วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สามีที่รัก ตอนที่ 17 อรุณสวาท




        ดิฉันจุมพิตแก่นกายของเขาและกุมกำขยำเล่นเบาๆ ได้สักครู่  จึงขยับตัวมาขนาบคู่กับเขา  จ้องประสานตาเขาอย่างหวานซึ้ง   เอื้อมมือไปคว้าแท่งรักของสามีแล้วกำรูดเล่นไปมา  แต่ตามองประสานกับพ่อยอดหวานใจไม่กระพริบ
        “อ้อยรู้แล้วละคะ  ว่าจะเป็นเพราะอะไร”   ดิฉันบอก  ชำเลืองตามอง
        “หืมม  เพราะอะไร”
        “เส้นเลือดขาวอุดตัน  ต้องระบายเลือดให้ออกก่อน  แล้วจะหาย”   พี่กรถึงกลับกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ โน้มหน้ามาหอมแก้มดิฉันฟอดใหญ่  ดิฉันเองก็ปล่อยเสียงคิกคักออกมาเหมือนกัน
        “ขี้เล่นเหมือนกันนะเรา   เมื่อวินิจฉัยได้แล้ว  งั้นก็รีบรักษาเสียสิ”
        ดิฉันนอนตะแคงขนาบข้างพี่กร เลื่อนตัวลงต่ำกว่าเขานิดหน่อย กำแท่งรักของสามีรูดเล่นอย่างใจเย็น  ตาก็จ้องประสานหยาดเยิ้มให้กับยอดชู้  เขาเองก็เอื้อมมือมาจับคางบีบเย้าเล่น และเลื่อนต่ำไปเคล้าคลึงกับอกที่ยังมีชุดนอนสายเดี่ยวสีขาวลายลูกไม้   จากนั้นดิฉันก็เลื่อนตัวต่ำไปประจำการอยู่หน้าขาของเขา รูดถอดกางเกงเขาออกฉับพลัน  แท่งแก่นกายของเขาเริ่มตื่นตัวเกือบเต็มที่จนดิฉันกำแทบไม่รอบ  จ้องมองอาวุธประจำกายของสามีอยู่ครู่หนึ่งก็โน้มหน้าเข้าหา  ใช้ปลายนิ้วชี้แตะเขี่ยเล่นแผ่วเบา  ไม่รู้นึกสนุกยังไง  เอ่ยคำพูดออกไปราวกับพูดอยู่กับมันด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย ราวกับสาวแอ๊บแบ๊ว
        “ซาหวัดดีกั้บ กรน้อย  เตรียมตัวรับการรักษาจากคุณหมอได้แล้วนะกั้บ  ไม่ต้องกลัว  หมอจะเบามือที่สุด”
        พี่กรได้ยินถึงกับหัวเราะกึกกักอย่างอดไม่ได้  ทั้งๆ ที่พยายามจะให้มีเสียงเบาที่สุด  จากนั้น  ดิฉันก็ไม่ล้อเล่นอีกแล้ว  ค่อยๆ จดริมฝีปากจุมพิตตรงหัวปลายจากช้าๆ ก็เริ่มถี่และเผยอปากอ้าอม  สลับเลียไปตามลำยาว  มือก็ช่วยรูดหมุนเล่นไปพลาง  พี่กรเริ่มเสียงเครือในลำคอ อือ..อือ   ดิฉันใช้ริมฝีปากทำรักให้เขาอย่างที่เขาชอบ  พักหลังๆ เขาต้องให้ดิฉันทำบ่อยจนไม่ต้องบอก  ก็สนุกปากไปอีกแบบ  ถึงตัวเองจะไม่ได้ซาบซ่านสยิวจากการลูบสัมผัสจากเขา  แต่ก็ทำให้รู้สึกดีที่สามีชอบ  ดิฉันอมเม้มตรงหัวปลายและดูดดุน จูบเล่นอย่างเพลินปาก  แต่ดิฉันอ้าอมได้แค่ครึ่งลำเท่านั้นคะ  เพราะยังไม่ชำนาญการ และรู้สึกตัวเองจะปากเล็กหรือเปล่าไม่รู้  ถึงกระนั้นพี่กรก็ชอบ  โดยเฉพาะเมื่อถูกดิฉันตวัดลิ้นเลียตรงหัวหยักอมรูดแล้วมาเน้นเม้มที่ปลายเขาถึงกับเกร็งหน้าท้องเป็นระยะ  ดิฉันเริ่มดูดดุนรุนแรงขึ้นตามลำดับ
        “อ้อย”  เขาครางเรียกชื่อ ดิฉันก็ขานรับเบาๆ      “ขา..........”     “พอก่อน”  
        เขากวักมือให้ดิฉันขยับไปหา  ดิฉันก็โอนอ่อนตาม  ขยับไปนั่งเคียงข้างเขาก็จัดให้ดิฉันเอนเบียดกับอกเขา โน้มหน้าเข้าจูบ  ดิฉันก็เอี้ยวหน้าเล็กน้อยหันไปหาและหงายเงยรับจูบ  มือข้างหนึ่งของเขาโอบไปด้านหลังและสอดเข้ามาใต้วงแขน เอื้อมมาจับหน้าอกคลึงเล่นอยู่นอกชุดนอน   มืออีกข้างก็เอื้อมลงไปสู่หว่างขาดิฉันรั้งชายชุดนอนขึ้นแล้วก็สอดมือผ่านขอบแพนตี้ลายลูกไม้สีเดียวกับชุดนอน  ฝ่ามือหนาของเขาเริ่มแผ่อำนาจตั้งแต่เขาเริ่มซุกไซร้ซอกซอนเข้าไป  เขาลูบไปและกรีดนิ้วลงที่ซอกหลืบอย่างเชื่องช้า แต่หนักหน่วง  จนดิฉันสะท้านเฮือก  ปล่อยจูบ
        “อ่ะ  อาว์....ซี้ดดดด”   ดิฉันหลับตาพริ้มสูดปากครางเบาๆ เอนหน้าซบอยู่ซอกคอเขา
        ดิฉันไม่ยอมให้เขากระทำฝ่ายเดียว  เอื้อมมือไปกำรูดแก่นกายของเขาไปด้วย  ยิ่งเขากรีดร่องสวาทดิฉันหนักขึ้นเท่าไหร่  ดิฉันก็กำรูดหนักหน่วงตาม  ความซ่านสยิวเริ่มแผ่ไปทั่วสรรพางค์กาย  ไม่รู้ว่าตัวเองบิดส่ายตัวไปอย่างไร  รู้สึกแต่ว่าร่องรักดิฉันมันเริ่มบีบตัวสู้กับนิ้วของพี่กร   ครั้นพี่กรขีดเขี่ยไปโดนจุดติ่งไตตรงปากร่องนั้น มันก็สร้างความเสียวซ่านจนดิฉันสะดุ้งสะท้าน  เม้มปากกลั้นเสียงคราง  เราสองคนสูดปากครางแข่งกันเบาๆ
        “ออย..............พี่ขา....เสียวจังเลย”     ดิฉันครางกระเส่าแผ่วเบาอยู่ใต้ซอกคอเขา

        เมื่อพี่กรเห็นว่าดิฉันคงพร้อมแล้วก็จับรูดแพนตี้ออก  โดยดิฉันยกก้น และขยับงอขาเข้าหาตัวช่วยให้เขาถอดได้สะดวก  โดยที่เรายังแนบซบกันอยู่  เขาดันดิฉันให้ตะแคงหันหลังให้เขา  โดยที่เราแทบจะไม่ขยับอะไรกันมาก  พี่กรโอบกอดประกบด้านหลัง  พรมจูบตามซอกคอ แผ่นหลังให้ความสยิวไม่ขาดตอน
        “พี่จะใส่แล้วนะ  พร้อมหรือยัง  ที่รัก”  เขากระซิบข้างใบหู
        “ค่ะพี่   อ้อยพร้อมสำหรับพี่เสมอ”
เขาจับขาดิฉันงอคู้แล้วก็เอื้อมมือไปจับจ่อแท่งลำที่แข็งเตรียมพร้อมแล้ว  จรดจ่อปากถ้ำ เมื่อตรงตำแหน่งเขาก็แอ่นสะโพกส่งเสียบมันเข้าพรวดเดียว
        “อ่ะ...ว้ายยย...อุ้บบบบ”   ดิฉันเผลอตัวร้องออกมา แล้วรีบเอามือปิดปาก
        “เบาๆ  ซี่  เมียจ๋า”
        “อู้ยยยย..........ซี้ดดดด......พี่ก็...  เล่นเสียบแรงนี่  อุ้ยยย  อายยยยยย...ยังไม่มิดอีกเหรอ  เบาๆ ค่อยๆ ค่ะ  อูยยย...พี่ขา  มันแน่นไปหมด  ซี้ด...........”
        คราวนี้พี่กรค่อยๆ สอดเสียบเข้าไป  แขนแข็งแรงของเขาก็โอบรวบที่ขาพับทั้งสองข้างของดิฉันที่แนบกันงอคู้อยู่ให้งอเข้าหาตัวดิฉันจนนอนตะแคงตัวงอเป็นกุ้ง  ร่างกำยำใหญ่ของเขาคงจะโอบครอบจนมิดตัวดิฉันแน่ๆ  ไม่งั้นคงไม่สามารถสอดเสียบได้ถนัด  พี่กรค่อยๆ สาวสะโพกทิ่มแทงเนิบๆ  แต่ดิฉันสิคะ  เสียวซ่านจนครางเสียงสั่นกระเส่าอย่างอดไม่ได้
        “อ๊อยยส์... พี่จ๋า....”
        นี่ขนาดว่าร่วมรักกับเขามาหลายหนแล้ว  ก็ยังรู้สึกคับแน่นตรงร่องหลืบอยู่อีก  ดีขึ้นตรงที่ความเจ็บปวดไม่มีแล้ว  กลับมีแต่ความซ่านเสียวสุขหฤหรรษ์  เมื่อได้ที่พี่กรก็เริ่มทิ่มแทงแรงขึ้นๆ  จนหน้าขากระทบกับสะโพกดิฉันดังผับๆๆ     แต่ด้วยเกรงว่าจะเสียงดัง  เขาก็ค่อยๆ ผ่อนจังหวะให้ช้าและเงียบเสียงที่สุด   ดิฉันเองก็เพิ่งได้พบพานประสบการณ์ร่วมรักแบบที่ต้องแอบทำ  ถึงจะไม่ได้เร่าร้อนรุนแรง  แต่กลับสร้างความเสียวซ่านไปอีกแบบ  พี่กรปล่อยขาดิฉันแล้วใช้มือข้างนั้นลูบไล้ไปตามสีข้าง เอวคอดและเรื่อยไปถึงสะโพกที่โค้งเว้ารับกัน  แล้วไปหยุดที่ก้นกอยบีบขยำเนื้อสะโพกดิฉัน  บางทีก็ใช้ปลายนิ้วลูบแผ่วเบา  ไม่รู้ส่วนนั้นเป็นจุดกระสันหรือเปล่า  แค่เขาลูบเบาๆ มันก็ทำให้ดิฉันขนลุกไปด้วย  ไหนเขาจะสอดเสียดแท่งลำเข้าถ้ำรักดิฉันด้วย  ริมฝีปากเขาก็จูบคอ ไหล่และแผ่นหลังอยู่อีกทำให้ดิฉันเตลิดไปสุดกู่   ดิฉันแอ่นก้นเข้าหาเขาจนตัวแอ่น
        “พี่กรจ๋า  พอก่อน  อ้อยเสียวไปหมดแล้ว ที่รักจ๋า.... อูยย..”
        “อะไรกันที่รัก  พี่แค่เสียบไม่กี่ที”
        “ก็มันเสียวนี่คะ  ค่อยๆ ก็ได้  ไหนบอกว่าเรายังมีเวลาเหลือเฟือ  อูยย...พี่จ๋า  พี่ค่อยๆ เสียบแบบนี้  มันก็เสียวดีเหมือนกัน  ซี้ดดดดดดดดดด..”
        ทุกถ้อยคำของเราสองต่างต้องถนอมไม่ให้ดังจนเกินไป  ทั้งๆ ที่อยากจะกรีดร้องครวญครางให้สมกับความเสียวซ่าน  แม้แต่การสอดเสียบกระแทกกระทั้นก็ทำไม่ได้ดั่งใจ   ยิ่งเพิ่มไฟปรารถนาเป็นทวีคูณ   มือพี่กรที่สอดอยู่ใต้สีข้างด้านที่ตะแคงลงก็เอื้อมมาเคล้าคลึงกับเต้ากลมของดิฉันอยู่นอกชุดนอนที่ยังไม่ได้ถอดออกเลย  อีกข้างก็เปลี่ยนมาโอบรวบตรงเอวและใช้ฝ่ามือกดท้องน้อยดิฉันไว้  แล้วพี่กรก็สาวสะโพกกระหน่ำอย่างถี่ยิบอีกระลอกใหญ่  เล่นเอาดิฉันหน้าเหยเก
        “อ๊อยย...  พี่จ๋า  อึ้ยยยยยย.....เบาๆ  อ้อยเสียวจนจะกลั้นไม่อยู่แล้ว  ซี้ดดดด...”
        แล้วเขาก็ผ่อนจังหวะลงอีก  ทำให้ดิฉันได้หายใจหายคอ  จุดสุดยอดที่ใกล้จะถึงก็หยุดลง  ดิฉันเอี้ยวหน้าไปหาเขาและเหมือนเขาก็รู้ใจ ขยับใบหน้ามาหาและแลกจูบกันใหม่  ท่อนล่างหยุดนิ่ง  เราก็หันมาดูดดื่มกับความฉ่ำหวานด้วยรสจูบ  เพื่อชะลอความซ่านสยิว  จนฉ่ำใจแล้วเราก็ถอนจูบ
        “ปากอ้อยจูบได้หวานถูกใจพี่จังเลย  อ้อยจ๋า  รู้มั้ย  พี่จูบอ้อยได้นานก็ไม่รู้เบื่อ”
        ดิฉันยิ้มตาเยิ้มให้เขา  ไม่ตอบอะไร  ได้แต่แอ่นสะโพกส่ายบดเบียดเข้าหาเข้า  ยั่วยวนให้เขาทิ่มแทงเข้ามาอีกรอบ  แต่เขากลับถอนออกไปเสียเฉย  ดิฉันหันตัวไปหาเขาอย่างรู้สึกขัดใจ  และก็ขยับขึ้นคร่อมเขาเสียเอง  ก้มหน้าลงประชิดเขาจนเส้นผมเรี่ยลงครอบใบหน้าเขาไปด้วย   ส่วนท่อนล่างก็คาบคร่อมหน้าท้องเขาที่ตอนนี้ประสานรับด้วยการนอนหงาย  ดิฉันจ้องตาประสานเขา  แต่มือเอื้อมสอดผ่านซอกขาตัวเอง ควานคว้าดุ้นรักของเขาจับจรดที่ร่องหลืบ  แล้วจ่อปลายเขี่ยไปมาที่ปากรู  ยิ้มยั่วยวนเขาได้สักพัก  ครั้นจะกดสะโพกลง  พี่กรกลับเด้งเอวสวนขึ้นมาพรวด..  ดิฉันสะท้านเฮือกเผลอตัวร้องออกมาอีก
        “อ๊ายยย...อุ้บบบบ... อูยยย...พี่จ๋า  ใจร้อนจัง  อ้อยยังไม่ตั้งตัวเลย  ซี้ดดด......”
        “ใครใจร้อน ก็เห็นอ้อยรีบขึ้นคร่อมพี่เอง  พี่ก็ช่วยแล้วไง”  เขาตอบยิ้มๆ  อย่างรู้ทัน
        “ฮึ่ย...ไม่อยากพูดเลย   อ่ะ  อูยย....มันคับแน่นไปหมด  อ่ะ....อายยยย  มันเข้าไปสุดจนเสียวในท้องเลย  พี่จ๋า”   ดิฉันครางกระซิบกระเส่าด้วยความระมัดระวัง  ทั้งๆ ที่ความเสียวซ่านมันจุกแน่นอกแทบระเบิดจนจะกลั้นเสียงครางไม่ให้เล็ดลอกออกไม่ได้แล้ว
        “พี่ก็เหมือนกันที่รัก  อยากจะทิ่มแทงแรงๆ ให้หนำใจเลยเนี่ย  อา...ร่องอ้อยมันบีบรัดจนเสียวไปทั้งลำแล้ว   โยกไปเลยที่รัก   อา....อย่างง้านนนน....โอววววว”  
        พี่กรเริ่มครวญครางกัดเขี้ยวกัดฟันหลังจากที่ไม่ค่อยพูดจาสักเท่าไหร่  ตอนนี้เราสองคนประจันหน้ากันห่างไม่ถึงสองนิ้ว   ทำให้พูดคุยโต้ตอบกันสะดวก  เพราะแค่กระซิบกระซาบก็ได้ยินแล้ว  ดิฉันโยกสะโพกขึ้นลงๆ ช้าๆ กดร่องเบียดกับเขาจนมิดลำ  หน้าก็จ้องประสานตากับเขาไม่กระพริบ
        “เป็นไงค่ะ  พี่ขา....”
        “เสียวจ๊ะ  เอวเมียพี่ร่อนเก่งดีนะ  ไปหัดมาจากไหน”
        “บ้า...นี่แนะ  อ้อยก็ทำกับพี่คนเดียว  จะหัดจากใคร  ไม่ชอบหรือคะ”  ดิฉันหยิกเขาไปทีอย่างเหลืออด
        “ชอบสิจ๊ะ  เอวเมียร่อนเป็นลูกคลื่นแบบนี้มันทำให้ชวนเสียวมาก  อูวว...ทั้งร่อนทั้งขมิบรูอีก  ดีจ๊ะ  เมียจ๋า  เมียพี่เก่งจังเลย”
        ยิ่งได้ยินคำชมยิ่งได้ใจค่ะ  ส่งยิ้มหวานตาเยิ้มให้เขาแล้วเริ่มโหมกระแทกขึ้นลง ถึงจะเริ่มเร่าร้อนรุนแรง  แต่ก็พยายามให้เกิดเสียงกระทบกระแทกที่เบาที่สุด  พี่กรก็เด้งสอดประสานเข้าจังหวะ  ดิฉันยิ้มไม่ออกแล้ว  แต่กลับหน้าเบ้กับความเสียวสยิว เพราะพี่กรเอื้อมสองมือรวบเอวแล้วกระหน่ำสวนขึ้นจนสุดลำ รัวเร็วอย่างหนำใจเขา
        “อ๊อยย...พี่จ๋า....อ้อยเสียวรูอีกแล้ว  เหมือนใกล้จะเสร็จ  ซี้ดดดด...  อ๊ายยย...พี่จ๋า.....อุ้บบบ”
         ทั้งที่พยายามกลั้นเสียงครางแล้วเชียวแต่ก็ยังเล็ดลอดออกมาอีกจนต้องกัดฟันเอาไว้  พี่กรรีบปล่อยมือข้างหนึ่งมาปิดปากไว้   ดิฉันแทบจะคลั่งตายเลยค่ะ เพิ่งจะรู้ว่ายิ่งพยายามกลั้นความเสียวซ่าน  มันกลับโหมกระพือไฟปรารถนามากขึ้นเป็นหลายเท่า  ได้สักครู่เราก็พากันหยุด  แลกจูบกันใหม่  อา....นี่คงเป็นครั้งแรกของดิฉันที่สามารถยืนหยัดร่วมรักกับเขามาได้โดยไม่ชิงขึ้นสวรรค์ไปเสียก่อน  ตามปกติธรรมดาดิฉันอึดได้ไม่เกิน 15-20 นาทีสักครั้ง บางครั้งแค่เขาเล้าโลมครู่เดียวก็เสร็จสมไปแล้วด้วยซ้ำ  แต่นี่น่าจะถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว  ยิ่งทำให้ชอบเลยคะ  เพราะอยากอยู่กับเขาให้นานเท่าที่ใจปรารถนา  ยิ่งตอนนี้เรายังมีเวลาอีกพอควรที่จะอยู่ด้วยกัน  จึงอยากให้เวลาที่มีความสุขกับเขาได้คุ้มค่ามากที่สุด

        ดิฉันมองหน้าพี่กรตาปรือเมื่อผ่อนความเสียวสุดตัวเมื่อสักครู่ด้วยการแลกจูบ  วันนี้เราร่วมรักกันด้วยการประสานตากันบ่อย  ดิฉันอยากมองหน้าเขาอยู่อย่างนี้มันได้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ   พี่กรยันกายขยับนั่ง โดยดิฉันโอบไหล่เขาหลวมๆ  คราวนี้เรานั่งประจันหน้ากัน  พี่กรใช้สองมือจับบีบสะโพกดิฉันจัดจังหวะให้ดิฉันควบขึ้นลงเข้าหาแก่นกายเขา  ดิฉันก็โยกตามจังหวะ  โหย่งตัวให้สูงกว่าพี่กร  ก้มหน้าจูบเขาเป็นระยะ   กระซิบกระซาบฉอเลาะเพิ่มความกระสันเสียวให้แก่กันและกัน
        “พี่จ๋า  อ้อยรักพี่กรจังเลย   พี่กรทำอ้อยเสียวไปหมด  ที่รักจ๋า...อูยย...ซี้ดดด. ทั้งคับ ทั้งเสียวรูไปหมดแล้ว”
        “พี่ก็รักเมียพี่ที่สุดเลย   อา....พอมันเข้าลึกๆ  พี่เสียวปลายหัวที่สุดเลยจ๊ะ  อูยยย...อาส์”
        “อ้อยก็เสียวไปถึงในท้องเลย  พี่จ๋า....มันทิ่มไปในท้องอ้อยจนเสียวทั้งตัวแล้ว  ซี้ดดด....ที่รักขา....”
        ดิฉันครวญครางเร้าอารมณ์พี่กรไป  พร้อมกับควบโยกไปด้วย  บางครั้งก็กดสะโพกไว้แน่นแล้วก็ร่อนส่ายให้สมกับความเสียวซ่าน  พี่กรคงไม่ต่างกัน  เพราะสังเกตเห็นลำคอเขาขึงเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูด  กัดกราม  ถึงเขาจะอดกลั้นเสียงครางได้ดีกว่าดิฉัน  ได้ยินแต่เสียงหายใจฟืดฟาด  แต่ดูอาการทางกายแล้ว เขาเกร็งมากพอควร  ใบหน้าสีเข้มของเขาแดงเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   พี่กรผลักดิฉันนอนหงายลงพื้นที่นอนโดยที่การสอดเสียบยังติดแนบแน่นไม่ได้ผละออกจากกัน  เขาเริ่มสาวบั้นเอวหนักหน่วงจนดิฉันแทบกลั้นใจตาย   ครางอึกอักๆ  อย่างทรมานใจที่ไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้อย่างใจอยาก   รีบส่ายหน้าห้ามเขา  ถ้าขืนให้เขาทำต่อไปได้กรี้ดบ้านแตกแน่ๆ ค่ะ  พยายามกลั้นเสียงคราง  แต่เอวกลับร่อนรับจังหวะกระแทกของเขา
        “พี่กรจ๋า   อย่าเร่งเลย  อูยย...ซี้ดดด   อ้อยจะกลั้นไม่อยู่แล้ว...พอดีกว่าค่ะ  ซี้ดดด...”
        “แล้วไม่อยากขึ้นสวรรค์เหรอ  ที่รัก”
        “อยากสิคะ  แต่ว่า...ถ้าเป็นอย่างนั้น  อ้อยกรี้ดลั่นแน่ๆ   อูยยย...ทำไมเสียวอย่างนี้  พี่จ๋า  อยากเสร็จก็อยาก  แต่มันจะอดเสียงดังไม่ได้”
        ดิฉันบอกไปแล้วก็ลุกนั่งจูบเขาอย่างหื่นกระหาย  เหมือนการร่วมรักวันนี้มันค้างๆ คาๆ  ไม่ได้เต็มที่ดั่งใจ  ทั้งๆ ที่มันเสียวรัญจวนใจเป็นที่สุด  ถ้าหากเราอยู่ที่บ้านด้วยกัน คงได้ปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่กว่านี้แน่   จากนั้นเราก็ถอนจูบจากกัน  พี่กรมองหน้าดิฉันครู่หนึ่งเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะถอนแท่งลำออก  แยกตัวกันออก  ดิฉันยังสุดแสนเสียดายที่ครานี้ไปไม่ถึงฝั่งฝันกับสามี
        “ที่รัก  เราออกไปข้างนอกกันเถอะ”  เขากระซิบเอ่ยชวน  ดิฉันขมวดคิ้วงุนงง
        “ไปไหนคะ  นี่มันยังไม่ 6 โมงเช้าเลยนี่คะ”
        “พี่จะพาอ้อยไปสวรรค์  พี่เองก็ไม่อยากกลั้นไว้นะ ที่รัก  เชื่อใจพี่เถอะ  เราได้มีความสุขกันเต็มที่แน่ๆ”
        “จะดีหรือค่ะ”
        “พี่ว่าดีกว่าเราอยู่ห้องนี้นะ  น่านะ  เดี๋ยวพี่อกแตกตายกันพอดี  เห็นใจพี่หน่อยสิ ที่รัก”
        เหมือนยังไม่หนำใจ  พี่กรกอดคอดิฉันจูบอย่างเสียดายอาลัยไปอีก  จนดิฉันดันผลักเขาออกบอกให้ใส่เสื้อผ้าก่อน  ดิฉันสวมเสื้อยืดแขนยาวรัดรูป คอกว้าง  และนุ่งกระโปรงสั้นประมาณเข่า  หันไปดูพี่กรก็เห็นเขาจัดการแต่งตัวเรียบร้อยก่อนแล้ว  พี่กรสวมเสื้อกล้ามและทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวอีกตัวแต่ยังไม่ติดกระดุม  นุ่งกางเกงสามส่วนขาใหญ่กว้าง  พอดิฉันจัดแจงตัวเองพร้อม   พี่กรก็คว้ามือดิฉันเดินนำพาออกจากห้องอย่างเงียบๆ แต่ก็ร้อนรน  เขารีบร้อนจนต้องแบกดิฉันขึ้นเลยทีเดียวเมื่อเห็นว่าดิฉันเดินไม่ทันใจเขา  จะให้ทันได้อย่างไร ก็เขาขายาวกว่า และรีบร้อนกว่าดิฉันเสียอีก   อยากจะหัวเราะเขาก็หัวเราะไม่ออก  ได้แต่ทุบหลังเขาเบาๆ  เราไปถึงที่สวนหย่อมที่เราดูพระอาทิตย์ตกดินกันเมื่อวาน  พอถึงที่เขาก็วางดิฉันลงได้ก็แลกจูบทันที  
        “พี่กร  ตรงนี้เลยเหรอคะ”  ดิฉันยังสองจิตสองใจ  ขัดๆ เขินๆ ละล้าละลัง  เพราะไม่เคยจะเล่นแผลงๆ แบบนี้มาก่อน  แถมเวลานี้ก็ใกล้สว่างแล้ว  อากาศยังเย็นอยู่   ลมก็พัดอยู่เป็นระยะ
        “ตอนนี้ไม่มีใครตื่นมาหรอกน่า  และเราอยู่สูงเหนือบ้าน  ลมพัดแบบนี้ไม่มีใครได้ยินเราหรอก  น่าตื่นเต้นดีออก”   เขาพูดไปก็กอดฟัดจูบไซ้ไปตามซอกคออย่างหื่นกระหาย จนดิฉันจะยืนไม่อยู่
        “อุ้ย...พี่จ๋า...ใจเย็นๆ สิ  อู้ยยย...ห้ามไม่ฟังกันเลย   ซี้ดดด”

        พี่กรไม่ฟังเสียงอะไรอีก  ทั้งซุกไซ้พรมจูบซอกคอ  มือไม้ก็ล้วงเข้าผ่านชายกระโปรงและกางเกงชั้นในไปที่ซอกขาดิฉัน   ดิฉันไม่เคยโดนรุกเร้าบ้าระห่ำในลักษณะนี้มาก่อน ถึงกับดิ้นพล่าน  คงเป็นเพราะยังค้างคาจากที่ห้องนอนมาก่อนอยู่แล้ว  พอพี่กรจุดประกายความใคร่ขึ้นอีก  มันก็ประทุเป็นเพลิงสวาทลุกโชนได้ไม่ยาก
        “พี่ทนไม่ไหวแล้ว ที่รัก   เรามามีความสุขกันเถอะ”
        “พิเรนจริงๆ  เลย  พี่กรเนี่ย   อูยย....อย่าแหย่นิ้วแรงสิค่ะ  อ้อยเสียวจนจะยืนไม่ไหวแล้ว  พี่จ๋า”
        เขาขยับไปนั่งเก้าอี้ตรงข้างโต๊ะนั่งเล่น  รูดถอดกางเกงสามส่วนอย่างรีบร้อน  นี่เขาไม่สวมแม้แต่กางเกงในมาเลยเหรอเนี่ย  พอถอดออก ก็เผยแก่นกายชายชาตรีผงาดล้ำตรง  เขาดึงมือดิฉันเข้าไปหาถลกกระโปรงดิฉันได้ก็ดึงชั้นในดิฉันอย่างรีบร้อน จนดิฉันต้องขอถอดเอง  ไม่งั้นคงได้ขาดคามือเขาแน่ๆ   ตอนนี้ดิฉันชักสองจิตสองใจ  สถานที่ก็แปลกจากเดิมที่เคยพลอดรักปรนเปรอสวาทกันแต่ในห้องนอนหรือห้องน้ำที่บ้าน  แต่นี่แทบจะเรียกว่ากลางป่าเขา  ถ้าหากไม่นับว่าเป็นพื้นที่ของบ้านอยู่ด้วย  แต่เมื่อเห็นสามีร้อนรนขนาดนี้  ดิฉันเองก็ค้างคาอยู่ด้วยจึงไม่อาจจะปฏิเสธเสียแล้ว
        “ขึ้นมานั่งบนพี่เลย  ที่รัก  พี่ทนไม่ไหวแล้ว”   เขาดึงดิฉันเข้าหา รั้งกระโปรงขึ้นไปที่เอว โอบเอวสองข้างดิฉันและยกดิฉันปลิวราวกับปุยนุ่นขึ้นคาบคร่อมตัก
        “ใจเย็นๆ ค่ะ  พี่กร   อ้อยยอมตามแล้ว  ทำยังกับตายอดตายอยากเชียว   อา...ไม่ต้องเอานิ้วแหย่แล้วค่ะ  อ้อยพร้อมแล้ว  ใส่เลยนะคะ  ซี้ดดด....อาว์”   ดิฉันจรดจ่อเองแล้วทิ้งน้ำหนักลงจนแท่งลำพี่กรค่อยๆ มุดเข้าไป  พอมันเข้าจนคิดว่าสุดลำแล้ว  ดิฉันโยกเบาๆ ไม่กี่ครั้งพี่กรก็จับเอวดิฉันกระทั้นกระแทกเสียเอง
        “อูยยย..พี่กรขา...เบาๆ ก็ได้ค่ะ  อูยยย...ทำไมเสียวอย่างนี้”
        “พี่ไม่ไหวแล้ว  เมียจ๋า  เร่งเลยที่รัก”  
        เขาบอกดิฉันเร่ง  แต่เขาเองนั่นแหละค่ะ รั้งเอวดิฉันกระแทกรัวเร็ว  ดิฉันไม่เคยมาทำแบบนี้เลย  ทำให้ความเสียว  ความตื่นเต้นมันแล่นพล่านมาได้อย่างรวดเร็ว   จนดิฉันมองเห็นสวรรค์รำไรด้วยการควบโยกได้ไม่ถึง 5 นาที   และแล้วดิฉันก็ควบคุมอารมณ์ปรารถนาไม่ไหวแล้ว รั้งไหล่เขาได้ก็ออกแรงโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง  ร้องครางอย่างสมใจ
        “อ้อยจะเสร็จแล้วพี่จ๋า   อ้อยจะ....เสร็จ....แล้ว  อึ้ยยย...................”

        ดิฉันร่อนอัดสะโพกเข้าหาจนสุขสม  แล้วก็กดสะโพกแน่นอยู่กับเขา  อารมณ์ดิฉันรุนแรงจนไม่อาจกลั้นได้  มันเสียวซ่านรุนแรงจนดิฉันต้องซบที่ซอกคอเขา ซ้ำยังเม้มปากกัดคอเขาอย่างไม่รู้ตัวเพื่อกลั้นไม่ให้กรีดร้องเสียงดัง  เนื้อตัวดิฉันสั่นระริกไปหมด  กลั้นลมหายไปครู่ใหญ่ ก่อนจะทิ้งลมหายเฮือกแรง
        “อ๊าส์.........”
และแล้วดิฉันก็ยังสุขสมถึงสวรรค์ก่อนพี่กรจนได้  พี่กรยังนิ่งเงียบกอดดิฉันแน่น  พอเห็นดิฉันหายใจหายคอได้พักเดียวแค่นั้น  ก็จับสะโพกดิฉันโยกอีกระลอก  ตัวเขาเองก็เด้งสวนขึ้นเท่าที่จะทำได้ถนัด
        “พี่กร...  อ้อยยังใจหวิวๆ อยู่เลย  อ๊อยย....มันเสียวอีกแล้วที่รักจ๋า.... อูยยย  ซี้ดดดดดดดดดดด”
        พี่กรไม่พูดตอบโต้  โอบสะโพกดิฉันรั้งไว้  แล้วก็ลุกอุ้มทั้งๆ ที่ยังเสียบคาอยู่  พาไปนั่งที่เก้าอี้ก้านตาล หย่อนตัวลงนอนเอน  โอบดิฉันให้นอนทาบทับ  คราวนี้เขาคงทำได้ถนัดขึ้น  ก็สาวบั้นเอวเด้งสวนขึ้นเป็นจักรผัน ดิฉันได้แต่โย้สะโพกรอรับอย่างเดียว  ซบหน้าอยู่ที่ซอกคอเขา  ความเสียวซ่านยังไม่ได้ผ่อนหาย  มันก็เริ่มกระพือแรงขึ้นมาอีกระลอก จนดิฉันครางเสียงหลง  เผลอกัดซอกคอเขาอย่างห้ามใจไม่ไหว   ไม่รู้พี่กรได้เรี่ยวแรงมาจากไหน  ตะบันเสยขึ้นไม่หยุดหย่อนจนดิฉันสั่นสะท้านไปหมด
        “พี่จ๋า  ...อ้อยไม่ไหวแล้ว  มันจะเสร็จอีกทีแล้ว   อูยยย....”
ดิฉันได้แต่ครางกระท่อนกระแท่นสั่นระรัวเพราะโดนรัวหนัก  ตั้งแต่ร่วมรักกันมาไม่เคยเสียวซ่านรุนแรงขนาดนี้  ขนาดว่าพี่กรตะบันสุดแรงก็ไม่เจ็บปวดอย่างที่แล้วมา
        “พี่จะออกแล้ว  เมียจ๋า  พี่จะออกแล้ว”   เขาละล่ำละลัก
        “ไม่ไหวแล้ว  พี่กร  อ้อยใจจะขาดแล้ว  อึ้ยยยย....พี่จ๋ากอดเมียแน่นๆ   อ้อยจะเสร็จแล้ว   มะ....มัน...จะ..อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”  
         ดิฉันซบกรีดร้องอยู่กับอกเขา  สอดแขนกอดโน้มไหล่เขาแน่น  พี่กรเร่งความเร็วสุดแรงไม่นานก็ตามดิฉันขึ้นสวรรค์ไปติดๆ  เขาดีดร่างขึ้นอัดดิฉันจนรู้สึกภายในร่องหลืบร้อนฉ่า  น้ำรักพ่นเข้าอย่างแรงจนดิฉันกัดฟันหลับตาปี๋ กดสะโพกเบียดแน่นกับเขา  เราสองคนร่างแทบจะกลืนหายไปด้วยกัน   พี่กรหายใจหอบระรัวกอดดิฉันแน่นอย่างไม่กลัวว่าร่างดิฉันจะแหลกคาอ้อมกอด

         เราสองคนซบกันแน่นิ่งราวกับสิ้นใจครู่ใหญ่  ไม่มีใครพูดจา  รอบๆ บริเวณเงียบสงัดไปครู่  คงมีแต่เสียงลมพัดแผ่วมาเรื่อยๆ  เมื่อดิฉันคลายตัวแล้ว  ก็ขยับลุกนั่งทับเขา  ผ่อนลมหายใจยาวแต่ยังสั่นรัวอยู่เล็กน้อย  เขาแขนค้ำอกเขา  อีกข้างก็ลูบไล้ตามคางส่งยิ้มให้เขา
        “หายคิดถึงเมียหรือยังค่ะ  ที่รัก”
        “ดีขึ้นแล้วจ๊ะ   เมียพี่รักษาเก่งจังแฮะ”   เขายิ้มให้และหัวเราะเบาๆ
        “ก็....หมอ ก็มีโรคคล้ายๆ กับคนไข้นี่คะ  ต้องให้สามีกอดถึงจะหาย”
        “ไม่ใช่กอดอย่างเดียวนี่ซี้   ห่ะๆๆ”
        “ยี้....ไม่ต้องพูดเลย   เมื่อวานยังเห็นเนือยๆ เหมือนไม่มีแรง  แล้วเช้านี้ไปเอาแรงมาจากไหนคะเนี่ย  อ้อยหายใจไม่ทันเลย”
        “ก็ได้ยาดีจากอ้อยนี่ไง  ถ้าได้อยู่กับอ้อย  พี่ลืมตายเลยล่ะ  แต่พี่กลัวว่าโรคมันจะไม่หายขาด  สงสัยพี่ต้องคอยให้คุณหมอยอดรักหมั่นตรวจรักษาอยู่เรื่อยๆ  เสียแล้วล่ะ   ห่ะๆๆ”
        “จะไหวมั้ยเนี่ย  แค่นี้หมอก็จะตายอยู่แล้วค่ะ    คนบ้า...พามาเล่นพิเรนๆ อะไรแบบนี้ก็ไม่รุ”   ว่าพลางก็ขยำอกเขาเล่นเบาๆ
        “เอ๋.....ว่าพี่คนเดียวไม่ได้น๊า   ก็เห็นคนที่ว่าพิเรน กรีดร้องซะลั่น  ฮ่ะๆๆ”
        “พี่กร.........ไม่พูดด้วยแล้ว”
        ดิฉันซบหน้าลงที่อกพร้อมกำปั้นทุบเขาไปสองสามหมัด  ยิ่งคิดยิ่งน่าอายจนไม่กล้าสบตาเขาเลย  ก็ตอนนั้นไม่รู้ผีสิงหรืออย่างไรไม่ทราบ ควบคุมตัวเองไม่ได้สักที    แล้วพี่กรก็โอบเอวและพลิกให้ดิฉันอยู่เบื้องล่าง  เขาลุกผละไปคว้าชั้นในของดิฉันมาซับเช็ดความเปรอะเปื้อนให้อย่างทะนุถนอมจนสะอาดเกลี้ยง  เขานุ่งกางเกงกลับเข้าที่เดิมและยัดชั้นในที่ซับน้ำรักเข้ากระเป๋ากางเกงหน้าตาเฉย  แล้วก็ทิ้งตัวนอนข้างดิฉันที่เก้าอี้ก้านตาลตัวเดียวกัน  ดิฉันต้องพลิกตัวไปนอนทับเขา  เพราะร่างบางเล็กกว่า  พี่กรกอดดิฉันแนบอก

        สักพักพี่กรก็บุ้ยหน้าพร้อมกับชี้ไปทางตะวันออก   ช่างประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ก็ไม่รู้คะ  มันเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังโผล่มาจากขอบท้องทะเลพอดี  แสงสีทองค่อยๆ ทอแสงขึ้นมา  คลื่นทะเลที่มองเห็นลิบๆ  เป็นลอนเริ่มรับแสงอาทิตย์กลมแดง ส่องประกายระยับ  มองออกไปไกลๆ เห็นเรือประมงเล่นอยู่กลางทะเล   ดิฉันมองอย่างตื่นตาอยู่ในอ้อมอกสามี  พยายามเก็บเอาภาพสวยงามราวกับจิตรกรชั้นเอกวาดขึ้นเก็บไว้ในใจให้ได้มากที่สุด  ดิฉันก็ไม่ค่อยได้ออกเที่ยวบ่อยอยู่แล้ว  และไม่เคยได้มองความงามของธรรมชาติแบบนี้มาก่อน  ไม่รู้กินเวลาไปนานเท่าใด  ดิฉันสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดอย่างสุขใจล้น  พี่กรเองก็สูดหายใจแรงเช่นกัน
        “พี่คิดว่า  ต่อไปนี้พี่อยากจะพาคนที่พี่รักมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่าจะดีกว่า  พี่จะจดจำวันนี้ไม่มีวันลืม”
        “ถ้าหากมันจะช่วยให้พี่ลบลืมความเจ็บปวด  อ้อยก็อยากเป็นคนที่มาอยู่ร่วมดูพระอาทิตย์ด้วยกันกับพี่  อ้อยจะขอเป็นคนช่วยลบล้างความเจ็บปวดของพี่กรเองค่ะ”
        “ดวงอาทิตย์ขึ้น  เหมือนเป็นสัญญาณบอกให้เราควรจะที่ทิ้งสิ่งแล้วเลวร้ายให้หายพร้อมกับพระอาทิตย์ตกดิน  แล้วมาเริ่มชีวิตใหม่  เหมือนพระอาทิตย์ในวันใหม่  พี่ขอขอบคุณอ้อยมากๆ นะ  ที่อยู่เคียงเป็นกำลังใจให้พี่ได้เริ่มชีวิตใหม่  พี่ไม่ผิดหวังแล้วที่ได้เลือกคนที่เข้าใจพี่แบบนี้”
        “อ้อยต่างหากละคะ  ที่ต้องขอบคุณพี่กร  ที่รักอ้อยเสมอมาทั้งๆ ที่อ้อยไม่ได้รักพี่แต่แรก  แต่พี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคือคนที่ทำให้อ้อยมีความสุขที่สุด  ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันอ้อยไม่เคยได้รับความทุกข์ร้อนอะไรเลย  นับวันยิ่งรู้ว่าพี่กรเป็นคนที่มีค่าต่ออ้อยมากที่สุด  จนอ้อยไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว  ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้อ้อยเสมอมานะคะ ที่รัก”
        ดิฉันไม่รู้จะเอ่ยอธิบายอะไรอีกแล้ว  มันคิดไม่ออกทั้งๆ ที่ใจอยากพร่ำพรรณนาให้เขาได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มอบความสุขให้ดิฉันอย่างล้นเหลือ   ได้แต่อิงแก้มซบแนบกับแก้มเขานอนหลับตาพริ้มอย่างสุขหัวใจ  พี่กรก็คลึงแก้มเคล้าคลอรับและกอดไว้ราวกับรับรู้  จนถึงเวลาสมควรจึงพากันกลับเข้าบ้านไป......   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น