วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563
ได้งาน
คุณได้งานที่คุณทำทุกวันนี้เนี่ย คุณได้งานมาแบบไหน? หลายคนอาจจะส่งรีซูเม่ไปตามเวบไซต์สมัครงาน หลายๆ คนอาจจะมีคนรู้จักแนะนำ หรือหลายๆ คนอาจจะได้งานตั้งแต่เรียนหนังสือไม่จบ เพราะมีบริษัทมาจองตัวไว้ก่อน ผมเองได้งานด้วยวิธีหลัง แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมเรียนหนังสือเก่งอะไรหรอกนะครับ แต่ว่าที่ได้งานตั้งแต่ก่อนจบนี่เป็นเรื่องบุพเพสันนิวาสเสียมากกว่า เรื่องการได้งานของผมเป็นยังไงจะเล่าให้พวกคุณฟังเดี๋ยวนี้แหละ
ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของปี 3 ได้ ผมไปทำงานเด็กเซเว่นอยู่ที่สาขานึงแถวๆ ซอยธนิยะ ผมได้กะดึกซะด้วย แต่ทำไงได้ ผู้ชายเค้าก็อยากให้ลงกะดึกกันซะทั้งนั้น ตัวผมเองก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะในอีกแง่นึงงานกะดึกยังไงก็ไม่หนักเท่างานกลางวัน เรื่องทั้งเรื่องคือ มีอยู่วันนึง ตอนนั้นบังเอิญผมอยู่หน้าเคาน์เตอร์คนเดียวพอดี ก็มีคุณน้าผู้หญิงคนนึง อายุน่าจะราวๆ แม่ผมได้ ท่าทางเป็นคนทำงานในออฟฟิสแถวๆ นี้เพราะผมจำได้อยู่ว่าชอบมาซื้อบุหรี่ตอนประมาณ 3 ทุ่มทุกวัน ท่าทางทำงานหนักมาก เลยเครียดซะขนาดนี้ คราวนี้ อยู่ๆ คุณน้าท่านก็ชวนผมคุยขึ้นมา ตอนนั้นทั้งร้านมีผมแค่คุณน้าอยู่กันสองคน
“เราไม่เรียนหนังสือเหรอ”
“อ๋อ เรียนครับ แต่ตอนนี้ปิดเทอมอยู่เลยมาหารายได้พิเศษน่ะครับ”
“อ้อ ตอนนี้ปิดเทอมอยู่นี่เอง มิน่าล่ะ ชั้นเลยเห็นเรามาทำจนดึกทุกวัน ขยันดีนะ”
“แหะๆๆ ขอบคุณครับ”
“เรียนที่ไหนเหรอ ชั้นไหนแล้ว”
ซึ่งผมก็ตอบคุณน้าท่านไปตามจริง พอคุณน้าได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วก็บอกว่า
“หืมมมม เก่งไม่ใช่เล่นนะเนี่ย เรียนที่นั่นได้ ใกล้จบแล้วหางานได้ยังเนี่ย”
“หูยยย ผมเพิ่งอยู่ปี 3 เองครับ อีกตั้งปีนึงแน่กว่าจะจบ”
“Are you interested to work in my company?”
ผมอึ้งพักนึงที่คุณเค้าถามเป็นภาษาอังกฤษ ผมรู้ทันทีว่านี่คือการลองภูมิรู้ภาษาผม ผมก็ตอบไป
“That’s sound great but I’m afraid I’m under qualification because I’m not graduated yet.”
“No you can do my job I want you to be my employee. I can give you better money than this fucking job. Just drop me a call now and I gonna call you back”
“หะ เหอ อะ เอาจริงเหรอครับ”
“Now call me now!” ท่านจ้องหน้าผมเขม็งแล้วยื่นนามบัตรให้ผม
ผมละล่ำละลักโทรไปตามเบอร์ที่ท่านบอก เสียงโทรศัพท์ท่านดังขึ้น ท่านมองหน้าผมแล้วก็บอกว่า
“I told you just drop me a call. End the call now! Why you still calling me?”
“อ่ะ OKๆๆ คะ ครับ”
“Tomorrow come to my office at 8 AM at this place”
“But….tomorrow is Saturday?” ผมสงสัยว่าออฟฟิสเค้าเปิดเหรอ
“So…What’s the problem?”
“Ummm no…no…no. So Let’s meet tomorow”
“OK Nice to know you, cutie boy. See ya tomorow” ท่านพูดเสร็จแล้วก็เดินออกไป
ผมเอานามบัตรของคุณน้าเค้าใส่กระเป๋าเสื้อไว้อย่างอึ้งๆ ไม่นึกมาก่อนว่ามันมีการชวนคนไปทำงานกันแบบนี้ด้วย ผมเอาชื่อบริษัท ชื่อนามสกุลของคุณน้าคนนี้ไปค้นใน Google เพื่อที่จะดูว่าเป็นใคร ก็พบว่าคุณน้าคนนี้เค้าเป็นถึงเจ้าของบริษัทผลิตแหอวน แถมยังเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เสียด้วย ผมไปค้นดูข่าวเกี่ยวกับบริษัทนี้ก็พบว่าไม่ได้เป็นบริษัทที่มีปัญหาทางด้านการเงินอะไร คุณน้าท่านเป็นเจ้าของจริงๆ ผมเห็นท่านในข่าวธุรกิจด้วย ผมนี่ไม่อยากเชื่อเลยว่า คนระดับนี้จะมาชวนผมไปทำงานกับท่านจริงๆ
เช้าวันต่อมา ผมแต่งตัวใส่เชิ้ทผูกเนคไทด์ไปตามที่อยู่ในนามบัตร ผมไปถึงออฟฟิสท่านตอนเกือบๆ แปดโมงขณะกำลังรออยู่หน้าลิฟท์ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมรับสาย
“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“ผมอยู่ที่หน้าลิฟท์ใต้ตึกครับ”
“ฮึๆๆๆ น่ารักจัง ดีมาก ตรงเวลาที่นัดเอาไว้ ขึ้นมานะ ชั้นรอเธออยู่”
แล้วคุณน้าเค้าก็วางสาย ผมกดลิฟท์ขึ้นไปจนถึงชั้น 15 เปิดไปเป็นบริษัทตรงตามนามบัตรที่คุณน้าท่านให้ไว้ หน้าบริษัทมียามยืนอยู่
“มาพบท่านประธานใช่มั้ยครับ?”
“อะ...เอ่อ ชะ ใช่ครับ”
“ท่านประธานรออยู่แล้วครับ เข้าไปได้เลย เดินเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะครับ”
ผมเดินเข้าไปตามที่ยามบอก ผมเคาะประตูห้อง แล้วก็ได้ยินเสียงให้เปิดประตูเข้าไป ผมเปิดเข้าไปก็พบว่าห้องทำงานของท่านนี่ใหญ่โตเอาการ ใหญ่กว่าห้องพักของผมซะอีก นึกไม่ออกว่าค่าเช่าจะเท่าไหร่ คุณน้าผู้หญิงนั่งสูบบุหรี่พลางจิบกาแฟไปด้วยอย่างสบายใจ
“อรุณสวัสดิ์ นั่งสิ”
ผมนั่งลงเบาๆ อย่างเรียบร้อยที่สุด ก็นี่เป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกของผม
“เฮ้ย นี่ ไม่ต้องเกร็งก็ได้ นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์งาน ”
“ผมได้งานแล้วเหรอครับ?”
“ใช่สิ ชั้นรับเธอแล้ว เหลือแต่เธอจะอยากมาทำงานกับชั้นมั้ย ที่ชั้นนัดเธอมาที่นี่เพราะชั้นอยากคุยรายละเอียดการทำงานกับเธอ ว่าเธอจะโอเคกับชั้นรึเปล่า”
ผมทำหน้างงๆ คุณน้าเห็นผมไม่เข้าใจก็หัวเราะคิกคัก แล้วก็บอกว่า
“นี่ จำไว้นะ จะตกลงทำงานเป็นลูกจ้างใครเธอต้องรู้ก่อนว่าเธอได้รายได้เท่าไหร่ ไม่ถามชั้นล่ะว่าชั้นจะจ่ายเธอเท่าไหร่ เธออยากรู้มั้ย?”
“อยากทราบครับ เท่าไหร่ครับ”
“ 23,000 บาท โอเคมั้ย?”
“แต่....ผมยังเรียนไม่จบนะครับ เปิดเทอมผมก็ต้องกลับไปเรียนให้จบ”
“ชั้นรู้ และนี่คือเรทที่ชั้นให้เธอก่อนเรียนจบ และถ้าเธอเรียนจบแล้วทำงานได้เต็มที่ ชั้นก็ให้เธอได้อีกเรทนึงนะ”
ผมทำตาโตเพราะ ไม่อยากเชื่อว่าผมจะได้งานในรายได้งามๆ ได้ง่ายๆ แบบนี้
“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ”
“ทำตามที่ชั้นสั่ง แค่นั้นแหละ” ท่านพ่นควันบุหรี่แล้วตอบเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่คำนี้มันช่างเป็นคำพูดที่ประกาศความเป็นเจ้านายชะมัด “ทำได้มั้ย ทำตามที่ชั้นสั่งน่ะ”
“ทำได้ครับ ถ้าคุณน้าต้องการอย่างนั้น”
“ดีมาก... งั้นวันนี้เริ่มงานกันเลยนะ”
คุณเชื่อมั้ยว่าท่านรับผมเข้าทำงานโดยที่ท่านไม่รู้จักชื่อผมเลย แต่ผมน่ะรู้ว่าท่านชื่อสุวณีย์ กว่าท่านจะรู้จักชื่อผมก็โน่นแน่ะเข้าวันที่สามไปแล้ว หน้าที่ผมเหรอ เอาจริงๆ นะ หน้าที่ผมคือเบ๊ของท่านที่ทำทุกอย่างนั่นแหละ ส่วนใหญ่คือทำหน้าที่ประสานงานอะไรสารพัดให้กับคุณสุวณีย์ ผมเองมีหน้าที่ต้องอยู่ทำงานกับท่านจนดึกดื่น เพราะคุณสุวณีย์จะต้องอยู่เย็นคุยกับลูกค้าฝั่งอเมริกาอยู่เสมอๆ ซึ่งผมเองไม่มีสิทธิกลับบ้านเลย หากว่าคุณสุวณีย์ยังไม่กลับ พูดจริงๆ นะคุณ ผมน่ะ ต้องอยู่กับคุณสุวณีย์ยิ่งกว่าอยู่กับแม่ผมซะอีก แถมบางทีคุณสุวณีย์ทำงานวันอาทิตย์ซะด้วย ท่านก็เรียกผมมาทำงานกับท่าน
คุณสุวณีย์เนี่ย เป็นผู้หญิงที่บึ้บบั้บมากๆ คนนึง รูปร่างของคุณสุวณีย์ท่านเหมือนกับแจกันใบโตๆ อย่างไงอย่างงั้นเลยคุณ จริงอยู่ที่ท่านเป็นคนร่างใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ร่างใหญ่เหมือนโอ่งหรือตุ่ม ท่านเหมือนกับแจกันดอกไม้ใบเขื่องๆ มากกว่า ยิ่งเวลาที่ท่านใส่เสื้อเชิร์ตขาวๆ แล้วนมขนาดมโหฬารของท่านมันจะดันเสื้อทะลักออกมานะคุณเอ๊ย ทำเอาผมต้องแอบไปชักว่าวในห้องน้ำบ่อยๆ เลยแหละ ผมเองไม่มีปัญหาที่ต้องอยู่ค่ำๆ หรือว่ามาทำงานวันหยุดกับคุณสุวณีย์ เพราะผมก็เพลินตาที่ได้มองสัดส่วนอร้าอร่ามของคุณสุวณีย์เช่นกัน แถมถ้าหากวันไหนท่านใส่กระโปรงสั้นๆ ตัวฟิตๆ แล้วก้มๆ เงยๆ นะคุณเอ๊ย ควยผมนี่ดันเป้ากางเกงสแล็กจนตุงทีเดียวเชียว
อย่างวันนี้ก็เหมือนกัน คุณสุวณีย์ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเล็ก มันบางจนเห็นยกทรงลายลูกไม้สีดำเชียวล่ะ ปกติไม่มีทางที่ใครจะได้เห็นหรอก เพราะคุณสุวณีย์จะใส่เสื้อสูททับไว้ นี่ถ้าไม่ใช่ว่าผมยืนรอเอกสารของคุณสุวณีย์ตอนที่ท่านก้มตรวจดูนะ คงไม่มีทางรู้แน่ว่าเสื้อของท่านมันปิดหน้าอกของท่านไว้ไม่อยู่ แล้วหลังหกโมงเย็นที่คนในออฟฟิสกลับกันหมด ผมเห็นเจ้านายผมออกมาค้นเอกสารในตู้ ก้มหาดูอยู่ตั้งนาน ก้นงอนๆ ของคุณสุวณีย์พุ่งมาที่หน้าผมพอดีเลย มันใหญ่โตปานว่าจะปริกระโปรงขาดออกมาให้ได้ ท่านก้มหาอยู่พอสมควร แล้วก็เดินหยิบแฟ้มเข้าห้องท่านไปพักใหญ่ๆ แล้วท่านก็โทรเข้ามาหาผม
“วิโรจน์ เอาเอกสารที่ชั้นให้เธอทำเมื่อบ่ายมาหาชั้นที่ห้องหน่อยซิ”
ผมเปิดห้องเข้าไป เจอคุณสุวณีย์นั่งเอกเขนกที่โซฟา ท่านจิบไวน์พร้อมสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ผมหย่อนก้นลงที่โซฟาฝั่งตรงกันข้ามแล้วยื่นเอกสารที่ผมทำเรียบร้อยให้เจ้านายดู คุณสุวณีย์รับไปดูแล้วนั่งอ่านดูรายละเอียด แต่ในขณะนั้นเอง อยู่ๆ คุณสุวณีย์ก็นั่งกางขาออก กระโปรงสั้นของคุณสุวณีย์เปิดให้เห็นถึงร่องแคมใต้เส้นหมอยดกดำ ผมเห็นรอยแยกใต้กระโปรงแล้วผมต้องตกตะลึงในขนาดของร่องเต่าหลังแตกที่อวบอูมของเจ้านายผม เนื้อสีแดงคล้ำอยู่ข้างในมันขยับตัวมุบมิบไม่หยุด ตาผมจ้องดูสิ่งที่อยู่ในร่มผ้าของคุณสุวณีย์เป็นมัน ท่านอ่านเอกสารไปเหมือนกับว่ามันไม่มีผมนั่งอยู่ตรงนั้นเลย แล้วพักนึงท่านก็ยื่นเอกสารให้ผม แล้วก็บอกงานให้ผมไปทำต่อ ผมนี่แทบจะฟังท่านพูดไม่รู้เรื่องเลยครับ
มาตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คุณสุวณีย์ไม่ได้คิดกับผมแค่ลูกน้องเจ้านายแน่ๆ แต่ว่า ผมก็ไม่กล้าทำอะไรมากกว่านี้ เพราะถึงอย่างไร คุณสุวณีย์ก็เป็นเจ้านายที่ผมรักและเคารพ และคุณเชื่อมั้ยว่าหลังจากวันนั้น ผมก็โดนเจ้านายผมอ่อยผมแรงขึ้นทุกวัน...ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการก้มหน้าลงมาหาผม แล้วเผยให้เห็นถึงร่องอกใกล้ๆ หลายวันเลยที่คุณสุวณีย์จะไม่ใส่ยกทรงแล้วใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวน้อยเดินไปมาในออฟฟิสช่วงเย็นที่คนไม่อยู่แล้ว หากวันไหนโชคดีหน่อยคุณสุวณีย์ก็จะเรียกผมไป “คุยงาน” ที่โซฟา ซึ่งก็แน่นอนว่านายผมก็จะกางขาให้ดูร่องแคมอวบที่ขมิบมุบมิบล่อตาล่อใจผมนั่นเอง แต่ที่ผ่านมานอกเหนือจากเปิดโอกาสให้ผมดูสัดส่วนลี้ลับของท่านแล้ว ท่านไม่มีอะไรกับผมนอกเหนือจากความเป็นนายบ่าวเลย
แน่นอนว่ายิ่งท่านทำอย่างนี้ ยิ่งทำเอาผมคลั่งไคล้ท่านหนักขึ้นทุกวัน ทุกวัน ผมตั้งใจทำงานให้ท่านอย่างดีที่สุด เพื่อหวังให้คุณสุวณีย์ตอบแทนผมด้วยสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเปิดร่องสวาทให้ผมดู หรือการเอาร่องนมมาโชว์ให้ผมดูใกล้ๆ บ่อยๆ และก็ดูเหมือนว่าคุณสุวณีย์จะรู้ความในใจผม หากวันไหนที่ผมทำงานได้ดี สุวณีย์ก็จะให้รางวัลผมด้วยวิธีนี้เสมอๆ
จนในที่สุด วันที่เจ้านายผมให้รางวัลชิ้นใหญ่กับผมก็มาถึง วันนั้นเป็นวันก่อนสงกรานต์พอดี คุณสุวณีย์โยนงานชิ้นใหญ่ให้ผม ผมต้องใช้เวลาแทบจะทั้งวันโดยไม่ได้หยุดพักเลยในการทำงานชิ้นนั้นให้เสร็จทันเวลา ผมทำตั้งแต่แปดโมงเช้ายันหกโมงเย็นกว่าจะเสร็จเรียบร้อย ตอนหกโมงครึ่งผมหอบงานไปให้คุณสุวณีย์ตรวจงาน เจ้านายใส่แว่นตานั่งดูงานอย่างเรียบร้อย ผมเองอดผิดหวังไม่ได้ที่คุณสุวณีย์ไม่ได้เปิดอะไรให้ผมชื่นชมเลย นี่ตอนเย็นแล้วทั้งออฟฟิสมีแค่ผมกับนายอยู่แค่สองคน แต่คุณสุวณีย์ก็ยังใส่สูทเรียบร้อย ส่วนท่อนล่างเธอเองก็นั่งหนีบอย่างมิดชิด ไม่มีอะไรเป็นอาหารตาให้ผมดูเลย คุณสุวณีย์ดูเอกสารไปพลาง จิบกาแฟไปพลางเหมือนเป็นคนละคนจากทุกวันอย่างไงอย่างงั้น
“โอเค ชั้นดูคนไม่ผิดจริงๆ เธอนี่ทำงานได้เรียบร้อยมาก และพัฒนางานตัวเองได้ดี ชั้นภูมิใจในตัวเธอมากรู้มั้ย” คุณสุวณีย์ที่นั่งอย่างเรียบร้อยคุยกับผมเหมือนปกติ ท่านขยับแว่นนิดนึงแล้วทำท่าเหมือนควานหาอะไรซักอย่าง “ตายแล้ว บุหรี่ชั้นหมดพอดี แย่จัง กำลังเปรี้ยวปากอยู่ด้วย”
“เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมลงไปซื้อให้ครับ” ผมเสนอตัวพลางลุกขึ้นทำท่าจะไปซื้อบุหรี่ให้นาย
“ไม่ต้องไปหรอก เธอขยับตัวมาที่นี่ดีกว่า” คุณสุวณีย์มองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มหวานๆ
“เอ่อ ยังไงครับ?” ผมฉงน
“บอกให้ขยับตัวมาก็ทำซี่ จะมาซื่อบื้ออะไร มานี่ เร็วๆ ”
ด้วยความที่ผมไม่เคยตีตนเสมอเจ้านายมาก่อน ผมก็พยายามย่อตัวเข้าไปหาคุณสุวณีย์ แต่ท่านสั่งให้ผมยืนแล้วเลื่อนตัวไปใกล้ๆ จนกระทั่งผมยืนจนตัวผมยืนห่างจากนายที่นั่งอยู่บนโซฟาแทบจะแค่ฟุตเดียว คุณสุวณีย์แลบลิ้นเลียริมฝีปากแล้วก็เอื้อมมือมาจับหมับที่เป้ากางเกงแสลกผม
“จุ๊ๆๆๆ ใหญ่ใช้ได้เลยนะเนี่ย”
คุณสุวณีย์คลึงเป้ากางเกงผมเบาๆ ส่วนตัวผมตอนนั้นน่ะเหรอครับ ยืนตัวแข็งเกร็งเชียวล่ะคุณเพราะผมนึกไม่ถึงว่าผมจะโดนเจ้านายรุกไล่เอาขนาดนี้
“เคยวัดมั้ยเนี่ย ว่าของตัวเองยาวเท่าไหร่” คุณสุวณีย์คลึงเคล้นลำควยผมนอกกางเกงเบาๆ แล้วถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“มะ ไม่เคยครับ”
“ขนาดใหญ่เขื่องเลยล่ะของเราน่ะ แข็งด้วย ดูสิ ยิ่งจับยิ่งแข็ง”
“ซี้ดสสสส”
“เสียวเหรอ?”
ผมพยักหน้า นายเห็นก็หัวเราะร่วน
“เด็กๆ ก็ดีอย่างนี้แหละ จับนิดจับหน่อยก็สู้แล้ว” คุณสุวณีย์พูดจบก็ถอดเข็มขัดแล้วรูดซิปผมออก ควยของผมโผล่พ้นขอบกางเกงในโผล่แต่หัวควยที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนเต็มหัวควย มันหลั่งออกมาจนเลอะทั้งเป้ากางเกงใน ท่านมองควยผมใต้ผ้ากางเกงในอย่างชอบใจ ฝังหน้าเข้ามาใช้จมูกกดแล้วสูดลมหายใจลึก ๆ ผมก็แอ่นสู้หน้าของท่าน คุณสุวณีย์ก็อ้าปากแล้วเลียหัวควยผมถี่ๆ เหมือนแมวกินน้ำ ผมก็ได้แต่โอดโอยแอ่นหน้าแอ่นหลังให้เจ้านายชิมน้ำเงี่ยนจากลำควย
“หืมมมม น้ำเงี่ยนเธอเยอะจัง”
“เอ่อ ขอโทษครับ ซี้ดสสส ”
“บ้า ชั้นชอบด้วยซ้ำ น้ำเงี่ยนเยอะขนาดนี้”
คุณสุวณีย์เลียอย่างอร่อยปากไปพักนึงก็รูดกางเกงในผมลง ควยผมดีดผึงชี้หน้าเจ้านาย ท่านอ้าปากอมควยผมเข้าไปทั้งลำ ผมนึกไม่ถึงเลยว่าผมเองจะได้มีวาสนาเย็ดปากเจ้านายตัวเองอย่างนี้ คุณสุวณีย์โยกคอดูดควยผมอย่างคล่องแคล่ว ลีลาการดูดของท่านเหมือนนางเอกหนังโป๊ยังไงยังงั้น ท่านดูดแล้วดูดอีกเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหน ยิ่งตอนที่ท่านดูดหัวควยเพื่อรีดเอาน้ำเงี่ยนจากปลายลำผมแรงๆ นะ ทำเอาผมเสียวจี๊ดจนร้องลั่นเลยคุณ แต่ดูเหมือนเจ้านายผมจะยิ่งชอบใจ ดูดแล้วดูอีกอยู่นั่นแหละ ลำควยเจ้ากรรมผมก็ไม่แตกซักที คุณสุวณีย์โยกคอเป็นจังหวะ กลืนกินท่อนควยผมอย่างอร่อยปาก
“หืมมมม นี่เธอยังไม่เสร็จอีกเหรอเนี่ย”
“ปกติผมจะชักว่าวเองน่ะครับ ซี้ดสสส เพิ่งมาโดนใครมาดูดอย่างนี้”
“ตายแล้ว นี่เธอไม่เคยมาก่อนเหรอ?”
ผมส่ายหน้าดิก
“มิน่าล่ะ จับนิดๆ หน่อยก็ปึ๋งปั๋ง อย่างนี้ของดีเลยนะเนี่ย สะอาด อร่อยปากชั้นดี”
แล้วคุณสุวณีย์ก็อ้าปากอมควยผมดูดต่อ คราวนี้เจ้านายผมโยกคอรัวๆ เสียงดูดควยดังลั่นเหมือนกับว่าปากของคุณสุวณีย์เป็นเครื่องปั๊มทีเดียวเชียวครับ ผมนี่เสียวจี๊ดจนครางไม่เป็นภาษาเลยคุณ จนสุดท้ายเขื่อนผมก็แตก น้ำควยผมทะลักเข้าปากนายตรงๆ เล่นเอาคุณสุวณีย์กลืนไม่ทันล้นออกจากปากเลยครับ ขนาดท่านต้องเอามือรองน้ำผมไว้แล้ว มันบังมีส่วนที่ล้นตกลงกระโปรงท่านเลยครับ คุณสุวณีย์ดื่มน้ำควยผมจนหมดแล้วก็มาดูดควยที่สั่นระริกของผมต่อ ท่านดูดจนสะเด็ดน้ำเกลี้ยงท่อเลยทีเดียว
“อื้มมมม เยี่ยม เยี่ยมมาก เป็นลำควยที่ยอดเยี่ยมมาก” เจ้านายผมชมเปาะ “ควยใหญ่ยาวกำลังเหมาะ น้ำเงี่ยนก็เยอะ น้ำควยก็เยอะชั้นชอบมากเลยรู้มั้ย?”
“ซีดสส ขอบคุณครับ”
“ต่อไปนี้เธอต้องเอาควยมาให้ชั้นดูดทุกวัน เธอห้ามเอาน้ำควยเธอออกเอง เข้าใจมั้ย?”
“ครับผม เจ้านาย” ผมตอบอย่างสุภาพ
“ถ้าชั้นรู้ว่าเธอแอบชักว่าวโดยที่ชั้นไม่รู้ล่ะก็....น่าดู”
“ผมสัญญาครับ ว่าผมจะไม่ปล่อยน้ำควยโดยที่คุณสุวณีย์ไม่ทราบ”
“ฮะๆๆๆ เธอนี่น่ารักจริงๆ แต่เธอจำไว้นะ ชั้นเป็นเจ้านายเธอ อย่ามาบังอาจตีตนเสมอชั้นเด็ดขาด เข้าใจมั้ย!!”
“ครับผม”
“น้ำควยเธอน่ะ คาวมากเลย ชั้นชอบ ไม่รสขมด้วย เพราะเธอไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ รู้มั้ย”
“ครับ”
“ดังนั้นเธอต้องรักษาสุขภาพ ห้ามทานเหล้าสูบบุหรี่เด็ดขาด ไม่งั้นรสน้ำควยเธอจะไม่อร่อย เข้าจั๊ย?”
“ครับ ปกติผมก็ไม่ทานอยู่แล้ว”
“ไม่พอ เธอต้องกินเนื้อมากกว่านี้ ทานผลไม้มากกว่านี้ น้ำควยเธอจะได้เข้มข้นและมีรสที่หวานอร่อยกว่านี้”
“โอเคครับ ได้ครับ ผมจะเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเจ้านายครับ”
“ ฮะๆๆๆ ดีมาก ดีมาก…แต่ ชั้นไม่แน่จอะไรอยู่อย่าง”
“อะไรเหรอครับ?”
“เธอ….สัญญาอะไรกับชั้นอย่างได้มั้ย?”
“ว่าอะไรเหรอครับ?”
“เธอต้องเป็นลูกน้องชั้น เธอต้องอุทิศชีวิตตัวเธอเองเพื่อชั้น เธอต้องไม่เกี่ยงในสิ่งที่ชั้นสั่งให้เธอทำ เธอต้องซื่อสัตย์กับชั้นเหมือนหมาที่รักเจ้านาย เธอทำได้มั้ย?”
“ได้สิครับ”
คุณสุวณีย์หรี่ตา แล้วพูดย้ำอีกทีว่า “นี่ไม่ใช่การสัญญากันพล่อยๆ เธอเองก็น่าจะรู้ว่าชั้นถือคำพูดคน ถ้าหากว่าเธอทำผิด คำพูด ชั้นเอาเธอตายแน่ ถ้าเธอจะเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน ชั้นจะไม่ว่าเธอเลย แต่ถ้าหากว่าเธอยืนยันอีกครั้ง แบะชั้นจะถือว่าชั้นเป็นเจ้าขีวิตเธอ เธอตอบชั้นอีกครั้งซิว่าเธอจะรับคำมั้ย”
“รับครับ ผมจะไม่เปลี่ยนใจเลย และผมสาบานว่าผมจะภักดีกับคุณสุวณีย์อย่างสุดหัวใจ”
“ดี งั้นเธอคุกเข่าลงซิ แล้วแหงนหน้าขึ้นมาหาชั้น แล้วอ้าปาก”
ผมทำตามที่นายสั่งโดยดี แล้วคุณสุวณีย์ก็ลุกขึ้นยืน ก้มหน้าจนแทบจะหน้าติดกัน แล้วท่านก็ค่อยๆ ปล่อยน้ำลายจากปากท่านเป็นสายลงมาใส่ปากผม ผมกลืนน้ำลายของเจ้านายทุกหยดอย่างไม่รังเกียจ ในเมื่อนายกินน้ำควยผมแล้ว ผมจะรังเกัยจน้ำลายของนายได้ยังไงครับ พอทำจบ ท่านยิ้มอย่างปิติ
“ดีมาก ดีจริงๆ เธอเป็นข้าชั้นแล้วรู้มั้ย จำไว้ล่ะ”
แล้ววันนั้นคุณสุวณีย์ก็ดูดลำควยผมไปอีกยก ยกที่สองนี่น้ำแตกยากกว่าครั้งแรกซะอีกครับ ท่านดูดเอาๆ จนผมครางเหมือนลูกหมาเลย กว่าผมจะปล่อยน้ำเข้าปากเจ้านาย ก็เล่นเอาผมสูดปากจนปากแห้งแลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมจะโดนคุณสุวณีย์เรียกไปดูดควยทุกวัน ครั้งแรกตั้งแต่เข้าออฟฟิส แล้วก็ตอนเที่ยง และตอนเย็นอีกที หากวันไหนมีเวลา ท่านก็ดูดควยผมเพิ่มช่วงบ่ายอีกก็มีครับ ตัวผมนี่โดนนายดูดน้ำจนซีดขาสั่นทุกๆ วันเลยครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น