วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว เสียวคูณสอง #11


 

2 ปีก่อนหน้านี้...

หนุ่มโจ้ก้าวเข้าออฟฟิศมาด้วยสภาพสะโหลสะเหล หลังพึ่งผ่านพ้นศึกหนักชั่วข้ามคืนกับสาวสวยแปลกหน้าที่ได้เจอกันในผับมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว

“ไงครับพ่อเทพบุตร มาซะสายโด่งเลยนะมึง” เสียงหนุ่มจ๋อง ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ประจำบริษัทร้องแซวขึ้นมาทันควัน หนุ่มโจ้วางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงาน สายตาก็เหลือบไปเห็นสาวหมวยรูปร่างจ้ำม่ำหน้าตาไม่คุ้นเคย นั่งจ้องเขาอยู่ที่โต๊ะข้างๆ

“หวัดดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท
“ดีจ้ะ น้องก็อปปี้ใช่มั้ยเนี่ย?” โจ้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ”

“นี่น้องกุ๊ก พึ่งเข้ามาทำงานวันแรก ส่วนนี่ ไอ้โจ้ พ่อพระยาเทครัวประจำออฟฟิศจ้ะ อ้อ... ไหนๆ ก็นั่งข้างกันแล้ว มึงก็ทำตัวดีๆ กับน้องเค้าหน่อยแล้วกันนะไอ้โจ้ เดี๋ยวน้องเค้าเกิดอึดอัดเพราะมึงขึ้นมา ลำบากกูต้องไปหาก็อปปี้มาแทนอีก” จ๋องพูดยั่วเย้าตามประสาคนคุ้นเคย

“โว้ะ! พี่ก็พูดไปเรื่อย น้องเค้าจะอึดอัดทำไมวะ ผมออกจะนิสัยดี มีน้ำใจ รักเพื่อนร่วมงานซะขนาดนี้” หนุ่มโจ้รีบออกปากอวยตัวเอง
“เหอะๆ ก็เพราะมึง 'รัก' เพื่อนร่วมงานไปทั่วแบบนี้นี่แหละ กูถึงได้เป็นห่วงไง”
“อ๊ะๆๆ เห็นผมกะล่อนแบบนี้ แต่ผมก็เลือกนะฮ้าฟ ไม่ใช่ว่าจะไปป้อใครเค้ามั่วๆ”

“อ้าวๆ นี่มึงหาว่าน้องกุ๊กเค้าไม่สวย ไม่น่าจีบเหรอวะ?” จ๋องรีบจี้ขยี้มุก
“ปั้ดโธ่.. พี่แม่งก็โคตรเสี้ยมเลย ไม่ใช่อย่างง้านนน” โจ้รีบร้องแก้ตัว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่จ๋อง หนูเองก็เลือกเหมือนกัน” สาวกุ๊กยิงมุกกลับมาอย่างถูกจังหวะ เรียกเสียงฮาครืนจากบรรดาเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“โห.. นี่ไง เจอกันวันแรก น้องแม่งก็เล่นผมแระ ดูทรงแบบนี้แล้วรู้เลย แสบแน่นอน” หนุ่มโจ้รำพึงเบาๆ

เวลาผ่านไป... หนุ่มโจ้กับสาวกุ๊กก็ค่อยๆ สนิทสนม และซี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่หนุ่มโจ้นั้นก็ทั้งยียวนกวนตีนคนรอบข้างได้อย่างถึงกึ๋น ขณะที่สาวกุ๊กนั้นก็ช่างหัวไว และมักจะมีถ้อยคำเจ็บๆ แสบๆ มาพูดสวนกลับไปตลอด จนท้ายที่สุดแล้ว.. ทั้งคู่ก็เลยกลายมาเป็นคู่กัด ที่มักจะคอยหาเรื่องต่อปากต่อคำใส่กันอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน

ในสายตาของโจ้นั้น ชายหนุ่มมองเห็นกุ๊กเป็นเหมือนลูกสาวคนสุดท้องของบริษัท เป็นน้องสาวที่ค่อนข้างจะงอแงและแอบเอาแต่ใจ แถมยังมีจุดอ่อนอันแสนจะเซนสิทีฟ ในเรื่องของรูปร่างที่ดูจะอวบอ้วนเกินมาตรฐานอยู่ซักหน่อย ซึ่งชายหนุ่มก็มักจะชอบแกล้งพูดจายั่วโมโหเรื่องน้ำหนักตัวจนสาวกุ๊กต้องปรี๊ดแตกอยู่บ่อยๆ

โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า... สาวน้อยหุ่นจ้ำม่ำคนนี้นี่แหละ ที่จะกลายมาเป็นภรรยาของตัวเองในอนาคต...

ส่วนทางฝั่งของสาวเจ้าแล้ว ทีแรกนั้นเธอเองก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับชายหนุ่มรุ่นพี่มากมายเท่าไหร่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะค่อนข้างหน้าตาดีพูดจาคารมคมคาย แถมยังดูมีเสน่ห์อยู่พอสมควร แต่ด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างเป็นคู่กัด คอยแซวคอยแซะกันเหมือนลิ้นกับฟันมาโดยตลอด ก็เลยทำให้ความประทับใจที่เคยมีในทีแรก ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นความหมั่นไส้แทน

ตลอดหลายเดือนที่ร่วมงานกันมา หญิงสาวก็ได้รับรู้ถึงเรื่องราวความเจ้าชู้ของชายหนุ่มรุ่นพี่แบบจะแจ้งมาโดยตลอด แถมบางครั้งบางคราว ชายหนุ่มยังเป็นฝ่ายหยิบเอาเรื่องราวเด็ดๆ ของสาวๆ ที่ตัวเองเคยฟีทเจอริ่ง มาเล่าให้ฟังในวงเหล้าเสียเอง ทั้งเรื่องของสาวนักศึกษาแอ๊บแบ๊วมาดคุณหนู ที่พอขึ้นเตียงแล้วกลับแปลงกายเป็นสาวซาดิสม์ ทั้งจิกทั้งกัด ร่อนขย่มจนชายหนุ่มควยแทบหัก หรืออย่างแม่ม่ายลูกอ่อนผัวทิ้งวัย 30 ที่มีรสนิยมชอบให้ผู้ชายดูดนมสดๆ จากเต้านั่นก็อีกคน

สาวกุ๊กได้แต่ทึ่งกับประสบการณ์คั่วสาวอันหวือหวาและโลดโผนของชายหนุ่ม มันช่างแตกต่างไปจากเรื่องราวชีวิตรักอันจืดชืดของสาวอ้วนแบบเธอ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 28 ปี เธอเองยังไม่เคยมีแฟนอย่างคนอื่นเขาเลยซักครั้ง อย่างในรายของ 'แบงค์' เพื่อนชายคนสนิทที่เหมือนว่าจะเคยคุยๆ จีบๆ กันมาก่อนหน้านี้ ก็ดูจะตกอยู่ในสถานะที่ไม่ค่อยจะชัดเจนซักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่อีกฝ่ายบินไปเรียนต่อที่อเมริกา ทั้งคู่ก็เลยเหมือนจะค่อยๆ ห่างกันออกไปโดยอัตโนมัติ

ซึ่งไอ้นิสัยเจ้าชู้ไก่แจ้ของหนุ่มโจ้ที่ว่านั้น มันก็คงจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตของเธอซักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าวันนึง.. สาวกุ๊กนั้นจะไม่เกิดอาการเฮิร์ตหนักเพราะอกหัก จนจับผลัดจับผลูได้เข้าไปสนิทสนมใกล้ชิดกับหนุ่มรุ่นพี่คนนี้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว...

ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาจากแค่ฐานะของเพื่อนร่วมงาน กลายมาเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนสนิท ก่อนที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปสู่คำว่าแฟนในท้ายที่สุด ซึ่งสำหรับหญิงสาวหน้าตาพื้นๆ รูปร่างเจ้าเนื้ออย่างเธอแล้ว มันช่างดูไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะสามารถกำราบแฟนหนุ่มจอมกะล่อนคนนี้ได้เลย

ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว... ไอ้สิ่งที่สาวกุ๊กเคยนึกกังวลไว้ มันก็กลับกลายมาเป็นความจริงในที่สุด เมื่อเธอเกิดจับได้ว่าชายหนุ่มรุ่นพี่กำลังแอบมีกิ๊กลับหลังเธอ

ด้วยความที่โจ้นั้นเป็นทั้งแฟนคนแรก และยังถือเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตที่เธอยินยอมมอบให้ทั้งกายและใจ พอมารู้ว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายหักหลังแบบนี้แล้ว จึงทำให้สาวกุ๊กรู้สึกชอกช้ำอย่างหนัก ช่วงเวลาแห่งความหวานชื่น กลับพังครืนถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา จนหญิงสาวไม่อาจทำใจยอมรับได้ และเลือกที่จะใช้เวลาจมจ่อมไปกับการเมาเหล้าประชดชีวิตร่วมกับกลุ่มเพื่อนสาวคนสนิท ก่อนที่มันจะพาให้ชีวิตของเธอยิ่งถลำลึกลงไปในก้นบึ้งแห่งความเศร้าสร้อยมากขึ้นไปอีก เมื่อเธอเกิดพลาดพลั้งถูกชายอื่นเข้ามาหลอกฟันซ้ำอีกต่อหนึ่ง

มันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะอึดอัดสำหรับคนทั้งคู่ แม้ว่าจะได้เจอหน้ากันที่ทำงานทุกวัน... แถมยังนั่งโต๊ะติดกัน... แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีกำแพงที่มองไม่เห็น คอยขวางกั้นระหว่างคนทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา

แต่ในความโชคร้ายก็ยังคงแฝงเอาไว้ซึ่งความโชคดี เพราะตลอดระยะเวลาไม่กี่เดือนที่กุ๊กและโจ้ได้คบหาเป็นแฟนกันนั้น มันกลับทำให้ความคิดของเสือผู้หญิงอย่างโจ้ ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่ทันรู้ตัว...

หากเป็นเมื่อก่อน... ชายหนุ่มคงไม่มีทางยอมเสียเวลามาตามง้อขอคืนดีกับเธออย่างแน่นอน สู้เอาเวลาไปหาสาวๆ สวยๆ มาเป็นคู่นอนรายใหม่ยังจะสนุกสมใจเสียกว่า แค่เดินเข้าร้านเหล้าแป๊บเดียว ก็แทบจะมีสาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้มให้เขาได้จิ้มเล่นทุกวันอยู่แล้ว

ถ้าไม่ติดว่า.. ภาพใบหน้าของกุ๊ก จะยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของเขาจนยากที่จะถอนมันออกไปได้

จากที่เคยมองว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน ไม่ต้องการที่จะผูกมัดชีวิตตัวเองเข้ากับผู้หญิงคนไหน แต่พอถึงวันที่ทั้งคู่ต้องเลิกรา เหินห่างออกมาจากชีวิตของกันและกัน มันกลับทำให้ชายหนุ่มได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกเปลี่ยวเหงาเป็นครั้งแรก ช่วงเวลาที่เคยได้อยู่เคียงข้างและใกล้ชิดกัน มันกลับคอยตามมาหลอกหลอนชายหนุ่ม และทำให้เขาเแน่ใจว่า... ตัวเองคงจะตกหลุมรักสาวกุ๊กเข้าจริงๆ เสียแล้ว...

มันเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับที่โจ้เคยรู้สึก ในวันที่ต้องยอมฝืนเดินห่างออกมาจากชีวิตของสาวเป้ ความรู้สึกที่ทั้งหมดหวัง และไร้ซึ่งหนทางที่จะเหนี่ยวรั้งคนที่ตัวเองรักเอาไว้ข้างกาย...

และมันเป็นสิ่งที่เขาเคยสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า... จะไม่มีวันยอมพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว...

หนุ่มโจ้จึงใช้เวลาที่เหลือ เฝ้าตามง้อขอโอกาสคืนดีจากสาวรุ่นน้องอยู่เป็นเดือนๆ ก่อนที่ความพยายามของชายหนุ่มจะบังเกิดเป็นผลสำเร็จ เมื่อหญิงสาวเองก็ยังไม่อาจลืมเรื่องของหนุ่มรุ่นพี่ได้เด็ดขาดเช่นกัน ที่สุดแล้ว.. ทั้งคู่จึงได้กลับมาทดลองคบหาดูใจกันอีกครั้ง... แถมยังคบหากันจริงจัง จนถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานกันได้ในที่สุด

วินาทีที่หญิงสาวกำลังจ้องสบตาอยู่กับว่าที่สามี บนเวทีในค่ำคืนนั้น... มันเป็นห้วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ เป็นห้วงเวลาสำคัญเพียงเสี้ยววินาที ที่เธอได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่า... จะยอมรักผู้ชายคนนี้ไปตลอดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต...

ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ตาม...

=======================================

รถยนต์ฮอนด้าซีวิคสีขาวกำลังโลดแล่นไปบนทางยกระดับ มุ่งหน้าไปทางเส้นแจ้งวัฒนะ หนุ่มโจ้นั่งประจำอยู่ตรงที่นั่งคนขับ มีร่างของสาวกุ๊กภรรยาสุดที่รักนั่งมองวิวอยู่ข้างๆ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่บ้านของรุ่นพี่คนสนิททั้งสองคน

โดยปกติแล้ว ทั้งคู่ก็มักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนพี่ๆ ทั้งสองคนที่บ้านอยู่บ่อยๆ บ้างก็หาเวลาเข้ามานั่งคุยเล่น ทานข้าวเย็นร่วมกัน หรือแม้กระทั่งนั่งดื่มเบียร์ผ่อนคลายให้พอกึ่มๆ กันก็มี แต่ที่ผ่านๆ มาก็มักจะเป็นเพียงการใช้เวลาในช่วงสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งค่อนวัน แตกต่างไปจากการมาเยี่ยมเยียนในครั้งนี้ ที่ทั้งคู่ตัดสินใจจะขออยู่ค้างคืนที่บ้านของอีกฝ่าย เป็นระยะเวลาหนึ่งคืน...

ซึ่งแม้ว่าทั้งโจ้และกุ๊ก รวมไปถึงบอยกับเป้ จะไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องของการสลับแลกคู่ออกมาแบบตรงๆ ก็ตาม แต่พวกเขาทั้งสี่คนต่างก็รู้ดีว่า... การมาเยี่ยมเยียนของสองหนุ่มสาวในครั้งนี้ คงไม่ได้มีเพียงแค่การนั่งกินเหล้าพูดคุยกันธรรมดาๆ แน่ๆ...

“ถ้าพี่โจ้อยากลองจริงๆ... หนูยอมให้ก็ได้นะ...” คำพูดของกุ๊กเมื่อหลายวันก่อนยังคงดังก้องชัดเจนอยู่ในหัวของโจ้ เหมือนกับว่าเขาพึ่งจะได้ยินมันมาหมาดๆ เมื่อครู่นี้เอง...

ชายหนุ่มนึกย้อนกลับไปถึงภาพเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น...

ค่ำคืนที่ภรรยาสาวของเค้าได้ลองเปิดใจ ยอมจินตนาการถึงการมีเซ็กส์ร่วมกับชายอื่นตามที่เขาร้องขอดู พอเสร็จสมอารมณ์หมายกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่จึงได้หันหน้าเข้ามาเปิดใจคุยกันถึงความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้น

“เป็นไงบ้าง แฮปปี้มั้ยกุ๊ก?” โจ้เอ่ยถามภรรยาสาวที่กำลังนอนซบไหล่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
“อืม... ก็... โอเคมั้ง” กุ๊กตอบหลบสายตา
“แค่โอเคเองเหรอ..? ตะกี้เห็นเสียวซะขนาดนั้น” ชายหนุ่มพูดยั่วเย้า
“เอ้า! ตัวเองก็เห็นอยู่แล้วจะมาถามทำไมเล่า?” หญิงสาวโวยกลับมาแบบเขินๆ

“โอ๊ยๆๆ พี่บอยขา กุ๊กเสร็จแล้วค่าาา” โจ้แกล้งเลียนเสียงเธอพร้อมกับทำสีหน้าทะเล้น
“อีพี่โจ้! ไม่ต้องเลย! ถ้ายังไม่หยุดหนูโกรธจริงๆ แล้วนะ แม่ง! เบื่อว่ะ  อุตส่าห์ยอมตามใจให้แล้วยังมีหน้ามาแซวอีก” น้ำเสียงของกุ๊กเริ่มที่จะหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ เงื้อกำปั้นค้างไว้กลางอากาศ ทำท่าว่าจะทุบลงมาบนอกของสามี
“โอเคๆๆ พี่ไม่ล้อแล้ว อย่าโกรธพี่เลยนะคนดี” หนุ่มโจ้รีบออดอ้อนขอโทษเธอ พร้อมกระชับร่างเธอเข้ามากอดไว้แน่น

“เมื่อกี้นึกถึงพี่บอยอยู่เหรอคะ?” โจ้เปลี่ยนมาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทน
“อืม...” กุ๊กตอบกลับมานิ่งๆ
“ทำไมไปนึกถึงหน้าพี่บอยขึ้นมาล่ะ?”

“อือ... ตอบยากอ่ะ พอลองหลับตาแล้วอยู่ๆ หน้าพี่เค้ามันก็แว้บขึ้นมาเอง” กุ๊กตอบตะกุกตะกัก
“เออ แปลกดี พี่ก็นึกว่าเราจะนึกถึงหน้าไอ้พี่ป้อง หรือว่าหน้าน้องเอกหมอนวดซะอีก ไหนๆ สองคนนั้นเค้าก็เคยถึงเนื้อถึงตัวกุ๊กมาก่อนแล้ว” โจ้เกริ่นชื่อสองหนุ่มขึ้นมาดื้อๆ
“บ้าแล้ว หนูจะไปนึกถึงหน้าพวกนั้นทำไม ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยซะหน่อย” กุ๊กตอบปัดมาทันควัน

“เหรอ? งี้ก็แสดงว่า... หนูแอบปลื้มพี่เค้าอยู่อ่ะดิ?” โจ้เริ่มตะล่อมถามจี้เข้ามา เหมือนงูเหลือมที่กำลังจะเริ่มรัดเหยื่อ
“หนูว่ามันไม่เกี่ยวหรอกมั้ง พี่ก็... สงสัยเป็นเพราะหนูไปฟังเรื่องพวกพี่สามคนมากกว่า พอพี่บอกให้นึกถึงผู้ชายคนอื่น หน้าพี่บอยก็เลยโผล่มาคนแรก” กุ๊กพยายามหาทางหนีจากวงล้อมของสามี

ตั้งแต่แยกทางกลับมาจากสาวเป้ ในหัวของกุ๊กก็เฝ้าคิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่กับถ้อยคำของสาวรุ่นพี่ ที่เอ่ยปากชักชวนให้เธอลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ร่วมกัน ถ้อยคำเชิญชวนจากรุ่นพี่ที่เคารพ ทำให้ใจของเธอเริ่มที่จะรู้สึกไขว้เขวขึ้นมา แต่สิ่งที่เร้าอารมณ์ของเธอที่สุด ก็เห็นจะเป็นความจริงที่สาวเป้สารภาพกับเธออย่างตรงไปตรงมา ว่าตัวเองนั้นยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้กับสามีของเธออยู่นั่นเอง ถ้อยคำจากปากของสาวรุ่นพี่ มันช่างกระตุ้นอารมณ์วาบหวามในใจของกุ๊กให้ลุกโชนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

มันเป็นอารมณ์แบบเดียวกับที่ทั้งบอยและโจ้ ล้วนเคยประสบพบเจอมาก่อน ความจริงที่ได้รู้ว่าคนรักของตัวเอง กำลังกลายเป็นที่หมายปองของคนอื่น ฮอร์โมนในร่างพลุ่งพล่านปั่นป่วนไปหมด เธอทั้งหึง... ทั้งหวง... ทั้งหวั่นไหว.. แล้วก็ตื่นเต้น... ก่อเกิดเป็นความรู้สึกอยากแข่งขัน อยากเอาชนะสาวรุ่นพี่ขึ้นมา

อะไรที่เป้ทำได้... เธอเองก็น่าจะทำได้เหมือนกัน ถ้าเป้เข้ามาใกล้ชิดกับสามีของเธอได้... เธอเองก็จะลองเข้าไปใกล้ชิดกับสามีของเป้ดูบ้างเช่นกัน... พอคิดแบบนี้แล้ว มุมมองที่เธอเคยมีต่อหนุ่มบอยก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป

จากที่เคยมองว่าอีกฝ่ายเป็นเหมือนพี่ชายที่อบอุ่นและใจดี หญิงสาวก็เริ่มที่จะหันมามองหนุ่มบอยในแง่มุมของผู้ชายที่ตรงสเป็คเธอแทน และทำให้จิตใต้สำนึกของเธอ มันแสดงผลออกมาเป็นภาพใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นพี่โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง...

“อ๋อ... เหรอ แล้วพอนึกแล้วเป็นไง? ดีมั้ย? เสียวกว่าเดิมรึเปล่า?” โจ้เอ่ยถามเจาะใจ
“ก็... ไม่รู้สิ ตอนที่พี่โจ้ทำ มันก็... มันก็รู้สึกเหมือนเดิมนะ ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ คือพอลองหลับตาแล้วนึกถึงหน้าพี่บอย มันก็เสียวอ่ะ อารมณ์มันหวิวๆ ตื่นเต้นแปลกๆ แต่ว่า... หนูก็ยังรู้สึกว่ากำลังทำอยู่กับพี่โจ้อยู่ดี” กุ๊กพยายามเรียบเรียงความรู้สึก

“อืม คงเป็นเพราะกุ๊กคุ้นเคยกับจังหวะของพี่มั้ง”
“งั้นมั้ง ไม่รู้เหมือนกัน...”
“งี้สงสัย... คงต้องไปลองของจริงแล้วม้าง...?” หนุ่มโจ้แกล้งพูดเล่นขำๆ แต่ภรรยาสาวเองกลับไม่มีทีท่าว่าจะขำด้วย ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมจริงจัง คิ้วขมวดยับย่นนิดๆ เม้มกัดริมฝีปากตัวเอง เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว

“กุ๊ก... พี่พูดเล่นนะ...” หนุ่มโจ้พูดเสียงอ่อย นึกกลัวว่าหญิงสาวจะเกิดรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา
“ถ้าพี่โจ้อยากลองจริงๆ... หนูยอมให้ก็ได้นะ...” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของกุ๊ก ทำให้หนุ่มโจ้นั้นแทบลืมหายใจ
“กุ๊กหมายถึง...?”

“ถ้าพี่อยากลอง... เอ่อ... ลองแลกคู่ดูจริงๆ กุ๊กก็... ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะ”
“จริงเหรอกุ๊ก!? กุ๊กพูดจริงเหรอ? ทำไมอยู่ดีๆ ถึงโอเคขึ้นมาล่ะ?” หนุ่มโจ้แสร้งออกอาการประหลาดใจ ที่เห็นภรรยาสาวยินยอมพร้อมใจ ที่จะลองหาประสบการณ์ทางเพศรูปแบบใหม่นี้ไปพร้อมๆ กัน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เขาเองก็พอจะคาดเดาท่าทีของเธอได้จากคำบอกเล่าของสาวรุ่นพี่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

“อืม... มมม หนูพอจะรู้ว่าพี่โจ้อยากลองอะไรพวกนี้มาซักพักแล้ว ตั้งแต่ที่พี่เอาแต่คอยถามเรื่องพี่ป้อง หลังจากที่เรากลับมาคบกันนั่นแหละ หนูรู้นะว่าเรื่องนี้มันไปกระตุ้นอารมณ์พี่ได้ แต่หนูก็พยายามเลี่ยงๆ มันมาตลอด เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม แต่พอลองกลับมาคิดทบทวนดูดีๆ หนูว่ามันก็คงไม่ได้หนักหนาอะไรซักเท่าไหร่ ถ้าหากว่ามันจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนเหนียวแน่น แล้วก็เข้าใจกันได้มากขึ้น...”

“ที่พูดมานี่... กุ๊กไม่ได้ฝืนใจตัวเองเพื่อพี่ใช่มั้ย?” หนุ่มโจ้ถามย้ำถึงความรู้สึกลึกๆ ในใจของเธอ ถ้าหากว่าสิ่งที่เธอว่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่การกล้ำกลืนฝืนใจ ยอมทำเพื่อที่จะสนองความต้องการของเขาเพียงฝ่ายเดียว ชายหนุ่มก็คงไม่อาจเลือกทำในสิ่งที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นได้แน่ๆ

“พี่โจ้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก... ถ้าเกิดว่าหนูไม่สบายใจกับมันจริงๆ หนูไม่มีวันยอมให้พี่มาบังคับฝืนใจหนูแน่ พี่ก็รู้” หญิงสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยืนยันหนักแน่น
“หนูรู้เรื่องทั้งหมดจากพี่เป้แล้วนะ... ทั้งเรื่องที่พวกพี่แอบไปวางแผนกันลับหลัง จะให้พี่กลับไปจีบพี่เป้อีกครั้ง แล้วไหนจะเรื่องที่พี่กับพี่เป้สารภาพความรู้สึกให้กันอีก เรื่องนั้นหนูก็รู้หมดแล้ว”

“พี่ขอโทษนะกุ๊ก... พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไรกุ๊กเลย” หนุ่มโจ้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“หนูยอมรับนะพี่ ว่าตอนที่ได้ยินจากปากพี่เป้ครั้งแรกน่ะ โคตรโมโหเลย...ไอ้ที่พี่เคยบอกไว้ว่าเราจะไม่มีความลับต่อกัน สุดท้ายพี่ก็ยังทำมันไม่ได้อยู่ดี... แต่พอลองมานั่งทบทวนดูดีๆ หนูก็พอจะเข้าใจนะ ว่าพี่เองก็คงไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน ในเมื่อพี่บอยเค้าเป็นฝ่ายเข้ามาขอร้องพี่ถึงที่ แถมพี่เองก็ยังรู้สึกผิดติดค้างอยู่กับพวกพี่เค้าอยู่...” ภรรยาสาวพูดต่อไปเรื่อยๆ

“เอาจริงๆ หนูเองก็สงสารพวกพี่เป้กับพี่บอยเค้าเหมือนกัน ทั้งเรื่องแย่ๆ ที่พี่เป้เค้าเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ไหนจะเรื่องปัญหาของพี่บอยอีก ไหนๆ พวกพี่เค้าเองก็คอยใจดีกับเรามาตลอด ถ้าเกิดว่ามันจะพอช่วยให้อะไรๆ มันดีขึ้นมาได้ หนูว่า... หนูก็พอจะทำใจรับได้อยู่นะ”

“ถ้างั้น... สรุปว่ากุ๊กแน่ใจแล้วใช่มั้ย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำคำอีกครั้ง ก่อนที่หญิงสาวจะมอบคำตอบยืนยันให้ฟังอีกทีหนึ่ง
“อืม แน่ใจ...” กุ๊กเอื้อมมือไปกุมมือสามีเอาไว้ ก่อนจะพูดต่อ
“พี่โจ้... พี่ยังจำคำพูดที่พี่เคยบอกกับหนูตอนที่เราแต่งงานกันได้มั้ย? ที่พี่เคยสัญญาว่าเราจะคอยดูแลกัน จับมือเดินไปด้วยกัน ไม่ว่ามันจะสุข... หรือว่าจะทุกข์ พี่ยังจำได้ใช่มั้ย?” ภรรยาสาวเอ่ยถาม ในขณะที่อีกฝ่ายก็พยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ

“หนูเชื่อใจพี่นะ ถ้าพี่คิดทบทวนดูดีแล้ว ว่าเรื่องนี้มันจะดีกับชีวิตคู่ของเรา หนูก็ยอมให้พี่เป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง พี่จะพาชีวิตคู่ของเราไปทางไหน หนูก็ไม่มีปัญหา ขอแค่... ถ้าหากว่ามันออกมาไม่ดีอย่างที่คิดไว้จริงๆ... พี่ก็อย่าปล่อยมือหนูไว้กลางทางก็แล้วกัน”

พอสิ้นคำพูด... ร่างของภรรยาสาวก็ถูกดึงเข้าไปซุกไว้ภายใต้อ้อมกอดของสามีทันที...

=======================================

ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์...

หนุ่มโจ้จึงตัดสินใจโทรนัดขอเข้าไปทานข้าวเย็นที่บ้านของหนุ่มรุ่นพี่อีกครั้งในช่วงวันหยุด โดยแอบกระซิบบอกใบ้ให้รู้ว่า ทั้งคู่อาจจะต้องขอนอนค้างคืนที่นั่นด้วย ถ้าเกิดไม่มีอะไรผิดพลาด ซึ่งหนุ่มบอยเองก็รับคำกลับมาด้วยความยินดี

โจ้กับกุ๊กมาถึงบ้านบอยตอนประมาณ 4 โมง เย็นพอดิบพอดี ทั้งหมดนั่งล้อมวงทานอาหารเย็นที่เจ้าบ้านจัดเตรียมไว้ให้ร่วมกันด้วยความเอร็ดอร่อย โดยหนุ่มรุ่นน้องนั้นได้หิ้วเอาเหล้ายี่ห้อแพงติดมือมาด้วยสองกลมเพื่อช่วยสร้างความคึกคักให้กับบรรยากาศ และยังเป็นการช่วยละลายความรู้สึกขวยเขิน ที่กำลังเกาะกุมพวกเค้าทั้งหมดอยู่ในตอนนี้

“ถ้ามีลูกมึงจะตั้งชื่อเล่นลูกว่าอะไรวะ?” หนุ่มบอยเอ่ยถามขึ้นมากลางวงสนทนา
“โห ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยว่ะพี่ คงปล่อยให้กุ๊กเค้าคิดเอาอ่ะ เค้าเก่งเรื่องพวกนี้”
“โหย โยนขี้ให้เฉยเลย... นี่ชื่อลูกนะ ไม่ใช่ชื่ออีเมล์ ช่วยกันคิดบ้างก็ได้นะพี่โจ้”

“ก็ให้กุ๊กลองเสนอมาก่อนไง แล้วเดี๋ยวพี่ช่วยคิดอีกที” โจ้แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“ก็.. ถ้าเป็นหนูนะ หนูว่าให้ชื่อลูกเป็นตัวอักษรเดียวกับชื่อพ่อแม่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเป็นลูกสาวก็ตั้งชื่อด้วย ก.ไก่ ถ้าเป็นลูกชายก็ จ.จาน ตามชื่อพ่อไป แล้วก็... ถ้าเป็นชื่อสัตว์ด้วยก็คงจะน่ารักดี”

“อ้าวทำไมต้องเป็นชื่อสัตว์ด้วยอ่ะ?” โจ้หลุดปากถาม
“เอ๊า ก็พ่อชื่อจิงโจ้ แม่ชื่อกุ๊กไก่ ลูกก็ต้องเป็นสัตว์ด้วยดิ จะได้เข้าแก็ป” กุ๊กตอบทันควัน สมกับความเป็นก็อปปี้ไรท์เตอร์ฝีมือดี
“อือๆ น่ารักดี งั้นถ้าสมมติเป็นลูกสาวล่ะ?” สาวเป้ที่กำลังป้อนข้าวลูกสาวอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นบ้าง

“ก.ไก่เหรอ? หนูว่า... น้องกวาง น้องกุ้ง อะไรงี้ก็น่ารักดีนะ” กุ๊กนิ่งคิดนิดนึงก่อนจะตอบออกมา
“เฮ้ยเอาเป็นสองพยางค์ดิ สมัยนี้สาวๆ เค้าต้องสองพยางค์ไว้ก่อน” โจ้รีบแย้งขัดคอ
“แล้วจะให้ชื่ออะไรเล่า? กระรอก กระแต หรือไง? พี่ก็ลองคิดมามั่งดิ มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำอีก” ภรรยาสาวโวยบ้าง

“ชื่อสัตว์... ก.ไก่... สองพยางค์... นี่เลย กิ้งก่า! ไม่ก็ กูปรี!” เจ้าหนุ่มแสบตอบออกมาหน้าตาเฉย เรียกเสียงหัวเราะฮาครืนออกมาจากวงสนทนา ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ที่หลุดขำจนท้องแข็ง
“โว๊ะไอ้บ้า! ไม่มีสาระเลย” กุ๊กใช้มือตีไหล่สามีตัวเองแรงๆ ไป 2 ที

“ถ้าเป็นลูกชายก็ต้อง จิ้งจก! จิ้งจอก! จระเข้!  จามรี!” ชายหนุ่มยังคงพูดกวนประสาทต่อไป
“พอๆ เลอะเทอะละ ไปหาแม่เด็กที่อื่นเหอะ ถ้าจะให้ลูกชื่อนี้” ฝ่ายภรรยาสาวตัดบทด้วยความรำคาญ
“พี่ว่าอันนี้ก็น่ารักดีนะ ไก่แจ้ ได้ทั้ง จ.จาน กับ ก.ไก่ เลย โจ้กับแจ้ คล้องกันดี” เป้เสนอขึ้นมาบ้าง

“เออใช่ น่ารักดีอ่ะพี่” สาวกุ๊กยิ้มรับคำ ก่อนที่หนุ่มโจ้จะขอเสนอหน้าขึ้นมาบ้าง
“เออพี่ พอพี่บอกมาแบบนี้ผมเลยนึกออกอีกชื่อนึง”
“ชื่ออะไรของมึงอีกล่ะ?” คราวนี้บอยขออาสาเป็นคนชงมุก

“คนโตชื่อไก่แจ้ คนเล็กก็ให้ชื่อไก่โจ้ดีมั้ย? ไก่โจ้บราเธอร์ส” หนุ่มโจ้ที่รออยู่ก็รีบตบมุกทันที
“เล็ทส์โกทูเดอะซี อะทูเดอะซี ทูเดอะซี เล็ทโกซีเดอะซันไรส์.... ถุ้ย! ไอ้บ้า นั่นมันชื่อวงดนตรีโว้ย!”
“ฮ่าๆๆๆๆ!” คราวนี้แม้แต่สองสาวเองก็ยังอดขำกับมุกกระบือของชายหนุ่มไม่ได้
“กูล่ะสงสารกุ๊กกับลูกจริงๆ ที่มีพ่อเด็กกวนตีนแบบมึงเนี่ย” หนุ่มรุ่นพี่ส่ายหัวด้วยความหมั่นไส้

หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป้กับกุ๊กก็ขอแยกตัวไปนั่งเล่นกับเด็กๆ ที่หน้าทีวี โดยที่สองหนุ่มเองก็แยกมานั่งคุยเล่นที่ม้านั่งหน้าบ้านเหมือนเช่นเคย

“เฮ้ย ถามจริงเหอะ.. ที่มึงบอกว่ากุ๊กเค้าพร้อมแล้วเนี่ย มึงซีเรียสแล้วใช่มั้ย?” หนุ่มบอยเอ่ยถามขึ้นมาตรงๆ
“เอ้า จริงดิพี่... ก็เนี่ย กุ๊กเค้ายังเป็นฝ่ายเปิดประเด็นนี้กับผมเองเลยนะ” โจ้ตอบด้วยสีหน้าจริงจังกลับไป
“อืม... ไม่น่าเชื่อเลย แสดงว่าที่เป้ไปคุยกับน้องเค้าวันนั้น แม่งได้ผลจริงๆ ด้วยว่ะ”
“ก็นั่นอ่ะดิพี่ พี่เป้แกโคตรเก่งเลย ไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหน ทำไมกุ๊กเค้าถึงเกิดยอมง่ายๆ ได้แบบนี้”

“แต่กูก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่หรอกว่ะ ขนาดกูเองยังเคยโดนเค้ากล่อมจนเชื่องมาแล้วเลย เรื่องคุยกันด้วยเหตุผลแบบนี้น่ะ เป้เค้าเก่งอยู่แล้ว ใครได้ฟังก็เป็นต้องคล้อยตามเค้าทุกคนนั่นแหละ” บอยตอบพร้อมกับกระดกแก้วเหล้าในมือ
“ถ้างั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้พี่เป้เค้าแล้วล่ะ เอ้า! ชนหน่อยพี่” หนุ่มรุ่นน้องยื่นมือไปขอชนแก้วอย่างอารมณ์ดี

“แต่กูไม่มั่นใจเลยว่ะ ว่าจะทำให้กุ๊กเค้าพอใจได้แบบมึง” หนุ่มบอยเอ่ยถึงความกังวลในใจออกมา เพราะรู้ดีว่าฝีมือของตัวเองนั้นคงไม่อาจเทียบเคียงกับลีลาของไอ้หนุ่มขั้นเทพอย่างโจ้ได้เลย ซึ่งถ้าหากว่าประสบการณ์การแลกคู่ครั้งแรกของพวกเค้านั้นมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก็อาจจะส่งผลให้สาวกุ๊กนั้นเกิดความรู้สึกไม่ประทับใจ และไม่คิดอยากสวิงกิ้งอีกในภายหลังเป็นได้

“โอ๊ย! ไม่ต้องรีบกังวลไปก็ได้พี่ ถ้าพี่กินสมุนไพรที่ผมแนะนำทุกคืนก่อนนอน ยังไงพี่ก็ไม่ป้อแป้หรอก เชื่อผม... แต่ถ้าคืนนี้พี่ยังไม่ค่อยมั่นใจ ไอ้ผมก็เตรียมแผนสอง-ของดีมาให้พี่กินก่อนออกศึกด้วย นี่ไง แคปซูลตราหมูหมามังกรบิน! กินไปแล้วรอแป๊บนึง รับรองว่าคึกคักอึดทนนานแน่นอน” โจ้ชูซองแคปซูลให้หนุ่มรุ่นพี่ดูชัดๆ

“มันจะได้ผลเหรอวะ... ยาพวกนี้?” บอยทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“เอ้า เชื่อผมดิพี่ รับรองว่าเด็ดกว่าคราวที่แล้วอีก คราวนั้นน่ะแค่ปลุกให้เงี่ยน แต่เม็ดนี้น่ะ ทั้งเงี่ยน... ทั้งทนเลยนะฮะขอบอก” หนุ่มโจ้ยกนิ้วโป้งรับประกันอย่างมั่นอกมั่นใจ

สองหนุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าอย่างสนุกปาก ซึ่งทางฝั่งของสองสาวในบ้านนั้น พวกเธอเองก็กำลังแอบกระซิบกระซาบพูดคุยถึงเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน

“กุ๊กแน่ใจแล้วจริงๆ ใช่มั้ย? ไม่ใช่ว่าโดนโจ้บังคับมานะ? ถ้าอึดอัดก็บอกพี่มาตรงๆ ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะไปห้ามโจ้เค้าให้เอง ถ้ายังไม่อยากทำจริงๆ ก็ไม่ต้องฝืนหรอก มันจะทำให้เราไม่มีความสุขเปล่าๆ” สาวเป้ยกมือป้องปากพลางกระซิบไปที่ข้างหูของสาวรุ่นน้อง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เป้ กุ๊กว่ากุ๊กโอเคแล้ว แค่ยังรู้สึก... เขินๆ นิดหน่อย” กุ๊กตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“เอาจริงๆ พี่ก็เขินเหมือนกันนะ พี่เองก็ยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน” สาวรุ่นพี่หมายถึงการสวิงกิ้งแบบสลับคู่ 2 ต่อ 2 นั่นเอง

“แล้วทำไมพี่เป้ดูใจเย็นจังเลย? ไม่กังวลบ้างเหรอคะ?”
“กังวลสิ แต่ว่า... ยังไงซะพี่ก็ยังมีบอยอยู่ด้วยกันใกล้ๆ นี่ไง มันก็เลยพอจะทำให้พี่รู้สึกอุ่นใจอยู่บ้าง อย่างน้อยพี่ก็เชื่อว่าพี่บอยคงไม่มีทางที่จะปล่อยให้มันเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้นกับตัวพี่หรอก ส่วนโจ้เองก็คงจะไม่ปล่อยให้กุ๊กต้องเสียใจเหมือนกัน” สาวรุ่นพี่ให้กำลังใจ

“หนูก็กลัวตรงนี้แหละ ถ้าเป็นพี่บอยก็ว่าไปอย่าง แต่กลัวอีตาพี่โจ้มันจะเล่นอะไรแผลงๆ เจ็บๆ ขึ้นมาเนี่ยสิ” กุ๊กเปรยหวั่นๆ
“ถ้าถึงตอนนั้นเราสามคนก็ค่อยรุมไล่ตะเพิดมันออกไปนอนนอกบ้านก็ได้นะ” เป้ตอบพร้อมกับยิ้มกว้างตาหยี
“แฮ่! ดีเหมือนกัน  แบบนั้นจะได้เข็ดไปอีกนาน”

หลังจากที่ส่งเด็กๆ ขึ้นนอนกันหมดแล้ว ทั้งสี่คนก็มานั่งเอกเขนกคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องรับแขก โจ้กับกุ๊กนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวซึ่งวางอยู่คู่กัน ขณะที่บอยกับเป้ก็นั่งเคียงข้างกันอยู่บนโซฟาตัวยาว ในมือของทุกคนประดับไปด้วยแก้วเหล้าคนละใบ

พวกเขาใช้เวลาพูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องของการสวิงกิ้งสลับคู่ขึ้นมาแม้แต่คนเดียว ทั้งหมดต่างรู้ดีว่า ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกาลเวลาและวิถีทางของมัน คงจะเป็นการดีที่สุด...

“พวกกล่องที่กองอยู่นี่จะเอาไปบริจาคเหรอพี่?” หนุ่มโจ้เอ่ยถามถึงกล่องเก็บของพลาสติกสีใสที่ตั้งกองรวมกันอยู่ข้างๆ ตีนบันได ด้านในบรรจุเอาไว้ทั้งกองหนังสือ เสื้อผ้าเก่าๆ แล้วก็จานชามเป็นชุดๆ  จำนวนของมันทั้งหมดถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
“อ๋อ เปล่าหรอก พอดีเคลียร์ห้องเก็บของข้างบนน่ะ พอใส่เตียงเข้าไปแล้วที่มันไม่พอ เลยขนของบางส่วนลงมา บางกล่องก็ว่าจะทิ้งๆ ไปเลย แม่งรกบ้าน ส่วนบางกล่องก็ว่าจะยกให้ป้าณีเค้า เผื่อเอากลับไปใช้ได้” หนุ่มบอยอธิบาย

“อ่อ... นี่พี่จะทำห้องแยกให้โอมแล้วเหรอ?” หนุ่มรุ่นน้องถามต่อ
“ไม่ๆ เตรียมไว้ให้หลานเป้เค้าน่ะ พอดีลูกพี่ชายเค้าสอบติดที่ม.เกษตรฯ แล้วพ่อแม่เค้าเกิดเป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่หอคนเดียว กลัวจะไปติดเพื่อน เกเรเสียคน ก็เลยอยากให้มาพักอยู่กับพวกกูนี่”

“โห... ไม่เกรงใจกันมั่งเลยน้อ พี่ชายพี่นี่” หนุ่มโจ้หันไปแซวสาวเป้ที่นั่งตาเยิ้มอยู่ด้านข้าง  เหล้าในแก้วดูจะพร่องลงไปพอสมควร
“อาราย.. อาราย...? อีโจ้ ลามปามนะแก เดี๋ยวจะโดน” หญิงสาวทำท่ามองค้อน
“อ้าว พี่เมาแล้วนี่หว่า ไม่เอาดีกว่า ผมไม่ยุ่งด้วยแล้ว เดี๋ยวโดนต่อยอีก” โจ้แกล้งทำท่าสะดีดสะดิ้งหนี

“แล้วแบบนี้จะไม่อึดอัดเหรอคะพี่? อยู่ดีๆ ก็มีคนอื่นเข้ามาอยู่ร่วมในบ้าน เหมือนไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย” กุ๊กเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
“มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกกุ๊ก บ้านนี้มันก็ยังพอจะมีพื้นที่อยู่บ้าง แค่มีเด็กเพิ่มเข้ามาอีกคน ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่หรอก ห้องน้ำก็มีตั้งสามห้อง แบ่งๆ กันเข้าก็โอเคแล้ว” สาวเป้ตอบ มือก็คอยเติมน้ำแข็งใส่แก้วไปด้วย

“อ้าว แล้วงี้เวลาพี่เอากันจะทำไงอ่ะ หลานไม่ตกใจแย่เหรอ ห้องก็อยู่ติดกันแบบนี้” โจ้โพล่งขึ้นมาแบบไม่เกรงใจใคร
“ไอ้เชี่ย... ห้องกูเก็บเสียงโว้ย มึงนี่ก็ช่างสงสัยเหลือเกินนะ” บอยเบิร์ดกะโหลกหนุ่มรุ่นน้องไปเบาๆ หนึ่งทีเป็นการสั่งสอน
“สม...” สาวกุ๊กกล่าวซ้ำเติมสามี

บรรยากาศของวงสนทนาดำเนินต่อไปอย่างคึกคัก เมื่อเหล้าเข้าปากมากขึ้น แต่ละคนก็เริ่มที่จะด้านชากับความรู้สึกเขินอายลงไปทุกที และกว่าที่ทั้งหมดจะรู้ตัว หัวข้อสนทนาตอนนี้ก็เริ่มลงลึกไปถึงเรื่องราวบนเตียงของแต่ละคู่เรียบร้อยแล้ว

“เฮ้ยไอ้โจ้ กูถามไรหน่อยดิ”
“อาฮะ?”
“ตั้งแต่มึงเอาผู้หญิงมาเนี่ย ถึงร้อยคนป่ะวะ?” บอยหย่อนระเบิดลงมาดื้อๆ สาวกุ๊กที่กำลังนั่งเคลิ้มๆ อยู่ถึงกับหูตาสว่างขึ้นมาทันที

“โอ้โหพี่! ถามงี้เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า” โจ้ร้องอุทานออกมาเมื่อโดนเล่นงานโดยไม่รู้ตัว พอหันไปมองหน้าทางภรรยาของตัวเองก็เห็นสายตาดุดันของเธอที่กำลังจับจ้องมาทางเขาอยู่
“นั่นสิ พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน กะล่อนๆ อย่างแกเนี่ย จะเคยจดสถิติมั้ยน้า?” สาวเป้เอาบ้าง ช่วยสุมไฟเข้าไปอีกแรง
“โธ่พี่... จะมาสนใจอะไรกันกับเรื่องพรรค์นี้” โจ้ครางเสียงอ่อย

“ตอบมาเหอะพี่ จะมัวมางุบงิบอยู่ทำไม?” สาวกุ๊กบอกสามีด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ทำให้ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก
“อืม.. มมม” หนุ่มโจ้ก้มหน้านับนิ้วด้วยสีหน้าจริงจังอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมา
“ก็... ไม่น่าถึงหรอกมั้ง... โอ๊ย!! กุ๊กเบาๆ” หนุ่มโจ้ตอบได้แค่นั้นก็ต้องร้องลั่นเพราะโดนสาวกุ๊กที่นั่งข้างๆ หยิกเข้าไปเต็มแขน

“ทุเรศ! ถามแค่นี้ต้องคิดนานขนาดนั้นเลยเหรอ นี่พี่มีอะไรกับใครเยอะขนาดนั้นเลยรึไง?” สาวกุ๊กโวยด้วยน้ำเสียงเคืองสุดๆ
“โอ๊ยๆ! แต่นั่นมันผ่านมานานแล้วนะ โอ๊ย! เดี๋ยวนี้พี่ไม่ได้ไปทำอะไรใครแล้ว ยอมแล้วๆ” โจ้รีบร้องขอความเห็นใจจากเธอ
“แล้วผู้หญิงคนล่าสุดในชีวิตมึงเนี่ย... ใช่กุ๊กรึเปล่าวะ? ฮ่าๆๆ” หนุ่มบอยยังนึกสนุกไม่หาย
“โหยพี่ พอเถอะ แขนผมจะหลุดอยู่แล้วเนี่ย อย่าแกล้งกันดิ” โจ้กระโจนลุกหนีเข้าไปนั่งเบียดแทรกกลางระหว่างรุ่นพี่ทั้งสองคน

“เอ้า... จะเข้ามาเบียดทำไมยะเนี่ย?” เป้บ่นอุบ ร่างของเธอค่อยๆ กระเถิบร่นออกมาจนเกือบที่จะหล่นจากโซฟาอยู่แล้ว
“ขืนนั่งที่เดิมผมก็โดนแม่คุณเค้าหยิกแขนขาดสิครับ พี่บอยไปนั่งแทนผมที ไหนๆ พี่ก็เสี้ยมขนาดนี้” ชายหนุ่มพูดแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้แย้งอะไรออกไป นึกขำๆ กับท่าทีของหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะยอมเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวข้างๆ สาวกุ๊กแทน
“ก็แกล้งมึงมันสนุกนี่หว่า อยากนั่งก็นั่งไปเลยไป๊” บอยพูดด้วยน้ำเสียงแกมสมเพช

หนุ่มรุ่นพี่หันไปโค้งศีรษะให้สาวกุ๊กเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้ม ต่างฝ่ายต่างออกอาการเขินหน้าแดงใส่กัน

“เป็นไงมั่งกุ๊ก ไหวมั้ย? เมารึยังเนี่ย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย น่าแปลกที่ถ้อยคำง่ายๆ ของเขากลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจได้อย่างน่าประหลาด ด้วยความที่ลุคโอปป้าใจดีของหนุ่มบอยนั้น มันช่างตรงใจกับสเป็คของชายในฝันของเธอเหลือเกิน
“ก็โอค่ะพี่ กึ่มๆ นิดหน่อย” กุ๊กตอบออกไป

“มิน่าล่ะ หน้าแดงเชียว เอาลูกอมหน่อยมั้ย?” ชายหนุ่มพูดหยอกหญิงสาว พร้อมกับยื่นลูกอมบนโต๊ะรับแขกให้ หญิงสาวหยิบออกมาหนึ่งเม็ดพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ด้วยความที่ทั้งคู่นั่งข้างกัน จังหวะที่บอยยื่นลูกอมส่งให้กุ๊ก ท่อนแขนของทั้งคู่จึงเผลอแนบชิดเข้าหากัน สัมผัสจากผิวเนื้อเปลือยๆ ของสาวรุ่นน้อง กระตุ้นอารมณ์คึกคักของบอยให้ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นมา

ซึ่งสาวกุ๊กเองก็มีอาการตื่นเต้นไม่แพ้กัน เธอรีบขยับท่อนแขนหลบออกมาโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่เพราะนึกรังเกียจหนุ่มรุ่นพี่ แต่เป็นเพราะสัมผัสอุ่นๆ จากท่อนแขนของอีกฝ่าย มันพาให้ใจของเธอเต้นตึกๆ ตักๆ แบบผิดจังหวะ

“โหย ทีกุ๊กล่ะเทคแคร์จังเลยนะ แล้วเมียตัวเองล่ะไม่คิดจะเป็นห่วงบ้างเหรอค๊าพ่อคุณ” สาวเป้ร้องแซวขึ้นมาบ้าง
“อ้าว ก็เราเห็นเป้ยังไม่ค่อยเมาเลยนี่นา แถมยังมีไอ้โจ้นั่งเกะกะขวางทางอีก” บอยพูดแก้ตัว

“เยี่ยมครับพี่ โยนขี้ให้น้องโจ้อีกแล้ว เฮ้อ อ่ะ พี่เป้ ผมหยิบให้” หนุ่มโจ้ทำเสียงเซ็งๆ พลางเอื้อมมือไปหยิบลูกอมในกล่องยื่นส่งให้สาวเป้ จังหวะที่เธอกำลังยื่นมือมารอจะหยิบนั้น ชายหนุ่มก็แกล้งคว้าหมับจับมือเธอเอาไว้แน่น
“อุ๊ย! มือลื่น...” หนุ่มโจ้แสร้งพูดหน้าตาย ส่วนสาวเป้ก็รีบยื้อยุดดึงมือตัวเองออกมาไวๆ แต่หนุ่มโจ้ก็ยังไล่ตามคว้าไม่หยุด
“โอ๊ย... อีบ้า เล่นอะไรของแกเนี่ย” เป้โวยออกมาเบาๆ ส่วนบอยกับกุ๊กต่างก็หัวเราะให้กับนิสัยเมาแล้วมือปลาหมึกของหนุ่มโจ้

“เออพี่บอย ที่พี่ถามเมื่อกี้ผมเลยนึกขึ้นได้อย่างนึง ว่าหนึ่งในนั้นเนี่ย ก็ต้องรวมพี่เป้ด้วยนะ อิอิ” เจ้าหนุ่มแสบเอ่ยกระเซ้าแหย่
“อีเปรต... เดี๋ยวจะโดน”
“จริงๆ นะพี่ รายเนี้ยจำได้ไม่ลืมเลย เด็ดโคตรๆ” หนุ่มโจ้เอ่ยปากพลางยกนิ้วโป้งให้อย่างยียวน

“เนี่ย... ปากแบบเนี้ย ถ้าโดนพี่เป้ตบจะสมน้ำหน้าให้” สาวกุ๊กเอ่ยเหน็บสามีด้วยอารมณ์หมั่นไส้ หญิงสาวแอบรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาที่ใบหน้าเมื่อได้ยินสามีตัวเองพูดเรื่องนี้ออกมาแบบโต้งๆ น่าแปลกที่เธอฟังแล้วไม่ยักออกอาการหึงหวงหรือโกรธเคืองใดๆ ออกมา หนำซ้ำยังไม่ได้รู้สึกเขินอายเหมือนเช่นทุกที แต่ยังรู้สึกขำขันไปกับคำพูดของชายหนุ่มเสียอีก ดูท่าว่าเราจะเมามากไป... เธอคิด

“เออใช่! เมื่อวันก่อน ตอนผมกับกุ๊กมีอะไรกันอ่ะ กุ๊กเค้าจิ้นถึงพี่ด้วยนะพี่บอย!” จู่ๆ หนุ่มโจ้ก็โพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยเปลี่ยนเป้าหมายมาเล่นงานที่เธอ
“เฮ้ย! พี่โจ้ ไอ้บ้า!” สาวกุ๊กร้องเสียงหลง ถลันเข้าไปหาสามีพร้อมกับเอามืออุดปากชายหนุ่มด้วยความเขิน

หนุ่มบอยที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหูผึ่ง อารมณ์ที่กำลังคึกคักซู่ซ่าเพราะฤทธิ์ยาที่ทานไปก่อนหน้านี้ บวกกับการได้สัมผัสใกล้ชิดกับผิวกายของสาวกุ๊ก ทำให้ชายหนุ่มเก็บอาการเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ลำควยแข็งโด่เด่ ดันนูนออกมาจนเห็นเป็นรูปร่างคับเป้ากางเกง

“เอ้าๆ! กุ๊ก ดูนู่นๆ พี่บอยแกเงี่ยนจนควยแข็งแล้วเนี่ย ลองจับดูมั้ยล่ะ เห็นอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าของพี่บอยใหญ่รึเปล่า?” หนุ่มโจ้เอ่ยแซว พร้อมกับชี้ชวนให้เธอมองอย่างคะนองปาก ความที่กำลังเมาได้ที่ ทำให้ชายหนุ่มเผลอโยนความเกรงอกเกรงใจรุ่นพี่ รวมถึงภรรยาตัวเองทิ้งไปโดยไม่รู้ตัว จากที่ตั้งใจว่าจะมอมคนอื่นๆ กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มเผลอดื่มจนเมาตาเยิ้มเสียเอง
“ไอ้เชี่ยโจ้... ไม่ได้แข็งเว้ย กางเกงมันคับเฉยๆ” หนุ่มบอยแก้ตัวเขินๆ ส่วนสาวกุ๊กนั้นแม้ว่าเธอจะรีบออกปากปฏิเสธเสียงดัง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังอดที่จะลอบสำรวจอาวุธประจำกายของหนุ่มรุ่นพี่ที่เคารพรักไม่ได้อยู่ดี

รอยนูนโค้งที่โป่งออกมาเป็นลำ ทำให้หญิงสาวถึงกับเผลอกลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกเหนียวคอ แม้ว่าจากมุมมองที่ได้เห็นนั้น มันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตพอที่จะเทียบเคียงกับสามีของเธอได้ แต่ก็ด้วยความที่มันไม่ใช่ท่อนลำของสามีเธอนี่แหละ แถมยังเป็นท่อนลำของชายหนุ่มรุ่นพี่คนที่เธอรู้สึกปลื้มนิดๆ อีกต่างหาก จึงทำให้สาวกุ๊กยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเป็นพิเศษ แก้มแดงแป๊ด รู้สึกได้ถึงอาการหนืดๆ เหนียวที่บริเวณหว่างขาของตัวเองขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน

หลังจากผ่านไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง บรรยากาศของวงสนทนาก็ค่อยๆ เงียบเชียบลงไปทีละน้อย ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา จ้องสบตากันด้วยอารมณ์ขวยเขิน บางจังหวะจึงขยับตัวหยิบเหล้าขึ้นมาจิบกันคนละทีสองที ก่อนที่หนุ่มบอยจะเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมาในที่สุด

“เออ นี่ก็ดึกมากแล้ว... เราขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมเข้านอนกันดีมั้ย มึงกับกุ๊กจะได้พักผ่อนด้วย ขับรถมาเหนื่อยๆ” บอยเสนอ
“ก็ได้พี่ งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบถุงเสื้อผ้าหลังรถแป๊บนึงนะ เดี๋ยวมา” โจ้พูดพร้อมกับเดินออกจากบ้านไปไวๆ ทิ้งให้ภรรยาสาวนั่งตัวเกร็งอยู่กับรุ่นพี่ทั้งสองคนเพียงลำพัง
 
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้กุ๊ก พวกพี่ไม่ปล้ำกุ๊กหรอก” เป้เอ่ยปากแซวสาวรุ่นน้อง ด้วยหวังให้เธอคลายความรู้สึกตื่นเต้นลงไปบ้าง
“แฮะๆ เปล่าค่ะพี่” สาวกุ๊กตอบเขินๆ ก้มหน้างุดๆ ไม่กล้าสบตารุ่นพี่

ซักพักนึงหนุ่มโจ้ก็เดินกลับเข้าบ้าน ทั้งหมดจึงพากันอพยพขึ้นไปชั้นบนพร้อมๆ กัน

หนุ่มบอยเดินนำรุ่นน้องทั้งสองเข้ามาในห้องนอน ซึ่งโจ้นั้นแอบคุ้นเคยดีอยู่แล้ว พื้นที่ของห้องค่อนข้างกว้างขวางพอสมควร นอกจากเตียงนอนขนาดใหญ่แล้ว ข้างๆ ยังสามารถวางเบาะที่นอนสำรองเพิ่มลงไปได้อีกหนึ่งผืน โดยที่ยังเหลือช่องให้เดินเข้าออกได้แบบสบายๆ

“โทษทีนะ ห้องข้างๆ มันยังจัดไม่เสร็จเลย ฝุ่นเฝิ่นยังเยอะอยู่ นอนไปจะป่วยเปล่าๆ ถ้ายังไงก็นอนรวมกันห้องนี้ไปก่อนนะ ทนเบียดๆ กันซักคืน” บอยเอ่ยปากขอโทษขอโพยสาวกุ๊ก
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ แค่นี้ก็รบกวนจะแย่แล้ว” หญิงสาวตอบกลับไปอย่างเกรงใจ
“สบายพี่ เบียดกว่านี้ก็ไม่มีปัญหา” หนุ่มโจ้ยังคงอยู่ในอารมณ์ระรื่น

ทั้งคู่รับผ้าขนหนูผืนจากเป้ แล้วจึงขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระคราบไคลจนสะอาดสะอ้าน ส่วนสองสามีภรรยารุ่นพี่ก็ลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างแทน พออาบเสร็จแล้วจึงมานั่งกระจุกรวมกันอยู่ในห้องนอนอีกครั้งหนึ่ง

สาวกุ๊กกับสาวเป้นั่งเป่าผมอยู่ข้างๆ กันที่ปลายเตียง เสียงไดร์เป่าผมสองอันดังสลับกันไปมาตามจังหวะการขยับมือของสองสาว ส่วนหนุ่มบอยก็กำลังนอนเอกเขนกห่มผ้าอยู่บนเตียง ในขณะที่หนุ่มโจ้นั้นยังคงอยู่ในห้องน้ำเป็นคนสุดท้าย ไม่นานเสียงฝักบัวก็ค่อยๆ เงียบลง ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มจะเปิดประตูเดินออกมาในสภาพเสื้อยืดกางเกงบอล พร้อมกับกระบองกลางลำตัวที่คอยแกว่งไกวไปมาในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังก้าวขา

“พี่โจ้! อุบาทว์! ทำไมไม่นุ่งกางเกงใน!?” กุ๊กร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้เห็นของลับของสามี กำลังแสดงอาการตื่นตัวเต็มที่โดยไร้เครื่องพันธนาการใดๆ มาห่อหุ้มมันไว้
“อ้าว... ก็กำลังจะนอน... มันอึดอัดนี่นา ปกติพี่ก็ไม่ได้ใส่นอนอยู่แล้ว ” ชายหนุ่มแก้ตัวหน้าตาย

“บ้าเหรอพี่ นี่ไม่ได้อยู่คอนโดตัวเองนะ เกรงใจพี่บอยพี่เป้บ้าง” กุ๊กทำเสียงดุไม่พอใจ รู้สึกอายแทนสามีตัวเอง
“แต่... กุ๊กเองก็ไม่ได้ใส่ไม่ใช่เหรอ?” แทนที่จะสำนึก เจ้าหนุ่มแสบกลับย้อนถามเธอเสียอีก
“อึ่ก... ก็... ก็ไม่ได้ใส่ แต่ของกุ๊กมันไม่ได้โด่เด่ชี้น่าเกลียดแบบพี่โจ้นี่นา” ภรรยาสาวอ้าง

สภาพของสาวกุ๊กตอนนี้ ท่อนบนสวมใส่เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ ส่วนด้านล่างแม้ว่าข้างในนั้นจะเปลือยเปล่า แต่เจ้ากางเกงวอร์มขายาวสีดำสนิท ก็ยังสามารถปกปิดเนินเนื้อด้านในของเธอเอาไว้ได้อย่างมิดชิด ไม่ต่างอะไรจากสาวรุ่นพี่ ที่สวมเพียงเสื้อนอนแขนยาวกับกางเกงขายาวผ้าแพรสีเขียวอ่อนแบบเข้าชุด โดยที่ข้างในก็โล่งโจ้งล่อนจ้อนเช่นเดียวกัน

“ปิดๆ หน่อยซิโว้ย... ขนาดว่ากูเป็นผู้ชายเห็นแล้วยังสยองเลยเนี่ยไอ้ห่า” หนุ่มบอยเอ่ยปากแซวโจ้ขึ้นมาบ้าง
“โธ่... ก็ของผมมันกินพื้นที่นี่ครับพี่บอย ถ้าใส่กางเกงในนอนมันก็อึดอัดแย่เลย เผลอๆ จะเป็นไข่ดันขึ้นมาอีก” โจ้ตอบอย่างยียวน
“ไอ้ห่า... มึงจะด่าว่าของกูเล็กว่างั้น?”
“โอ๊ย ผมไม่กล้าหรอกครับ มาขอกินข้าวบ้านเค้า มานอนบ้านเค้า แถมเผลอๆ ยังจะล่อเมียเค้าอีก ใครจะกล้าว่าล่ะ?”

“ทุเรศ! พูดมาได้ไม่อายปาก” สาวเป้โวยขึ้นมาพร้อมกับเขวี้ยงหมอนข้างใส่ แต่เจ้าหนุ่มรุ่นน้องก็คว้ารับไว้ได้ติดมือ
“แฮ่ๆ ล้อเล่นน่า งั้นผมนอนก่อนนะ ง่วงแล้ว” จู่ๆ โจ้ก็พูดตัดบทขึ้นมา พร้อมกับขยับตัวเข้าที่เพื่อเตรียมจะนอนดื้อๆ สร้างความประหลาดใจให้กับคนอื่นๆ ว่าอีตาหื่นนี่จะมาไม้ไหนอีก แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าหนุ่มโจ้นั้นดื่มเข้าไปมากพอสมควรทีเดียว ถ้าจะเกิดเมาง่วงหลับไปก่อนก็คงไม่แปลก

พอสองสาวเป่าผมกันเสร็จก็เลยลุกขึ้นไปปิดไฟ แยกย้ายมานอนเข้าคู่กับสามีของใครของมัน

แม้แสงไฟในห้องจะดับลงไปแล้ว แต่ความคิดต่างๆ ในหัวของสาวกุ๊กกลับสว่างโร่จนเธอข่มตานอนไม่ลง สองมือเอื้อมคว้ากอดร่างของสามีเอาไว้แน่นภายใต้ผ้าห่ม เพื่อหวังจะดับข่มอารมณ์ตื่นเต้นที่เกิดขึ้นภายในตัว มันเป็นครั้งแรกของเธอที่ได้มานอนกอดร่างสามีแบบนี้ โดยที่มีคนอื่นนอนอยู่ในห้องเดียวกันด้วย

แม้ว่าบรรยากาศในห้องตอนนี้จะมืดสนิท จนเธอมองอะไรแทบไม่เห็น แต่หญิงสาวกลับรู้สึกเหมือนว่าการกระทำของเธอนั้นถูกรุ่นพี่ทั้งสองจับจ้องมองเห็นอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความมึนเมาที่สะสมค้างคาอยู่ภายในร่าง ทำให้ผ่านไปแค่เพียงไม่กี่นาที หญิงสาวก็ผลอยหลับไปในอ้อมกอดของสามีโดยไม่รู้ตัว

สาวกุ๊กมาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอีกที ตอนที่รู้สึกว่ามีใครบางคน กำลังลูบไล้เรือนร่างของเธออยู่ภายใต้ความมืด หญิงสาวพยายามเพ่งปรับสายตาให้คุ้นชินกับบรรยากาศภายในห้องที่มืดสนิท ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเผลอหลับไปนานแค่ไหนแล้ว

ในห้องนอนตอนนี้มีแต่ความเงียบสนิท... มันเงียบจนถึงขนาดที่ว่าเธอนั้นสามารถได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นอยู่ เสียงเต้นตึ่กตัก ตึ่กตัก ที่กำลังเร่งเร็วระรัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะความตื่นเต้น....

ด้วยความที่อีกฝ่ายกำลังกอดจูบซุกไซร้เธอจากทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวจึงไม่แน่ใจนักว่าคนที่กำลังสัมผัสเรือนร่างของเธออยู่นั้น คือหนุ่มโจ้หรือหนุ่มบอยกันแน่ แม้ว่าเธอจะค่อนข้างแน่ใจว่าคนที่กำลังกอดเธออยู่ก่อนที่เธอจะเผลอหลับคือสามีของตัวเองแน่ๆ ก็ตาม...

จนกระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยปากครางกระซิบเรียกชื่อของเธอเบาๆ ที่ข้างหูนั่นแหละ หญิงสาวจึงรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“อืม... มมม กุ๊กจ๋า หลับอยู่รึเปล่า?” เสียงของหนุ่มโจ้ สามีสุดที่รักกระซิบถามอย่างเย้ายวน พลางพ่นลมหายใจกระทบเข้าที่ใบหูเธอเบาๆ เล่นเอาเธออดสะดุ้งเพราะจั๊กจี้ไม่ได้
“พ... พี่โจ้ ทำอะไรอ่า... อายเค้า” สาวกุ๊กกระซิบตอบกลับไป ฝืนเกร็งจนตัวแข็ง

“น่า... นะ ไม่มีใครเห็นหรอก พี่ๆ เค้าเมาหลับกันหมด” โจ้ยังคงกระซิบยั่วยวน ส่วนมือก็ค่อยๆ สอดล้วงเข้าไปบีบเคล้นทรวงอกอวบๆ ภายใต้เนื้อผ้า ปลายนิ้วสะกิดเขี่ยคลึงที่จุกยอดปทุมถัน ขบงับลงไปที่ติ่งหูของเธอเบาๆ อย่างยั่วเย้า ตวัดลิ้นชอนไชเข้าไปในร่องใบหู หมายมั่นว่าจะต้องปลุกอารมณ์เธอขึ้นมาให้จงได้

“ฮือ... อออ ไม่เอา” กุ๊กเอามืออุดปากร้องครางเสียงสั่น รู้สึกเสียวสยิวจนขนลุกซู่ๆ ไปทั้งตัว แม้ว่าหญิงสาวจะเคยทำใจมาจากบ้านตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่พอเหตุการณ์มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ เธอเองกลับรู้สึกตื่นเต้นตัวเกร็งแข้งขาสั่น หัวใจเต้นโครมครามจนราวกับจะหลุดออกมาจากอก

สามีหนุ่มใช้มือดึงชายเสื้อภรรยาขึ้นมากองพาดไว้เหนือเนินอก ปล่อยให้เต้านมขาวอวบทะลักโผล่พ้นออกมาจากชายเสื้อ ก่อนจะสอดมือทั้งสองข้างมุดเข้าไปบีบขยำเข้าเต็มกำมือ จนเนินเนื้อบริเวณทรวงอกปลิ้นเข้าปลิ้นออกไปมาตามง่ามนิ้ว เจ้าหนุ่มขยำเล่นอยู่พักหนึ่ง พอสาแก่ใจแล้วก็เบนเข็มลงไปสำรวจพื้นที่ตรงส่วนลับด้านล่างของเธอบ้าง

มือขวาที่วางพาดอยู่บนหน้าขาค่อยๆ ล้วงลึกเข้าไปใต้ขอบกางเกง ลูบผ่านพงหญ้านุ่มๆ จนเจอเข้ากับปุ่มโค้งนูนที่โผล่ออกมาจากด้านบนของรอยแยก ชายหนุ่มจึงใช้นิ้วถูคลึงวนไปมาเป็นวงกลมเบาๆ กระชากอารมณ์เสียวสยิวของเธอให้ไหลซึมออกมาจากปากทาง ก่อนจะค่อยๆ ใช้นิ้วแบะถ่างกลีบเสียว พร้อมกับจ่อแยงทิ่มเข้าไปด้านใน

“อือ.... ออออ ฮื่อ... อออ” เสียงครางของสาวกุ๊กชักจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโดนปลายนิ้วกลางของโจ้กดแซะเข้าไปตรงกลางรอยแยก กดจมหายเข้าไปครึ่งข้อนิ้ว ชักเข้าชักออก
“เยิ้มจังเลย... ตื่นเต้นเหรอกุ๊ก?” โจ้กระซิบถามปลุกอารมณ์ ยิ่งเร่งมือตกเบ็ดให้เธอหนักข้อขึ้นไปอีก จนน้ำเงี่ยนหีเธอกระฉอกออกมาเลอะนองเปียกเต็มนิ้ว หน้าขาสั่นกระตุกแบบถี่ๆ ด้วยอาการเสียวเกร็ง

โจ้ใช้นิ้วเล่นกับเธออีกพักนึงจึงค่อยๆ ถอนนิ้วออก ใช้มือรูดกางเกงนอนของเธอลงไปกองค้างไว้ที่บริเวณเข่า ก่อนจะรูดกางเกงกางเกงบอลของตัวเองออกจนหลุดพ้นหน้าขา ปลดปล่อยท่อนลำที่กำลังแข็งโด่เด่ให้ผงาดออกมาสูดอากาศหายใจ กระดกบั้นเอวถูไถลำควยเข้ากับร่องก้นของเธอแบบเนิบๆ เพื่อเร่งกระตุ้นอารมณ์หื่นของอีกฝ่าย

“อึ๋ย...” สาวกุ๊กออกอาการสะดุ้งตัวสั่น รู้สึกได้ถึงท่อนเนื้อที่ทั้งแข็ง ทั้งอุ่น ซึ่งกำลังพยายามบดเบียดถูไถปลายหัวเข้ากับร่องเนื้อสาวของเธอจากทางด้านหลัง

หญิงสาวพยายามเอื้อมมือไปดันหน้าขาของอีกฝ่ายเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันขยับแนบชิดเข้ามาอีก แต่เรี่ยวแรงน้อยๆ ของเธอรึจะไปสู้อะไรกับพละกำลังของหนุ่มโจ้ที่กำลังหื่นขึ้นหน้าได้ ชายหนุ่มใช้มือจับยึดท่อนแขนของภรรยาเอาไว้ ใช้อีกมือที่ว่างอยู่ สอดล้วงเข้าไปดึงรั้งร่างของเธอให้ขยับเข้ามาแนบชิด ก่อนจะแอ่นก้นจ่อควยทิ่มปักเข้าไปที่ปากรูหี พอตรงกันดีแล้วจึงออกแรงเสยควยทิ่มเข้าไปตรงๆ จากทางด้านหลัง

“อุ๊... อื้มมม” สาวกุ๊กหลับตาปี๋ เม้มปากกลั้นเสียงครางเอาไว้แค่ในลำคอ โพรงรักด้านล่างเกร็งขมิบแบบรัวๆ เพื่อช่วยต้านทานความรู้สึกเสียวซ่านที่กำลังค่อยๆ แทรกตัวเข้ามาในร่างของเธอ

ดุ้นเนื้อใหญ่ยักษ์ของชายหนุ่ม ค่อยๆ คลานมุดเข้าไปในโพรงหีของภรรยาอย่างเนิบนาบ พอมันกดเข้าไปได้จนเกือบจะสุดโคนแล้ว หนุ่มโจ้จึงค่อยๆ ขยับตัว ออกแรงซอยกระเด้า พร้อมกับเร่งสปีดให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ

“อึ่.. อืมม.. อืออออ... อาห์.. ซี้ดดดดส์ อาห์” ในที่สุดหญิงสาวก็ฝืนกลั้นไว้ไม่ไหว ต้องยอมลดมือลง พร้อมกับปลดปล่อยเสียงครางหลุดลอดออกมาจากลำคออย่างลืมตัว พอตั้งสติได้จึงรีบเอามืออุดปากตัวเองอีก พร้อมกับหันไปมองทางรุ่นพี่ทั้งสองคนด้วยความระแวงว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเธอ พลันสายตาของสาวกุ๊กจึงเหวี่ยงไปสบเข้ากับสายตาของสาวเป้ ที่กำลังจ้องมองมาทางเธออยู่เช่นกัน

“อื้อ...ออ!” กุ๊กเผลอร้องอุทานออกมา ทั้งๆ ที่ยังยกมือป้องปากตัวเองอยู่ สายตาของเธอเบิกโพลง เมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังแอบเฝ้าสังเกตการณ์คู่ของเธออยู่แบบเงียบๆ ด้วยความที่ตำแหน่งที่นอนของทั้งคู่นั้นอยู่ติดกัน แตกต่างกันเพียงแค่ระดับของที่นอนเท่านั้น ทำให้สาวเป้ที่มองลงมาจากด้านบน สามารถสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

“พี่โจ้... อย่า... พี่เป้เค้าดูอยู่” สาวกุ๊กพยายามกระซิบห้ามสามี หนุ่มโจ้หันไปมองตามทิศทางที่เธอบอก แต่แทนที่จะหยุดมือ เจ้าหนุ่มกลับยิ่งคึกคักชอบใจ ยิ่งออกแรงกระเด้าเย็ดเธอจากด้านหลังแรงขึ้น แรงขึ้น จนภรรยาสาวไม่อาจข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ได้อีกต่อไป
“อ๊ะ... อาห์... อือ... อย่าซี่... อ๊ะ อ๋างสสส ซี้ดดดส์...” สาวกุ๊กหลุดปากครางออกมาดังๆ พยายามก้มหน้ากัดหมอนกรอดๆ เพื่อข่มเสียงครางเอาไว้อย่างทุลักทุเล

การได้ร่วมรักกับสามีต่อหน้าต่อตาคนอื่น โดยเฉพาะกับสาวรุ่นพี่ที่เคยมีอดีตแน่นแฟ้นร่วมกับชายหนุ่ม ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนง่านของเธอให้พุ่งทะยานขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ... อาห์... อ๊ะ... อืม.. มมม โอ๊ย พี่โจ้... โอ๊ย ซี้ดส์.. ฮื่อออ” สาวกุ๊กร้องครวญครางเสียงกระเส่า เมื่อกำลังจะถึงจุดสุดยอดอยู่รอมร่อ

'แช๊ะ' เสียงกดสวิตซ์ไฟดังแทรกทะลุเสียงครางของเธอขึ้นมา พร้อมๆ กับที่แสงไฟสีเหลืองอมส้มจากโคมไฟที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียง ก็พลันส่องสว่างขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ปรากฏเป็นภาพใบหน้าของหนุ่มบอยที่กำลังชะเง้อมองมาที่ทั้งคู่ เช่นเดียวกับสาวเป้

“ว้าย! ตายแล้ว!” กุ๊กร้องกรี๊ดเสียงดัง รีบดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาปิดคลุมร่างตัวเองเอาไว้ด้วยอารามตกใจ
“ปั้ดโธ่... พี่บอย ผมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเพลินๆ จะเปิดไฟทำไมครับเนี่ย กลัวเห็นไม่ชัดเหรอไง?” โจ้ทำเสียงบ่นๆ เซ็งๆ แต่ลำควยยังคงซอยเข้าออกเบาๆ ไม่ยอมหยุด
“โอ๊ย.. ยยย ไม่เอา... หยุดก่อน” กุ๊กพยายามร้องอ้อนขอความเห็นใจ

ในใจของกุ๊กนั้นปั่นป่วนไปหมด เมื่อได้รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของพี่ๆ ทั้งสองคนอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าจะยังมีผ้าห่มปกปิดคลุมกายเอาไว้อยู่ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นกำลังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เต้านมขาวๆ กับร่องหีอวบๆ ปรากฏเด่นหราอยู่ต่อหน้าต่อตาของทั้งบอยและเป้ โดยมีท่อนควยของสามี คอยมุดคว้านเข้าออกอยู่ทางด้านหลังของเธอจนแคมหีปลิ้นน้ำกระฉอก

หญิงสาวพยายามข่มกลั้นเสียงครางเอาไว้ด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อร่างกายของเธอไต่ระดับสูงขึ้นไปจนถึงจุดสุดยอดแล้ว หญิงสาวก็จำต้องยอมพ่ายแพ้แก่อารมณ์ตัณหา ปลดปล่อยเสียงครวญครางโหยหวนออกมาอย่างหมดสภาพ

“พี่บอย... พี่เป้... ยะ... อย่ามองนะคะ ฮืออ... อ๊ะ อ๋ายยยยย สสส... ซี้ดดดส์” สาวกุ๊กครางออกมายาวๆ น้ำเงี่ยนหีแตกทะลักทลายออกมาไม่ขาดสาย ร่างสั่นกระตุกเฮือกๆ ร่องหีขมิบยวบยาบไปทั้งโพรง ฟุบหน้าลงกับเบาะไม่กล้าสบตาใครอีก

“เต็มที่เลยนะกุ๊ก ไม่ต้องเกรงใจพวกพี่” หนุ่มบอยพูดปลอบโยน ใช้มือลูบคลึงเต้านมของภรรยาจากทางนอกเสื้อไปด้วย
“อืม... เบาๆ หน่อยบอย” สาวเป้กระซิบเตือนสามีให้เบามือลง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นตื่นเต้นจนลืมตัว ออกแรงขยำนมเธอจนหญิงสาวรู้สึกอึดอัดไปหมด

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชิงเริ่มเกมไปก่อนแล้ว ทั้งบอยและเป้จึงตัดสินใจเดินเครื่องเริ่มต้นกับคู่ของตัวเองบ้าง

สาวรุ่นพี่หันหน้ากลับไปจูบปากแลกลิ้นกับสามีอย่างเร่าร้อนรุนแรง ภาพการร่วมรักตรงหน้าของสองหนุ่มสาว กระตุ้นอารมณ์เงี่ยนในกายของเธอให้ลุกโชน จนมันเอ่อล้นทะลักฉ่ำนองไปทั่วทั้งง่ามขา ลิ้นของทั้งคู่สอดกระหวัดเกี่ยวรัดกันราวกับงู น้ำลายเหนียวๆ ยืดเยิ้มไหลหยดลงมาเป็นสาย ชุดนอนของทั้งคู่ถูกปลดเปลื้องออกไปทั้งๆ ที่ยังคงประกบดูดปากแลกลิ้นกันอยู่

ผิวกายขาวๆ ของสาวเป้ต้องกระทบเข้ากับแสงไฟเหลืองนวลจนกลายเป็นสีทองอร่ามตา เรือนร่างอวบอิ่มน่าค้นหา ได้กลายมาเป็นจุดสนใจจากทุกสายตาในห้องที่กำลังจับจ้อง ทั้งหนุ่มบอยที่กำลังฟอนเฟ้นนัวเนียอยู่ข้างๆ รวมไปถึงหนุ่มโจ้ที่กำลังบดคลึงท่อนควยใส่หีภรรยาแบบเนิบๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องใช้สายตาลวนลามร่างของสาวเป้ไปพร้อมๆ กัน

ไม่เว้นแม้แต่สาวสวยรุ่นน้องอย่างกุ๊ก ที่แม้จะยังอ่อนล้าจากอาการน้ำแตกไปแบบหมาดๆ จนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่สายตาของเธอนั้นกลับถูกสะกดให้ต้องจับจ้องอยู่ที่ผิวกายขาวเนียนของสาวรุ่นพี่ด้วยความสนอกสนใจ มันเป็นครั้งแรกสำหรับกุ๊ก ที่ได้มาเห็นร่างเปลือยเปล่าของสาวรุ่นพี่คนสนิท แถมยังเป็นการเห็นแบบจะแจ้งชัดเจนเต็มสองตาในระยะประชิดอีกด้วย เธอจึงไม่พลาดที่จะแอบสำรวจเก็บรายละเอียดเบื้องหน้าแบบเน้นๆ

เต้านมขาวอวบคัพซีของเธอยังดูเต่งตึงกลมกลึงน่าสัมผัส เนินหน้าท้องขาวจั๊วะ แอบมีพุงนิดๆ ดูน่าจกขย้ำเล่น โหนกเนื้อด้านล่างอวบอูมโค้งราวกับกระดองเต่า ตรงด้านบนของเนินสาวมีพงหมอยขึ้นยาวเป็นหย่อมๆ ขนาดกำลังสวย ไม่รกจนเกินไป กลีบแคมสีแดงแจ๋สองข้างยังคงประกบปิดเข้าหากัน แม้จะไม่ถึงกับแน่นสนิทแล้วก็ตาม

พอสำรวจเรือนร่างของเป้จนหนำใจแล้ว สาวกุ๊กจึงเริ่มหันเหความสนใจไปยังร่างกายของหนุ่มรุ่นพี่แทน

หนุ่มบอยนั้นเป็นชายหนุ่มร่างสูง รูปร่างค่อนข้างผอมบาง แต่ยังไม่ถึงขั้นแห้งจนเป็นหนังติดกระดูก ซึ่งเมื่อลองนำมาเทียบกับหุ่นของสามีเธอแล้ว รูปร่างของหนุ่มโจ้นั้นจะค่อนข้างสมส่วน และมีกล้ามเนื้อล่ำๆ ที่ดูแน่นกระชับกว่าของหนุ่มบอย ตามประสาของคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

สายตาของกุ๊กพุ่งเป้าจับจ้องไปที่ดุ้นเนื้อตรงกลางหว่างขาของชายหนุ่มแทบจะในทันทีทันใด ขนาดของมันดูจะเล็กกว่าของหนุ่มโจ้อยู่พอสมควร แต่ถึงกระนั้นแล้วมันก็ยังคงยาวเกินกว่าที่สาวเป้จะสามารถใช้มือกำไว้ได้มิด... ภรรยาสาวรุ่นพี่ค่อยๆ ใช้มือถอกรูดท่อนลำของสามีเป็นจังหวะ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดคลึงลงไปบนปลายดอกเห็ด เรียกเสียงครางสูดปากเบาๆ ออกมาจากหนุ่มบอย

“อืม.. มมม เป้... อูย.. เสียวจัง...” บอยแหงนหน้าหลับตา ร้องครางออกมาอย่างพึงพอใจ ส่วนมือที่ว่างอยู่ ก็คอยขยำนมเธอเล่นไปด้วย

สาวเป้ถอกควยให้สามีอยู่ครู่นึง ก่อนจะดันร่างของชายหนุ่มให้นอนหงายลงไปบนเตียง พลิกกลับหัวกลับหาง ปีนคร่อมร่างของชายหนุ่มเอาไว้ ค่อยๆ โน้มศีรษะลงไปจนแทบจะติดแนบชิดเข้ากับดุ้นเนื้อของอีกฝ่าย ก่อนจะแลบลิ้นเลียลงไปที่บริเวณปลายยอดของมัน

“อู๊ยย... สส... สุดยอดเลยเป้ อื้มมม” บอยครางเสียงสั่น แอ่นหน้าขาให้ภรรยาดูดเลียได้อย่างถนัดถนี่ พร้อมกับใช้ลิ้นตวัดเลียร่องเสียวของเธอเป็นการตอบโต้
“อ๋อย... ซี้ดดส์ ระ.. แรงๆ เลยบอย เลียแรงๆ” เป้สั่งการพร้อมกับอ้าปากครอบอมดุ้นเนื้อของอีกฝ่ายเข้าไปเต็มปาก ทั้งดูดทั้งรูดกลืนท่อนลำลงคอไปจนเกือบจะสุดคอหอย พร้อมๆ กับที่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรุ่นน้องสาวที่กำลังจ้องมองบทรักที่เกิดขึ้นตาแป๋ว

ปกติแล้วสาวเป้นั้นไม่ได้เป็นผู้หญิงไฟแรงสูงซักเท่าไหร่ แต่ด้วยบรรยากาศภายในห้องนอนที่กำลังค่อยๆ คุกรุ่นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หญิงสาวเองเกิดอารมณ์หวั่นไหวไปกับมัน เผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศที่เกิดขึ้น และยอมให้ความต้องการในส่วนลึกของร่างกายจิตใจ ขึ้นมามีอำนาจอยู่เหนือเหตุผลและความเหมาะสมต่างๆ เมื่อรู้ว่าสาวกุ๊กนั้นกำลังแอบมองอยู่ จึงยิ่งกระตุ้นอารมณ์หื่นของเธอให้พุ่งทะยาน และเกิดความคิดแผลงๆ อยากลองโชว์ลีลาให้สาวรุ่นน้องได้ดูแบบสุดๆ ไปเลย

เป้ออกแรงดูดเลียท่อนลำของสามีอย่างหื่นกระหาย บดสะโพกกดอัดโคกหีเข้ากับริมฝีปากของชายหนุ่ม ซึ่งอ้าปากรอชิมรสสวาทจากร่องสาวของเธออยู่ก่อนแล้ว แผล่บ... แผล่บบ.. บบ เสียงปลายลิ้นของชายหนุ่มตวัดดูดชิมคราบน้ำรักของภรรยาเข้าไปเต็มคราบ ทั้งดูด ทั้งเม้มไปที่บริเวณติ่งแตดกลมกลึง สองมือก็ดึงรั้งบั้นท้ายของอีกฝ่ายให้กดแนบชิดเข้ามายิ่งกว่าเดิม

“อืมม... มม ฮื่อ... อออ” สาวเป้ครางฮืออยู่ในลำคอ ผงกหัวดูดควยสามีหนักๆ จนแก้มตอบ สอดลิ้นพัวพันเล่นกับปลายหัวบานราวกับว่ามันเป็นอมยิ้มแท่งโปรดของเธอ สลับกับการเปลี่ยนมาใช้ลิ้นลากเลียตั้งแต่ปลายด้าม... ไล่ลงมาตามท่อ... ก่อนจะไปจบอยู่ที่พวงไข่ทั้งสองข้าง เรียกเสียงครางชอบใจออกมาจากปากของสามี ต่างฝ่ายต่างใช้ปากให้กันอย่างเร่าร้อนรุนแรง ราวกับว่าในห้องนอนตอนนี้มีแค่พวกเค้าอยู่เพียงสองคนเท่านั้น...

ทุกๆ การกระทำของบอยและเป้ ล้วนตกอยู่ในสายตาของสาวกุ๊กแบบชัดเจน หญิงสาวไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่ารุ่นพี่ทั้งสองคนที่เธอเคารพรัก โดยเฉพาะสาวเป้สุดห้าวนั้น จะสามารถแสดงลีลาร่วมรักอันร้อนร่านออกมาได้ถึงเพียงนี้

ใบหน้าหมวยๆ ห้าวๆ กับดวงตาขี้เล่นซุกซนของคุณแม่ลูกสองผู้ใจดี ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ร้อนร่านและเสียวสยิว เม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมาบนใบหน้า คิ้วขมวดชนกัน หลับตาปี๋ อ้าปากดูดเลียไปตามท่อนลำของสามีราวกับเป็นผู้หญิงร่านควยคนหนึ่ง

“อือ...ออ  บอย.. เป้ไม่ไหวแล้วอ่ะ... ทำเถอะ... นะ” สาวเป้คายท่อนเนื้อในปากออก ร้องอ้อนวอนด้วยใบหน้าที่กลายเป็นสีแดงจัด ซึ่งหนุ่มบอยที่ได้ยินแบบนั้นจึงรีบขยับตัวลุกขึ้น ดันร่างของภรรยาสาวให้ลงไปคุกเข่าคลานสี่ขา ขยับตัวเข้าไปประกบจากทางด้านหลัง ใช้มือจับเล็งท่อนควยจ่อหัวทิ่มเข้าหาปากรู แต่ยังไม่ทันที่จะได้ออกแรงดันเข้าไป ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงของสาวรุ่นน้องร้องดังขึ้นมาเสียก่อน

“ว้าย! พี่โจ้ทำอะไรอ้ะ!?” กุ๊กร้องลั่นเสียงหลง ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกสามีหนุ่มอุ้มมาวางลงข้างๆ ร่างของสาวรุ่นพี่
“ไอ้บ้าๆๆๆ!!” กุ๊กรีบเอามือปิดหน้า ร้องโวยวายไม่หยุด ทั้งเขินทั้งอายที่ถูกจับลากมานอนร่วมเตียงอยู่กับรุ่นพี่ทั้งสองคนแบบนี้
“ก็เห็นเอาแต่จ้องอยู่ แบบนี้กุ๊กจะได้ดูพี่เค้าชัดๆ ไง... ขอแจมด้วยคนนะครับพี่” หนุ่มโจ้เอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

ทั้งสี่คนในห้องนี้ มีเพียงหนุ่มโจ้คนเดียวที่ดูจะตื่นเต้นน้อยกว่าใครเพื่อน ด้วยความที่ชายหนุ่มเคยได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนอื่นๆ มาจนครบหมดแล้ว แถมยังเคยมีประสบการณ์วาบหวิวร่วมกับทุกคนในห้องนี้มาแล้วด้วย ทั้งในรูปแบบของหนึ่งต่อหนึ่ง รวมไปถึงในรูปแบบสวิงกิ้ง หนึ่งหญิงสองชายก็เคยมาแล้วเช่นกัน จึงทำให้หนุ่มโจ้นั้นไม่มีอาการเขินเกร็งใดๆ เหมือนกับอีกสามคนที่เหลืออยู่

ในขณะที่สาวกุ๊กนั้นอายจนไม่กล้ามองหน้าใคร ฝั่งของบอยกับเป้นั้นถึงกับหยุดกึก ลืมเรื่องของตัวเอง และหันมาจับจ้องมองที่คู่ของรุ่นน้องทั้งสองคนแทน ผิวกายที่ทั้งขาวและอวบอัดของสาวกุ๊ก เต้านมขนาดใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ทำเอาลำควยของชายหนุ่มรุ่นพี่เด้งกระตุกไปมา ห่างจากปากรูรักของภรรยาไปไม่ถึงคืบ หนุ่มโจ้ที่แอบสังเกตเห็นอาการหื่นของอีกฝ่าย ถึงกับอมยิ้มมุมปากชอบใจ

เจ้าหนุ่มแสบค่อยๆ ออกแรงกดควยให้ทิ่มกลับเข้าไปในร่างของภรรยาสาวอีกครั้ง ความเปียกชื้นทำให้ท่อนเนื้ออวบใหญ่มุดหายเข้าไปได้ด้วยการกระแทกเพียงไม่กี่ที สาวกุ๊กสูดปากซี้ดๆ เบาๆ ด้วยอาการจุกหน่วงระคนเสียว หนุ่มบอย พอเห็นเจ้ารุ่นน้องตัวแสบแซงหน้าไปแบบนี้ก็เลยรอช้าไม่ได้ เกร็งสะโพกกดควยส่งเข้าร่องหีของภรรยาตัวเองเช่นเดียวกัน

“อุ๊ย... บอย...” สาวเป้หลุดปากครางออกมาเบาๆ เมื่อดุ้นเนื้อของสามีค่อยๆ มุดแทรกเข้าไปแช่ค้างอยู่ในร่างกายของเธอ
“อืม... เสียวควยจังเลยเป้” บอยกระซิบบอกเสียงหื่น
“อู๊ยย... กุ๊กจ๋า พี่เสียวควยจังเลยรู้มั้ย?” เจ้ารุ่นน้องตัวดีเอ่ยปากล้อเลียนบ้าง
“ไอ้หอก ไม่ต้องมากวนตีนเลย” หนุ่มบอยด่า แล้วจึงเริ่มต้นเดาะบั้นเอวช้าๆ

สองหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาซอยกระทุ้งร่างของภรรยาตัวเองราวกับจะแข่งขันกัน ร่างขาวเนียนของสองสาวสั่นกระเพื่อมไปมาอยู่ข้างๆ กัน เสียงเนื้อตีกระทบหน้าขาดังปั้บ! ปั้บ! ปั้บ! สลับกันเป็นจังหวะ สายตาของหนุ่มๆ ต่างจับจ้องมองไปที่ภรรยาของอีกฝ่ายด้วยความลืมตัว โดยที่ลำควยก็ยังคงมุดเข้ามุดออกในร่องหีภรรยาตัวเองไปเรื่อยๆ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อ ดังปั้บๆๆ สลับกับเสียงครวญครางของสองสาวที่ร้องครางระงมแข่งกัน แอร์ในห้องที่เปิดเอาไว้จนเย็นฉ่ำ ก็ยังไม่อาจช่วยดับความรู้สึกร้อนร่านรุนแรงของสองคู่รักในตอนนี้ได้เลย เม็ดเหงื่อผุดโซมขึ้นมาจนเปียกชุ่มร่างของทั้งสี่คน เช่นเดียวกับร่องรูภายในของสาวๆ ที่กำลังพรั่งพรูออกมาจนเปียกเยิ้มไปทั้งหน้าขา

“พี่เป้นี่ขาวเนียน นมใหญ่ ก้นใหญ่ น่าเย็ดไปทั้งตัวเลยนะครับพี่บอย” หนุ่มโจ้เอ่ยชมภรรยาของรุ่นพี่ตรงๆ
“เออ... เมียมึงก็เหมือนกันแหละ น่ารักแบบนี้ ยังเสือกสะเหร่อไปมีกิ๊กซะได้ ว่ามั้ยเป้?” บอยแซวกลับมา
“อือ.... ออออ... ใช่ โจ้มันซื่อบื้อ... อ๊ะ... อาห์ กุ๊กน่ารักจะตาย ไม่รู้จักดูแลให้ดีๆ” สาวเป้เออออตาม พร้อมกับเป็นฝ่ายเปิดฉากการแลกรักสลับคู่ ด้วยการเอื้อมมือไปลูบไล้เรือนร่างของสาวรุ่นน้องอย่างแผ่วเบา

สาวกุ๊กที่กำลังหลับตาปี๋อยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสหวิวๆ ขึ้นมาที่บริเวณทรวงอก พอลืมตาขึ้นมาจึงพบว่าเป็นมือของสาวรุ่นพี่คนสนิท ที่กำลังคลึงเคล้าเต้านมของเธอ โดยที่สายตาของอีกฝ่ายก็คอยจับจ้องสังเกตอาการของเธออยู่ด้วย

“ว้าย! พี่เป้....” กุ๊กอุทานออกมา รีบเบือนหน้าหลบสายตาเพราะความเขิน เป้เห็นอาการของเธอแล้วยิ่งคึกขึ้นไปอีก
“อึ๋มจังนะเรา” สาวรุ่นพี่เอ่ยปากชมพร้อมกับบีบหมับเข้าไปเต็มไม้เต็มมือ ค่อยๆ โน้มตัวลงมาใกล้ ใช้จมูกดอมดมซุกไซร้เข้ากับทรวงอกขาวๆ ก่อนที่จะค่อยๆ แลบลิ้นเลียไปบนผิวกายนุ่มๆ ของสาวรุ่นน้อง โดยที่ยังคงมีร่างของหนุ่มบอยตามประกบกระทุ้งหีเธออยู่จากทางด้านหลัง

ทุกๆ ครั้งที่หนุ่มบอยออกแรงกระแทก ร่างของสาวเป้ก็จะสั่นกระเพื่อมไปมา ศีรษะโคลงเคลงขึ้นลงตามจังหวะของแรงกระแทก ซึ่งปลายลิ้นของเธอที่กำลังลากเลียวนรอบหัวนมของสาวกุ๊กอยู่ ก็จะคอยเลื่อนขึ้นลงตามไปด้วย เสียงดัง แผล่บ... แผล่บ... บบบ

สาวกุ๊กในตอนนี้ ด้านบนถูกจู่โจมหน้าอก ส่วนด้านล่างเองก็ดูจะหนักหน่วงรุนแรงไม่พอกัน เมื่อโดนท่อนลำของสามี กดกระทุ้งร่องหีอย่างหนัก เสียงผิวเนื้อบดเข้าหากันดังสนั่นลั่นห้อง ชายหนุ่มที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า บังเกิดอารมณ์เงี่ยนง่านลุกโชนขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของสาวรุ่นพี่ ซึ่งกำลังละเลงดูดชิมเต้านมของภรรยาตัวเองอยู่อย่างดูดดื่ม  เต้านมของเธอแกว่งกระเพื่อมขึ้นลงราวกับลูกตุ้ม

“อูย... พี่เป้ทำไมถึงได้เซ็กส์ซี่ขนาดนี้นะ... กุ๊กจ๋า... กุ๊กเสียวมั้ย?” เจ้าหนุ่มเพ้อครางออกมาอย่างลืมตัว

ส่วนภรรยาสาวที่กำลังขบเม้มริมฝีปากเพื่อข่มกลั้นเสียงครางอยู่นั้น ก็ไม่ได้ขานตอบอะไรเขากลับไป ใบหน้าของเธอดูจะบิดเบี้ยวเสียวซ่านมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทนกับความเสียวในร่างกาย ที่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้อีกนานแค่ไหน สติสตังของเธอกำลังเตลิดเปิดเปิงไปไกล ปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไปตามจังหวะกระแทกของอีกฝ่ายด้วยความหฤหรรษ์

“กุ๊กจ๋า... กุ๊กอยากลองควยพี่บอยดูมั้ย?” หนุ่มโจ้เอ่ยปากเชิญชวนภรรยาออกมาตรงๆ หลังจากที่พยายามกลั้นใจอยู่นานสองนาน สาวกุ๊กที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหูผึ่ง ดวงตาเบิกโพลง จับจ้องไปที่ใบหน้าของหนุ่มรุ่นพี่เหมือนกับจะขอคำแนะนำอะไรบางอย่าง ซึ่งจังหวะที่เธอกำลังพยายามจะตัดสินใจอยู่นั้น หนุ่มโจ้เองก็คอยกระทุ้งร่องหีเธอรัวๆ เพื่อพยายามจะปลุกอารมณ์เงี่ยนของเธอไปด้วย

“อึ่... อือ.... ออ โอ๊ยพี่โจ้... มันเสียว.... ฮือ” หญิงสาวละล่ำละลักร้องครางออกมาเสียงหลง แต่ยังคงไม่ยอมหลุดปากพูดยืนยันออกมา
“กุ๊กอยากลองมั้ย อยากลองเย็ดกับพี่บอยมั้ยยย?” โจ้เร่งเร้าถามด้วยเสียงหื่นแบบสุดๆ กดลำควยมุดเข้ามุดออกแคมหีเธอแบบเร็วระรัว จนท่อนลำแทบลุกเป็นไฟ

หญิงสาวโดนปลุกเร้าอย่างหนักจากทั้งข้างบนและข้างล่าง สติสตังเตลิดกระเจิดกระเจิง ในหัวรู้เพียงแค่ว่า... อยากให้ความรู้สึกเสียวซ่านที่กำลังเกิดขึ้นนี้ มันพาเธอเข้าเส้นชัยให้ถึงฝั่งฝันไปเร็วๆ เสียที

แต่จังหวะที่เธอกำลังเสียวซ่านสุดขีด และกำลังจะตอบตกลงอยู่นั้น จู่ๆ ความรู้สึกกังวลก็กลับแผ่ขึ้นมาเกาะกุมจิตใจของเธอเสียก่อน...

“อ๋าา... าาา โอ๊ย...สสส ซี้ดส์ พี่... กุ๊กกลัว...” สาวกุ๊กหลุดปากร้องออกมาเสียงสั่น เผลอเอื้อมมือไปคว้ามือของสาวรุ่นพี่มาบีบเอาไว้แน่นอย่างลืมตัว หนุ่มโจ้ที่หวังจะได้ยินคำตอบโอเคจากปากของภรรยาถึงกับตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่ทำหน้าเหวอแดก อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรต่อไม่ถูก จนหนุ่มบอยที่กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ ต้องเป็นฝ่ายส่งสัญญาณให้หนุ่มรุ่นน้องทำหน้าที่ต่อไปให้สำเร็จเสร็จสิ้น

“ไม่เป็นไรนะกุ๊ก ถ้ากุ๊กยังไม่แน่ใจก็ไม่ต้องฝืนก็ได้” สาวเป้เอ่ยปลอบโยน รู้สึกได้ถึงอาการหวั่นวิตกที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือของสาวรุ่นน้อง ซึ่งยังคงเกาะกุมมือของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตอบอะไรกลับมาก็ตาม ทั้งสองหนุ่มจึงหันมาตั้งหน้าตั้งตาเย็ดหีภรรยาตัวเองต่อไป

“อ๊ะ... อ๋า... อ๋า... าาา ซี้ดส์.. อ๋าาาาาา” เสียงของสองสาวดังระงมออกมาพร้อมๆ กัน ต่างฝ่ายต่างเสียวซ่านสุดขีด รู้สึกได้ว่าตัวเองใกล้จะเข้าเส้นชัยในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
“โอ๊ยพี่โจ้... หนูเสียวมาก... จะเสร็จ... อยู่แล้ว” กุ๊กครวญบอกสามีด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายเร่งกระทุ้งหีเธอเร็วขึ้น
“อาห์... พี่ก็จะแตกแล้วเหมือนกัน” โจ้ครางตอบ

“โอ๊ย.. บอย... ซี้ดส์ อาห์... แรงๆ เลยบอย อ๋อย...” สาวเป้ที่เห็นอาการของรุ่นน้องทั้งสองคน จึงเร่งเร้าร้องบอกกับสามีของตัวเองบ้าง
“อูย... เป้จ๋า หีเป้ตอดใหญ่เลย เราจะแตกเอานะ” สามีครางตอบกลับมา หลับหูหลับตาตะบันบั้นท้ายเธอแบบหนักๆ
“อ๋าย... ยยยยย เอาเลยบอย โอ๊ย! เป้ก็จะถึงแล้วเหมือนกัน โอ๊ย ซี้ดดดดดส์!”

สายตาของแต่ละคู่ ต่างจับจ้องมองไปที่คู่ของอีกฝ่าย ราวกับว่ากำลังมองกระจกสะท้อนอยู่ สีหน้าเสียวซ่านของอีกฝ่าย ยิ่งช่วยกระตุ้นเร้าอารมณ์ของแต่ละคนให้ลอยสูงลิบลิ่วจนถึงขีดสุด ก่อนที่มันจะระเบิดแตกปะทุออกมา

จังหวะที่สาวเป้กำลังจะน้ำแตกนั้น จู่ๆ เธอก็รีบโน้มใบหน้าเข้าไปแนบชิดกับใบหน้าของสาวรุ่นน้อง ก่อนจะประกบบดปากจูบลงไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย ด้วยอารมณ์ที่กำลังเสียวซ่านแบบสุดขีด สาวกุ๊กที่กำลังเงี่ยนได้ที่ จึงเผลอตัว อ้าปากแลกลิ้นจูบสาวรุ่นพี่กลับไปอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่น้ำเงี่ยนหีของทั้งคู่จะแตกทะลักออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน

“อื้ม... อื้ม.. มมม เอ๊าะ.. อ๋อย..  อ๋อย.. ยยยยยย สส.. ซี้ดส์ สะ.. เสร็จแล้ว” สองสาวแหกปากร้องออกมาคู่กันราวกับคู่ดูโอนักร้องสาวที่กำลังขับกล่อมบทเพลงประสานเสียง ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบประกบจูบปากเข้าหากันอีกครั้งในจังหวะที่กำลังถึงจุดสุดยอด โพรงหีขมิบยวบๆ ตอดควยของสามีรัวๆ เป็นจังหวะ หนุ่มบอยฝืนเกร็งได้อีกแค่แป๊บเดียวก็ทนเสียวไม่ไหว กระฉูดน้ำรักพุ่งใส่ร่องหีของภรรยาไปแบบสุดตัว

หนุ่มโจ้มาถึงเส้นชัยไปคนสุดท้าย ชายหนุ่มเกร็งสะโพก สาวควยเข้าออกสั้นๆ เป็นจังหวะอัดถี่ยิบๆ เรียกเสียงครางหลุดออกมาจากปากของภรรยาสาว ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกได้ถึงอาการเสียวเกร็งที่เกิดขึ้นตรงบริเวณปลายหัวควย จึงออกแรงแอ่นสะโพกกดควยทิ่มเข้าไปให้ลึกที่สุด พร้อมๆกับฉีดน้ำเชื้ออุ่นๆ เข้าไปที่มดลูกของสาวกุ๊กจนมันค่อยๆ ไหลเยิ้มและเอ่อล้นออกมา ก่อนที่ทั้งสี่คนจะล้มตัวลงนอนแผ่หลาอย่างหมดสภาพ แต่ละคู่ต่างกอดกันกลมอยู่ข้างๆ กัน

สาวกุ๊กรู้สึกอุ่นวาบอยู่ภายในกาย ได้แต่นอนหอบหายใจแฮ่กๆ กกกอดสามีเอาไว้อย่างหมดแรง มันเป็นความรู้สึกเสียวซ่านแบบสุดยอด ที่หญิงสาวพึ่งจะเคยประสบพบเจอเป็นครั้งแรกในชีวิต... ความรู้สึกที่ได้แบ่งปันความสุขสุดยอดร่วมกับคนอื่นๆ ทีเดียวพร้อมกันถึงสี่คน ความรู้สึกที่ถูกลูบไล้จากมือของรุ่นพี่ รสชาติหวานๆ นุ่มๆ จากปลายลิ้นของอีกฝ่าย มันทำให้เธอตื่นเต้นคึกคักสุดๆ แม้ว่าจะยังคงรู้สึกเขินอายจนแทบไม่กล้าสบตามองหน้าใครๆ ก็ตาม

สัญชาตญาณลึกๆ ของเธอตระหนักได้ในทันทีเลยว่า...

นี่พึ่งจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เป็นแค่ครั้งแรก... และคงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน....





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น