วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

แม่ยายสะอื้น



สุวิทย์ ไวว่อง หนุ่มฉกรรจ์สะดุ้งไปแปดตลบเมื่อประจัญหน้ากับรำภา สาวใหญ่วัย 35 ซึ่งมีฐานะเป็นแม่ยายของเขา เขาเพิ่งแต่งงานกับระวี สาวร่างเล็กหน้าตาจุ๋มจิ๋ม โดยทั้งคู่ต่างทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง สุวิทย์เป็นบุรุษพยาบาล ระวีเป็นผู้ช่วยพยาบาล หลังจากสุวิทย์ใช้กระสุนเปลืองตั้งแต่นมแตกพานแล้ว ก็ชักจะเริ่มเบื่อ เมื่อเข้ามาร่วมงานใกล้ชิดกับระวีเข้า ความสนิทสนมก็กลายเป็นความรัก และนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลก็จัดการแต่งงานให้อย่างเงียบ ๆ เลี้ยงกันในหมู่พวกโรงพยาบาลด้วยกัน แล้วทั้งคู่ก็มาเช่าบ้านหลังกะทัดรัดสองชั้นแต่ค่อนข้างผุเก่า ราคาค่าเช่าถูกพออยู่กันได้ ในวันแต่งงาน รำภาแม่ของระวีซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่เชียงใหม่เกิดป่วยกะทันหัน ไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานลูกสาวได้
การมีครอบครัวของสุวิทย์นับเป็นความสมหวัง แต่พอถึงคราวเข้าด้ายเข้าเข็ม เขาต้องผิดหวังอย่างแรง เพราะหอกประจำตัวของเขามันเกินขนาดที่ระวีผู้มีร่างเล็กจะต้านรับไว้ได้ มันเพียงแค่จ่ออยู่ปากถ้ำเท่านั้น ถึงระวีจะหลั่งน้ำหล่อเลี้ยงออกมาช่วยให้เกิดความหล่อลื่น ก็ไม่สามารถจะทนทานต่อความใหญ่ยาวของอาวุธประจำตัวสามีได้ ผลที่สุด สุวิทย์ซึ่งชำนาญในเรื่องอย่างว่าก็สอนวิธีการต่าง ๆ ให้ระวีได้รับความเสพสมร่วมกันพอมีความสุขเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่นเมื่อระวีแสดงอาการเสียวซ่านสะท้านไปทั้งตัว เขาก็ใช้กระบวนวิทยายุทธชิวหาพาเพลิน ใช้ลิ้นเลียไล้แลบเข้าไปในถ้ำ จนระวีร้องครางเป็นเจ้าเข้า แล้วเขาก็ฝึกสอนให้ระวีใช้ปากอมดูดหอกของเขาจนเขาหลั่งน้ำกามออกมา สรุปแล้วต่างคนต่างดื่มกินของกันและกัน เพราะแพทย์เคยบอกว่าน้ำพรรค์นี้เป็นฮอร์โมนที่จะช่วยเสริมพลังให้มีความหนุ่มสาวไปตลอดกาล มันก็เป็นความสุขของผัวเมียหนุ่มสาวไปได้ ถึงจะไม่ถูกต้องตรงกับธรรมชาติที่สร้างไว้ก็ตาม สุวิทย์ก็พยายามหลายครั้งที่จะพุ่งหอกเข้ารูสวาทของเมีย เมียก็พยายามอดทนอดกลั้นจนขาถ่างแทบจะฉีก ก็สิ้นความอดทน เพราะอวัยวะเพศของหนุ่มสาวมันผิดขนาดกันมาก
บัดนี้ สุวิทย์ได้พาภรรยามารับแม่ยายซึ่งมาจากเชียงใหม่ ที่บริษัทรถทัวร์ตามกำหนดนัด พอเขาถูกเมียแนะนำให้รู้จักแม่ยาย เขาถึงเกิดอาการสะดุ้งถึงแปดตลบ
รำภาหรือแม่ยายของเขา เป็นสาวใหญ่ ม่ายมาตั้งแต่ระวีเพิ่งจะวิ่งเล่น จากนั้นรำภาก็ไม่สนใจผู้ชายคนไหนอีกเลย ทั้ง ๆ ที่มีหนุ่มแก่เศรษฐีกระยาจกยื่นใบสมัครมาให้มากมาย เธอปลงตกเพราะมีตัวอย่างบ้านข้างเรือนเคียงที่มีการหย่ากัน ทะเลาะเบาะแว้งทำร้ายกันเป็นประจำ ตอนนี้เธออายุราว 35 ปี แต่ใบหน้าที่อวบอิ่ม แก้มเป็นกระพุ้งขาวเปล่งปลั่ง ตีนกาเกาะปลายคิ้วบาง ๆ ส่วนสัดอวบอัดไปทั้งร่าง ขาวผ่องเป็นยองใย ตรงกับสเปคของสุวิทย์กระทิงหนุ่มผู้ไม่อิ่มกาม เขาแอบมองแม่ยายอย่างหื่นกระหาย
หนุ่มสาวจัดห้องนอนให้รำภาติดกันเพราะชั้นบนมีสองห้อง มีห้องน้ำอยู่ชั้นบน ชั้นล่างกว้างโล่ง มีห้องครัวห้องเดียว
คืนแรก รำภานอนไม่ค่อยหลับ อาจจะเป็นเพราะผิดที่ หรือเพราะความเป็นหนุ่มหล่อของลูกเขยทำให้สะดุดใจก็ไม่อาจจะเดาใจตัวเองได้ กระสับกระส่ายจนดึกใกล้จะเคลิ้ม ก็รู้สึกบ้านสั่นไหวเล็กน้อยและมีเสียงผู้หญิงร้องครวญครางคล้ายได้รับความเจ็บปวด รำภาเงี่ยหูฟัง จำได้ว่าเป็นเสียงของระวีก็ฉงน ขยับตัวลงจากเตียง ตั้งใจจะเรียกหรือเข้าไปเคาะประตู แต่บังเอิญเห็นแสงไฟในห้องลอดเข้ามาตามรอยฝาแตก ก็ประชิดตัวเข้าสำรวจความสงสัยภายในห้องนอน จากแสงไฟสว่างภายในห้อง รำภาถึงกับสะดุ้งสุดตัว ทั้งลูกสาวกับลูกเขยอยู่ในสภาพคล้ายทารกแรกเกิด ลูกสาวนอนขาถ่างปลายเตียง ดิ้นทุรนทุรายสีหน้าแสดงความเจ็บปวด ลูกเขยยืนอยู่ปลายเตียงกำลังยัดเยียดหอกเข้าไปหว่างขา ระวีใช้มือยันร่างสุวิทย์ไว้ เสียงพูดเบา ๆ จนสุวิทย์ถอนตัวออก แม่ม่ายสาวใหญ่ทรงบ๊ะเห็นถนัดชัดเจน หอกของลูกเขยเขื่องยาวและใหญ่มหึมา เธอถึงกับหลับตาด้วยความเสียวสยอง ใจสั่นหวิวขึ้นมาทันที มันผิดกับเถ้าแก่เว้งสามีซึ่งเป็นพ่อของระวี แต่ถึงแก่กรรมไปแล้ว สามีเธอเป็นคนร่างเล็ก อายุแก่คราวพ่อ ที่เธอยอมเป็นเมียก็เพราะเห็นแก่พ่อแม่ที่เป็นหนี้เป็นสินเถ้าแก่เว้ง เมื่อเถ้าแก่เว้งพอใจเธอ ขอเธอเป็นเมีย แล้วจะยกหนี้สินให้หมด เธอก็ตกลงใจยินยอมด้วยความกตัญญู แต่เธอไม่ได้รับความสุขจากเถ้าแก่เว้นบนเตียงเลย เพราะส่วนใหญ่พอเสี่ยเว้งเข้าทับร่างเธอ ไอ้จ้อนซึ่งแข็ง ๆ อ่อน ๆ ทิ่มแหย่เข้าปากถ้ำเธอได้พริบตาเดียว เถ้าแก่เว้งก็ทำท่าเหมือนจะหมดลมหายใจ เพราะฉะนั้นเรื่องความสุขทางเพศเธอจึงไม่ได้รับอย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกเกี่ยวกับกามารมณ์จึงคล้ายจะตายด้าน แต่บัดนี้ เพียงเห็นหอกประจำตัวของลูกเขยเข้าเท่านั้น ทำให้จิตใจรำภาว้าวุ่นขึ้นมาทันที เมื่อเธอลืมตามองเข้าไปอีกครั้ง เธอเห็นลูกสาวนอนทับร่างสุวิทย์ แต่ประหลาดที่สุด เธอไม่เคยพบเคยเห็นภาพอย่างนี้ เธอจ้องเขม็ง ทั้งคู่นอนกลับหัวกลับหางกัน ลูกสาวเธอกำลังดูดหอกยักษ์ของสามีเหมือนดูดไอติมแท่งขนาดพิเศษ ตัวระวีโก้งโค้ง ให้หว่างขาอ้าถ่างลอยอยู่ตรงหน้าสามีซึ่งนอนหงาย แลบลิ้นยาวออกมา สองมือรั้งกดตูดลูกสาวเธอขึ้นลง ให้รูสวาทคาบคีมลิ้นเขาไว้ ขย่มขึ้นลง รำภาตัวสั่นเทาในความพิสดารของลูกสาวกับลูกเขยปฏิบัติกัน มันเป็นภาพใหม่แปลกที่รำภาไม่เคยพบเห็นมาก่อน ใจสั่นหวิวเกิดความรู้สึกทางเพศขึ้นมา เธอตั้งใจดูลีลาวิตถารต่อไป คิดอย่างคนบ้านนอกบ้านนาว่า เมืองกรุงเขาก้าวหน้าถึงขั้นนี้แล้วหรือ เธอทนดูเพื่อเป็นความรู้ความอยาก ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่แอบดูอยู่นี้จะไปสิ้นสุดเมื่อใด
จนกระทั่ง กามวิตถารบรรเลงรุนแรงยิ่งขึ้น ระวีดูดไอติมแท่งยักษ์อย่างเร่าร้อน สุวิทย์ก็จับก้นเล็ก ๆ ของระวีกดขึ้นลงถี่ยิบ ครู่เดียว ทั้งคู่ก็ค่อย ๆ อ่อนกำลัง ระวีซบตัวกับท่อนขาสามี ส่วนสามีก็แลบเลียบริเวณเนินสวาทของระวีอย่างเอร็ดอร่อย รำภาทำท่าคล้ายจะขาดใจ วาบหวิวจนเดินเซมาล้มตัวนอน เริ่มคิดฟุ้งซ่าน อารมณ์เพศเริ่มตื่นตัว หายใจแรงคล้ายกับเหน็ดเหนื่อย
รำภาหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พอสาง ๆ ก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูเรียก
“แม่ หนูต้องไปเข้าเวรแต่ 7 โมง เที่ยงออกเวรแล้วจะรีบกลับนะแม่นะ”
เป็นเสียงของระวีลูกสาว เธองัวเงียตอบฮื่อฮ่าไป เสียงลูกสาวร้องบอกมาอีก
“ขาดเหลืออะไร แม่บอกพี่วิทย์เขานะ เพราะเขาเข้าเวรเที่ยง ไปละแม่”
รำภายังกลิ้งอยู่บนเตียง จนครู่ใหญ่ก็ลุกขึ้นอย่างโผเผ เพราะเมื่อคืนนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง เตรียมตัวอาบน้ำ นุ่งผ้าถุงกระโจมอก ผ้าขนหนูปิดไหล่ ก่อนออกประตู ไม่วายเลียบเคียงมาที่รอยฝาแตก มองเข้าไป สุวิทย์กำลังนอนหงายหลับสนิท แต่ผ้าขาวม้าที่นุ่งอยู่หลุดลุ่ย จนเห็นท่อนเนื้อตรงหว่างขาตกห้อย ถึงยังงั้นมันก็ยาวอ้วนพีน่าเกรงขาม รำภาถึงกับถอนใจเฮือกแล้วผละออกมาจากห้อง เดินเข้าห้องน้ำไป
เสียงน้ำในห้องน้ำดังซู่ ๆ ปลุกให้สุวิทย์ลุกจากที่นอน เข้าใจว่ายังไงเสียแม่ยายของเขาคงจะอาบน้ำอยู่ ก็เตรียมตัว ขณะเขาเดินอยู่ในห้องรอแม่ยายออกจากห้องน้ำ ฉับพลันเขาก็ได้ยินเสียงรำภาหวีดร้องลั่น เขาตกใจรีบพรวดพราดออกประตูไปที่ห้องน้ำ พอจวนจะถึง รำภาก็เปิดประตูพรวดออกมา ร่างอวบอัดขาวโพลนไม่มีผ้าผ่อนแม้แต่ชิ้นเดียว เปลือยกายโชว์ความอวบอัดตลอดทั้งร่าง สบู่เต็มตัวแม้กระทั่งที่หน้า หลับตาตัวสั่นถลาออกมา เขารีบเข้าประคองเมื่อรำภาจะล้ม เลยพาลล้มไปด้วยกันทั้งคู่ หน้าเขาทิ่มอยู่ที่นมค่อนข้างใหญ่ของรำภา มือข้างหนึ่งเสือกตะปบตรงเนินสวาทโดยไม่ตั้งใจ
“อะไรครับแม่ เกิดอะไรขึ้น”
รำภาตัวสั่นกลัว “ตุ๊กแกมันอยู่ในห้องน้ำ”
สุวิทย์นึกออก เมียเขาเคยบอกว่า แม่กลัวตุ๊กแกที่สุดในโลก ขนาดกระโดดมาเกาะเสื้อเท่านั้น แม่ฉีกเสื้อแสงขาดร้องบ้านแตกเลย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ แม่ไปอาบน้ำก่อน สบู่ยังเต็มตัวเลย”
สุวิทย์กำลังนึก ให้ช้างสารมายื้อยุดฉุดเขาไว้ หรือฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาตอนนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่ยายให้ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด มือเขายังกำเนินสวาทที่รุงรังด้วยเส้นด้ายดำ หน้าเขาเกลือกเคล้ากับพวงถัน ถึงจะคล้อยบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถนัดมือ เขาแสร้งทำเป็นหวังดี ไม่มีจิตเป็นอกุศลเคารพแม่ยายอย่างจริงจัง เขาประคองรำภาเข้ามาในห้องน้ำ รำภาค่อยคลายความหวาดกลัวเรื่องตุ๊กแก แต่ใจชักจะสั่นเมื่อคิดว่าร่างเธอเปลือยเปล่า ถึงตาเธอจะหลับเพราะสบู่เข้าตาจนแสบลืมตาไม่ขึ้นก็ตาม แต่ใจชักปั่นป่วน ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมันติดตาฝังใจอยู่จนเดี๋ยวนี้ มือลูกเขยที่โอบประคองเอง จับแขนพาเข้าห้องน้ำทำให้เธอหวาดหวั่น เมื่อรู้สึกว่าเขาพาเธอเข้าห้องน้ำแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะบอกเขา
“เอาละขอบใจ วิทย์ออกไปได้แล้ว อ้อ ช่วยดูตุ๊กแกด้วย มันไปหรือยัง”
เรื่องอะไรเขาจะออกไป โง่นะซิ หมูจะเข้าปากรอมร่อแล้ว
“มันชอบมาอาศัยอยู่ในห้องน้ำนี่เป็นประจำแม่ แม่ไม่ต้องอายผมหรอก ยังไงผมก็นับถือเหมือนแม่แท้ ๆ ของผมน่ะแหละ”
เสียงใส่กลอน รำภาตัวสั่นขึ้นมาทันที ถึงเขาจะรับรอง แต่มันก็อดสูใจ แม้แต่สามีก็ยังไม่เคยเห็นเธอเปลือยกายล่อนจ้อนอย่างนี้ แต่เพราะความกลัวตุ๊กแก รำภาจำเป็นต้องตัดใจ เมื่อคิดว่าลูกเขยเป็นคนซื่อ
เขาเอาฝักบัวรดที่หน้าเธอ เธอใช้มือลูบล้างหน้า ตาเธอก็ลืมได้ เธอผงะ เจ้าลูกเขยสัปดนไม่ได้นุ่งอะไรเลย ล่อนจ้อนเหมือนเธอ เธอไม่กล้าดูตรงส่วนสำคัญ เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“แม่อยู่เฉย ๆ ผมจะอาบน้ำให้ กับระวีผมก็เคยอาบให้เป็นประจำ”
เขาล้างสบู่ด้วยน้ำฝักบัว ทำเป็นไม่สนใจเรือนร่างอวบอัดของเธอ เสร็จแล้วเขาก็เอาสบู่ถูลำแขนสองข้าง ถูลำคอแล้วฟอกถูนมสองเต้า เขาทำเหมือนเป็นของธรรมดา รำภาตัวสั่น เขาช้อนเต้านม ละเลงสบู่ เสียงรำภาเริ่มพร่า
“แม่ถูเองก็ได้”
“โธ่แม่ คิดอะไรมาก นึกว่าผมเป็นลูกซิครับ”
รำภาจำต้องยืนเฉย พอหน้าเขาก้มละเลงสบู่บริเวณหน้าท้อง เธอรีบก้มดูส่วนเกินของเขา มันแข็งชูชันเหมือนหอกยักษ์ที่เธอแอบดูเมื่อคืนนี้ รำภาเงยหน้าหลับตาทอดอาลัย ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว สุวิทย์ละเลงสบู่ลงไป ต่ำจากท้องน้อย จนถึงบริเวณเนินสวาทซึ่งอวบนูนเป็นโคกใหญ่ อุดมด้วยขนสีดำปุกปุย พอเขาใช้ปลายนิ้วทั้งห้ากรีดเกาเบา ๆ รำภาถึงกับผวาแทบครางออกมา แต่พอเขาเอานิ้วชี้ล้วงแหย่เข้าไปทำความสะอาดจนต้องปุ่มกระสันต์ รำภาก็เสียวจนร้องซี๊ด เขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังคงล้วงเข้าไปทำความสะอาดแหวกหว่างขาให้ถ่างกว้าง ฝ่ามือซอนซอกถูสบู่อย่างจะให้หมดจดที่สุด รำภาถึงกับดิ้นเร่า ๆ เขาจับสะโพกเธอหมุนหันก้นให้เขา เขาฟอกจนทั่วบั้นท้ายที่ค่อนข้างใหญ่จนทั่ว ล้วงควักเข้าไปใต้ง่ามขา นิ้วล้วงชอนเข้าไปในถ้ำสวาทอีกที รำภาไม่รู้สึกตัวเองว่าขณะนี้ก้นใหญ่ของเธอนั้นกำลังส่ายไปส่ายมา เขาฟอกขึ้นมาจนถึงแผ่นหลัง รำภารู้สึกว่า ตรงง่ามก้นเธอกำลังสัมผัสกับท่อนเนื้อของเขา ทุกอย่างที่เขากระทำเหมือนไม่มีเจตนาหรือมีอคติ แต่จุดสวาทต่าง ๆ เขาได้กวนก่อให้มันเกิดความรู้สึก จนรู้สึกว่าความต้องการทางเพศเริ่มวิ่งเข้าสู่หัวใจม่ายสาว เขายังไล้สบู่ไปเรื่อย ๆ พอเขาเห็นอาการของแม่ยายทำท่าจะร้อนได้ที่ เขาก็พลิกตัวรำภาเข้ามาประจัญหน้า มือที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เริ่มไล้ไปตามไหล่อีกครั้ง แล้วเลื่อนลงมาจนช้อนเต้านมทั้งสอง เริ่มขยำเคล้าอย่างเต็มที่ รำภาลืมหมดทุกอย่าง ลืมว่าเขาคือลูกเขย จิตใจมีความรู้สึกอย่างเดียวขณะนี้คือมีความต้องการทางเพศ พอเขาประชิดตัว ท่อนเนื้อยักษ์ดุนดันที่ซอกหว่างขาเธอ เธอขยับเขยื้อนไม่ออก เมื่อเขาดันเข้าไปขาเธอถ่างออกเอง มือของเธอเริ่มกางเกาะไหล่เขาไว้ ตาปรือคล้ายคนกระหายสวาท เขายิ้มอยู่ในใจ นิ้วมือเริ่มชอนไชไปกระทบปุ่มกระสันต์ เขี่ยบี้เบา ๆ จนรำภาครางไม่ได้ศัพท์ ท่อนล่างส่ายด้วยความสยิว เขาโอบกระชับรั้งร่างเธอเข้ามา กระซิบข้างหู
“แม่กอดคอผมไว้ให้แน่น”
รำภาไม่สงสัย ไม่ถาม แต่เธอโอบกอดคอเขาไว้ รู้สึกว่าสองมือของสุวิทย์กำลังช้อนเข้าไปใต้หว่างขาซึ่งเธอกางถ่างให้ถนัด เขาช้อนตัวเธอขึ้น แล้วก้าวไปจนหลังรำภาชิดฝา แล้วหอกยักษ์ก็เริ่มพุ่งหัวเข้าไปในรูสังวาส ซึ่งตอนนี้มันมีน้ำเมือกไหลออกมารออยู่แล้ว หัวมันเข้าไปไม่ยากนัก เขาค่อย ๆ ดันหัวสูบเข้าไป ปากเขาประกบปากรำภา ม้วนลิ้นจนรำภาเสียวสยิว ท่อนเนื้อยักษ์เริ่มคืบคลานเข้าไปทีละน้อย แล้วเขาก็เริ่มชักเข้าชักออก พยายามดันฝ่าความแคบของรูซึ่งบีบรัดหอกเขาไว้อย่างเต็มที่ เมื่อมีน้ำเมือกออกมาช่วย เขาก็ยิ่งกดท่อนเนื้อที่แข็งแกร่งยาวใหญ่เข้าไปอีก รำภาส่ายเป็นว่าว สีหน้าคล้ายได้รับความทรมาน กอดรัดคอสุวิทย์แน่น เขาเริ่มชักเข้าออกแรงขึ้น ความใหญ่ยาวของท่อนเนื้อยักษ์เริ่มจมหายเข้าไปในรูสวาท รำภาหมดทางถอยหนี เพราะหลังติดฝาห้องแถมมือของเขาที่ช้อนก้นไว้ยังรั้งกระแทกเข้าไปอีก มันเริ่มถี่ขึ้น ๆ รำภาโอดโอยเบา ๆ
“โอย...แม่เจ็บ ค่อย ๆ หน่อย”
รำภาร้องอุทธรณ์ครวญคราง มันเหมือนยิ่งยุ เขาบุกทะลวงอย่างหนัก ซอยถี่ยิบ แถมมือยังช่วยรั้งเข้ามาอีก จนรำภาหลั่งน้ำออกมาไม่รู้กี่ครั้ง เขาก้มดูรูสวาทของแม่ยายคาบท่อนเนื้อยักษ์ของเขาเกือบมิดด้ามอยู่แล้ว และเขาก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขาเริ่มเร่งเร้าก้มหน้าซุกไซ้นมสองเต้าพร้อมกับขบย้ำ มือรำภาถึงกับรัดคอเขา ป่ายเปะปะไปตามแผ่นหลังเขา พอสุวิทย์รู้สึกว่าจะได้ที่ เขาก็ซอยถี่ยิบ สุดท้ายชักท่อนเนื้อยักษ์ออกมาครึ่งลำตัวแล้วแทงพรวดเข้าไปสุดแรงเกิดจนมิดด้ามพร้อมกับพุ่งน้ำกามเข้าไปเหมือนหัวสูบดับเพลิง รำภาผวาสุดตัวร้องวี๊ด ดิ้นกระแด่ว ๆ ในอ้อมกอดของสุวิทย์ เขายังคงซอยมันต่อไป แล้วเริ่มช้าลง ๆ จนหยุดนิ่ง สักครู่เขาก็ปล่อยรำภาเหยียบพื้นตามเดิม
“ทำไมทำแม่ยังงี้”
เสียงรำภาครวญ แบบนี้เรียกว่า “แม่ยายสะอื้น” ได้ไหม?
เป็นครั้งแรกในชีวิตเริ่มแต่รุ่นสาวย่างเข้าวัย 16 รำภาสละความบริสุทธิ์ให้แก่เถ้าแก่เว้งซึ่งวัยคราวพ่อ กามารมณ์บนเตียงของเถ้าแก่เว้งไม่ทำให้เกิดความรู้สึกอะไรเลย จนเธอให้กำเนินระวี มันจืดชืดเหมือนน้ำยาเย็น จนกระทั่งบัดนี้ รำภาได้รับความทรมานปวดแสบเข้าไส้ แต่ได้รสชาดเผ็ดร้อนหวานมันเค็มพร้อมกันทุกรส มันทำให้รำภาลืมทุกสิ่งทุกอย่างในโลก กระหายในรสกามอย่างฝังจิตฝังใจ เธอกลายเป็นเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ยอมให้ชายผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยหรือถ้าจะนับอายุแล้วก็เท่ากับน้องชายคนหนึ่งทำตามใจชอบ พอขาเธอถูกหย่อนยืนอยู่กับพื้น เธอแทบหมดแรง ปล่อยให้เขาชำระร่างกายเธอจนทั่วตลอดจนช่องสังวาส เขาก็ใช้นิ้วมือชอนไชทำความสะอาดแม้กระทั่งง่ามขาไปจนถึงก้นอย่างสะอาดหมดจด แล้วเขาก็เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ของเธอคลุมตัวเธอไว้ หันมานุ่งผ้าขาวม้ากลับมาช้อนร่างอุ้มเธอออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังห้องของเธอ
สุวิทย์วางร่างของแม่ยายลงกับฟูกที่นอนอย่างทะนุถนอม รำภาเหมือนคนสิ้นเรี่ยวแรงจนทำอะไรไม่ได้ เขาใช้ผ้าขนหนูซับตามตัว รั้งมันออกมาทั้งผืน ซับไปตามที่ต่าง ๆ เบา ๆ นุ่มนวล แม้กระทั่งปลายเท้า เป็นการปรนนิบัติที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน รำภากระดากอายจนไม่กล้าลืมตา ได้แต่รับรสสัมผัสจากมือของเขา มือทั้งสองของสุวิทย์บีบเค้นตั้งแต่ปลายเท้าเรื่อยขึ้นมาจนถึงต้นขา ถึงจะไม่เต่งตึงแน่นแข็งอย่างวัยรุ่นสาว แต่มันก็อวบขาวผ่องเกลี้ยงเกลาล้นมือเขา บีบเบา ๆ มันทำให้รำภาสยิว เขานวดตรงเนินสวาท ฝ่ามือคลึงไปบริเวณปากถ้ำ รำภาเริ่มตัวสั่นรู้สึกว่าเขาเอานิ้วเขี่ยที่ปุ่มกระสันต์ซึ่งบัดนี้มันแข็งตัวขึ้นมา เธอรู้สึกว่าบริเวณตรงนั้นยังระบมอยู่ เพราะปากถ้ำมันสนิทมาเป็นเวลาหลายปี เพิ่งจะได้ลิ้มรสสัมผัสโดยเธอไม่กล้าที่จะหลบหลีก นิ้วเขาชอนลึกเข้าไป ควานเหมือนค้นหาของที่ประสงค์ แล้วเธอก็รู้สึกตัวต่อไปอีกว่าสุวิทย์กำลังก้มไซร้จมูกบริเวณท้องน้อย ลากไปลากมาจนเธอถึงกับแอ่นตัว จมูกเขาไซร้เลื่อนขึ้นมาจนกระทบกับนมสองเต้า เขาละเลงใบหน้าลงไป ปากเริ่มขย้ำดูดหัวนมเธอ รำภาเสียวไปทั้งตัว ครางเสียงสั่นเครือ
“วิทย์...ทำไมทำแม่อย่างนี้ แม่จะขาดใจอยู่แล้ว”
ไม่มีเสียงตอบจากเขา เพราะเขาเลื่อนตัวขึ้นมาประกบริมฝีปากเธอ พุ่งลิ้นเข้าไปควานหาจนกระทบลิ้นของเธอ เขาระรัวอย่างพัลวัน รำภาถึงกับโอบไหล่เขาไว้ ตัวสั่นระริก
สุวิทย์มีความชำนาญ รู้มาก่อนว่า แม่ยายของเขาตกพุ่มม่ายมาตั้งแต่ระวียังเด็ก จากนั้นก็ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลย เมื่อเขาพบครั้งแรก มันบอกไม่ถูกว่าเขาเกิดความกระสันต์ขึ้นมาได้ยังไง เพราะทุกส่วนสัดของเรือนร่างแม่ยายในร่มผ้าอาภรณ์ปิดบัง ยังทำให้เขาซู่ซ่าเกิดอารมณ์ขึ้นมา พอได้มาเห็นร่างนั้นเปลือยเปล่าขาวโพลน เขาก็หมดความอดกลั้น ลืมฐานะว่าเป็นลูกเขยแม่ยายกัน เพราะการเสพสมกับระวีนั้น เขาไม่ได้บรรลุถึงจุดสุดยอดโดยธรรมชาติเลย เมื่อมาพบเห็นอาหารอันโอชะอย่างนี้ เขาลืมหมดทุกอย่าง ขอให้ได้ขึ้นสวรรค์เท่านั้น เป็นตายอย่างไรก็ยอม
เขาจุดไฟราคะให้แม่ยายจนลุกโชนได้ที่ นิ้วมือที่ชอนไชเข้าไปในรูสังวาสกระทบกับน้ำเมือกจนเกิดเสียงเฉาะแฉะ ก้นของรำภาลอยส่ายไปมา ขาเริ่มขยับถ่างกว้างออกพร้อมที่จะรับความทรมานจากท่อนเอ็นอันใหญ่ยาวของเขาเป็นครั้งที่สอง ซึ่งบัดนี้ มันเขม็งตัวจนเกร็งแข็งเหมือนหอกยักษ์พร้อมที่จะบุกทะลวงทิ่มแทงได้แล้ว เขาเริ่มคร่อมร่างรำภา แทรกส่วนล่างตรงหว่างขา ซึ่งเธออ้ากว้างออกไปอีก เขายังไม่ยัดเยียดหอกยักษ์เข้ารูสังวาสคล้ายจะแกล้งแม่ยายใก้กระสันต์จนถึงขนาด เขาโน้มตัวทับทาบลำตัวรำภา แต่ก้นของเขายังโด่งไว้ ก้มหน้าจูบไซร้ซอกคอ พวงแก้มอันอวบอิ่ม เปลือกตา แล้วเลียแลบที่ริมฝีปาก จนเมื่อรำภาเผลอ เขาก็พุ่งลิ้นเข้าไปกวนอารมณ์อีก สองมือระดมบีบเคล้นสองเต้านมทั้งเบาและหนักสลับกัน สุวิทย์รู้สึกทันทีว่า ขณะนี้รำภากำลังขยับก้นขึ้นจากพื้นที่นอน หว่างขาส่ายหาหอกยักษ์ของเขาอย่างหิวกระหาย เขาก็แกล้งหลีกเลี่ยงยั่วยุให้รำภาเกิดความกำหนัดอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว เธอเอามือล้วงลงมาไขว่คว้าจับท่อนเนื้อยักษ์ของเขา แล้วแอ่นก้นจนรูสังวาสอมหัวหอกของเขาเข้าไปข้างใน แค่นั้นยังไม่พอใจ สองมือเธอเหนี่ยวรั้งก้นของเขาให้กดลงไปอีก สุวิทย์เห็นใจในความต้องการของแม่ยาย ก็ไม่อยากกลั่นแกล้งทรมานต่อไปอีก  เขาเริ่มเสือกลำตัวเข้าทีละน้อย ถึงมันจะมีขนาดใหญ่ผิดมนุษย์ แต่ความหล่อลื่นที่เกิดขึ้นจากน้ำเมือกในถ้ำที่ไหลเอ่อออกมาเรื่อย ๆ ตลอดจนรูที่ขยายออกเพราะได้ถูกบุกทะลวงมาใหม่ ๆ ทำให้หอกยักษ์เคลื่อนเข้าไปไม่ลำบากนัก ประกอบกับรำภาอ้าขาถ่างเต็มที่ สุวิทย์เริ่มย้ายมือที่บีบเคล้นนมมาช้อนใต้ขาพับของรำภา ยกขึ้นแล้วโน้มไปข้างหน้าแล้วตัวเองก็ผละจากอกที่ทาบทับรำภา คุกเข่าก้มมองดูบริเวณเนินสังวาส มันบวมเป่งแทบจะปริ เพราะคาบหอกยักษ์ของเขาไว้ เขาเริ่มซอยมันเบา ๆ แต่หนักหน่วง บางทีดึงหอกยักษ์ออกมาแทบหมด แล้วเสียบแทงเข้าไปจนแทบมิด รำภาถึงกับดิ้นกระแด่ว ก้นส่ายเพราะเสียวสะท้าน จนกระทั่งเธอหลั่งน้ำเมือกออกมาไม่หยุดหย่อน สุวิทย์เปลี่ยนจากการคุกเข่ามานั่งยอง ๆ เตรียมฟาดฟันอย่างถึงอกถึงใจ เขากระแทกหอกยักษ์บุกทะลวงอย่างเต็มที่ ซอยถี่ยิบ รำภาครางไม่ได้ศัพท์ สีหน้าคล้ายเจ็บปวดเหมือนถูกทรมาน ใบหน้าบูดเบี้ยวน่าสงสาร สุวิทย์ไม่ลดความเร่งร้อน กลับซอยถี่ขึ้น พอได้จังหวะก็กระแทกหอกยักษ์เข้าไปจนมิดด้าม พร้อมกับส่ายก้นตัวเองเป็นการทะลวงรูสังวาส รำภาได้แต่ครางโอดโอย กามกรีฑาผ่านไปครู่เดียว สุวิทย์ก็เร่งสตีมหนักขึ้น โดยขยับหอกยักษ์ชักเข้าชักออกเร็วจี๋ จนกระทั่งพุ่งน้ำกามกระฉูดเข้าไปอย่างเต็มรัก รำภาถึงกับร้องด้วยความลืมตัว
“โอ๊ย...”
เธอกอดคอเขาแทบหัก ก้นส่ายไปตามอัตโนมัติ
สุวิทย์เริ่มลดกำลังลงช้า ๆ จนกดนิ่ง แช่หอกยักษ์ไว้ในรูสังวาส
แม่ยายถึงกับสะอื้นเป็นครั้งที่สองในเวลาติด ๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น