วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สงครามสวาท ตอน2


ตอนที่ 2
ในขณะเดียวกันหล่อนก็พลิกตัวลุกขึ้น ทำให้ลึงค์ของครูหนุ่มที่ฝังอยู่ในรูของหล่อนหลุดออกมา ความนึกคิดของครูชาญคิดว่า หล่อนคงจะลงจากเตียงไปอาบน้ำชำระร่างกายแล้วจะได้กลับมานอน แต่เปล่าเลย สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมามันตรงกันข้ามกับความคิดของเขาอย่างลิบลับเพราะแทนที่หล่อนจะลงจากเตียงไป หล่อนกับจ้องมองดูเจ้าหนูที่หว่างขาของเขาซึ่งขณะนี้หัวของมันตกห้อยอ่อนป้อแป้เป็นมะเขือเผาไฟเพราะเหตุที่ได้หลั่งน้ำสวาทออกไปอย่างมากมาย หล่อนหัวเราะชอบใจ
"แหม เวลาหดแล้วเหลืออันนิดเดียว ไม่น่ากลัวเหมือนอย่างเมื่อกี๊นี้เลยนะคะ" หล่อนพูดแล้วเอื้อมมือไปลูบคลำท่อนลึงค์อันเหี่ยวป้อแป้ของเขาเล่น และในชั่วครู่นั้นเองคล้ายหล่อนจะเสน่หาในองคชาติของครูหนุ่มเสียเหลือเกิน จากการลูบคลำหล่อนก็เปลี่ยนเป็นก้มหน้าลงไปจูบทั้งท่อนลึงค์เเละอัณฑะของเขาโดยปราศจากความรังเกียจแม้แต่น้อย เท่านั้นก็ยังไม่สาแก่ความรักใคร่ของหล่อน หล่อนเริ่มแสดงบทพิศวาสในแบบเดิมอีกนั่นคือจับหัวถอกยัดใส่ปากของหล่อนแล้วก็ดูดเลียอย่างเอร็ดอร่อย ครูหนุ่มเริ่มรู้สึกสะท้านเลือดฉีดพล่านไปทั่ว ความเสียวทำให้เขาต้องเอื้อมมือไปขยำเต้านมของหล่อนที่สั่นกระเพื่อมล่อตาอยู่อย่างลืมตัวซึ่งหล่อนก็ปล่อยให้เขาขยำเคล้นคลึงได้ตามความพอใจโดยไม่แสดงอาการขัดขืนเลยแม้แต่น้อย
ในบัดดลนั้นเอง เจ้าท่อนลึงค์ที่อยู่ในปากของหล่อนก็ลุกแข็งโด่อย่างเต็มที่ทำให้หล่อนต้องรีบคายท่อนลึงค์ออกจากปากโดยเร็ว ขณะที่ทั้งสองกำลังยั่วยุกิเลสให้กันและกันอย่างดุเดือด ร่าง ๆ หนึ่งก็กำลังก้ม ๆ เงย ๆ แอบดูอยู่ข้างฝาห้อง เจ้าของร่างนี้ก็คือนงนุชน้องสาวของนงคราญนั่นเอง เนื่องจากเป็นการบังเอิญอย่างยิ่งที่นงนุชได้ตื่นขึ้นในตอนดึกสงัดนี้ จากเสียงเตียงที่ลั่นเอี้ยด ๆ และเสียงกระซิบกระซาบที่ดังอยู่ในห้องข้าง ๆ ทำให้เด็กสาวอดใจไม่ได้จึงหาทางแอบดูและเมื่อได้เห็นภาพการสังวาสอันดุเดือดของครูชาญและสาวยุพิน เลือดแห่งความเป็นสาวของนงนุชก็แล่นซ่านไปทั่วทุกขุมขน
ใบหน้าของเด็กสาวร้อนผ่าวด้วยอารมณ์สวาทเมื่อมองเห็นร่างของสาวยุพินซึ่งกำลังคร่อมขี่อยู่บนร่างครูหนุ่มนั้นขยับตูดอันขาวโพลนขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างหนักหน่วงรุนแรงและฝ่ายชายก็กระเด้งก้นขึ้นร่อนรับการกระเด้าอย่างได้จังหวะจนได้ยินเสียงดังผับ ๆ เมื่อเนินหนอกของคนทั้งสองกระทบกันขณะที่ลึงค์เข้าไปในรูจนหมดมิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพดังกล่าวจะทำให้เด็กสาวเกิดความรู้สึกอย่างไร ถูกแล้ว หล่อนเกิดอารมณ์เงี่ยนง่านขึ้นมาจนสุดจะทน ที่หว่างขาอวบอัดของหล่อนมีน้ำเมือกไหลปรี่ออกมาไม่ขาดระยะ แต่ก็หามีใครช่วยหล่อนได้หล่อนต้องนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอนจนกระทั่งรุ่งเช้า จึงได้กลับกรุงเทพฯพร้อมกับมารดาและพี่สาว

หลังจากได้เผด็จสวาทนิภาผู้เป็นพี่เมียไปแล้วอย่างอิ่มหนำสำราญถึงสามเกมรวดในวันที่นงคราญได้ไปเยี่ยมญาติและค้างอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ปรีชาก็พยายามวางแผนที่จะเผด็จสวาทนงนุชผู้เป็นน้องเมียต่อไป เพราะอย่างไรเขาก็เชื่อว่า นงนุชจะต้องมีของดีที่เหนือกว่านิภาแน่นอนเพราะนงนุชเพิ่งจะมีอายุได้เพียง ๑๖-๑๗ เรียกว่ากำลังอยู่ในวัยรุ่นสาวหรือสาวขบเผาะนั่นเอง เมื่อนึกถึงคุณค่าและและความดีเด่นของผู้เป็นน้องเมียเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ปรีชาเพิ่มความทะยานอยากมากขึ้น
มีความมานะพยายามที่ไหน ช่องทางแห่งความสำเร็จก็มีอยู่ที่นั่น คติอันนี้ยังคงเป็นความจริงและใช้ได้ผลตลอดมา ในที่สุดจากความพยายามของปรีชานี้เองโอกาสก็เปิดให้เขาในคืนวันหนึ่ง
คืนนั้น นิภา นงคราญและมารดาของหล่อนได้ไปในงานวันเกิดของเพื่อนสนิทของนงคราญคนหนึ่งซึ่งได้เชื้อเชิญมาและให้เกียรติประดุจเป็นเจ้าภาพของงานคนหนึ่ง ส่วยนงนุชไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเพราะว่าเป็นเด็กและใจจริงก็ไม่อยากไป จึงอยู่โยงเฝ้าบ้านกับปรีชาผู้เป็นพี่เขยตามลำพัง
ปรีชาก็เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไปคือเบื่อที่จะกินน้ำพริกอยู่ถ้วยเดียวอย่างจำเจ เขาอยากจะลองเปลี่ยนไปกินน้ำพริกถ้วยต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และนงนุชผู้เป็นน้องเมียคนนี้ คือน้ำพริกอีกถ้วยหนึ่งที่ปรีชาหมายปองไว้เงียบ ๆ นานแล้วโดยนิภาและนงคราญเองก็หาทราบระแคะระคายไม่ ปรีชาฉลาดพอที่จะเดินแต้มคูในเรื่องนี้เมื่ออยู่ลับหลังนิภาและนงคราญ เขาแสดงความใจป้ำและโอบอ้อมอารีแก่น้องเมียผู้นี้อย่างเกินขอบเขตทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ถังแตก ต้องจำกัดจำเขี่ยอย่างที่สุด แต่เพื่อน้องเมียคนนี้ปรีชายอมรัดเข็มขัดให้เอวมันคอดกิ่วเข้าไปอีก เขาถือว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นจะต้องเสียสละ
ความเอื้อเฟื้อโอบอ้อมอารีของปรีชาในเรื่องเงินทองและอาหารการกินนอกเหนือไปจากปกติธรรมดานี้ทำให้นงนุชเองก็เพิ่มความเลื่อมใสในตัวพี่เขยของหล่อนอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นท่าทีของพี่เขยมาทำกรุ้มกริ่มเจ้าชู้กับหล่อน หล่อนก็อดจะเล่นหูเล่นตากับเขาไม่ได้เหมือนกันเพราะนงนุชก็คือเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความหื่นกระหายในรูปรส กลิ่น เสียงและการสัมผัสเช่นเดียวกับเด็กสาวทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะผัวของพี่สาวอันเป็นสิ่งหวงห้าม ก็ยิ่งเป็นสิ่งยั่วยุอารมณ์ของหล่อนให้อยากจะทดลองมากขึ้น เมื่อขิงก็รา ข่าก็แรงและต่างฝ่ายต่างก็คอยจ้องหาโอกาสอยู่แล้วทั้งสองคน ดังนั้น ในคืนวันนี้เองที่พี่สาวทั้งสองและมารดาไปงานวันเกิดของเพื่อนนงคราญที่กว่าจะกลับคงจะเป็นเวลาดึกดื่นนั้น ก็เท่ากับประตูสวรรค์ได้เปิดรับปรีชาและนงนุชนั่นเอง ประตูสวรรค์ซึ่งคนทั้งสองได้ใช้เวลารอคอยด้วยความอึดอัดกระวนกระวายใจเป็นเวลาช้านานพอ ๆ กัน
ภายหลังอาหารเย็นได้ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย พอยามพลบค่ำ ปรีชาก็ย่องกริบตรงไปยังห้องน้องเมียทันที
ขณะเดียวกันนี้ นงนุชกำลังจัดปูที่นอนของหล่อนอยู่อย่างประณีตบรรจงภายในห้อง หล่อนฮัมเพลงแทงโก้อยู่ในลำคอด้วยความเป็นสุขใจคล้ายกับหล่อนเองก็พอจะรู้ได้ว่า ในคืนนี้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับหล่อนบ้าง
และก็เป็นความจริงตามที่หล่อนได้คาดคิดไว้ทุกประการ พอเสียงเพลงแทงโก้ขาดหายไป เสียงกระแอมเบา ๆ ก็ดังขึ้นข้างหลังหล่อน หล่อนรีบหันไปดูโดยเร็ว พอมองเห็นว่าเป็นใคร หัวใจของหล่อนก็เต้นระทึกขึ้นมาทันที หล่อนฝืนยิ้มและถามเขาด้วยเสียงสั่น ๆ
"พี่ปรีชามีอะไรจะใช้หนูหรือคะ"
"เปล่าจ๊ะ นงนุช ไม่มีอะไรจะใช้หรอก อยู่คนเดียวเหงาก็อยากจะมาคุยด้วย" ปรีชาบอกและสบสายตากับน้องเมียอย่างมีความหมายพลางเดินไปทรุดกายลงนั่งที่ขอบเตียง เด็กสาวรีบถอยห่างจากเขาไปอย่างรู้เชิง ขณะนี้หัวใจหล่อนเต้นแรงจนแทบจะได้ยินออกมาภายนอก
"นุชจ๊ะ.." ปรีชาเอ่ยขึ้นอีกด้วยเสียงแผ่วถี่สั่นพร่า "วันนี้นงคราญไปงานวันเกิดเพื่อนกว่าจะกลับมาคงจะดึกมาก"
"ค่ะ พี่นงเขาบอกหนูแล้ว" หล่อนคล้อยตามคำพูดของเขา
"นุชจ๊ะ.." ปรีชาเอ่ยขึ้นอีก พลางถอนหายใจ
"มีอะไรหรือคะ"
"พี่อยากจะถามอะไรนุชสักอย่างซึ่งเป็นความลับคับอกที่ตัวพี่เองก็ตอบไม่ได้ พี่คิดว่าบางทีนุชอาจจะตอบปัญหานี้ได้"
"ปัญหาอะไรคะ" หล่อนถามด้วยใบหน้ายิ้มพราย
"คือยังงี้จ๊ะ..นุช..คือว่า..ง่า..มีผู้ชายอยู่คนหนึ่งเขาเกิดไปชอบผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ว่าผู้ชายคนนั้นเขามีเมียแล้ว เขาอยากจะสารภาพให้ผู้หญิงที่เขาชอบรู้ แต่ก็ไม่กล้าเพราะเกรงว่าผู้หญิงที่เขาชอบจะรังเกียจว่าเป็นคนมีเมียแล้ว นี่แหละเป็นปัญหาคับอกที่พี่อยากจะถามนุช อยากจะถามว่า ถ้าผู้ชายคนนั้นเขาสารภาพรักให้ผู้หญิงที่เขาชอบรู้ว่าเขามีเมียแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจะรังเกียจเขาไหม"
นงนุชนิ่งเงียบ ก้มหน้าอันแดงเรื่อลงสู่พื้น มือของหล่อนแคะเล็บไปมา หล่อนไม่ยอมตอบคำถามของพี่เขยเพราะรู้ดีว่าคำพูดในทำนองนี้ของเขา หมายถึงใครกับใคร
อาการนิ่งเฉยอย่างกระมิดกระเมี้ยนของเด็กสาวนี้เองทำให้ปรีชารีบเคลื่อนตัวลงจากเตียงเข้าไปนั่งเคียงข้างหล่อนทันที เขากระซิบกระซาบเสียงแผ่ว ๆ
"ทำไมไม่ตอบพี่ล่ะจ๊ะ..นุช ตอบซิว่าผู้หญิงเขาจะรังเกียจไหม"
"ไม่ทราบนี่คะ" เด็กสาวอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง
"อะไรไม่ทราบ..ต้องทราบซี" ปรีชาตะล่อม มือของเขาเอื้อมไปจับมือหล่อนมากุมและหล่อนก็ยอมให้เขาจับโดยไม่ขัดขืน ทรวงอกของหล่อนสะท้อนสะท้านลมหายใจรวยรินอย่างเหนื่อยอ่อน อากับกิริยาเช่นนี้ ปรีชาหรือจะโง่จนไม่รู้ว่าหล่อนกำลังมีความรู้สึกอย่างไร เขารีบกระเถิบตัวเข้าไปชิด และกระซิบกระซาบขึ้นว่า
"ถ้ารักแล้วก้ไม่รังเกียจใช่ไหมจ๊ะ..นุช"
หล่อนอึดอัด ทรวงอกทรวงอกสะท้อนสะท้านยิ่ง ถ้าเป็นเวลากลางวันก็จะมองเห็นแก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง
"ไม่รังเกียจใช่ไหม..นุช" ผู้เป็นพี่เขยเร่งเร้าพลางกระเถิบกายชิดเข้าไปยิ่งขึ้น
"ค่ะ" เด็กสาวหลุดออกมาด้วยเสียงเบา
"ชื่นใจ" ปรีชาครางด้วยความกำหนัดยินดี พลางรวบร่างเด็กสาวเข้ามาไว้ในวงแขนทันที
"อุ๊ย..อย่าค่ะ..พี่ปรีชา..อย่า" ระล่ำระลักออกมาได้เพียงเท่านั้นเสียงของนงนุชก็ต้องขาดหายไปเพราะริมฝีปากของหญิงสาวถูกประกบแน่นด้วยริมฝีปากอันร้อนผ่าวของปรีชา เขาจูบอย่างตะกรุมตะกรามดุเดือดด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อนในไฟโลกีย์ ร่างของนงนุชอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของพี่เขย ดวงตาหรี่ปรือ ลมหายใจรวยรินอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะนงนุชยังไม่เคยถูกเพศตรงข้ามสัมผัสและกอดจูบมาก่อน จะเผยอปากห้ามปรามเขาก็ไม่สามารถจะกระทำได้เพราะปากของเขาประกบปากของหล่อนไว้แน่นและบดขยี้อย่างรุนรงตลอดเวลา มิใช่เพียงเท่านี้ ความรู้สึกของนงนุชยิ่งวาบหวาบโลดแล่นกระเจิดกระเจิงมากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณเมื่อปรากฎว่าขณะนี้มืออันซุกซนของปรีชากำลังเลื่อนเลิกเข้ามาในร่มเสื้อ
"อุ๊ย..พี่ปรีชา..อย่า" เปล่าเลย เสียงร้องของนงนุชไม่มีประโยชน์พอที่จะช่วยตัวของหล่อนได้เลยเพราะบัดนี้ ยกทรงอันแน่นกระชับที่รัดเต้านมของหล่อนได้ปริขาดออกไปแล้ว มันขาดออกไปพร้อม ๆ กับมือของปรีชาตะปบลงบนเต้าอันเต่งตึงพุ่งแหลมเป็นกระเปาะและคลึงเคล้นไปมาอย่างย่ามใจทั้งเต้าขวาและเต้าซ้าย เด็กสาวมีอาการสยิวขึ้นสุดตัว ส่วนปากก็ครวญครางออกมาอย่างแทบจะไม่รู้สึกตัว
"อูย..อย่า..ค่ะ..พี่ปรีชา..อุ๊ย..ซี๊ด" ฉับพลันที่สิ้นเสียงร้องอย่างลืมตัวของนงนุช เสื้อคลุมของหล่อนก็ถูกถลกขึ้นไปโดยเร็ว พรืดเดียวก็ตลบขึ้นไปจนถึงหน้าท้อง หล่อนร้องว๊ายออกมาด้วยความอายและตกใจระคนกันรีบเอามือปิดกุมที่หว่างขาทันที แต่ปิดอยู่ได้เพียงอึดใจเดียวมือของหล่อนก็ถูกง้างออกด้วยความหื่นกระหายในกามราคะของผู้เป็นพี่เขย
เพราะเหตุที่นงนุชไม่ได้นุ่งกางเกงในเมื่อมือถูกง้างออก ของดีของหล่อนก็ปรากฎออกมาล่อตาพี่เขย ดวงตาของปรีชาลุกวาวขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นโคกโยนีอันขาวกระเปาะมีขนอุยหรอมแหรมเพราะความเป็นเด็กสาวในวัยรุ่น และยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่
ดวงตาของปรีชาเพิ่มอาการแวววาวยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจความเย้ายวนยั่วกระสันต์ของโคกโยนีอลึ่งฉึ่งที่กำลังล่อหน้าอยู่ในขณะนี้ ในที่สุดเขาก็หมดความเข้มแข็งที่จะจ้องมองต่อไป เขารีบแขม่วท้องโดยเร็ว เพียงเบา ๆ เท่านั้นกางเกงแพรที่เขาขมวดไว้หลวม ๆ ก็หลุดพรืด เขาเขี่ยมันกระเด็นไปทางปลายเท้าอย่างรวดเร็ว
ฉับพลันทันใดเหมือนคนตายอดตายอยากมาเป็นเวลานาน พี่เขยทรยศรีบเบียดร่างเข้าไปในหว่างขาขาวของน้องเมียทันที ท่อนลึงค์อันแข็งโด่หัวบานใหญ่ของเขากระดกหงึก ๆ ด้วยความกำหนัดอันแรงกล้า รีบจับขาอวบอัดทั้งสองข้างของเด็กสาวแยกออกจากกันจนแคมโยนีเผยออ้าแดงแจ๋มองเห็นติ่งเด่แพรมโผล่ออกมาอย่างยั่วตายั่วใจสุดที่ปรีชาจะทนมองต่อไปได้ รีบจับลำลึงค์จ่อปากรูอย่างตะกรุมตะกราม พอได้ระดับตรงโดยไม่ผิดพลาดก็ออกแรงทิ่มหัวกระจังพรวดเข้าไปในรูบริสุทธิ์โดยความกำหนัดอันท่วมท้น ความใหญ่ของหัวถอกเบียดแคมปริแยกออกจนเนื้อแคมที่ตึงเต่งย่นยู่ตึงเปรี๊ยะแทบจะฉีก
ความเจ็บปวดและแสบแคบของโยนีที่ไม่เคยถูกท่อนลึงค์ของเพศตรงข้ามชำแรกมาก่อนทำให้นงนุชสะดุ้งสุดตัวสูดปากร้องครวญคราง
"อูย..พี่ปรีชา..อย่าค่ะ..พี่ปรีชาทำอะไรหนูหรือคะพี่..อูยยย...ซี๊ด" ร้องพลางก็กระเถิบตัวเลื่อนหนีสูงขึ้นไป ปรีชากระเถิบทาบตามติดอย่างไม่ลดละ เขาโน้มหน้าลงไปจูบปากเด็กสาวอีกครั้งหนึ่งก่อนจะพูดว่า
"พี่รักนุชจ๊ะ..พี่จะหาความสุขให้นุช นุชทนสักครู่นะ เดี๋ยวเราก็จะมีความสุขร่วมกัน"  เขาพูดแล้วก็เริ่มโยงโย่โยงหยกตั้งท่าใหม่ จับขาเด็กสาวให้แหกกว้างออกไปอีกจนแคมโยนีอ้าผงาบอย่างเต็มที่แล้วจึงเริ่มจ่อดันลึงค์เข้าไปที่ปากช่องสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง พอได้ระดับในครั้งนี้เขาก็เริ่มดันกระเด้าให้ท่อนลึงค์ชำแรกแคมบุเยื่อกั้นชั้นนอกผ่านเข้าไปชั้นใน มือทั้งสองของเขาก็ไม่หยุดยั้งต่อการไปบีบและเคล้นคลึงเต้าอันเต่งตึงทั้งสองเต้าอยู่ไปมา ตาชำเลืองดูใบหน้าอิ่มของเด็กสาวที่ขณะนี้กำลังขมวดคิ้วย่นด้วยความแสบเสียวที่ปากแคม ทรวงอกสะท้อนสะท้านทั้งเจ็บปวดและเสียวซ่านระคนกัน ปากอิ่มยุ้ยแดงสดและเปียกชื้นกำลังเผยอเพื่อจะเปล่งเสียงครางออกมา ปรีชามองเห็นเช่นนั้นอดใจอยู่ไม่ได้ก็บดขยี้ปากลงบนปากของหล่อนอีกครั้ง ปากประกบปาก มือก็คลึงเคล้นหัวนมไปมา ส่วนก้นก็ขยับขึ้นขยับลงอยู่ไม่ขาดระยะ
เด็กสาวถูกโจมตีอย่างดุเดือดทุก ๆ จุดและทุกทางเช่นนี้ ไฟราคะก็ค่อย ๆ ร้อนระอุขึ้นมาทีละน้อย ทีละน้อย
"อูย..พี่ปรีชาขา..อย่าแรงค่ะ..หนูเจ็บ..อูยยย...ซี๊ด..เบา ๆ หน่อยค่ะ..อูย" เด็กสาวครวญครางเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์เพราะเหตุที่ปากของเขายังบดขยี้ปากนงนุชไว้แนบสนิท เมื่อเด็กสาวเผยอปากครวญครางออกมา เขาก็ถือโอกาสตอนนี้ทะลวงลิ้นเข้าไปในปากดุนดันกับลิ้นของนงนุชทำให้ร่างของเด็กสาวสะท้านเฮือกพร้อมกับแอ่นกระดองโยนีลอยขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัว มันทำให้ลึงค์ซึ่งฝังคาอยู่ในรูซอกซอนล้ำลึกเข้าไปอีกพร้อม ๆ กับเจ้าของลึงค์ก็กระแทกท่อนเอ็นไปอย่างหนักหน่วง รูซึ่งปริ่มเยิ้มไปด้วยน้ำเมือกเขมือบทั้งหัวและลำตัวเข้าไปอย่างเต็มปากเต็มคำ ความใหญ่ของท่อนลึงค์ทำให้แคมแบะปลิ้นผงาบอย่างน่าสยดสยอง และจากการกระแทกอย่างบ้าระห่ำของปรีชาในครั้งนี้เอง ทำให้เด็กสาวต้องหวีดผวาขึ้นสุดตัว
"โอ๊ย...พี่ปรีชาขา..เจ็บ..ทนไม่ไหวแล้ว" ปรีชากดลึงค์จมมิดแนบสนิทโดยไม่ยอมถอน เขารู้ดีว่าขณะนี้เยื่อพรหมจารีของเด็กสาวได้ขาดสะบั้นลงแล้วอย่างไม่มีชิ้นดี ถ้าหากจะโหมตะบึงตะบันหรือดันมันเข้าไปอีกก็จะสร้างความปวดระบมให้แก่เด็กสาวมากขึ้นเป็นทวีคูณ ด้วยเหตุนี้เขาจึงฉลาดพอที่จะกดลึงค์แช่ไว้เฉย ๆ เริ่มทำการเล้าโลมด้วยการจูบกอดและเคล้นคลำเต้านมทั้งสองของหล่อนเป็นการปลุกกระสันต์ของเด็กสาวให้โชติช่วงขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย และก็ดูเหมือนจะได้ผลสมความตั้งใจของเขา เพราะในเวลาไม่ช้าไม่นานนัก นงนุชก็เริ่มยักย้ายส่ายสะโพกและแอ่นโคกของหล่อนให้ลอยขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ไฉนเลยปรีชาจะไม่รู้เท่าทัน เขาเริ่มถอนลึงค์ออกมาอย่างเนิบนาบด้วยอาการเชื่องช้า ชักออกมายาวจนมันเกือบจะหลุดพ้นปากแคมแดงอยู่แล้วเขาก็กดมันเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้มันเข้าไปจนมิดสนิทติดอยู่เพียงแค่โคนลึงค์ นงนุชผวาร่างสั่นสยิวขึ้นมาทั้งตัว
"อูย..พี่ปรีชาขา..หนูทนไม่ไหวค่ะ..มันแสบและเสียวเหลือเกิน...อูย..ซี๊ด" เสียงของนงนุชสั่นกระเส่าพร้อมกับสูดปากออกมาดัง ๆ แอ่นสะโพกขึ้นมาอย่างลืมตัวอีกครั้ง โยนีเริ่มขมิบดูดตอดรัดกระชับลึงค์ไว้เสียจนแน่นเปรี๊ยะ ปรีชาเร่งก้นกระเด้ายิก ๆ หนักหน่วงถี่ยิบและรุนแรงยิ่งขึ้น เขาแยงลึงค์ควานไปมาจนทั่วรูสวาทของเด็กสาวจนรูโยนีร้อนผะผ่าว และพร้อมกันก็เริ่มขมิบน้ำเมือกให้ไหลกระปริบกระปรอย ปากก็ครวญครางสูดซี๊ดอยู่ตลอดเวลา
บัดนี้ ความเจ็บความแสบโยนีของนงนุชก็ได้อันตรธานหายไปสิ้นแล้ว คงมีแต่ความเสียวซ่านดวงใจในรสสังวาสอย่างสุดที่จะกล่าวได้ ปรีชาเองก็ต้องกัดฟันกรอด เขาทั้งเสียว ทั้งเงี่ยนทั้งง่านจนสุดจะทนทานได้จึงกระชากลำลึงค์ออกจากโคกโยนี พอจะพ้นจากกาบแคมอันแดงเรื่อก็ตะบันพรวดเข้าไปอย่างสุดเรี่ยวแรงจนลำลึงค์เข้ามิดสนิทติดโคนหนอก
นงนุชผวาสุดตัว หล่อนรีบตวัดแขนขึ้นไปคล้องคอเขา ขาทั้งสองก็เกี่ยวตะหวัดรัดไปรอบเอวของพี่เขยแน่น ปรีชาเพิ่มอาการซอยกระเด้าถี่ยิบยิ่งขึ้นและเพื่อให้ถึงแก่นสุดยอดแห่งความสุข เขาก็เกร็งตัวยกตูดขึ้นสูงและกระเด้าลงไปทั้ง ๆ ที่น้องเมียยังกอดเขาและขาก็ยังเกี่ยวตะหวัดรัดอยู่ เขากระแทกท่อนเอ็นรวดเร็วราวกับลูกสูบเครื่องยนต์ มิดแล้วมิดอีก
ในที่สุด อวสานแห่งการสังวาสในเกมแรกของคนทั้งสองก็มาถึง เมื่อปรีชาผงกหัวถอกให้สูงขึ้นนิดหนึ่งพลางทิ่มทะลวงเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายจนหมดมิดถึงโคน หนอกต่อหนอกประกบกันแนบสนิท น้ำเงี่ยนที่อัดแน่นอยู่ในกระบอกลึงค์มาเป็นเวลานานก็พุ่งกระฉูดเข้าไปในมดลูกของเด็กสาวราวกับลูกสูบดับเพลิง
นงนุชสั่นสะท้านไปหมดสรรพางกาย หล่อนสูดปากซี๊ดซ๊าดและครวญครางออกมาอย่างหมดอาย
"อูย..พี่ปรีชา..เสียวจังเลยค่ะ..ซี๊ด" สิ้นเสียงร้อง ร่างกายของนงนุชก็มีอาการเกร็งและสั่นกระตุก ขมิบโยนีหลั่งน้ำเงี่ยนให้แตกซ่าออกมาราดหัวถอกของเขาจนชุ่มโชกเนืองนองไปถึงที่นอน ทั้งสองต่างกอดจูบเกี่ยวกระหวัดรัดกันแนบแน่น ปล่อยให้น้ำเงี่ยนหลั่งไหลออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง
เปล่าหรอก มันมิใช่แต่เพียงครั้งเดียวแล้วเลิกลากันไปก็หาไม่ เพียงครู่ใหญ่ ๆ ที่น้ำเมือกในครั้งแรกของปรีชาได้หลั่งไหลออกไปจนหยาดสุดท้ายแล้ว เขาก็ชักลึงค์ออกจากรูของเด็กสาว พอหัวถอกหลุดพ้นปากรู น้ำเงี่ยนที่ขังอยู่ในรูก็ทะลักตามออกมาอีกมากมาย
นงนุชผงกหัวขึ้นมองดูอากัปกิริยาและความเคลื่อนไหวของพี่เขย ครั้นแล้วดวงตาทั้งสองของเด็กสาวก็ต้องเบิกกว้างอย่างตลึงพรึงเพริดเมื่อสายตาได้ประสบกับองคชาติของพี่เขยเข้าอย่างเต็มตา เป็นครั้งแรกในชีวิตของนงนุชที่ได้เห็นลึงค์ของเพศตรงข้ามในระยะประชิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้แก่เด็กสาวสักเพียงใด
ท่อนลึงค์ของปรีชาเปียกมะล่อกมะแลกไปด้วยน้ำเมือก หัวอันบานใหญ่ราวกับดอกเห็ดเป็นมันแผลบและขณะนี้มันยังลุกโด่แข็งปั๋งอย่างไม่ยอมอ่อนเหี่ยวลงไปเลย โคนลึงค์ยุบยับไปด้วยเส้นขนหมอยและกระโปกใหญ่สองใบที่แกว่งไกวอย่างน่าเกรงขาม
"อุ๊ย ตายแล้ว" นงนุชได้อุทานในลำคอด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อหล่อนได้เห็นของลับของเขาถนัดตา มันเป็นท่อนลึงค์ที่ยาวและใหญ่กว่าของครูชาญ สามีของยุพินที่หล่อนเคยเห็นเกือบเท่าหนึ่ง หัวซึ่งถอกเกลี้ยงปราศจากหนังหุ้มบานใหญ่ราวกับสาก มันกำลังผงกอยู่หงึก ๆ อย่างน่าพรั่นใจ
"นงนุช..น้องช่วยถอดกระโปรงเสียก่อนเถอะ..เดี๋ยวมันจะเปรอะเปื้อนเปล่า ๆ" เขาร้องบอกหล่อนด้วยเสียงเยือกเย็นและด้วยถ้อยคำที่สะท้านเยือกเข้าไปในหัวใจของนงนุช
เขามิใช่จะร้องบอกหล่อนให้ถอดกระโปรงออกแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ตัวเขาเองก็กำลังถอดเสื้อผ้าป่านและกางเกงลิงออกจากร่างเช่นกัน อึดใจเดียว เสื้อและกางเกงลิงก็ลงไปกองอยู่กับพื้นเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ท่อนลึงค์ของเขาก็ดูเหมือนจะเพิ่มการพองตัวแข็งโด่ยาวใหญ่ยิ่งขึ้น และมันกำลังกระดกอยู่หงึก ๆ อย่างน่าเกรงขามยิ่ง
"อ้าว..ทำไมนงนุชไม่ถอดกระโปรงออกเสียล่ะ..ถอดออกซี" เขาร้องเตือนอีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นหล่อนยังนิ่งเฉยอยู่
นงนุชได้มีอาการอิดเอื้อนด้วยความอายอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แต่แล้วจะด้วยอำนาจประหลาดอันเร้นลับอะไรก็สุดแต่ หล่อนจำต้องปฎิบัติตามคำขอร้องของเขาอย่างว่าง่าย หล่อนถอดกระโปรงออกจากร่างอย่างกระมิดกระเมี้ยน กว่ามันจะหลุดเลื่อนออกไปจากร่างกายได้ก็เสียเวลาไม่น้อย
ขณะนี้ หล่อนยังเหลือยกทรงอยู่เพียงชิ้นเดียวซึ่งยังไม่ยอมถอด และก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จัดการถอดให้ด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อน บัดนี้ ทั้งนงนุชและเขาต่างก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนปราศจากอาภรณ์ปิดบังด้วยกันทั้งสองคน เหมือนจะทนรอคอยเวลาอันทรมานจิตใจต่อไปไม่ไหว ปรีชารีบอุ้มร่างเปลือยของนงนุชมาที่ขอบเตียง ช้อนสะโพกของหล่อนวางไว้บนแง่เตียงให้หล่อนเอนกายลงนอนตามขวางของเตียงและให้ขาทั้งสองข้างยกเขย่งอยู่บนแง่เตียงพร้อมๆกับการสอดหมอนเข้าไปใต้สะโพกของหล่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นที่เรียบร้อยเขาก็จับขาของหล่อนแบะถ่างออกจากกัน
บัดนั้นเอง..สายตาของผู้เป็นพี่เขยก็แวววาวขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นโคกโยนีของน้องเมียอย่างแจ่มแจ้ง โคกโยนีอันพิลาศพิไลขาวผ่องโหนกนูนราวกับหลังเต่า ขณะนี้แคมแดงกำลังเผยออ้าออกจากกันเล็กน้อย มองเห็นติ่งเด่ภายในรู มันกำลังกระดุบกระดิบอย่างมีชีวิตชีวา เหนือโคกปกคลุมด้วยเส้นขนธรรมชาติสีดำสนิทเป็นกระจุกพองาม
ปรีชาเอื้อมมือไปลูบคลำโคกโยนีและบีบแคมโยนีเล่นด้วยความเสน่หาอยู่ชั่วครู่ก็ทนไม่ไหว จึงกระเถิบกายเข้าไปในหว่างขาหล่อน มือซ้ายเอื้อมไปแหวกกลีบโยนีให้อ้ากว้างออก ส่วยมือข้างขวาก็หันมาคว้าจับเอาลึงค์ยาวใหญ่ยัดปลายบานเข้าไปในรูโยนี
พอหน้าประธานเข้าไปซบหัวอยู่ตรงปากช่อง เขาก็ดันพรืดเข้าไปทันที ความใหญ่ของปลายบานดันกลีบโยนีให้ปริอ้าออกเม้มม้วนแคมและติ่งแตดให้ผลุบหายตามหัวถอกเข้าไปข้างใน
เด็กสาวก็เริ่มสยิวร่างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อท่อนลึงค์อันที่ยาวใหญ่ของพี่เขยกำลังเข้าไปควานหัวชอนไชซอกซอนอยู่ในง่ามของโยนี และเบื้องบนมืออันสากหนาของเขาก้กำลังเคล้นเคล้าเต้าถันและบี้หัวนมทั้งสองข้างของหล่อนอย่างรุนแรง
"อุ๊ย...พี่ปรีชา..ซี๊ด.." นงนุชได้ระงมเสียงร้องดังขึ้นมาอีกด้วยความเสียวสยอง หล่อนได้บิดกายเร่า ๆ และส่ายสะโพกร่อนขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัว
การที่ได้แสดงออกมาอย่างเป็นใจของหล่อนเช่นนี้ ทำให้ชายหนุ่มเพิ่มความเมามันและย่ามใจยิ่งขึ้น เขาเริ่มเร่งลูกสูบชักลึงค์อันยาวใหญ่เข้า ๆ ออก ๆ ให้มันเสียดสีถูไถกับแคมโยนีอย่างหนักหน่วงรุนแรงหนักขึ้นท่ามกลางเสียงสูดซี๊ดปากของหล่อน ส่วนมือก็เคล้นคลำขยำเต้านมอันตูมเต่งชูชันอย่างหนักหน่วง
"เป็นยังไงบ้างจ๊ะ..นงนุช" เขากระซิบกระซาบถามหล่อนเบา ๆ
"หนูเสียวเหลือเกินค่ะพี่...ซี๊ด" หล่อนสารภาพกับเขาตามตรงและก็สูดปากออกมาเสียงดัง
"ถ้าเสียว..พี่จะกระเด้าให้มันแรงกว่านี้อีกหน่อยนะจ๊ะ"
"ค่ะ..อูย...ซี๊ด" พอสิ้นเสียงรับคำและสูดปากของหล่อน เขาก็เริ่มซอยก้นกระเด้าถี่ยิบและหนักหน่วงยิ่งขึ้น จนมองเห็นกลีบโยนีของหล่อนปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างน่าสยดสยอง
"อูย..พี่ปรีชาขา..นงนุชทนไม่ไหวแล้วค่ะ..อูย..ซี๊ด"
"นงนุชรู้สึกเสียวมากหรือจ๊ะ"
"ค่ะ..อูย..ซี๊ด" เด็กสาวรับคำแล้วก็ได้แอ่นก้นขึ้นรับการกระเด้าของพี่เขยอย่างรวดเร็ว
"นงนุชจ๋า...ของนงนุช..มันเกือบจะออกหรือยังจ๊ะ" เขาถามนงนุชอย่างละล่ำละลัก
"ค่ะ..พี่..กำลังจะออก...ออก..อยู่แล้วค่ะ" หล่อนก็ตอบเสียงขาดกระท่อนกระแท่น รูโยนีขมิบตอดและดูดลึงค์ของเขาโดยแรง ทำให้ผู้เป็นพี่เขยรู้สึกเสียวแปลบปลาบที่ปลายเงี่ยงสุดที่จะทนต่อไปไม่ไหวแล้วจึงรีบกระชากท่อนลึงค์ออกมายาวเฟื้อยจนเกือบจะหลุดพ้นกระดองโยนีอยู่รอมร่ออยู่แล้ว เขาก็ได้กลับตะบันท่อนลึงค์เข้าไปอย่างรวดเร็ว พรวดเดียวเท่านั้นก็มิดสนิทติดอยู่เพียงแค่โคนลึงค์และลูกกระโปกใหญ่สองใบก็ฟาดกับง่ามตูดเสียงดังป้าบ
ร่างของคนทั้งสองสะดุ้งเฮือกขึ้นพร้อมกัน ต่างก็ผวาเข้ากอดกันกลมจนกระดูกกระเดี้ยวแทบจะแหลกละเอียดไปด้วยกัน และแล้ว..ในทันใดนั้นน้ำเงี่ยนซึ่งได้ขังอยู่ในกระบอกลึงค์ของผู้เป็นพี่เขยก็พุ่งกระฉูดไหลเข้าไปในมดลูกของเด็กสาวเต็มแรง
ผู้เป็นน้องเมียก็ผวาอย่างสุดตัวอีกครั้งหนึ่ง โยนีอันฟิตกระชับของหล่อนขมิบดูดลึงค์เสียงดังจ๊วบพร้อม ๆ กับหลั่งน้ำเงี่ยนให้แตกพลั่กออกมาตอบโต้กับเขาจนล้นปรี่ไหลผ่านแคมลงไปที่ง่ามตูดนองเนืองแต่คนทั้งสองก็หายอมผละออกจากกันง่าย ๆ ยังคงกอดรัดกันไว้กระชับแน่น ลำลึงค์และโยนีก็ยังฝังคาคาบเกี่ยวกันแนบสนิทอยู่เช่นนั้นด้วยความเอร็ดดร่อยและมันจนสุดจะบรรยายได้ถูก
นี่แหละ..เรื่องของท่อนลึงค์กับโยนี เรื่องของการสังวาสระหว่างมนุษย์ต่างเพศซึ่งมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ทุกซอกทุกมุมของโลก ไม่ว่าชาติไดภาษาได ไม่เคยมีใครละเว้นได้ มันเป็นอาหารประจำชีวิตที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ทุกคน ภายในโลกนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น