วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สงครามสวาท ตอน3


ตอนที่ 3
การลักลอบสังวาสกันระหว่างนิภาผู้เป็นพี่เมียและนงนุชน้องเมียนี้ นงคราญผู้เป็นเมียของปรีชาเองหาได้ทราบระแคะระคายแม้แต่น้อย และเพราะการที่ได้สังวาสกันอย่างหนักหน่วงของปรีชาโดยไม่ยอมเว้นระยะหยุดพักกันเลยนี้เอง ก็ได้ทำให้สุขภาพของเขาเสื่อมโทรมลงทุก ๆ วัน ถ้าหากโอกาสเปิดให้เขาเมื่อไรไม่ว่าจะเป็นนงนุชหรือนิภา เขาจะไม่ยอมไห้โยนีของสองพี่น้องต้องว่างเว้นไปจากท่อนลึงค์ของเขาเลย
ความเงี่ยนง่านอย่างไม่มีขอบเขตอันสิ้นสุดของปรีชานี้เองก็ทำให้สุขภาพของเขายิ่งทรุดโทรมลงทุกขณะจนในที่สุดเขาก็ถึงกับล้มป่วยลงและมันเป็นการป่วยเข้าขั้นโคม่าทีเดียว เรียกว่าเป็นตายเท่ากันเพราะอวัยวะสำคัญของร่างกายคือ ไต ซึ่งมันมีหน้าที่กลั่นกรองโลหิตกำจัดพิษร้ายออกจากร่างกายไม่ยอมทำงาน เนื่องจากเขาได้ใช้งานมันอย่างหักโหมและโอเวอร์เกินไปนั่นเอง มีผู้ต้องเสียชีวิตเพราะไตไม่ทำงานมาแล้วเป็นจำนวนมาก แม้แต่ท่านจอมพล ผ้าขาวม้าแดง นักรักบันลือโลกของเราก็ต้องสิ้นชื่อไปเพราะโรคนี้ อันเป็นที่น่าเสียดายยิ่งเพราะถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าวของมันก็คงจะไม่แพงอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเช่นทุกวันนี้หรอก(ชักจะออกนอกเรื่องไปแล้ว ขออภัยครับ)
เมื่อปรีชาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวล้มป่วยหนักเข้าขั้นโคม่าเช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่จะนำความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัวโดยเฉพาะ นงคราญผู้เป็นแม่บ้านซึ่งต้องรับผิดชอบแทนก็พลอยว้าวุ่นไปด้วย ตามธรรมดาเงินเดือนของปรีชาเพียงพันกว่า ๆ ก็ไม่พอใช้พอสอยอยู่แล้ว เมื่อต้องมาป่วยหนักลงก็เล่นเอาชักหน้าไม่ถึงหลัง นงคราญต้องเป็นหนี้เป็นสินเพราะได้ไปยืมเงินของเพื่อนฝูงเอามาใช้จ่ายจนหนี้สินเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
วันคืนยิ่งผ่านพ้นไปความเดือดร้อนก็ทับทวีมากขึ้นจนกระทั่งบางครั้งนงคราญเองก็ต้องถึงกับยอมในความที่จะต้องทนการกินมื้ออดมื้อต่อไป กำลังที่ใกล้จะอับจนต่อชีวิตอยู่แล้วก็เผอิญมีเพื่อนสนิทของนงคราญคนหนึ่งได้มาเยี่ยมเยือนนงคราญที่บ้าน เพื่อนผู้นี้เป็นหญิงสาวที่มีวัยไล่เลี่ยกับนงคราญ ได้เคยแต่งงานมาแล้วแต่ก็ได้เลิกกับสามีเพราะทรรศนะไม่ตรงกัน หล่อนเป็นหญิงสาวที่แก่นกล้าและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในวงสังคมคนหนึ่ง หล่อนเฟลิ๊ตและเปลี่ยนหน้าผู้ชายที่ควงอย่างไม่เลือกหน้าและไม่แคร์ต่อสายตาของใครๆ หล่อนถือเสียว่าความอดและความอิ่มนั้นไม่มีใครจะช่วยหล่อนได้ นอกจากตัวของหล่อนเองเท่านั้น มารศรีเป็นชื่อของหล่อนและเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของนงคราญตั้งแต่ยังเรียนหนังสือร่วมโรงเรียนเดียวกันมาเมื่อสมัยเด็กๆ
ดังนั้น การมาเยี่ยมเยียนของมารศรีในครั้งนี้นงคราญจึงดีใจมากเพราะเชื่อว่ามารศรีคงจะให้ความช่วยเหลือในยามที่ได้กำลังตกยากนี้บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งความคาดหมายของนงคราญก็ดูเหมือนจะได้ผลสมความตั้งใจ เพราะเมื่อหล่อนได้เล่าความคับแค้นที่กำลังเผชิญอยู่ให้ผู้เป็นเพื่อนฟัง มารศรีก็พยักหน้าและรับฟังด้วยความเห็นใจที่สุด หล่อนเปิดกระเป๋าถือหยิบธนบัตรฉบับละร้อยส่งให้กับเพื่อนสองฉบับ และกล่าวว่า
"เอาไว้ใช้ประทังไปก่อนสักสองวันพอแก้ขัด" นงคราญรับธนบัตรจากเพื่อนและกล่าวคำขอบคุณด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในน้ำใจไมตรีของเพื่อนอย่างยิ่ง
"ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของเธอในครั้งนี้เลย มารศรี"
"เรื่องเล็ก"  ผู้เป็นเพื่อนหัวเราะในลำคอ "ฉันอยากจะช่วยเธอให้ยิ่งไปกว่านี้ แต่ก็เกรงว่าเธอจะไม่กล้าเท่านั้น"
"หมายความว่ายังไงหรือ มารศรี" นงคราญถามเร็ว
"หมายความว่า ถ้าเธอกล้าจะใช้ชีวิตให้ฟุ่มเฟือยอย่างตัวฉันบ้าง เธอก็จะไม่ต้องมานั่งได้รับความอด ๆ อยาก ๆ อย่างนี้หรอก และเชื่อได้ด้วยว่าเธอจะเป็นต่อกว่าตัวฉันมาก เพราะเธอมีความสวยงามและรูปร่างก็ดีกว่าฉันอีกหลายเท่านัก" เพียงได้แย้มออกมาเท่านี้ นงคราญก็เข้าใจความหมายดีว่าอะไรเป็นอะไร พวงแก้มทั้งสองข้างของนงคราญแดงปลั่งเมื่อเสียงของเพื่อนได้ขาดหายไป ความรู้สึกของนงคราญในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถทราบหรอกว่าตกอยู่ในลักษณะใด
แน่ละ มนุษย์เราเมื่อต้องประสบกับความเดือดร้อนลำเค็ญอย่างถึงที่สุด นอกจากจะไม่มีความกระดากอายแล้ว ศีลธรรมอันดีงามทั้งมวลก็อาจจะปราศจากความหมายไปอีกด้วย ขอเพียงอย่างเดียวคืดให้ผ่านปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเผชิญอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานไปให้ได้เท่านั้น และนงคราญก็เป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้ หล่อนนิ่งอึ้งด้วยความความคิดอันสับสนและด้วยใบหน้าอันแดงเรื่อ ผู้เป็นเพื่อนได้มองเห็นเช่นนั้น ก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
"ในยามนี้ไม่มีใครจะช่วยเหลือเธอได้หรอก นงคราญ นอกจากตัวเธอเองเท่านั้น และความจริงเธอก็ไม่ใช่สาวแส้อะไร จะยอมเสียไปอีกสักครั้งสองครั้งเพื่อความอยู่รอดของชีวิต จะต้องไปกลัวความสึกหรออะไรกัน เราถือเสียว่าเราไม่ได้ไปลักโขมยหรือเบียดเบียนใครให้ได้รับความเดือดร้อนก็แล้วกัน" นงคราญนิ่งอึ้ง ทรวงอกสะท้อนสะท้านด้วยความรู้สึกบางประการ ผู้เป็นเพื่อนพอจะหยั่งรู้จิตใจของนงคราญได้ดีจึงกระซิบกระซาบต่อไป
"มีผู้อำนวยการบริษัทภาพยนตร์คนหนึ่ง แกเป็นคนชอบสนุกกับผู้หญิง กล้าได้กล้าเสียและใจป้ำมาก แกได้เคยบอกกับฉันว่าถ้ามีเพื่อนคนดี ๆ ให้พาไปหาแก ถ้าแกชอบใจก็ยินดีจะจ่ายค่าตัวให้พันบาททันที สำหรับเธอนี่ขอให้พูดตรง ๆ นะนงคราญ ถ้าแกได้เห็นหน้าและรูปร่างของเธอฉันคิดว่าแกจะต้องยอม โอ เค ทันที" ใบหน้าของนงคราญแดงเข้มยิ่งขึ้น ยังไม่ทันจะพูดอะไรออกมาผู้เป็นเพื่อนก็รีบกล่าวขึ้นอีกว่า
"จะต้องอายและคิดอะไรมากนะ นงคราญ ในเมื่อเรามีผัว ผัวก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วจะให้เราทำยังไง ของของเราจะเสียจะเสียจะหายก็ไม่ได้เอาของใครมาเสีย เวลาเราแย่ก็ไม่เห็นมีใครมาช่วยเราได้ มีแต่คอยทับถมและดูถูกเรา จริงไหมล่ะ"
"จริง เธอพูดถูก มารศรี" นงคราญคล้อยตามและเริ่มจะเห็นดีเห็นชอบด้วย
"จะตกลงไหมล่ะ..ถ้าตกลงเดี๋ยวฉันจะได้โทรไปบอกเขา" เลือดฉีดขึ้นสู่ผิวหน้าของนงคราญแรงยิ่งขึ้นขณะอึกอักออกมาว่า
"เอ้อ..แต่..เอ้อ"
"ทำไมหรือ"
"ผู้อำนวยการบริษัทภาพยนตร์ที่เธอพูดนี่น่ะ แก่หรือหนุ่ม"
"ยังไม่แก่..เขายังหนุ่ม..อายุสามสิบเศษ ๆ เท่านั้นเอง"
"แล้วเขาจะพอใจฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้" เสียงของนงคราญสั่นตะกุกตะกักด้วยความอาย
"ฉันขอรับรองร้อยเปอร์เซนต์ บางทีเขาก็อาจจะขอร้องให้เธอแสดงเป็นนางเอกประจำบริษัทภาพยนต์ของเขาเสียด้วยซ้ำน่ะซิ" เลือดก็ได้ฉีดขึ้นสู่ผิวหน้าของนงคราญอย่างแรงอีกครั้งหนึ่งเพราะคำเยินยอของเพื่อน
"ตกลงนะ...นงคราญ..เดี๋ยวฉันจะโทรไปพูดกับเขา แล้วพรุ่งนี้จะแวะมาส่งข่าวอีกครั้ง" แทนคำตอบ นงคราญพยักหน้าอย่างอาย ๆ

ในตอนเย็นวันรุ่งขึ้น มารศรีก็ได้แวะมาหานงคราญอีกครั้งหนึ่ง พอได้เผชิญหน้ากันก็รีบละล่ำละลักบอกทันที
"ฉันได้พูดตกลงกับเขาเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะนงคราญ ตอนนี้เขาก็กำลังรอคอยเธออยู่ที่บังกาโลแถว ๆ ชานเมืองนี่เอง ไปสิ..ไปกับฉัน..ฉันจะพาไป"
"เอ้อ..ไป..เดี๋ยวซินะ" เสียงนงคราญตะกุกตะกัก
"ก็ไปเดี๋ยวนี้น่ะซิ..ไปเถอะน่า..เสียสละเวลาสักเล็กน้อย ประเดี๋ยวก็จะได้รับเงินพันบาทหวาน ๆ"
พวงแก้มทั้งสองข้างของนงคราญแดงปลั่งเมื่อนึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
"ไปน่า..อย่าช้าอยู่เลย" ผู้เป็นเพื่อนเร่งเร้า
"ง่า..งั้น..ขอให้ฉันอาบน้ำก่อน"
"ไปซิ...ฉันจะคอย" มารศรีรับคำเบา ๆ
นงคราญใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรีบยร้อย หล่อนอยู่ในเครื่องแต่งตัวรัดรูปตึงเปรี๊ยะ โชว์ส่วนสัด เอว ตะโพกอันยั่วยวนให้มองเห็นเด่นชัด ทั้งนี้เพื่อมิใช่อื่นใดแต่เพื่อช่วยตัวหล่อนเองให้สมหวังที่จะได้เงินมาเท่านั้น แล้วมารศรีก็ได้พาเพื่อนขึ้นแท๊กซี่ตรงไปยังบังกาโลที่นอกชานเมืองตามที่ได้นัดหมายกับอีกฝ่ายไว้ทันที
สิ้นเวลาไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง แท๊กซี่จึงได้แล่นเรียบเข้ามาในบริเวณบังกาโลอันเงียบเชียบนอกชานเมืองแห่งนี้ หัวใจของนงคราญเต้นระทึกอยู่ตลอดเวลา มารศรีได้บอกให้แท๊กซี่จอด หลังจากจ่ายค่าโดยมารเรียบร้อยแล้วก็จูงมือนงคราญเดินตรงไปยังบังกาโลหลังหนึ่งทันที
เมื่อได้มาหยุดอยู่ที่หน้าบังกาโลหลังนี้ ตัวมารศรีก็หันมากระซิบกระซาบให้เพื่อนรอคอยอยู่ภายนอกแล้วหล่อนก็เดินเข้าไปในบังกาโลหลังนั้น
หล่อนได้หายเงียบไปชั่วครู่แล้วก็กลับเดินออกมาและกระซิบกระซาบบอกกับนงคราญว่า
"เข้าไปซิ..เขากำลังรอคอยอยู่ ไปเถอะ..ไม่ต้องห่วงฉัน ประเดี๋ยวฉันจะกลับตามลำพังได้"
นงคราญยืนข่มใจอยู่ชั่วครู่จึงค่อย ๆ ก้าวเดิน หล่อนเอื้อมมืออันสั่นเทาไปผลักบานประตูออกอย่างขลาด ๆ แล้วก็ยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่หน้าประตู
"เข้ามาซิครับ" เสียงห้าว ๆ กังวานออกมาจากภายใน เมื่อได้ยินเสียงนี้ นงคราญจึงค่อยก้าวเท้าเดินเข้าไปด้วยความประหม่าและตื่นเต้นอย่างสุดบรรยายได้
นงคราญไม่ใช่ผู้หญิงที่หากิน ไม่ใช่โสเภณี อาชีพของหล่อนไม่เคยผ่านเกมชีวิตอันบัดสีลามกอย่างนี้มาก่อน จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องมีความกระดากอายและเคอะเขินจนสุดจะยับยั้งไว้ได้ ใบหน้าของหล่อนร้อนผ่าวระเรื่อไปด้วยสายเลือดที่ฉีดซ่านขึ้นมาอย่างแรงเมื่อมองเห็นร่างอันล่ำสันใหญ่โตของชายหนุ่มวัย ๓๐ เศษ ๆ คนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงภายในห้อง ร่างอันล่ำสันใหญ่โตของเขานั้นมีกางเกงในนุ่งอยู่เพียงตัวเดียวเท่านนั้น
เมื่อร่างของนงคราญปรากฎกายเข้ามา เขาก็จ้องมองดูอย่างจริงจัง ดวงตาอันคมกริบทั้งคู่ของเขาเปล่งประกายแวววาวออกมาทันทีเมื่อเขาได้กวาดมองไปจนทั่วเรือนร่างของหล่อนอย่างถี่ถ้วน
นงคราญก็ใจเต้นระทึก เลือดฉีดแรงอยู่ตลอดเวลาที่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งจ้องมองอย่างจริงจัง นอกจากหล่อนจะมีความประหม่ากระดากอายแล้ว ยังเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงต่อร่างอันล่ำสันใหญ่โตของอีกฝ่ายด้วย
ขณะที่กำลังกระสับกระส่ายกระวนกระวายใจ เจ้าของร่างที่นงคราญหวั่นเกรงก็ลุกเดินมาปิดประตูห้องใส่กลอน และอย่างไม่มีพิธีรีตองเขาก็จับมือหล่อนจูงไปที่เตียงนอนทันที
"ผมพอใจคุณ..ยินดีจะจ่ายเงินค่าป่วยการให้ตามที่ได้ตกลงกับมารศรีไว้" เขาพูดและได้ประคองร่างนงคราญให้ทรุดลงนั่งบนเตียงข้าง ๆ เขา
นงคราญรู้สึกอายจนหน้าม้าน หัวใจเต้นโครมครามแทบอกจะพัง หน้าแดงเข้มเกือบจะเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อผู้อำนวยการบริษัทภาพยนตร์หนุ่มใหญ่ผู้นี้กระซิบบอกนงคราญว่า
"คุณสวยและมีเสน่ห์มาก ขอให้ผมได้มีความสุขกับคุณให้สมใจสักครั้งเถิด..ง่า..กรุณาถอดเสื้อกระโปรงออกเสียสิครับ"
บัดนี้..วินาทีอันระทึกขวัญได้มาถึงนงคราญแล้วอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ หล่อนกวาดตาไปที่ปลายเตียงนอน ได้มองเห็นผ้าขนหนูแขวนอยู่ที่พนักเตียงสองผืน พยายามหักห้ามความประหม่ากระดากอายให้หมดไป นึกเสียว่าการเสียสละครั้งนี้เป็นการเสียสละเพื่อชีวิตอีกสี่ชีวิตซึ่งกำลังรอคอยความช่วยเหลืออยู่
ดังนั้น นงคราญจึงได้ทรงกายลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ปลายเตียงแล้วเดินหายไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ติดกัน นงคราญหายเงียบไปชั่วครู่ก็กลับออกมาพร้อมด้วยเสื้อกระโปรงที่ผลัดเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ร่างของหล่อนมีผ้าขนหนูเก่า ๆ ซึ่งทางบังกาโลจัดไว้ให้พวกผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอยู่เพียงผืนเดียวเท่านั้น
ใบหน้าของนงคราญผะผ่าวด้วยสายเลือดที่ฉีดแรงขึ้น เพราะในขณะเดียวกับที่เธอนุ่งผ้าจนหนูกระโจมอกเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เป็นเวลาเดียวกับผู้อำการหนุ่มกำลังลุกขึ้นจากเตียงแก้กางเกงในออกจากร่าง เขาแก้ออกโดยไม่มีความอับอายต่อสายตาของนงคราญซึ่งกำลังจ้องมองดูด้วยจิตใจอันสั่นระรัวยิ่งขึ้น ใบหน้าของนงคราญร้อนวาบ ม่านตาทั้งสองข้างเบิกกว้างขึ้นด้วยความตื่นตะลึง ขณะที่กางเกงชั้นในของผู้อำนวยการหนุ่มได้หลุดเลื่อนออกจากร่างลงไปกองอยู่ที่พื้น
สิ่งที่นงคราญได้มองเห็นเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้าที่ระหว่างโคนขาอันสมบูรณ์ด้วยกล้ามเนื้อของอีกฝ่าย เจ้าท่อนลึงค์อันแข็งโด่และยาวใหญ่ ขนาดของมันไม่แตกต่างไปกว่ากล้วยหอมลูกเขื่อง ๆ ขณะนี้มันกำลังลุกโชน หัวมู่ทู่อันบานใหญ่ราวกับดอกเห็ดที่ปลายเปียกเยิ้มไปด้วยน้ำเมือก กำลังผงกหัวอยู่หงึกหงัก ได้บอกถึงความกำหนัดและหื่นกระหายอย่างรุนแรง ที่โคนลึงค์รกรุงรังไปด้วยเส้นขนสีดำอันหยาบหนา และมีไข่มหึมาสองใบห้อยโตงเตงประดับอยู่
ใจคอของนงคราญสั่นระริก ความรู้สึกวาบหวามสั่นระรัวเพิ่มยิ่งขึ้นเมื่อได้มองเห็นของลับของผู้อำนวยการหนุ่มผู้นี้ ขนาดของมันใหญ่กว่าและยาวกว่าของปรีชาผู้เป็นสามีของหล่อนอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ ถ้าจะเปรียบของลับของปรีชา ก็ไม่ต่างอะไรกับกล้วยไข่ลูกเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง แต่ของผู้อำนวยการหนุ่มบริษัทภาพยนต์ผู้นี้ ขนาดของมันไม่ใช่กล้วยหอมธรรมดา แต่มันเป็นกล้วยหอมขนาดเขื่อง ๆ ริม ๆ จะเท่าขวดเป๊ปซี่ทีเดียว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะไม่สร้างความสะทกสะท้านหวั่นเกรงให้แก่นงคราญ
ในขณะที่กำลังระย่อ ใจคอวาบหวามสั่นระรัวอยู่นี้ เจ้าของร่างอันล่ำสันใหญ่โตทั้งลึงค์และร่างกายก็ได้เดินตรงมาฉุดมือหล่อนไปที่เตียงโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง ลักษณะท่าทีของเขาคล้ายกับอดอยากปากแห้งในเรื่องผู้หญิงมาช้านาน พอถึงเตียงก็ได้ผลักร่างของนงคราญให้เอนกายลงนอนแล้วก็ได้กระตุกผ้าขนหนูที่นุ่งกระโจมอกอยู่หลวม ๆ ให้หลุดพรืดออกไปทางปลายเท้าโดยเร็ว
ความอายทำให้นงคราญรีบหลับตาปี๋ลงทันที ทรวงอกสะท้อนสะท้านกระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะรู้ดีว่าในอึดใจข้างหน้านี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
มิใช่ว่านงคราญจะไม่เคยผ่านในเรื่องการร่วมประเวณี ไม่รู้รสชาดของการสังวาสกับเพศตรงข้ามมาก่อนก็หาไม่ หล่อนผ่านการสังวาสกับปรีชามาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน สังวาสกับผัวซึ่งมีลึงค์ขนาดใหญ่เท่ากับกล้วยไข่และยาวราว ๆ ๔นิ้วเป็นอย่างมาก แต่ในคราวนี้เธอกำลังจะต้องถูกบุคคลอื่นที่ไม่ได้เคยรู้จักมักคุ้นมาก่อนสังวาสก็เป็นสิ่งยั่วยุให้เกิดความรู้สึกปั่นป่วนรัญจวนใจพออยู่แล้ว ยิ่งมาได้เห็นท่อนลึงค์อันใหญ่โตและแข็งโด่ขนาดขวดเป๊ปซี่และความยาวใหญ่ขนาดไม่ต่ำกว่า ๗ นิ้วเช่นนี้ ไฉนเลยจะไม่เพิ่มความเร่าร้อนกระวนกระวายให้แก่นงคราญมากยิ่งขึ้นสักเพียงใด ขณะนี้เลือดในกายของนงคราญฉีดซ่านอย่างร้อนแรงไปทั่วทุกขุมขน ทั้งวาบหวิวสั่นระรัวและปั่นป่วนรัญจวนใจระคนกัน อกอันขาวสล้างเต่งตึงด้วยเนื้อสาวกระเพื่อมระริกระรัวขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ไม่ขาดระยะ
สายตาของผู้อำนวยการหนุ่มก็ได้เหลือบไปมองดูทรวงอกอันตูมเต่งชูชันของนงคราญเพียงแวบเดียวก็เหลือบต่ำลงมาที่โคนขาอ่อนของหญิงสาวซึ่งขณะนี้ร่างของนงคราญก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนปราศจากสิ่งปิดบังท่ามกลางความสว่างอันเจิดจ้าจากแสงไฟฟ้าซึ่งสาดกระจายส่องกระทบร่างอย่างชัดเจน
แววตาของผู้อำนวยการหนุ่มแวววาวขึ้นทันทีเมื่อมองเห็นของดีที่หว่างขาขาวอวบอัดของหญิงสาว เพราะมันเป็นโคกโยนีอันโหนกนูนขาวผ่องยองใยยั่วตายั่วใจ มันเป็นโยนีที่ทั้งโคกทั้งขาวและนูนเด่นราวกับหลังเต่า แคมแดงอวบอิ่มทั้งสองแคมประกบเบียดชิดกันจนแทบจะมองไม่เห็นรอยปริแตกของร่องเนื้อสวาท ดูประหนึ่งว่าหล่อนยังเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยมีท่อนเนื้อของเพศตรงข้ามชำแรกแคมเนื้อมาก่อนเลย เขาไม่สามารถที่จะทนมองอยู่ได้ก็ใช้นิ้วบีบบี้ปุ่มกระสันต์ของหญิงสาวเล่นอย่างเมามัน
นงคราญสะท้านเฮือกสุดตัวเมื่อได้ถูกนิ้วมือของอีกฝ่ายบี้เม็ดละมุดอย่างรุนแรง หล่อนขมิบตูดแอ่นสยิวไปทั้งตัว พยายามเบี่ยงโคกหลบแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมือของอีกฝ่ายตามติดไม่ยอมลดละ เขาตะปบโคกล้วงนิ้วควานไชเข้าไปในร่องเนื้อของหล่อนอย่างย่ามใจ นงคราญสั่นพริ้วไปหมดทั้งเรือนกาย
"อุ๊ย..อย่าค่ะ" หล่อนรีบปัดมือของเขาออก ใบหน้าแดงสร้านด้วยความอาย ผู้อำนวยการหนุ่มหัวเราะหึ ๆ อย่างชอบใจ ในฉับพลันนั้นเองเขาก็เบียดตัวเข้าไปในหว่างขาของนงคราญทันที จับขาอันอวบอัดทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกันจนแคมโยนีเผยออ้าปลิ้นออกอย่างเต็มที่
เมื่อผู้อำนวยการหนุ่มได้มองเห็นกลีบโยนีผงาบอ้าเตรียมต้อนรับเช่นนั้นก็อดใจต่อไปไม่ไหว รีบจับหัวถอกอันบานใหญ่มู่ทู่ยัดมันใส่เข้ารูโยนีของนงคราญและพรวดเข้าไปทันที ความใหญ่ของปลายบานชำแรกแคมแดงของหญิงสาวให้ปริอ้าออกจนดูเหมือนจะฉีก
นงคราญสะดุ้งเฮือกสุดตัว หล่อนร้องอุทานเสียงกระเส่าออกมาอย่างน่าสงสาร
"อุ๊ย..เบาๆค่ะ..เจ็บ..อูย..ซี๊ด"
"เจ็บหรือครับ..โธ่..ยังไม่ทันจะเข้าไปหมดเลย" ผู้อำนวยการหนุ่มพูดพลางพร้อมกับแสยะยิ้มมองดูแคมโยนีที่ผงาบอ้ารัดหัวถอกที่เข้าไปจุกแน่นอยู่ที่ปากช่องอย่างย่ามใจ ครั้นแล้ว..โดยไม่ยอมฟังเสียงของหญิงสาว คล้ายกับว่าเขาต้องการจะตักตวงความสุขให้เต็มที่
และเมื่อความรู้สึกนึกคิดอย่างเห็นแก่ตัวเช่นนี้เกิดขึ้นในหัวใจ เขาก็จับขาทั้งสองข้างของนงคราญแหกออกไปอีกจนแคมโยนีอ้าอย่างเต็มที่แล้วขยิกลึงค์ดันพรวดเข้าไปอย่างไม่ยั้ง สองมือของผู้อำนวยการหนุ่มยึดสะโพกของหญิงสาวไว้อย่างมั่นคงพลางกดดันเจ้าท่อนลึงค์ยักษ์เข้าไปอย่างเงี่ยนจัด แม้แคมโยนีจะคับสักเพียงใดแต่ธรรมชาติก็สร้างกลีบเนื้ออ่อนทั้งสองกลีบให้ยืดหยุ่นรับความใหญ่ของท่อนลึงค์นี้ได้
แต่ว่า ในความรู้สึกของนงคราญเมื่อต้องมาเผชิญกับสถาณการณ์อันคับขันอย่างนี้ เธอก็ต้องพยายามต่อสู้เพื่อช่วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ เมื่ออีกฝ่ายออกแรงดันท่อนลึงค์เข้ามาอย่างหนักหน่วง ความเจ็บแสบแคมเพราะความใหญ่ของลึงค์ทำให้เธอต้องรีบถ่างขาตัวเองให้อ้ากว้างออกไป และเมื่อถ่างออกมากก็ทำให้อีกฝ่ายได้ใจกระแทกท่อนลึงค์อย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น เมื่อรูโยนีถูกทิ่มแทงพรวด ๆ เข้าไปอย่างบ้าระห่ำเช่นนี้ นงคราญก็ทำอาการคล้ายจะพลิกตัวหลบ แต่ผู้อำนวยการหนุ่มก็กดไหล่ของเธอไว้และเร่งกระเด้าถี่ขึ้น หัวเงี่ยงกระดืบเข้าไปอย่างหนืด ๆ เพราะแคมอันคับตื้อทำให้กล้ามเนื้อในโยนีรัดตัวแน่นกระชับกว่าปกติ แม้กระนั้นผู้อำนวยการหนุ่มก็ไม่ละความพยายาม เขาเริ่มกระเด้าหนัก ๆ จนรู้สึกแสบที่หัวเงี่ยงนิด ๆ มันฝืดสิ้นดีจนต้องจับขาของนงคราญให้ถ่างอ้าออกไปอีกแล้วก็ตะบันพรวด ๆ เข้าไปอีกสองสามครั้งอย่างสุดแรงเงี่ยน ในคราวนี้เองที่ทำให้หัวเงี่ยงจมมิดเข้าไปทั้งหัว กลีบโยนีของนงคราญรัดหัวกระจังของผู้อำนวยการหนุ่มไว้แน่นเปรี๊ยะจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าเบ้ด้วยความแสบหัวเงี่ยง ความแค้นทำให้เขาเอื้อมไปคว้าเต้านมทั้งสองเต้าของหล่อนขยำและบีบอย่างเมามันเป็นการตอบแทน
นงคราญต้องแอ่นร่างผวาเพราะทนความเสียวกระสันต์ต่อการเคล้นคลำบีบบี้เต้านมของเขาไม่ไหว ในขณะนี้เธอเริ่มพ่ายแพ้ต่ออำนาจของธรรมชาติ พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเองเสียแล้ว และนั่นก็คือนงคราญเริ่มมีความกำหนัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อผู้อำนวยการหนุ่มกระชากลึงค์เข้า ๆ ออก ๆ และดันท่อนลึงค์พรวดเดียวเข้าไปในรูโยนีลึกมากเข้า
"อูย..ซี๊ด" นงคราญร้องครวญครางออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อความเสียวกระสันต์ทะยานสูงขึ้น มันเสียวก็เพราะอาการเสียดสีของท่อนลึงค์บานใหญ่ที่ครูดไคร้ไปมากับเม็ดแตดของหล่อนอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้นงคราญทนทานต่อความเสียวกระสันต์ไม่ไหวเสียแล้ว เธอต้องขมิบน้ำเงี่ยนให้มันไหลหยาดเยิ้มออกมาหล่อลื่นอยู่ภายในรูโยนีมากเข้าและมากเข้า แคมโยนีที่รัดหัวกระจังของคู่สังวาสก็ค่อย ๆ คลายออก
และนั่นเอง อีกฝ่ายก็เริ่มออกแรงแทงท่อนลึงค์สวนเข้าไปในรูโยนีของนงคราญอย่างไม่ยั้ง ทุกครั้งที่เขากระแทก แคมแดงของนงคราญจะบุบบู้ยู่ตามลำถอกเข้าไป และเมื่อเขาชักออก แคมโยนีก็ปลิ้นแลบเม็ดแตดติดคอเงี่ยงออกมาอย่างน่าเสียวสยอง เขากระเด้าพลางมือของเขาก็เคล้นเคล้าเต้านมไปพลางอย่างเมามัน
นงคราญทนทานต่อการบ้าระห่ำสวาทอย่างบ้าคลั่งของอีกฝ่ายไม่ไหวต้องส่งเสียงร้องครวญครางและสูดซี๊ดปากออกมาอย่างหมดอาย
"อูย..ซี๊ด..เบาๆหน่อยค่ะ..อูย..เจ็บ..ซี๊ด" เสียงร้องครวญครางของนงคราญได้ยั่วยุใจให้ผู้อำนวยการหนุ่มกระแทกอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นจนบังเกิดเสียงดังผลุบผลับ ๆ เตียงก็สั่นและดังเอี๊ยด ๆ อย่างเป็นจังหวะจะโคน
เวลาผ่านไป ความเสียวสร้านกระสันต์สวาทก็ยิ่งพูนทวีขึ้น ขณะนี้นงคราญลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ความอับอายที่มีอยู่แต่แรกได้อันตรธานไปสิ้น หล่อนสูดซี๊ดปากและครวญครางอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ท่อนลึงค์อันยาวใหญ่ได้เข้าไปไชชอนไปทั่วง่ามโยนี สะโพกอันผายผึ่งของหล่อนเริ่มยักย้ายขยุกขยิกแล้วก็แอ่นอ้ากระดองโยนีขึ้นรับการกระแทกอย่างหนักหน่วงของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้สึกตัวเลย ทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มหน้ามืดตาลายเพิ่มความเมามันในการตะบันท่อนลึงค์บานใหญ่อย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น
"อูย..เบาๆหน่อย..เสียวเหลือเกินค่ะ..อูย" หญิงสาวร้องครวญครางเสียงกระเส่าสารภาพความรู้สึกอันแท้จริงออกมาอย่างหมดอาย
"เสียวหรือครับ..ถ้าเสียวก็สนุกซิ..ยอดรัก" ผู้อำนวยการหนุ่มละล่ำละลักออกมาด้วยความกำหนัดยินดี เขาโหย่งตัวกระแทกท่อนลึงค์ควานไปมาจนทั่วรูสวาททำให้รูโยนีร้อนผะผ่าวเพราะการเสียดสีอย่างรุนแรง นงคราญทนไม่ได้ต้องขมิบโยนีหลั่งน้ำเงี่ยนออกมาไม่ขาดระยะ ปากก็ครวญคราง ซี๊ดซ๊าดบ่งบอกถึงความเสียวกระสันต์เมามันซึ่งในชีวิตของหล่อนยังไม่เคยพบและเจอะเจอกับการสังวาสอย่างเผ็ดร้อนรุนแรงเช่นนี้มาก่อนเลย
"อูย..อย่าดันแรงมากนักซิคะ..อูย..ซี๊ด" นงคราญพลั้งปากออกมาเสียงอ่อย ๆ
"รูโยนีของคุณคับดีจังเลย แล้วก็อร่อยที่สุด" ผู้อำนวยการหนุ่มก้ได้สารภาพความในใจออกมาพลางตะบันท่อนลึงค์ถี่ยิบยิ่งขึ้น
ความฝืดคับของรูโยนีอันเหนียวหนืด และการดูดตอดอยู่ไม่ขาดระยะทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มต้องกัดฟันกรอดด้วยความเสียวอันสุดทน ท่อนลึงค์ซึ่งฝังอยู่ในรูโยนีเริ่มดิ้นกระดุบ ๆ เพิ่มอาการพองตัวแข็งโด่ยิ่งขึ้นจนสุดที่เจ้าของลึงค์จะทนทานต่อไปได้ เขาต้องกระชากท่อนลึงค์ออกจากโคกโยนีของหล่อน พอจะพ้นกลีบอันแดงเรื่อก็ดันพรืดเข้าไปอย่างสุดแรง
และในครั้งนี้เอง ที่ท่อนลึงค์ซึ่งยาวไม่ต่ำกว่า ๗ นิ้วและใหญ่ริม ๆ ขนาดขวดเป็ปซี่เห็นจะได้ มันอันตรธานหายเข้าไปในรูโยนีของนงคราญจนหมดมิดไม่มีเหลือหลอภายนอกแม้แต่เพียงองคุลี หนอกอันรกรุงรังไปด้วยขนหมอยที่หยาบหนาของผู้อำนวยการหนุ่มประกบกับหนอกและโคกโยนีอันโหนกนูนเกลี้ยงเกลาของนงคราญสนิทแนบแน่น
นงคราญผวาสุดตัว สูดปากเสียงดังลั่นเมื่อหัวถอกอันบานใหญ่ของผู้อำนวยการหนุ่มเข้ามาจุกแน่นอยู่ที่ปากมดลูก หล่อนรีบตะหวัดแขนขึ้นไปคล้องคออีกฝ่ายหนึ่งอย่างลืมตัว ตาปรือเยิ้มด้วยความเสียวกระสันต์อย่างถึงใจ ได้ครางเสียงกระเส่าฟังไม่ได้ศัพท์เพราะความเมามันที่ท่อนลึงค์ทะลวงเข้ามาถึงตับไตไส้พุง ขมิบน้ำเงี่ยนไหลปรี่ออกมาชะโลมรูอยู่ไม่ขาดระยะ ผู้อำนวยการหนุ่มที่มีลึงค์ยักษ์ก็เพิ่มการกระชากกระชั้นลึงค์เข้า ๆ ออก ๆ เร็วยิ่งขึ้น
"ยอดรัก..รูโยนีของคุณวิเศษเหลือเกิน..โอ..สวรรค์..มันช่างคับและอร่อยจนพูดไม่ถูกเลย" ผู้อำนวยการหนุ่มลึงค์ใหญ่รำพันเสียงกระท่อนกระแท่นไม่ชัดถ้อยชัดคำพลางโอบสะเอวหญิงสาวกระชับแน่น แล้วกระเด้าฉับ ๆ อย่างมิต้องพักหายใจหายคอ นงคราญก็สนองความหื่นกระหายของอีกฝ่ายด้วยการส่ายสะโพกแอ่นอ้ากระดองโยนีขึ้นรับการกระเด้าของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจ ทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มกดท่อนลึงค์เข้าไปได้อย่างจั๋งหนับมากยิ่งขึ้น
"อุ๊ย..ผู้อำนวยการคะ..อูย...ซี๊ด..เสียวเหลือเกินค่ะ...อูย...ซี๊ด" เสียงของหญิงสาวสั่นระรัว มือที่โอบรอบคอและขาที่เกี่ยวตระหวัดรัดเอวของเขาแน่นกระชับยิ่งขึ้น
อีกฝ่ายก็เผยอก้นขึ้นทั้ง ๆ ที่นงคราญกอดและเกี่ยวตระหวัดอยู่  มือเขาโอบไปรอบก้นช้อนสะโพกของหญิงสาวให้ลอยสูงขึ้น พลางปักหลักนั่งยอง ๆ กระแทกท่อนเอ็นถี่ยิบมิดแล้วมิดอีก หมอยของเขาและของนงคราญผสมกลมกลืนกันจนมองดูเป็นกระจุกใหญ่ดำเมื่อม
หัวถอกของผู้อำนวยการลึงค์ยักษ์เพิ่มอาการดิ้นกระดุบ ๆ อยู่ในมดลูกแรงขึ้น มันอบอุ่นซาบซ่านไปทั่วทุกซอกมุมของโยนีทำให้ความเสียวสร้านง่านเงี่ยนของนงคราญทวีสูงยิ่งขึ้น แก้มทั้งสองข้างของหล่อนแดงปลั่งราวกับลูกตำลึงสุกขณะแอ่นกระเด้งโยนีขึ้นรับการกระเด้าของเขา
หล่อนยักย้ายส่ายสะโพก ส่ายโคกโยนีไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้างเพื่อให้ปลายเงี่ยงของลึงค์ยักษ์เสือกแซะไปทั่วอาณาเขตของซอกมุมโยนี ปลายจงอยแตดที่กำลังถูกหัวถอกเสียดสี ลุกขึ้นตั้งชันและกระดุบกระดิบอย่างมีชีวิตชีวา
ขณะนี้ ทั้งผู้อำนวยการหนุ่มลึงค์ยักษ์และนงคราญต่างก็ไม่ยอมพูดจาอะไรกัน คงตั้งหน้าตั้งตาปรุงรสสังวาสให้กันและกันให้มันถึงอกถึงใจมากยิ่งขึ้น  ผู้อำนวยการหนุ่มได้ตะบันเสียจนหนอกของลึงค์และหนอกของโยนีกระทบกันดังพั่บๆ ท่อนลึงค์ก็เข้ามิดจนจมกั่น มิดแล้วมิดอีก รูโยนีก็ขมุบขมิบทั้งดูดและตอดท่อนลึงค์แรงขึ้น ท่อนลึงค์ก็ได้เพิ่มอาการกระดุบกระดิบลุกโด่แข็งโชนมากยิ่งขึ้น
ครั้นแล้ว วาระสุดท้ายของการกระเด้าก็ได้มาถึงเมื่อผู้อำนวยการลึงค์ใหญ่ยักษ์กระดกหัวถอกให้มันสูงขึ้นสักนิดหนึ่งแล้วก็ทิ่มทะลวงแทงลึงค์เข้าไปจนหมดมิดถึงโคนเป็นครั้งสุดท้าย น้ำเงี่ยนที่ได้อัดแน่นอยู่ในกระบอกของลำลึงค์ยักษ์เป็นเวลาช้านานก็ได้พุ่งฉึก ๆ เข้าใส่ปากมดลูกของนงคราญอย่างรุนแรงเหมือนกับฉีดจากรถดับเพลิง
หญิงสาวสั่นสะท้านสยิวอย่างสุดตัวพลางขมิบโยนีหลั่งน้ำเงี่ยนให้แตกพลั่ก ๆ ออกมาอาบลำลึงค์จนชุ่มโชก มันได้คละเคล้าปะปนกับน้ำเงี่ยนของอีกฝ่ายจนล้นปรี่ออกมานอกรูโยนีท่วมเนินหนอกจนหมอยเปียกแฉะไปด้วยกันทั้งสองคน
นงคราญทอดร่างนอนหงายแผ่อย่างอ่อนระโหยโรยแรงเพราะถูกอีกฝ่ายตะบันเสียจนน้ำเงี่ยนไหลทะลักออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง ฝ่ายผู้อำนวยการหนุ่มก็ชักลึงค์ที่มันเปียกน้ำมะลอกมะแลกออกจากรูโยนีและนอนหอบแฮ่ก ๆ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอยู่เป็นครู่ใหญ่จึงได้ทรงกายลุกขึ้นหันไปมองดูหญิงสาวซึ่งนอนแบหราหลับตาพริ้มด้วยความเสน่หาในรสสังวาสที่ได้รับอย่างถึงอกถึงใจ เขาเดินไปที่โต๊ะกลางห้องหยิบขวดเบียร์รินใส่แก้วจนล้นปรี่และยกดื่มอั๊ก ๆ รวดเดียวหมดแก้วแล้วหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบอัดควันแรง ๆ จนไฟแดงวาบ
ขณะเดียวกัน ความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียของนงคราญก็ได้บรรเทาลงบ้างแล้ว หล่อนค่อย ๆ เผยอเปลือกตาลืมขึ้น หันไปมองดูร่างของผู้อำนวยการหนุ่มซึ่งกำลังยืนดื่มเบียร์และสูบบุหรี่อยู่ที่โต๊ะกลางห้องด้วยความสนใจ ขณะนี้ ร่างของเขาก็ยังเปลือยเปล่าล่อนจ้อนหมดทั้งตัวเช่นกัน
ครั้นแล้ว ใบหน้าของหญิงสาวก็ร้อนวาบขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อเหลือบสายตาไปที่หว่างขาอันกำยำของเขา มองเห็นเจ้าท่อนลึงค์ขนาดน้อง ๆ ม้าซึ่งอ่อนเหี่ยวลงไปเมื่อครู่นี้เองกำลังพองตัวกระดุบ ๆ ขึ้นมาอีกแล้ว น้ำเมือกยังเปียกเกาะเป็นคราบอยู่ตลอดลำลึงค์อันยาวใหญ่ ภาพที่แลเห็นนั้นทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือก พวงแก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อนึกอยู่ในใจว่า อย่างไรเสียเขาก็คงจะต้องสังวาสหล่อนอีกทีแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น