่อุ้ยเป็นคือร่างเปลือยเปล่าของน้องชายกำลังใช้มือรูดแก่นกายที่แข็งปั๋งขนาดน้อง ๆ กระบอกไฟฉายเข้า ๆ ออก ๆ อยู่ไปมาท่ามกลางเสียงน้ำที่โอมเปิดจากก๊อกซ่า ๆ   อุ้ยไม่ทราบไม่ได้ยินว่า  ในขณะที่โอมกำลังช่วยเหลือตัวเองและแหงนหน้าซี๊ดปากพูดอะไรพึมพำเอ้อ ๆ อ้า..มันเป็นภาพที่อุ้ยให้ความรู้สึกร้อนฉ่ามีอารมณ์ปรารถนาขึ้นมาอย่างลืมตัว
     อุ้ยเลื่อนมือขวาสอดเข้าไปมั่วอยู่กับบริเวณเนินนูนตรงหน้าขาในลักษณะนั่งอยู่ในที่ยอง ๆ ส่วนสายตาก็เพ่งมองการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวเองของน้องชาย ซึ่งกำลังเร่งเร้ากระแทกแก่นกายหลับตาปี๋   เพียงแค่ไม่ถึงสองนาทีที่อุ้ยจ้องมองภาพนั้นและเมื่อน้องชายสำเร็จขึ้นสวรรค!!เมือกไคลของอุ้ยก็ฉ่ำเยิ้มแตกพล่านออกมาเช่นเดียวกัน!!
     ถึงแม้ว่าอุ้ยจะเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวหลังจากที่รีบใช้กระดาษชำระความฉ่ำเยิ้มไปทั่วซอกหลืบจนสะอาดเรียบร้อยและออกไปซื้อของที่ปากซอยกลับมา อุ้ยก็ยังคงอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์ปรารถนาอย่างลึก   ๆ  และกำลังนึกว่าจะต้องทำอะไรให้มันเซอร์ไพรส์ให้ได้ในตอนบ่าย ๆ หรือตอนค่ำวันนี้
     "โอม ๆ มาช่วยพี่ทำกับข้าวหน่อย ปิดทีวีก่อนเดี๋ยวค่อยดู"
     อุ้ยเรียกน้องชายซึ่งอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋และสวมเสื้อยืดแบบวัยรุ่นลายพร้อย    นอนคว่ำหน้าอยู่หน้าจอทีวี    แต่อุ้ยคอยสังเกตดูน้องชายตัวดีว่าคอยแอบมองมาทางอุ้ยจนผิดปกติบ่อย ๆ
     "โธ่!!พี่อุ้ย..ผมเคยทำกับข้าวอร่อย  ๆ เป็นกับเขาที่ไหน? ก็ดีแต่เพียงทอดไข่ พี่อุ้ยจะให้ผมช่วยทำกับข้าวอะไรให้ล่ะ?"
     "มาเถอะน่า ช่วยพี่ตำพริกแกงก็ยังดี เดี๋ยวพี่จะรีบทำปูผัดผงกะหรี่ของชอบให้โอมอยู่นี่ไง สองคนสี่มือช่วยกันทำจะได้กินข้าวกันไว ๆ รึว่าโอมยังไม่หิว?"
     โอมเดินหน้ามุ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ไปหาพี่สาว   ซึ่งกำลังยืนหันหลังอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินอวดโคนขาอ่อนอวบขาวและสะโพกผายงอนแน่นหนั่นโดยที่ยังไม่ได้หันมามองโอมซึ่งนั่งลงใกล้ ๆ
     "โอมเด็ดพริก หั่นตะไคร้เตรียมเอาไว้"
     อุ้ยสั่งน้องชายโดยไม่หันมามอง    ซึ่งโอมกำลังจ้องอาการเคลื่อนไหวของพี่สาวทางด้านหลังอย่างไม่กะพริบตาเช่นเดียวกัน โอมไม่อยากจะคิดหยั่งเมื่อเช้าที่ในห้องน้ำนั้นสักนิด   แต่โอมก็อดที่จะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ได้  อุ้ยกันกลับมามองน้องชายที่นั่งหั่นตะไคร้  ยิ้มลึก ๆ อยู่ภายใน จ้องมองไปตรงเป้ากางเกงน้องชายอย่างไม่เกรงใจจนโอมต้องหลบสายตา
     กำลังจะชวนน้องชายหลังจากเสร็จจากกินข้าวกินปลาว่าไปเที่ยวซื้อของและเดินเล่นแถว ๆ ศูนย์การค้ากันมั้ย? โอมก็บอกขออนุญาตว่าจะไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อย แต่อุ้ยบอกว่าให้คอยจะออกไปด้วย ขอเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สวยและเรียบร้อยกว่านี้หน่อย!!
     อีกสิบนาทีต่อมา  ทั้งอุ้ยและโอมก็มายืนคอยรถเมล์ตรงปากซอย  เพื่อนั่งโดยสารไปที่ศูนย์การค้า  หากคนภายนอกทั่วไปที่เห็นโอมกับอุ้ยในตอนนั้น คงจะไม่นึกว่าโอมกับอุ้ยเป็นพี่น้องกันอย่างแน่ๆ  เพราะอุ้ยเล่นใส่เสื้อยืดพื้นขาวลายการ์ตูนตัวแดงแจ๋สวมกางเกงยีนส์ฟอกเก่า  ๆ  มีรอยขาดเหนือเข่าทั้งซ้ายขวา เผยให้ความขาวของเนื้อแท้วับ  ๆ  แวม  ๆ ออกมาและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือตรงเป้ากางเกงซึ่งฟิดปั๋งบ่งบอกลักษณะของรูปพรรณสัณฐานประเภทนูนโหนกโคกใหญ่!!
     "กึ๋ยส์"วัยรุ่นสองสามคนซึ่งยืนรอรถเมล์อยู่ใกล้ ๆ แอบถอนหายใจ และกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เมื่อหันมาเห็นบริเวณหน้าขาของอุ้ยซึ่งยืนคุยอยู่กับน้องชาย
     ความรู้สึกของโอมเองที่มองพี่สาวซึ่งบอกว่าขอแต่งตัวแบบเรียบง่ายในระหว่างที่เดินซื้อของอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนั้น   โอมบอกไม่ถูกว่าโอมกำลังคิดอะไรอยู่เหมือนกัน..โอมยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้!!
     "ดูหนังกันสักรอบมั้ยล่ะ โอม?"
     อุ้ยหันมาถามน้องชาย   ซึ่งเดินตามหลังมองดูสะโพกผายงอนหนั่นแน่นผึ่งผายของพี่สาวซึ่งเพิ่งจะก้าวผ่านเคาน์เตอร์จ่ายเงินออกมา   จนโอมเกือบจะเบรคพรืดแทบไม่ทัน เพราะจู่ ๆ อุ้ยก็หยุดหันมาถามน้องชายเอาเฉย ๆ
     "เรื่องอะไรล่ะพี่?"
     "เดี๋ยวก่อนซิ!!เดินเลี้ยวขวาไปทางโน้นมองหาโปรแกรมดูก่อน    ตกลงนะโอมดูหนังกันสักรอบ นั่งเพลิน ๆ ตากแอร์คลายร้อนตอนเย็นๆ  ค่อยกลับบ้าน"
     อุ้ยจูงแขนน้องชายที่หิ้วถุงให้มาเดินเบียดใกล้ ๆ กัน เมื่อเดินเลี้ยวขวาขึ้นมาชั้นสองซึ่งเป็นที่ตั้งโรงภาพยนตร์ พร้อมกับเดินไปดูโปรแกรมหนังที่จะฉาย มันเป็นการกระทำ,การปฏิบัติและกิริยาท่าทางที่เรียบง่าย ที่อุ้ยจะลองหยั่งเชิงอารมณ์ ความรู้สึกของน้องชายที่จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ ออกมา
     หนังรอบบ่ายวันนั้นรู้สึกว่าคนดูโหรงเหรงเป็นบ้า อุ้ยแอบยิ้มอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด ขณะที่โอมกำลังบ่นอะไรอุบอิบเมื่อหนังเริ่มฉายไปเพียงห้านาทีกว่า ๆ
     "พี่อุ้ย ผมว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า"
     โอมเอ่ยกับพี่สาวซึ่งกำลังแกล้งเอามือมาวางไว้ที่หน้าขาของน้องชาย
     "ทำไมล่ะโอม ก็หนังเรื่องนี้เป็นหนังดีนะจ๊ะ พี่อ่านข่าวว่าทำรายได้ดีมาตลอด แม้จะไม่ใช่หนังท๊อปเทนหรือขั้นสุดยอดแบบที่ส่งเข้าประกวดที่เมืองคานส์เช่นหนังฝรั่งที่ได้รับรางวัลออสการ์ แต่พี่ว่าเนื้อเรื่องมันน่าดู และเข้าที่ดีนะ!!"
     ปากก็พูดไป  แต่มือของอุ้ยไม่ได้ดึงกลับออกไปจากบริเวณหน้าขาของน้องชาย โอมรู้สึกอึดอัดและมีอาการหายใจขัด  ๆ  กับการกระทำของพี่สาว ที่เอามือมาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณเป้ากางเกงของโอมในยามนี้   ยิ่งภาพของหนังในจอมันรุ่มร้อนเร้าอารมณ์ยิ่งขึ้นทุกที  แต่พี่สาวกลับแสดงอาการไม่รู้ไม่ชี้ แล้วอย่างนี้จะให้โอมทำอย่างไร?!!"
     โอมรู้สึกอ่อนไหวและค่อย ๆ คล้อยตามพลิ้วไปตามอารมณ์ของพี่สาว ซึ่งพึมพำพูดอะไรอยู่งึมงำด้วยเสียงกระเส่าแบบที่โอมรู้สึกว่า มือของพี่สาวโดยเฉพาะปลายนิ้วที่ร้อนผ่าว ซึ่งกำอยู่รอบๆ  ถ่อหัวบานของโอมซึ่งกำลังแข็งปั๋ง และแสดงออกมาจากความรู้สึกจากภายในของโอม ซึ่งเตลิดไปไกลเพราะการกระทำของอุ้ยผู้เป็นพี่สาวทำให้โอมร้อน ๆ หนาว ๆ โดยไม่รู้สึกตัว
     ภายในจอหนังคู่พระคู่นางก็กำลังล่อกันให้มั่ว และกว่าโอมจะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไร โอมก็มีความรู้สึกเหมือนกับตัวเองเบาหวิวคล้ายปุยนุ่นล่องลอยไปไกลสุดขอบฟ้าท่ามกลางความมืดภายในโรงหนัง     โอมทอดสายตาฝ่าความมืดลงไปตรงหน้าขาของตัวเอง
     โอมรู้สึกว่าเต้าตึงเต็มเต่งของพี่สาวที่แนบอยู่กับบริเวณหัวเข่าของโอมในยามนั้น   เพราะกางเกงของโอมถูกรูดลงไปกองกับพื้นนานแล้ว  ปลายลิ้นริมฝีปากของอุ้ยที่ฉก อม โลมเลียถ่อหัวบานของน้องชายอย่างพลิ้วแผ่ว คุกเข่าอยู่ตรงหน้าขาของน้องชาย
     "โอม โอม พี่จะทนไม่ไหว ทำไมโอมไม่ช่วยอะไรพี่บ้างล่ะ?"
     ขณะที่อุ้ยเหยียดตัวขึ้น  พร้อมกับรูดกางเกงยีนส์รัดรูปลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างไม่ใยดี  โอมรู้สึกว่ามีอาการคล้าย  ๆ ปวดท้องฉี่เมื่อร่างตะคุ่ม ๆ ของพี่สาวก้มลงรูดกางเกงชั้นในหลุดจากปลายเท้าออกไป พร้อมกับโน้มตัวเข้าหาโอมและจับมือของโอมไปสัมผัสกับบริเวณเนินนูนอวบใหญ่ซึ่งรกครึ้มเต็มไปด้วยหญ้าไซและหญ้าคา   บริเวณแอ่งหลืบตรงรอยผ่ากลางเนินในตอนนั้น  โอมรู้สึกตัวว่ามันฉ่ำแฉะและเมื่อพี่สาวถ่างขาแบะพร้อมกับกดทับลงมาตรงหน้าขาของโอม..และพี่สาวก็โน้มตัวเบียดเต้าเต่งซึ่งเสื้อนอกเสื้อในถลกสูงขึ้นไปอยู่ตรงซอกคอ  เนื้อแท้  ๆ ของเต้าเต่งที่จ่ออยู่ตรงหน้าของโอมคือสิ่งที่เรียกว่านมของพี่สาว
     หน้าขาของโอมรู้สึกถึงรสสัมผัสของความหนึบแน่น ร้อนผ่าวซึ่งกำลังมุดเข้าไปในซอกหลืบของพี่สาวซึ่งค่อย ๆ หย่อนสะโพกผายงอนลงไปอย่างช้า ๆ
     "โอมจ๋า! ดูดนมให้พี่หน่อยซี!"
     อุ้ยใช้สองมือโอบคอน้องชาย  ขณะที่แอ่นปลายติ่งไตตรงเนินเต้าไปขยี้อยู่ตรงริมฝีปากน้องชายซึ่งกำลังเริ่มซุกไซ้เต้าเต่งด้วยความมันอย่างลืมตัว!  ปลายลิ้นและริมฝีปากของโอมกำลังมั่วอยู่กับเต้าเต่งด้านซ้ายซึ่งพี่สาวเบียดเข้าหา..ส่วนมือขวาของโอมคลึงเคล้นอยู่ตรงปลายจะงอยของเต้าขวาอยู่เช่นกัน      กว่าโอมจะรู้ว่าส่วนล่างบริเวณหน้าขาของของตัวเองโดนพี่สาวกดสะโพกผายงอนหย่อนต่ำจนแนบชิด และดงหญ้าไซ  หญ้าคาของพี่สาวกับของโอมแนบสนิทจนมีความรู้สึกแปลก  ๆ ไปอีกแบบ..และโอมก็แทบรู้สึกทนไม่ไหวในเวลาต่อมา
     อุ้ยเริ่มยกสะโพกเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างช้า ๆ ขณะที่โอบรอบคอให้แนบแน่นเข้าหาด้วยอารมณ์ที่โอมแทบจะตอบสนองไม่ทัน   อาการกระแทกกระทั้นของอุ้ยซึ่งกำลังโยกสะโพกผายงอนร่อนส่ายอยู่ไปมาและครวญครางอยู่ท่ามกลางความมืดแทบไม่รู้ภาษา หอบหายใจจนเหงื่อพล่านแตกซ่า..และบดกระแทกลงบนหน้าขาของโอมเร็วจี๋จนโอมแอ่นรับแทบไม่ไหว!
     "อูย..อูย..โอมจ๋า! ทำไมมันเสียวยังงี้ เร็ว ๆ ดูดนมพี่แรง ๆ เร็ว ๆ ซี.."
     โอมหมดสิทธ์จะกลั้นใจกับความแปลกใหม่ที่กำลังได้รับ..เมื่ออุ้ยซอยสะโพกกับหน้าขาของโอมพั่บ   ๆ   โอมก็ต้องปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างกระฉูดออกมาดับอารมณ์วิปริตของพี่สาว!  กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยพร้อมกับเมือกคาว โอมได้ยินเสียงกระซิบข้างหูแผ่วๆ จากพี่สาวออกมาว่า..
     "โอมจ๋า!!..โอมคงไม่ว่าพี่นะ น้อง!"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น