วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รักนี้ขอลิขิตเอง ตอน 2

 

คืนนั้นหลังสอบเสร็จ “ริน..เรามาฉลองสอบเสร็จกันดีกว่า…” วรินทร์มองพี่ชายอย่างสงสัย “ฉลองอะไรพี่เชิด…”
“เพื่อนพี่มันสอนเรื่องท่าหกเก้า-เก้าหกมา..” วรินทร์มองพี่ชายอย่างงง ๆ “ข้อสอบเหรอ ? มันอะไรกัน ?”
“มา ๆ พี่จะสอนให้..รินอาบน้ำแล้วไม่ใช่เหรอ..” วรินทร์พยักหน้ารัก “งั้น..รอพี่แป๊บ..ขออาบน้ำให้ตัวหอม ๆ ก่อน”
วรินทร์มองพี่ชายที่รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วอดยิ้มขำ ๆ ไม่ได้ “หกเก้า-เก้าหก ๆ ๆ ๆ” เธอท่องพึม ๆ
ตอนแรกวรินทร์ไม่เข้าใจหรอกว่ามันคืออะไร มันเป็นตัวเลขในข้อสอบหรือไงหนอ
เธอมาคิดดูแล้วมันไม่น่าจะใช่ หรือว่าพี่เชิดมีมุกตลก ๆ มาเล่าให้เธอฟัง ยิ่งคิดวรินืร์ก็ยิ่งงุนงง
ตัวเลขประหลาด ๆ หกเก้า-เก้าหก เธอเลยตัดสินนอนหลับตานิ่ง ๆ ปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลาย

วรินทร์นอนนิ่ง ๆ ครู่เดียวเธอเริ่มเคลิ้มลงเป็นกึ่งหลับกึ่งตื่น เธอรู้สึกว่ามีมือหนึ่งมาเลิกกระโปรงชุดนอนของเธอขึ้น
สภาวะของเธอเหมือนฝัน วรินทร์รู้สึกว่ากระโปรงของเธอถูกถกขึ้นมากองอยู่บนท้องน้อยเรียบร้อยแล้ว
มือทั้งสองลูบไล้ไปตามขาอ่อนอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล สลับกับใช้ปลายเล็บเกาเบา ๆ ไปตามนวลเนื้อ
วรินทร์รู้สึกซ่านสยิวและสบายเนื้อสบายเหลือกำลัง มากจนไม่อยากลืมตาขึ้นมอง นิ้วมือเกาผ่านเข้าไปยังซอกขา
ปลายนิ้วเกาลากยาว ๆ ตั้งแต่ขอบกางเกงในลงไปจนถึงหัวเข่า แล้วเกาย้อนสวนขึ้นมาจนถึงริมกลีบเนื้อ
เสียวสบายมากจนขาทั้งสองของวรินทร์ค่อย ๆ ขยับอ้าออกกว้างขึ้น เพื่อให้ฝ่ามือและปลายนิ้วลูบพริ้วไปทุกซอกทุกมุม
ขาทั้งสองของวรินทร์ขยับอ้าออกกว้างเรื่อย ๆ จากนั้นจึงขยับชันเข่าขึ้นนิด ๆ แล้วแบะอ้าออกให้ซอกขาเปิดกว้าง
ปลายนิ้วชี้เปลี่ยนไปกรีดเบา ๆ ที่ตรางกลางของเป้ากางเกงในที่ปรากฎรอยเปียกเยิ้มเป็นวงกลม

“อืมมม…” เสียงวรินทร์ครางออกมาแผ่วเบา เธอสบายจนไม่อยากลืมตา อยากล่องลอยอยู่ในห้วงฝันหวานให้นานแสนนาน
พี่เชิดของเธอทำให้เธอสบายแบบนี้บ่อย ๆ และบ่อยจนเธอติดอกติดใจเหมือนติดยาเสพติด
ปลายนิ้วกรีดลากขึ้นแล้วลากลง จากนั้นบดวนปลายนิ้วเป็นวงตรงตำแหน่งเปียก ๆ
อูย…สบายเหลือเกิน เสียวซ่านจนอยากแอ่นก้นขึ้นรับมือรับนิ้ว และสวนตอบโต้สันมือที่บดวนหนัก ๆ
วรินทร์สนองตอบอย่างใจปรารถนา เธอขยับเอวแอ่นร่อนสะโพกผายลอยร่อนขึ้นรุกรับทุกจังหวะ

“ริน…” เสียงเรียกแผ่วเบาจนวรินทร์นึกว่ามันลอยล่องมาจากฟากฟ้าสวรรค์
“อึมมม…” เธอตอบรับแผ่วเครือด้วยคอแห้งผาก มือทั้งสองจิกกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น
“ไม่อยากรู้เรื่องหกเก้า-เก้าหกแล้วเหรอ ?” ไม่ใช่ฝันนี่นา เสียงนี้เป็นเสียงของพี่เชิดจริง ๆ ด้วย พี่เชิด..
วรินทร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ เชิดภักดิ์จ้องมองเธอเขม็ง “แก้มรินแดง..น่ารักจัง…” เธอยิ้มรับคำชม
“สบายมากใช่เปล่า ?” วรินทร์พยักหน้า “รินนึกว่าฝันไปเสียอีก..”
“พี่เคยทำสิ่งไม่ดีกับรินเหรอ ?” วรินทร์ส่ายหน้าตาเป็นประกาย “รินรู้ว่าพี่เชิดรักรินและให้แต่สิ่งดี ๆ กับรินเสมอ”
“มา ๆ มาให้พี่สอนเรื่องหกเก้า-เก้าหกดีกว่า…” วรินทร์พยักหน้า “มัน..มัน..คืออะไรนะหกเก้า-เก้าหก…พี่เชิด”
เชิดภักดิ์ยิ้มแบบเจ้าเลห์ “ไอ้นนท์มันสอนพี่มา…” วรินทร์ยิ่งรู้สึกสงสัยเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“ไหนพี่เชิดอธิบายให้รินฟังซิ พี่นนท์สอนอะไรพี่..?” เชิดภักดิ์ฟุบตัวไปนอนกอด ส่วนมือยังลูบไล้กลีบเนื้อนอกกางในของเธอต่อไป

“ก็กลับหัวกลับหางกันนะริน…” วรินทร์หอมแก้มเชิดภักดิ์แต่เธอก็ตามสิ่งที่เชิดภักดิ์บอกไม่ทัน
“ให้พี่นอนอยู่ข้างล่าง ให้รินขึ้นไปคร่อมพี่ข้างบน โดยรินหันไปทางปลายเท้าแล้วหันก้นมาที่ตรงหน้าพี่ ลองทำดูซิ”
“หือ..ไอ้อาวว..น่าเกลียดออก..แบบนั้น…” เชิดภักดิ์หัวเราะร่วน “ลองทำดูหน่อยนา..ไม่น่าเกลียดหรอก..”
วรินทร์ยังส่ายหน้า “นะริน..ลองทำดู พี่ชักอยากเห็นท่าแบบนั้นของรินเหมือนกัน มา ๆ มาลองหน่อย”
วรินทร์ส่ายหน้าริก ๆ “เดี่ยวพี่เชิดซวยตายเลย…” เชิดภักดิ์ยิ่งหัวเราะใหญ่ “พี่ไม่กลัวซวยหรอกริน…”
วรินทร์ยังส่ายหน้าไม่หยุด “แบบที่ทำอยู่นี่ก็ดีแล้ว พี่เชิดทำให้รินเสร็จรินก็ชักว่าวให้พี่…ดีจะตายไป”
“น่า..ลองดูหน่อย…จะได้มีอะไรใหม่ ๆ เล่นกัน” แต่สิ่งที่เชิดภักดิ์ไม่บอกวรินทร์ก็คือ
ไอ้นนท์มันอธิบายให้เชิดภักดิ์ฟังถึงการใช้ลิ้นเลีย ตอนแรกเชิดภักดิ์ได้ฟังก็ค่อนข้างตกใจ
แต่พอฟังประสบการณ์ของไอ้นนท์ที่มันเล่าให้ฟัง เชิดภักดิ์จึงคิดอยากทดลองทำดูบ้าง
แต่เขาก็ไม่กล้าบอกวรินทร์ไปทั้งหมดหรอก เชิดภักดิ์กลัววรินทร์จะไม่ยอม
อีกอย่างหนึ่งเชิดภักดิ์อยากมองเนินอวบของวรินทร์ที่อยู่ในท่าโก้งโค้งคร่อมตัวเขาเอาไว้แบบนั้น
มันคงน่าตื่นตาตื่นใจเกินบรรยาย เชิดภักดิ์จับสองอย่างมารวมกันเขาบอกอย่างหนึ่งกับไม่บอกอีกอย่าง

“น่าริน..ลองดู..ไม่ดีเราก็ไม่ต้องทำมันอีกก็แล้วกัน..นะ…นะ..” เชิดภักดิ์ก้มลงจูบหน้าฝากวรินทร์ฟอดใหญ่
วรินทร์หลับตาพริ้ม ใจหนึ่งอยากลองแต่ก็รู้สึกอาย ๆ ที่ต้องขึ้นไปคร่อมเอาโคกไปร่อนตรงหน้าของพี่ชาย
เชิดภักดิ์จูบปากจิ้มลิ้มแล้วสอดลิ้นเข้าไปพันลิ้นของวรินทร์ที่ตวัดพันกับลิ้นเขาอย่างรู้งาน
เสียงจ๊วบ ๆ ได้ยินชัดยามที่ทั้งสองดูดปากกัน เชิดภักดิ์ถอนปากขึ้น “ดีจัง…” เขายิ้มพึมพำออกมา
วรินทร์เองก็พยักหน้า “วันนี้พี่เชิดทำให้วรินทร์สบายจัง…” เชิดภักดิ์หัวเราะ “ตกลงรินจะลองหกเก้า-เก้าหกหรือเปล่าละ ?”
“ดีแน่นะ…?” วรินทร์ถามโดยไม่มองหน้าเชิดภักดิ์พี่ชายของเธอ “ดีซิ…ทดลองดูหน่อยก็แล้วกัน…”
ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจพยักหน้ารับ ความจริงวรินทร์เองก็อยากลองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ให้พี่ชายถามย้ำหลาย ๆ ครั้งแค่นั้น
วรินทร์ข่มความขยับดันตัวของเชิดภักดิ์ให้นอนหงายลง เชิดภักดิ์รีบประคองให้เธอพลิกตัว
วรินทร์ขยับพลิกตัวหันหัวไปทางปลายเท้าปล่อยให้เชิดภักดิ์ประคองก้นของเธอยกมาคร่อมตัวเขา

เชิดภักดิ์รูดกระโปรงชุดนอนขึ้นไปไว้บนเอว เขายื่นมือไปลูบไล้กางเกงในสีขาวแล้วลากนิ้วลงมาตามร่องก้น
ใช้ปลายนิ้วโป้งบดตรงบริเวณรอยเปียกเป็นวงอีกครั้ง วรินทร์เสียวจัดจนต้องขยับส่ายยิก ๆ ขึ้นลง
เชิดภักดิ์เงยหน้าขึ้นมองเนินเนื้อของวรินทร์ที่ย้อยเป็นพูลงมาอย่างตื่นตาตื่นใจ แม้จะยังมีกางเกงในกั้นอยู่
เชิดภักดิ์ไม่เห็นเนิน..เนิน..เขาอยากจะเรียกแบบเต็ม ๆ เหมือนที่ไอ้นนท์มันเล่าให้เขาฟังว่าแฟนของมัน
ไอ้นนท์เล่าเชิดภักดิ์อย่างหมดเปลือกว่าเนินหีของทิพย์แฟนของมันโคกดี หีใหญ่ แต่หมอยดกไปหน่อย
เชิดภักดิ์อยากจะพูดคำหยาบแบบนั้นกับวรินทร์บ้างเหลือเกิน ตอนนี้เขาพูดกับวรินทร์ได้เพียงแต่คำว่าหมอยเท่านั้นเอง
เขาเองก็ไม่รู้ว่าวรินทร์จะรับกับคำเหล่านั้นได้หรือเปล่า เขาต้องค่อย ๆ ให้วรินทร์ได้เรียนรู้และเข้าใจอะไร ๆ มากกว่านี้เสียก่อน

เชิดภักดิ์ผงกหัวขึ้นจูบกลางเนินเนื้อ แต่เขาอยากใช้คำว่าเนินหีเหลือเกิน เขาจูบฟอด ๆ แรง ๆ หลายครั้ง
เมื่อเขาจูบเนินของวรินทร์หลาย ๆ ครั้ง วรินทร์เองนอกจากใช้มือควักท่อนเนื้อของเชิดภักดิ์ออกมารูดเล่นขึ้น ๆ ลง ๆ
จากนั้นเธอจึงค่อย ๆ รูดหนังหุ้มของเขาลงมา เธอชอบดูหัวถอกที่มีสีออกชมพู ๆ อีกอย่างเธอชอบดูรอยผ่าเล็ก ๆ ที่ตอนนี้ปริ่มไปด้วยน้ำ
เธอนึกว่าพี่เชิดก็คงเสียวมากเหมือนเธอ คนเรายามมีอารมณ์ก็จะมีหล่อลื่นออกมาจนชุ่มตามธรรมชาติ
เมื่อรู้สึกว่าพี่เชิดของเธอจูบเนินของเธออย่างยินดีเช่นนั้น วรินทร์ก็รู้สึกว่าเธอน่าจะทำแบบเดียวกับที่เขาทำให้กับเธอบ้าง
วรินทร์จีบปากจุ๊บตรงปลายถอกเบา ๆ เชิดภักดิ์ขยี้จมูกกับปากกันเนินหี (เขาอยากเรียกแบบนี้) ของวรินทร์หนัก ๆ อย่างเต็มอารมณ์กระสัน
สันจมูกของเชิดภักดิ์ขยี้เข้าตรงกลางร่องเม็ดเสียวถูกขยี้แรง ๆ นอกนอกกางเกงในก็ตาม

วรินทร์เงยหน้าขึ้นกันฟันกรอดแล้วสผมกับเสียงสูดปากเร่า ๆ ออกมา เสียงที่วรินทร์ปล่อยออกมามันเป็นยิ่งกว่าคำอนุญาตใด ๆ
เชิดภักดิ์ขยี้หน้าหนักขึ้นไปอีก วรินทร์เสียวแต่ภายในของเธอเสียวมากไปยิ่งกว่า เมื่อนึกได้ว่าสิ่งที่ทำให้สุขเสียวนั้นยามนี้
คือใบหน้าของเชิดภักดิ์ภักดิ์พี่ชายของเธอเอง

วรินทร์จึงจีบปากจูบแรง ๆ ตรงปลายถอกเพื่อตอบแทนถี่ ๆ เช่นกัน ปลายถอกถูกริมฝีปากขยี้ถูกบ่อย ๆ เชิดภักดิ์เริ่มรู้สึกเสียวเกินทนเหมือนกัน
พอวรินทร์ขยี้ริมฝีปากอีกทีเขาสุดกลั้นเอาไว้อีกจึงแอ่นก้นดันพรวดสวนจนปลายถอกลึกเข้าไปในปากจนเกือบมิดหัว
วรินทร์ตกใจมากเธอรีบอ้าปากคายออกมาทันที แล้วเธอก็อดหัวเราะเบา ๆ ออกมาไม่ได้ เชิดภักดิ์จึงร้องถามว่า
“รินมีไรเหรอ ?” วรินทร์หัวเราะแล้วตอบว่า “เปล่าพี่เชิด…” เธอไม่กล้าบอกว่าปลายถอกของเขาเข้าไปในปากของเธอจนเกือบมิดหัว
ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เธอไม่รู้รังเกียจใด ๆ แม้แต่นิด

เชิดภักดิ์แหวกขอบกางเกงในของเธอออก เพื่อให้แคบขาวอวบโผล่ออกมา หมอยของวรินทร์เกลี่ยบาง ๆ
เชิดภักดิ์จูบกลีบเนื้อของเธออีก “อุ๊ยยย…” วรินทร์อุทานเบา ๆ เพราะเธอรู้สึกว่าริมฝีปากของเชิดภักดิ์พี่ชายสัมผัสกลีบเนื้อจริงของเธอแล้ว
“วรินทร์..ถอดกางในออกเถอะ…” วรินทร์หันหน้ามามองแล้วพยักหน้าจึงพลิกตัวลงนั่งแอ่นก้นขึ้นให้เชิดภักดิ์รูดออกแล้วเธอช่วยเอาออกจากปลายเท้า
วรินทร์วางกางเกงในเอาไว้ปลายเตียงแล้วถอดชุดนอนของเธอออก จากนั้นหันมาถอดกางเกงของเชิดภักดิ์ออกบ้าง
“วรินทร์..ขาวจัง…” เชิดภักดิ์ร้องชม วรินทร์หัวเราะแล้วจึงขึ้นคร่อมเชิดภักดิ์อีกครั้ง

พอสะโพกของวรินทร์มาอยู่ตรงหน้าเชิดภักดิ์ เขาตาลุกวาว แคมหี (เขาอยากเรียกมันแบบนี้ที่สุด) แคมหีแต่ละข้างอวบใหญ่
หมอยเส้นละเอียดเรียบบาง ๆ แนบไปกับนวลเนื้อ ร่องกลางแคมสีฃมพูสดเยิ้มสะท้อนเป็นมัน
เชิดภักดิ์มองเลยขึ้นไป ก่อนถึงรูตูดเชิดภักดิ์เห็นช่องเล็ก ๆ ลึกหายเข้าไปภายใน ตรงรูดูดของวรินทร์เป็นจีบชมพูสวย
สะโพกอวบกลมเนื้อแน่นมีแรงดีดสะท้อน เขาบีบสลับลูบแก้มก้นของเธอไปมาอย่างเมารมัน
จากนั้นวกมือมาใช้นิ้วกลางกรีดกลางร่องเสียว วรินทร์เสียวจนต้องกระดกก้นยิก ๆ ตรงร่องรี ๆ ของเธอขมิบ
น้ำใส ๆ ของวรินทร์ถูกขับออกมาให้เขาเห็นอย่างตื่นตาตื่นใจ ภาพเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็น
แต่วรินทร์อยู่ในท่านอนไม่ได้เห็นชัด ๆ เหมือนในตอนนี้

เชิดภักดิ์มองอย่างอัศจรรย์ใจ เขานึกเปรี้ยวปากอย่างไม่เคยมาก่อน เขากรีดนิ้วอีกถี่ ๆ วรินทร์ยิ่งขยับก้นเยิบ ๆ
“อูวววว…พี่เชิด…อาาาาา…” เชิดภักดิ์กรีดนิ้วซ้ำ ๆ อีก เขาเห็นหยาดน้ำใสหลั่งออกมามาก เขาจึงใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำใสลื่น ๆ
เขาเอาปลายนิ้วมาแตะที่ปลายลิ้น รสมันปร่า ๆ ปะแล่ม ๆ ชอบกล กลิ่นมันหอมหวนเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก

เชิดภักดิ์นึกถึงไอ้นนท์ที่มันเล่าให้เขาฟังเรื่องใช้ลิ้นเลียร่องหี เชิดภักดิ์ตัดสินขยี้ใบหน้ากับเนินหีเนื้อแท้ ๆ ของวรินทร์ทันที
วรินทร์เสียวมากกว่าตอนที่มีกางเกงขวางอยู่เสียอีก เธอจึงก้มจูบที่ปลายถอกให้เขาอีกครั้ง
จูบแล้วก็นึกถึงมื่อครู่ที่ปลายถอกเข้าไปในปากของเธอ มันจั๊กจี้กระพุ้งแก้มภายในชอบกล
วรินทร์จูบไปก็ติดไป ขณะที่เชิดภักดิ์จากจูบแล้วจูบเล่าเขาตัดสินใจใช้ปลายลิ้นเลียเข้ากลางร่องทันที

วรินทร์ผวาเฮือก ๆ ยิ่งกว่าโดนนิ้วกรีดร่องเสียวหลายเท่า เธอตัดสินใจอ้าปากออกครอบปลายถอก
เธอเผยอริมฝีปากออกหุ้มครอบต่ำลงเรื่อย ๆ จนถึงตรงขอบแล้วเธอจึงดึงริมฝีปากขึ้น
เชิดภักดิ์เสียวจนตัวเกร็ง พอวรินทร์ครอบริมฝีปากมาอีกครั้งเขาทนเสียวไม่ไหวจึงแอ่นก้นดันขึ้นไป
โชคดีที่รวรินทร์ใช้มือประคองกุมท่อนเนื้อของเขาเอาไว้มันจึงไม่พรวดพราดเข้าไปจนถึงคอหอย

วรินทร์ทั้งตกใจและนึกขัน เธอจึงเริ่มจะจับจังหวะได้บ้างแล้ว แปลกที่เธอไม่เคยนึกเคยฝันว่าจะมีการทำอะไรแบบนี้จริง ๆ
แต่พอได้ทำกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ขอเพียงเธอระวังไม่ให้เชิดภักดิ์แอ่นก้นให้น้องชายของเขาพรวดพราดเข้าลึกก็พอ

เชิดภักดิ์ทำให้เธอเสียวและยิ่งเสียวมากเท่าไหร่ เธอก็เผยอริมฝีปากอมและกลืนกินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
ต่างไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เธอชักชอบรสชาดและความรู้สึกที่ท่อนเนื้อครูดเนื้อภายในปากแล้วหละ
จากมือใหม่ถอดด้าม เธอเริ่มเรียนรู้และคล่องขึ้น รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เชิดภักดิ์ยิ่งทำให้เสียว
วรินทร์เองก็สนองความเสียวตอบแทนเชิดภักดิ์ในแบบเดียวกัน

เชิดภักดิ์นอกจากใช้ลิ้นเลียไปตามร่องหีของวรินทร์แล้ว เขายังห่อลิ้นจนเรียวแหลมสอดแรงเข้าไปยังร่องหลีบลึกด้วย
แม้จะไม่สามารถสอดเข้าไปล้ำลึกมากนักเพราะอ่อนประสบการณ์ แต่เชิดภักดิ์ก็ตวัดปลายลิ้นเลียบริเวณรอบปากรูลึกให้เธอ
พอเขาเลียรอบปากทางร่องหลืบถี่ ๆ วรินทร์เสียวจนไม่สามารถอมของเขาเอาไว้ได้อีกแล้ว
เธอคายของเขาออกฟุบหน้ากับหน้าขาของเขา ส่งเสียงครางซีด ๆ แทบไม่หยุดปาก
เสียงที่วรินทร์แปร่งออกมาเหมือนเสียงสวรรค์ที่ให้พละกำลังแก่เชิดภักดิ์ เหมือนกับบอกเขาว่าเขาทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว

เชิดภักดิ์พยายามตวัดปลายรัวเร็วตรงบริเวณปากร่องหลีบลับ ในที่สุดเชิดภักดิ์นึกถึงอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ
เขาประกบริมฝีปากกับแคมทั้งสองข้างแล้วดูดปากจ๊วบ ๆ แรง ๆ วรินทร์ถึงตัวสั่นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอถึงจุดสุดยอดติด ๆ กันนับไม่ได้ว่ากี่ครั้ง เสียวจนแทบทนไม่ไหว เธอปล่อยตัวลงคร่อมร่างของเชิดภักดิ์ทันที
เนินโคกหีของเธอบดอัดบนใบหน้าของเขา เชิดภักดิ์ยังดูดจ๊วบ ๆ อีกหลายแล้วดิ้นขยับหน้าออก
เพื่อสูดหายใจก่อนที่จะถูกโคกหีวรินทร์กดแน่นจนขาดอากาศหายใจ

เชิดภักดิ์หอบหายใจแรง ๆ เหนื่อยเพราะฝืนแรงวรินทร์แต่เขาก็ภาคภูมิใจสุด ๆ ที่สามารถใช้ลิ้นทำให้วรินทร์มีความสุขแบบสุด ๆ
เขารู้สึกและสัมผัสได้ว่าวรินทร์ถึงจุดสุดยอดรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน วรินทร์คงเสียวมาก ๆ จนตัวสั่นริกรัวทีเดียว
อีกอย่างที่เชิดภักดิ์ภูมิใจมาก ๆ ตรงที่วรินทร์กล้าใช้ปากอมควยของเขา แม้เธอจะยังไม่สามารถทำให้เขาถึงจุดสุดยอดได้
แต่แค่นี้ก็แสดงว่าเธอไม่ได้เห็นแก่ตัวเห็นแก่ความสุขของตัวเอง เธอคิดที่จะสนองความสุขความเสียวตอบแทนเขาเช่นกัน

เชิดภักดิ์นอนหลับตาพริ้ม เธอยิ้มหน้าบานอย่างแสนยินดีปรีดา ขณะเดียวกันกับวรินทร์ที่นอนหลับตานิ่ง
เธอมีความสุขเหลือล้นกว่าทุกคราว ความสุขที่เชิดภักดิ์ใช้ลิ้นทำให้นี่มันดีกว่านิ้วมือของเขาหลายร้อยเท่า
พี่นนท์ไปเรียนรู้หกเก้า-เก้าหกนี่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่เธอชักชอบและรู้สึกดีเสียเหลือเกิน

—————————

“อ้าว…นอนนิ่งเชียวริน..กำลังนึกอะไรอยู่นะ ?” วรินทร์กรอกตาหนีแก้มหน้าแดงจัด
“ริน..ริน…” เชิดภักดิ์เรียกเบา ๆ เขาคิดว่าเขารู้ว่าวรินทร์กำลังนึกถึงอะไรอยู่ “ริน…” เขาเรียกซ้ำเมื่อเห็นเธอยังเงียบ
“ขา…” วรินทร์เห็นว่าเลี่ยงไม่พ้นเธอจึงขายรับเสียงเบา ไม่กล้ามองหน้าเขา “พี่รู้นะว่ารินกำลังคิดถึงอะไรอยู่…”
วรินทร์แกล้งยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบกลบเกลื่อน แล้วเงยขึ้นมองหน้าเชิดภักดิ์พี่ชายนิดหนึ่งแล้วกระซิบเขิน ๆ ว่า
“ไม่เอา..ไม่พูดนะ…” เชิดภักดิ์หัวเราะ “อ้าว..ทำไมละ..? กลัวว่า..พี่รู้ไม่จริงหรือไง ?”
วรินทร์ส่ายหน้า “รินกลัว..พี่เชิดรู้จริงต่างหาก…” เชิดภักดิ์หัวเราะเต็มเสียงยกเบียร์ขึ้นกระกดหมดแก้ว
“ไม่อยากรู้หรือไงว่าพี่รู้จริงหรือเปล่า ?” วรินทร์ส่ายหน้า “น่า..อยากรู้หน่อยนา…” เชิดภักดิ์ยั่วซ้ำอีก ตอนนี้สายตาเขาวาวเหมือนมีดวงไฟ
วรินทร์ส่ายหน้าช้า ๆ อยู่นาน แต่ในที่สุดเธอพยักหน้านัยย์ตาเขินอาย เชิดภักดิ์หัวเราะหื่น ๆ
“อยากรู้แล้วละซิว่าพี่รู้จริงหรือเปล่าว่ารินกำลังคิดอะไรอยู่…?” วรินทร์พยักหน้าอาย ๆ “ไหนพี่เชิดลองบอกรินซิ..อิอิ..ว่ารู้จริงหรือเปล่า..?”
“เอียงหน้ามาซิ..ความลับ..พูดเสียงดังไม่ได้…” วรินทร์หัวเราะเสียงใสชักสนุก “ความลับเยอะจัง..พี่เชิดมีความลับอะไรที่รินไม่รู้เหรอจ๊ะ…”
เชิดภักดิ์ไม่ตอบ “เอียงหูมาซิ…” วรินทร์เอียงหูเข้าหา เชิดภักดิ์หอมแก้มเธอฟอดก่อนกระซิบที่ข้างหู
“พี่ว่า..ว่า…” แล้วเชิดภักดิ์ก็หัวเราะร่วน วรินทร์หันมาแล้วระดมทุบที่อกเขา เชิดภักดิ์หัวเราะปล่อยให้เธอทุบตามพอใจ
“หลอกรินนี่นา..พี่เชิดนี่…รู้ไม่จริงต่างหาก..ใช่ปล่าว…?” เชิดภักดิ์ส่ายหน้ายิ้มยั่วตาวาว
“รู้ก็บอกซิ…” วรินทร์ค้อนให้ เชิดภักดิ์ดึงหัวเธอเข้ามาหอมแก้มอีกทีแล้วกระซิบว่า “รินกำลังนึกถึงตอนที่พี่เลียหีให้ใช่หรือเปล่าละ ?”
วรินทร์ตะลึงตัวซ่านชา ไม่ทราบว่าตัวเองพยักหน้ารับไปได้ยังไง พอรู้สึกตัวรีบซุกหน้าลงกับเบาะอายไม่กล้าสู้หน้าเชิดภักดิ์อีก

“จริงใช่ปล่าวริน…?” เชิดภักดิ์ยังแกล้งยั่วเธอต่อ เขาชอบเห็นท่าเขินอายของเธอนี่นา เสียงอู้อี้ของรินยืนยันว่าเขาเดาถูก
“พี่เชิด..พูดคำหยาบ…ไม่คุยด้วยแล้ว…” เชิดภักดิ์หัวเราะร่วน “เมื่อก่อน..เราเคยพูดกับแบบนี้ไม่ใช่หรือริน พี่จำได้…”

มันจริงอย่างที่เชิดภักดิ์ว่า หลังจากที่เชิดภักดิ์ใช้ลิ้นเลียห้เธอเป็นครั้งแรกอีกไม่ถึงเดือน เชิดภักดิ์ก็ชวนเธอพูดคำหยาบ ๆ แบบนี้
ตอนแรกเธอไม่กล้าพูดหรอก ใครจะกล้าพูด แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธที่เชิดภักดิ์จะพูดเอง ตอนอยู่กันสองต่อสองเธอรู้สึกว่าเธอรับมันได้
ผ่านมาอีกเกือบนานเธอจึงตกลงกับเชิดภักดิ์ว่า “พี่เชิด..ขอให้พี่เชิดพูดแบบนี้ตอนเราอยู่กันสองต่อสองนะ”
“อื้อ..คำแบบนี้เค้าพูดกับตอนอยู่ในอารมณ์แบบนั้นทั้งนั้นนั่นแหละริน…” เธอพยักหน้าเห็นด้วยยิ้ม ๆ
“งั้นก็พูดกับพี่ซิ…พี่อยากพูดกับวรินทร์คนเดียวเท่านั้นแหละ…”
วรินทร์มองหน้าเชิดภักดิ์นิ่ง “พูดแล้วได้อารมณ์เหรอไง..?” เชิดภักดิ์พยักหน้า “เดี่ยวพี่เลียหีให้รินอีกนะ…”
วรินทร์หน้าแดงเมทุบพี่ชายที่แขน “บ้าซิ…พูดแบบว่าใช้ลิ้นทำให้ไม่ได้เหรอ…?” เชิดภักดิ์หัวเราะเต็มเสียง
“มันตรงแล้วแรงดีนะริน…” วรินทร์พยักหน้าแต่มือกำแน่นแบบสกดอารมณ์ “ก็……”
“อ้าว..มันก็ยังไงละ..? บอกมาเร็ว” วรินทร์เอียงคอมองเชิดภักดิ์ “งั้น..ตาม..ตามใจพี่เชิด…” เชิดหัวเราะชอบใจ
“ตามใจพี่ไม่ได้..รินต้องพูดกับแบบนั้นด้วย..นะ..” วรินทร์มองสบตาเขานิ่ง เชิดภักดิ์พยักหน้ายิ้มลุ้นให้กำลังใจเธอ
ในที่สุดวรินทร์พยักหน้ารับ เชิดภักดิ์ยิ้มหน้าบานแล้วร้อง “ไชโย ๆ ๆ” ดีใจสุด ๆ ที่เธอยอมเห็นด้วยกับที่เขา

ช่วงใหม่ ๆ วรินทร์ไม่ค่อยกล้าพูดนักหรอก เธอต้องรอให้เชิดภักดิ์เป็นคนนำก่อนแล้วค่อยตามกลบเกลื่อนอือ ๆ ออ ๆ ตาม ๆ เขาไป
จนหลังจากนั้นอีกเป็นเป็นเดือนเธอก็ยังไม่กล้าพูด เชิดภักดิ์จึงคาดคั้นเธออีกครั้ง ในที่สุดเมื่อวรินทร์ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้อีก
เธอจึงจำใจพูดตอบเขาไปบ้าง เชิดภักดิ์จำได้แม่นว่าครั้งแรกวรินทร์เรียกท่อนเนื้อของเขาว่า “ควยพี่เชิดอมมันดี…”
เขาได้ยินรีบดึงเธอมาระดมจูบ แล้วเป็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เชิดภักดิ์ดูดนมวรินทร์

เชิดภักดิ์เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจึงไม่ดูดนมวรินทร์ อย่างดีเขาก็ทำก็เพียงลูบ ๆ ไล้ ๆ เท่านั้น
หรือไม่ก็ใช้ปลายนิ้วเขี่ยหัวนมเธอเล่น พอวรินทร์ถูกดูดนมครั้งแรก จึงรู้ว่าการถูกดูดนมก็สร้างความเสียวให้เธอมากมาย

………………………..

เชิดภักดิ์เห็นวรินทร์นั่งนิ่งเงียบไปอีกครั้ง เขาจึงกระซิบ “จำได้แล้วใช่ไหมละ ?” วรินทร์พยักหน้ารับ
“รินไม่ได้พูดคำแบบนั้นหลายปีแล้วละพี่เชิด จนชักลืม ๆ แล้ว…” วรินทร์ตอบแล้วหัวเราะ เชิดภักดิ์มองหน้าเธอนิ่งแล้วถามว่า
“แฟนรินไม่เคยพูดกับรินแบบนี้เหรอ ?” วรินทร์พยักหน้าแล้วรีบตัดบทว่า “อย่าไปพูดถึงคนอื่นเลยดีกว่า…”
เชิดภักดิ์ดึงตัววรินทร์เข้ามากอด “เรามาคุยกันเรื่องของเราดีกว่า” วรินทร์พยักหน้า “เบียร์หมดแล้วพี่เชิดจะกินอีกหรือเปล่าละ ?”
“รินละ ?” เธอส่ายหน้า “งั้น..พี่ก็พอแล้วละ กินเป็นโหลแล้ววันนี้ เรามารื้อฟื้นอดีตกันเถอะ”

“ครั้งสุดท้ายที่เรานอนกอดเมื่อไหร่เน๊าะ ?” เชิดภักดิ์ถามลอย ๆ
“ก่อนรินแต่งงานอาทิตย์หนึ่ง…” แล้วทั้งสองต่างเงียบงันกันไปอีก
“ตอนนี้พี่เชิดสามารถทำได้มากกว่าเก่าแล้วนะ…” วรินทร์กระซิบกระซาบข้างหูเบา ๆ
แต่เชิดภักดิ์ก็ยังเงียบ “ไม่น่าเชื่อนะว่าตอนนั้นพี่เชิดจบมหาลัย รินขึ้นปีสองแล้ว พี่เชิดเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดของรินจริง ๆ”
“ริน..หมายความว่าไงหรือจ๊ะ ?” เชิดภักดิ์เอียงหน้าลงหอมเส้นผมของวรินทร์
“ให้รินพูดนะ…” เธอขยับกอดเขาเอาไว้แน่น “จ๊ะ…” เชิดภักดิ์ตอบสั้น ๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าตั้งหลายปีที่เรานอนกอดกัน พี่เชิดไม่เคย..เคย…” เธอหยุดพูดไปแค่นั้น
เชิดภักดิ์เข้าใจว่าเธอจะพูดอะไร แต่ก็อยากให้เธอเปิดเผยตัวตนเดิม ๆ ออกมา “ไม่เคยอะไรกันละริน…?”
วรินทร์ซุกหน้าลงกับอกแล้วกระซิบเสียงแผ่ว ๆ “ก็..ก็…เราไม่เคย..ไม่เคย..เย็ด..กันเลย..นะ..พี่เชิดนะ..”
พูดแล้วทั้งวรินทร์และเชิดภักดิ์ขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง วรินทร์ซุกหน้ากอดเขาแน่นตัวสั่นเทิ้ม

เชิดภักดิ์กอดตอบแล้วก้มลงจูบเรือนผมของเธอ ก็อย่างที่เธอว่าไม่ใช่เขาไม่อยากทำอย่างนั้นหรอก
แต่เธอคือน้องสาวสุดที่รักของเขา แค่ช่วยกันเพียงเพียงภายนอกเท่านั้นก็พอแล้ว เขารอจนว่าวันหนึ่ง แล้ววันนั้นก็มาไม่ถึง
แม่ของเขาบังคับให้วรินทร์แต่งงานกับสายัณห์บลูกชายคนเดียวของเพื่อนรักแม่ ซึ่งภาพพจน์ภายนอกทุกคนบอกว่าเหมาะสมกันดี
เพราะตระกูลของสายัณห์นะรวยมาก และดูเหมือนว่าสายัณห์ก็รักวรินทร์จริง ๆ

วรินทร์พอรู้ก็ร้องห่มร้องไห้กับเขามากมาย เชิดภักดิ์ได้เพียงปลอบใจ และให้ความสุขภายนอกกับเธอต่อไป
เชิดภักดิ์ค่อย ๆ อธิบายให้วรินทร์เข้าใจถึงความรักของแม่ เพราะเชิดภักดิ์รู้ว่าแม่เป็นมะเร็งและจะอยู่ได้ไม่นาน
เชิดภักดิ์เล่าเรื่องแม่ให้วรินทร์ฟัง เธอจึงตัดใจและยอมแต่งงานกับสายัณห์ หลังแต่งงานไม่ถึงสามเดือนแม่ของเขาก็ลาโลก
ปลายปีพ่อที่สูบบุหรี่จัดก็ตายเพราะมะเร็งปอดอีกคน

วันที่จะเข้าพิธีแต่งงาน เชิดภักดิ์บอกกับวรินทร์ว่า “ริน..ห้ามรินทำอะไรแบบที่ทำกับพี่นะ เดี่ยวกับจะหาว่ารินเคยมาแล้ว”
เธอตอบกลับเชิดภักดิ์ไปว่า “รินจะไม่ทำแบบที่ทำกับพี่เชิดกับคนอื่นเด็ดขาด รินสัญญา…” พร้อมกับยื่นนิ้วก้อยมาให้เชิดภักดิ์เกี่ยว

หลังแต่งงานวรินทร์ดูเหมือนมีความสุข เธอยังสนิทกับเชิดภักดิ์เหมือนเดิม เพียงแต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างเขากับเธอ
ต่อจากนี้ไปมันเป็นได้เพียงแต่ในฝัน เอาไว้ให้เธอเก็บไปฝันว่าสายัณฆ์ยามอยู่บนเตียงคือเชิดภักดิ์พี่ชาย
วรินทร์มีลูกคนแรก..ปีถัดมาก็มีอีกคน เชิดภักดิ์ยินดีและเสมอต้นเสมอปลายกับวรินทร์เสมอ เชิดภักดิ์บริหารธุรกิจของพ่อต่อไป
และได้ขยายสายธุรกิจใหม่เพิ่มและประสบความสำเร็จด้วยดี

จนเมื่อสายัณห์ล้มเหลวทางธุรกิจและความประพฤติเปลี่ยนไป และในที่สุดน้องสาวคนเดียวของเขาก็หย่าและกลับมาอยู่กับเขา
เชิดภักดิ์คิดว่า..อดีต..ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่เสียใจ ยังไงน้องสาวสุดที่รักก็กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เขาให้ความรักกับน้องสาวและหลานอย่างสุดความสามารถ เขาเยียวยาจิตใจของวรินทร์จนแผลตกสะเก็ดและเริ่มจะหาย

เชิดภักดิ์ถอนหายใจออกมาเสียงดัง วรินทร์ขยับตัวห่างเงยหน้าขึ้น “พี่เชิด..คิดอะไรนะ ?” เชิดภักดิ์ก้มลงมองสบตาน้องสาว
“เพราะน้องเป็นน้องสาวของพี่ไง ?” วรินทร์ซบหน้าลงกับอกหยาดน้ำหยดจากนัยน์ตา เธอเพิ่งจะรู้ว่าพี่ชายรักเธอขนาดไหน
“แค่นั้นก็พอแล้ว..” วรินทร์พยักหน้ากับอก พี่เชิดไม่เคยขออะไรจากเธอมากไปกว่านั้นจริง ๆ ไม่แม้แต่คำเดียว

คืนแรกวันส่งตัววรินทร์ไม่ค่อยประทับใจกับความผลีผลามตะกุมตะกรามของสายัณห์
และจากคืนแรกจนถึงวันที่แยกจากกันเธอไม่เคยมีความประทับใจใด ๆ กับสายัณห์แม้แต่น้อย
แต่เธอไม่เคยปฏิเสธ หน้าที่ของภรรยาหน้าที่แม่ของลูก ถ้าสายัณห์ไม่เปลี่ยนไปเธอก็คงยังอยู่ตรงจุดนั้น
คงไม่มีวันที่เธอได้ฟังคำพูดของพี่เชิดของเธอว่า ‘เพราะน้องเป็นน้องสาวของพี่ไง ?’
วรินทร์อดคิดไม่ได้ว่าฟ้าแกล้งหรือเปล่าหนอ ? ทำไมถึงได้ลิขิตให้เธอมาเป็นน้องสาวของเขาด้วย
ทำไมจึงต้องให้ผู้ชายคนนี้เกิดมาเป็นพี่ชายแสนดีของเธอ ยิ่งคิดหยาดน้ำใสยิ่งหยาดหยดจนชุ่มอกพี่ชาย

ทั้งสองต่างจมลงลึกเข้าสู่ภวังค์แห่งความครุ่นคำนึง วรินทร์เกิดประกายวูบในห้วงคิด
ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่มีอิสระแล้วนี่นา เธอเป็นแม่หม้ายลูกสองและทำหมันเรียบร้อยแล้ว
เป็นหม้ายสามีทิ้ง เธอเป็นอิสระปราศจากข้อผูกมัดใด ๆ แต่เธอยังสาวยังสวยและระอุด้วยเลือดเนื้อกับอารมณ์
เชิดภักดิ์พี่ชายเธอก็ปราศจากพันธะใด ๆเหมือนกัน แม้จะมีผู้หญิงรุ่นน้องมาก้อร่อก้อติกหลากหลายก็ตาม
แต่เชิดภักดิ์พี่ชายคนดีของเธอก็ไม่ได้ให้ความพิเศษกับใครแม้แต่คนเดียว จนสาวบางคนแอบนินทาว่าพี่เชิดอาจเป็นเกย์
วรินทร์เคยได้ยินคำเล่าลือมาบ้าง มีแต่เธอวิรนทร์คนนี้เท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่าเชิดภักดิ์เป็นเกย์หรือเปล่า

เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เชิดภักดิ์ทั้งน้ำตา สภาพแบบนี้เชิดภักดิ์รู้ได้ทันทีว่าน้องสาวเขาคิดอะไรตกแล้ว
วรินทร์จะมีอาการแบบนี้ทุกที่เธอตัดสินใจอะไรเด็ดขาด วรินทร์จะเปลี่ยนเข้มแข็งและต่อสู้
เชิดภักดิ์นึกหวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่น้องสาวของเขาตัดสินใจนะคืออะไรกันแน่
และหากเขาเห็นว่าไม่ถูกต้องเขาจะเปลี่ยนใจเธอได้หรือเปล่า เชิดภักดิ์ฝืนยิ้มแล้วถามว่า
“ริน..คิดอะไรละนั่น ?” วรินทร์ยันตัวขึ้นนั่งตรงจับมือพี่ชายกุมเอาไว้
“พี่เชิด..รินตัดสินใจแล้ว รินจะเล่นพ่อแม่สมมุติกับพี่เชิดอีก”
“หา…” เชิดภักดิ์อุทานลั่น เขาขมวดคิ้ว “แต่คราวนี้ไม่เหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่รู้ความนะ..แต่คราวนี้รินจะเล่นจริง ๆ”
“รินว่าอะไรนะ” เชิดภักดิ์ถาม “ก็รินจะเล่นเป็นแม่ให้พี่เชิดไง พี่เชิดไม่มีใครไม่ใช่เหรอ รินเองก็ไม่มีใคร ให้พี่เชิดเล่นเป็นพ่อให้ริน”
“แต่เราเป็นพี่น้องกันนะริน…” วรินทร์ส่ายหน้า

“ถึงจะเป็นพี่น้องกันก็เถอะ ตอนนี้ไม่เป็นปัญหาแล้วละ รินทำหมันแล้ว สิ่งที่เราเคยคุยกันไม่มีโอกาสเกิดอีกแล้ว”
เขาเข้าใจที่วรินทร์พูด ตอนนี้เธอไม่ตั้งครรภ์อีกแล้ว การจับคู่ของยีนส์ด้อยไม่มีโอกาสได้เกิดอีกแล้ว
เพราะฉันทั้งเขาและเธอต่างก็สามารถแสดงความรักความปรารถนาในกันและกันได้อย่างเต็มที่และไร้กังวล

เชิดภักดิ์คิดต่อไปว่าวรินทร์ยังสาว เธอย่อมมีเลือดเนื้อ ความสุขทางเพศมันเป็นเหมือนกับยาเสพติด
คนเราแม้ภายนอกจะถูกสังคม ศีลธรรม บีบบังคับเอาไว้เป็นกรอบ แต่ภายในจิตใจกลับร้อนรุ่มและทุกข์ระทม
วรินทร์รู้สึกไม่ดีกับการแต่งงานเป็นครอบครัว และเธอมีลูกแล้วตั้งสองคน เธอไม่ปราถนาครอบครัวอย่างที่เธอเคยมีแบบนั้นอีกแล้ว

เชิดภักดิ์พยักหน้า “ตอนนี้รินเก็บกดความต้องการเอาไว้ใช่ไหม ?” วรินทร์พยักหน้า
“รินมีเลือดเนื้อนะพี่เชิด… พี่เชิดเข้าใจรินนะ” เชิดภักดิ์พยักหน้าหงึก ๆ “พี่เชิดอดกลั้นมันยังไง ?”
เชิดภักดิ์หัวเราะ “พี่ไม่ค่อยไปยุ่งกับผู้หญิงนักหรอก ไม่ไว้ใจ กลัวเอดส์ด้วย”

สิ่งที่เชิดภักดิ์ไม่บอกเธอก็คือ เขาไม่สามารถหาใครมาแทนเงาของน้องสาวสุดรักของเขาได้คือเหตุผลที่แท้จริง
“พี่เชิดชักว่าวเอาเหรอ ?” วรินทร์ถามมองตาแป๋ว เชิดภักดิ์ยิ้มเขิน ๆ เหมือนกันเอามือขยี้หัวน้องสาว
“ก็ต้องทำแบบนั้นแหละ ทางออกดีที่สุด เมื่อก่อนมีคนทำให้พี่นี่นา” เชิดภักดิ์ตอบเสียงอ่อย ๆ
วรินทร์หัวเราะ “ทำไมพี่เชิดไม่หาเมียสักคนละ..?” เชิดภักดิ์มองสบตาที่มองแป๋วแหวว
“ก็อย่างพี่บอกนั่นแหละ พอใกล้ถึงตรงนั้นพี่ชิ่งหนีทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
“พี่เชิดไม่รู้หรือว่า..ทำแกล้งเป็นไม่รู้ว่าทำไม ?” เชิดภักดิ์ตลึงมองหน้าน้องสาว

“เรามาพูดเปิดอกกันเถอะพี่เชิด” เชิดภักดิ์ทำท่าอึกอัก “น่า..พี่เชิดสารภาพมาเถอะ ปิดรินไม่ได้หรอก”
วรินทร์พูดจบแล้วหัวเราะเบา ๆ “เฮ่อ..น้องรู้ทันพี่ทุกเรื่องเลย ตั้งแต่ไหน ๆ แล้วนี่นะ…” วรินทร์อ้าปากกัดตรงตำแหน่งหัวนมเขาเบา ๆ
“พี่เชิดยังจะอายรินอีกเหรอ รินยังหน้าด้านไม่อาย..สารภาพกับพี่เชิดหมดเลย”
“ดูพูดไป..รินของพี่น่ารักจะตาย” วรินทร์สบตาเป็นประกายของพี่ชายแล้วต่างก็หัวเราะ
“น่า..สารภาพออกมาเสียดี ๆ” เชิดภักดิ์ถอนหายใจ “น้องมันจับได้เสียแล้ว งั้นสารภาพเสียเลย..”
เชิดภักดิ์นิ่งเงียบไปจนวรินทร์พยักหน้าหนุนให้เขาสารภาพเสียที “ก็ได้ ๆ พี่หาคนมาเป็นรินไม่ได้ต่างหาก..”
ทั้งวรินทร์และเชิดภักดิ์มองสบตากันนิ่งเงียบ “พี่เชิดฝังใจกับรินมากใช่ไหม ?” เชิดภักดิ์พยักหน้ารับ
“แล้วรินละ ?” วรินทร์ยิ้ม “รินก็ฝังใจกับพี่เชิดมาก ๆ ไม่มีใครแทนที่ได้เหมือนกัน จนต้องจินตนาการถึงทุกครั้งไป”
วรินทร์สารภาพออกมาอีกเรื่อง

“พี่เชิด..เรามาเล่นพ่อแม่สมมุติเหมือนเด็กกันเถอะนะ” เชิดภักดิ์นั่งนิ่งไม่รับหรือปฏิเสธ “นะพี่เชิดนะ…”
“ริน..เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะ…” วรินทร์ส่ายหน้า “พี่เชิดลืมมันไม่ได้เหมือนรินไม่ใช่เหรอ ?”
เชิดภักดิ์พยักหน้ารับ “รินก็ลืมไม่ได้..รินไม่อยากแกล้งทำเป็นลืมได้อีกแล้วละ”
เชิดภักดิ์ถอนหายใจ “เอายังงี้ก่อนไหม ก่อนถึงขั้นที่เรา..เรา..เรา..จะ…”
วรินทร์ยื่นนิ้วไปปิดปากพี่ชาย “มาให้รินพูดเองดีกว่า พี่อยากขอเวลาสักหน่อยใช่ไหม ? พี่กังวลอะไรอีกละถ้าเราจะเย็ดกันจริง ๆ นะ ?”
“พี่ไม่ได้กังวลหรอก พี่ก็อยากเย็ดรินนะ แต่พี่กลัวคำครหาของชาวบ้านจะทำให้รินอายและลำบากเพราะพี่”
วรินทร์หัวเราะเสียงใส “เราก็อยู่ของเราแบบนี้ เราไม่ได้แสดงออกอย่างเปิดเผยนี่นา กลัวชาวบ้านเขาทำไม ?”
เชิดภักดิ์พยักหน้าหงึก “เหมือนตอนก่อนเลย..ตอนที่รินเป็นเด็กนะ” เชิดภักดิ์พยักหน้ารับ
“พี่ขอเวลานิดนะ..ก่อนที่จะเราเย็ดกันจริง ๆ ขอให้เราทำแบบตอนก่อนสักระยะหนึ่ง ให้รินคิดตัดสินใจอีกที”
“รินไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด…แต่ถ้าพี่เชิดอยากขอเวลาก็ได้ แต่อย่าให้รินทนอยากไม่ไหวไปหาคนอื่มานแก้อยากก่อนก็แล้วกัน”
เชิดภักดิ์ตะลึงกับคำพูดตรง ๆ ของน้องสาว เชิดภักดิ์ดึงตัวเธอเข้ามากอดแล้วประกบปากจูบทันที
วรินทร์ตอบสนองต่อเชิดภักดิ์อย่างผู้เชี่ยวชาญ ความเสียวสบายเกินบรรยายเกิดแก่ทั้งสองคน

วรินทร์ผลักหน้าเชิดภักดิ์ออก “แหม..แหย่หน่อยเดียว พี่เชิดโกรธวรินทร์หรือเปล่า ?”
เชิดภักดิ์ส่ายหน้า “พี่รู้ว่ารินของพี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก” วรินทร์หัวเราะ “ถ้าไม่มีพี่เชิด..ก็ไม่แน่นะ..” วรินทร์หัวเราะ
เชิดภักดิ์ยื่นมะแหงกเคาะหน้าฝากเธอ “อึม..ยังไงรินก็ตามใจพี่เชิด เรามาฟื้นความหลังวัยเยาว์กันก่อนก็ได้นี่นา..”
เขาพยักหน้าหงึก ๆ ตาลอยด้วยความฝัน “แต่รินว่า..อย่าให้นานนักนะ…” วรินทร์ค้อนวงใหญ่
“จ้า..ไม่นาน..สักเดือนหนึ่งเป็นไง..เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที” วรินทร์ยิ้มชื่น
“ไม่ต้องตกลงหรอก..รินให้เวลาพี่เชิดเดือนหนึ่ง พี่เชิดจะห่วงอะไร ? รินgv’ยังไม่แคร์เลย”
“พี่กลัวคนอื่นจะเห็นรินไม่ดี..” วรินทร์หัวเราะ “บ้าซิ..ถ้างั้น..รินก็..ก็เสียมาตั้งแต่อายุสิบกว่า ๆ แล้ว”
วรินทร์ยันโหนตัวขึ้นไปจูบปากเชิดภักดิ์อีกที ลิ้นทั้งสองตวัดพันแล้วดูดปากกันอย่างดูดดื่ม

“พี่เชิด..”
“หืม…”
“ให้รินสำรวจควยพี่เชิดหน่อยซิ..ไม่ได้เจอ..นานจัง…”
“สำรวจทำไมอีกละ…”
“อิอิ..อยากรู้ว่ามันใหญ่ขึ้นหรือเปล่า ?”
“บ้าซิ..มันใหญ่ได้แค่นั้นแหละ ใหญ่ขึ้นทุกวัน ๆ ตายแน่เลย…” เชิดภักดิ์เริกคิ้วขึ้นสูงหัวเราะทำให้วรินทร์เองก็อดขำตามไปด้วยไม่ได้
“งั้นแสดงว่าเท่าเดิม…แต่..แต่…” วรินทร์แกล้งหยุดแล้วมองหน้าเขานิดหนึ่งก่อนพูดต่อว่า
“แต่ของรินอวบแล้วใหญ่ขึ้นนะ…” พูดแล้วก็เธอก็ยิ้มยั่ว “จริงอ๊ะ…?” เชิดภักดิ์ถามอย่างตื่นเต้น
วรินทร์ยิ้ม “อื้อ..จริง..แต่ต้องให้รินสำรวจของพี่เชิดก่อน…”
“ตกลง…รินควักออกมาดูได้เลย…” เชิดภักดิ์พูดยิ้ม ๆ
วรินทร์ยื่นมือไปปลดตะขอกางเกงขาสั้นแล้วรูดซิป ท่อนลำของเชิดภักดิ์ผงาดจนตุงกางเกงใน
“โหวววว….” วรินทร์เบิกตาโตแล้วร้องเสียงดัง จากนั้นเธอใช้นิ้วเกี่ยวขอบเกงในดึงน้องชายคนเล็กที่ห่างมือไปนานออกมา
“พี่..เชิด…” วรินทร์เรียกเสียงตื่นเต้น “หือ…เท่าเดิมหรือเปล่า ?” เชิดภักดิ์ถามยิ้ม ๆ วรินทร์หัวเราะ
“หลอกรินก็ได้เน๊าะ…แต่รินว่าใหญ่กว่าเดิมตั้งเยอะ…” เชิดภักดิ์เบิกตาโต “จริงอ๊ะ…?”
“อื้อ..จริง…” วรินทร์ตอบลอยหน้าลอยตา เชิดภักดิ์ยิ้มแกล้งถาม “รินคิดไปเองหรือเปล่า ?”
วรินทร์กำรอบลำควยแล้วมองดูช่วงห่างระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง “นี่..นี่..พี่เชิดดูซิ…ตอนนั้นปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งของวรินทร์เกือบชนกัน”
เชิดภักดิ์มองดูก็เห็นตามที่เธอว่า ตอนนี้ช่วงห่างเกือบครึ่งนิ้ว “รินกำหลวม ๆ หรือเปล่า ?” วรินทร์ส่ายหน้า
“รินคอยวัดของพี่เชิดเอาไว้ตลอดแหละ ใหญ่ขึ้นจริง ๆ พี่” เชิดภักดิ์หัวเราะเบา ๆ
“พี่ไม่รู้แฮะ…ถ้างั้นพี่ชักสงสัยของรินแล้วละ อวบใหญ่ขึ้นซักขนาดไหนกัน ?”
“งั้นพี่ก็ต้องพิสูจน์ดูเองแล้ว…แต่พี่ใช้อะไรวัดละ…?” เชิดภักดิ์ทำท่าครุ่นคิด “พี่นึกออกแล้ว…” พูดจบหลิ่วตาให้
“วัดคืบหรือพี่…” เชิดภักดิ์ส่ายหน้าหัวเราะคิ๊ก ๆ “เอ..แล้วใช้อะไรวัด รินไม่เคยเห็นพี่เชิดเอาไม้บรรทัดมาวัดซักกะหน่อย”
“มีซิ..พี่วัดขนาดของรินบ่อยเหมือนกัน” พูดจบเชิดภักดิ์ชี้ที่หน้าตัวเอง วรินทร์มองตามนิ้วมือด้วยความงุนงง
“นิ้ว..หรือ ?” เชิดภักดิ์ส่ายหน้า “ให้ทายอีกที” วรินทร์ขมวดคิ้วแน่นจนเหมือนผูกโบว์เธอพยายามคิด ๆ หาคำตอบ
แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออ ไม่รู้เชิดภักดิ์พี่ชายของเธอใช้อะไรเป็นเครื่องมือวัดขนาดเนินโคกของเธอ
“รินเห็นจะยอมแพ้ คิดไม่ออกจริง ๆ” เธอชะม้อยตาตอบ “น่า..ลองเดา ๆ ดูซิ..” วรินทร์ทำเสียงจิ๊กจั๊ก ๆ
“อาวว..งั้น..ใช้ฝ่ามือวัดเหรอพี่เชิด” เชิดภักดิ์ยิ้มแล้วส่ายหน้า “ม้ายยย..ช่าย…”

“เอ..วรินทร์นึกไม่ออกจริง ๆ พี่เชิดไม่เคยเอาไม้บรรทัด ไม่เคยเอาสายวัด..ฝ่ามือก็ไม่ช่าย…งงจัง..”
เชิดภักดิ์ยิ้มร่า “งั้น..พี่เฉลยก็แล้วกัน…อยากรู้ช่ายปล่าววว..” วรินทร์พยักหน้าหงึก ๆ สายตาเว้าวอน
“หน้าพี่ไง…พี่ซุกเข้าไปแล้วรู้ขนาดเลย..ว่าหีใหญ่ขึ้นจริงหรือเปล่า ?” วรินทร์ทุบอกพี่ชายพลั๊กแล้วหัวเราะ
“เข้าใจใช้อุปกรณ์วัดเน๊าะ…” แล้วทั้งสองก็หัวเราะจนตัวงอ น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตที่จางหายไปนานบัดนี้ได้มาหาพวกเขาแล้ว

“พี่เชิด..พูดจริงหรือตะกี้นะ ?” วรินทร์พยายามกลั้นหัวเราะ เชิดภักดิ์ยิ้มยั่วตาพราวแล้วพยักหน้า “จริ๊ง…”
เชิดภักดิ์ออกเสียงสูง “บ้า..พี่เชิดนี่บ้าจัง…วัดเข้าไปได้ยังไง ? ใครสอนพี่เชิดเหรอ ?”
“ก็เนินหีวรินทร์สวยนี่..สวยด้วยหอมด้วย ไม่รู้ละพี่วัดโคกทุกวันเลย…เมื่อก่อนนะ” พูดแล้วหลิ่วตาให้เธอข้างหนึ่ง
“พี่เชิดนี่บ้ามากเลย แต่มันหอมจริง ๆ เหรอ…” วรินทร์ถามตาเป็นประกาย เชิดภักดิ์พยักหน้าหงึก ๆ “ยังจำกลิ่นได้ไม่รู้ลืมเลย..”
“บ้าจัง..” วรินทร์อายหน้าแดง “พี่ถามรินนิดหนึ่งนะ..หมอยรินดกขึ้นอีกหรือเปล่า ?”
วรินทร์ค้อนวงใหญ่ “นึกถึงของตัวเองละซิ..ของพี่เชิดรกขึ้นเยอะเลย”
“ไม่อาวว ๆ ตอบมาซิ พี่ถามว่าของรินดกขึ้นหรือเปล่า ?…” วรินทร์ค้อนอีกวง
“ไม่รู่..แต่ก็บาง ๆ เหมือนเดิมนั่นแหละ…พอใจยัง..”
เชิดภักดิ์พยักหน้า “ขอรินไปเข้าห้องน้ำหน่อย กินเบียร์ไปเยอะชักปวดฉี่แล้ว…”
“โห..กำลังคิดจะวัดขนาดดูอีกที รีบหนีพี่ไปเข้าห้องน้ำซะแล้ว…” วรินทร์หมั่นไส้พี่ชายอ้าปากงับแล้วแกล้งสบัดเล่น ๆ
เชิดภักดิ์ครางซี๊ด “อุ๊ยยย..กัดแล้วสบัดอีกด้วย…” วรินทร์ปล่อยเนื้อตรงแขนแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำ

เชิดภักดิ์เอนหลังพิงพนักโซฟาหลับตาลงปล่อยความคิดล่องลอยไปยังอดีต
ในหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความคึกคักตื่นเต้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนวันนี้เลย
เหตุการณ์ของวันนี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของอารมณ์และความรู้สึกได้ชัดเจน
เชิดภักดิ์สาบานกับตัวเองว่าต่อไปนี้เขาจะไม่มีวันปล่อยให้น้องสาวคนสวยของเขาไปเป็นของคนอื่นอีกเด็ดขาด

เชิดภักดิ์ปล่อยความคิดล่องลอยจนได้ยินเสียงกระซิบเรียกเบา ๆ ที่ข้างหู
“พี่เชิด..เราไปห้องกันเถอะ…” เชิดภักดิ์ลืมตาขึ้นเห็นวรินทร์ยืนอยู่หลังโซฟาใกล้หัวของเขา
เชิดภักดิ์เอียงหน้าไปมอง กางเกงยีนส์ขาสั้นหายไปแล้ว ตอนนี้วรินทร์เหลือแต่กางเกงในสีดำตัวเดียว
“ยังมองอีก…” เชิดภักดิ์เงยหน้าขึ้นมองสบตายิ้ม ๆ ที่เธอก้มลงมา
“อยากวัดขนาด…” วรินทร์หน้าแดง “บ้า…” แต่เสียงเบาและเครือพิกล
เชิดภักดิ์ลุกขึ้นยืนอ้อมโซฟามาหาเธอแล้วจูงมือกันเดินไปยังห้องนอนของเธอ

“ไปห้องรินนะ…” เชิดภักดิ์กระซิบบอก “อาบน้ำกันก่อนไหมพี่เชิด..เหนียวตัวออก” วรินทร์จูบแนบหน้าอก
เชิดภักดิ์พยักหน้าน้องสาวของเขาละแบบนี้ทุกที ก่อนขึ้นสนามเธออยากให้อาบน้ำกันให้สะอาดสะอ้าน ทั้งสะอาด ทั้งสดชื่น
“อาบพร้อมกันหรือเปล่า ?” วรินทร์หัวเราะ “ให้รินอาบก่อน..แล้วพี่เชิดค่อยอาบนะ..” เชิดภักดิ์ทำหน้ามุ่ย
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะได้รู้ว่าใหญ่ขึ้นจริงหรือเปล่าละ ?” วรินทร์หัวเราะร่วน “อีกแป๊บเดียวเอง..อย่าใจร้อนซิ”
“อื้อ..งั้นก็ได้…” วรินทร์ผลักพี่ชายไปที่เตียง ส่วนตัวเธอไปหยิบผ้าขนหนูแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ

ห้องที่นี้เดิมเป็นห้องนอนใหญ่ของพ่อกับแม่ ส่วนห้องที่เชิดภักดิ์อยู่เป็นห้องที่เขาอยู่กับวรินทร์
เตียงห้องชั้นก็ยังอยู่ในห้อง เชิดภักดิ์เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี มันเป็นทั้งของที่ระลึกและความทรงจำแสนหวาน

เชิดภักดิ์นอนเหยียดยาวบนเตียงใหญ่ วันนี้เขาจะได้ชดเชยสิ่งที่สูญหายไปจากเขานานหลายปี
เสียงน้ำในห้องน้ำช่างไพเพราะเสียเหลือเกิน เชิดภักดิ์ลุกขึ้นไปปิดไฟใหญ่แล้วกดเปิดไฟหรี่
เปิดเพลงรักคลอเบา ๆ แสงสีเรื่อเรืองเคลือบผนังสีโอโรสช่างแสนหวานโรแมนติก
เชิดภักดิ์ร้องคลอเพลงโปรดเบา ๆ ปล่อยใจลอยล่องไปตามเสียงเพลง เขาเมาหรือเปล่า ?
เชิดภักดิ์คิดว่าเขาไม่ได้เมา ถ้าจะเมาเขากำลังเมาอารมณ์ต่างหาก

ช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้เขาเป็นคนหลับยาก คิดถึงแต่วรินทร์ที่เคยอยู่ในอ้อมกอด
เจ็บจนชาและด้าน แผลไม่เคยหายมีแต่ตกสะเก็ดแล้วถูกเกาให้เลือดออกซิบ ๆ อีก
วันเวลาปีแล้วปีเล่ารักษาแผลนี้ยังไงก็ไม่หาย แต่ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
แผลใจเรื้อรังของเขาได้รับการบำบัดโดยหมอเฉพาะทาง ความจริงปัจจุบันเริ่มจาง ๆ
ตั้งแต่เขารับวรินทร์กับหลานกลับมาอยู่บ้านแล้ว แผลเป็นของค่อย ๆ นุ่มและจางลงทุกขณะ
จนถึงนาทีนี้มันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การทำงานหนักและเหนื่อยในการต่อสู้เชิงธุรกิจทั้งหมด
เชิดภักดิ์รู้สึกว่าตัวเองมีค่ามีความหมายมากแค่ไหนก็เวลานี้นี่เอง

“พี่เชิด..พี่..หลับหรือเปล่า ?” เสียงกระซิบแผ่วที่ข้างหู เขาลืมตาหันไปมองวรินทร์ใส่ชุดนอนเรียบร้อย
ชุดนอนสีขาวผ้าฝ้ายเนื้อดี กระโปรงทิ้งชายพริ้ว เชิดภักดิ์ยันตัวลุกขึ้นมองเธอตาวาว
“น่ารักจังริน…ให้พี่วัดขนาดก่อนได้หรือเปล่า ?” พูดจบหัวเราะฮิฮะ
“ไม่อาวว…พี่เชิดต้องไปอาบน้ำก่อน…” วรินทร์ทำตาดุถอยหลังเตรียมตั้งท่า
“อือ ๆ พี่ไปอาบก่อนก็ได้…” เชิดภักดิ์ขยับแล้วรีบเอื้อมมือไปคว้าตัววรินทร์ดึงเข้ามากอด
วรินทร์ทุบที่ไหล่พี่ชายแล้วหัวเราะ “พี่เชิดขี้โกงรินอีกแล้ว..ไม่อาวว..ไปอาบน้ำก่อน…”
“แหม..ขอวัดนิดเดียวก้อ..ม่าย..ด่าย..” เชิดภักดิ์สอดมือไปลูบยังตำแหน่งที่อยากจะวัดขนาด
วรินทร์ตีมือแล้วพูดว่า “ไปอาบเถอะ..เร็วด้วยนะ รินรอ…”

เชิดภักดิ์ปล่อยวรินทร์แล้วลุกขึ้นรับผ้าขนหนูที่ส่งมาให้ เชิดภักดิ์ผิวปากเดินเข้าห้องน้ำตัวปลิว
วรินทร์มองตามหลังพี่ชายแล้วอดยิ้มไม่ได้ เธอรู้สึกได้ถึงความกระหยิ่มยินดีไม่จมอยู่กับโลกของตัวเองเหมือนก่อนอีกแล้ว
เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง ชอบสีสรรบรรยากาศเหลือเกิน แสงสว่างกำลังพอดีไม่มืดและไม่สว่างจนเกินไป
มองซ้ายมองขวาแล้วนึกอะไรขึ้นมาจนอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเปิดลิ้นชัก
หยิบไฟฉายประสิทธิภาพสูงกระบอกเล็กแต่ให้แสงสว่างมาก เธอเปิดไฟแล้วส่องไปมุมห้อง
นึกไปถึงวันที่พี่เชิดของเธอใช้ไฟฉายส่องสำรวจเส้นหมอยแรกหย่อมน้อยของเธอ
ปิดสวิทช์ไฟฉายแล้วเดินกลับเอามาวางเอาไว้ข้างหมอน จากนั้นสอดเท้าเข้าไปใต้ผ้าห่ม
วรินทร์นอนคว่ำหน้าเอาหน้าผากหนุนหมอน ฟังเสียงเพลงคลอเบา ๆ ประกอบกับเสียงซู่ ๆ จากห้องน้ำ

วันนี้เป็นวันที่วรินทร์รู้สึกผ่อนคลายและสบายอกสบายใจมากที่สุดในชีวิต
ความใฝ่ฝันและความปรารถนาที่หายไป ต่อไปนี้เธอคงได้ชดเชยจนครบทั้งต้นและดอกเบี้ย
แม้จะไห้หวลอาลัยอาดูรแต่พายุและเมฆหมอกร้ายผ่านพ้นชีวิตไปหมดแล้ว
ต่อไปเธอกับเชิดภักดิ์พี่ชายคงมีแต่ความสุข ช่วยกันทำงานเพื่ออนาคตของลูกทั้งสองของเธอ

วรินทร์นอนคิดอะไรเพลินจนเธอรู้สึกว่าผ้าห่มเลิกออกจากตัว วรินทร์แกล้งนอนนิ่ง ๆ แต่ซิใจเต้นตูมตาม
ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนวันรุ่นเสียอีก มือที่คุ้นเคยมาลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง
วรินทร์นึกเสียใจว่าทำไมเธอถึงไม่ถอดชุดนอนออกไปก่อนขึ้นเตียงนะ
แต่ช่างเถอะ..เดี่ยวเชิดภักดิ์พี่ชายคงหาทางจัดการมันออกเองแน่นอน

ฝ่ามือ สันมือกดคลึงผสมลูบไล้ เบาบ้างหนักบ้าง ไล่ตามแนวกระดูกสันหลังจนขึ้นมาที่ต้นคอ
ลมร้อนที่เชิดภักดิ์ห่อปากเป่าพรวดไปตรงกระดูกตรงท้ายทอย วรินทร์ซ่านสยิวจนขนลุกเกรียว
แต่เธอก็ยังแกล้งทำเฉยนอนนิ่ง ฝ่ามือคุ้นเคยไล่ไปทั่วแผ่นหลัง จากนั้นลากลงมาตรงสะโพก
ต่อไปถึงก้นกลมผาย ลากเลยไปยังโคนขา แล้ววกย้อนสวนเข้าไปในกระโปรงดันมือขึ้นเรื่อย
กระโปรงของเธอก็เปิดตามมือเขาไปเรื่อย ก้นกลมสวยได้รูปข่าวผ่องอาบแสงไฟอ่อน
เชิดภักดิ์ลูบไล้ กดและคลึงเคล้าสะโพกทั้งสองอย่างที่เคยทำให้เธอสบายเหมือนเมื่อก่อนโน้น

วรินทร์สบายเนื้อสบายตัวเสียเหลือเกิน เสียดายว่าไม่ได้สบายแบบนี้มานานนักแล้ว
เชิดภักดิ์รูดเสื้อของเธอขึ้นไปอีก วรินทร์เกร็งยกตัวให้ลอยขึ้น เชิดภักดิ์รูดเสื้อเธอขึ้นไปจนติดจั๊กแร้
เชิดภักดิ์ใช้สายตาโลมไล้แผ่นหลังเนียน วรินทร์เปล่งปลั่งกว่าเมื่อก่อนเป็นไหน ๆ
เชิดภักดิ์ลูบไล้ทุกตารางนิ้วด้วยอารมณ์ฝันและถวิลหา วรินทร์ขยับหัวขึ้นจัดการรูดชุดนอนออก

“สบายตัวไหมริน…”
“อึม..สบายเหลือเกิน…ดีที่สุดเลย…”
“พี่มีความสุขที่ได้ทำให้รินแบบนี้นะ…”
“ค่ะ..ความสุขแบบนี้หายไปจากรินนานเหลือเกินแล้ว…”
“ต่อไปนี้รินจะได้สบายแบบนี้ทุกคืนเลย..ดีไหมละ ?”
“ดี..พี่เชิดทำให้รินทุกคืนเลยนะ…”
“จ๊ะ..เหมือนเมื่อก่อนโน้นนะ…”
“ค่ะ..”

เชิดภักดิ์จากปาดนิ้วที่มีเล็บตัดสั้นกรีดไปตามแนวกระดูกสันหลัง ลากยาวเลยลงมาจนถึงร่องก้น
วรินทร์เสียวจนต้องกระดกก้นยิก “เสียวหรือริน…” เธอไม่ตอบเชิดภักดิ์จึงลากนิ้วตรงร่องก้นของเธออีกครั้ง
วรินทร์กระดกก้นยกสูง เชิดภักดิ์เลยได้โอกาสลากนิ้วต่ำลงมาจนถึงกลางร่องแคม
ปลายนิ้วของเชิดภักดิ์สัมผัสกับความเปียกเยิ้ม “อุ้ย..รินเยิ้มแล้วนะ…” วรินทร์ครางอึมในลำคอ

“พลิกมาให้ดูหีรินหน่อยซิ..ใหญ่จริงอย่างรินอวดพี่ไว้หรือเปล่า ?”
“รินไม่ได้โม้นะ..ใหญ่ขึ้นจริง ๆ”
“เหรอ..พลิกนอนหงายซิ”

วรินทร์ขยับตัวพลิกตัวพลิกนอนหงายแต่ขาหนีบชิด เชิดภักดิ์ก้มลงมองตรงเนินที่น้องสาวอวดว่าใหญ่กว่าเก่า
โคกหีของวรินทร์อวบโคกกว่าที่เขาเคยเห็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ ด้วย วรินทร์แม้จะมีลูกสองคน
แต่เธอคลอดโดยการผ่าตัดทั้งนั้น เนินโคกหีของเธอจึงยังผุดผ่องไม่มีริ้วรอยเท่าแมวข่วน

“พี่เชิดว่าของรินใหญ่ขึ้นไหมคะ ?…” เชิดภักดิ์ครางอึมเบา ๆ
“แหม..เห็นไม่ค่อยชัด เดี่ยวขอพี่ไปเอาไฟฉายมาสำรวจหน่อย”
วรินทร์เอื้อมมือไปหยิบไฟฉายที่วางไว้ข้างหมอนมาส่งให้ “รินเตรียมไว้ให้พี่เชิดแต่แรกแล้วละ”
ส่งให้แล้ววรินทร์ห็หัวเราะ “รู้ได้ไงว่าพี่อยากใช้ไฟฉาย…” เชิดภักดิ์ถามเสียงยินดี
“ก็รินจำได้ตอนที่พี่เชิดตรวจหมอยของรินไงละ”
“ใช่ ๆ ตอนนั้นมีไม่กี่เส้นเอง” เชิดภักดิ์กดสวิทช์ไฟฉายเปิด แสงสีขาวนวลสว่างขึ้น “กระบอกนี้สว่างดีจัง…”
“พี่เชิดจะได้เห็นของรินชัด ๆ ไง ไม่ได้เห็นนานแล้วนี่นา…” เชิดภักดิ์พยักหน้า
“อึม..หมอย..หมอยของรินยังบางเหมือนเดิมนะ…”
“รินว่าเส้นมันใหญ่ขึ้นนะ…” เชิดภักดิ์หันไปมองสบตาที่คอยมองการกระทำของเขาตาแป๋ว
“ทำไมละ..รินไปทำอะไรกันมันหรือ ?” วรินทร์หัวเราะ
“ไม่ได้ทำ..ก็ตอนคลอดเขาโกนทิ้งหมดพอขึ้นมาอีกทีรินว่าเส้นมันเหมือนจะใหญ่ขึ้น”
“แต่ของรินก็ยังเส้นละเอียดกว่าของพี่เยอะ..อีกอย่างมันราบแนบไปบนเนื้อ ไม่เหมือนของพี่ฟูเชียว”
วรินทร์หัวเราะ “ผู้หญิงทุกคนคงแบบรินละมั้ง…?” เชิดภักดิ์ส่ายหน้า
“ไม่จริงหรอก..บางคนหยาบแล้วกดเหมือนของพี่นี่แหละ ไม่สวยเลย”
“แสดงว่าพี่เชิดชอบแบบบาง ๆ เนียน ๆ ละซิ…” เชิดภักดิ์พยักหน้าขยับไปฉายส่องไปยังกลางเนินโคกอวบตรงหน้า

“พี่เชิดว่าโคกขึ้นไหม ?” เชิดภักดิ์นิ่งเงียบใช้สายตาสำรวจครางฮึมฮำในลำคอ “ว่าไงคะ..พี่เชิด…”
“ใช่เหมือนรินว่านะแหละ ด้วยสายตากับความทรงจำของพี่..พี่ว่ามันอวบแล้วโคกขึ้นนะ น่าดูขึ้นกว่าเก่าเยอะเลย”
“รินบอกแล้ว…ม่-า-ย-ช-ะ-ช-ะ-เ-ชื่-อ..” เชิดภักดิ์หัวเราะหึ ๆ ยิ้มแก้มแทบปริ
“ริน..อ้าขาหน่อยซิ…” วรินทร์ทำตามขยับขาอ้าออกอย่างว่าง่าย

เชิดภักดิ์สาดแสงไฟฉายตรงกลางร่องเสียวของเธอ หมอยของวรินทร์แตกเป็นสองปีกกลืนหายลงไปในซอกขา
“สวยจังเลย..ไม่ได้เห็นมาาา..มาาา..นะ.นา..นาน…” เชิดภักดิ์พึมพำเหมือนคนละเมอ
“พี่เชิด ยัง ชอบ อยู่ หรือ เปล่า ละ ?” เชิดภักดิ์เงียบยื่นปลายนิ้วมือสั่น ไปเกาบริเวณเส้นหมอย
ลากปลายนิ้วเกาวนเป็นวงเล็ก ๆ แล้วลากนิ้วเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ “แบบนี้ดีจัง..รินชบ..สบายที่สุดเลย…”
เชิดภักดิ์เงยหน้าขึ้นมองสบตาน้องสาวที่จ้องเขาตาแป๋ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น