วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2564

สามก๊ก ฉบับพิศวาส ภาค 1 บทที่ 1

 
 

หลังจากอ้วนเสี้ยวปฎิบัติการล้มเหลวในการสังหารขันทีทั้งสิบ โฮจิ๋นก็เรียกบรรดาทหารที่เป็นพรรคพวกของตนเองเข้าประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงการไม่สามารถสังหารสิบขันทีได้ โดยอ้วนเสี้ยวแจ้งให้ทราบว่าการสังหารไม่สำเร็จเพราะ โฮฮองเฮา ปกป้องสิบขันทีไว้ โฮจิ๋นเอ่ยถามความเห็นของเหล่านายทหารเพื่อหาทางดำเนินการต่อไป แต่บรรดานายทหารกลับพากันมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าพูดเสนอความคิดเห็น เพราะโฮฮองเฮา เป็นน้องสาวของโฮจิ๋น หากพูดไปเกรงว่าจะทำให้โฮจิ๋นไม่พอใจ แต่มีนายทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งที่ไม่ยอมปิดปากเงียบเพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย จึงกล่าวขึ้นมาในที่ประชุมว่า

"เรียนท่านผู้สำเร็จราชการ ข้าน้อยมีความคิดเห็น"
โฮจิ๋นมองหน้าทหารผู้นั้น พลันหัวเราะออกมากล่าวว่า
"โจโฉ เจ้าเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แค่ได้เข้ามารับฟังการประชุมก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว นี่เจ้าบังอาจจะเสนอความคิดเห็นเชียวหรือนี่"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แม้ข้าน้อยจะต้องถูกลงโทษสถานหนักก็จะขอกล่าวคำพูดในใจให้จงได้"

โฮจิ๋นดูจะเมตตาแก่เจ้าทหารใจกล้าผู้นี้ไม่น้อย จึงกล่าวว่า
"เอาเถอะงั้นเจ้าพูดมา หากเจ้ากล่าวเหลวไหลเลอะเทอะ ข้าจะลงโทษเจ้าสถานหนัก"

โจโฉจึงกล่าวอย่างฉาดฉานโดยมิได้ประหม่าต่อบารมีของโฮจิ๋นและบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่คนอื่นแม้แต่น้อย
"ข้าน้อยมีความเห็นว่า การสังหารสิบขันทีมีความสำคัญยิ่ง คนถ่อยพวกนี้หาได้มีความซื่อสัตย์จริงใจกับใครไม่ พวกมันชอบแสวงหาผลประโยชน์จากความขุดแย้ง ที่พวกมันประจบสอพลอฮ่องเต้องค์ก่อนจนเสียคนก็เป็นบทเรียนที่เจ็บปวดเพียงพอแล้ว จะปล่อยให้เกิดซ้ำไม่ได้เด็ดขาด โทษของพวกมันสมควรตายตั้งแต่แรก ดังนั้นแม้จะต้องขัดใจกับโฮฮองเฮาข้าน้อยก็คิดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ขอท่านผู้สำเร็จราชการโปรดพิจารณาให้เด็ดขาดเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองด้วยเถิด"

เหล่านายทหารชั้นผู้ใหญ่ต่างสะดุ้งไปตามๆกัน คิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กน้อยจะกล้าใช้ถ้อยคำรุนแรงเช่นนี้ แต่โฮจิ๋นกลับชอบในน้ำใจของมันที่กล้าเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมา จึงพูดอย่างไม่ถือสา

"ข้าเห็นด้วยในเหตุผลของเจ้า แต่จะให้ข้าขัดแย้งกับน้องสาวข้าเพราะขันทีอันต่ำต้อยแค่สิบคนยังทำไม่ได้"
"แต่หากปล่อยไป พวกมันจะยิ่งได้ใจประจบสอพลอฮองเฮา ทำให้บ้านเมืองเกิดความแหลกเละวุ่นวาย สุดท้ายอันตรายก็จะเกิดขึ้นแก่แผ่นดิน..."
โฮจิ๋นโบกมือกล่าวว่า
"เรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เจ้ากล่าวเป็นเพียงจินตนาการของเจ้าเท่านั้น หากฆ่าพวกมันตอนนี้ดีไม่ดีใครเขาก็จะหาว่าข้าเป็นคนใจคออำมหิตโหดเหี้ยม ข้าเห็นว่ารอให้พวกมันก่อความวุ่นวายขึ้นมาก่อนแล้วจะฆ่าก็ยังไม่สาย ตอนนี้ข้าคุมอำนาจทางการทหารทั้งหมด หากจะฆ่าพวกมันก็ง่ายดุจหยิบส้มในลังเท่านั้น"

เมื่อเสนาบดีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พูดอย่างนั้น โจโฉก็ไม่สามารถกล่าวอะไรได้ นายทหารคนอื่นยิ่งไม่กล้ามีปากมีเสียง การประชุมจึงเลิกไปอย่างกร่อยๆไม่ได้อะไรขึ้นมา

โจโฉกับอ้วนเสี้ยวเดินคุยกันออกมา โจโฉกล่าวกับอ้วนเสี้ยวว่า
"ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าขันทีพวกนี้มีดีอะไร ทำไมฮองเฮาถึงปกป้องมันนัก"
อ้วนเสี้ยวกล่าวว่า
"คนพวกนี้ฝีปากดี คงพูดจายกยอปอปั้นจนพระนางชื่นชอบเป็นแน่"
"แต่ข้าว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น" โจโฉกล่าวอย่างครุ่นคิด

****

ภายในห้องบรรทมของโฮฮองเฮา พระนางทรงนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งโดยมีเหล่านางกำนัลช่วยกันแต่งหน้าแต่งผมให้ นางกำนัลบางคนกำลังจัดเตรียมเตียงเพื่อให้พระนางได้บรรทม ด้านข้างมีเตียวเหยียงหัวหน้าสิบขันทียืนคอยรับใช้อยู่ไม่ห่าง

ฮองเฮาทรงดูพระพักตร์ตัวเองในกระจกเมื่อเห็นว่านางกำนัลแต่งผมให้จนงดงามเป็นที่พอใจแล้วก็โบกมือไล่ให้พวกนางออกไป คงเหลือแต่เตียวเหยียงเพียงคนเดียว
"ข้าอุตส่าห์ยอมช่วยเจ้าถึงปานนี้ เจ้าจะตอบแทนข้ายังไง" พระนางชม้ายตาที่เรียวงามดุจตาหงส์มองมัน
เตียวเหยียงคุกเข้ากล่าวประจบประแจงว่า
"พระนางมีบุญคุณต่อกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ หากกระหม่อมต้องบุกน้ำลุยไฟจนตัวตายก็ยินดีจะทำเพื่อตอบแทนพระคุณของพระนาง"
ฮองเฮาค้อนมันวงใหญ่ กล่าวว่า
"ถ้าข้าอยากให้เจ้าตายข้าจะช่วยเจ้าไว้ทำไม ลุกขึ้นเถอะ"
ฮองเฮากล่าวแล้วก้มลงเพื่อช่วยประคองมันขึ้นมาอย่างไม่ถือสาพระองค์ เตียวเหยียงเงยหน้ามองพลันตาก็เบิกกว้างด้วยความเสียวซ่าน เพราะเมื่อพระนางก้มลงมาก็อวดเนินปทุมถันขาวอวบอูมทั้งสองก้อนให้เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตา ความขาวผ่องละลานตาอยู่ใกล้จนแทบจะเอาจมูกไปชนได้ กลิ่นปทุมถันอันหอมหวานนั้นเล่าก็เร่งเร้าทำให้เจ้าขันทีประหลาดถึงกับมองตาค้างน้ำสายสอแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหว

อาการผิดปกติของเจ้าขันทีประหลาดนั้นฮองเฮาจับตาสังเหตุเห็นเด่นชัดแต่ไม่ืทรงตรัสเปิดโปงมัน เพียงตรัสว่า
"ข้าเมื่อยเหลือเกิน"
"จะให้กระหม่อมทำยังไงพะยะค่ะ" เตียวเหยียงทูลถามใจเต้นระทึก
"นางกำนัลก็ออกไปหมดแล้ว เหลือเจ้าแค่คนเดียว งั้นข้าให้เจ้านวดให้ข้าละกัน"
เตียวเหยียงกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากเย็น กล่าวว่า
"สุดจะทรงโปรด พะยะค่ะ"
"ดี งั้นข้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จะได้นอนสบายๆ"

พระนางรับสั่งแล้วเสด็จไปที่มุมห้อง หันหลังให้เตียวเหยียง ค่อยๆถอดชุดหงส์ตัวงามออกจากพระวรกาย
และแล้ว เสื้อทรงนั้นก็ค่อยๆหลุดลงไปกองที่เท้า เรือนร่างของพระนางจึงเหลือแต่ชุดชั้นในที่เป็นผ้าแพรบางๆราวกับปีกจักจั่นสีชมพูเท่านั้น แต่พระนางก็มิได้หยุดอยู่แค่นั้น พราะภูษาชั้นในอันเบาหวิวก็ถูกถอดกระเด็นไปเช่นกัน

ท่อนบนของพระนางจึงเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอวดสันหลังหนั่นเนื้อขาวสล้าง...

หัวหน้าขันทีมองตะลึงงัน ทันใดพระนางก็ก้มลงปลดเปลื้องกระโปรงชั้นในตัวสุดท้ายลงกองกับพรมปูห้อง

เรือนร่างอันงดงามยามเปลือยอยู่ในแสงสว่างของห้องบรรทมที่หอมจรุงไปทั่ว

เตียวหยียงยืนตัวแข็ง ลิ้นที่ช่างเจรจาไม่สามารถทำงานได้อย่างฉับพลัน

เป็นบุญตาข้าเสียนี่กระไร แผ่นหลังขาวสะอาด พระเกษาดำเป็นเงางามสยายลงมาเคลียแผ่นหลัง เอวคอด สะโพกผายใหญ่ขาวโพลน แก้มก้นอวบงอนน่าขยำขยี้

รอยผ่าระหว่างก้นอวบ เม้มม้วนเนียนละออวกหายเข้าไปทางง่ามตูดเบื้องล่าง

ช่วงขาขาวสวยนั้นมันช่างขาวผ่องเป็นยองใย

"อา สบายดีจัง"

พระนางโฮฮองเฮาตรัสแล้วเอื้อมมือไปหยิบภูษาแพรบางมาสวมคลุมพระวรกาย แต่ แพรนั้นช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เจ้าขันทีเตียวหยียงมองเห็นยอดปทุมถันสีชมพูได้ถนัด ที่โคกหีก็มองเห็นเนื้อผ้าบางเบาสีขาวปรากฏแนบไปกับโคกนูนแลเห็นขนละเอียดสีดำเป็นมันวาวอยู่รำไร กลิ่นหอมจากเรือนผมรวยรินออกมาจากพระวรกายทำให้เตียวเหยียงหัวใจจะวายในบัดดล

"มาเถอะ เตียวเหยียง มานวดให้ข้า" ทรงรับสั่งเสียงใส เนตรหยาดเยิ้มชม้ายมองขันที พลางพยักหน้าให้มันตามขึ้นมาบนเตียงบรรทม

เตียวเหยียงใจเต้นระทึก ค่อยๆตามขึ้นไปบนเตียงอันอ่อนนุ่ม พระนางโฮฮองเฮานอนหงายอวดรูปร่างที่งดงามน่าเย็ดอยู่ภายใต้ชุดนอนที่บางเบา รับสั่งเสียงหวานระริก
"เอาละ เจ้านวดให้ข้าได้แล้ว"
เตียวเหยียงเอื้อมมือออกไป แล้วพลันหดกลับมา ไม่กล้่ากระทบถูกร่างเปลือยที่มีเพียงภูษาบางๆปกปิด มันเอ่ยถามว่า
"ต้องทำยังไงพะย่ะค่ะ"
"เจ้าไม่เคยนวดให้ใครหรือ" โฮฮองเฮาตรัสถาม
"เคยพะย่ะค่ะ แต่เกรงว่าจะทำไม่ได้ดังใจพระนาง" เตียวเหยียงเอ่ยอย่างหวาดระแวง แต่สายตาแอบชำเลืองไปตรงขนสีดำรำไรตรงโคกหีของพระนาง
"เจ้ากดข้อเท้าให้ข้าก่อน แล้วค่อยๆสูงขึ้นมา"
เตียวเหยียงสนองคำทันที กดมือลงไปช้าๆ พระนางหลับเนตรพริ้ม เจ้าขันทีบีบสูงขึ้นเรื่อยๆ จากหัวเข่าแล้วถึงโคนขาอ่อนที่ขาวราวกับหยก
"อูยยย มือหนักดีจริงๆ" โฮฮองเฮาครางเบาๆ ความกระสันซ่านปกคลุมไปทั่วทุกอนูความรู้สึกจนต้องถ่างขาออกจนกว้าง
เตียวเหยียงเห็นพระนางหลับเนตร จึงถือโอกาสเงยหน้ามองที่หว่างขาของพระนาง
โอ เจ้าชุดนอนปีกจั๊กจั่นนูนเด่นขึ้นมาเป็นหลังเต่ามองเห็นพงขนใต้แพรนั้นอย่างชัดตา
เตียวเหยียงโหย่งตัวกดสองมือลงไปตรงโคนขาริมแคม แช่นิ่งไว้สักครู่แล้วค่อยคลาบมือออก
"อูววว ดีจริง เตียวเหยียง" โฮฮองเฮารับสั่งชมเชย "มันร้อนซ่าไปถึงปลายเท้าเลย อืมมม สบายดีจัง"
พระพักตร์ของพระนางเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาทุกที แรงหายใจก็หอบถี่จนเต้าอุระสั่นกระเพื่อมช่างเย้ายวนรัญจวนเสียนี่กระไร
เตียวเหยียงเห็นพระนางกำลังหลับเนตรด้วยความเพลิดเพลินทำให้อดใจไว้ไม่ได้ต้องจับชายกระโปรงให้เลิกไปกองอยู่บนท้องน้อย เนินหีของพระนางก็ปรากฏเด่นชัดออกมาในทันที
เตียวเหยียงตะลึงงัน นัยน์ตาเบีกกว้างอ้า...โคกหีของพระนางโฮช่างโหนกนูนอะไรเช่นนั้น
"เย็นสบายดีเหลือเกิน" รับสั่งแล้วแกล้งถ่างขาให้กว้างออกไปอีกจนแคมแดงนั้นปริอ้าแย้มเผยอเป็นชั้นๆราวกับกลีบกุหลาย น้ำเมือกหอมชื่นหัวใจ

เตียวเหยียงหยุดชะงักการนวดในทันที
"ได้โปรดเถิดพะย่ะค่ะ โปรดเอาผ้าปิดหว่างขาของพระนางไว้ก่อน"
"ปิดทำไมล่ะ เย็นสบายดีออก หรือเจ้ากลัวว่าข้าจะอายเจ้า" ตรัสแล้วแย้มสรวลเสียงระริก "ข้าไม่อายเจ้าหรอกนะ สำหรับข้าแล้ว ขันทีก็ไม่ต่างอะไรจากนางกำนัล เจ้าอยากมองหีข้าก็มองได้่ตามใจชอบข้าอนุญาต"
"กระหม่อมไม่ได้กลัวพระนางอายหรอกพะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมทนไม่ไหวจริงๆ" เสียงของเตียวเหยียงสั่นพร่า หน้าแดงเข้มผิดปกติอย่างมากมาย
พระนางโฮฮองเฮาพระสรวลอย่างมีเลศนัย ปรือเนตรหยาดเยิ้มมองมันก่อนที่จะรับสั่งถาม
"ทนอะไรไม่ไหวล่ะ เจ้าขันที บอกข้าให้ชัดๆซิ"
"อ้า อ้า กระหม่อมทนมองหีพระนางไม่ไหว"
พระนางสรวลอีก เสียงหวานจับใจนัก
"มองหีข้าแล้วเจ้าจะทนไม่ไหวยังไง เจ้าเป็นขันที มองไปก็เท่านั้น ทำไมถึงบอกว่าทนไม่ไหว"
เตียวเหยียงอ้ำอึ้งไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ท่าทางอึกอักมีพิรุธมากมาย พระนางโฮทรงพระสรวลระริกเอ่ยต่อว่า
"ทำไมไม่ตอบข้าล่ะ หรือเจ้ากลัวอะไร"
เตียวเหยียงรู้ว่าถ้าไม่ตอบคงจะดูมีพิรุธมากมายจึงกัดฟันกล่าวว่า
"กระหม่อมไม่ได้กลัวอะไรพะย่ะค่ะ"
พระนางโฮแย้มสรวลกล่าวว่า
"เจ้าไม่ต้องโกหก ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็รู้ว่า เจ้ากลัวอะไร"
เตียวเหยียงใจหายวาบ กล่าวเสียงตะกุกตะกักว่า
"พระ..พระ..นางรู้..."
พระนางโฮตรัสด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า

****

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น