วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566

จุดจบยอดนักเย็ด #10

 
 


==================

“ยังไงนะกุ๊ก...?” ผมถามออกไปโง่ๆ เหมือนไม่เข้าใจที่เธอพูดเมื่อครู่
“ฮือออ.... พี่โจ้.. พี่อย่าโกรธหนูนะ... หนูไม่ได้ตั้งใจ” เธอร้องครวญน้ำตาไหลพราก เล่นเอาผมอดใจอ่อนสงสารเธอไม่ได้ เลยพยายามพูดปลอบใจเธอ แม้ว่าตัวเองจะยังตั้งหลักไม่ถูก
“พี่จะโกรธกุ๊กทำไม? พี่เองต่างหากที่ทำผิดกับกุ๊กก่อน กุ๊กอย่าร้องไห้เลยนะ พี่ไม่โกรธกุ๊กหรอก ไม่มีวัน” เธอได้ยินแล้วก็ปล่อยโฮออกมา คิดว่าเธอคงจะพอโล่งใจอยู่บ้าง ที่ผมไม่ได้แสดงท่าทีต่อว่าต่อขานเธอออกไป
“แล้ว... มันเกิดขึ้นได้ยังไง เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิคนดี” ผมถาม ลูบหัวเธอเบาๆ รอให้เธอสะอึกสะอื้น สูดน้ำมูกฟืดฟาดจนโล่งจมูกอยู่พักใหญ่ๆ พอเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้อยคำก็เริ่มพรั่งพรูออกมา

“คือ... ช่วงที่เราห่างๆ กัน.. กุ๊กเลยไประบายกับเพื่อนบ่อยๆ หลังเลิกงาน พี่พอจะรู้ใช่มั้ย?”
“อืม เพื่อนผู้ชายเหรอ?”
“เปล่า.. ผู้หญิงน่ะพี่ ไอ้มินกับไอ้เอ๋ เพื่อนกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ”
“อาฮะ”
“ก็ไปนั่งกินข้าว กินเบียร์ระบายกับมัน แทบจะวันเว้นวันเลย พอมันเห็นว่ากุ๊กยังซึมๆ ไม่เลิก ช่วงหลังๆ มันก็เลยชวนกันไปเที่ยวผับเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง กุ๊กเองก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่แล้ว คือตอนนั้นในหัวมันเบลอๆ ไปหมด จะคุยกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจ เจอหน้าพี่ก็คุยกันเหมือนเดิมไม่ได้ มันอึดอัดน่ะ ก็เลยไปเที่ยวกับพวกมันบ่อยๆ ไปเมา ไปเต้น มันก็พอจะช่วยคลายเครียดลงไปได้บ้าง”

“อืมม มิน่า พี่เห็นหลังๆ เราดูเหนื่อยๆ เหมือนนอนไม่ค่อยพอ”
“นั่นแหละ พอไปบ่อยๆ เลยได้ไปเจอกับพี่คนนึงที่ร้าน ชื่อพี่ป้อง เค้าเป็นเพื่อนกับพี่อัต พี่ชายยัยเอ๋อีกทีน่ะ เค้าก็ขอไลน์ไป กุ๊กก็งงๆ ไม่เคยเจอใครเข้ามาชวนคุยแบบนี้ ยิ่งเมาด้วย  ก็เลยให้เค้าไปง่ายๆ แล้วไปๆ มาๆ เหมือนพี่เค้าก็มาคุยจีบกุ๊กอ่ะ”
“ก็เลยลองคุยๆ ดู?”
“อือ ก็คุยกันนั่นแหละ แล้วก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวกันอยู่พักนึง แล้วก็เลยมี... นั่นแหละ...” ผมนึกภาพตามที่กุ๊กเล่า พอฟังแล้วอดใจสั่นไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกหึงหวงแปลกๆ แม้จะรู้ดีว่าช่วงนั้นเราก็ห่างกันไปพักใหญ่ๆ แล้ว และกุ๊กเองก็มีอิสระพอที่จะเริ่มคบหากับใครก็ได้ แต่ในใจก็ยังอดหวงเธอไม่ได้อยู่ดี มันเจ็บแปร๊บเมื่อนึกย้อนไปถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ว่ามันเกิดขึ้นเพราะความงี่เง่าของผมเอง

“ไหงถึงไปยอมเค้าง่ายๆ งั้นล่ะ” ผมหลุดปากถามออกไปโง่ๆ
“โธ่พี่อ้ะ! ก็ช่วงนั้นหนูเหงาๆ เคว้งๆ พอมีคนมาคุยด้วย มาคอยเทคแคร์เอาอกเอาใจตอนที่เรากำลังหวั่นไหว มันก็ต้องมีรู้สึกดีๆ ให้บ้างป่ะวะ? ยิ่งพอนึกถึงเรื่องที่พี่โกหกหนูด้วยนะ โห ยิ่งปรี๊ดขึ้นสมอง ใจนึงมันก็ยังลังเลไม่อยากเริ่มคบกับใครเร็วเกินไป แต่อีกใจนึงมันก็แค้นอ้ะ ทีพี่ยังคบคนนู้นคนนี้ซ้อนได้ทีละหลายๆ คน แล้วนี่หนูเองก็เลิกกับพี่แล้ว ถ้าจะเปิดโอกาสกับคนอื่นบ้างมันก็ไม่ผิดป่ะ?” เธอพูดกระแทกเสียงเหมือนประชดนิดๆ

“แล้วคบกันนานมั้ย?” ผมถามเธอนิ่งๆ ไม่แสดงอาการอะไรออกไป
“นานบ้าอะไรล่ะ! คุยกันได้ไม่ถึง 2 เดือน แล้วมันก็ชิ่งหายไปเลย”
“อ้าว! นี่โดนเค้าหลอกฟันแล้วทิ้งเหรอเนี่ย?” ผมหลุดปากถามออกไปโง่ๆ โดยไม่ทันคิดว่ากุ๊กจะโกรธมั้ย
“เออ! ก็โดนมันฟันแล้วทิ้งอ่ะดิ แม่ง...  ตอนจีบเราก็เหมือนจะดี พอใจอ่อนไปที ก็หายหัวไปเลย” กุ๊กพูดทำท่าเคืองๆ ผมเองฟังแล้วก็ไมรู้จะพูดอะไรเหมือนกัน เพราะตัวเองก็มีชนักติดหลังอยู่
“พอเจอแบบนี้ก็เลยยิ่งเซ็ง หลังๆ ก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อนแล้ว พอเมื่อคืนพี่หน่อยพาไปเลี้ยงก็เลยลืมตัว ดื่มซะเมาหัวทิ่มเนี่ย”
“แล้ว... แล้วเค้าเอาเก่งป่ะ? แฮะ แฮะ”
“โอ๊ย ตาบ้า! ไม่เอา! ไม่อยากพูดถึง หงุดหงิด” พอเห็นว่าเธอเริ่มออกอาการไม่พอใจ ผมเลยเปลี่ยนท่าทีหันมาปลอบเธอเบาๆ เพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น

“เสียใจมากป่าว?” ผมพยายามทำเสียงเป็นห่วง มือก็ลูบปอยผมเธอไปด้วยเบาๆ ส่งสายตาอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปหา
“ก็นิดหน่อยอ่ะ มั้ง ไม่รู้ดิ มันก็ออกแนวผิดหวังมากกว่า คือกุ๊กเองก็พอจะมีประสบการณ์กับพี่มาก่อนด้วยมั้ง ไม่ใช่เด็กใสอินโนเซนส์อะไรแล้ว ก็เลยไม่ได้ฟูมฟายอะไรมาก ก็นั่นแหละ มันก็แค่คนมาคุยๆ ลองคบๆ กันเพราะเหงาอ่ะพี่ มันก็ค่อนไปทางผิดหวังมากกว่า ไม่ได้เสียใจฟูมฟายขนาดนั้น สงสัยกุ๊กจะเริ่มตายด้านแล้วมั้ง เฮ้อ”
“จะบอกว่าโดนพี่หลอกไปก่อนแล้ว เลยชินชา ว่างั้น?” ผมแกล้งพูดแหย่ให้เธอด่า
“เออ รู้ตัวนี่ ก็เนี่ย เจอแต่ผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ไง โอ๊ย พูดแล้วขึ้น!” เอ๊า! ตะกี้ยังฟูมฟายร้องห่มร้องไห้ขอโทษขอโพยตูอยู่เลย ตอนนี้จะหันมาด่าตูซะแล้วแม่คุณ เฮ้อ แต่ผมก็โล่งใจนะที่เห็นเธออารมณ์ดีขึ้น อย่างน้อยก็ยังพอจะช่วยปลอบใจเธอได้บ้าง และที่สำคัญ ผมจะได้เริ่มสานต่อปฏิบัติการณ์ที่ค้างคาอยู่ตั้งแต่เมื่อครู่ซักที

“พี่โจ้อ้ะ! เวลาแบบนี้ยังจะเอาอีกเหรอพี่?” เธอร้องเสียงแหว เมื่อโดนผมก้มหน้าไปหอมเธอฟอดใหญ่ มือซ้ายก็ลูบไล้แขนของเธออย่างแผ่วเบา
“เราห่างกันเป็นเดือนๆ กุ๊กไม่รู้เหรอว่าพี่ต้องข่มใจไม่ให้เผลอกอดกุ๊กแค่ไหน” ผมดอมดมใบหน้าเข้ากับหน้าอกอวบๆ ของเธอ สูดกลิ่นกายที่คุ้นเคยผ่านเสื้อยืดผิวหนาสีเทาอ่อน ยิ่งฟังเรื่องราวที่เธอเล่า ยิ่งทำให้ผมหึงหวงจนแทบจะเป็นบ้า ความรู้สึกมันเหมือนกับ กำลังจะสูญเสียของสำคัญบางอย่างในชีวิตและแทบจะหลุดมือไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังตะเกียกตะกายเอื้อมคว้ามันกลับมากอดเอาไว้แนบอกได้เนี่ย มันกลับทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด นี่สินะ คือความรู้สึกที่ผู้ชายหลายคนเคยได้รับ เวลาที่ภรรยาสาวสวยของพวกเค้า แอบหนีมาเล่นซุกซนอยู่กับผมจนเตลิดเปิดเปิง วันนี้มันกลับย้อนคืนมาเล่นงานผมเองเสียแล้ว

“พี่อ่า... ทำไมเป็นคนแบบนี้น้าาาา” เธอทำท่าเหมือนคุณแม่วัยสาวที่กำลังโดนเด็กดื้อตามตื๊อจะเอาของเล่นให้ได้ แถมเจ้าเด็กคนนี้ยังเป็นเด็กทะลึ่งตึงตังมือไม้อยู่ไม่สุขเชียวล่ะคุณ
“ว้ายยย! พี่ ใจเย็น!” เสียงกุ๊กร้องเมื่อโดนมือซ้ายผมตะปบลงไปกลางเป้า ฝ่ามือสัมผัสเข้ากับเนื้อผ้ากระโปรงบานที่ยาวคลุมเข่าเธออยู่ ปลายนิ้วผมค่อยๆ ลากงอครูดเขี่ยไปตามโหนกเนินของเธอ ไล่นิ้วขึ้นไปถึงบริเวณหน้าท้องนุ่มนิ่มขาวเนียน แล้วล้วงมือเข้าไปจากขอบด้านบนของกระโปรง ล้วงทะลุเข้าไปข้างในกางเกงในเธอ จนเจอเข้ากับพงขนกระจุกใหญ่ที่พริ้วไหวสู้มืออยู่เร่าๆ

“โอ๊ยยย... พี่โจ้ จะทำจริงๆ เหรอ?” มันคือคำถามที่ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ ผมค่อยๆ โน้มหน้าเข้าไปชิดกับหน้าเธอ เผยอปากขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดริมฝีปากเข้าประกบกับปากเธออย่างดูดดื่ม เธอขบเม้มริมฝีปากด้วยความพึงใจ บดปากจูบตอบผมอย่างเร่าร้อน คล้ายกับจะดูดกลืนตัวผมเข้าไปให้หมดในคราวเดียว มันคือรสสัมผัสที่ห่างหายจากเราสองคนไปนานพอสมควร ผมดันลิ้นสอดเข้าไปสำรวจโพรงปากของเธอ ขณะที่เธอเองก็ตวัดลิ้นพัวพันไปทั่ว บางจังหวะยังเป็นฝ่ายจู่โจมสอดลิ้นเข้ามาดุนในปากผมด้วยตนเอง ผมประคองตัวเธอขึ้นมานั่งบนเตียงให้ถนัดๆ ใช้มือที่ว่างอยู่ ค่อยๆ ล้วงเข้าไปปลดสายยกทรงของเธอจากด้านหลัง อ้าว ทำไมปลดไม่ได้ซักทีล่ะเนี่ย

“ตะขออยู่ด้านหน้าค่ะพี่โจ้” คำตอบของเธอทำให้ผมร้องอ๋อขึ้นมา โอ้โห ยัยเด็กง้องแง้งคนเดิม เดี๋ยวนี้เธอแสบซ่าจนรู้จักซื้อยกทรงแบบตะขอหน้ามาใส่ด้วยตัวเองซะแล้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ ยกทรงลูกไม้สีฟ้าอ่อน ถูกปลดออกไปอย่างง่ายดาย เต้านมขาวอวบคัพ C ของเธอจึงเด้งออกมาปรากฏตรงหน้าผม หัวนมของมันยังคงเป็นสีน้ำตาลแดงอ่อนๆ ฐานเต้าอวบแน่นและเต่งตึง ไม่มีอาการหย่อนคล้ายให้เห็นเลยแม้แต่น้อย สภาพของมันแทบไม่ต่างอะไรจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้สัมผัส
“อืมมมม นมกุ๊กสวยที่สุดเลยรู้มั้ย?” ผมซุกหน้าเข้ากับสองเต้าอวบอัด ใช้สองมือบีบคลึงไปมา ส่ายหน้าฟอนเฟ้นอย่างชอบใจ
“บ้า! พี่โจ้อ่ะ เล่นเป็นเด็กไปได้” ผมซุกไซร้นมเธอจนหนำใจแล้ว ก็เปลี่ยนมาจู่โจมด้วยลิ้นบ้าง ใช้ปลายลิ้นค่อยๆ ไล่เลียไต่รอบๆ ฐานหัวนมเธอเบาๆ สร้างความสยิวกิ้วและจั๊กกะจี๋ให้เธอไปพร้อมๆ กันในทีเดียว ใช้สองมือค่อยรูดถลกกระโปรงผ้ายืดของเธอจนหลุดออกไปทางหน้าขา กางเกงในผ้าลูกไม้สีฟ้าเข้ารูปโค้งนูนเด่นท้าทายสายตาอยู่ข้างล่าง

ผมค่อยๆ ลูบสัมผัสเข้ากับหน้าขาเธอเบาๆ กุ๊กออกอาการสะดุ้งเล็กน้อย แล้วก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงไป ผมลูบสูงขึ้นมาจนถึงขอบกางเกงในด้านข้าง แซะนิ้วกลางสอดมุดเข้าไปได้นิ้วนึง ค่อยๆ ควานเขี่ยหาปากทางเข้าร่องรักของเธอจนเจอ กลีบแคบที่ประกับกันอยู่ตอนนี้ กำลังสำลักน้ำที่ไหลซึมออกมาจากภายใน จนเปียกชื้นไปทั่วทั้งเป้า พอเขี่ยจนเจอรูแล้วผมก็ค่อยๆ แหย่นิ้วเข้าไปช้าๆ ค่อยๆ แหย่ลึกลง ลึกลง จนมันดูดนิ้วกลางผมเข้าไปมิดข้อ
“อูยยยย อย่าซี่.... ทำไมดื้อแบบนี้นะ” กุ๊กร้องครวญหลับตาปี๋ ปล่อยให้ผมดูดนมและตกเบ็ดเล่นอย่างไร้ทางหนี
“จ๊วบบบบ.... อืมมม... กุ๊กเงี่ยนแล้วใช่มั้ย... จ๊วบบบบ...”
“โอ๊ยยยยย... คนบ้า... ชอบรังแกกุ๊ก... ดูสิ เปียกไปหมดแล้วเนี่ย... อืออออออ”

ผมทั้งดูดทั้งแยง ทั้งบดคลึงเม็ดแตดเธอจนเปียกเยิ้มไปหมด ร่างกุ๊กสั่นริกๆ ร้องครวญครางตามอารมณ์ความอยากที่พุ่งขึ้นสูง ผมค่อยๆ ใช้ลิ้นลากเลียลงมาจากเต้านมของเธอ ไล่ผ่านร่องสะดือสวย ลากลิ้นกดหนักๆ ผ่านท้องน้อยของเธอจนตัวแอ่น แล้วเลี้ยวมาหยุดจูบจ๊วบเข้ากลางเม็ดเสียวของเธอ
“อุ๊ย ซี้ดดดดดดดดดดดดด......!” เธอกระตุกเฮือก สองมือเกาะกุมหัวผมไว้แน่น ผมยิ่งได้ใจใช้ลิ้นขยี้เม็ดแตดแล้วเลียรอบๆ ปากร่องของเธอด้วยความเมามัน เสียงดังแผล่บ แผล่บๆ สู้กับน้ำเสียวที่เริ่มทะลักทะลายออกมาจากโพรง
“อ๊ะ.... อ๊ะ!..... พี่โจ้....... กุ๊กเสียวววววว.....” ผมใช้นิ้วกลางกับนิ้วชี้ แยงอ้ารูหีเธอออกจนกว้าง เกร็งลิ้นเป็นตัววี แล้วแทงพรวดมุดเข้าไปในรู คว้านลิ้นเลียไปรอบๆ โพรงผนัง จนกุ๊กต้องหวีดร้อง แอ่นบดเนินหีกระแทกปากผมพร่วด พร่วดอย่างรุนแรง จนแทบจะเรียกว่าเธอกำลังเย็ดปากผมอยู่แล้ว

ผมเว้นจังหวะ หันมารูดเสื้อผ้าตัวเองออกจนล่อนจ้อน ขยับลงไปนอนหงาย แล้วดึงตัวเธอขึ้นมานอนคร่อม กลับหัวกลับหางจนกลายมาเป็นท่า 69 แล้วเริ่มออกแรงตวัดลิ้นเลียร่องเสียวของเธอต่อจนปากมันแผล่บ ขณะที่กุ๊กเองก็ไม่ยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว เธอค่อยๆ ใช้มือจับรูดถอกหัวควยของผมจนตึง แล้วค่อยๆ ห่อปาก อ้าอมรูดท่อนลำของผมไปจนเกือบครึ่งโคน ค่อยๆ รูดออกมาช้าๆ เม้มหนักๆ ที่บริเวณหัวควยจนผมเผลอสูดปากด้วยความเสียว เราสองคนช่วยกันใช้ปากสร้างความกระสันต์ให้แก่กัน จังหวะที่ผมลงลิ้นหนักๆ กุ๊กก็จะเม้มปากดูดควยผมหนักตามไปด้วย จังหวะไหนที่ผมรัวลิ้น เธอก็พยายามที่จะรัวลิ้นเล่นกับหัวควยบานไปพร้อมๆ กัน

ผมเองเห็นว่าอารมณ์ของเราสองคนกำลังสูงได้ที่แล้ว ก็ขยับตัวเธอลงมาเป็นฝ่ายนอนหงายด้านล่าง เตรียมที่จะสอดใส่ท่อนควยเสียบหีเธอแบบเต็มสูบ ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นได้
“กุ๊กยังกินยาอยู่รึเปล่า?” เธอพยักหน้าเป็นการตอบคำถามของผม พอรู้แบบนี้แล้ว ผมจึงค่อยๆ กดท่อนควยมุดเข้าไปทันที ความเปียกชื้นของร่องหลืบทำให้ท่อนเอ็นมุดเข้าไปได้โดยง่าย แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังค่อนข้างบีบรัดและตึงแน่นอยู่เหมือนเดิม
“อืออออ พี่โจ้ เบาๆ หน่อย” สองมือของกุ๊กตีหลังผมเบาๆ เป็นการเตือน
“จ้า... พี่จะทำเบาๆ นะ” ผมค่อยๆ สาวควยเข้าออกช้าๆ ทั้งที่ยังมุดเข้าไปได้ไม่เต็มลำ กะว่าจะช่วยสร้างความคุ้นชินให้กับร่องรักของกุ๊กเสียก่อน ด้วยความที่เราสองคนก็ห่างกันไปหลายเดือนแล้ว

ผมแดะเอวกระเด้าเบาๆ อยู่ราวๆ 3 นาที น้ำหีของกุ๊กก็ไหลนองจนเยิ้มไปทั่วที่นอน ใบหน้าของเธอตอนนี้แดงซ่าน นัยน์ตาหยาดเยิ้มด้วยความเสียว สูดหายใจหนักๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ร่องรูด้านล่างก็เริ่มขยับขยายอ้าอมท่อนลำของผมเข้าไปได้จนเกือบจะมิดลำดี ผมค่อยๆ ฉีกสองขาของเธอแบะอ้า ไปวางพักไว้บนไหล่ เอามือช้อนก้นเธอขึ้นสูง จับยึดเอวเธอไว้เพื่อที่จะได้ออกแรงกระเด้าได้ถนัดๆ
“อ๊ะ!..... อ๊ะ!..... อ๋าาาาาา.... พี่โจ้.... ซี้ดดดดดดด... อ๋าาาาาา” กุ๊กครางเสียงหลงเมื่อโดนผมกระเด้าเอวเย็ดหีเธออย่างจัง เต้านมขาวๆ ของเธอตอนนี้แกว่งไปมาด้วยแรงกระเพื่อม เสื้อยืดแขนยาวถูกถลกขึ้นไปคาไว้บนเนินอก เซ็กซี่น่าดูชม กุ๊กหลับตาปี๋ เม้มปากเพื่อข่มอารมณ์ แต่แน่นอนว่าความเงี่ยนย่อมไม่เคยปราณีใคร และสาวหมวยตัวน้อยอย่างเธอก็ต้องยอมสยบให้กับสัญชาตญาณที่สืบต่อกันมาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความเสียวซ่านที่ช่วยขับหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาจากสมองของเรา

“อืมมมมม เสียวมั้ยกุ๊ก กุ๊กเสียวหีมั้ยครับ?” ผมถามกระตุ้นอารมณ์เธอเหมือนแต่ก่อนที่เราเคยเย็ดกัน
“งืออออออ..... เสียววววว.... กุ๊กเสียววววว...” เธอครางออกมายาวๆ น้ำตาเล็ดออกมาเบาๆ จนไหลเป็นทาง
“พี่ก็เสียว.... เหมือนกัน อืมมมม หีกุ๊กตอดควยพี่ไม่หยุดเลย” ผมเย็ดไปปากก็พร่ำเพ้อไปด้วย กระแทกเธอในท่านี้อยู่อีกราวๆ 6-7 นาที ก็เริ่มจะเมื่อย เลยจับเธอนอนตะแคงหันหลัง แล้วยกขา สอดควยเสียบเข้าไปจากด้านข้าง ท่านี้ดันให้ควยผมเข้าลึกจนเหมือนกับจะชนผนังด้านในของเธอ

“อู๊ยยยยยยย... พี่โจ้... มันแน่น”
“กุ๊กรู้มั้ย...? พี่ไม่เคยเย็ดใคร... แล้วมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย” ผมกระซิบบอกเธอข้างหู ทั้งๆ ที่ยังกระเด้าควยเย็ดเธออยู่ เสียงเนื้อกระทบกันดัง ป้าบ!...... ป้าบบบบบ!..... ช่างเป็นการบอกรักที่โรแมนติกเสียจริงๆ สิให้ดิ้นตาย
“อือออออ.... อาาาาห์.... อื๊ออออ พี่โจ้..... ก็พูดไปเรื่อยย... อุ๊ย”
“ฮืมมมม จริงๆ นะ... กุ๊กนี่แหละ.... เย็ดมันที่สุดแล้ว... อูยยย กุ๊กจะเสร็จแล้วเหรอ... ข้างในตอดควยพี่จังเลย”
“ฮือออ... กุ๊กจะไม่ไหวแล้วน้าาา....” เธอครางออกมาเสียงอ่อน ผมเห็นแบบนี้เลยตัดสินใจว่าจะเสร็จไปด้วยกัน พร้อมๆ กับเธอ
“อืมมมม กุ๊กเสร็จพร้อมกับพี่นะ น้ำแตกพร้อมกันนะ ฮึบ..!” ผมจับเอวเธอแน่น แล้วออกแรงกระแทกควย สาวท่อนลำเข้าออกยาวๆ อย่างรวดเร็ว เสียงดัง ปั้บบบบ.....! ปั้บบบบบบ!.... ปั้บบบบบ...บบบ..! ปั้บบ...บบ.....บบบ! สนั่นลั่นห้อง ขากุ๊กแบะอ้าชี้ฟ้าข้างนึง แอ่นก้นบดสู้กับควยผมอย่างถึงใจ ไม่นานผมก็เสียวหัวควยจนเริ่มจะทนไม่ไหว

“โอ๊ย กุ๊ก พี่จะแตกแล้วนะ ...”
“อืออออ กุ๊กก็จะเสร็จแล้วเหมือนกัน...” ปั้บบบบ.....! ปั้บบบบบบ!.... ปั้บบบบบ..!
“โอ๊ะ.....! พี่แตกแล้ว!” ผมกระฉูดน้ำควยเหนียวขุ่นเข้าไปเต็มโพรงสวาทของน้องกุ๊กสุดที่รัก เสียวแปร๊บไปทั้งตัว แต่ยังพยายามบดอัดกระแทกควยเป็นจังหวะส่งท้าย เพื่อเร่งเร้าอารมณ์ให้เธอเสร็จสมไปด้วยกัน แล้วก็สำเร็จครับ กุ๊กเริ่ดหน้า ตัวกระตุกเฮือก ภายในขมิบตอดหีเป็นจังหวะตุบ ตุบ ร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง บ่งบอกว่าเธอเองก็ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดตามผมไปแบบติดๆ เรานอนกอดกันอย่างหมดแรง คลอเคลียซุกไซร้ใบหน้าเข้าหากันอย่างสเน่หา

“กุ๊กอาจจะเบื่อคำนี้แล้วก็ได้ แต่พี่อยากบอกกุ๊กจริงๆ นะ ว่าพี่รักกุ๊กที่สุดเลย” ผมนอนสบตากับกุ๊ก ลูบผมเธอเบาๆ ไปด้วย
“ฮึ บอกรักแต่ปาก ผู้ชายคนไหนก็พูดได้อ๊ะป่าว?” เธอพูดพลางทำหน้าไม่เชื่อ
“จริงๆ นะ พี่ยืนยันเลยว่าต่อจากนี้พี่จะรักกุ๊กคนเดียว ไม่หนีไปมีสาวที่ไหนอีก สัญญาเลย”
“จะแคร์อะไรกับคำสัญญาลมปาก... ไปทำตามใจที่เธอมีไว้ให้เค้า” กุ๊กยังแกล้งร้องเพลงล้อเลียนผมอีก
“อ๊ะ! รู้แล้ว! ถ้างั้นเราสองคนมาแต่งงานกันมั้ย? กุ๊กจะได้เชื่อซักทีว่าพี่รักกุ๊กคนเดียวจริงๆ” ผมโพล่งขึ้นมา
“เฮ้ยยยยย! พี่โจ้! ไอ้บ้า! นี่พี่ขอกุ๊กแต่งงานทื่อๆ แบบนี้เลยเหรอ!? โหยยยยยยยยยยย โคตรไม่โรแมนติกเลยอ้ะ ไม่เอ๊าาาาา”
“เอ้าๆๆ ขอโทษๆๆ ก็พี่ไม่รู้จะทำยังไงให้กุ๊กเชื่อจริงๆ นี่นา น่านะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ตกลงจะแต่งงานกับพี่ป่าว อิอิอิ”

“โหๆๆๆ ใจเย็นลุง ใจเย็น ขอแต่งงานนะไม่ใช่ขอคบเป็นแฟน ขอคิดก่อนได้เปล่าล่ะ” เธอตอบทั้งๆ ที่ใบหน้ายังฉีกยิ้มกว้างแทบถึงหู
“อ่ะ ก็ได้ๆ แต่อย่าคิดนานนะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนใจซะก่อน”
“อ้าวๆ ไอ้นี่! พึ่งจะใจอ่อนยอมคืนดี มาพูดแบบนี้อีกแระ จะให้เชื่อใจได้มั้ยเนี่ย?”
“โอ๋ๆๆ เชื่อได้สิคะ นี่พี่ก็ยอมให้กุ๊กคนเดียวเลยนะเนี่ย รู้มั้ยว่าพี่ไม่เคยหลงผู้หญิงคนไหนเท่านี้มาก่อนเลยนะ”
“อ้าว ตกลงแค่หลงหรอกเหรอ ไอ้เราก็นึกว่ารัก” เธอยังแกล้งยั่วผมให้จนมุมอีก
“รักจ้ารัก แหม นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ปล่อยเลยนะแม่ก็อปปี้คนเก่ง”
“ฮิฮิฮิ”

“ตกลงว่าไงเนี่ย จะยอมรับคำขอพี่เปล่า?” ผมยังคงถามย้ำหนักแน่น
“โหยยย พี่โจ้จะเอาคำตอบตอนนี้เลยจริงๆ เหรอ?” กุ๊กเสียงอ่อยเพราะคิดว่าผมพูดเล่นมาตลอด
“จริงดิ ตัดสินใจกันตอนนี้แหละ เอาให้ชัดเจนไปเลย ถ้ากุ๊กตอบปฏิเสธ พี่ก็จะได้รู้ว่าต้องยอมตัดใจจากกุ๊กซักที”
“โห ไอ้บ้า แบบนี้ก็บีบให้กุ๊กต้องยอมตกลงชัดๆ เลยนี่นา ขี้โกงอ้ะ!” เธอพูดงอแงเสียงดัง
“ไม่รู้ล่ะ ตอบมาเลย เร็วๆ อย่าลีลา”
“ฮึ่ม.... เอออออ กุ๊กยอมแต่งด้วยก็ได้..” เธอตอบรับคำขอของผมในที่สุด
“เฮ้ย!! จริงเหรอกุ๊ก กุ๊กพูดจริงนะ!?” ผมดีใจน้ำเสียงลิงโลด
“แต่ว่า.... พี่ต้องสัญญามาก่อน”
“สัญญาอะไร บอกมาเลย สบายมาก” ผมตอบออกไป แม้ในใจจะแอบหวั่นๆ เล็กๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น