วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

มนตระมันตรัย บทที่ 03


 
                       การเดินทางกลับที่พักใช้เวลาไม่นานนัก พอถึง บุญคำและพวกก็ออกมาต้อนรับ ต่างก็ดีใจที่ช่วย
มาเรียกลับมาได้ แม้ว่าสภาพของเธอจะสบักสะบอมอย่างหนัก เมื่อมาอยู่ท่ามกลางแสงสว่างจากกองไฟจึงเห็น
ได้ชัดถึงร่องรอยตามเนื้อตัว ที่บ่งบอกว่าเธอโดนมาหนักขนาดไหน น้ำเชื้อสีเขียวเข้มไหลออกมาเป็นจำนวน
มากอาบต้นขาของเธอจนดูเขียวไปหมด
                      แงซายหยุดที่หน้าเต็นท์เพียงพักเดียว เชษฐาก็สั่งให้นำมาเรียเข้าไปในเต็นท์ทันที เธอถูกวางยัง
ที่นอนของเธอ โดยมีดารินที่ถูกปลุกขึ้นมาทำการตรวจสภาพร่างกายของเธออย่างละเอียด ส่วนคนอื่นๆถูกกัน
ให้ไปรอผลที่นอกเต็นท์รวมทั้งเชษฐาด้วย
                      ทุกคนไปรวมตัวกันที่กองไฟ เชษฐาที่นั่งหน้าเครียดอยู่ก็ถามขึ้นมาว่า
                      " อาการของเมย์คงจะหนักเอาการ เราคงจะเดินทางต่อไม่ได้ จะเอายังไงกันดีรพินทร์ "
                      " ครับ เราคงจะต้องพักอย่างน้อยวันหรือสองวัน ผมเป็นห่วงแต่เรื่องไอ้พวกตัวประหลาดนั่น เรา
ทำอะไรมันไม่ได้เลย ถ้ามันบุกเข้ามาอีก พวกเราคงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ " รพินทร์พูดพร้อมกับหันไปมองที่ตัว
ประหลาดถูกมัดอยู่ ซึ่งมันที่ฟื้นขึ้นมาแล้วและกำลังมองตอบกับมา รพินทร์จึงพูดขึ้นอีกว่า " ดูจากตัวพวกมัน
แล้ว ผมว่าพวกนี้มีอาการคล้ายๆคนเรา ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานทั่วไป มันน่าจะมีภาษาพูดเป็นของตัวเอง เราลอง
เข้าไปสอบปากคำมึนดีกว่าครับ เผื่อจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้บ้าง "
                       " ดีเหมือนกัน พวกเราไปกันเถอะ " เชษฐาตอบแล้วลุกขึ้นเดินนำไป
                       ความจริงตัวประหลาดตนนั้นมันฟื้นขึ้นมานานแล้ว มันพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากการถูกมัด แต่
ก็ไม่สามารถจะหลุดออกไปได้ เพราะถูกบุญคำมัดอย่างแน่นหนา
                        ขณะที่พวกของรพินทร์กำลังเดินเข้าไปหายนั้น มันก็ใช้ตาอันกลมใหญ่ของมันจ้องมองโดยไม่
แสดงถึงการหวาดกลัวเลยสักนิด ซึ่งเป็นที่ขัดตาของบุญคำและพวกมาก แกเลยรีบเดินแซงทุกคนเข้าไปตบมัน
ด้วยมืออย่างแรง จนเจ้าตัวประหลาดหน้าหงายพับ
                        " ไอ้สัตว์เอ้ย พวกมึงทำพวกกูแสบนัก กูจะอัดมึงให้หนำใจเลย "
                        บุญคำเงื้อมือขึ้นเพื่อจะตบซ้ำลงไปอีก แต่รพินทร์ที่ตามมาทันได้จับมือแกไว้
                         " พอก่อนบุญคำ นายใหญ่จะสอบปากคำมัน " รพินทร์ห้ามบุญคำ แล้วหันไปบอกเชษฐาที่ยืน
รออยู่ว่า " เชิญคุณชายเริ่มได้เลยครับ "
                         " ผมว่าคุณเป็นคนสอบถามมันเองจะดีกว่านะครับ เพราะมันคงจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องแน่ๆ "
เชษฐาบอก
                         " ครับ งั้นผมจะลองดู " รพินทร์รับคำ แล้วหันไปมองหน้าเจ้าตัวประหลาดนั่น จากนั้นก็เริ่มสอบ
ถาม โดยทดลองใช้ภาษากระเหรี่ยงก่อน แต่ก็ไม่มีการตอบสนองจากเจ้าตัวประหลาดนั้นเลย เขาจึงเริ่มเปลี่ยน
ภาษาไปเรื่อยๆ แต่ผลก็ยังคงเป็นเช่นเดิม มันยังคงมองตอบมาด้วยอาการเฉยเมย
                         " ผมจนปัญญาแล้วครับ ทุกภาษาที่ผมพอจะพูดได้ก็ทดลองออกมาแล้ว อย่างที่เห็นกัน มันไม่
ตอบกลับมาเลย " รพินทร์พูดขึ้นอย่างหมดปัญญา
                         " หรือมันจะไม่เป็นอย่างที่พวกเราคิด มันคงจะเป็นสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง ที่ไม่มีภาษาพูดเป็นของ
ตัวเอง แล้วเราจะทำยังไงกันดี " ไชยยันแสดงความคิดเห็นขึ้นมาบ้าง
                          " แต่ผมกลับคิดไปอีกแบบนะครับ เท่าที่ผมสังเกตเห็น ตอนที่คุณรพินทร์พูดกับมัน ผมว่ามันก็
พยายามจะฟังอยู่นะครับ แต่มันไม่เข้าใจเท่านั้นเอง " เชิดพูดขึ้น
                          เชษฐาพยักหน้าเห็นด้วยกับเชิดวุธ แล้วหันหน้าไปที่กลุ่มของพรานพื้นเมือง จากนั้นก็พูดขึ้น
" พวกเรามีใครมั้ยที่พูดภาษานอกเหนือไปจากรพินทร์ได้บ้าง ลองทดลองหน่อยซิ "
                          พวกนั้นมองหน้ากันเลิกลาก แล้วพากันส่ายหัว มีเพียงแงซายคนเดียวเท่านั้นที่ทำสีหน้าไม่แน่
ใจ
                          " มีอีกภาษาหนึ่งครับ ผมก็ไม่มั่นใจนะครับว่าจะสื่อสารกับมันได้ เป็นภาษาโบราณ ที่เลิกใช้กัน
ไปนานแล้ว ผมได้เรียนจากพระธุดงค์ที่เลี้ยงผมมาครับ " แงซายพูดออกมาอย่างไม่มั่นใจ
                          " ทดลองเลยแงซาย เผื่อจะได้ก็ได้ " รพินทร์บอก
                          แงซายเข้าไปยืนใกล้ๆมัน แล้วพูดออกไปในภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจได้ โดยมีความหมายทำ
นองว่า " แกคือใคร "
                           พอได้ยินคำพูดของแงซายเท่านั้น ตัวประหลาดก็มองไปที่เขาทันทีและเปล่งเสียงออกมาใน
ภาษาเดียวกันว่า " เจ้าพูดภาษาของข้าได้ แต่ข้าก็คิดว่าคงมีแต่เจ้าเท่านั้นที่จะพูดกับข้าได้ เพราะข้ารู้ว่าเจ้าคือ
ใคร มีแต่คนที่เป็นเผ่าพันธุ์ในยุคเดียวกันเท่านั้นที่จะรู้ภาษานี้ อาณาจักรของเจ้ากับของข้านับว่าสามารถจะพูด
ได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ใช่มั้ยองค์ชาย สำหรับข้าคือใครนั้น ข้าจะบอกกับเจ้าก็ได้ว่า ข้าเป็นคนที่ต้องคำสาปอัน
ชั่วร้ายมาหลายพันปีแล้ว "
                           " สำเร็จ มันตอบแงซายแล้ว ถามมันซิ ว่ามันเป็นใคร ทำไมถึงต้องทำร้ายพวกเราด้วย "เชษฐา
สั่งอย่างตื่นเต้น
                           " ครับ มันบอกมาแล้วว่า มันเป็นคนที่ถูกสาปด้วยมนตราอันชั่วร้ายมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
รายละเอียดเป็นยังไงเดี๋ยวผมจะถามต่อนะครับ " แงซายหันมาบอกกับทุกคน จากนั้นก็หันกลับไปพูดกับตัวประ
หลาดตนนั้นต่อว่า
                           " แกจงบอกมาซิว่าทำไมแกถึงต้องทำร้ายพวกข้า ทั้งๆที่พวกข้าไม่ได้ทำอะไรพวกแกเลย "
                           ตัวประหลาดมองกราดไปยังทุกๆคนที่มุงดูอยู่ สายตาของมันไปหยุดอยู่ที่ร่างของรพินทร์นิ่ง
จากนั้นก็หันมาตอบแงซายว่า
                            " พวกข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายพวกเจ้าเลย ความจริงแล้วพวกข้าจะมาขอความช่วยเหลือจากคน
ในคณะของเจ้าต่างหาก "
                            แงซายหันไปแปลให้เชษฐาฟังว่า " มันบอกว่า พวกมันไม่ได้คิดจะทำร้ายพวกเราครับ แต่ที่
จริงแล้ว พวกมันมาเพื่อจะขอความช่วยเหลือจากเราบางคนครับ "
                            " ไอ้สัตว์เอ้ย มันบอกว่าไม่ตั้งใจจะทำร้ายพวกเราแต่การกระทำของพวกมันกลับเป็นตรงกัน
ข้าม ถามมันซิว่าแล้วทำไมถึงต้องทำร้ายผู้หญิงของเรา " ไชยยันพูดอย่างมีอารมณ์
                            แงซายมองไปยังเชษฐาแล้วพูดขึ้นว่า " เอาอย่างนี้มั้ยครับ นายใหญ่พูดกับมัน โดยผมจะเป็น
ล่ามให้นะครับ " ซึ่งเชษฐาก็พยักหน้าตกลงทันที จากนั้นเขาก็หันไปมองที่ตัวประหลาดแล้วพูดขึ้นว่า
                            " แกจงเล่าความเป็นมาของแกซิ "
                            จากนั้นการโต้ตอบระหว่างเจ้าตัวประหลาดกับเชษฐาก็ดำเนินไปโดยมีแงซายเป็นล่าม
                             ตัวประหลาดหันไปสบตากับทุกๆคน แล้วก็เริ่มเล่าในภาษาของมันว่า
                             " ตัวข้าและพวกต่างก็เป็นทหารและประชาชนของอาณาจักรโบราณเมื่อราวสามพันปีก่อน
ซึ่งบัดนี้ได้ล่มสลายไปแล้ว แต่ยังคงอยู่ในสภาพหลับไหล พวกข้าถูกคำสาปของราชปุโรหิตมันตรัยให้มาอยู่
ในสภาพครึ่งผีครึ่งคน มนตราของผู้ทรงฤทธิ์ ทำให้พวกข้าเป็นอมตะไม่ตาย แต่ต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน
มาเป็นเวลาสามพันปีแล้ว ส่วนสาเหตุก็เกิดจากเจ้าราชศัตรูที่กลับชาติมาเกิดอยู่ในคณะของเจ้า " มันพูดถึงตรง
นี้ สายตาของมันก็ไปจับจ้องที่ร่างของรพินทร์อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า " เจ้าอัครนีรุทธ์ หรือก็คือพรานผู้นี้
( มันชี้นิ้วไปที่รพินทร์ ) กับธิดากษัตริย์ของเราซึ่งก็คือองค์หญิงจิตรางคนาง และตอนนี้ก็ร่วมอยู่ในคณะของเจ้า
ด้วยเช่นกัน พวกเขาทั้งสองคนได้ร่วมกันทรยศตระบัดสัตย์ต่อราชปุโรหิตมันตรัย จนเจ้าปุโรหิตที่โหดร้ายนั้น
ได้ระบายโทสะ ใช้มนตราจากมหาคำภีร์มายาวิน ทำการสาปแช่งพวกข้าให้ตกมาอยู่ในสภาพเช่นที่เห็นนี้ พวก
ข้าต้องทนทุกข์ทรมานไม่ได้ไปผุดไปเกิดโดยไม่ได้กระทำความผิดใดเลย แต่เป็นเพราะเจ้าสองพระองค์ (มัน
มองไปที่รพินทร์อีกครั้งหนึ่ง ) ที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ความอยากความใคร่ โดยเฉพาะพระนางจิตรางคนางที่ทิ้ง
ท่านปุโรหิตไปเสวยสุขกับชู้รักอัคนีรุทธ์ ทิ้งสัจจวาจาที่เคยให้ไว้ พวกข้าถึงจะจงรักภักดีต่อกษัตริย์และหน่อ
เนื้อ แต่ในความภักดีนี้ก็เจือไปด้วยไฟแค้น พวกข้าปราถนาที่จะสั่งสอนให้พระนางได้รู้ว่า เพียงเพราะความกำ
หนัดของพระองค์มันได้สร้างความทุกข์ยากแก่พวกข้าเพียงไร พระองค์ก็ต้องได้รับมันเช่นเดียวกัน แต่ในอีกวา
ระหนึ่ง พวกข้าก็หวังพึ่งพระองค์ทั้งสอง ให้มาปลดเปลื้องความทุกข์ และปลดปล่อยพวกข้าให้ไปผุดไปเกิดสัก
ที ผู้ที่สร้างปัญหาก็ควรจะเป็นผู้แก้มิใช่รึ "
                           พอได้ยินคำแปลจากแงซาย ทุกคนก็ถึงกับมึน โดยเฉพาะรพินทร์ เขางงไปหมดที่อยู่ดีๆ กลับ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวต้นเหตุคนหนึ่ง
                           " พวกเราไม่สามารถยอมรับในเรื่องที่เจ้าเล่ามาได้หรอก ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่า คนหนึ่ง
คนใดในคณะของข้าได้กลับชาติมาเกิด และไม่ว่าจะเป็นยังไงพวกข้าก็คงจะไปช่วยเหลืออะไรพวกเจ้าไม่ได้
แต่ที่ข้าติดใจก็คือทำไมพวกเจ้าต้องทำร้ายพวกข้าด้วย โดยเฉพาะผู้หญิง ทำไมพวกเจ้าต้องบังคับข่มขืนใจทั้ง
ที่เจ้าบอกว่าจะมาขอความช่วยเหลือ " เชษฐาถามกลับ
                           " ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ยอมก็ไม่มีผลอยู่ดี เพราะบัดนี้ท่านปุโรหิตมันตรัยได้รับรู้การมาถึง
ของพวกเจ้าแล้ว ท่านรอคอยมานานแสนนาน ที่จะได้แก้แค้นคนอสัตย์ ท่านจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้คณะเจ้า
เดินทางเข้าไปรับโทษทัณฑ์ และปรารถนาที่จะต้อนรับนางอันเป็นดวงใจกลับคืนสู่อ้อมอก แต่พวกข้าก็ยังหวัง
ไว้ว่าพวกเจ้าจะเป็นฝ่ายชนะ สำหรับเรื่องผู้หญิงของพวกเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ เจ้าดูที่ร่างกายของข้าสิ คำ
สาปได้สาปให้พวกข้ากลับกลายเป็นสภาพยิ่งกว่าอสุรกาย ตัวของพวกข้าเล็กลงทุกสัดส่วน ยกเว้นสิ่งนี้ ( มันชี้
ไปที่ควยของมัน ) มันไม่เล็กลงเลย แต่กลับใหญ่ขึ้น ในขณะที่ผู้หญิงในกลุ่มของพวกข้ากลับเล็กลงทุกสัดส่วน
ไม่มียกเว้น ฉะนั้นพวกข้าเหล่าเพศชาย ล้วนแต่ไม่เคยได้ล่วงล้ำเพศตรงข้ามมากว่าสามพันปีแล้ว เจ้าลองใช้
สติปัญญาของเจ้าคิดดูซิว่า ความรู้สึกอยากที่ถูกเก็บกดมาสามพันปี จะพุ่งปะทุเช่นไรเมื่อได้เห็นสตรีอันสวย
งามไม่บกพร่องอยู่ตรงหน้า ข้าจะบอกให้รู้ไว้ก็ได้ว่า จงระวัง ผู้หญิงของเจ้าจะต้องลำบากแน่ ถ้าพบเจอกับพวก
ของข้า โดยเฉพาะ องค์จิตรางคนาง ที่พวกนั้นคลั่งแค้นและคลั่งไคร้ " ตัวประหลาดตอบและเตือน
                          ทุกคนต่างก็มองไปที่กลางลำตัวของเจ้าตัวประหลาด ทุกสายตาที่จับจ้องต่างต้องยอมรับว่า
ท่อนควยของมันนั้น ใหญ่ผิดปกติจริงๆ ถึงแม้ต่างก็เป็นเพศชาย แต่ก็ให้นึกสยองขวัญว่า เวลาที่มันล่วงลึกลง
เข้าไปในเพศหญิงนั้น เจ้าหล่อนคงจะเจ็บและทรมานขนาดไหน เพราะขนาดมันน่าจะใหญ่เกินกว่าหญิงทั่วไป
จะรับได้
                        ' มิน่า เมย์เจอเช้าไปถึงกับเดินไม่ไหวเลย ' ไชยยันนึกในใจ
                        รพินทร์พอได้ฟังแงซายแปล เขาก็ต้องนึกวิตกทันที เมื่อปะติดปะต่อกับเรื่องที่นาคินีเล่าและตัก
เตือนไว้ เขาพอจะเดาเรื่องได้ลางๆว่า สาเหตุมาจากตัวเขาเองกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งในคณะ ได้ไปทำความเจ็บ
ช้ำน้ำใจให้กับปุโรหิตมันตรัยในอดีตชาติ และในบัดนี้ก็ถึงเวลาเอาคืนของมัน เขาไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ก็ต้อง
เชื่อ เพราะเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าและที่ผ่านมา มันตอกย้ำ ' แล้วนี่เราจะฝ่าเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้ยังไง
นะ กลุ้มใจจริงๆ แล้วผู้หญิงที่มันพูดถึงก็คงไม่ใช่ใคร โธ่ คุณหญิง ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง ถ้าคุณ
หญิงตกไปอยู่ในเงื้อมือของมัน ' รพินทร์คิดจนเครียด
                        " พวกข้าไม่สนใจหรอก ว่าพวกเจ้าจะคิดหรือทำอะไร แต่พวกข้าก็จะตอบโต้อย่างรุนแรงเช่น
เดียวกันถ้าพวกเจ้าบังอาจทำอะไรที่เป็นอันตรายแก่พวกของข้า แล้วอีกอย่าง พวกข้าก็ไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่ง
ที่เจ้าเชื่อและเรียกร้องให้ปลดปล่อยพวกเจ้าจากมหาคัมภีร์บ้าบออะไรนั่น พวกข้าคงช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้
แล้วใครในคณะของข้าที่เจ้าเข้าใจว่าเป็น องค์จิตรางคนาง จงบอกให้พวกข้ารู้ที " เชษฐาพูด
                         " หึ หึ หึ พวกเจ้าทำอะไรพวกข้าไม่ได้หรอก บอกแล้วไงว่า พวกข้าเป็นอมตะ ไม่มีวันตายทั้งๆ
ที่อยากจะตาย อาวุธของพวกเจ้าไม่ว่าจะร้ายแรงขนาดไหนก็ทำอะไรพวกข้าไม้ได้ เหอะๆๆ ข้าจะแสดงให้พวก
เจ้าได้เห็นกับตา " พูดจบ ตัวประหลาดก็ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้น แล้วใช้เล็บเท้าอันแหลมคมกรีดลงไปที่บริเวณขา
อ่อนอีกข้างหนึ่ง เล็บจมลึกลงไปถึงกระดูก มันกรีดเป็นทางยาว รอยแผลเปิดอ้ากว้างมีน้ำข้นสีเขียวเยิ้มออกมา
โดยมันไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมาเลย " พวกเจ้าดูให้ชัดๆ ดูที่แผลของข้า หึหึหึ "
                          ทุกคนตะลึงมองรอยแผลที่อ้ากว้างน่าสยดสยอง ซึ่งบัดนี้ค่อยๆหุบตัวรอยแผลประสานเข้าเป็น
เนื้อเดียวกัน จนเหมือนกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้นกับผิวหนังตรงนั้นมาก่อนเลย
                           " โอ้ย!! นี่พวกเราหลงมาในดินแดนเฮงซวยนี้ได้ยังไงว่ะ กูจะบ้าตาย มันเป็นไปได้ยังไง แผล
นั่นหายเองได้ บ้าชัดๆ " ไชยยันระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความเครียดจัด
                           " ไม่มีใครตอบแกได้หรอกไชยยัน แต่เราจะต้องเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อมที่จะเผชิญกับ
มัน ผลจะเป็นยังไง คงต้องปล่อยไปตามพรหมลิขิต " เชษฐาส่งเสียงกร้าว แล้วหันไปพูดกับตัวประหลาดต่อว่า
                           " ไม่ว่าแกจะเป็นอมตะอย่างที่แกแสดงให้เห็น พวกข้าก็ไม่กลัว อาวุธของพวกข้าไม่ได้มีแค่ที่
เจ้าเห็นหรอก อาวุธพิเศษของพวกข้าสามารถแยกร่างของพวกเจ้า ให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คอยดูก็แล้ว
กัน ว่ามันจะทำอะไรพวกเจ้าได้มั้ย แต่เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้าอีกคำถามหนึ่งเลยว่า ใครคือจิตรางคนาง "
เชษฐาถามย้ำ
                           เจ้าตัวประหลาดเบิกตามองไปในระหว่างช่องว่างด้านหลังของเชษฐา แล้วตะโกนเสียงดัง
ลั่นออกมาว่า " นั่นไง หญิงแสนสวยที่เต็มไปด้วยราคะจริตกระสันหาแต่เพศผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไง นั่นแหละคือ
องค์จิตรางคนาง ต้นเหตุแห่งความฉิบหายของราชอาณาจักร "
                           เมื่อทุกคนหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นดารินยืนงงอยู่ เธอกำลังมองตอบมาด้วยสีหน้าอิดโรย
                           " มีอะไรคะพี่ใหญ่ ทำไมทุกคนถึงหันมามองน้อยกันเป็นตาเดียว นี่น้อยออกมาเพื่อจะบอกว่า
เมย์นอนหลับไปแล้ว อาการปลอดภัยไม่ต้องเป็นห่วง เพียงแต่พวกเราคงต้องหยุดเดินทางสักวันสองวัน รอให้
อาการของเมย์ดีขึ้นกว่านี้ซักหน่อย ค่อยออกเดินทางต่อ " ดารินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความอ่อนเพลีย
                            ทั้งเชษฐาและรพินทร์ พอรู้ว่า จิตรางคนาง คือน้องสาวและแฟนสาวของพวกเค้า ก็ให้นึกเป็น
ห่วงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรพินทร์ เขาทั้งห่วงทั้งหวง แม่ดอกฟ้าของเขากำลังตกเป็นเป้าหมายของการกระ
ทำมิดีมิร้าย จะไม่ทำให้เขาหวงได้อย่างไร
                            " ไม่มีอะไรหรอกน้อย พวกพี่กำลังสอบปากคำไอ้ตัวประหลาดอยู่ ได้ยินเสียงเดินมาข้างหลัง
ก็เลยหันกันมาดูว่าเป็นใคร เมย์ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว นี่พวกพี่ก็ปรึกษากันว่าจะพักที่นี่ต่ออีกสักสองวันเหมือนกัน
น้อยดูท่าทางเพลียๆ ไปนอนพักก่อนเถอะ " เชษฐาพูดขึ้น เขาปกปิดเรื่องที่เจ้าตัวประหลาดกล่าวถึงเธอไว้ไม่
บอก เพราะกลัวว่าเธอจะคิดมาก เมื่อดารินเดินเซกลับเข้าไปนอนในเต็นท์ พวกเขาก็หันกลับไปที่ตัวประหลาด
อีกครั้งหนึ่ง
                           " พระนางยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยอันยั่วยวน ที่ฉากหน้าบดบังด้วยความสูงส่งไร้เดียงสา
แต่เบื้องหลังช่างร้อนร่านกระสันสวาท จนหมู่ภมรต้องรบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงพระนางไปแนบข้าง จริงมั้ยล่ะ
องค์ท่านอัคนีรุทธ์ " ตัวประหลาดพูดขึ้น สายตามันวาวเยิ้ม ท่อนควยยักษ์ที่หดเหี่ยว กลับแข็งถมึงตั้งชี้เด่
                            " ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า แต่จำไว้ ถ้าพวกเจ้าทำอะไรกับใครก็ตามในคณะของข้า จำไว้ ข้า
จะไม่เอาพวกเจ้าไว้แน่ ข้าไม่กลัวทั้งเจ้าแล้วก็ปุโรหิตปุโรทั่งของเจ้าหรอก " รพินทร์พูดจบก็เดินเข้าไป เอาฝ่า
เท้ากดขยี้ที่ท่อนควยของมันอย่างแรง แล้วหันไปคำรามใส่แงซายว่า
                            " แกไม่ต้องแปลทุกคำของมันก็ได้ บางคำที่ไม่สมควรก็น่าจะละไว้ ไอ้ห่าจวกเอ้ย ปล่อยให้
มันว่านายหญิงของมึงอยู่ได้ "
                          " ผมไม่มีเจตนาครับ เพียงแต่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ในทุกอย่างที่มันพูดเท่านั้นครับ " แงซาย
ตอบกลับ
                          " ไม่เป็นไรหรอกรพินทร์ แงซายแปลทุกคำก็ดีแล้ว เราจะได้รู้ว่าพวกมันคิดยังไงกับพวกเรา
คงไม่ต้องพูดกับมันแล้วล่ะ เราได้ข้อมูลมากพอสมควรแล้ว ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ ยังไงก็ทำอะไรมันไม่ได้
อยู่แล้ว กี่โมงแล้วไชยยัน " เชษฐาหันไปถามเวลาไชยยัน
                          " ตีสี่กับอีกนิดหน่อย " ไชยยันดูนาฬิกาข้อมือแล้วตอบ
                          " ถ้างั้นพวกเราก็ไปพักผ่อนกันต่อเถอะ อนุญาติให้ทุกคนตื่นสายได้ คืนนี้พวกเราเหนื่อยกัน
มากแล้ว นี่สามสาวเราเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คงนอนสลบกันไปแล้ว ไป ไปนอนพักกันได่ " สรุปแล้ว เชษฐาก็เดิน
นำเข้าเต็นท์ไป โดยมีทุกคนคนเดินตามไปพักผ่อนยังที่ใครที่มัน จะเป็นด้วยความเพลียหรืออะไรก็ไม่รู้ ทุกคน
เลยลืมเรื่องเวรยามกันไปสนิท เมื่อหัวถึงหมอนทุกคนก็หลับไปในทันที....
...

                            11.32 น.
             
                              " นาย นาย ตื่นเถอะ เร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เร็ว "
                               เสียงจันดังโวยวายอยู่ข้างหู ทำให้รพินทร์งัวเงียสะดุ้งตื่นขึ้น เขาเห็นจันกำลังร้องพร้อมกับ
เขย่าตัวเขาไปมา
                              " มีอะไรหือจัน นี่กี่โมงแล้ว " รพินทร์พูดขึ้น
                              " สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วนาย ไอ้ตัวประหลาดหายไปแล้ว ไอ้แงซายก็หายไปด้วย ทุกคนหลับ
กันหมด นี่ยังไม่มีใครตื่นกันเลย " จันพูดเสียงสั่น
                              รพินทร์ทะลึ่งตัวลุกขึ้น แล้วถามว่า " แล้วพวกเจ้านายล่ะตื่นยัง "
                               " ยังไม่มีใครตื่นเลย ผมไม่กล้าเข้าไปปลุก ไม่รู้เป็นไง ทำไมทุกคนถึงพากันหลับเป็นตาย
ไปหมด สงสัยไอ้แงซายโดนไอ้ตัวประหลาดจัดการไปแล้ว โอ้ยเห็นกันอยู่หลัดๆ "
                               " มันไม่เป็นอะไรหรอก มันคงออกตามไอ้ตัวประหลาดไปมั้ง เดี๋ยวฉันไปดูพวกเจ้านายก่อน
โอ้ยปวดหัว ทำไมมันถึงมีแต่เรื่องกันว่ะ " แล้วรพินทร์ก็รีบลุกขึ้น เดินไปยังเต็นทันที
                                เมื่อไปถึง พวกนายจ้างก็กำลังตื่นจากเสียงดังโวยวายของเหล่าลูกสมุนของรพินทร์ เมื่อ
เห็นรพินทร์เดินเข้าไป เชษฐาก็ชิงถามขึ้นมาก่อนว่า
                                 " ข้างนอกมีอะไรกัน เสียงเอะอะโวยวายดังลั่น จนพวกผมสะดุ้งตื่น โอ้ย! แล้วนี่มันกี่โมงกี่
ยามกันแล้ว ทำไมมันถึงสว่างขนาดนี้ "
                                 " ตอนนี สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วครับ พวกเราหลับกันเป็นตายไปเลย " รพินทร์ตอบ
                                 " อะไรกัน สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว ผมยังรู้สึกง่วงๆอยู่เลย นี่มันเกิดอะไรขึ้น " ไชยยันแทรก
                                 " เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ ไอ้ตัวประหลาดหายไป แงซายก็หายไปด้วย แต่หายไปแต่ตัวนะ
ครับ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ยังอยู่ครบรวมทั้งปืนประจำตัวด้วย ขาดแต่ก็ย่ามส่วนตัวเท่านั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่า
มันหายไปไหน เพราะผมผมก็เพิ่งตื่นก่อนหน้าพวกท่านสักครู่เดียว " รพินทร์รายงาน
                                 " แงซายคงตามไอ้ตัวประหลาดนั่นไป เดี๋ยวคงจะกลับมาเองแหละ " มาเรียพูดขึ้น
                                 " แต่ฉันอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ ต้องมีเรื่องร้ายๆแน่ ไม่งั้นแงซายจะต้องเอาปืนไปด้วย เรา
ออกตามกันเถอะค่ะพี่ใหญ่ น้อยไปด้วย เป็นห่วงเขาเหลือเกิน " ดารินร้องบอกออกมา
                                 " เรื่องออกตาม เราต้องไปกันแน่ๆ แต่พวกเธอผู้หญิงทั้งสามคนต้องอยู่ที่เต็นท์พักนี่แหละ
สภาพของพวกเธอทั้งสามคงยังไม่พร้อมที่จะออกไปได้ โดยเฉพาะเมย์ พวกเธอรอกันอยู่ที่นี่แหละ เราจะรอกัน
อีกสักพัก ถ้าแงซายยังไม่กลับมา พี่กับรพินทร์จะออกตามเอง " เชษฐาสรุป
                              ดารินและสาวๆทั้งสองได้ฟัง ก็ต้องยอมรับโดยดุษฎี เพราะพวกเธอแต่ละคน ต่างก็โดนกัน
มาหนักเหลือเกิน โดยเฉพาะมาเรีย เธอยังรู้สึกปวดหนึบๆที่กลางลำตัวอยู่เลย
                              ยังไม่ทันที่ทุกคนในเต็นท์จะพูดอะไรกันต่อ บุญคำก็ผลุบเข้ามาในเต็นท์ และพูดขึ้นว่า
                              " พวกเราโดนควันสลบจากหนังคางคกครับ ทุกคนถึงได้หลับไม่ยอมตื่นกันอย่างนี้ ผมเห็น
เศษหนังคางคกที่ยังไหม้ไม่หมดในกองไฟ ไอ้แงซายแน่ๆ มันเป็นคนรมพวกเรา แล้วมันก็ช่วยไอ้ตัวประหลาด
หนีไป ไอ้ห่าเอ้ย!! ดันมาทรยศกันได้ ถ้าเจออีกครั้ง ผมจะเอากำปั้นยัดปากมัน "
                               " เดี๋ยวๆ บุญคำทำไมถึงแน่ใจว่าแงซายเป็นคนทำ อาจจะเป็นพวกไอ้ตัวประหลาดมันทำ
แล้วจับตัวแงซายไปก็ได้นะ แงซายก็ร่วมทาง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกลับพวกเรามา ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาก็พิ
สูจน์ได้ว่า เขาไม่เคยคิดร้ายกับพวกเราเลย มีแต่ทำตัวเป็นประโยชน์ ไม่เหมือนใครบางคนที่ชอบตลบหลัง ฉัน
ไม่เชื่อว่าแงซายจะทรยศ " ดารินตะโกนอย่างมีอารมณ์ ตาเธอจ้องไปที่บุญคำยังจะกินเลือดกินเนื้อ
                               " ผมมีหลักฐานครับนายหญิง เพราะผมเคยแอบเห็นห่อหนังคางคกในยามของมัน ถามไอ้
จันก็ได้ เพราะตอนนั้นไอ้จันมันก็อยู่ด้วย ต้องเป็นมันแน่ๆที่ทรยศ สำหรับผมไม่ชอบตลบหลังหรอกครับ เอากัน
ซึ่งๆหน้านี่แหละ นายหญิงก็เคยดะ..เอ้ย เห็นอยู่หนิครับ " บุญคำพูดแล้วก็จ้องกลับไปที่ดาริน แล้วแกก็ยิ้มแบบ
มีเลศนัย
                               " เลิกเถียงกันได้แล้วน้อย พี่ก็เชื่อว่าแงซายคงไม่ทรยศเราหรอก หรือว่าไงรพินทร์ คุณเห็น
เหมือนผมมั้ย " เชษฐาพูดแล้วถาม
                               " ผมยังขอไม่สรุปครับ รอให้เหตุการณ์ข้างหน้าเป็นสิ่งยืนยันดีกว่า ผมว่าตอนนี้ทุกคนช่วย
สำรวจสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัวหรือของส่วนรวมดีกว่าว่า มีของอะไรหายไปอีกบ้างหรือเปล่า " พูดจบก็
ชักชวนบุญคำออกไปนอกเต็นท์
                               เมื่อรพินทร์กับพวกลับตาออกไป ดารินก็พูดโพล่งออกไปว่า
                               " พี่ใหญ่ต้องเชื่อน้อยนะคะ แงซายจะไม่มีวันทรยศพวกเราแน่ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
เขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า เขาเป็นบุคคลที่มีประโยชน์และซื่อสัตย์กับเราเช่นไร หลายครั้งที่เขาเอาชีวิตเข้า
เสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตพวกเราคนใดคนหนึ่ง ได้โปรดติดตามช่วยเหลือเขาด้วย แงซายกำลังตกอยู่ในอันตรายนะคะ
เชื่อน้อยเถอะคะ "
                               " พี่ก็เชื่อเหมือนน้อยเหมือนกัน แต่เราก็ต้องฟังทางฝ่ายรพินทร์เขาด้วย พี่ยังเชื่อว่ารพินทร์
คงจะตัดสินใจออกตามแงซายแน่ๆ น้อยไม่ต้องห่วง " เชษฐาตอบ
                        " น้อย เธอไม่ต้องเป็นห่วงแงซายนักหรอก ไอ้หมอนั่นมันกระดูกแข็ง ฉันว่ามันต้องเอาตัวรอด
ได้ อีกอย่างรพินทร์เขาไม่ทิ้งใครหรอก พวกเธอเป็นห่วงตัวเองกันดีกว่า แต่ละคนต่างก็สะบักสะบอมกันน่าดู
ฉันล่ะอดเป็นห่วงไม่ได้ เหตุการณ์ที่เรากำลังผจญอยู่นี้ มันส่อเค้ายุ่งยากมาก โดยเฉพาะกับพวกเธอทั้งสามคน
ที่เป็นผู้หญิง ดูจะเป็นเป้าหมายของพวกมัน นี่ก็โตๆกันแล้ว ฉันขอพูดตรงๆเลยนะ ไอ้พวกตัวประหลาดนั่นมัน
พุ่งเป้ามาที่พวกเธอ เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง พวกมันต้องการจะระบายความใคร่กับพวกเธอ ต้องระมัดระวังให้
มากไว้ แม้พวกเธอจะเคย ' โดน ' กันมาบ้างแล้ว แต่ขนาดมันใหญ่แตกต่างกันมาก ถ้าพลาดท่าเสียทีอาจทำให้
บาดเจ็บ ฉันขอให้พวกเธออย่าออกห่างจากพวกเราเลยรู้มั้ย แล้วนี่เมย์เป็นยังไงบ้าง " ไชยยันสั่งและถามด้วย
ความเป็นห่วง
                         เมื่อได้ยินไชยยันพูดชัดๆอย่างนั้น สาวๆทั้งสามคนต่างหน้าแดงก้มหน้างุด โดยดารินตอบเบาๆ
ออกไปว่า " รู้แล้วหน่าไชยยัน ไม่ต้องมาย้ำ เมย์เจ็บมากพอสมควร มีแผลฉีกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ฉันเย็บ
ให้แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าแผลจะหาย ส่วนคริสก็เป็นแผลที่ขาอ่อนด้านในต้องอยู่เฉยๆสักสองสาม
วัน สำหรับฉันก็มีแต่ฟกช้ำดำเขียว ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องเป็นห่วง "
                         " ขอโทษนะครับ ผมขอละลาบละล้วงถามหน่อย เพราะเป็นห่วงจริงๆ พวกคุณทั้งสามโดนพวก
มันล่วงเกิน โดยเฉพาะเมย์โดนหนักกว่าใคร ถึงขั้นหลั่งน้ำด้านใน ไม่ทราบจะมีปัญหาทำให้เกิดการตั้งท้องได้
หรือไม่ครับ เป็นห่วงมากครับ " เชิดวุธกระซิบถาม
                         " ไม่เป็นไร คุณถามได้ทุกคำถาม เราร่วมเป็นร่วมตายกันแล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วงกันใน
ทุกๆเรื่อง สำหรับเรื่องที่คุณกังวลคงไม่เกิดขึ้นหรอกค่ะ เพราะเรากับมันเป็นคนละเผ่าพันธุ์ หรือถ้าเป็นสายพันธุ์
เดียวกัน ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเราเตรียมการป้องกันไว้แล้ว ฉันจับเมย์และคริสรวมทั้งฉันด้วย ฉีดยาคุมกำ
เนิดไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะมีประสงค์ที่จะมีอะไรกับใครนะ แต่เป็นมาตรการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แบบว่ากัน
เอาไว้ก่อนน่ะ เอาเป็นว่าเรื่องที่คุณเป็นห่วงจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน " ดารินตอบ
                         " ครับ ผมจะได้หมดห่วง " เชิดวุธตอบ พร้อมกับนึกในใจว่า ' ไฟเขียวปลอดโปล่งโล่งตลอด
แล้วกู ฮึม! ถึงเวลานั้น กูจะฉีดน้ำเชื้อให้ล้นมดลูกออกมาเลยคอยดู '
                          จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปสำรวจข้าวของส่วนตัวกัน ว่ามีสิ่งใดหายกันบ้างหรือเปล่า โดย
เฉพาะไชยยัน เขาได้สำรวจเลยไปถึงข้าวของส่วนกลางด้วย แต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีสิ่งใดหายไปเลย
                           แล้วทุกคนก็หันไปที่ด้านหน้าของเต็นท์พัก เมื่อรพินทร์ที่หายออกไปนาน ได้กลับเข้ามาด้วย
สีหน้ายุ่งยาก พร้อมกับพูดขึ้นว่า
                       " ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือหายไปหรือไม่ครับ "
                       " ทางด้านพวกผมไม่มีอะไรหายไปนะ แล้วทางคุณล่ะรพินทร์ " เชษฐาตอบ
                       " พวกเราคงจะพบกับความยุ่งยากแล้วครับ คือว่าแผนที่การเดินทางของเรา ได้หายไปจากเป้
ส่วนตัวของผม ทั้งฉบับจริงและฉบับคัดลอกเลยครับ คงเป็นแงซายขโมยไป เพื่อเป็นการบังคับให้เราตามมัน
ไป เพราะถ้าเรขาดแผนที่เราก็คงเดินทางต่อกันไม่ได้ " รพินทร์พูดขึ้น
                        " คุณหาดีแล้วใช่มั้ย " ดารินพูดขึ้นอย่างหน้าเสีย
                        " ครับ ผมหาจนทั่วแล้ว ไอ้ตัวดีของคุณหญิงเอาไปแน่นอน " รพินทร์ตอบ
                         ก่อนที่การโต้คารมจะเกิดขึ้น เซษฐาก็ขัดขึ้นก่อนว่า " น้อยกับรพินทร์อย่าเพิ่งมาเถียงเอาชนะ
กันตอนนี้เลย เรามาปรึกษากันดีกว่าว่าจะทำยังไงกันต่อ ผมว่าเราออกไปข้างนอกแล้วคุยกันต่อหน้าทุกๆคน
เลย ผมต้องการฟังความเห็นของทุกคน ไปออกไปข้างนอกกัน "
                          เมื่อทุกคนพร้อมกันที่หน้าเต็นท์ เชษฐามองกราดไปที่ใบหน้าของทุกคนที่เต็มไปด้วยความวิ
ตกกังวล เขาจึงเริ่มพูดขึ้นว่า
                          " ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่า พวกเราตกอยู่ในที่นั่งลำบาก คนของเราคนหนึ่งได้หายไปพร้อมกับ
แผนที่การเดินทาง ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจากความจงใจหรือไม่ เราคงจะต้องติดตามไปเอาแผนที่คืนแน่
นอน แล้วก็ต้องรีบด่วนด้วย... "
                          ไม่ทันที่เชษฐาจะพูดจบ ไชยยันก็พูดสวนขึ้นว่า " แต่ผู้หญิงของเรากำลังเจ็บอยู่นะ คงจะไปกัน
หมดไม่ได้ และการที่จะต้องแบกสัมภาระไปเป็นจำนวนมากคงทำให้การเดินทางช้าไม่ทันการ "
                          " ไม่นะ พวกเราขอตามไปด้วย พวกเรายังไหว " ดารินประท้วงขึ้น
                          " ใช่ เธออาจจะไหว แต่เมย์กับคริสคงไม่ไหว และเธอในฐานะแพทย์ คงต้องอยู่ดูแลไม่ใช่รึ
เอาหน่า ไม่ต้องเป็นห่วงแงซายขนาดนั้น พวกฉันไม่ทำอันตรายมันหรอก " ไชยยันแย้งขึ้นอย่างรู้ทัน
                          " เอายังไงกันดีรพินทร์ " เชษฐาถาม
                          " เอายังไงก็ได้ครับ คุณชายตัดสินใจเลยครับ ผมเพียงอยากจะตามไปเอาของผมคืนเท่านั้น
ไม่ได้คิดจะไปทำร้ายใครหรอก " พูดจบรพินทร์ก็หันไปมองที่แม่ดอกฟ้าของเขา ไม่ใช่ว่าเขาหึงหรอก แต่ก็อด
ที่จะนัอยใจไม่ได้ ที่ดารินคอยแต่เป็นห่วงเป็นใยในตัวแงซายเกินไป
                          " ฉันก็ไม่ได้ว่าคุณซักหน่อย ทำเป็นร้อนตัวไปได้ " พูดจบดารินก็ค้อนหมับไปที่รพินทร์วงเบอ
เล่อ
                         ก่อนที่สงครามคารมจะเกิด เชษฐาก็พูดตัดบทว่า " ถ้าอย่างนั้นผมขอตัดสินว่า มีรพินทร์ ผมกับ
ไชยยัน ออกติดตามกันสามคนก็พอ เพื่อความคล่องตัว ส่วนที่เหลือให้อยู่เฝ้าแค้มป์กันที่นี่ จนกว่าเมย์กับคริส
จะหายดีพอที่จะออกเดินทางได้ ก็ให้บุญคำนำทางติดตามเราไป ดีมั้ยรพินทร์ "
                          " แล้วแต่คุณชายครับ แต่ผมขอเพิ่มส่างปาอีกคนครับ เพราะเรื่องตามรอยนี่ ส่างปาจะถนัดที่
สุดครับ "
                          " ตามนั้น น้อยไม่ต้องขัด เธอต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ ไชยยันแกทิ้งระเบิดมือไว้ให้พวกบุญคำ
หลายๆลูกหน่อย เผื่อพวกมันจะย้อนกับมา เอาล่ะไปเตรียมตัวกัน เอาเสบียงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเอาไปได้นะ
เราอาจไม่มีเวลาหาอาหารสดกัน " เชษฐาสั่ง
.....................................................................
                           หลังจากคณะติดตามเดินลับตาไป ดารินก็ให้คนเจ็บเข้าไปนอนพักในเต็นท์ โดยเธอเข้าไปดู
แลอย่างใกล้ชิด ทิ้งให้เชิดวุธกับพวกพรานป่าดูแลเตรียมการรับมือกับพวกตัวประหลาดอยู่ด้านนอก
                           " คุณเชิดคิดว่าพวกมันจะย้อนกลับมาอีกมั้ยครับ " เส่ยถามขึ้นระหว่างที่ช่วยกันฝังระเบิดไว้
รอบๆแค้มป์
                           " ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามาเราก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราฝังระเบิดไว้เยอะขนาดนี้ ถ้ามา พวก
มันไม่เหลือแน่ๆ " เชิดวุธตอบด้วยความมั่นใจ
                           " แต่ผมว่า พวกมันต้องย้อนกลับมาแน่ๆ ไม่คืนไหนก็คืนนึงแหละ " เกิดพูด
                           " ทำไมมึงถึงมั่นใจขนาดนั้นว่ะไอ้เกิด " จันถาม
                           " ก็เป้าหมายของพวกมันอยู่ที่ตรงนี้นี่ ความเงี่ยนไม่เคยปรานีใครหรอก พวกมันรู้ว่ามีตัวเมีย
อยู่ที่ตรงนี้ ป่านนี้คงควยแข็งกันทั้งกองทัพแล้ว พูดแล้วสยอง ถ้าเกิดขึ้นจริง แล้วเราป้องกันไม่ได้ คงจะยับเยิน
รูกลวงบานจนหุบไม่ลงแน่ๆ ฉันล่ะเสียดาย ยังเย็ดไม่เต็มอิ่มเลย..อุ้บ!!! ...อุ้ยลืมไป คุณเชิดวุธอยู่ตรงนี้ ตายล่ะ
ว้า " เกิดหุบปาก หน้าซืดที่พลั้งปากพูดออกไปต่อหน้าเชิดวุธ จันเองก็รีบตบหัวเกิดอย่างแรง
                           " ไม่เป็นไรพูดเถอะ ฉันรู้หมดแล้วว่า พวกเกิดทำอะไรกับพวกผู้หญิงนั่น เป็นฉันก็คงอดใจไม่
ไหวเหมือนกันถ้ามีโอกาส แต่ละคนหุ่นน่าเอาของรักกระแทกเหลือเกิน แต่ที่เสียใจก็คือ การที่มีของดีไม่แบ่ง
กันเชยชมนี่แหละ คราวหน้าก็ชวนกันบ้างก็แล้วกัน โดยเฉพาะจัน เราผ่านความเจ็บแสบมาด้วยกัน ถ้ามีโอกาส
ก็แบ่งให้ฉันได้แก้แค้นด้วยนะ พูดแล้วของขึ้น " เชิดวุธพูด
                            " คุณเชิดรู้ได้ยังไง แล้วพวกนายใหญ่รู้มั้ย โอ้ย สยอง " จันพูดด้วยความตกใจ
                         " ฉันรู้คนเดียวแหละ ฉันแอบได้ยินตอนที่เมย์กับน้อยคุยกัน เป็นไงได้ยินว่าบุญคำเป็นคนเปิด
บริสุทธิ์น้อยเหรอ ฉันล่ะอิจฉา คงจะมันส์กันน่าดู เป็นไงน้อยดูภายนอกยังสุดยอดขนาดนั้น ภายในจะขนาดไหน
คงจะหอมหวล แน่นหนึบ ซื้ดสสส พูดแล้วควยลุก บอกกันหน่อยผู้ชายเหมือนกัน "
                          " ครับ นี่เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันแล้วนะครับ เอาล่ะผมจะเล่าให้ฟัง เรื่องคุณภาพของ ' รู ' ของ
นายหญิง ผมรับประกันว่า คุณภาพ ' คับควย ' ทุกรู ผมยังไม่เคยเย็ดหญิงคนไหนแล้วมันส์ควยขนาดนี้เลย ส่วน
นายแหม่มก็เด็ด ลีลาสุดยอด ใหญ่ทุกอวัยวะ เต็มไม้เต็มมือ แต่แหม่มคริส พวกผมยังไม่ได้แอ้ม ได้แต่เห็น ได้
เลีย แล้วเอานิ้วแทง ยังไม่ได้ใช้ควยเสียบ แต่คงจะร่านน่าดู คุณกับผมก็ได้สัมผัสมาบ้างแล้วไงครับในถ้ำ " จัน
เล่าเสียงสั่นเพราะความเงี่ยน
                           " แล้วคืนนี้พวกเราจะมีโอกาสมั้ย ฉันน่ะอยากจนควยสั่นแล้ว ซื้ดสส "
                           " น่าจะมีนะครับ แต่คงต้องเว้นนายแหม่ม เพราะโดนไอ้พวกนั้นเย็ดจนแหกไปหมดแล้วทั้งรูหี
รูตูด คงใช้งานไม่ได้สักพักใหญ่ล่ะครับ แต่นายหญิงไม่ต้องห่วง ถึงเธอจะโดนกี่ควย หีของเธอก็จะคืนสภาพคับ
แน่นเหมือนไม่เคยโดนเย็ด ช่างเป็นรูหีที่วิเศษเหลือเกิน เย็ดที่ไรเหมือนได้เปิดซิงทุกครั้งไปซิน่า ยิ่งกลิ่นหีก็
สุดเซ็กซ์ มันฉุนแต่ไม่เหม็น ได้กลิ่นทีน้ำแทบแตก น้ำหีก็เค็มหวานกลมกล่อม ตอนเธอสติแตกเงี่ยนจัด ผมนี่
กระเด้าแทบตายยังไม่ทันใจเธอเลย ซื้ดสสส " จันเพ้อ
                         " ลุงคำเดินมาทางนี้แล้ว คุณเชิดวุธลองปรึกษาแก่ซิครับ ยังไงก็เผื่อผมด้วยนะครับ เมื่อคืนก็
อดไปทีหนึ่งแล้ว คืนนี้จะกระทุ้งให้ควยหักเลย ซื้ดสสส " เกิดพูด
                          เมื่อบุญคำและพวกเดินมาสมทบกับกลุ่มของเชิดวุธแล้ว จันก็พูดขึ้นก่อนว่า
                          " พี่คำ คุณเชิดวุธรู้เรื่องของพวกเราหมดแล้ว แก่โกรธที่มีของดีไม่ยอมแบ่งแก แกถามว่าคืนนี้
จะมีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์มั้ย พี่คำว่าไง "
                          บุญคำได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปพัก แล้วแกก็มองไปที่เชิดวุธ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า " ในเมื่อคุณเชิดรู้
เรื่องแล้วก็ไม่เป็นไร อยู่ในป่ามีอะไรเราก็ต้องแบ่งกัน ไม่ต้องรอจนถึงคืนนี้หรอก มีเหลือแต่กันเองทั้งนั้น เอา
มันตอนนี้เลย จะได้เห็นกันทุกรูขุมขน ว่าแต่คุณเชิดอยากเอาใครก่อนระหว่างนายหญิงกับแหม่มคริส แต่ไม่
ต้องห่วงนะครับ ได้เอาทั้งสองคนแน่ ถ้าคุณมีแรง แต่นายแหม่มคงรับพวกเราไม่ได้ เพราะเธอโดนมาจนแหก
แล้ว ผมว่าคุณเชิด ผม แล้วก็ไอ้จันไปฟาดแหม่มคริสกันก่อนดีกว่า ที่เหลือเอานายแหม่ม ตกลงมั้ยครับ "
                            " ดีเหมือนกัน ผมยังแค้นคริสอยู่เลย เล่นเอาผมอ่อนปวกเปียกเลย ฮึม คราวนี้จะล่อให้หีปลิ้น
เลย คอยดู แต่งานนี้ผมขอก่อนได้มั้ย " เชิดวุธคำราม
                         " ไม่มีปัญหา เดี๋ยวเราไปพักในร่มให้หายเหนื่อยกันก่อน แล้วค่อยไปลากแหม่มคริสออกมาเย็ด
กันข้างนอก ส่วนนายหญิงให้พวกไอ้คะหยิ่นไปจัดการด้านใน คงไม่ยาก เอ้อ! ถ้าเห็นนายแหม่มเงี่ยนนัก พวก
มึงคนใดคนหนึ่งก็สงเคราะห์เลียหีให้แกด้วยนะ อย่าเอาอะไรของเองแทงเข้าไปเชียวนะ เก็บเอาไว้เย็ดคราว
หน้าตอนที่หายดีแล้ว " บุญคำสั่งพวกคะหยิ่น แล้วชักชวนกันเข้าร่มไม้พักผ่อน
                          อนิจจา ดารินและพวกเข้าพักผ่อนในเต็นท์ โดยไม่สำเหนียกถึงภัยใกล้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่ตรวจดูแผลให้คริสแล้ว เธอก็ไปเลิกผ้าที่ห่มตัวมาเรียขึ้นเพื่อดูแผล เธอสั่งให้มาเรียนอนตะแคงแล้ว
ยกขาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อจะได้ดูแผลให้ชัดๆ ขณะนั้นมาเรียได้ถอดกางเกงออกแล้วทุกชิ้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าของ
ดารินจึงเป็นภาพของรูหีแลรูตูดที่แดงช้ำ มีรอยเย็บระหว่างรูทึ้งสองที่ฉีกขาด บาดแผลที่ได้รับการทำความสะ
อาดเป็นอย่างดีเริ่มบวมช้ำ
                          " เจ็บมากมั้ยเมย์ ฉันว่าเอาเชือกมาแขวนขาเธอให้ห้อยกับเพดานเต็นท์ดีกว่า มันจะไม่ได้กด
ทับแผล " ดารินพูดแล้วไปเอาเชือกมาโยงมัดขาของมาเรียให้หัอยกับเพดานเต็นท์ เสร็จแล้วก็เอาผ้าสะอาดมา
ห่มทับให้มาเรีย
                          " เจ็บไม่เจ็บ เธอลองไปโดนเหมือนฉันแล้วเธอจะรู้ มันโหดร้ายมาก ยิ่งกว่าพวกสางเขียวเป็น
สิบเท่า พวกมันไม่ปรานีฉันเลย ควยมันก็ใหญ่มาก มันอัดฉันทีเดียวทั้งสองรู ฉันเหมือนตกนรกทั้งเป็น " มาเรีย
คร่ำครวญ
                          " น่าสงสารเธอเหลือเกินเมย์ พวกฉันก็เกือบโดนเหมือนกัน มันแทงหัวถอกมันเข้าไปรูหีฉัน
แล้ว ถ้าเสียงระเบิดไม่ดังขึ้น หีฉันก็คงฉีกเหมือนกัน ตัวอะไรก็ไม่รู้ ทำไมควยมันถึงใหญ่เหลือเกิน " คริสติน่าที่
นอนอยู่เตียงข้างๆพูดขึ้นบ้าง
                           " ฉันว่าเธอต้องโดนมันแล้วเหมือนกันใช่มั้ยน้อย คืนนั้นคืนแรกที่เธอเจอมันน่ะ " มาเรียถาม
                            ดารินผยักหน้า ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องปิดบังต่อไป " แต่มันเข้าไปได้แค่หัวบักเหมือน
กันกับคริส แล้วฉันก็ตื่นร้องโวยวาย ขนาดโดนแค่นั้นฉันยังรูสึกตึงอยู่ตั้งนาน ขนาดมันใหญ่เกินไป คงทรมาน
น่าดูถ้ามันทะลวงเข้าไปทั้งลำ "
                             " ไม่นะ ก็เสียวดี เจ็บมากตอนแรก พอน้ำหล่อลื่นเริ่มออกก็เริ่มเสียวปนเจ็บ น้ำฉันก็แตกนะ
ตอนนั้นน่ะ ที่ฉันทนไม่ได้ก็ตอนที่โดนกระทุ้งรูตูดนี่แหละ เจ็บมากจนฉันเกือบสลบ "
                             " ให้เสียวยังไงฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก มันใหญ่เกินไป ถ้าโดน หีฉันคงแหกไม่มีชิ้นดี ทำยังไง
พวกเราจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆนี้ไปได้อย่างปลอดภัยนะ " คริสติน่าพูด
                         " ก็คงแล้วแต่สถานการณ์แหละ พวกผู้ชายคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ชึ้นอีก พวกเขาคงป้อง
กันเราเป็นอย่างดี " ดารินพูดให้กำลังใจตนเอง
                          " อย่าลืมนะน้อย ไอ้พวกผู้ชายของเราก็ตัวสำคัญนะ ฉันเห็นพวกนั้นจ้องเธอตาเป็นมันเลย เมื่อ
คืนเธอโดนไปกี่ยกล่ะ ไอ้พวกนี้มันไม่เกรงใจเจ้านายมันเลย มีโอกาสเป็นฟัน "
                           " อย่าพูดไปเมย์ คริสอยู่ตรงนี้ " ดารินห้าม
                           " ให้คริสรู้เถอะ เธอจะได้ระวังตัว " มาเรียพูด
                           " หมายความว่า พวกเธอ...." คริสกระซิบ
                           " ใช่ ทั้งฉันและน้อย โดนพวกลูกน้องของรพินทร์รุมเย็ดมาแล้ว หลายครั้งแล้วด้วย แต่แตก
ต่างกันตรงที่ฉันเต็มใจ แต่น้อยน่ะไม่เต็มใจ เมื่อคืนน้อยก็โดนพวกมันถล่มมา เธอเองก็ระวังไว้ แต่ถ้าไม่ถีอก็
ปล่อยให้พวกนั้นเย็ดเถอะ ก็มันส์หีดีนะ ควยใหญ่ๆกันทุกคนเลย โดยเฉพาะคะหยิ่นสะใจที่สุด อยู่ในป่าไม่รู้จะ
ตายวันไหน มีโอกาสมีความสุขก็ตักตวงเอาไว้ก่อน เธอล่ะโดนหรือยัง เล่าสู่กันฟังบ้าง ว่าไงคริส " มาเรียถาม
                             " พวกนั้นก็เคยพยายามจะลวนลามฉันเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จ โดนฉันเอาคืนจนเข็ดไปเลย
คงจะไม่มาตอแยฉันอีกแล้วล่ะ " คริสติน่าบอก
                              " ระวังไว้ก็ดีนะ ฉันว่าพวกนั้นไม่ละความพยายามหรอก ขี้เย็ดกันทุกๆคน ถ้าเกิดเหตุการณ์
ขึ้นมาจริงๆ ก็ยอมๆไปเถอะจะได้ไม่เจ็บตัว สนุกด้วย " มาเรียแนะนำ
                              " แล้วรพินทร์กับพวกพี่เธอรู้เรื่องนี้มั้ยน้อย " คริสติน่าถาม
                              " ให้รู้ไม่ได้ เดี๋ยวป่าแตก เรายังต้องอาศัยพวกนั้นอยู่ ฉันเลยต้องฝืนทนอยู่อย่างนี้ "
                               " ระวังนะน้อย ทนนานๆ เดี๋ยวจะติดแล้วขาดมันไม่ได้ เธอก็รู้ เวลาถูกรุมเย็ดหลายๆ
ควย นี่มันมันส์ขนาดไหน อารมณ์เงี่ยนเราไม่ขาดตอน มันเสียวอยู่ตลอดเวลา เราถึงสวรรค์ติดๆกันไม่รู้ว่ากี่ครั้ง
ความสุขมันเข้ามาติดๆจนหัวใจแทบวาย พูดแล้วก็คันหี ซื้ดสส "
                              " บ้าหน่าเมย์ ไม่เอาแล้ว เลิกพูดเรื่องนี้ ไปนอนเล่นดีกว่า " พูดแล้วดารินก็กลับไปที่เตียง
นอนของตัวเอง เธอนอนห่มผ้าตะแคงหันหลังให้สาวทั้งสอง แล้วอดไม่ได้ที่จะเอามือไปเกาที่โหนกเนื้อ ไม่รู้ว่า
ฤทธิ์ของพิษจากมดแดงยังไม่หมด หรือความเงี่ยนที่ได้พูดกับมาเรียกันแน่ ที่ทำให้เธอคันรูหีเหลือเกิน เธอเกา
จนม่อยหลับไป
                             ฉะนั้น เมื่อพวกบุญคำบุกเข้ามาในเต็นท์ จึงพบกับภาพที่สาวๆพากันหลับนิ่งไม่รู้ตัว บุญคำจึง
ทำท่าทางส่งสันญานให้เชิดวุธกับจันรวมทั้งตัวแกเข้าประชิดเตียงของคริสติน่า จากนั้นให้จันเข้าปิดที่ปากของ
คริสติน่า ส่วนตัวแกก็ตรงเข้าจับขา เชิดวุธเข้าช้อนลำตัวแล้วยกขึ้นไปทั้งผ้าห่ม ทั้งสามคนอุ้มคริสติน่าออกไป
นอกเต็นท์โดยไร้เสียงใดๆที่จะมาปลุกให้สาวๆคนอื่นตื่นขึ้น
                        หลังจากที่รู้สึกตัว คริสติน่าก็พยายามดิ้น แต่ก็ไม่หลุดจากเงื้อมือของคนทั้งสาม เธอรู้สึกว่าถูก
นำตัวไปวางลงบนพื้นหญ้านุ่ม พอถึงพื้นเธอก็เริ่มเตะถีบเป็นการใหญ่ ปากก็ร้องเรียกให้ดารินช่วย แต่อนิจจาที่
ที่เธอถูกนำมาคงจะห่างไกลจากเต็นท์พอสมควร ดารินเลยไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
                         แล้วคริสติน่าก็ต้องเจ็บจนตัวงอ เพราะโดนกำปั้นของจันเข้าที่ท้องอย่างแรง เธอจุกจนร้องไม่
ออก ได้แต่นอนงอตัวน้ำตาไหลพราก
                          " แหม่มคริสไม่ต้องร้องให้แสบคอหรอก เก็บเสียงเอาไว้ครางเวลาเสียวดีกว่า คืนนั้นทำจันเอา
ไว้จนแสบสัน วันนี้จันขอเอาคืนบ้างนะนังแหม่มคนสวย " พูดจบ จันก็จับสาบเสื้อกระชากออกจนกระดุมเสื้อขาด
กระเด็น หน้าอกขาวอวบภายใต้ยกทรงจึงปรากฎขึ้นต่อหน้าของทุกคน
                         เชิดวุธที่อดทนรอไม่ไหว เขากระชากยกทรงออกแล้วฟุบตัวลงดูดทึ้งหัวนมแดงอย่างมันเขี้ยว
ส่วนบุญคำก็ไม่น้อยหน้า แกปลดตะขอกางเกงของคริสติน่าแล้วกระชากลงไปทางปลายเท้ารวมถึงกางเกงใน
ตัวน้อยด้วย
                          " พวกแกจะทำอะไร ฉันยังบาดเจ็บอยู่นะ  "
                           " ถามได้ว่าจะทำอะไร ก็จะเย็ดหีมึงนะสิ ไม่ต้องร้อง เตรียมตัวขึ้นสวรรค์ดีกว่า ขอรับรองว่าวัน
นี้และอีกหลายวันต่อไป มึงจะค้างอยู่บนสวรรค์ลงมาไม่ได้เลย ฮ้าๆๆๆ กูจะไม่พูดมากแล้วเสียเวลา คุณเชิดถอด
กางเกงได้ คุณได้รับเกียรติ์ประเดิมนังนี่ก่อน แล้วเร็วนะครับ พวกผมกำลังเงี่ยนมาก เอ้าเริ่มได้ "
                            โดยไม่ต้องให้บุญคำย้ำ เชิดวุธลุกขึ้นถอดเสื้อผ้า เดินควยโด่ไปทรุดที่หว่างขาของคริสติน่า
ที่ถูกบุญคำแหกอัารออยู่ เขาเอาน้ำลายป้ายที่หัวถอก แล้วถ่มลงไปที่รูหีของคริสติน่า จากนั้นก็กดหัวถอกกระ
เด้าเข้าไปอย่างแรงโดยไม่สนใจเสียงร้องอันเจ็บปวดของคริสติน่าเลย
                        " โอ้ย! เจ็บเหลือเกิน อ้าก เอามันออกไป ฉันเจ็บ แสบไปหมดแล้ว ไอ้สัตว์ ไอ้หน้าตัวเมีย อู้ยยย
เอาควยแกออกไป ได้ยินมั้ย เอาควยมึงออกจากหีกู โอ้ยๆๆๆ เจ็บเหลือเกิน... " คริสติน่าดิ้นแล้วก็ร้องโหยหวน
                         เชิดวุธกระดกก้นแล้วกระเด้าลงไปอย่างแรง เขากระเด้าควยย้ำๆลงไป ความฝืดทำให้หัวถอก
แสบไปหมด แต่เขาก็ไม่สน ถ่มน้ำลายลงไปแล้วส่งเสียงพร้อมกับอัดยัดท่อนควยตอกลงไปจนมิดด้าม
                         " ฝืดฉิบหาย หีนังแหม่มนี่รัดควยกูจนแน่นไปหมด ซื้ดสส นี่แน่ะ เล่นตัวดีนัก กูจะกระเด้าหีมึง
ให้ปลิ้นเลย ซื้ดสสส เสียวหัวถอก " เชิดวุธบ่นงึมงำ พร้อมกัชักท่อนควยออกแล้วเริ่มกระเด้าสั้นๆ เรียกน้ำหล่อ
ลื่น เขาใช้นิ้วเขี่ยที่ติ่งแตดของคริสติน่าที่ยื่นออกมา เขาบี้จนมันเริ่มลุกชูแข็ง น้ำหล่อลื่นในรูหีเริ่มซึมอาบ การ
กระเด้าก็เริ่มคล่องตัวขึ้น เขาเลยกระหน่ำเอวอย่างบ้าคลั่ง ท่อนควยวิ่งเข้าออกรูหีจนน้ำเงี่ยนกระฉอกออกมา
แคมหีปลิ้นเข้าออกตามลำควยอย่างน่าหวาดเสียว
                         ส่วนสองคนที่เหลือก็ไม่ทิ้งเวลาให้เปล่าประโยชน์ หัวนมทั้งสองข้างของคริสติน่าถูกจับจองดูด
เค้น เนื้อตัวถูกลูบไล้ขย้ำขยี้จนแดงเถือกไปหมด ไม่ว่าซอกคอไหล่รักแร้ ถูกบุญคำและจันแย่งกันดูดเลีย ไม่มี
เว้นแม้กระทั่งน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด ก็ถูกพวกมันเลียจนเหือดแห้ง
                          " พี่คำฉันขอต่อจากคุณเชิดนะ ฉันเงี่ยนจนปวดหัวควยไปหมดแล้ว " จันเงยหน้าจากหัวนมที่
เต็มไปด้วยรอยกัดขึ้นมาขอบุญคำ
                           " เออ ครั้งนี้กูยอมมึงก็ได้ แต่ครั้งหน้ามึงอย่าหวัง ซื้ดสส หัวนมนังแหม่มนี่ดูดมันส์ดีจริงๆ คุณ
เชิดหีนังนี่เย็ดมันส์มั้ย "
                           " โคตรมันส์เลย ซื้ดสส รัดแน่น ตอดหัวควยตึบๆ อู้ยยย เสียวหัวถอก หีโคตรดูดเลย นี่มันคง
ชักมีอารมณ์ร่วมแล้ว น้ำเงี่ยนออกจนแฉะเลย อู้ๆๆๆ อ้าๆๆๆ ซื้ดสสส " เชิดวุธตอบ
                           " งั้นคุณเชิดก็เด้าเร็วหน่อยซิ ผมเองก็เงี่ยนเต็มทนแล้ว ไม่ต้องรอให้น้ำแตกหรอก เปลี่ยนให้
ผมได้ลิ้มรสหีนังนี่บ้าง นะๆ ซื้ดสส " จันขอร้อง
                            เชิดวุธก็ใจปล้ำ เขาถอนท่อนควยออกจากรูหีครอสติน่าดังบล็อก แล้วพูดว่า
                             " เร็วๆล่ะ ผลัดกันคนละทีสองที ยังไงก็ของตายอยู่แล้ว ผมจะเย็ดนังนี่ให้อิ่มแทนข้าวเลย "
                             จันจับตัวคริสติน่าพลิก แล้วให้โก้งโค้ง ซึ่งเธอก็ยินยอมแต่โดยดีเพราะหมดอาลัยตายอยาก
พอจัดเสร็จ จันก็เข้าประจำที่ จับควยใหญ่ที่แข็งเด่ถูที่ปากรูสองสามทีแล้วยัดพรวดเข้าไป จากนั้นก็กระเด้าไม่
เลี้ยง จนคริสติน่าเกือบเสียหลักหน้าทิ่มดิน
                              " อู้ยย หีโคตรตอดเลยมึง ซื้ดกูจะกระเด้ามึงให้เหมือนหมาข้างถนนเลย คอยดู อู้ยยย เสียว
หัวควย หีมึงโคตรนุ่มเด้ามันส์มาก เป็นไงเริ่มเสียวหีล่ะสิมึง ครางออกมาดังๆ อีกระหรี่เอ้ย กูบอกให้มึงร้องออก
มาดังๆไม่งั้นกูจะเปลี่ยนเป็นกระแทกรูตูดมึงแทน ซื้ดส ได้ยินมั้ย "
                              " อย่านะ อย่าทำรูตูดฉันนะ ซื้ดสส อ่ะ ๆๆๆ ซื้ดสส " คริสติน่าร้องเสียงสั่น
                               " ก็แค่นั้นเอง ซื้ดสส ทำเป็นเล่นตัว หีมันต้องคู่กับควยโว้ย มีแต่รูหี ไม่มีควยมากระทุ้งมันก็
ไม่มันส์หรอก ซื้ดสส แต่รูหีมึงวิเศษพอๆกับของนายหญิงเลยว่ะ ทั้งตอดทั้งดูด ซื้ดสส กระแทกมันส์จริงๆ มึงไม่
ต้องห่วงวันนี้มึงได้เป็นเมียของพวกกูจนครบทุกคนแน่นอน พวกกูจะเย็ดให้หีมึงบานจนหุบไม่ลงเลย ซื้ดสส "
                   จันเริ่มซอยบั่นเอว กระแทกท่อนควยแบบไม่ยั้ง เสียงหัวควยทะลวงเข้าไปในรูหีดังซวบๆๆ คริส
ติน่าร้องโหยหวนด้วยความแสบและเสียวรู หน้าของเธอที่แนบกับพื้นถูไถลไปข้างหน้าเพราะแรงกระแทกจน
เธอต้องเงยหน้าเชิดขึ้น
                   บุญคำไม่รอช้า พอเห็นคริสติน่าเชิดหน้าอ้าปากอยู่ แกก็ยัดท่อนควยเข้าปากเธอไปในทันที แก
กระเด้าสวนจังหวะกับจัน โดยมีร่างของคริสอยู่ตรงกลาง ทั้งรูบนกับรูล่างรับศึกอย่างหนัก ทั้งสองชายกระเด้า
ควยแบบลึกสุดท่อน เสียงป้าบๆ เฉาะแฉะๆ อึกอักๆ ดังผสมปนเปกับเสียงสูดซี้ดปากด้วยความเสียวระงมไปทั่ว
                " สัดเอ้ย ซื้ดสส มันส์หัวควยสุด ปากอีกระหรี่นี่เด้ามันส์เป็นบ้า ซื้ดสสส " บุญคำแหงนหน้าเพ้อ
ในขณะที่เอวก็ซอยไม่หยุด
                 " ซื้ดสสส รูหีก็วิเศษพอๆกับของนายหญิงเลย อู้ยยย ดูดหัวควยฉันจนสะท้านเลย อู้วววว อึ้บๆๆ
เย็ดมันส์จริงๆโว้ย ซื้ดสส " จันส่งเสียงสะท้าน
                  " ผมชักทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ขอล่อต่อบ้างซิ ซื้ดสส " เชิดวุธพูดแล้วสะกิดจันบ้าง
                   บุญคำเห็นว่าชักจะทนกันไม่ไหวแล้วเลยสั่งจันออกไปว่า
                   " ไอ้จันมึงถอนควยมึงออกมา จัดท่ากันใหม่ กูจะล่อหีนังนี่ คุณเชิดล่อรูตูด ส่วนมึงไอ้จันมาล่อ
ปากต่อจากกู "
                    " ไม่นะ โอ้ย ไหนว่าจะไม่เย็ดตูดฉันไง ไม่นะฉันไม่ยอม " คริสติน่าโวยวายลั่น
                    " อย่าเรื่องมากอีกระหรี่ กูพอใจจะเย็ดรูไหนของมึงก็ได้ มึงมีหน้าที่แบให้พวกกูเย็ดเท่านั้น จำ
ไว้ มึงพูดขึ้นอีกกูจะเชือดมึงทิ้ง หรือไม่ก็เอาตัวไปโยนให้ไอ้พวกตัวประหลาดนั่นสะกรำซะดีมั้ย เห็นของแหม่ม
มาเรียมั้ย แหกจนแทบเป็นรูเดียวกันทั้งรูหีรูตูด มึงอยากจะโดนแบบนั้นมั้ยเห่อะ " บุญคำพูดขู่ จนคริสติน่านิ่ง
เงียบไป
                 การจัดท่าทางที่จะทำให้ทุกคนได้เย็ดทุกรูของคริสติน่าดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะเจ้าตัวยินยอม
ด้วยความกลัว ไม่นานเสียงต่างๆที่ควรจะเกิดขึ้นในระหว่างการเสพสมผสมพันธุ์หมู่ ก็ดังระงมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แล้วเหตุการณ์ในเต็นท์พักล่ะ ดำเนินไปถึงไหนแล้ว
***********************




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น