วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565

หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 27



          อาแปะไปแจ้งตํารวจ เจ้าหน้าที่มาตรวจที่เกิดเหตุแต่ไม่พบร่องรอยการงัดแงะแต่อย่างใด พบเพียงว่าประตูหลังบ้านไม่ได้ลงกลอน อาแปะส่ายหน้าคงจะลืมใส่กลอน เพราะมั่วกับอนงค์จนติดลม ขึ้นชั้นบนไปเลย มันเป็นความบังเอิญแท้ๆที่เจ้าขโมยก็ดันมาหมายลักของ มันพอเหมาะพอเจาะอย่างน่าคิด
          จับมือใครดมไม่ได้ รู้เพียงว่าข้าวของทั้งหมดถูกลําเลียงออกทางประตูหลังบ้าน และข้ามออกไปทางรั้วเตี้ยๆ ด้านหลัง ตํารวจสันนิษฐานว่าคนร้ายคงจะเอารถมาจอดรอขนของใต้ต้นไม้ใหญ่ใบหนาร่มครึ้ม กลางคืนจะมืดจนมองแทบไม่เห็นว่ามีใครทําอะไรอยู่ใต้ต้นไม้นั้นหรือไม่
          อาแปะได้แต่ถอนหายใจอยู่เฮือกๆ แต่ไม่ทราบจะทําอย่างไร ของมันหายไปแล้วก็รอความหวังจากเจ้าหน้าที่ตํารวจว่าจะสืบสวนเบาะแสว่าใครเป็นไอ้หัวขโมยได้หรือไม่
          “ไม่ต้องดูมันแล้วหนังละคร เพลงก็ไม่ต้องฟัง อยู่มันเงียบๆยังงี้ แหละ”
          อาแปะพูดอย่างประชดประชันตัวเอง แต่อนงค์อมยิ้มซ่อนเอาไว้ปลอบใจอาแปะให้คลายหงุดหงิด
          “โธ่...แปะจ๋า แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ซื้อใหม่เมื่อไรก็ได้”
          “...ไม่ร่วงอะไร หลายหมื่นเชียวนะ”
          “หาใหม่ได้น่า”
          อาแปะไม่ตอบว่ากระไร แต่คิดจริงอย่างอนงค์ว่าเงินทองหาใหม่ได้ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้

                                                   ...........................................................

          อนงค์กับจ่ายงค์นัดพบกันที่ร้านอาหาร สําเริงสําราญกันในยามเย็นมีความสุขกันเหลือเกิน แบ่งสันปันส่วนกันตามที่ตกลง จ่ายงค์ติดใจจะเอาอีก
          “เอาบ้าอะไรล่ะจ่า แปะยังไม่ได้ซื้ออะไรเข้าบ้านเลย ยังกลุ้มอยู่”
          “อีกไม่กี่วันก็ต้องซื้อคนมันมีเงิน”
          “ไม่รู้จะซื้อหรือเปล่า แต่คราวนี้อย่าให้ฉันร่วมมือด้วยนะ กลัวเขาสงสัย จ่ายงค์ต้องใช้ความสามารถส่วนตัวแล้ว”
          จ่ายงค์หัวเราะหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์เหล้า เอื้อมมือตบบั้นท้ายอนงค์เบาๆ
          “ไม่ต้องห่วงน่า ทําเองก็ได้เข้าไม่ยาก ขอเพียงส่งข่าวให้รู้ว่ามันซื้อของเข้าบ้านมาหรือยังเท่านั้น ประตูหลังนั่นน่ะงัดทีเดียวก็กระจุยแล้ว  “เออ...ว่าแต่ว่ากลางคืนมันใส่กุญแจหรือเปล่า”
          “ไม่ได้ใส่หรอก ใส่กลอนเฉย ๆ”
          “ยังงั้นสบายงัดบานไม้ออก เจอบานเหล็กก็กรีดมุ้งลวดเอื้อมมือไปถอดกลอน แล้วหลังจากนั้นไม่มีปัญหาใดๆ”
          คืนนั้นออกจากร้านแล้วก็ไปจบที่โรงแรมม่านรูด จ่ายงค์ไม่เข้าบ้านอนงค์ เขาปล้ำนุชตั้งแต่วันนั้นสงสัยว่าอนงค์ยังไม่รู้คงไม่มีใครบอก ดีแล้วที่ไม่บอกก็ไม่อยากเข้าไปหรอก โรงแรมสบายกว่ากันเยอะ
          เขาถล่มถ้ำเนื้อของอนงค์จนน้ำทะลัก อนงค์ร้องไม่เป็นภาษาคนอยู่บนเตียง เขาจับหล่อนเล่นทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ...อนงค์ครางอ๋อยๆยอมแพ้ แต่เขาก็กระหน่ำจนเรียบร้อยไปตั้งสามยกแล้วจึงไปส่งหล่อนกลับบ้าน

                                                   ...........................................................

          ไม่กี่วันจ่ายงค์ก็ได้ข่าวจากอนงค์ว่าอาแปะซื้อของเข้าบ้านอีกแล้ว ของใหม่เอี่ยมแกะกล่องยั่วน้ำลายจ่ายงค์ยิ่งนัก เขาดอดเข้าไปเอามาโดยไม่บอกให้อนงค์ล่วงรู้ ด้วยซ้ำ อาแปะตื่นมาตอนเช้าลมแทบจับ ซื้อของเข้าบ้านเพียงสาม วันก็โดนยกเค้าอีกแล้ว
          อาแปะด่าโขมงโฉงเฉงเดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตํารวจ มาตรวจสอบก็บอกได้ว่าอาจจะเป็นหัวขโมยคนเดิมหรือกลุ่มเดิม เพราะงัดประตูหลังและขนของออกทางรั้วใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยหลักฐานเอาไว้เลย ลายนิ้วมือก็ไม่มี มันสวมถุงมือ
          อาแปะได้แต่นั่งเอามือกุมขมับ เอาไว้ไม่ได้แล้วไอ้ต้นไม้ใหญ่ๆ จ้างคนมารานกิ่งก้านมันออกไปเสียบ้าง ดกหนาทึบนักไม่ไหว เสียของไปแล้วสองครั้ง
          ตัดต้นไม้แล้วละแวกนั้นโล่งไปเยอะ จ่ายงค์ขับรถผ่านไปก็กระหยิ่มยิ้มเยาะ ไอ้แปะเอ๊ย ทําเป็นก้างขวางคอกู เป็นไงสาสมไหม
          แต่ดูเหมือนว่าจ่ายงค์ยังไม่สะใจ เขาชักชวนให้อนงค์ลักเงินสดอาแปะ....อนงค์ก็เหมือนกับคนหูหนวกตาบอด หลงใหลจ่ายงค์คอยสอดส่องว่าอาแปะเก็บเงินสดไว้ที่ไหน ก็พบว่าเอาไว้ในห้องนอนซ่อนในตู้เสื้อผ้า

          คืนนั้นอนงค์ได้ข่าวว่าอาแปะเบิกเงินสดมาสองแสน ...เตรียมปล่อยกู้ เขาไปแวะธนาคารแล้วรับหล่อนกลับบ้าน พูดเปรยขึ้นมาโดยไม่ได้ถามถึงเงินจํานวนนั้นจะให้คนกู้
          “มันไม่มากไปหรือแปะ สองแสนเชียวหรือ เดี๋ยวเขาเชิดไปหมดล่ะ”
          “…อ๋อ มันไม่ใช่รายเดียว หลายรายด้วยกัน คราวนี้ก็จะได้ดอกมาเยอะหน่อย จะได้เอาไปถัวกับค่าข้าวของที่โดนไอ้ขโมยบ้ามันยกเอาไป”
          “แล้วแปะจะทํายังไง ตํารวจเขาว่ายังไงล่ะ”
          “เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาให้ระวังตัวแปะไม่ระวังหรอก ไม่ซื้อมันแล้ว ถ้าซื้อก็จะซื้อทีวีเล็กๆ นอนดูในห้องนอน”
          อนงค์ไม่ได้ออกความเห็น เพราะใจจดจ่ออยู่ที่เงินสองแสน คืนนี้ต้องไปนอนค้างกับอาแปะและเล่นกันให้เพลีย หลังจากนั้นสองแสนคงไม่พ้นมือ
          แวะดื่มเบียร์กันก่อนเข้าบ้าน อาแปะไปเข้าห้องน้ำอนงค์ก็มองตาม เงินสองแสนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาตุงเลยทีเดียว อีกไม่กี่ชั่วโมงมันจะเป็นของหล่อน
          พอถึงบ้านระหว่างที่อาแปะเข้าห้องน้ำ อนงค์ใช้โทรศัพท์ถึงจ่ายงค์ เขารับสายอนงค์บอกเรื่องเงินสองแสน
          “อย่าปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไป ลงมือทันทีอนงค์แล้วจะรออยู่ตรงปากซอย ได้เงินแล้วออกมาเลย”
          “เขาก็รู้ว่าฉันเอาน่ะซี”
          “รู้ก็รู้ ...ถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ เงินหายไปสองแสนแล้วในบ้านไม่มีใคร นอกจากเธอ จิ้งจกมันคงไม่ขโมยเงินไปหรอก เธออยู่ก็จะเอาอะไรไปแก้ตัว”
          “จริงซี”
          อาแปะออกมาจากห้องน้ำ หล่อนไปเข้าบ้าง อาบน้ำชําระล้างจนสะอาดเพื่อจะได้สนุกส่งท้ายกับอาแปะ แต่หล่อนเห็นแล้วว่าอาแปะเก็บเงินไว้ในตู้เสื้อผ้า เงินอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล

          อาบน้ำออกมาอาแปะประคองกอดไปที่เตียง กระตุกผ้าเช็ดตัวออก เปิดฉากโลมเล้าด้วยชิวหาไม่ลังเลใดๆ ฉกลิ้นว่องไว อนงค์เสียวซ่านสนองตอบไม่ลดละ แอ่นเนินร่อนไปร่อนมา สองเต้าโดนมืออาแปะนวดเคล้นขยําจนปลิ้น
          อาแปะมีอารมณ์รุนแรง เล้าโลมหนําใจแล้วก็เริ่มเปิดฉากยกเสาใหญ่ลงหลุมเนื้อ กระแทกพรวดหลังจากเอาหัวทู่จ่อที่ปากร่องหลุม ก็ผลุบหายไปทั้งดุ้นอนงค์ผวากรีดร้องอย่างตกใจ
          อาแปะใส่ได้หมดแล้วก็เริ่มโยกบั้นท้ายอย่างผู้ช่ำชอง ยักซ้ายยักขวา เพิ่มรสเสียวให้สะเด็ดสะเด่ามากยิ่งขึ้น ก็ทําให้อนงค์ซี้ดปากอย่างเอร็ดอร่อยลึกล้ำ น้ำออกมาฉ่ำเยิ้มเต็มร่องเนื้อ และชโลมลําเนื้ออาแปะจนลื่น ...ช่วยให้ลําเนื้อเขื่อง คับตึงนั้นเคลื่อนเข้าออกได้คล่องแคล่วมากเป็นพิเศษ
          อนงค์รับได้ทุกท่า อาแปะก็เหมือนอยู่กรมเจ้าท่าเพราะท่ามาก แต่ไม่ว่าท่าไหนอนงค์ก็รับได้หมด ไม่ว่าจะท่าข้างหน้า อ้าขาหรือยกขาพาดบ่า หรือท่าข้างหลังคุกเข่า หรือยืนโก้งโค้ง นอนตะแคงแทงทางซอกกลีบด้านหลังอนงค์ไม่ขัด ขอเพียงอาแปะชื่นชอบเท่านั้น และหล่อนก็ชอบด้วย เกือบลืมไปว่ามีงานสําคัญรออยู่ราคาค่าเงินสองแสนบาท

          หล่อนเย่อกับอาแปะเสียหมดแรง ม่อยหลับไปด้วยกันสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เกือบเสียเรื่อง เพราะเวลาล่วงไปตั้งตีหนึ่ง ลุกอย่างแผ่วเบาจากที่นอน อาแปะส่งเสียงกรนสนั่น หล่อนค้นหาซองสีน้ำตาลหลังกองเสื้อผ้าพบว่ามันอยู่ตรงนั้น เปิดถุงอย่างแผ่วเบาก็พบว่าเงินสดจริงๆและไม่จําเป็นต้องนับว่ามีเท่าไร ...หล่อนก็แต่งตัวรวดเร็วเล็ดลอดออกมาจากบ้านเงียบกริบ
          ขโมยกันดื้อๆยังงี้แหละ จ่ายงค์รับรองแล้วจะไปตั้งตัวกัน ติดใจรสสวาทของเขา ว่าไงก็ว่าตามกัน เสียคนก็ไม่หวั่น ขอเพียงความมันส์ไม่ห่างหายเป็นเพียงพอคิดว่าคุ้ม
          คนเราบางครั้งก็เหมือนหูหนวก ตาบอด เหมือนอย่างอนงค์อย่างนี้แหละ ขโมยเงินไปพบกับจ่ายงค์ที่จอดรถรอคอยอย่างกระวนกระวาย พอเห็นก็เรียกขึ้นรถ
          “แวะไปเอาเสื้อผ้าก่อนซี”
          “ไม่ต้องแล้วอนงค์”
          ไม่มีการบอกกล่าวลูกเต้าแต่อย่างใด แต่อนงค์คิดว่าหนึ่งลูกสาวคนโตคงไม่ทิ้งน้อง พอกันทีหมู่บ้านนี้ทิ้งมันไว้เบื้องหลัง
          หล่อนไม่ได้โบกมือลา แต่นั่งมาเงียบๆ จ่ายงค์ถามถึงซองเงิน ก็ยื่นให้เขาล้วงออกมาจากใต้ชายเสื้อ
          “ดีมากอนงค์ เธอเก่งมากๆเลย ต่อไปนี้เราจะใช้ชีวิตร่วมกันเสียที”
          อนงค์เอียงร่างลงไปซบกับลาดไหล่ของเขา เขาก็เอื้อมมือข้างหนึ่งไล้ลูบหน้าขาของหล่อนอย่างนุ่มนวล และลูบไล้ถึงเนินเนื้อที่กลีบยังฉ่ำไปด้วยน้ำรักของอาแปะ
          “มันเล่นไปกี่ที”
          “อะไรจ๊ะ”
          “ไอ้แปะมันเล่นไปกี่ยก”
          “ครั้งเดียวเท่านั้น”
          “ทําไมนานจัง”
          “ก็แปะเขาเล่นนาน ทีนึงก็ชั่วโมงสองชั่วโมง”
          “มันเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ”
          “แต่ฉันไม่ชอบหรอก ชอบแบบจ่ายงค์มากกว่า ชอบไอ้ดุ้นนี้น่ะอร่อยดีจ้ะ”
          ว่าพลางมือหล่อนเอื้อมตะปบเป้ากางเกงจ่านอกราชการ เขาก็กระซิบถามว่า  “จริงหรือจ๊ะ ที่ว่านั่นน่ะ”
          “ไม่จริงจะยอมเสี่ยงขนาดนี้ยังไง
          “งั้นก็เอามันออกมาชี รูดซิปแล้วงัดมันออกมาเลยจ้ะ”
          อนงค์ก็ทําตามด้วยมือสั่นๆ อารมณ์สวาทเกิดอีกแล้วร้อนแรงเสียด้วย รูดซิปแล้วงัดลําเนื้อยาวใหญ่ของจ่ายงค์ออกมา รูดมันอย่างกระหายทําท่าก้มหน้าลงไปจะเอาปากดูด
          “อู๊ยยย์...อย่าจ้ะ  เดี๋ยวแวะเข้าโรงแรมก่อนก็ได้”
          “อย่าเลยจ้ะ ในรถก็ได้”
          “เอางั้นเหรอ”
          “มันแปลกดีนะ เปลี่ยนบรรยากาศ”
          “งั้นก็ได้จ้ะ”

          จอดรถเข้าข้างทาง ยวดยานยามดึกไม่ขวักไขว่ มันไม่ใช่ที่มืดอะไรนักแต่ก็ไม่มีใครสนใจ จ่ายงค์ให้อนงค์นั่งลงบนหน้าตัก โดยเขาเอาท่อนเนื้อมหาสนุกออกมาตั้งขณะนั่งอยู่ที่เบาะ มันขลุกขลักแต่อนงค์ก็ชอบ ถลกกระโปรงถอดกางเกงในสวมผลุบลงไป แล้วขย่มเท่าที่ทําได้ ทํากันไปหัวเราะกันไปทั้งสนุกทั้งขำ แสงไฟรถก็แวบไปแวบมาหนักเข้าก็ย้ายไปที่เบาะหลัง
          อนงค์นอนลงแล้วจ่ายงค์ก็ทาบร่างประกบ ตื่นเต้นดีจังอนงค์บอกกับตัวเอง ภาวนาว่าตํารวจอย่าหยุดตรวจเข้าล่ะ เอาไฟฉายส่องเข้ามาก็คงจะเห็นหมด
          ปรากฏว่าเล่นกันไม่ทันเสร็จ เพราะระแวงคนมาเจอ จึงขยักเอาไว้ก่อน ตกลงกันว่าไปเข้าโรงแรมม่านรูดต่อ คงจะมันส์กว่านี้เยอะ
          “ยังงี้สนุกดี แต่คอยระแวง ไปโรงแรมดีกว่าสบายใจดี เล่นท่าได้ด้วยเดี๋ยวลงแช่ในน้ำแล้วเล่นกันดีไหมอนงค์”
          “ดีจ้ะ”
          ออกจากรถตรงนั้นมุ่งหน้าไปเข้าโรงแรมม่านรูดที่มองเห็นป้ายอยู่ริมถนน เลี้ยวซ้ายเข้าไป พอเข้าห้องแล้วมันก็กลายเป็นสวรรค์ ทั้งห้องเป็นเหมือนวิมานไม่มีใครมายุ่งอีกแล้ว
          จ่ายงค์กับอนงค์ไปอาบน้ำชําระล้างด้วยกัน แล้วถือโอกาสเล่นเสียวในห้องน้ำ ลงไปแช่ในอ่างแล้วเย่อกันในอ่างอย่างสนุก พอลุกยืนขึ้นจากอ่างก็เล่นท่าข้างหลัง อนงค์โก้งโค้งไม่ยอมให้เสร็จ ไปต่อกันที่เตียงอนงค์ยืนเกาะขอบเตียง แล้วให้จ่ายงค์บริการสวาททางบั้นท้าย จ่ายงค์ทั้งเลียทั้งเสยเสือกลําใหญ่เข้าไปในกลีบอูม เสือกเข้าชักออกจนร่องเนื้อเป็นมันเยิ้ม
          ยืนก้มตัวเมื่อยแล้ว อนงค์ก็ลงไปนอนอ้าซ่าพาดขอบเตียง จ่ายงค์โหมกระหน่ำยกขาข้างหนึ่งขึ้นแล้วกระทั้นพั่บๆๆ จนตัวเกร็งหน้าแดงก่ำ โรมรันเอาเป็นเอาตายแล้วให้อนงค์คุกเข่าบนเตียง เขาคุกเข่าตามจากนั้นก็รัวใส่สวบๆ คว้านอย่าง เอร็ดอร่อย อนงค์ครางอ๋อยๆ โยกบั้นท้ายส่ายรับ
          จ่ายงค์หื่นกระหายเต็มที่เขาเหนี่ยวบั้นเอวอนงค์แล้วโยกตัวเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่ามกลางเสียงร้องครวญครางของอนงค์ ใบหน้าหล่อนบิดเบ้ เสียงสั่นระรัวฟังแทบไม่ได้ศัพท์
          เมื่อไม่กี่ชั่วโมงสนุกอยู่กับอาแปะ พอมาตอนนี้ก็มามั่วกับจ่ายงค์ หล่อนคิดว่าตัวเองเกิดมาไม่เสียชาติเกิด ได้รับความสุขทางเพศอย่างล้นเหลือ ...หาไม่ยากเพราะหล่อนมีของดีนูนใหญ่และกระชับ อีกทั้งอารมณ์สวาทของหล่อนไม่เคยสร่างซา มันร้อนเหมือนไฟอยู่ไม่หยุดหย่อน
          “ไอ้แปะมันทํานานชั่วโมงสองชั่วโมง จ่ายงค์ก็ทําได้ ที่รักจ่ายงค์ทําได้ทั้งนั้น เล่นกันตลอดคืนไม่ให้เสร็จจ่ายงค์ก็กลั้นไหว”
          “จ่ายงค์เก่งเหลือเกินจ้ะ”
          “เป็นไง...กับไอ้แปะใครสะเด่ากว่ากัน”
          จ่าร่างใหญ่ถามอย่างย่ามใจและคิดว่าตัวเองเป็นต่อหลายขุม ถ้าไอ้แปะเก่งกว่าทําไมอนงค์จะกล้าขโมยเงินมันมา และยินดีไปร่วมหัวจมท้ายกับเขา ที่ไหนก็ได้แล้วแต่เขาจะพาไป เหมือนกับหล่อนได้มอบชีวิตนี้ทั้งชีวิตให้เขาหมดแล้ว
          “...จ่ายงค์ไม่น่าถามเลยจ้ะ ใครเก่งกว่ากันจ่ายงค์ก็รู้ดีอยู่แล้วนี่จ๊ะ จ่าเล่นมันส์สะเด่าเข้าไส้ไปเลยจ้ะรู้หรือเปล่า ว้าย....โดนปากมดลูกอีกแล้ว”
          "โดนปากมดลูกเชียวหรือ”
          “โดนปากมดลูกน่ะซีจ๊ะ ก็ของจ่าน่ะมันทั้งยาวทั้งใหญ่”
          “แข็งสนั่นด้วยใช่ไหม”
          “แข็งยังกับหิน ดีกว่าของอาแปะ ของอาแปะบางทีก็นุ่มๆไม่ดีเลย ฉันไม่ชอบ ฉันก็ชอบอย่างแข็งๆ ยังงี้ มันส์ดีจ้ะ”
          “พูดยังงี้นะ เดี๋ยวจะทําให้มีความสุขจนลืมไม่ลงเลยเชียวล่ะจ้ะที่รัก บอกมาซิว่าอยากลองท่าไหนอีก”
          ...อนงค์นึกไม่ออกหรอกว่าอยากจะลองท่าไหน เพราะไม่ว่าท่าไหนจ่ายงค์ก็เล่นได้สนุกทุกท่า จะให้เลือกตอนนี้จึงมืดมนไปหมด
          “จ่าเลือกเองเถอะจ้ะ ท่าไหนก็ได้”
          จ่ายงค์ยิ้ม เขาเหลือบไปทางหมอนหนุนหัวสองใบ เขาบอกคู่สวาทด้วยเสียงเร่าร้อน เขาเอ่ยถึงหมอนด้วย
          “เอามันรองก้นเธอเป็นไง”
          “อุ๊ย...ท่าหมอนรองก้นน่ะหรือ”
          “ตกใจอะไรเหรอ”
          “เอาหมอนรองก้น โคกฉันก็แอ่นน่ะซี”
          จ่ายงค์หัวเราะห์ๆในลําคออย่างถึงพอใจ และนึกวาดภาพออกว่าพอหมอนรองบั้นท้ายอนงค์เข้าไปแล้ว นูนเนื้อของเจ้าหล่อนจะอยู่ในลักษณะใด
          “แอ่นๆ ซีจ๊ะ ที่ผู้ชายเขาชอบกันน่ะ แล้วยิ่งอนงค์น่ะพอรองแล้วก็ยิ่งแอ่นโคกมากขึ้นเป็นหลายเท่า เพราะตามธรรมดาของเธอมันก็ทั้งใหญ่ทั้งโคกอยู่แล้ว”
          จ่ายงค์กล่าวจบก็จัดการให้อนงค์อยู่ในท่านั้น ถอนตัวออกแล้วลากหมอนมา อนงค์นอนลงไปมีหมอนรองบั้นท้าย บั้นท้ายพาดบนหมอน นูนเนื้อโคกใหญ่ก็ยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ หล่อนผงกหน้าก็มองเห็นโคกเนื้อตัวเองแอ่นอยู่บนหมอนกลืนน้ำลายอย่างตื่นเต้น เหลือบมองใบหน้าจ่ายงค์ ...เขากําลังจ้องตรงโคก แล้วคุกเข่าขยับเข้าหาจ่อหัวสากดันเบาๆ ผ่านกลีบเนื้อ มันแหวกเข้าข้างในอนงค์เสียวจนหลับตาปี๋
          หลังจากจ่ายงค์ส่งลําเนื้อเสือกเข้าหมดสิ้น เขาก็เริ่มโยกบั้นเอวเคลื่อนลําเนื้อเสียดสีกลีบเนื้ออูมอย่างเมามันส์ ทวีความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นซอยกระหน่ำถี่ยิบ เขาก้มลงฟัดฟอนสองเต้างับหัวนมซ้ายย้ายไปงับหัวนมขวา  บางทีดูดปากที่สั่นระริกของอนงค์ สอดลิ้นเข้าไปพันกับลิ้นของหล่อน หล่อนก็ตวัดลิ้นพันด้วยอย่างเร่าร่านโหยหิว

          เนิ่นนานเหลือเกินที่เล่นเสียวกัน สลับสับเปลี่ยนท่วงท่านับไม่ถ้วนจนเหนื่อยอ่อนหมดเรี่ยวแรงจึงต้องพักผ่อนเสียทีหนึ่ง ด้วยความสุขล้นเหลือประมาณได้.

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น