วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

มนุษย์ที่ไม่ธรรมดา 01



ครอบครัวของผมปลีกหนีมาจากกรุงเทพสู่ชนบทที่ไกลแสนไกล เพื่อหนีหนี้สินท่วมหัว ธนาคารยึดที่ดินยึดบ้านไปเรียบร้อย ยังดีที่มีเงินก้อนนึงมาตั้งอยู่ชั่วคราวที่นี่ได้
ผมไม่กล่าวโทษญาติโกโหติกาไดๆทั้งสิ้นที่เมินเฉยไม่ช่วยเหลือ เพราะ เราทำตัวเราเอง

พ่อแม่นั่นแหละที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย แม่รักสวยรักงาม ไม่ยอมทำงานเอาแต่เข้าสังคม ชอปปิ้งสารพัด
พ่อเองใช่ย่อย ถึงจะทำงานแต่ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ เลี้ยงเพื่อนฝูงไปทั่ว เลี้ยงอีหนูคนนั้นคนนี้ ขับรถหรูงามๆ แล้วเป็นไงล่ะทีนี้ต้องมาหลบซ่อน

ผมเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวที่รู้เรื่องราวของพ่อแม่ดี แต่มิอาจท้วงติงอะไรได้
จี้เป็นน้องสาวของผม ค่อนข้างติดหรูเหมือนแม่

เราย้ายมาหมู่บ้านแห่งนึง มิได้กันดารอย่างที่คิด คมนาคมสะดวกสบาย ไฟฟ้ามีใช้  คลื่น3จีครอบคลุม
ผมสบายๆอยู่แล้ว ชอบซะด้วยซ้ำกับธรรมชาติที่สดชื่นแบบนี้

พ่อทำงานผ่านคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเน็ต แม่ยังเหมือนเดิมไม่ทำงาน แต่ไม่สามารถไปเที่ยวไหนได้เพราะที่นี่ไม่มีแสงสี ไม่มีห้างสรรพสินค้าให้เดินชอปปิ้ง

พ่ออ้างคนที่รู้จักว่าไปดูงานที่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับแม่อ้างเพื่อนๆในสมาคมว่า ตามสามีมาอยู่ต่างประเทศ ทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าใครๆต้องรู้ว่าพ่อและแม่หนีหนี้

ผมกับจี้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ผมปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ไม่ยาก  ต่างจากจี้ที่ค่อนข้างวางตัว เธอมีเพื่อนชายมาจีบเยอะมาก แต่ชอบเชิดใส่ ต้องปรามๆว่าให้พองาม ถ้าไม่ชอบไม่พอใจให้วางตัวเฉย นี่ขนาดว่า อายุ แค่13 เท่านั้น เป็นเพราะพ่อกับแม่ตามใจน้องเกินไป

ผมปรับตัวเข้ากับใครได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง แต่มีคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเหมือนกัน มีพวกที่เขม่น ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ล้วนเกิดจากเรื่องผู้หญิงทั้งนั้น ผมพยายามปลีกหนีเรื่องผู้หญิงเพราะกลัวมีเรื่องแต่ไม่วายเข้ามาเกาะแกะ ยังดีที่มีจี้คอยกันท่า น้องสาวคนนี้ค่อนข้างหวงพี่ชายอย่างผมเป็นอย่างมากตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ถึงจี้จะหยิ่งอย่างไรก็ยังดีที่มีเพื่อนสนิท เธอชื่อเจี๊ยบเป็นลูกสาวของนายตำรวจในพื้นที่
ผมเองมีเพื่อนสนิทคนใหม่เหมือนกัน มันชื่อ อืด ค่อนข้างเฮฮา ต๊องๆ ที่บ้านค่อนข้างยากจน อยู่กับแม่ที่ชอบเล่นไพ่เป็นกิจวัตร

...อยู่ได้3เดือน มีคนเข้ามาแนะนำตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน มาทักทายทำความรู้จักบอกกล่าวถึงธรรมเนียมในหมู่บ้านของตนเองที่ดูแล ว่า ไม่ว่าจะมาอยู่ถาวรหรืออยู่ชั่วคราวต้องไปแนะนำตัวกับท่านอาจารย์สืบ ผู้ที่คนหมู่บ้านนี้ เคารพนับถือ
พ่อแม่จึงต้องไป โดยผู้ใหญ่บ้านนำพาไป

ประมาณซักพัก พ่อแม่กลับมา พูดถึงคนที่ไปพบ ว่า เป็นหมอชาวบ้าน สามารถช่วยปัดเป่า ทุกข์ภัยให้หายไปได้ อีกทั้งสะเดาะเคราะห์เสริมบารมี โชคลาภ หน้าที่การงานรุ่งเรือง ซึ่งมีลูกน้อง ลูกศิษย์ลูกหาหลายคน
“หึ ต้มตุ๋นชาวบ้านจนร่ำรวยมีบ้านใหญ่โตซีนะ”
แม่พูด พ่อบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ห่างๆเข้าไว้

..ผมมาเรียน นึกถึงคนที่พ่อแม่เคยไปพบนั่น จึงลองถามอืด ซึ่งอืดนั้นอยู่หมู่บ้านใกล้เคียง
“รู้จักสิ แถบนี้ทั้งอำเภอรู้จัก อาจารย์สืบทั้งนั้นแหละ เป็นอาจารย์มหาเวทย์”
“อะไร คือ อาจารย์มหาเวทย์?”
“โด่ ก็คนที่มีวิชาอาคม คาถา ไสยศาตร์ไง”
“บ้าน่า สมัยนี้แล้วนะ กูไม่เชื่อหรอก”
“เฮ้ยจริงๆ ที่ร่ำรวยขึ้นมาได้ เพราะ แกเป็นคนมีวิชาอาคมนี่ละเว้ย”
“ไม่มั๊ง ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายมากกว่า”
“ไม่ใช่เลย แกช่วยเหลือชาวบ้านสารพัด มึงเชื่อมั๊ย คนป่วยใกล้จะตาย หายได้ในพริบตาน่ะ”
แถมมันยังบอกว่าอาจารย์สืบคนนี้เหาะเหินเดินอากาศได้ด้วย
“เว่อร์ไปละมึง”
“ไม่เว่อร์ละ ..เรื่องจริง”
“แล้วมึงเคยเห็นเหรอ”
เจ้าอืดส่ายหน้า บอกว่าฟังเค้ามาอีกที
“ปุ๊ดโธ่ถัง..”
ผมเอ่ยออกมา

มันยังยืนยัน คนในหมู่บ้านแถบนี้นับถือกันทั้งนั้น
“เพื่อน ..แนะนำว่ะ เอายุ้ยเป็นแฟนเลย แล้วรวบหัวรวบหางจัดการซะ ทีนี้มึงจะได้เป็นเขย ได้ฝึกวิชากับอาจารย์สืบ ได้มีวิชาเหนือคน”
“...??..”
“อ้าว ยุ้ยนี่แหละ ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์สืบล่ะ”
ผมเลยร้องอ๋อ
“ไม่เห็นอยากจะมีเลยวิชงวิชาน่ะ อยู่งี้ดีอยู่แล้ว”
“มึงนี่มักน้อย มีแต่ใครๆอยากเก่ง เหนือกว่าคนอื่น นี่ถ้ากูมีวิชานะ ไม่ต้องเกรงกลัวใครแล้ว”
“มึงก็เอายุ้ยเองซะสิ”
“ยุ้ยไม่ได้ชอบกูนี่หว่า ..สเปคมึงต้องผู้หญิงแบบไหนฟะ สวยหยาดเยิ้มหยดย้อยไม่เอา หมวยๆไม่สน อย่างยุ้ยก็ใช่เล่น อึ๋ม อวบอิ่ม ยิ่งตอนใส่กางเกงสั้นๆนะ ดูน่าเย็ดไม่น้อยเลยนะเมิง”
เจ้าอืดสาธยายน่าดู จะบอกว่าตายด้านไม่ใช่แน่นอน ผมมีอารมณ์ความต้องการ มีอารมณ์อยากเงี่ยน แต่ยังไม่อยากคิดเรื่องนี้

ยุ้ย เป็นรุ่นน้อง1ปี เธอเรียน ม.3 เคยเอาจดหมายฝากเพื่อนมาให้ผมอ่าน สารภาพรักแรกอย่างหมดจด
ผมนิ่งเฉย นับจากนั้นมีดอกไม้ อยู่ใต้โต๊ะเรียน หรือ กระเป๋าหนังสือเสมอ พร้อมโน๊ตข้อความลงชื่อเอาไว้ ตอนนี้ยังเป็นแบบนั้น ผมไม่ต่อต้านอะไร ด้วยยุ้ยไม่ได้มายุ่งอะไรที่นอกเหนือจากนั้น

ตอนกลับบ้านผมลองผ่านไปยังบ้านอาจารย์สืบ ใหญ่โตต่างจากบ้านของชาวบ้าน มองแค่ข้ามรั้ว เห็นคนภายในหลายคน มีลูกน้องอย่างที่พ่อกับแม่ว่าจริง นึกแล้วอย่ายุ่งเลยดีกว่า
“มีธุระอะไรไอ้หนูมาด้อมๆมอง”
เสียงดังอยู่ข้างหลัง สะดุ้งเลย ท่าทีเจ้านี่เป็นลูกน้องของคนบ้านนี้แน่ พอดี ยุ้ยขี่จักรยานยนต์ จะเข้าบ้าน
“พี่ต้า”
“อ้าว เพื่อนคุณยุ้ยเองเหรอครับ”
มันดูนอบน้อมมาก หลบมุมไม่ยุ่งกับผมเข้าบ้านไป ผมกำลังจะสตาร์ทรถ
 “มาหาพ่อเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ไม่มีอะไร ผ่านมาเลย มองเฉยๆ งั้นไปละ”
ผมขี่รถออกไปทันที ได้ยินยุ้ยเรียก3-4ครั้งแต่ไม่ได้สนใจ

ช่วงเย็นเรารวมตัวกัน
“ไม่น่าเชื่อว่าชาวบ้านจะงมงายขนาดนี้” พ่อกล่าว
“อะไรเหรอคะ”
“จะอะไรอีกล่ะ ก็อาจารย์สืบนั่นไง เห็นมีแต่ใครพากันไปหา หลอกต้มจากชาวบ้านจนมันรวยขนาดนี้แล้วยังไม่มีใครรู้ตัวกันอีก”
พ่อกล่าว
“นั่นน่ะสิ จะว่าโง่ก็โง่นะ เชื่อไปได้ไง งมงาย  สมัยนี้เขาจัดฉาก วางแผน กลวิธีกันได้แนบเนียนนัก ข่าวออกกันมาเรื่อยๆเห็นทนโท่” แม่เสริมบ้าง ผมเองก็คิดแบบนั้น แต่พ่อกับแม่พูดเกินไป ว่าชาวบ้านโง่เนี่ย
“นี่บ้านนอกนี่ฮะ ขนาดในกรุงเทพ ยังเชื่อทำนายหมอดงหมอดูเลย ไม่แปลกว่าที่นี่จะมีความเชื่อแบบนี้ มันเป็นความเชื่อบุคคลนี่ฮะ”
“เราอย่าไปยุ่งเลย”พ่อกล่าว
“แต่บางทีแม่ก็อยากลองไปพิสูจน์ดูบ้างนะ เอาอะไรดีละ เสริมบารมี ให้ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา อะไรแบบนี้ดีมะ” แม่กล่าว
ความจริงผมเห็นด้วยกับพ่อว่าอย่าไปยุ่งเลยกับคนแบบนี้

..อีกวันมาโรงเรียน ยุ้ยเข้ามาหาถามว่ามีปัญหาอะไรทุกข์ใจหรือเปล่าจะบอกพ่อให้ช่วย ผมยืนยันว่าเมื่อวานแค่ผ่านไปจริงๆ
“ถ้ามีอะไร ให้ยุ้ยช่วยได้นะพี่ ยุ้ยเป็นห่วง”
ผมยิ้มให้
“เราไม่เชื่อหรอกนะ ขจัดทุกข์ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมดวง บารมี ด้วยการทำพิธีกรรมอะไรเนี่ย”
ผมพูดออกมาตรงๆจากสิ่งที่คิด ผละเดินออกมาแต่ถูกดึงเอาไว้
“พี่ต้าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรหรอก แค่ให้รู้ว่ายุ้ยหวังดีนะ”
“อืม ขอบคุณ ปล่อยพี่ จะเข้าห้องเรียนละ”
ยุ้ยยังไม่ปล่อยเหมือนยังอยากจะคุยด้วยอีก ผมจึงออกแรงกระชากแขนให้หลุดพ้นออกมา กลับกลายเป็นว่ายุ้ยถลำเข้ามาสู่อ้อมกอดอย่างแนบแน่น เป็นการกอดผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่แม่กับน้องสาว จนเพื่อนเธอมาเห็นแซว เธอค่อยๆผละออก ดูเขินมาก ส่วนผมก็ผละออกมาเลย พอหันมองไปไกลๆ  เห็นยุ้ย อมยิ้มตลอด
.......... .......... ..........
 “กรี๊ดดดดดดดด”
เสียงดังทั่วบ้าน กำลังนอนอ่านหนังสือต้องรีบลุกออกมาทันที
“เป็นอะไรไปคุณ”
พ่อถาม เป็นแม่นั่นเองที่นั่งกรี๊ดออกมาท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก
“ชั้น..ชั้นถูกหวยน่ะคุณ 3ตัวบน ได้ตั้ง 2แสนแน่ะ”
พอพ่อได้ยินชวนดีใจตามไปด้วย ถ้าเป็นแต่ก่อนเงินจำนวนนี้ดูน้อยนิดมาก แต่เวลานี้ช่างมากมายยิ่งนัก แม่เล่นหวยใต้ดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่
.......... .......... .........
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด..”
แม่กรี๊ดอีกแล้ว รู้ได้เลยว่าถูกหวย นี่เป็นครั้งที่4แล้วที่แม่ถูกหวย ไม่คิดว่าแม่โชคดีอย่างนี้ มีเพื่อนบ้านถามว่าไปได้เลขเด็ดที่ไหนมา แม่ก็ไม่ตอบ

วันต่อมาช่วงประมาณ2ทุ่มกว่าๆ ผมไปบ้านเพื่อน พอกลับบ้านผ่านมายังบ้านอาจารย์สืบ พบว่าแม่ขับรถออกมาจากบ้านหลังใหญ่นั้นพร้อมชาวบ้านอีกหลายคน
พอถึงบ้านผมถามแม่
“แม่ไปนั่งสมาธิที่บ้านอาจารย์สืบมาน่ะ”
นี่แม่เรียกอาจารย์สืบเหรอ ไปนับถือเขาตั้งแต่เมื่อไร ไหนว่างมงาย ไร้สาระ ต้มตุ๋น

แม่เล่ารายละเอียดว่า ครั้งแรกเพื่อนบ้านพาไปนั่งสมาธิ แม่อยากไปดู พิสูจน์ จับผิด   วันนั้นมีคนไข้คนนึงมาหาอาจารย์สืบช่วยรักษาหายได้ทันที และเห็นอีกคน ประสบอุบัติเหตุมา แผลเหวอะหวะ สามารถทำให้หายดีได้ในพริบตา
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละแม่เห็นมากับตา แล้วที่แม่ถูกหวยเนี่ย แม่ไปทำพิธีเสริมดวงเรียกทรัพย์มาน่ะ”
แม่บอกว่าไปทำมา4ครั้ง ได้โชคลาภถูกหวยมาตั้ง4ครั้ง
“งวดนี้แม่จะไปทำอีก จะได้ถูกหวยอีก อาจารย์สืบใจดีนะ รับทำให้แม่ด้วย น้อยรายที่ท่านจะทำให้”
ผมได้ฟัง บอกไม่ถูกว่าจะเชื่อดีไหม เพราะคนอย่างแม่  ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เด็ดขาด กลับเชื่อได้อย่างสนิทใจ แถมดูนับถืออาจารย์สืบนั่นเหลือเกิน
“ทำไมไม่พาพ่อไปทำพิธีด้วยละฮะ จะได้โชคดีอีกคน”
“เคยบอกแล้วแต่พ่อไม่เชื่อ หาว่างมงายเหมือนชาวบ้าน ที่ถูกหวยก็หาว่าฟลุ๊ค เนี่ยพนันกับพ่อเอาไว้ถ้างวดนี้ถูกอีก ต้องไปนั่งสมาธิ ลูกเองก็ควรไปด้วย”

..จากที่แม่ประสบพบมาทำให้ผมอยากรู้ อยากเห็นขึ้นมา จะไม่เชื่อก็ไม่เชิง เพราะใครๆพูดกัน นึกถึงยุ้ยขึ้นมาได้ คุยกับยุ้ยน่าจะได้รู้เรื่องมากที่สุด
ผมเดินมาหายุ้ยเมื่อพักกลางวัน
“ยุ้ย”
พอผมเรียกเธอหันมา ผมบอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย ยุ้ยยิ้มออกมา ตกลงทันที

เรานั่งหินอ่อน  ขอโทษเธอที่พูดรุนแรงในครั้งนั้น หาว่าไม่เชื่อเรื่องของพ่อเธอ เธอยิ้มไม่ได้โกรธ หรือคิดอะไรเลย

ผมถามเรื่องราวต่างๆจากยุ้ย
..ที่บ้านของเธอไม่ได้เปิดสำนักอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ใครมาขอความช่วยเหลือก็จะช่วย
“แล้วอย่างที่ใครๆที่มีโชค มีเงินได้จากการเสี่ยงโชคอย่างการเล่นหวยล่ะ”
ยุ้ยบอกว่าพ่อไม่เคยใบ้หวย แต่จะทำพิธีเสริมบารมี โชคลาภ ให้เป็นรายๆ ตามความเหมาะสม

นึกถึงที่เจ้าอืดพูดเรื่องที่พ่อของยุ้ยเหาะเหินเดินอากาศได้
“ทำได้จริง แต่พ่อไม่โชว์ให้ใครดูหรอก”
ผมเข้าใจของแบบนี้เอาไว้ใช้จริงไม่ได้เอามาโชว์ แต่ว่าเว่อร์จัง

 คุยกับยุ้ยอยู่นานจนออดดัง ก่อนจะแยกย้ายเข้าเรียน ยุ้ยถอดสร้อยที่มีจี้จากคอยื่นให้
“พ่อให้ยุ้ยไว้ คุ้มภัยอันตรายจากคุณไสยได้ ยุ้ยให้พี่ต้า”
ผมปฏิเสธ ของสำคัญแบบนี้ให้ได้อย่างไร ยุ้ยยัดใส่มือ บอกว่า อยากให้คืออยากให้ ที่ผ่านมาให้แต่ดอกกุหลาบ อยากให้ของที่สำคัญติดตัวเป็นที่ระลึกแทนใจบ้าง

ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะ..เอาเหอะ รับเอาไว้ จากนั้นเธอแบมือ
“พี่ต้าไม่ให้อะไรยุ้ยบ้างเหรอ”
นั่นไง ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนจนได้ ไม่รู้จะให้อะไร เธอชี้มายังห่วงยางข้อมือ ผมจึงถอดให้  พอรับเธอยิ้มแป้น โบกมือลา
.. จะว่าไปดูใสๆน่ารักดีไม่น้อย..

...ผมหยิบจี้สร้อยจากกระเป๋าเรียน จี้อะไรไม่รู้แปลกๆ ของแค่นี้จะมาคุ้มภัยอะไรได้ เเค่จี้สร้อยใส่ให้ดูน่ารักธรรมดาๆ ผมคล้องใส่ จากนั้นล้วงสมุดทำการบ้าน เมื่อทำเสร็จเข้านอน

....ทำไมผมยังไม่หลับ ทั้งที่หลับไปแล้วนอนอยู่นั่น อ้าว แล้วนี่ผมเป็นใครอีกคนล่องลอยได้ด้วยอย่างกับวิญญาณออกจากร่าง
ฝัน ..นี่คือความฝันนี่เอง ผมคนนี้ที่ล่องลอยอยู่ใส่ชุดนอนเหมือนกับคนนอนหลับนั่นทุกอย่าง มือทะลุผนังห้องได้ด้วย

ผมทะลุมายังห้องน้องจี้ เธอยังไม่หลับ เล่นมือถืออยู่ เข้าไปดูใกล้ๆดิ๊ ..อ่ะ เล่นไลน์ คุยกับเพื่อน สนทนากันว่าไงบ้างเนี่ย
เจี๊ยบ: นี่ๆ พี่นนท์รูปหล่อเอาไลน์จี้ไปแน่ะเมื่อครู่เอง
จี้:เอ๋า แล้วหั้ยปัยทัมมัยล่ะ
เจี๊ยบ:ก็พี่เขาตื้อจนรำคาญอะ เลยให้ๆไป ขอโทษน่ะตะเอง
จี้:ไม่เป็นไร
ซักครู่ มีไลน์ใหม่เข้ามา แนะนำตัวว่าชื่อ นนท์
จี้:มั่ยต้องมายุ่งกะจี้เลยนะ ไปกัยๆ(อีโมทำหน้าเชิดใส่)
นนท์:ทำไมตัดรอนพี่อย่างนั้น พี่ยังไม่ทำอารายให้ซ๊ากกาหน่อย
ทั้งสองสนทนากันซักพักเจ้านนท์ไม่มีท่าจะหยุด จี้จึงหยุดสนทนาด้วย
“ชิ ไม่มีใครสู้พี่ต้าได้ซักคนหรอก”
จี้วางมือถือหยิบกรอบรูปที่มีผมกับจี้ถ่ายคู่กัน
“จี้รักพี่ต้านะคะ อืม.. จุ๊บๆๆๆ”
เธอพูดกับภาพถ่าย จุ๊บใส่รัวเลย จากนั้นเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิด จี้ล้วงเข้าไปในกางเกง ยุกยิกที่เป้า กายพริ้วส่ายไปมา สีหน้าแดงซ่าน
“พี่ต้าข๋า อาาา..พี่ต้า”
จี้กำลังช่วยตนเองเหรอเนี่ย ฝันประหลาดแท้ น้องสาวจะมาคิดอะไรแบบนี้กับพี่ชายได้ อะ ฝันนี่นะ ถึงจะเป็นน้องสาวก็เถอะผมมีอารมณ์เหมือนกัน

มองไปยังที่มือยุกยิก ผมแนบลงไปใกล้ เสียงแจ๊ะๆๆๆ เบาๆ นั่นทำจินตนาการว่า จี้กำลังเอานิ้วเกี่ยวเบ็ดตนเอง มืออีกข้างนึงคลึงนมแล้ว คราง พี่ต้าๆๆๆ ตลอด แปลกจังทำไมน้องสาวผมเวลานี้ท่าทีแบบนี้น่ารักน่ามองเหลือเกิน ..คิดกับน้องสาวแบบนี้ไม่เป็นไรมั๊ง เเค่ฝัน

ผมกำลังดูอย่างเพลิน งัดควยขึ้นมาสาวกำบีบตาม เสียงดังจากมือถือ ทำให้จี้หยุดอารมณ์ มือที่กุมนมหยิบมือถือ มืออีกข้างยังล้วงอยู่ที่เป้า เป็นเจี๊ยบที่ไลน์มาหาถามเรื่องเจ้านนท์นั่น จี้สนทนาไป คลำหีไป ผมเริ่มฟุ้งซ่านสุดๆ จึงล่องลอยทะลุออกจากห้องจี้
“อุ้ย”
พอทะลุมาอีกห้องนึง ตกใจไปใหญ่ นี่เป็นห้องพ่อกับแม่ ทั้งสองเปลือย แม่นอนราบให้พ่อซุกไซ้เต้านมมายังเนินอูมนั่น
คืนนี้ทำไมฝัน พิเรนท์ๆ  เจอทั้งน้อง พ่อและแม่ แบบนี้
ตะลึงในรูปร่างของแม่นี่เพอเฟคมาก ขวบจั๊ว อวบอิ่ม สมกับการดูแลทนุถนอมบำรุงอย่างดีเสมอมา เต้านมสวยเหลือเกิน แล้วตรงของสงวนนั่นอูมเป็นกลีบสวยจัง ยิ่งมองยิ่งชื่นชม แม่สวยอย่างหมดจดจริงๆ
พ่อลงลิ้นเลียหี แม่ส่ายเอวไหวๆ
ดูจี้ช่วยตนเองมีอารมณ์สุดๆแล้ว มาเจอแบบนี้ ยิ่งทำให้จิตใจหลุดลอยไปเลย
พ่อขยับแทรกหว่างขาจ่อควยเสียบเข้าไปแล้ว ควยเข้าหีพรวด  ขยับไปมา เวลาโดนเสียบควยอย่างนี้ น่ามองไปอีกแบบ

จากที่กระเด้าตับๆๆ พ่อทาบทับลง  จับสองเต้านม เอาหน้าฟอนเฟ้น แสงไฟสลัว ได้บรรยายกาศมาก พ่อทาบทับประกบปากดูด
“ถ้างวดนี้ถูกหวยอีก คุณต้องเชื่อแล้วนะว่าไม่ใช่บังเอิญหรือฟลุ๊ค แล้วต้องไปนั่งสมาธิกับเปรมด้วย” แม่กล่าว
“จ้า ตกลงๆ ซี๊ดดด”
พ่อยังกระดกก้นใส่ กอดกันกลม จากนั้นพลิกตัวแม่อยู่บน บั้นท้ายแม่ก็สวย ..สวยมาก งอนงามจริง....

...ผมลงมาทานข้าว แต่งตัวไปโรงเรียนเรียบร้อย พอเห็นแม่แล้วคิดทะลึ่ง นึกถึงการฝันเมื่อคืน ช่างเหมือนเรื่องจริงมาก แม่สวย ทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ
นมสวยมาก หีก็สวยสุด บั้นท้ายก็สุดยอด เรียกว่าเพอเฟคทุกอย่าง
นี่ฝันทำให้ฟุ้งซ่านขนาดนี้เชียว จะมาคิดอย่างนี้ไม่ได้นะ นี่ไม่ใช่ฝัน
“เห็นจ้องมองแม่นานละ มีอะไรผิดปกติไปจ๊ะ”แม่กล่าว
“คือแม่สวย หุ่นดี ..ดีมากๆน่ะฮะ มองเพลินเลย”
แม่ยิ้ม บี้จมูกผมเบาๆ
“เพิ่งเห็นหรอ แม่สวยอย่างนี้มาตั้งนานละ อะนะ ยังดีที่เห็นว่าแม่สวย”
แม่กอดหยอก  ควยผมแทบลุก เพราะกำลังคิดลามกอยู่  ดันให้แม่ออก
“แม่ไม่ยอมหรอก โตแล้วจะไม่ให้แม่กอดอะ”
“กำลังสนุกอะไรกันคะ”
น้องจี้ลงมาพอดีช่วยให้แม่ผละไปกอดกับน้องจี้ได้ ในฝันเมื่อคืนถึงจะไม่ได้เห็นอะไรของจี้ ผมก็ว่า เพอเฟคไม่แพ้เเม่เป็นแน่ รูปร่าง ส่วนเว้าเป๊ะๆ เพียงแต่จี้รูปร่างเล็กกว่า บอบบางกว่าแม่ นี่ถ้าจี้อายุเท่าแม่คงกอปปี้รูปร่างแม่มาเป็นแน่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น