วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สงครามสวาท ตอนหนึ่ง



ในปัจจุบันนี้เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปแล้วว่าข้าวของมันแพงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ทั้งของกินของใช้มันพร้อมใจกันขึ้นราคาพรวด ๆ โดยไม่มีทางจะหยุดยั้งได้ รัฐบาลเองก็กำลังจะยกธงขาวเพราะหมดทางแก้ไข ประชาชนก็กำลังกระแด่ว ๆ จะขาดใจไปตามกัน มีเงินก็ไม่อาจจะซื้อหามาบริโภคได้ มีอย่างหรือเนื้อวัวกิโลละ ๓๐ กว่าบาท ปลาทูเข่งละ ๓ บาท ไข่ใบละหกสลึง จะเอาเงินทองที่ไหนไปซื้อหามากินได้ ไอ้ที่ร้ายและระยำที่สุดก็คือความเห็นแก่ได้ของไอ้มนุษย์อัปรีย์ผู้ไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากของส่วนรวม มันกักตุนและขึ้นราคาข้าวสารซึ่งเป็นเครื่องยังชีพที่จำเป็น จนราคาขึ้นไปถึงเกือบถังละ ๑๐๐ บาทแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ประชาชนลูกเล็กเด็กแดงไม่ตายแล้วเมื่อไหร่จะตาย
แน่ละ เมื่อของแพงมากและไม่มีทางจะแก้ไขได้ ศีลธรรมของมนุษย์ก็ต้องเสื่อมทรามลง ดังเรื่องจริงที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังดังต่อไปนี้
ปรีชา เป็นข้าราชการชั้นตรีอยู่กระทรวงหนึ่ง รายได้จากเงินเดือนที่เขาได้รับประมาณหนึ่งพันบาท เขาต้องรับภาระเลี้ยงดูชีวิตถึงห้าชีวิต คือ เมีย พี่เมีย น้องเมีย แม่ยาย และตัวเขาเอง ท่านลองหลับตาคิดดูก็แล้วกันว่า คนที่มีรายได้เดือนละพันบาท บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อ มีภาระต้องเลี้ยงดูห้าชีวิตในขณะที่ข้าวของกำลังแพงเป็นบ้าเป็นหลังอยู่อย่างนี้ จะเพียงพอได้อย่างไร
ปรีชาก็เช่นเดียวกัน เขากำลังตกที่นั่งลำบาก คือรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จะหาทางคอรัปชั่นเช่นข้าราชการบางคนก็ไม่มีทาง เพราะหน่วยงานที่เขาที่เขาประจำอยู่ไม่มีทางที่เขาจะคอรัปชั่นได้เลย จะไปวิ่งเต้นหารายได้พิเศษก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ไอ้ครั้นจะปลีกตัวไม่ยอมรับผิดชอบในภาระทางครอบครัวที่จะเป็นต้องอุปการะเลี้ยงดูอยู่ขณะนี้ก็ไม่อาจจะทำได้เช่นเดียวกันเพราะมันมีสิ่งผูกมัดอันสำคัญที่เขาไม่อยากจะทอดทิ้ง นั่นก็คือพี่เมียและน้องเมียซึ่งกำลังอยู่ในวัยสาวและสวยสดด้วยกันทั้งคู่
การอุปการะพี่เมียและน้องเมียซึ่งกำลังอยู่ในวัยสาวสะพรั่งสวยสดด้วยกันทั้งคู่นี้ ไม่เฉพาะปรีชาหรอก ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะทอดทิ้งไม่ได้ ความจริง นงคราญ เมียของปรีชาก็นับว่าเป็นหญิงสาวที่สวยและมีเสน่ห์คนหนึ่ง แต่ปรีชาหาได้สนใจมากเท่า นิภา ซึ่งเป็นพี่สาวและนงนุชผู้เป็นน้องสาวของนงคราญไม่ โดยเฉพาะในยุคข้าวของแพงและเขาต้องลำบากตรากตรำต่อการวิ่งเต้นหาเงินทองมาอุปการะครอบครัวของเมียดังกล่าวแล้ว ความสนใจของปรีชาที่มีต่อนิภาและนงนุชก็ยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น และในเรื่องนี้ปรีชาก็ฉลาดพอที่จะไม่ให้นงคราญผู้เป็นเมียจับผิดได้ด้วย
วันคืนผ่านไปพร้อมกับการได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่เมียและน้องเมียซึ่งมีรูปร่างอันอวบอัดสวยสะพรั่งด้วยกันทั้งคู่นี้ ทำให้ปรีชามักจะลอบมองดูสองสาวด้วยแววตาอันเต็มไปด้วยความหมายเร้นลับอยู่ตลอดมา ทั้งนิภาและนงนุชก็อดจะแปลกใจในท่าทีและการแสดงออกของปรีชาในระยะหลังนี้เหมือนกัน เพราะเขามักจะลอบจ้องมองด้วยสายตาอันมีความหมายอยู่เสมอ บางครั้งก็พูดจาหยอกเย้าสัพยอกอย่างสองแง่สองมุม และบางครั้งก็มีมักจะมีของกำนัลแปลก ๆ ติดมือมาให้ และทุกครั้งที่ให้ก็ให้โดยเฉพาะไม่ยอมให้ใครรู้เห็นเลยไม่ว่าจะเป็นนงคราญหรือมารดาของนงคราญ
เป็นธรรมดาอยู่เองสำหรับหญิงสาวโดยทั่วไปไม่ว่าสาวใหญ่หรือสาวรุ่น เมื่อมีผู้ชายมาพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจก็ย่อมหยิ่งผยอง โดยเฉพาะสาว ๆ ในยุคนี้ย่อมไม่โง่พอต่อความรู้สึกของเพศตรงข้ามที่มีต่อตนไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม ยิ่งปรีชาพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจนิภาและนงนุชมากเพียงได ทั้งสองสาวก็ยิ่งเล่นตัวมากขึ้นเพียงนั้นซึ่งทำให้ปรีชาเพิ่มความทะยานอยากในความรู้สึกอันเร้นลับที่มีอยู่มากยิ่งขึ้น และแล้ว ความจริงที่หนีความจริงไปไม่พ้นก็มาถึงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เช้าวันนั้นตรงกับวันอาทิตย์ นงคราญและมารดาพร้อมด้วยนงนุชน้องสาวคนเล็กได้เดินทางไปสระบุรีเพื่อเยี่ยมญาติที่สนิทคนหนึ่ง ส่วนนิภาไม่ได้ไปด้วย ทางบ้านจึงมีเพียงนิภาและปรีชาผู้เป็นน้องเขยอยู่ด้วยกันตามลำพัง ภายหลังอาหารเช้าได้ผ่านไปแล้ว นิภาก็ขลุกอยู่ในห้องส่วนตัวตามลำพัง หล่อนปล่อยเวลาให้หมดไปกับการอ่านนวนิยายในนิตยสารที่รับเป็นประจำ ขณะที่กำลังนอนอ่านนิตยสารอยู่บนเตียงอย่างเพลิดเพลิน นิภาก็แว่วได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของใครคนหนึ่งกำลังย่องกริบมาที่หน้าประตูห้อง
เพราะเหตุที่ประตูห้องเพียงแต่แง้มไว้ไม่ได้ใส่กลอนประตู ดังนั้นเจ้าของฝีเท้านี้จึงเปิดประตูพาร่างเข้ามาในห้องได้อย่างสบาย พอเห็นเจ้าของร่างนี้ นิภาก็รีบลุกโดยเร็ว เจ้าของร่างนี้อยู่ในชุดกางเกงแพรและเสื้อผ้าป่านคอกลมแบบอยู่กับบ้านและก็ไม่ใช่ใครอื่นหรอก เขาคือปรีชาผู้เป็นน้องเขยของนิภานั่นเอง
พอเผชิญหน้ากัน เขาก็ส่งยิ้มอย่างสวยเก๋ให้ทีเดียว นิภามองอย่างไม่ไว้วางใจนักพลางเอ่ยปากถามเขาเบาๆว่า "ปรีชาต้องการอะไรรึคะ"
"เปล่าครับ พี่นิภา ไม่มีธุระอะไรหรอก อยู่ว่าง ๆ มันเหงาก็อยากจะมาคุยด้วย" เขาพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้ร่างของพี่เมีย นิภาขยับจะเคลื่อนกายลงจากเตียงแต่ว่าช้าไป เพราะในขณะเดียวกันปรีชาก็ปราดเข้าถึงตัว เขายึดข้อมือของหญิงสาวไว้
"จะหนีผมไปไหนล่ะ นั่งคุยกันบนเตียงนี่ก็ได้" เมื่อถูกจับมือถือแขน ใบหน้าของนิภาก็ร้อนผ่าว พยายามแกะมือของน้องเขยออก
"อุ๊ย..อย่าค่ะ..ปรีชา..อะไรกันนี่ ปล่อยมือพี่เถอะค่ะ"
"ก็พี่อย่าหนีผมไปไหนซิ"
"ปล่อยมือพี่ก่อนซิคะ ปรีชา"
"ต้องรับรองกับผมก่อน"
"รับรองอะไรคะ แปลกนี่" หญิงสาวถามพลางหลบสายตาอันคมวาวของเขาไปทางอื่น
"รับรองว่าจะไม่หนีผมไปไหน จะนั่งคุยกับผมบนเตียงนี่"
"ค่ะ..ตกลง.." หล่อนแกล้งฝืนใจรับคำและหลบซ่อนยิ้มไปเสียทางหนึ่งเมื่อนึกอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เมื่อสิ้นเสียงรับรองของหญิงสาว ปรีชาก็ปล่อยมือ พอเป็นอิสระ นิภาก็ผลุนผลันลงจากเตียงและวิ่งหนีออกไปภายนอกโดยเร็วแต่ก็ไม่ไวไปกว่าปรีชาซึ่งวิ่งกวดติดไปอย่างทันท่วงที และเมื่อพ้นประตูห้องออกไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็ปราดเข้าถึงตัวและรวบร่างอวบอัดของพี่เมียเข้ามาในอกอันกำยำทันที
"อย่า..ปรีชา..ปล่อยค่ะ" นิภาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของน้องเขย แต่ปรีชาก็ไม่ปล่อย หนำซ้ำเขายังกดจมูกเข้าที่พวงแก้มอันหอมละมุนด้วยกลิ่นน้ำอบไทย แล้วพลิกหน้าฝังปากลงบนปากของหล่อนบดขยี้อย่างหนักหน่วงไชชอนลิ้นเข้าไปรุกล้ำนิ่งนาน เป็นเวลาชั่วครู่ใหญ่ปรีชาจึงได้เงยหน้าขึ้น เขาจึงได้เห็นใบหน้าคมขำของพี่เมียแหงนหงายหลับตาพริ้มเผยอริมฝีปากเหมือนจะให้เขาจูบอีกครั้งด้วยความเต็มอกเต็มใจและเขาจะทนอยู่ได้หรือ จึงรีบประกบปากลงบนปากของหล่อนอีกครั้ง ความเงี่ยนง่านได้ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วจนกางเกงแพรที่นุ่งอยู่ตั้งขึ้นเป็นลำยาวออกมาดูเหมือนเอาไม้เข้าไปค้ำไว้
เมื่อหล่อนไม่ดิ้นรนขัดขืน ยอมให้เขากอด ยอมให้เขาจูบแต่โดยดีอย่างนี้ ปรีชาหรือจะทนทานต่อไปไหว เขารีบอุ้มร่างอวบอัดของหล่อนตรงไปที่เตียงนอนทันที หันไปมองเห็นประตูห้องยังเปิดกว้างอยู่ก็รีบปราดไปปิดประตูลงกลอน
ในอึดใจต่อมา..เสียงครวญครางแผ่ว ๆ ก็ดังกังวานออกมาจากปากของพี่เมียขณะที่ปรีชาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหล่อนออกจากร่าง
"ปรีชา..รักพี่จริง ๆ หรือคะ" สิ้นประโยคคำถามของหล่อน ปรีชาก็กดจมูกลงไปหว่างกลางทรวงอกอันเต่งตึงของหล่อน เขาตอบเสียงอู้อี้ไม่ชัดเจนเพราะหน้ายังฝังอยู่บนทรวงอกของหล่อน
"ครับ..ผมรักพี่นิภาตั้งแต่เห็นพี่นิภาวันแรก รักสุดหัวใจจริง ๆ" เขาตอบและคลึงจมูกไปมาบนเต้าทั้งสองทำให้หญิงสาวเพิ่มอาการวูบวาบสั่นสยิวยิ่งขึ้น
ปรีชาจูบกอดเคล้นคลึง ส่วนมือก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนิภาออกจนหมดอย่างชำนิชำนาญ พริบตาต่อมานั้นเอง ร่างของนิภาก็เปลือยเปล่าทั้งท่อนบนท่อนล่าง หล่อนหลับตาปี๋ด้วยความอายต่อการกระทำอย่างสายฟ้าแลบของอีกฝ่าย ลมหายใจหอบระโหยโรยแรงเหมือนได้รับความเหน็ดเหนื่อยเสียเหลือประมาณ แต่ด้วยความรู้สึกที่แท้จริงแล้วขณะนี้ อารมณ์เพศของหล่อนกำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ เลือดสาวพุ่งพล่านไปทั่วทุกขุมขนและมันยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นลำดับเพราะมืออันซุกซนของปรีชากำลังซอกแซกลูบคลำบีบบี้ต่อมไตอย่างหื่นสวาท ไม่ว่าจะเป็นเต้านมอันเต่งตึงอวบอัดอยู่เต็มอกสล้างหรือติ่งเนื้อที่ยื่นแพรมโผล่ออกมาจากโคกโยนีก็ถูกเขาบีบบี้ขยี้ล้วงและไชชอนเข้าไปในร่องเนื้อ ชักนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ จนน้ำเมือกของพี่เมียไหลออกมากลบปากรู
"อูย..ปรีชา..อย่าค่ะ..พี่เสียว" หล่อนสูดปากบอกเขาและบิดตัว ปรีชาถอดเสื้อผ้าป่านคอกลมและสลัดกางเกงแพรออกจากร่างโดยเร็ว บัดนั้นเอง..ท่อนลึงค์อันอวบอ้วนของเขาก็เผยโฉมออกมา มันกระดกแข็งโด่อย่างเต็มที่เพราะฤทธิ์เงี่ยน และอย่างฉับพลันทันใด ปรีชาก็รีบช้อนร่างพี่เมียให้มานอนหงายพาดขอบเตียงจับขาทั้งสองข้างของหล่อนถ่างออก มองดูโคกโยนีอย่างตะลึงลาน เพราะโคกเนื้อสามเหลี่ยมที่มองเห็นเด่นชัดอยู่ขณะนี้เป็นโคกเนื้อที่ขาวอล่องฉ่องและโหนกนูนอย่างน่าพิศวาสยิ่ง แคมทั้งคู่เผยออ้าออกจากกันนิด ๆ เหมือนเป็นการท้าทายและเชิญชวนอยู่ในที ที่บริเวณเหนือโคกมองเห็นเส้นขนสีดำสนิทปกคลุมอยู่เพียงเล็กน้อย
ปรีชาใช้ฝ่ามือลูบไล้เส้นหมอยหรอมแหรมของพี่เมียอยู่ชั่วครู่ก็แอ่นเอวเข้าไปในหว่างขาของหล่อน เขาจับหัวถอกที่เยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนทิ่มเข้าไปในรูสวาททันที
นิภาสะดุ้งโหยงเพราะรูโยนีของหล่อนอ้าออกรับเจ้าหัวบานเป็นดอกเห็ดของเขาไม่ทัน หล่อนรู้สึกว่ามันคับตื้อไปทั้งหว่างขา แต่ความเสียวก็เหลือล้นเพราะหัวเงี่ยงมันครูดกับเม็ดแตดจนมันเม้มม้วนยุบยู่เข้าไปในรูด้วย นิภาสูดปากด้วยความเสียวสะท้าน หล่อนปรือตาบอกเขาด้วยเสียงอ่อนหวาน
"ปรีชา..กรุณาอย่าแรงมากนะคะ ค่อย ๆ ก่อนค่ะ อูย..ซี๊ด..แหม..เจ็บแล้วก็เสียวจัง..อูย...ซี๊ด"  เมื่อหล่อนร้องบอกเช่นนี้ปรีชาจึงชะงักการปักหัวลึงค์เข้าไปเสียชั่วครู่ มือที่เคล้นคลึงเต้านมอย่างเมามันเปลี่ยนมาจับแคมโยนีอันอวบอูมของหล่อนให้แหกออกเพื่อให้มีพื้นที่ที่ลึงค์ของเขาจะได้เข้าไปได้คล่อง ๆ แล้วก็เริ่มต้นดันให้มันกระดืบเข้าไปช้า ๆ พร้อมกับโน้มตัวลงไปดูดหัวนมของหล่อนเล่น ทำให้พี่เมียต้องสูดปากซี๊ด พยายามถ่างขาให้อ้ากว้างออกไปจนเต็มล้าเพื่อต้อนรับลึงค์ใหญ่ให้มันชำแรกเข้ามาในรูของหล่อนให้ลึกยิ่งขึ้น
"เป็นยังไงบ้างครับ..พี่นิภา" ปรีชาถามพลางกดลำลึงค์ให้ชำแรกลึกเข้าไปอีก
"เสียวค่ะ..อูย..ซี๊ด" หล่อนบอกเขาพร้อมกับเริ่มแอ่นตูดขึ้นรับการกระเด้าให้กระดองโยนีถูกลึงค์กระแทกจัง ๆ  ส่วนปากก็สูดซี๊ดอยู่ไม่ว่างเว้นแสดงถึงความเอร็ดอร่อยที่หัวถอกเข้ามาควานไชชอนอยู่ในง่ามโยนีหล่อน ปรีชาก็กระเด้าอย่างรวดเร็วจนหน้าขาของเขาและของหล่อนปะทะกันดังพั่บ ๆ
ขณะนี้ นิภามีความรู้สึกเหมือนตกอยู่ในความฝันอันแสนหวาน มองเห็นวิมานแห่งความสุขกำลังรอคอยอยู่เพียงแค่เอื้อม หล่อนสูดปากซี๊ดซ๊าดแสดงถึงความอร่อยเลิศรสในการสังวาสกับน้องเขยเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันกับที่หล่อนกำลังมีความดื่มด่ำซาบซ่านในรสสังวาส ปรีชาก็กระชากสากใหญ่ออกจากรูแล้วกระแทกให้มันผลุบหายเข้าไปอีก
"อูย..ซี๊ด" เปล่าหรอก นิภาไม่ได้ร้องเพราะความเจ็บปวดที่ลำลึงค์กระแทกอย่างหนักหน่วง แต่หล่อนร้องเพราะความเสียวซ่านกระสันต์สวาทมากกว่า หล่อนแอ่นกระดองโยนีอันโหนกนูนราวกับหลังเต่าขึ้นรับการทิ่มทะลวงแทงลึงค์ของเขาอย่างไม่ให้ผิดจังหวะ
"ปรีชาคะ...ทำไมมันถึงได้เสียวอย่างนี้คะ"
"ผมก็เสียวเหมือนกันครับ พี่นิภา..ของพี่ขบหัวแรงจังเลย อย่าดุให้มากนักซีครับ พี่นิภา"
"อุ๊ย..ปรีชาพูดอะไรก็ไม่รู้" หล่อนหยิกแขนเขาและยิ้มอาย ๆ ดวงตาหลับพริ้ม ส่วนเบื้องล่างก็ยังคงแอ่นกระดองโคกขึ้นรับการกระเด้าของเขาอยู่อย่างไม่ขาดระยะ
"พี่นิภาครับ"
"ขา.." หล่อนขานรับเสียงหวานจ๋อยแต่สั่นสะท้านจับใจผู้รับฟัง
"พี่นิภาน้ำจวนออกหรือยังครับ"
"เกือบแล้วค่ะ..ซี๊ด..อุ๊ยย"
"งั้นผมจะรีบทำล่ะนะ"
"ค่ะ.." หล่อนรับคำเขาและเตรียมส่ายสะโพกรับอย่างรู้เชิง ปรีชายืนตั้งท่าจังก้าที่หน้าเตียงให้กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น ถอนลำลึงค์ที่ฝังคาอยู่ในรูออกจนหมดแล้วจับมันยัดเข้าไปใหม่แล้วเร่งลูกสูบชักเข้า ๆ ออก ๆ อย่างมันเขี้ยว ตามองเห็นแคมโยนีและเม็ดแตดบุบยู่ปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างน่าระทึกใจ เพราะเหตุที่ภายในรูมีน้ำหล่อลื่นออกมามากจึงบังเกิดเสียงดังเจาะแจะ ๆ ผลุบผลับ ๆ ในขณะที่การกระเด้าอย่างไม่ต้องหายใจหายคอ ลำลึงค์ขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ กระดืบหัวและลำตัวเข้าไปได้ลึกมากเข้า..และมากเข้า ที่สุด..ในครั้งหนึ่งของการกระเด้า ปรีชาชักลึงค์ออกมายาวเฟื้อยจนเกือบจะหลุดพ้นจากกระดองโยนี นิภาใจหายวาบนึกว่าเขาจะชักออกจึงรีบผวาแอ่นโยนีตามติดเพราะกลัวมันจะหลุดออกจากรูเสีย มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ปรีชาแทงลึงค์สวนเข้าไปอย่างเต็มที่เต็มทาง นิภาสยิวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เพราะการทิ่มทะลวงแทงลึงค์ของปรีชาครั้งนี้มันจมดิ่งเข้าไปในรูที่กำลังแอ่นขึ้นมารับจนหมดลำแนบสนิท หนอกต่อหนอกชนกันดังปั๊บ ขนหมอยซึ่งดกดำทั้งของเขาและของหล่อนมันคละเคล้าปะปนกันอย่างยุ่งเหยิงขณะที่ปรีชาบดคลึงหมุนควานลำลึงค์ไปมาจนทั่วรูโยนี
ในบัดนั้นเอง ความเสียวกระสันต์อันสุดยอดก็มาถึง ลำลึงค์เพิ่มอาการพองตัวแข็งกระดกขึ้นชี้โด่ และแล้วน้ำเงี่ยนที่กลั่นออกมาจากกระโปกใหญ่จนล้นปรี่อยู่ในกระบอกลึงค์ก็เริ่มทำการสูบฉีดพุ่งปรี๊ดเข้าไปในรูโยนีของนิภา
"โอยย..ปรีชา...ซี๊ดด" นิภาคู่สวาทหวีดผวาสั่นกระตุกเหมือนเป็นโรคสันนิบาต มือหงิกตีนงอ คิ้วขมวดย่น หล่อนเองก็สุดจะทนต่อไปได้จำต้องขมิบโยนีหลั่งน้ำเงี่ยนให้ไหลพลั่ก ๆ ออกมาราดรดหน้าประธานของเขาเพราะไม่สามารถจะอดกลั้นต่อไปได้
"อูย..ซี๊ด..ปรีชาขา..แหม..อู๊ย..เสียวจังเลย..ซี๊ด" หล่อนร้องครวญครางยกมือขึ้นโอบไปรอบคอเขาและกอดรัดไว้ด้วยความเสน่หา ปรีชาก็โน้มตัวลงไปทาบทับกดหนอกให้แนบโคกโยนีอย่างสนิทแล้วฉีดน้ำปรี๊ด ๆ เข้ารูโยนีของพี่เมียเหมือนเป็นโรคช้ำรั่ว หน้าของเขาฟุบอยู่บนเต้านมสูดไซร้เฟ้นฟอนอย่างสะใจ
"เป็นยังไงบ้างครับ..พี่นิภา"
"เสียว..แล้วก็สนุกจังค่ะ" หล่อนสารภาพอย่างหมดอาย
"งั้นเดี๋ยวขอผมเอาอีกทีนะครับ คืนนี้กว่านงคราญจะกลับก็คงจะดึกมาก"
"อุ๊ย..แหม..ทีเดียวยังไม่พออีกหรือคะ" หล่อนสะอิ้งเสียงถามเขาและหายใจรวยรินอย่างมีความสุข
"ไม่พอหรอกครับ อย่างน้อยต้องสามถึงจะพอ"
"แหม..มีน้องอยู่ทั้งคนยังกระหายจัดถึงอย่างนี้เชียวหรือคะ" หล่อนพูดแล้วทึ้งแก้มของเขาเบา ๆ
"ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับนงคราญมาเกือบเดือนแล้ว"
"ทำไมล่ะคะ"
"เขาไม่ให้ผมยุ่ง"
"เพราะอะไรคะ"
"ไม่รู้..เขาบอกว่ายุ่งกับเขามาก ๆ เขากลัวว่าจะมีลูก"
"มิน่า..นงคราญเขาถึงดูยังสวยและเปล่งปลั่งเหมือนกับสาว ๆ" ปรีชาไม่ออกความเห็นในเรื่องนี้แต่เขากระซิบแผ่ว ๆ บอกพี่เมียว่า
"พี่นิภา..ผมชักเงี่ยนอีกแล้ว ขออีกทีนะ คราวนี้เรามาเปลี่ยนท่าเล่นกันใหม่นะครับ" พูดจบ เขาก็ชักลึงค์ออกจากรูเสียงดังจ๊วบเบา ๆ เมื่อมันหลุดพ้นจากปากแคมออกมาภายนอก น้ำเงี่ยนที่หลั่งออกมาอย่างมากมายของทั้งคู่หาได้ไหลตามออกมาแม้แต่หยดเดียว มันแห้งหมาดเพราะโยนีของหล่อนขมิบดูดเข้าไปเก็บไว้ในมดลูกจนหมดสิ้น
ส่วนปรีชาแม้ว่าน้ำเงี่ยนจะออกไปแล้วครั้งหนึ่งก็ตาม ท่อนลึงค์ของเขาหาได้เหี่ยวอ่อนลงไปไม่ มันยังคงลุกแข็งโด่เป็นลำยาวอยู่เช่นเดิม เมื่อปรีชาชักลึงค์ออกมาจากรู นิภาก็พลิกกายนอนตะแคงข้างเพราะความอาย ไม่อยากให้เขาเห็นโคกโยนีที่กำลังอ้าแคมพะงาบ ๆ ขมุบขมิบด้วยความเงี่ยนเช่นเดียวกับเขา
ปรีชาเอื้อมมือไปลูบสะโพกอันผึ่งผายของหล่อนและเอ่ยปากชมออกมาว่า "พี่นิภานี่ตูดบานใหญ่ดีเหลือเกิน" เขาพูดพลางลูบตูดของหล่อนไปมา "พี่นิภาครับ..ขอให้ผมเล่นทางตูดทีได้ไหมครับ"
"อุ๊ย..ทุเรศ..ไม่ค่ะ" หล่อนรีบปฎิเสธแต่ว่าทรวงอกของหล่อนสะท้อนสะท้านเพราะนึกถึงพิษสงของการสังวาสทางด้านหลัง ไม่รู้ว่ามันจะเผ็ดร้อนรุนแรงขนาดไหน
"โธ่..พี่นิภายอดรัก..ตูดของพี่นิภาใหญ่และยั่วยวนออกอย่างนี้ใครจะอดใจได้ล่ะครับ นะคนดี๊..คนดี" หล่อนนิ่งแต่ลมหายใจรวยรินสะท้อนสะท้านยิ่งขึ้นเลือดในกายฉีดซ่านไปทั้งตัวเมื่อมืออันสากหนาของเขาเอื้อมมาลูบคลำตูดหล่อนอีก และคราวนี้เขาเอานิ้วไชรูตูดหล่อนเล่นทำให้นิภาเสียววูบ รีบขมิบตูดโดยเร็ว
"อุ๊ย..ปรีชา เล่นอะไรก็ไม่รู้..จั๊กจี้ค่ะ" ปรีชาหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ มองดูตูดอันตึงเครียดผึ่งผายบานใหญ่ของพี่เมียด้วยนัยน์ตาเป็นมัน และในฉับพลันนั้นเองเขาก็เอื้อมมือไปจับร่างของพี่เมียให้นอนคว่ำหน้าแล้วรั้งสะโพกให้ลอยขึ้น
"พี่นิภา คุกเข่าโก้งโค้งซิครับ ผมรับรองว่าท่านี้สนุกกว่าเมื่อกี้หลายสิบเท่า" นิภาอายจนหน้าแดงก่ำแต่หล่อนก็รีบปฎิบัติตามเขาว่าเพราะตัวเองก็เริ่มมีความกำหนัดขึ้นมาอีก
"พี่นิภาขยับขาถ่างออกไปอีกหน่อยซิครับ..อีกนิด..อีกนิดน่าน..ยังงั้น" เขาร้องสั่งเหมือนผู้กำกับภาพยนต์มือเยี่ยมกำลังเดินกล้อง นิภาถ่างขาให้อ้ากว้างออกไปอีกตามคำสั่งของเขาและเมื่อขาหล่อนถ่างออกก็มองเห็นโคกโยนีห้อยปลิ้นออกมาทางด้านหลังได้ชัดเจน ปรีชาจ้องมองดูด้วยความรู้สึกอันซาบซ่าน
ฉับพลันเขาก็โดดขึ้นคร่อมขี่ทางหลังมือยึดสะโพกไว้กระชับมั่น สอดปลายลึงค์อันแข็งโด่เข้าไปในซอกโยนีซึ่งกำลังผงาบ ๆ อ้ารับอยู่ พอหัวถอกดันแหวกแคมผลุบเข้าไป เขาก็เริ่มกระเด้าทันที นิภารีบโย้ตูดแอ่นโยนีออกมารับมันยั่วใจให้ปรีชากระแทกถี่ยิบยิ่งขึ้น มือเขาสอดเข้าไปกุมนมของพี่เมียเคล้นคลึงและบี้หัวนมแรง ๆ กระเด้าพลางนวดนมไปพลางทำให้ความเสียวสนุกจากรสสังวาสเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น
เมื่อปรีชากระเด้าให้ปลายลึงค์ถูไถกับปลายแตดพอสมควรแล้วเขาก็กดหัวถอกให้ตรงรูโยนีแล้วดันพรวดเข้าไป คราวนี้พรืดเดียวมิดด้ามเหลือแต่กระโปกสองใบแกว่งไกวกระทบแตดพี่เมียดังแปะ ๆ
"อูย..ปรีชาคะ..ซี๊ด..อูยย..แหม..เสียวอีกแล้วค่ะ แรง ๆ ขึ้นอีกนิดก็ได้ค่ะ" หล่อนสูดปากร้องบอกเขาพลางส่ายตูดแอ่นโยนีรับการกระเด้าของเขาด้วยความร่านสวาทอย่างเต็มที่ ปรีชาก็กระแทกหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้นจนหล่อนสะท้านสั่นไปทั้งตัว รูโยนีและรูตูดขมุบขมิบระริกระรี้ไปด้วยความเสียวสุดทน ปรีชาเองก็เร่งกระเด้าจนลึงค์เข้ามิดแล้วมิดอีก กลุ่มหมอยของเขาถูไถกับง่ามตูดและปากแคมโยนีเพิ่มความคันให้พี่เมียขึ้นอีกเป็นเสียวทวีคูณ
"อู๊ยย..ปรีชาคะ..แรงอีกหน่อยนะคะ..ของพี่กำลังจะออก..ออกอีกแล้วค่ะ" หล่อนระล่ำระลักบอกเขาด้วยเสียงอันสั่นพร่าจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง ตูดก็โย้ไปโย้มาแสดงว่าความเงี่ยนกำลังใกล้ทะยานขึ้นสู่ขีดสูงสุดอีกแล้ว
ปรีชาเองก็สุดจะทนอดกลั้นต่อไปได้เขาจึงรีบโหย่งตัวขึ้นนิ้วเท้าจิกที่นอนอย่างมั่นเหมาะแล้วก็เริ่มโยนบั้นเอวกระเด้าโยนีของพี่เมียอย่างสุดแรงเงี่ยนจนร่างหล่อนง้ำหน้าง้ำหลังสั่นคลอนไปทั้งตัวตามจังหวะการตะบันลำลึงค์อย่างหนักหน่วงของเขา รูโยนีเริ่มขมุบขมิบดูดหัวถอกที่พุ่งมากระทบเป็นจังหวะจุ๊บ ๆ ทำให้ปรีชาเสียวปลาบที่ปลายลึงค์ เขาโหมกระแทกอย่างถี่เร็วและหนักหน่วงยิ่งขึ้น นิภาทานแรงกระเด้าครั้งนี้ไม่ไหวถึงกับหน้าคว่ำพังพาบลงไป ปรีชาก็กระเด้าตามติดไม่ลดละจนสุดท้ายทนความเสียวไม่ไหว น้ำเงี่ยนพุ่งพรวดเข้ากระดองโยนี มันร้อนวาบเข้าไปในมดลูกจนนิภาก็ทนไม่ไหว ต้องหลั่งน้ำสวาทออกมาพลั่ก ๆ จนล้นทะลักแคมโยนีเลอะเป็นเทือกไปทั้งสองข้างเนื่องจากคราวนี้มดลูกดูดจนอิ่มแล้ว
นิภาถึงกับหมดแรงนอนมือกางตีนกาง ปรีชาก็ขี่คร่อมอยู่บนแผ่นหลังของหล่อนหอบแฮ่ก ๆ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่ก็เปี่ยมล้นด้วยความสุขอย่างสุดจะพรรณา

การเดินทางไปเยี่ยมญาติที่สระบุรีของนงคราญพร้อมด้วยมารดาและนงนุชผู้เป็นน้องสาว ปรากฎว่าได้รับการต้อนรับจากญาติที่อยู่ในจังหวัดนี้เป็นอย่างดีที่สุด และก็นับเป็นการบังเอิญเสียด้วยที่ในวันเดียวกันนี้ญาติผู้ใหญ่ซึ่งนงคราญมาเยี่ยมเยียนได้จัดพิธีแต่งงานบุตรสาวให้เป็นฝั่งเป็นฝาไปเพราะมีวัยอันสมควรจะมีเรือนได้แล้ว ดังนั้นนงคราญ นงนุชและมารดาจึงต้องอยู่ช่วยงานแต่งงานบุตรสาวของญาติผู้ใหญ่ซึ่งนับว่าเป็นลูกเรียงพี่เรียงน้องกันโดยตรง
การแต่งงานที่ได้จัดขึ้นนี้นับว่าเป็นงานที่ใหญ่โตและสมเกียรติของเจ้าภาพไม่น้อย เนื่องจากเจ้าภาพทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างก็มีฐานะมั่งคั่งและกว้างขวางด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นจึงมีแขกเหรื่อมาร่วมงานอย่างคับคั่ง เมื่อได้มีการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์อวยพรความสุขแก่คู่บ่าวสาวตามฤกษ์ยามที่ได้กำหนดไว้แล้ว ในตอนค่ำก้ได้มีการเลี้ยงอาหารค่ำแก่บรรดาแขกเหรื่อและญาติตามธรรมเนียม กว่าจะเสร็จพิธีและถึงกำหนดส่งตัวเจ้าสาวก็เป็นเวลาร่วมสองยาม และเรือนหอที่ได้จัดไว้อย่างสวยงามก็อยู่ในบ้านของเจ้าสาวนั่นเอง ทั้งนี้เนื่องจากพ่อแม่ของเจ้าสาวมีความห่วงใยลูกจึงจัดเรือนหอขึ้นภายในบ้านและให้เจ้าบ่าวมาอยู่ร่วมด้วย
เนื่องจากต้องอยู่ช่วยในงานแต่งงานของลูกเรียงพี่เรียงน้องดังกล่าวแล้ว ดังนั้น นงคราญ นงนุชและมารดาจึงจำต้องนอนค้างอยู่ที่บ้านเจ้าสาว และมันก็ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่ห้องซึ่งสามแม่ลูกนอนค้างนี้อยู่ติดกับห้องที่ได้จัดให้เป็นเรือนหอของเจ้าสาวเพราะเป็นห้องกว้างที่นอนกันได้อย่างสบายถึงสามคน
ภายหลังจากเสร็จพิธีการแต่งงานแล้ว ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนพลียที่ได้ตรากตรำมาตลอดทั้งวัน สามแม่ลูกจึงขอเข้านอนก่อนที่จะถึงกำหนดส่งตัวเจ้าสาว เมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องกันตามลำพังแล้ว แทนที่สามแม่ลูกจะหลับนอนทันทีทันใดก็หาไม่ ตรงกันข้ามกลับหันหน้าพูดจาซุบซิบและวิพากย์วิจารณ์กันถึงการแต่งงานในครั้งนี้
"ได้ข่าวว่านังยุพินมันเป็นโรคฮีสทีเรียไม่ใช่หรือ" มารดากระซิบถามนงคราญผู้เป็นบุตรสาว
"จ๊ะแม่ ฉันก็ได้ข่าวอย่างนี้เหมือนกันแต่บางทีเขาอาจจะรักษาหายแล้วก็ได้ เพราะตอนนั้นยุพินมันเพิ่งอายุ 17-18  เท่านั้น นี่อายุตั้ง 22 มันหลายปีมาแล้วเขาอาจจะรักษาจนหายขาดก็ได้"
"โรคพรรค์นี้มันไม่มีทางหายขาดง่าย ๆ หรอก" มารดาของนงคราญคัดค้าน
"บางทีเขาอาจจะให้แต่งงานเสียเพื่อให้มันหายขาดก็ได้ เพราะโรคอย่างนี้ถ้าแต่งงานแล้วก็หายไปเลย" นงคราญแสดงความคิดเห็น
"อาจจะจริงอย่างลูกว่า" ผู้เป็นแม่คล้อยตาม นงนุชผู้เป็นน้องสาวคนเล็กนิ่งฟังคำวิจารณ์ของผู้เป็นแม่และพี่สาวด้วยความสนใจและไม่ได้ออกความเห็นว่ากระไร เมื่อได้นั่งพูดคุยกันอีกชั่วครู่ ทั้งสามแม่ลูกก็พากันเข้านอน
ทุกอย่างเป็นความจริงตามคำวิพากย์วิจารณ์ของนงคราญและมารดาของหล่อน ยุพินผู้เป็นเจ้าสาวในการแต่งงานครั้งนี้เป็นโรคฮิสทีเรียมาตั้งแต่วัยรุ่นสาวจนกระทั่งถึงขณะนี้ก็ยังไม่หายขาด ดังนั้นผู้เป็นพ่อแม่จึงยัดเยียดให้แต่งงานกับครูประชาบาลหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายของกำนันแห่งตำบลนี้
ครูชาญ เป็นชื่อของเจ้าบ่าวซึ่งได้เข้าพิธีแต่งงานในวันนี้หาได้ระแคะระคายและรู้เบื้องหลังของเจ้าสาวของเขาไม่ ว่าเคยเป็นโรคฮิสทีเรียมาก่อน ดังนั้นในการส่งตัวเจ้าสาวเป็นคืนแรกนี้เขาจึงได้ประสบกับเหตุการณ์อย่างชนิดในชีวิตแห่งความเป็นหนุ่มของเขาจะต้องจดจำไปเป็นเวลานานแสนนาน
เมื่อได้ฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาวใกล้เวลาสองยาม เจ้าสาวผู้มีนามว่ายุพินเข้ามาขลุกอยู่กับเจ้าบ่าวเพียงครู่เดียวเท่านนั้นก็ขอตัวออกไปจากห้องเพื่อจะไปอาบน้ำและพักผ่อนให้สบายใจเสียก่อน ซึ่งเจ้าบ่าวหรือครูชาญก็นึกว่าเป็นความจริง
ที่แท้จริงนั้นเป็นกลเม็ดของเจ้าสาวเพื่อมิให้เจ้าบ่าวจับได้ว่าตนเป็นโรคฮิสทีเรียมาก่อนนั่นเอง แม้ว่าการออกจากห้องเช่นนั้นจะผิดประเพณีการส่งตัวเจ้าสาวแต่เจ้าบ่าวก็จำต้องอนุโลมตาม
ฝ่ายเจ้าบ่าวเมื่อได้ผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นอนคอยเจ้าสาวอยู่บนเตียงด้วยใจคออันเร่าร้อนในเพลิงพิศวาสตามแบบฉบับของเจ้าบ่าวในคืนแรกของการแต่งงานโดยทั่วไป แต่คอยแล้วคอยเล่า เจ้าสาวก็หาได้ย่างกรายเข้ามาไม่ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียอย่างหนักทำให้เจ้าบ่าวหรือครูชาญม่อยหลับไป
เขาหลับไปเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อปรากฎว่ามีร่าง ๆ หนึ่งโถมขึ้นมาบนเตียงและนอนทับร่างของเขากอดรัดเอาไว้แน่นพร้อมกับจูบปากเขาอย่างดุเดือด ร่างนั้นกอดรัดแรงจนกระดูกกระเดี้ยวของเขาแทบจะแหลกละเอียด และจากการสัมผัส ครูชาญก็รู้ว่าเจ้าของร่างนั้นเปลือยเปล่าทั้งตัว ครูชาญรีบเผยอเปลือกตาขึ้นทันทีพลางพลิกร่างผู้บุกรุกเข้ามากอดจูบลงจากร่างเขา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือซึ่งโอบรัดร่างของเขาประหนึ่งมีความเสน่หาในตัวเขาเป็นสุดประมาณ แต่ถึงกระนั้นก็หาทานกำลังของครูชาญได้
เขาปลดแขนที่โอบร่างออกโดยแรงพลางรีบผลุดลุกขึ้นและหันขวับไปมอง และพอเห็นชัดดีก็ถึงกับถอนใจเฮือกยาว เพราะเจ้าของร่างที่นอนเหยียดเปลือนเปล่าอยู่บนฟูกก็คือ ยุพิน เจ้าสาวของเขานั่นเอง ขณะนั้นร่างอันเปลือยเปล่าของหล่อนนอนหงายเหยียดยาวท้าแสงไฟที่สว่างจ้าดุจกลางวันภายในห้องโดยปราศจากความอับอายในสายตาของเขาที่จ้องมองแต่อย่างใด หล่อนประสานสายตากับเขาด้วยประกายตาปรือเยิ้มบอกความหมายให้เห็นได้อย่างแจ่มชัด พร้อมกับเผยอยิ้มน้อย ๆ
แสงไฟภายในห้องที่อาบไปทั่วร่างทำให้ครูหนุ่มมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนเรือนร่างหล่อนได้ชัดเจน และเขานึกภูมิใจอยู่ไม่น้อยเพราะยุพินจัดได้ว่าเป็นหญิงสาวที่สวยและมีเสน่ห์คนหนึ่งทีเดียว หล่อนมีใบหน้ารูบไข่ หน้าผากกว้าง นัยน์ตากลมดำขณะนี้ปรือเยิ้มอย่างท้าทายและเชิญชวนอยู่ในที เส้นผมสีดำสยายปกคลุมไปทั่วหมอน
เมื่อสายตาของครูหนุ่มกวาดต่ำลงมา ตัวเขาเองก็ต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัวเมื่อสายตาผ่านไปที่ทรวงอกขาวผ่องเต่งตูมด้วยปทุมถันทั้งคู่ กำลังสั่นระริกระรัวด้วยลมหายใจเข้าออกอย่างสะทกสะท้าน ยอดปทุมถันที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ ทั้งสองกลมแดงเรื่อกำลังชูชันเต็มที่เหมือนมิเคยผ่านมือชายเคล้าคลึงมาก่อน
ทั้งใบหน้าและทรวงอกหาได้ยั่วเย้าอารมณ์เปลี่ยวของเจ้าบ่าวมากยิ่งไปกว่าเมื่อสายตาของเขากวาดต่ำลงมายังท้องน้อยที่ปราศจากไฝฝ้าราคีและมองเรื่อยจนถึงท่อนขาอันอวบขาวด้วยเนื้อหนั่น ระหว่างท่อนขาคู่งามนี้เอง สายตาในวัยหนุ่มฉกรรจ์ของครูหนุ่มต้องจ้องมองอย่างจริงจังด้วยประกายตาแวววาวเพราะสิ่งที่ปรากฎอยู่ระหว่างขาอ่อนของหญิงสาวก็คือโคกมหาเสน่ห์ของหล่อนนั่นเอง
ก้อนเนื้อสามเหลี่ยมอันโหนกนูนเด่นตระหง่านอย่างยั่วตายั่วใจเป็นโยนีที่โคกขาวอลึ่งฉึ่ง สร้างความวาบหวามใจให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็นอย่างยิ่ง แคมโยนีสีแดงเรื่อ ๆ ประกบเบียดชิดจนไม่สามารถมองเห็นติ่งเม็ดละมุดภายในประดุจว่าโยนีนี้เป็นโยนีบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านลึงค์ของเพศตรงข้ามมาก่อนเลย แคมทั้งคู่มองดูแดงสดไม่ชอกช้ำบุบสลายแม้แต่น้อย เหนือโคกมหาเสน่ห์ขึ้นไปมองเห็นเส้นขนธรรมชาติสีดำขึ้นอยู่ประปรายไม่รกเลื้อยลงมาปิดบังความงามของโคก นับเป็นหญิงสาวที่มีโคกโยนีงามคนหนึ่ง ยิ่งจ้องมองก็ยิ่งทำให้อารมณ์หนุ่มของครูประชาบาลร้อนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่เขากำลังจ้องมองอยู่นี้ก็คือคู่สวาทของเขาที่บิดามารดาของหล่อนยกให้นั่นเอง
คล้าย ๆ กับว่าขณะนี้หล่อนก็พอจะรู้จิตใจของเขาดีว่ากำลังมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นสายตาแวววาวของเขาจับจ้องอยู่ที่บริเวณเนินโคกของหล่อน หล่อนก็แกล้งแบะขาให้อ้าออกจากกันเล็กน้อยจนแคมทั้งคู่อ้าเผยปลายจงอยติ่งเด่ให้แพรมโผล่ออกมาเหมือนจะแลบลิ้นหลอกเขาที่จ้องมองอยู่ ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เฉพาะครูหนุ่มคนเดียวเท่านั้นหรอก ไม่ว่าหนุ่มหรือไม่หนุ่มคนไหนก็คงไม่สามารถทนทานต่อภาพยั่วกิเลสที่ล่อตาอยู่ได้ และมิใช่เพียงเท่านี้ เสียงแจ๋ว ๆ อย่างท้าทายยังดังขึ้นอีก
"มาซิคะ..ยอดรักของเมีย จะมองอยู่เฉยทำไมล่ะคะ เมียทนรอคอยคุณด้วยความทรมานใจอย่างที่สุดแล้ว..เร็ว ๆ ซิคะคนดี เฉยอยู่ทำไมคะ" เมื่อสิ้นเสียงเชิญชวนในทำนองท้าทายเช่นนี้เขาก็สุดที่จะอดกลั้นต่อไปได้ ฉับพลันนั้นเองเขาก็ปลดเปลื้องเสื้อกางเกงออกจากร่างโดยเร็ว เพียงพริบตาเดียวเขาก็อยู่ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเช่นเดียวกับหล่อน
และในทัน ๆ กันนั้นเอง ครูชาญก็มองเห็นหญิงสาวกำลังจ้องมองดูท่อนลึงค์อันแข็งโด่ด้วยแววตาอันเบิกโพลงเหมือนกับในชีวิตหล่อนไม่เคยจะได้พบเห็นสิ่งนี้จากเพศตรงข้ามมาก่อนเลย แล้วโดยที่คาดฝันไม่ถึง หล่อนรีบผลุดลุกขึ้นจากเตียงผวาเข้าหาเขาอย่างลิงโลดใจไม่ต่างอะไรกับปลากระดี่ได้น้ำ หล่อนทรุดกายลงที่หว่างขาเขาจ้องมองดูท่อนลึงค์ที่ถอกบานโด่ผงกหัวหยึกด้วยดวงตาอันหยาดเยิ้มด้วยฤทธิ์ตัณหาราคะ เหมือนกับหล่อนจะทนต่อความเสน่หาในการมองดูไม่ได้ หล่อนก็เอื้อมมือไปลูบคลำและกำเจ้าท่อนหอกสั้นไว้แน่น
เจ้าองคชาติของชายมันถูกมือสตรีได้เสียเมื่อไหร่พอถูกเข้ามันก็เพิ่มการพองตัวแข็งโด่ยิ่งขึ้นจนหล่อนไม่สามารถจะกำได้โดยรอบ หล่อนร้องอุ๊ยเบา ๆ เมื่อมันพองตัวเต้นกระดุบ ๆ อยู่ในมือหล่อน จะด้วยอะไรก็เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้ หล่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้เจ้าหัวถอกซึ่งบานบ้าร่าเหมือนดอกเห็ดของชาญ ขณะนี้ที่ปลายของมันมีน้ำเมือกปริ่มออกมาเล็กน้อย พลางหล่อนก็จับหัวถอกที่ปริ่มน้ำนี้ยัดเข้าไปในปากเหมือนกับว่ามันคือแท่งไอติมอันโอชะที่ต้องการดูดความหอมหวาน
หล่อนใช้ปากดูดจ๊วบจ๊าบอย่างร่านใจ พอถูกโจมตีแบบนี้ ครูชาญถึงกับสะดุ้งเฮือกสุดตัว
"โอย..อย่า..ยุพิน" ครูชาญครางออกมาด้วยเสียงสั่นสะท้าน ตัวงอหลังโกง "โอย..อย่าดูดแรง ๆ ยุพิน..พี่ทนไม่ไหว" หล่อนหาได้ยอมเชื่อฟังและคายท่อนลึงค์ออกจากปากไม่ ครูหนุ่มยิ่งว่าหล่อนก็ยิ่งดูดอย่างเมามัน ในที่สุดพระเอกรูปหล่อที่ยังอ่อนเชิงในเรื่องนี้ก็สุดจะทนทานต่อไปได้ น้ำสวาทที่อัดแน่นอยู่ในกระบอกลึงค์จึงพุ่งฉูด ๆ เข้าไปในปากของหล่อนโดยแรง ไม่มีปัญหาอะไรที่ความแรงจากการฉีดออกของอสุจิจะไม่ไหลลามเข้าไปในลำคอของหล่อน
หล่อนร้องอุ๊ยแล้วรีบคายลึงค์ออกจากปากทันที เมื่อท่อนลึงค์หลุดออกจากปาก น้ำอสุจิในกระบอกลึงค์ของครูหนุ่มก็ยังฉีดพุ่งอย่างแรงอีกหลายครั้งจนกระทั่งเปรอะเปื้อนพื้นห้องเป็นเมือกไปหมด หล่อนจ้องมองด้วยตาเป็นมันอย่างสนเท่ห์แกมประหลาดใจ แม้ว่าน้ำของครูชาญจะหลั่งไหลออกมาเป็นจำนวนมากก็จริง แต่ท่อนลึงค์ของเขาก็ยังไม่เหี่ยวอ่อนลงไปในทันทีมันเพียงแต่หัวห้อยลงบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
เขาหันไปจ้องมองดูหญิงสาวด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง และฉับพลันนั้นเอง ครูชาญก็ประคองร่างของหญิงสาวไปที่เตียงนอนแล้วผลักร่างของหล่อนให้นอนหงายพาดลงไปบนแง่เตียง หล่อนสมยอมอยู่ตั้งแต่แรกแล้วจึงระทวยร่างลงไปด้วยความเต็มใจ มิใช่เพียงเท่านนี้แต่หล่อนยังช่วยขยับกระดองโยนีของหล่อนให้แผ่ผงาดอยู่บนแง่เตียงแล้วแบะขาทั้งสองข้างให้อ้าออกไปจนแคมโยนีเผยอแย้มเพื่อรับการโจมตีจากเขา
คล้ายจะเป็นการตอบโต้การกระทำของหล่อนที่ได้กระทำแก่เขาเมื่อครู่นี้ให้สาสมกันบ้าง ชาญรีบก้มหน้าลงไปบนเนินโคกของหล่อนซึ่งขณะนี้แคมทั้งสองข้างที่กำลังเผยออ้าเอ่อล้นไปด้วยน้ำเมือก มือทั้งสองของเขาจับแคมแดงให้เผยออ้าออกไปมากยิ่งขึ้นจนเม็ดละมุดของหล่อนตั้งเด่ออกมา แล้วเขาก็ใช้ลิ้นเลียไปที่แคมทั้งสองซึ่งเยิ้มด้วยน้ำเมือกไปมา เมื่อมันไปกระทบกับเม็ดละมุดของหล่อนเข้าหล่อนก็แอ่นร่างสะดุ้งขึ้นด้วยความเสียวกระสันต์ต่อการปรนสวาทของเขา
"อุ๊ย..แหม..ซี๊ด..ทนไม่ไหวแล้วค่ะ..พี่อย่าแกล้งยุพินอย่างนี้ซิคะ" เสียงสูดปากครวญครางของหญิงสาวทำให้ครูชาญเงยหน้าขึ้นจากโคกมองเห็นบริเวณปากของเขาเปียกแฉะไปด้วยน้ำเมือกของหล่อนเป็นมันปลาบ เขาขยับตัวยืนขึ้นแล้วจ่อลำลึงค์ให้ตรงปากรูของหล่อนและดันพรวดเข้าไปเต็มแรงให้สมกับที่หล่อนตัดพ้อต่อว่าหาว่าเขาแกล้งทรมานหล่อน
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกสูดปากออกมาดัง ๆ "อู๊ยยย...พี่ขา...ซี๊ดดด"
"ทำไมหรือ..ยุพิน"
"เสียวจังค่ะ..อูยย..ทำต่อซิคะพี่..ไปหยุดเฉย ๆ ทำไมล่ะคะ..เริ่มจะสนุกแล้วค่ะ" ว่าพลางหล่อนก็ถ่างขาของหล่อนให้อ้าออกไปอีก ครูชาญมองดูหญิงสาวที่ยินยอมพร้อมใจเป็นเมียเขาอย่างงง ๆ แต่เขาก้ไม่ได้ซักถามอะไรให้เป็นการสิ้นเปลืองเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาปฎิบัติตามคำของหล่อนโดยเร็วนั่นคือการโขยกร่างดันเจ้าท่อนลึงค์อันแข็งโด่เข้าไปในรูของหล่อน มันค่อย ๆ ชำแรกแคมอันเปียกเยิ้มแต่ค่อนข้างคับติ้วเข้าไปทีละน้อย..ทีละน้อย
มือทั้งสองข้างของครูหนุ่มก็ไม่หยุดนิ่ง เขาเอื้อมไปขยำเต้าและบี้เคล้นหัวนมของหล่อนไปมาทำให้หล่อนเพิ่มความกระสันต์ร่านสวาทยิ่งขึ้น
"อูย..พี่ขา..เสียวเหลือเกินค่ะ..แล้วก็สนุกด้วยซิคะ..เกิดมาในชีวิตก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามีผัวก็ดีอย่างนี้นี่เอง" หล่อนครวญและแอ่นก้นร่อนร่างของหล่อนขึ้นมารับการกระเด้าของเขา
คำพูดแบบเปลือยใจของหล่อนเช่นนี้ทำให้พลังสวาทในตัวครูหนุ่มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงโหมแรงกระเด้าให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น หล่อนก็ส่ายก้นแอ่นกระดองโยนีของหล่อนขึ้นรับการกระเด้าของเขาอย่างได้จังหวะทุกครั้ง ปากก็ร้องระงมสูดซี๊ด ๆ อยู่ไม่สร่างซา
"อูยย..เสียว..สนุกเหลือเกิน..แรงอีกนิดเถอะ..ทูนหัวของเมีย"
"ได้จ๊ะ..ถ้าเป็นความต้องการของยุพิน" เขาบอกหล่อนพร้อมกับโหมแรงตะบันลำลึงค์อย่างหนักหน่วงถี่ยิบดุจปืนกล มือก็เอื้อมไปเคล้าเต้านมอันตูมเต่งทั้งสองเต้าอยู่ไปมา มองเห็นหัวนมแดงเรื่อชูชันอยู่เช่นนั้นก็อดใจอยู่ไม่ไหว เขาใช้ปากอมงับหัวนมเข้าไว้แล้วใช้ฟันขบเน้นแรง ๆ
วิธีฝากรักฝากสวาทที่รุนแรงของชาญทำให้หญิงสาวต้องครวญครางอย่างไม่เป็นส่ำ มันเป็นเสียงบอกถึงความสุขอันเลอเลิศและเยี่ยมยอดกว่าความสุขใด ๆ ในโลกนี้ เพราะลำลึงค์ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวก็สมบูรณ์อ้วนพีอย่างสมตัว และขณะนี้มันกำลังซอกซอนอยู่ในรูอย่างถึงอกถึงใจ ปากของหล่อนครวญครางซี๊ดซ๊าด ส่วนสะโพกก็เด้งรับไม่ยอมหยุดนิ่งเพราะแรงราคะอันโชติช่วง
"อูย..พี่ขา..ยุพินเสียวเหลือเกินค่ะ..เสียวจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว" หล่อนสารภาพกับเขาอย่างหมดอายส่วนก้นก็ยังเด้งฉับ ๆ อยู่อย่างไม่ยอมหยุด เท่ากับเป็นการช่วยรับจังหวะการกระเด้าของเขาไปในตัวนั่นเอง จึงไม่ต้องพูดล่ะว่ามันจะเพิ่มรสโอชาให้แก่สองหนุ่มสาวสักเท่าใด
บัดนี้ น้ำสวาทในรูโยนีของหญิงสาวไหลกระปริบกระปรอยออกมาอย่างชุ่มโชกเพราะทนต่อความเสียวกระสันต์ที่ถูกกระเด้าเสียจนหายใจหายคอไม่ทัน ทำให้อาการเสียดสีของลึงค์และโยนียิ่งเพิ่มทวีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ในขณะที่กำลังเด้งซอยอย่างเมามันด้วยกันทั้งสองฝ่ายนี้เอง จังหวะหนึ่ง ครูหนุ่มก็ค่อย ๆ ถอนเอ็นออกจากรู พอเกือบจะหลุดพ้นจากแคมโยนีเขากลับทิ่มกระแทกพรวดเข้าไปอย่างเต็มเหนี่ยว การทิ่มทะลวงอย่างลืมตัวครั้งนี้เองทำให้ลึงค์มันจมหายเข้าไปในรูของหญิงสาวจนหมดมิดติดอยู่เพียงแค่โคนลึงค์ หญิงสาวที่กำลังร้อนสวาทสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อคู่สังวาสตะบันอย่างแรงจนลึงค์เข้ามิดลำยาว
"โอ๊ย..พี่ชาญขา..ยุพินเสียว..ทนไม่ไหวแล้วค่ะ"
"พี่ก็เสียวเหมือนกัน เราไปสวรรค์พร้อมกันนะ"
"ค่ะ..ค่ะ..อู๊ยย..ซี๊ดด" หล่อนกระซิบบอกเขาและสูดปากอย่างเหลืออดเหลือทน และเมื่อสิ้นเสียงของหล่อน ครูชาญก็เพิ่มการโขยกโยกร่างรุนแรงมากขึ้นทำให้รสชาดเพิ่มความดุเดือดเผ็ดร้อนยิ่งขึ้น
ครูหนุ่มกระเด้า..ยุพินกระเด้งรับเสียงดัง ผับ ๆ ๆ เมื่อลึงค์เข้าโยนีจนหมดมิด หนอกต่อหนอกของคนทั้งสองกระทบกันเป็นจังหวะจะโคน และแล้ว วาระสุดท้ายแห่งความบรมสุขก็มาถึง จากการชักลึงค์ออกยาว ๆ และกดกระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วงจนหมดมิดลำลึงค์และโยนีก็เพิ่มการเสียดสีรุนแรงมากยิ่งขึ้น ครูหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าขณะนี้รูโยนีของหญิงสาวกำลังรัดกระชับลำลึงค์ของเขาจนแน่นเปรี๊ยะทำให้ความเสียวทะยานขึ้นสู่ขีดสูงสุด เมื่อเขาชักลำลึงค์ออกมาเป็นครั้งสุดท้ายจนหัวถอกเกือบจะหลุดพ้นจากแคมโยนี เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยุพินก็แอ่นก้นลอยตามติดขึ้นมา ครูหนุ่มก็ดันพรวดเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายอย่างมิดด้ามจมกั่น
และบัดนั้นเอง น้ำเงี่ยนของผู้เป็นเจ้าบ่าวก็พุ่งกระฉูดเข้าไปในรูโยนีของเจ้าสาวโดยแรง หล่อนสะท้านไปทั้งร่าง ยกขาอวบขึ้นก่ายตระหวัดรัดรอบเอวชายหนุ่ม แขนก็โอบกอดร่างของเขาจนเกือบจะผสานเป็นร่างเดียวกัน ปากก็ร้องระงมด้วยความเสียวสวาท
"โอย..พี่ขา..ซี๊ด..เสียว..อู๊ย..สนุกดีเหลือเกินค่ะ..อย่า..ง่า..อย่าเพิ่งชักออกนะคะ"
"จ๊ะ..จ๊ะ..พี่ไม่เอาออกหรอก" เขาตอบพร้อมกับกดลึงค์ให้แนบสนิทยิ่งขึ้น น้ำเงี่ยนยังคงพุ่งปรี๊ด ๆ เข้าไปในมดลูกหญิงสาวอย่างไม่ยอมหมดสิ้น หล่อนก็ขมิบโยนีหลั่งน้ำออกมาชะหัวกระจังของเขาเป็นการตอบแทน และการหลั่งน้ำเงี่ยนของหล่อนนี้เป็นการหลั่งครั้งที่สองภายหลังจากที่หล่อนได้แอบหลั่งออกมาครั้งหนึ่งแล้วตอนที่ครูชาญกระเด้าหนัก ๆ ถี่ ๆ ทั้งสองปล่อยให้น้ำสวาทไหลออกมาอย่างสาแก่ใจในการประเดิมรักครั้งแรกจนเลอะเปรอะเปื้อนออกมานอกรูหยดลงสู่ที่นอนเป็นดวง ๆ
แล้วครูหนุ่มก็เอนกายลงนอนทับร่างยุพินทั้ง ๆ ที่ลึงค์และโยนียังคาคาบเกี่ยวกันอยู่อย่างนั้น ยุพินกอดรัดเขาแน่นคล้ายกับกลัวว่าชาญจะชักลำลึงค์ออกจากรูโยนีของหล่อน
"ยุพิน..น้องมีความรู้สึกอย่างไรบ้างในการที่เราต้องมาเป็นสามีภรรยากันครั้งนี้" เขาเอ่ยถามเบา ๆ ขณะที่จมูกคลอเคลียอยู่กับพวงแก้มและซอกคอของหล่อน มือก็เคล้าคลึงอยู่กับเต้านมมิได้ขาด
"รู้สึกปลื้มปิติและยินดีมากค่ะ ที่ได้สามีรูปหล่ออย่างพี่"
"อย่ายอพี่เลย ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก..ยุพิน"
"มิได้ค่ะ..ยุพินพูดด้วยความจริงใจ" หล่อนตอบและจูบปากเขาด้วยความรัก
"ยุพินรู้ตัวล่วงหน้าหรอเปล่าว่าจะเป็นเมียของพี่"
"แม่เคยพูดไว้ค่ะ ว่ายุพินต้องแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งในวันสองวันนี้ซึ่งแม่จะเป็นผู้เลือกคู่วิวาห์ให้ยุพินเอง และที่สุดยุพินก็ได้สามีที่น่าชื่นชมที่สุด" แล้วหล่อนก็จูบที่แก้มเขาอีกครั้งหนึ่งดังฟอดด้วยความเสน่หา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น