วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566

Renew หรือผมจะชอบมัน 8



“สู้พี่กันต์ได้ไหม”ไอ้อาร์ทถามขึ้น ทำผมที่รู้สึกไม่ดีอยู่แล้วยิ่งรู้สึกว่ามันกำลังล้ำเส้นเกินไป
“เสียวกว่า” อรอมยิ้มแล้วตอบอย่างเขินอายหลบหน้าไปซบตรง อกไอ้อาร์ททำผมใจสั่นหัวใจแทบจะแหลกไปกับคำตอบของ อร
“จริงดิ”
“อืมมมม” อรตอบด้วยเสียงแผ่วเบาแต่บาดหูกระทบไปถึงใจของผม..ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก  ทั้งอายทั้งเขินทั้งรู้สึกขายหน้าและยังเจ็บจี๊ดไปถึงทรวงอกถ้าเจอหน้ากันไม่รู้ผมจะกล้าสู้หน้ามันหรือเปล่าสักพักก็เห็นไอ้อาร์ทนอนเปลือยอยู่บนเปล เจ้ากายยังเล่นชุดรถรางอยู่ที่เดิมมส่วนอร น่าจะอยู่ในห้อน้ำ ไม่นานนัก เธอก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกระโจม อกออกมาจากห้องน้ำ
“น้องกายเก็บของได้แล้วลูก จะกลับบ้านล่ะ” อร บอกเจ้ากายที่กำลังเล่นอยู่
“อยากกลับแล้วเหรอ”ไอ้อาร์ทพูดขึ้น อรหันมายิ้มให้มันก่อนตอบ
“ต้องกลับล่ะนี่ก็จะ4โมงแล้วเดี๋ยวพี่กันต์สงสัย”
“จะกลับจริงๆเหรอ”ไอ้อาร์ทเสียงอ้อนแกมหยอกขณะที่ อร กำลังเดินขึ้นไปบนบ้าน เธอหันมายิ้มเขินๆนิดนึ่งก่อนจะหันกลับแล้ววิ่งไปโดดลงนอนกอดไอ้อาร์ทในเปลหัวเราะให้กันคิกๆคักๆสองคนในเปล
“ไม่ต้องกลับหรอก นอนนี่แหละ” ไอ้อาร์ทพูดขึ้นขณะที่ทั้งคู่กอดกันกลมอยู่บนเปล
“บ้า..แล้วจะบอกพี่กันต์ยังไงล่ะ” อร ตอบ
“ให้พี่คุยให้ไหม”ไอ้อาร์ทพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแกมหยอก ส่วน อร แอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อไอ้อาร์ทพูดจบก่อนจะพูดขึ้น
“บ้าเหรอ”
“กายเอากระเป๋าของแม่บนโต๊ะให้พ่ออาร์ทหน่อย” ไอ้อาร์ทบอกเจ้ากายที่กำลังเล่นอยู่โดยใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าพ่อผมรู้สึกตะขิดตะขวงตะงิดๆในใจฟังแล้วรรู้สึกแสลงหูเมื่อได้ยิน และเจ้าแต้มก็บอกง่ายเกิ๊นเดินไปหยิบกระเป๋าของอร ที่อยู่บนโต๊ะมายื่นให้ไอ้อาร์ท.. อร รีบขว้าแย่งหยิบตัดหน้าก่อนที่จะถึงมือไอ้อาร์ท...เธอคิดนิดนึ่ง...ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจังหว่ะนั้นผมรีบกดลดเสียงโทรศัพท์ตัวเองลงให้เหลือแค่ระบบสั่น พอดีกับจังหว่ะ อรโทรเข้ามาพอดี ผมไม่รู้จะทำยังไงจะรับหรือไม่รับตัดสินใจไม่ถูกถ้ารับจะพูดยังไงถ้าอร บอกไม่กลับวันนี้จริงๆแล้วผมรู้สึกโรธที่เธอบอกว่าผู้ชายคนอื่นทำให้เธอเสียวกว่าผม....สุดท้ายปล่อยให้สายตัดไปอร พยายามโทรเข้ามาอีกสองสามสาย ผมก็ไม่ได้รับ
“ไม่รู้พี่กันต์ไปไหนไม่รับโทรศัพท์” อร พูดขึ้น
“สักพักค่อยโทรบอกก็ได้” ไอ้อาร์ทพูดขึ้น
“อืมมมม..”
“กายไปเล่นที่สนามเด็กเล่นกกับพ่ออาร์ทไหม” ไอ้อาร์ทหันมาพูดกับลูกผม เจ้ากายพยักหน้ารับ ก่อนที่ อร กับ ไอ้อาร์จะลุกแต่งตัวแล้วพากันเดินมุ่งหน้าไปทางสนามเด็กเล่นในโรงเรียน..ผมรอจนพวกเขาไปสักพักแล้วค่อยลงมาจากบ้านอย่างทุลักทุเลพร้อมกับเรี่ยวแรงที่อยู่ๆก็เหมือนจะหมดลงฮวบฮาบเมื่อได้รู้เรื่องอร กับ ไอ้อาร์ท แทนที่จะรู้สึกเสียวกลับทำให้รู้สึกบั่นทอนจิตใจอย่างบอกไม่ถูก..ผมเดินกลับไปที่รถด้วยความโกรธเสียใจทั้งเรื่องที่ไอ้อาร์ทชวนอร หนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันทั้งเรื่องที่ฝีไม้ลายสวาทผมสู้เขาไม่ได้  ก่อนจะนั่งสงบสติทำใจอยู่ในรถพักหนึ่งแต่ยิ่งพยายามสงบใจกลับยิ่งทำให้ว้าวุ่นใจไม่รู้ว่าเรื่องที่เธอบอกว่าไอ้อาร์ทำเธอถึงใจกว่าผมหรือเปล่ามันเหมือนเป็นคำถามที่มันจงใจจะหยามผมแถมยังเพิ่มความโกรธความโมโหขึ้นมาอีกกับเรื่องที่มันจะพาเมียผมหนีผมตัดสินใจลงจากรถแล้วเดินตรงไปทางสนามเด็กเล่นที่มีทั้งสามคนอยู่คิดในใจเคลียร์กันให้จบวันนี้เลยดีกว่าที่จะเก็บแล้วทำให้ทุกข์ใจอยู่คนเดียว..แต่พอเดินเข้าไปถึงหอประชุมผ่านหอประชุมไปก็จะถึงสนามเด็กเล่นแล้วผมต้องรีบหาที่หลบแอบเข้าไปในหอประชุม มองผ่านช่องลมออกไปทางสนามเด็กเล่นภาพที่เห็น น้องกายลูกชายผมกำลังยืนโยกชิงช้าอย่างสนุกสนาน แต่ข้างๆกันมีไอ้อาร์ทที่นั่งบนชิงช้าข้างๆในสภาพเปลือยท่อนล่าง โดยมี อร นั่งหยองๆตรงกลางวหว่างขาไอ้อาร์ทกำลังดูดแท่งเอ็นให้มันอยู่มองแล้วเหมือนผู้หญิงที่ดูร่านและก็เซ็กจัดผิดกับบุคคลิกที่เคยเป็นของเธอเมื่อตอนอยู่กับผมพอเห็น อร ตอนนี้ทำให้เลือดลมผมร้อนผ่าวไปทั้งตัวเหมือนจะเป็นไข้แท่งเอ็นอันน้อยแข็งตัวเพราะสมองสั่งให้เลือดสูบฉีดจนรู้สึกอึดอัดในเป้ากางเกงตัวเองและที่ทำให้ผมตื่นเต้นกว่าคือถ้าเกิดใครผ่านมาตอนนี้ทั้งสองคนก็คงวิ่งหลบไม่ทันแน่ๆ ดีที่ก่อนถึงสนามเด็กเล่นมีตึกไม้เก่าบังตาข้างหน้าโรงเรียนด้านข้างเป็นป่า และบ้านพักครู จึงช่วยบังตาคนด้านนอกได้แต่ถึงอย่างนั้นมันก็โล่งเกินไปเกินกว่าบ้านพักครูเมื่อกี้แน่นอนแต่ขณะที่ผมกำลังอึ้งอยู่ อร ก็ลุกขึ้นยืนหน้าไอ้อาร์ทแล้วทำเป็นมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวคนมาเห็นมือจับขอบกางเกงตัวเองคล้ายจะถอดกางเกงตัวเองออกแต่คงยังอายกลัวคนมาเห็นเธอเลยกล้าๆกลัวๆ
“ไม่มีคนหรอกวันนี้ภารโรงก็ไม่อยู่ไม่มีใครเห็นหรอก”ไอ้อาร์ทพูดขึ้นเมื่อเห็นทีท่าลังเลของเธอ อร ยิ้มเขิลอ่อนๆเมื่อไอ้อาร์ทพูดจบและท่าทีของเธอก็ยังไม่เปลี่ยนแต่สุดท้าย อร หันมองซ้ายมองขวาอีกรอบก่อนจะปลดกระดุมกางเกงตัวเองออก.....แล้วรูดซิบกางเกงตัวเองลงช้าๆก่อนที่กางเกงยีนส์ขาสั้นตัวน้อยจะค่อยๆถูกรูดถอดลงเหลือเพียงกางเกงในสีครีมบางๆตัวน้อยนิดปิดบังจุดหวงห้ามที่แต่ก่อนเป็นผมเท่านั้นที่สามารถรุกล้ำเข้าไปได้แต่ตอนนี้ไอ้อาร์ทกำลังยิ้มกรุ่มกริ่มมอง อร ถอดกางเกงในตัวสุดท้ายออกมันเอื้อมมือไปสัมผัสกับร่องเสียวเธอ แล้วลูบถูไถไปมา ก่อน อร จะโน้มตัวลงไปดูดปากแลกลิ้นกับไอ้อาร์ทโดยตอนนี้ไม่มีใครสนใจเจ้ากายที่ยืนโยกชิงช้าเล่นอยู่ข้างๆ...อ้าสสสส...ซี๊ดดดดดดด.......อรครางออกมาเบาๆเมื่อไอ้อาร์ทแหย่สอดนิ้วเข้าออกในรูเสียวเธอรัวๆ.......อ่าห์....ซี๊ดดดด.....อ่าห์....อ่าห์.....ซี๊ดดดด......อ้าสสสสส.....ซี๊ดดดดดดด.........ซี๊ดดดดด....อ่าห์....อรครางออกก่อนจะเกร็งทั้งตัวแล้วก็อ่อนตัวทรุดลงไป จนไอ้อาร์ทต้องประคองดึง อร มากอดแล้วทั้งสองก็หันไปดูดปากแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มปานจะกลืนกินกันให้หมดทั้งตัว..อืมมมมม....จร๊วบบบบบ.....จร๊วบบบบบบ....อืมมมมม.....
“อร..”
“อืออออ”
“เรื่องไปต่างประเทศพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ พี่จะรอ”
“อือออ…...รีบทำเถอะเดี๋ยวมีตนมาเห็น” อร พูดออกมาขณะตาที่หลับตาพริ้มแต่บนใบหน้าปนเปื้อนรอยยิ้มเล็กน้อยแบบเขิลๆบนใบหน้า
“อายเหรออ” ไอ้อาร์พูดไปยิ้มไปเหมือนหยอกล้อ
“พี่อาร์ทไม่อายเหรอแสดงว่ามาทำกับครูแหม่มบ่อยล่ะสิ” อร พูด
“กับแหม่มไม่เคย แค่ให้แต่งตัวเซ็กซี่ยังไม่ทำเลย บางทีก็น่าเบื่อ”
“ไม่ดีเหรอมีเมียแต่งตัวเรียบร้อยชอบให้เมียแต่งตัวโป๊โชว์คนอื่นไง” อร พูดขึ้น
“ถ้าพี่ตอบว่าใช่จะผิดไหม” ไอ้อาร์ทพูดออกมา อรยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบ
“ยังปกติดีไหมนี่ชอบให้เมียแต่งตัวโชว์คนอื่น”
“ก็ถ้าพี่มีเมียสวยแบบนี้ พี่ก็อยากอวดคนอื่นบ้างว่าเมียพี่สวยขนาดไหน”
“แบบนี้แบบไหน..แบบ อร ไหม” อร พูด
“ใช่” ไอ้อาร์ทตอบสั้นๆ
“แล้ว อร ถือว่าเป็นเมียพี่อาร์ทไหม”  อร พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แต่กลับเหมือนมีใบมีดปาดบาดใจคนฟังอย่างผมมันทั้งเจ็บทั้งจุกอยู่ในอก พูดไม่ได้อธิบายไม่ถูกทั้งที่ฐานะตามกฎหมาย อร คือเมียผมคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้เธอกำลังมอบสถานะนี้ให้ผู้ชายอีกคนที่เธอกำลังพรอดรักกันอยู่
“ถ้าเป็นเมียพี่อีกสามเดือนก็ต้องไปต่างประเทศด้วยกันนะ” ไอ้อาร์ทพูดจบ อร ทำท่ายิ้มเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น
“พาแต้มกับกายไปด้วยได้ไหมล่ะ” เมื่อ อร พูดจบผมนี่อึ้งไม่รู้ทำไมทำให้ผมเคว้งคว้างความคิดสติมันล่องลอยไร้จุดหมายเหมือนใจจะขาดตอนนี้..จากตอนแรกที่จะเข้าไปคุยให้รู้แล้วรู้รอดตอนนี้แทบจะไม่มีแรงขยับตัวทำอะไรและคงไม่มีสติมากพอที่จะคุยอะไรกับใครรู้เรื่องตอนนี้..ผมตัดสินใจหอบเอาร่างที่เหมือนไร้พลังชีวิตเดินกลับไปที่รถทั้งอย่างนั้นความจริงแทบจะหาทางกลับบ้านไม่ถูกด้วยซ้ำแต่ที่ไปได้เพราะร่างกายมันขยับไปของมันเองอัตโนมัติพาผมกลับมาจนถึงบ้านเห็นไอ้ชาตกับไอ้จอมกำลังเล่นกับเจ้าแต้ม ผมจอดรถเสร็จก็เดินไปหาลูกพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราววันนี้มันหนักหนาสำหรับผมจนอาการคงออกไอ้ชาตกับไอจอมทักเมื่อเห็นสีหน้าผมไม่สู้ดี คงเห็นผมทำตัวซึมๆแต่ผมก็บอกไม่เป็นไรก่อนฝากให้พวกมันปิดร้านเพราะวันนี้ อรคงไม่กลับก่อนจะอุ้มเจ้าแต้มเข้าบ้านไป...และวันนี้อรก็ไม่กลับจริงๆแต่ช่วงดึกเธอพยายามโทรมาอีกหลายสายแต่ผมไม่ได้รับสายเธอ..
                       วันรุ่งขึ้นประมาณ9โมงเช้าผมนั่งเล่นดูทีวีอยู่กับเจ้าแต้มในห้องนั่งเล่นภายในบ้านโดยมีไอ้จอมกับไอ้ชาตขายของอยู่ที่ร้านสักพักก็มีรถขับผ่านร้านเข้ามาจอดหน้าบ้านเห็นรถผมก็จำได้ทันที ไอ้อาร์ทขับรถมาส่ง อร ที่หน้าบ้าน เมื่อ อรกับเจ้ากายลงจากรถสีหน้าเธอดูอิดโรยจนผมสังเกตุได้แต่ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งตอนโบกมือลากันกับไอ้อาร์ทดูเธอยิ้มแย้มหน้าบานเป็นพิเศษ
“พี่กันต์ อร โทรมาตั้งหลายสายทำไมไม่รับ” เธอ พูดเมื่อเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเจ้ากายผมไม่ได้ตอบและทำเป็นไม่สนใจเธอ
“พีกันต์ อร ถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์”น้ำเสียงเธอเข้มขึ้นกว่าตอนแรกแต่ผมทำเป็นเฉยไม่ได้ตอบหรือสนใจกับคำถามครั้งที่2ของ อร จริงๆผมพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ตัวเองพูดหรือทำอะไรที่ขาดสติเพราะตั้งแต่เธอลงมาจากรถก็แทบทำให้ผมสติหลุดแล้ว
“ดูลูกด้วย พี่จะออกไปข้างนอก” ผมพูดห้วนๆกับ อรทั้งที่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน แต่ถ้าอยู่ต่อคงหลุดแน่ๆอาจระงับอารมณ์ไม่อยู่ลงไม้ลงมือกันจะกลายเป็นปมให้ลูกๆส่ะเปล่าๆ
“พี่จะไปไหน” อร ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงคงสังเกตุที่สีหน้าผมไม่ปกติถึงจะพยายามเก็บอาการแล้วแต่สีหน้ามันเก็บกันไม่ได้จริงๆ..แต่ผมก็ไม่ได้ตอบเธอเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากบ้านไปโรงรถก่อนขับรถออกไปอย่างไร้จุดหมายปลายทางโดยอร มองตามด้วยสีหน้าสงสัยในท่าทีของผม..แต่เธอยังไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร
               ผมขับรถออกมาจากบ้านได้พักใหญ่แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะไปไหนจนผ่านทะลุอำเภอหนึ่งเห็นป้ายชี้ทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ3ประเทศเคยพา อร กับลูกๆมาเที่ยวหลายครั้งคิดในใจว่าถ้าเจอคนเยอะๆคงจะดีขึ้นแต่พอหาที่จอดรถได้กำลังจะลงไปเดินเล่นพลันนึกได้ว่าที่ออกมาเมื่อสักครู่ไม่ได้เอากระเป๋าเงินออกมาด้วยทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินติดตัวแค่200กว่าบาทแต่ไม่เป็นไรแค่จะมาเดินเล่นเฉยๆไม่น่าจะต้องใช้เงินเยอะมากและโชคดีที่รถมีน้ำมันเต็มถังตั้งแต่แรกผมแวะเดินไปนั้นนิดนี่หน่อยตามแลนด์มาร์คที่คนมาที่นี่ต้องแวะกันเจอคนมาเที่ยวคนอื่นมากมายแต่ผมกลับรู้สึกเหงาและเศร้าอยู่คนเดียวจนถึงจุดสำคัญที่คนส่วนใหญ่มาที่นี่ยังไงก็ต้องแวะผมเดินลงไปปะปนกันฝูงคนดูนั้นนี่ไปเรื่อยเปื่อย
“พี่กันต์”เสียงเรียกผมมาจากด้านหลังเมื่อหันกลับไปดู เห็นเป็นครูแหม่มยืนอยู่
“อ้าวครูแหม่ม ผมก็ว่าเสียงคุ้นๆ”
“มาคนเดียวเหรอค่ะ น้องแต้มกับน้องกายไปไหน”ครูแหม่มเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ได้พามาด้วยครับ ให้อยู่บ้านกับแม่เขา”ผมตอบด้วยสีหน้าฝืนยิ้มแห้งๆ จนคนถามสงสัย
“ยังไงนี่คุณพ่อ หนีเที่ยวคนเดียว”ครูแหม่มพูดจบผมไม่รู้จะตอบยังไงมันจุกอยู่ในอกบอกใครก็ไม่ได้ทำได้เพียงถอนหายใจแรงๆไป2ที
“ท่าทางเหมือนคน อกหักเลย มีปัญหาอะไรกับ อร หรือเปล่าค่ะ” ครูแหม่มถามขึ้นแต่มันแทงใจดำผมพอดี
“นิดหน่อยครับ” ผมตอบสั้นๆครูแหม่มได้ยินก็ทำหน้าสงสัย..
“เกี่ยวกับอาร์ทหรือเปล่าค่ะ”ครูแหม่มพูดขึ้นทำผมต้องหันมามองครูแหม่มด้วยความสงสัยพลันนึกขึ้นได้ครั้งที่เจอกันล่าสุดครูแหม่มพูดอะไรแปลกๆแต่ตอนนั้นไม่คิดอะไรมากพอมาตอนนี้..
“ครูแหม่มรู้เหรอครับ” ผมถามออกไปตรงๆครูแหม่มยิ้มอ่อนๆก่อนตอบและเล่าที่มาที่ไปเรื่องราวที่ทำให้เธอเลิกกับไอ้อาร์ทจริงๆผมก็รู้แต่ที่ทำให้ผมเฮิร์ทมากไม่ใช่เพราะ อร มีอะไรกับคนอื่นแต่เป็นเพราะ อร กำลังจะหนีทิ้งผมไปอยู่ต่างประเทศกับไอ้อาร์ทด้วยความที่อยู่ในสถานะคนถูกทิ้งเหมือนกันอารมณ์คล้ายๆกันผมเลยชวนครูแหม่มเดินเที่ยวด้วยกันแต่ด้วยความที่เราเป็นคนคุยไม่ค่อยเก่งทั้งคู่บรรยากาศอาจจะไม่แตกต่างจากการเดินเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่จะต่างก็ตรงมีอีกคนมาเดินด้วยกันแนะนำพากันไปตามสถานที่ๆตัวเองอยากไปก็เท่านั้น
“ครูแหม่มจะกลับตอนไหนครับ”
“พี่กันต์จะกลับแล้วเหรอค่ะ”
“เปล่าครับผมยังไม่อยากกลับตอนนี้ว่าจะไปหาร้านนั่งเล่นชิวๆสักพักแต่เห็นว่า6โมงกว่าแล้วกลัวจะเกรงใจผมไม่กล้าบอก”
“แหม่มไปนั่งด้วยได้ไหม ยังไม่อยากกลับเหมือนกัน”ครูแหม่มพูด เราจึงชวนกันหาร้านนั่งกินน้ำขมๆฟังเพลงสบายๆพักอารมณ์สักพัก ครูแหม่มเป็นคนกินเหล้าไม่เก่ง เธอเลยใช้วิธีนั่งจิบเบาๆปล่อยให้เสียงเพลงค่อยๆรักษาสภาพจิตใจของเราทั้งคู่..แต่ผมพยายามกระดกให้มากที่สุดเท่าที่ร่างกายผมไหว แต่ไม่น่าเชื่อ 4ทุ่มกว่าผมกับครูแหม่มดันเมาพอๆกันส่ะอย่างนั้น
“พี่กันต์แหม่มว่าเรากลับกันเถอะดึกมากแล้ว”
“ครูแหม่มอยากกลับแล้วเหรอครับ”
“ใช่..ถ้ามากกว่านี้อันตรายนะ ขับรถด้วย”
“ครูแหม่มกลับก่อนก็ได้ครับ ผมยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้”
“พี่กันต์จะกลับตอนไหนคะ”
“พูดตรงๆนะครับ วันนี้ผมไม่อยากกลับบ้านแต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี” ผมพูดไปแล้วก็ขำแห้งให้ตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นไปกินต่อที่บ้านแหม่มไหม บ้านแหม่มมีห้องว่างอยู่ เมาก็นอนเลย” ครูแหม่มพูดขึ้น เธอคงเป็นห่วงผมและสุดท้ายผมก็ต้องยอมขับรถตามครูแหม่มโดยเธอขับนำผมไป..ขณะนั้นผมหยิบโทรศัพท์มามองเห็นมีสายโทรเข้ามาจากอร เป็น10 สายซึ่งผมปิดเสียงไว้ไม่ได้รับ ก่อนถึงบ้านครูแหม่มตีไฟเลี้ยวก่อนถึงร้านสะดวกซื้อเป็นสัญญาณบอกผมว่าเธอจะจอดผมจึงชะลอรถเพื่อจอดรถใกล้เธอ
“ที่บ้านไม่มีอะไรเลย พี่กันต์จะกินอะไร”
“ไม่รู้จะเลือกอะไรดีไม่มีเงินสักบาท ครูแหม่มมีเงินให้ผมยืมก่อนไหมครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมคืน”
“ไม่เป็นไรค่ะ แหม่มเลี้ยงเองวันนี้”
“งั้นอะไรก็ได้ที่ครูแหม่มกินได้”
“แหม่มไม่ถนัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย”ครูแหม่มพูดขึ้น ผมเลยเลือกเป็นเบียร์เจ้าหนึ่งมา10ขวดคิดว่าเธอคงกินได้ไม่ยากเท่าเหล้าส่วนครูแหม่มหยิบน้ำแข็งกับขนมมาอีกสองสามอย่างเมื่อมาถึงบ้านครูแหม่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวทรงโมเดิลตอนแรกที่ผมไม่อยากมาเพราะนอกจากรบกวนครูแหม่มแล้วกลัวจะรบกวน พ่อแม่เธอด้วย แต่เธอบอกว่าพ่อแม่เธอยู่อีกหลังครูแหม่มชวนให้เข้าไปในบ้าน แล้วให้ผมนั่งรอในห้องโถงรับแขก
“พี่กันรอเดี๋ยว แหม่มขอไปจัดห้องจัดที่นอนให้ก่อน”
“พี่นอนโซฟาก็ได้ไม่ต้องยุ่งยากหรอก”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวแหม่มจัดห้องให้แป็บเดียว”ครูแหม่มพูดหลังจากหาแก้วหาภาชนะมาใส่น้ำแข็งเสร็จเธอก็เดินเข้าห้องหนึ่งไปไม่นานนักเธอก็ออกมา
“เสร็จแล้ว” ครูแหม่มพูดพร้อมกับเดินมานั่งใกล้ๆผมซึ่งตอนนี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเป็นเสื้อยืดสีชมพูกางเกงผ้าขาสั้นสีดำดูน่ารักจนผมรูสึกหวั่นไหวต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาครูแหม่มเปิดซีรี่ย์เกาหลีซึ่งเหมือนเป็นตัวเชื่อมสำหรับเราสองคนที่คุยไม่เก่งทั้งคู่ก็หาพวกนี้มาดูด้วยกันไม่ต้องคุยกันเยอะแต่ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดแม้ผมจะไม่ได้ชอบเท่าไหร่ก็ตามเรานั่งดูนั่งดื่มคุยกันบ้างจนไม่รู้ว่าเวลาเท่าไหร่แล้วแต่ความรู้สึกขณะนี้คือเมามากครูแหม่มก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่แต่เธอก็ยังไม่ยอมหนีไปนอนและนอกจากความเมาแล้วความรู้สึกบางอย่างที่ชอบมาตอนเมาคือความรู้สึกหวั่นไหวกับเพศตรงข้ามโดยปกติถึงไม่เมาครูแหม่ม เธอก็ดูดีและเป็นผู้หญิงที่สวยเอามาก มีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามไม่น้อยอยู่แล้วช่วงแรกตอนยังไม่เมามากเลยยังพอกักเก็บอารมณ์ได้แต่ตอนนี้มันเหมือนกับการควบคุมตัวเองของผมมันลดระดับลงเพราะความกำหนัดของตัวเอง แต่ไม่รู้ครูแหม่มจะเป็นเหมือนผมไหมผมลองมุขไอ้จอมไอ้ชาตโดยลุกไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับมาทิ้งก้นลงบนโซฟาชิดกับครูแหม่มกว่าเดิมหรือเรียกนั่งติดกันก็ได้..
“ไหวไหมนี่ แหม่มจัดห้องไว้ให้แล้วนะ”ครูแหม่มพูดขึ้นเธอคงนึกว่าผมเมาหนัก เซล้มไปนั่งข้างๆเธอ
“ไหวๆๆอย่าพึ่งหนีไปนอนก่อนละกัน” ผมพูดหยอกเธอขำๆพอเมาแล้วไม่รู้คำพูดมันมาจากไหนสักพักผมลองเอนตัวยกมือวางไปด้านหลังเธอ ครูแหม่มก็ไม่ได้ว่าอะไรพอเห็นเธอยังนิ่ง..ผมจึงค่อยๆขยับโอบไหล่เธอดูเป็นเหมือนการถามทางว่าเธอจะมีปฏิกริยาแบบไหนบ้าง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น