วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

สาวแดดเดียว ตอนที่ 1


     ภาณิกาเริ่มจะรับรู้ถึงสิ่งต่าง  ๆ ในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่เธอเคยชินตั้งแต่ต้นปีแล้วกระมัง
     เด็กสาวมักจะชอบเปลือยกายหน้ากระจกเงา เพื่อที่จะสะท้อนออกมาเป็นภาพเด็กสาวหน้าตาคิกขุและอวดสรีระที่เริ่มจะโดดเด่นสายตาขึ้นทุกวัน
     ทรวงอกสองข้างนั้น มันเคยแบนราบติดร่างก็กลับเบ่งบานขึ้นมาไม่ผิดกับดอกบัวที่เต่งตูมแล้วค่อยเบ่งบานอวดความงามยั่วมวลภมร
     จงอยสีชมพูของมันแดงระเรื่อเหมือนทับทิมล้ำค่าประดับไว้บนความอวบสะพรั่ง สีของมันช่างสดใสชวนให้เธอยกมือไปลูบไล้มันเบา ๆ เสียร่ำไปและเมื่อลองเขี่ยเม็ดทับทิมสองเม็ดนั้นเข้าด้วยปลายนิ้ว เด็กสาวก็ต้องขนลุกซู่อย่างสยิวซ่านเสียวเสียเรื่อย
     เด็กสาวนึกแปลกใจตัวเองอยู่ครามครัน ขนาดปลายนิ้วยังสร้างความเสียวซ่านให้อารมณ์อย่างน่าประหลาด แล้วถ้าเป็นปากล่ะ..จะซ่านซ่าส์ขนาดไหน
     คิดแล้ว  ภาณิกาก็หน้าแดงเรื่อ นิ้วที่พรมขยี้เม็ดสองทับทิมสยามเร่งจังหวะขยี้บดหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เธอไม่รู้สึกตัว
     เด็กสาวไต่สายตาจากทรวงอกงามลงมาหาหน้าท้องที่แบนราบสนิทไร้รอยไขมันอย่างน่าเป็นปลื้มไม่หายสักที
     ในเมื่อเพื่อนร่วมห้องเรียนของเธอบางคน มีหน้าท้องนูนดันกระโปรงนักเรียนเสียเป็นส่วนมาก ค่าที่ไม่สนใจจะรักษาหุ่นทรวดทรงเสียแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง ผิดกับภาณิกาที่ห่วงเรื่องหุ่นมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะคุณแม่ของเธอเป็นผู้หญิงค่อนข้างสวยและหุ่นดีแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็เป็นไปได้
     หลุมสะดือลึกอย่างที่สมัยนิยมกำลังคลั่งโชว์สะดือทองกัน และภาณิกาก็สามารถที่จะอวดมันได้ไม่อายสายตาใครเช่นกัน
     สะโพกที่ผายกลมหนั่นแน่นตรงนั้น..อาว์..
     ภาณิกาหน้าแดงเข้มจัดเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อประจักษ์แก่สายตาตัวเอง   ว่า..ตรงหน้าขาอันกลมกลึงนั้น   เนินเนื้อของเธอมันอูมฟูมีเนื้อหนังเปล่งปลั่งกว่าวันวานเสียอีก
     บนเนินเนื้อทอง   มีปอยหญ้าประดับน้อยนิด   เพราะมันเพิ่งจะถูกปลูกให้ขึ้น ปลายของมันยังแหลมและสากเพราะยังสั้นอยู่มากนัก
     รอยโค้งแบ่งส้มออกเป็นสองกลีบเห็นอยู่ลาง  ๆ  ท่ามกลางปอยหญ้านั้น  มันแฟบสนิทติดกับเนื้ออวบเพราะไม่เคยมีสิ่งใดมากรีดหรือแทรกแซงเข้าไปในหลืบเนื้อทองแต่เมื่อเด็กสาวทดลองแย้มขาออกห่างจากกัน  เธอก็แลเห็นปลายแหลม  ๆ ยื่นออกมาหว่างกลีบส้มอวบนั้นเพียงเล็กน้อย      เด็กสาวผละมือจากเม็ดทับทิมที่ถูกเธอขยี้จนเป็นสีแดงเข้มปลั่ง ลูบไล้เรือนร่างอย่างแช่มช้า เพื่อลงไปหาเนินเนื้ออวบสะพรั่งนั้น แตะลงไปที่ปลายแหลมยื่นก็ทำเอาร่างอวบสะคราญตาสะดุ้งเฮือก    หน้าแดงของเธอเหยเกไปเล็กน้อยเมื่ออารมณ์ซ่านเสียวทวีความรุนแรงขึ้น
     ผิวขาวอมชมพูลอยเด่นบนกระจกเงาบานใหญ่ขนาดเท่าตัวคนพร้อมทั้งสรีระที่บอกว่าเธอ..เริ่มจะเติบโตเป็นสาวขึ้นมาทุกคืนทุกวัo
     พร้อมกันนั้น  ความรู้สึกที่ภาณิกาไม่เคยพบเจอก็ถูกลมหนาวเข้ามาพัดหอบเข้ามาใส่ไว้ในอกสาวรุ่น ให้เธอทุรนทุรายทุกเมื่อเชื่อวัน
     เด็กสาวหลุดเสียงทอดถอนใจยาวออกมา  เมื่อประจักษ์ว่า บัดนี้ เธอได้เป็นสาว..และมีเค้าว่าจะสวยขึ้นทุกที
     ภาณิกาหมุนร่างเปลือยเปล่ากลับมาทอดยาวบนเตียง   หายใจระรวย  เมื่อสองมือลูบไล้ไปจนทั่วเรือนกาย..เนื้อสาวแตกผลิช่างเนียนนุ่มมือดีเหลือเกิน..นี่ขนาดว่าเป็นมือเจ้าของนะยังรับรู้ว่ามันเนียนเกลี้ยงเกลาปานนี้   แต่หากว่าเป็นมือของชายหนุ่มที่ไหนสักคน เขาจะชื่นชอบเธอสักแค่ไหน
     มันเป็นความภาคภูมิใจเล็ก ๆ กับการจะได้เป็นสาวสวยในอนาคต โอว์..ภาณิกา
     "อูย.."
     เปลือกตาเด็กสาวพริ้มเกือบมิด มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากไรฟันเมื่อติ่งเนื้อส่วนสำคัญถูกสะกิดเขี่ยไปมา ปลีขาขาวแยกห่างจากกันทุกขณะ เช่นเดียวกับหน้าท้องที่ลอยจากที่นอนเมื่อนิ้วเริ่มจะเสียดสีกับหลืบเนื้อส่วนนั้นอย่างหนักหน่วง
     ในใจเหมือนมีไฟเข้าไปสุมให้ร้อน แต่กลับขนลุกซู่สะท้านไปทั้งตัว นึกถึงภาพในจอทีวี  พระเอกนางเอกประกบร่างแลกจูบกันดูดดื่มและมือของคนทั้งสองก็ปัดป่ายไปบนเนื้อตัวของกันและกัน
     อาว์..เขาและเธอคงจะหฤหรรษ์กันสุด..สุดเลยทีเดียว
     ทำยังไงนะ ภาณิกาจึงจะมีแบบนั้นสักครั้ง
     กว่าเด็กสาวจะหาทางดับไฟในอารมณ์ให้มอดลงได้ มันก็สร้างความทรมานแก่เด็กสาวอย่างบอกไม่ถูก    และ..ภาณิกาฝันไปว่า    เธอหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของชายรูปหล่อ
     "ยายภา..มาทางนี้เร็ว"
     เสียงเรียกของเพื่อนดังขึ้น เด็กสาวหันหน้าไปมองก็เห็นร่างยายนิออนยืนกวักมือเรียกเธออยู่หย็อย ๆ ใบหน้าอ่อนเยาว์มีรอยยิ้มยินดีประกฎอยู่ด้วย
     เด็กสาวยิ้มทัก รีบเปลี่ยนทิศทางเดินไปยังเพื่อนเสียโดยเร็ว เธอพบว่านิออนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว  หากแต่มีเพื่อนหญิงและเด็กหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีอยู่ด้วยอีกสามคนด้วยกัน
     เพื่อนหญิงทั้งสองนั้น   ภาณิกาพอจะรู้จัก  เพราะเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน เธอชื่อสุพรรณีกับโสภานั่นเอง
     "ฉันนึกว่าใครที่แท้ก็พวกเธอน่ะเอง มาซื้อของเหรอ นิ สุ โส"
     เด็กสาวทักทายเพื่อนทุกคน อดจะชำเลืองไปทางสองหนุ่มที่ยืนส่งยิ้มมาให้เธอเสียไม่ได้
     "ใช่จ้ะ ว่าจะไปดูหนังสักรอบ หนังดีนะภา ดูกับพวกเราด้วยมั้ยล่ะ"
     นิออนรีบออกปากชวน  นิออนเป็นเด็กสาววัยเดียวกับเธอ แต่ผิวเข้มกว่า ผิดกับสุพรรณีกับโสภาที่มีเชื้อจีนอยู่มาก
     ภาณิกามีท่าทีลังเล เพราะเธอไม่ได้บอกทางบ้านว่าจะมานานนั่นเอง
     "ดูด้วยกันสิครับ  น้อง  หนังดีจริง ๆ นะครับ ถ้าพลาดคงจะเสียดายแย่ ผมเลี้ยงน้องเองก็ได้ครับ"
     เด็กหนุ่มร่างดีและออกจะแข็งแรงเพราะภาณิกาสังเกตเห็นกล้ามเป็นมัด  ๆ ที่แขนเขาด้วยเอ่ยชวนขึ้น
     "อ้อ ฉันลืมแนะนำเธอไป นั่นน่ะ พี่ต่อเป็นพี่ชายฉันเองจ้ะ ส่วนอีกคนชื่ออั้นเป็นเพื่อนของโสเค้าไง"
     นั่นเอง  ภาณิกาจึงได้ทราบว่าผู้ชายหล่อและร่างดีคือพี่ชายของนิออน วูบหนึ่งเธอรู้สึกโล่งอกที่รู้ว่าเขาไม่ได้เป็น"เด็ก"ของเพื่อนหญิงคนใดคนหนึ่งของเธอ
     และเด็กสาวก็รีบบอกตกลงไปโดยไม่ลังเลเลย ทุกคนพากันเข้าโรงภาพยนตร์ เมื่อมีตั๋วอยู่ในมือครบถ้วนแล้ว
     ในโรงหนังค่อนข้างมืดเมื่อแรกเข้าไปสัมผัส จนเด็กสาวต้องใช้วิธีคลำเอา ต่อพี่ชายของนิออนจึงถือโอกาสจูงมือเธอให้เดินให้ถูกทางเสียเลย เด็กสาวร้อนวูบวาบในเนื้อตัวเมื่อถูกจับมือ แต่เธอก็ยอมให้ต่อจูงไปหาที่นั่งจนพบ เขาจึงได้นั่งอยู่ข้าง ๆ ชิดกับเธอเสียในที่สุด
     หนังเริ่มฉายแล้ว  เป็นหนังสไตล์โรแมนติก นางเอกในเรื่องเซ็กซี่มาก และติดออกจะยั่ว ๆ พระเอกอยู่มาก แต่งตัวค่อนข้างโป๊เฉี่ยวสายตาผู้ชายให้ฮือฮา ที่สำคัญเธอโนบราตลอดทั้งเรื่อง
     มีฉากเลิฟซีนให้คนดูนั่งใจเต้นอยู่หลายฉาก   ภาณิกานั่งกลั้นลมหายใจไม่กล้าหายใจดังเกรงว่าพี่ต่อจะอ่านความรู้สึกของเธอออก
     แต่เมื่อพี่ต่อเอามือมาถูกข้อศอกของเธอเข้า เด็กสาวก็ตัวสั่นไปก่อนเสียแล้ว
     "หนาวหรือครับ น้องภา"
     เสียงพี่ต่อกระซิบกระซาบถามขณะที่เด็กสาวนั่งตาโตจ้องมองไปยังจอหนัง เมื่อนางเอกถูกพระเอกบดขยี้จูบอย่างรุนแรง มันเป็นอะไรที่เสียดแทงความรู้สึกของเด็กสาวให้จี๊ดจ๊าดนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ทีเดียว
     "เออ..ปละ..เปล่าค่ะ.."
     เด็กสาวสะดุ้งรีบตอบปฏิเสธลิ้นพันกัน แต่พี่ต่อก็เอื้อมมือมาจับมือเธอไปกุม ภาณิกาทำท่าจะชักออกแต่เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยก็เลยปล่อยเลยตามเลย
     พี่ต่อไม่ยักกะนั่งจับมือเธออย่างเดียว  พอเธอเฉยเขาก็เลยลูบไล้ไปจนถึงต้นแขน  แล้วบีบเนื้อนวลของเธอเบา ๆ เด็กสาวนั่งขบริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความตื่นเต้นวาบหวามใจ
     "นางเอกสวยมากนะครับ น้องภา พี่ว่าเหมาะกับพระเอกจัง พระเอกก็หล่อมาก"
     พี่ต่อชวนคุยต่อ   เด็กสาวได้แต่พยักหน้าพูดไม่ออก  ยิ่งฉากที่นางเอกถูกพระเอกรุกเร้าจนแทบได้เสียกัน ภาณิกาก็แทบจะวิ่งออกมาเสียงจากโรงด้วยความอับอาย
     ผิดกับนิออนและเพื่อนที่นั่งคุยกัน  พร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน  แต่อีกด้านคู่ของโสภากับนายอั้นกลับตรงกันข้าม
     ครั้นเด็กสาวหันไปเห็นภาพของเพื่อนสาวที่กำลังจูบปากกับนายอั้นอยู่อย่างเมามันส์ แบบไม่สนต่อสายตาของใครเช่นกัน ภาณิกาถึงกับอ้าปากค้างอย่างตกใจทันที
     พี่ต่อก็คงจะเห็นเข้าเหมือนกัน เขาจึงประคองใบหน้าเธอให้หันกลับมาทางจอหนังอีกครั้ง เอ่ยขึ้นเบา ๆ พอได้ยินกันสองคน
     "อย่าไปสนใจพวกเขาเลยครับ เราดูหนังกันต่อดีกว่า"
     ภาณิกาอยากจะตำหนิเพื่อนที่ทำแบบนี้ในโรงหนัง  มันไม่ดี แต่เธอก็พูดไม่ออกได้แต่นั่งจ้องดูฉากหนังเลิฟซีนที่ออกจะหวือหวาโจ่งแจ้งต่อจนกระทั่งหนังจบเรื่องลง
     กว่าหนังจะจบก็พลบค่ำพอดี  ภาณิกาจึงไม่ไปทานไอศกรีมที่เพื่อน  ๆ ชวนไว้ อีกอย่างเด็กสาวอยากจะกลับเข้าห้องนอนแล้วปล่อยความอัดอั้นทุกอย่างในอกทิ้งไปด้วยมือและหมอนข้าง
     "พี่ไปส่งน้องภาเองนะครับ จะได้รู้จักบ้านไว้บ้างเผื่อจะเที่ยวแวะเข้าไปหาถ้ามีโอกาส"
     พี่ต่ออาสาแต่เด็กสาวอึกอักไม่กล้ารับปาก  จากความใกล้ชิดในระยะเวลาสองชั่วโมงในโรงภาพยนตร์ยังทำให้เธอเสียวซ่านไม่หาย
     ผิดกับพี่ต่อที่มองมายังเธอตาปรอย ๆ คล้ายจะสารภาพอะไรอยู่ในใจ
     "เออ  ดีเหมือนกันนะ  ถ้าฉันเลคเชอร์ไม่ทันจะได้วานพี่ต่อไปเอาการบ้านที่บ้านเธอถูกไงล่ะ"
     นิออนสนับสนุนทันที
     "แต่ว่า.."
     "อย่าเรื่องมากเลยจ้ะ  แม่แก่  แค่พี่ชายเพื่อนไปส่งถึงบ้านก็ต้องคิดมากด้วยเหรอ ไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะค่ำกว่านี้"
     นิออนดันหลังเพื่อนกับพี่ชายให้แยกกลุ่มไป  ส่วนตัวเธอเองก็พาเพื่อน ๆ ผลุบหายไปกับกลุ่มหนุ่มสาวมากหน้าหลายตาในชั่วพริบตาเดียว ทิ้งสองหนุ่มสาววัยรุ่นให้ยืนมองหน้ากันตามลำพัง
     ในที่สุด ภาณิกาก็ต้องยอมให้พี่ต่อไปส่งเธอถึงบ้านจนได้ เพราะพี่ต่อยืนกระต่ายขาเดียวว่าอยากจะไปส่ง  ประกอบทั้งเธอเองก็ชักจะชอบ ๆ ความหล่อเหลามาดแมนของพี่ต่อขึ้นมาบ้างแล้ว
     ปรากฏว่าเมื่อทั้งสองมาถึงบ้านแต่ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยสักคน มีแต่โน๊ตของคุณแม่ที่เขียนเอาไว้แทนตัวว่าท่านจำเป็นต้องออกไปงานเลี้ยงกับคุณพ่อคืนนี้    อาจจะกลับดึกหน่อย
     ส่วนพี่สาวของเธอไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนคงจะนอนค้างที่บ้านเพื่อนกันเลย และแม่บ้านก็ดันมาลากลับไปต่างจังหวัดพร้อมกับเด็กรับใช้  บอกว่าสอง สาม สี่วันจึงจะกลับมาทำงานต่อ ดังนั้นบ้านทั้งหลังจึงว่างเปล่าและเงียบเหงาในความรู้สึกของเธอ
     "บ้านน้องภาหลังใหญ่จังนะครับ"
     พี่ต่อกล่าวชม เด็กสาวเชิญเขาเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ซึ่งมีเก้าอี้รับแขกและเตียงแบบพับได้สำหรับนอนเล่นตั้งอยู่ด้วย
     "พี่ต่อดื่มน้ำทานขนมไปก่อนนะคะ เดี๋ยวภาขอตัวอาบน้ำเดี๋ยวเดียวค่ะ จะลงมาคุยด้วย"
     เด็กสาวบอกเสียงอ่อนหวาน  พี่ต่อยิ้มรับมองตามร่างงามอวบแต่หุ่นดีของเจ้าของบ้านที่เดินตัวปลิวขึ้นห้องนอนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่  เพราะรู้สึกเหนียวตัวเหนอะหนะไปหมด พออาบน้ำแล้วค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้น
     เด็กสาวประแป้งหอมไปทั้งตัว  นึกสนุกขึ้นมาจึงคว้าชุดนอนสีชมพูอ่อนเนื้อค่อนข้างบางเบาขึ้นมาสวมแล้วรีบไปยืนดูตัวเองที่กระจกเงาของโปรดทันที
     แล้วภาณิกาก็ต้องแอบหน้าแดงอยู่คนเดียว  เพราะเงาที่สะท้อนกลับมานั้นเป็นสาวน้อยร่างงาม ความเบาบางของชุดนอนทำให้เธอเห็นสรีระส่วนเว้าส่วนโค้งของเนื้อตัวแจ่มชัด  โดยเฉพาะยอดบัวที่ดันเนื้อผ้าให้นูนเด่นเป็นอิสระ  และเวลานี้ภาณิกาก็กำลังโนบราอยู่เช่นกัน
     เด็กสาวนึกถึงภาพในหนังตอนที่พระเอกนางเอกกำลังแลกจูบกันอย่างดุเดือดนั้นก็เกิดความวาบหวามฟุ้งซ่านขึ้นมาอีก
     "ไม่รู้จะจูบกันทำไม"
     เธอบ่นเมื่อวิ่งตึงตังลงมาชั้นล่างที่พี่ต่อนั่งคอยอยู่ในห้องนั่งเล่น  ครั้นเขาเงยหน้าจากหนังสืออ่านเล่นขึ้นดูเธอ  ภาณิกาก็เห็นตาเขาเบิกกว้างผิดปกติ มันแวววาวเสียจนเธอเขินเดินแทบไม่เป็น
     คิดอยากจะวิ่งกลับไปเปลี่ยนชุดใหม่แต่พี่ต่อก็ร้องท้วงไว้เสียก่อน
     "จะไปไหนล่ะครับ น้องภา"
     "เออ..คือว่า..ภาคิดว่า..ภาแต่งตัวไม่สุภาพค่ะ"
     เด็กสาวอึกอักตอบ เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างขบขัน เดินเข้ามาหาเธอแล้วจูงมือให้ไปนั่งยังเก้าอี้ใกล้ ๆ กับตัวที่เขานั่งอยู่ก่อนแล้ว
     "น้องภาแต่งอย่างนี้ พี่คิดว่าเป็นนางเอกหนังที่เราดูมาปรากฏตัวเสียแล้วซิครับ"
     "แหม..แกล้งยอภาหรือเปล่าคะนี่"
     เด็กสาวเขินจนแก้มใส ๆ ออกเป็นสีชมพูไปเสียแล้ว
     "ผมพูดความจริงครับ ดูเหมือนจะน้อยไปเสียอีก เพราะน้องภาน่ารักเหลือเกิน"
     "พี่ต่อ.."
     เธออุทานก้มหน้าหลบตาวาว  ๆ ที่มองเธออย่างแปลกประหลาดไปเสีย พี่ต่อขยับเก้าอี้เลื่อนมานั่งจนชิดกับร่างเธอ เด็กสาวเนื้อตัวสั่น สั่นไปหมดทั้งตัวทีเดียว
     "อย่าค่ะ..พี่ต่อ"
     เด็กสาวครางอย่างตกใจเมื่อพี่ต่อโอบไหล่เหมือนจะกอดเธอเข้าไว้เช่นนั้น
     "น้องภาครับ  พี่ชอบน้องภาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว  น้องภาน่ารักเหลือเกินจน..จนพี่อดใจไว้ไม่ไหวแล้วครับ"
     พี่ต่อสารภาพเสียงแตกพร่า  เขาจูบแก้มเธออย่างแผ่วเบาทะนุถนอม  มือร้อนผ่าวของเขาลูบไล้ไปทั่วผิวสาว เพียงแค่นั้น ภาณิกาก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
     ในไม่ช้าเธอก็เลื่อนร่างไปอยู่บนตักชายหนุ่ม  ปล่อยให้พี่ต่อละเลงจูบไปทั่วใบหน้าและซอกคอ ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาปัดไปทั่วแก้มสาวที่แดงกล่ำ
     เด็กสาวตาปรือด้วยความวาบหวามซ่านสยิว ยิ่งนึกถึงภาพของนางเอกที่ถูกพระเอกกอดจูบซุกไซ้อย่างเต็มใจ  เธอก็ยิ่งรัญจวนใจจนต้องสนองตอบพี่ต่อไปอย่างพลั้งเผลอลืมตัว
     เด็กสาวกอดคอพี่ต่อที่ซุกไซ้พรมจูบไปทั่วซอกคอแล้วเลื่อนใบหน้าลงมาฝังแนบยังเนินอกสล้างที่หายใจสะท้อนรุนแรง
     "พี่ต่อขา..อย่าค่ะ..ภากลัว"
     เด็กสาวกระเส่าเสียงร้องห้ามเมื่อพี่ต่อโอบอุ้มร่างเธอขึ้นในวงแขน
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น