วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

อารมณ์รัก



เพราะความไม่เพียงพอในกามของครอบครัวหนึ่งที่เมืองเหนือ นางคำมาคบชู้สู่สาวกับหนุ่มข้างบ้านจนชาวบ้านชาวช่องต่างพากันติฉินนินทา เล่าลือฮือฮากันทั่วหมู่บ้าน เป็นที่อับอายขายหน้าของนายฟ้อนผู้เป็นสามี ถึงกับต้องหนีไปบวชไม่สึกอีกเลยตลอดชีวิต
ส่วนนางคำมาก็ตกลงปลงใจอยู่กินกับชู้หนุ่มอย่างมีรสมีชาติอยู่ระยะหนึ่ง ชู้หนุ่มก็ออกลายให้เห็นจนถึงกับล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งในมดลูกแล้วก็ตายในที่สุด
แต่นั่นไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าใส่ใจ ที่น่าติดตามก็คือเรื่องของลูกสาวของคนทั้งสอง คนพี่ชื่อ “มัลลิกา” รูปร่างเต็มไปด้วยเนื้อหนั่นอวบอัด ขาวยังกับหยวก ส่วนคนน้องชื่อ “มาลินี” ผิวออกไปทางค่อนข้างคล้ำแต่รูปร่างเพรียวลม ส่วนความสวยงามไม่ต้องพูดถึง ต่างมีความสวยไปกันคนละแบบอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อสิ้นแม่ขาดพ่อที่หนีไปบวช จะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ยอมสึก มัลลิกาจึงตัดสินใจขายบ้านแล้วย้ายลงมาอยู่กรุงเทพฯ โดยแบ่งเช่าห้องอยู่เดือนละ 150 ให้น้องไปเรียนตัดเสื้อ ส่วนตัวเองได้งานเป็นช่างเสริมสวย
ด้วยความที่เป็นคนสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มัลลิกาจึงมีคนมาติดพันมากหน้าหลายตา แต่เธอก็หยิ่งในตัวหล่อนเองพอสมควร เห็นมีแต่เริงศักดิ์หนุ่มญาติห่าง ๆ กับเจ้าของร้านเท่านั้นที่มัลลิกาให้ความสนิทสนมด้วย ไปมาหาสู่เยี่ยมเยือนอยู่เสมอ เฉกเช่นคนรักทั่ว ๆ ไป จากวันนั้นถึงวันนี้ เธอก็ยังรักษาความสาวของเธอมาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
แต่ทั้งหมดไม่ใช่เป็นเรื่องที่มัลลิกาหนักอกหนักใจอะไร ที่หนักอกคับตื้ออยู่ในใจก็คือ เพื่อนร่วมบ้านเช่าด้วยกันนะซิ พ่อยอดชายนายธงมีอาชีพขับสามล้อ รูปร่างสูงชะลูดสมชื่อ ซึ่งต่างกับภรรเมียราวฟ้ากับบาดาล รูปร่างอ้วนใหญ่ยังกับนางยักษ์ปักหลั่น ซ้ำปากยังไม่มีหูรูด แต่เขาก็อยู่กันได้แบบเนื้อคู่กระดูกคู่ มัลลิกาเกลียดที่สุดก็คือใบหน้ามู่ทู่ของนายธง และสายตาที่มองเธอแต่ละครั้ง ยังกับจะให้ทะลุเนื้อผ้าเข้าไป ยิ่งเวลาคุณเริงศักดิ์แฟนหนุ่มมาหาเธอที่บ้านและนั่งคุยจู๋จี๋อยู่ในบ้าน เธอรู้สึกเหมือนว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองเธออยู่ข้างฝาด้านใดด้านหนึ่งแน่ ๆ
ยิ่งตอนดึกดื่น เธอต้องสะดุ้งตื่นอยู่บ่อย ๆ เพราะพื้นกระดานบ้านสั่นเอี๊ยดอ๊าด จนเธอนอนไม่หลับ คืนนี้ก็เช่นกัน เสียงพื้นบ้านดังอีกเช่นเคย แต่ดังหนักกว่าเก่า เธอหันไปมองน้องสาวนอนหลับปุ๋ย มัลลิกาเกิดความอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าห้องนั้นเขาทำอะไรกันอย่างไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่อง หลังจากคลำหาช่องข้างฝาอยู่ไม่นานจึงพบ แล้วมองลอดช่องเข้าไป
คุณพระช่วย! มัลลิกาใจเต้นแรง เหงื่อออกชุ่มฝ่ามือ เพราะภาพที่เห็นนั้นคือนางยักษ์ปักหลั่นเปลือยกายล่อนจ้อน เต้านมยานโทงเทงกำลังขึ้นทับบนนายธงหนุ่มสามล้ออย่างเมามัน บั้นท้ายเท่าโคนมะพร้าวกำลังเขย่าเอาถ่อของนายธงขนาดท่อนแขนเข้า ๆ ออก ๆ เสียงบึบบับไม่ขาดระยะ ระคนกับเสียงซี๊ดซ๊าดครางกระเส่า ยิ่งแสงจากดวงไฟ 60 แรงเทียนสว่างเข้าไปในหว่างขาของคนทั้งสอง มองเห็นท่อนเนื้อดำเป็นมันวับกำลังแทรกตัวเข้าไปในกลีบเนื้อเนินขนเต็มพรืดไปหมดอย่างน่ากลัวจะฉีกขาด แต่นางอ้วนกลับไม่หวั่นไหว กลับกระแทกโหนกของนางเข้าจนหมดยันโคน ราวกับของโปรด!
มัลลิกาหน้าชาไปทั้งแถบ ตัวสั่นระริก รู้สึกว่ามีน้ำเหนียว ๆ ไหลเยิ้มหว่างขาของเธออย่างไม่รู้ตัว เธอทนมองคนทั้งคู่อยู่จนได้ยินเสียงน้องสาวพลิกตัวจึงรีบกลับเข้ามานอน คืนนั้นเธอนอนลืมตาโพลงทั้งคืน นึกถึงภาพของสองผัวเมียอย่างติดตา
รุ่งเช้ามัลลิการู้สึกอิดโรยเป็นกำลัง รีบออกไปทำงานพร้อมน้องสาว ทิ้งให้สายตาของนายธงมองตามหลังอย่างมีความหมาย
วันนั้นเป็นวันลอยกระทง หนุ่ม ๆ สาว ๆ ต่างจับคู่กันไปลอยกระทงเสี่ยงทายรัก มัลลิกากับเริงศักดิ์ก็เหมือนกัน พากันนั่งรถชมงานอยู่จนดึกพอสมควร จึงขอให้เริงศักดิ์พากลับไปส่งบ้านเพราะไม่มีใครอยู่ มาลินีก็ไปเที่ยวแล้วจะนอนบ้านเพื่อน
ถึงบ้าน แฟนหนุ่มขออนุญาตขึ้นไปส่งถึงบนบ้าน เริงศักดิ์ตั้งใจจะคุยอยู่สักครู่แล้วก็จะกลับ มัลลิกาส่งน้ำใสเย็นเจี๊ยบมาให้
“ดื่มน้ำก่อนซิคะพี่ศักดิ์”
เริงศักดิ์รับแก้วน้ำไปดื่ม แต่สายตายังจ้องแฟนสาวอย่างไม่กระพริบ
“เธอสวยเหลือเกิน มัลลิกา พี่ไม่เคยเห็นใครสวยเท่าเธอมาก่อนเลยในชีวิตพี่”
มัลลิกาหน้าแดงก่ำด้วยความอาย เมื่อชายหนุ่มพูดเช่นนั้น
“พี่จะทำงานเก็บเงินมาสู่ขอให้เร็วที่สุด เธอรักพี่มาก ๆ นะจ๊ะ”
แฟนหนุ่มพูดพลางมือทั้งสองก็คว้าแขนหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด นั่งจูบแต่แผ่วเบาลงบนริมฝีปากสีชมพู แล้วค่อย ๆ แรงขึ้น ๆ จนมัลลิกาตัวอ่อนระทวย
บัดนี้ภาพตรึงตาฝังใจของหนุ่มสามล้อก็ผุดขึ้นมาในความคิด ภาพดุ้นเนื้อดำเป็นมันมหึมาที่แทรกแยกเนื้อเข้าไปจนมิดโคน เสียงซี๊ดซ๊าด ความรุนแรงของท่วงท่าล้วนเป็นภาพที่ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มล่องลอยสู่ห้วงโลกีย์
พลันเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แล้วกล่าวว่า
“พี่ต้องกลับก่อนนะ มัลลิกา เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะคอย”
หญิงสาวรู้สึกฉุนนิด ๆ ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เริงศักดิ์โดยมิได้พูดอะไร แล้วเดินกลับเข้าห้องด้วยใจเลื่อนลอย เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งหน้ากระจก มองทรวดทรงของตัวเอง นึกโกรธเริงศักดิ์อยู่ไม่หาย ผู้ชายอะไรเซ่อจังเลย
ความเปล่าเปลี่ยวความเหงาเข้ามาครอบคลุมใจเธอขณะนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่านั่งมองและชมตัวเอง มือของเธอเลื่อนไปแกะกระดุมชุดนอนออก เผยให้เห็นเต้านมที่เต่งตึงชูชันสั่นนิด ๆ ยอดเต้าสีชมพูระเรื่อตั้งอยู่บนฐานอันใหญ่อวบอิ่มสมตัว มือเรียวงามไต่ขึ้นมาบี้จะงอยสีชมพูอยู่ไปมา อีกมือหนึ่งก็คว้านลงไปในช่วงหว่างขาที่บรรจุเนินเนื้อโคกใหญ่มีขนนุ่มนิ่มอยู่เต็มสองแคมแล้วลูบคลำอยู่ไปมา มิเพียงเท่านั้น นิ้วกลางของเธอก็ค่อย ๆ แหย่ลึกลงไประหว่างกลีบเนื้อทีละนิด ๆ
ตาของเธอปิดสนิท มโนภาพของผัวเมียคู่นั้นโผล่ขึ้นมาอีก ท่อนเนื้อหัวบานอันใหญ่นั้นมันเข้าไปได้อย่างไรหนอ...เมื่อเธอดึงมือออกมีน้ำเหนียว ๆ ติดมือออกมาด้วย
ในขณะที่มัลลิกาลืมตัวอยู่นั้น พลันประตูก็เปิดผางออก เธอสะดุ้งสุดตัว
“ว้าย!”
นายธงยอดสามล้อนั่นเอง!
มัลลิการีบคว้าเสื้อผ้าชิ้นที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดมาปิดกาย แต่ช้าไปกว่านายธง เขาถลันเข้าถึงตัวเสียก่อน คว้าแขนไว้ได้กระชากพาดลงบนเตียง เหมือนเสือหิวกระหายเนื้อ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปหมด หล่อนอยากจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ร้องไม่ออก แขนยาวกำยำของเขากดไหล่ของเธอไว้ พรมจูบไซ้ไปทั่วอย่างเมามัน ปากก็พร่ำฟังไม่เป็นศัพท์
“ข้าจะเป็นผัวเอ็งให้ได้”
นายธงกัดฟันกรอด แลบลิ้นเลียไปที่ซอกหู ซึ่งบัดนี้มัลลิกาหมดเรี่ยวหมดแรงที่จะขัดขืน เขาประกบปากลงบนริมฝีปากนุ่มสวยได้รูป คว้านลิ้นลึกเข้าไปพันของหญิงสาวอย่างเมามัน สองมือก็คลึงเคล้าเต้านมอยู่ไปมา แล้วเลื่อนลงไปตะปบลงบนหน้าท้องที่เรียบราบ เลยไปบนเนินเนื้ออันใหญ่เกินฝ่ามือ
มัลลิกานึกถึงภาพที่หลอกหลอนเธอมาไม่ถึงอาทิตย์ บัดนี้มันได้ปรากฏชัดเป็นความจริงต่อหล่อนแล้ว หล่อนหมดความอาย เนื้อตัวสั่นดังลูกนก ครางเสียงกระเส่าบิดตัวไปมาด้วยความกระสันอยาก น้ำเงี่ยนของเธอไหลเยิ้มปากรู สองมือเริ่มกอดกระหวัดรัดร่างนายธง หมดความเกลียดชัง
“ซี้ด...พี่ธงขา...อูย...ซี้ด”
นานเท่าไหร่ หล่อนไม่รู้ รู้แต่ว่าบัดนี้ ยอดชายนายธงจับขาของหล่อนอ้าออก เผยให้เห็นปากแคมสีแดงแจ๋ มีน้ำหล่อลื่นอยู่เป็นเมือก
“พี่จะทำให้เธอมีความสุขที่สุด น้องสาว”
นายธงพูดพลางมองไปที่โคกสวรรค์อย่างไม่เคยเห็นของใครมาก่อน ยายแร้งทึ้งที่บ้านว่าใหญ่แล้วแต่ยังไม่เท่าของหล่อนเลย
บัดนี้หัวถอกโด่เด่ของเขาแข็งขันเต็มที่ ธงจับเงี่ยงของเขาจ่อตรงรูพอดีแล้วออกแรงดัน
มัลลิการ้องพลางผงกหัวขึ้นมองหว่างขา ตายแล้ว! ที่หล่อนแอบมองวันนั้นไกล ๆ อันเกือบเท่าแขน มาเจอเข้าจริง ๆ น้อง ๆ ม้านี่เอง
“อูย...เจ็บ...เสียว”
สามล้อหนุ่มใหญ่ยกก้นกระเด้าเบา ๆ ด้วยความชำนาญ แต่ไอ้โด่ของเขามิได้แหวกแคมเข้าไปอย่างสะดวกสบายอย่างที่คิด
มัลลิการ้องครางด้วยความเสียวกระสันระคนความปวดแปลบ เอื้อมมือไปจับท่อนเอ็นอันใหญ่ยาวของนายธงไว้เต็มกำลัง
“อูย...พี่ธงขา...เจ็บเหลือเกิน มัลลิกาตายแน่ ๆ...อูย...”
เสียงครางกระเส่าของมัลลิกามิได้หยุดยั้งความเมามันของม้าหนุ่มแม้แต่นิด เขาดึงมันออก หัวบานเป็นมันเลื่อม ถ่มน้ำลายลงในฝ่ามือ ลูบหัวถอกให้ลื่น ดวงตามองไปที่รอยผ่ากลางหนอกโคก กัดฟันกรอดพึมพำในลำคอ
“ถ่างขาออกไปจนสุดหล้าเลย น้องสาว น่าน...หยั่งง้าน...”
ถึงแม้จะเจ็บปวดในรูมากเพียงใด มัลลิกาสาวไม่ได้หวั่นเสียแล้ว เพราะความเงี่ยนเข้ามาครอบคลุม เธอถ่างขาออกสุดหล้าอย่างที่นายธงบอก ขณะเดียวกันกับหนุ่มใหญ่ลุกขึ้นคร่อมทับจับควยจ่อตรงร่องผ่า เกร็งก้นกระเด้ายิก ๆ
พรวด! ท่อนควยแหวยกผ่านรูอันตีบตันเข้าไปครึ่งลำ ปลายจะงอยแตดบุบบู้ตามลำควยเข้าไปเขียวคล้ำ
สาวน้อยบิดตัวสะดุ้ง ใบหน้าเหยเก มือยันอกยอดสามล้อพัลวัน ผมเผ้ายุ่งเหยิง นายธงกดควยแช่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แลบลิ้นเลียไปที่ยอดอกอันชูชันทั้งสองข้าง ดูดอมอยู่ไปมา หนวดเคราแข็งของเขาทิ่มตำไปทั่วร่างของเด็กสาวอย่างมีผล มัลลิกาขยับตูดน้ำเงี่ยนพรั่งพรูออกมาอีกจนรู้สึกอุ่น ๆ หัวถอก
ไม่รอช้า นายธงขยับก้นกระเด้าพรืด ถ่อมหึมามุดพรวดลงไปมิดยันโคน หนอกต่อหนอกประกบกันชิด ขนปากแคมและขนโคนควยยุ่มย่ามปนเปกัน ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร
บัดนี้หีงามมัลลิกาได้อมลำควยของสามล้อหนุ่มเข้าเต็มอัน เธอถอนหายใจระทวยอย่างคนแบกทุกข์ไว้ทั้งโลก
ยอดชายนายธงเคยใฝ่ฝันนักหนาที่จะได้ลิ้มชิมรสจากร่างของเด็กสาวตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ใช้สายตาโลมไล้ เอวคอดก้นงอนของหล่อนอยู่บ่อย ๆ แล้วไประบายออกกับแม่หมูตอนที่บ้าน
บัดนี้เขาได้มาอยู่บนร่างงามที่เขาใฝ่ฝันสมใจนึก
สามล้อหนุ่มเริ่มยกก้นกระเด้ายิก ๆ เป็นจังหวะอย่างทหารผ่านศึกมาอย่างโชกโชน ร่องผ่าของมัลลิกาปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามแรงกระแทก เม็ดละมุดเสียดสีกับแท่งเนื้อมหาโหดผลุบ ๆโผล่ ๆ
“ซี้ด...ดีจังเลย...เบา ๆ หน่อยนะพี่ธง”
มัลลิการ้องครางเป็นระยะ ๆ หมดความเจ็บปวด สองมือตวัดรอบคอชู้รักไว้แน่น ปากต่อปากลิ้นต่อลิ้นประกบกันสนิทแทบจะกลืนกินซึ่งกันและกัน เสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ หล่อนยกก้นขึ้นตอบรับการกระเด้าอย่างเมามัน หนอกต่อหนอกปะทะกันดังพับ ๆ !
ธงเร่งเครื่องกระเด้าด้วยความย่ามใจอยู่พักใหญ่จึงหยุด หายใจหอบ ถอนลำควยออก จับสะโพกผายของหญิงสาวให้พลิกคว่ำ ดึงก้นให้สูงขึ้น งอเข่าอยู่ที่ขอบเตียงมองเห็นง่ามหว่างขาเผยออ้า น้ำเมือกเปรอะเปื้อนปากแคมสีแดงช้ำผสมเลือดซิบ ๆ
ร่างผอมเกร็งสูงชะลูดของเขาลงมายืนอยู่พื้นห้อง ไอ้โด่แข็งชูชันผงกหัวหงึก ๆ ดำมะเมื่อม จับสะโพกขาวผ่องของมัลลิกาจ่อเจ้าบักใหญ่เข้าตรงรู ออกแรงกดพรืดมิดด้าม! โน้มตัวทาบลงบนหลังของหญิงสาวเอื้อมมือบีบเคล้นสองเต้าอวบอิ่มอย่างมันมือ เอวก็ขยับอยู่เป็นจังหวะ
“ซี๊ด...” มัลลิกาสูดปากด้วยความเอร็ดอร่อย นัยน์ตาปรือ จิตใจล่องลอยไปสู่ห้วงแห่งความเกษมสุข
“ท่าหมานี่ดีจังเลย…อูย...แรง ๆ หน่อยก็ได้พี่ธง”
ธงเริ่มเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ลำควยอันยาวใหญ่ของเขาคว้านลึกเข้าไปถึงมดลูกของหญิงสาวอย่างถึงอกถึงใจ เธอเองก็ส่ายก้นไปมายิก ๆ ตอบรับลำควยของนายธงอย่างไม่กลัวจะฉีกขาด
แรงกระเด้าอย่างถึงพริกถึงขิงกอปกับความคับแน่นของรูสวาท ธงเกือบจะกลั้นกระแสธารกามเอาไว้ไม่อยู่
“นะ...นะ...น้ำจะออกหรือยังน้องสาว”
“จะออกแล้วพี่...แรง ๆ หน่อย ซี้ด...อูย...”
สามล้อหนุ่มรวบรวมกำลังเป็นครั้งสุดท้ายออกแรงกระเด้าสุดฤทธิ์จนหน้าอกหน้าใจของมัลลิกาไหวสะท้าน หน้าไถลงไปบนที่นอน แต่ส่วนก้นยังผงาดรอรับท่อนโด่ตามจังหวะจะโคน
“จ...จะออกแล้ว...ซี้ด...”
นายธงร้องเสียงสั่นอย่างลืมตัว พร้อมทั้งถอนลำควยออกจนหลุดลำแล้วกระแทกไอ้หัวบานเข้าไปสุดกู่เป็นครั้งสุดท้าย พ่นน้ำรักออกไปท่วมมดลูกแล้วทะลักล้นออกช่องรูสวรรค์ เรี่ยราดเปื้อนที่นอนเป็นหยด ๆ
ทั้งคู่กอดกระหวัดรัดร่างซึ่งกันและกันด้วยความสุขสมฤดีแดแน่นิ่งกดแช่คับคารูไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน ธงหงายผลึ่งอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ไซร้จูบข้างกกหูแล้วกระซิบกระซาบหญิงสาวคล้ายอยู่ในภวังค์
“พี่ขอพักสักครู่นะ น้องสาว เดี๋ยวค่อยเย่อกันใหม่ รับรองว่าถึงรสถึงชาติกว่าเก่า”
มัลลิกาไม่ตอบ มีแต่เสียงอืออาในลำคอ แล้วก็ผลอยหลับไปทั้ง ๆ ที่ตูดยังชี้โด่เด่ ปล่อยให้น้ำรักไหลเป็นทางไปตามง่ามตูดและท่อนขา ดูหน้าตาหล่อนหลับพริ้มอย่างคนสุขสมอารมณ์หมาย
คืนนั้นสามล้อหนุ่มใหญ่ยัดเยียดความเป็นผัวให้เด็กสาวไม่รู้ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จวบจนอิ่มเอมนั่นแหละถึงได้กลับหอห้อง นั่นก็ปาเข้าไปร่วมตี 2 ซึ่งกว่านางยักษ์ปักหลั่นจะกลับจากงานลอยกระทงก็คงร่วมตี 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น