วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

 ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 77 “นัดเดทที่บิดพลิ้วไม่ได้!?...คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่ได้!!!”


“เจ้าพบกับแม่ในโลกมนุษย์งั้นรึ?”
“เป็นเช่นนั้น...วสันตะนุจรินทร์ก็พบกับพ่อแล้ว”
“ไม่ใช่ความคิดที่ดี...พวกเจ้าสองพี่น้องจะทำให้เรื่องราวต่างๆยุ่งยากยิ่งขึ้นและอีกอย่าง...”
“?”
“เจ้าดูจะชื่นชอบในร่างเด็กนี้ไม่ใช่น้อยแต่ข้าเห็นทีไรก็ไม่รู้สึกคุ้นเคย”
“เพื่อไว้เจอกับแม่ของเราไง”
“นางรักเจ้ามากทีเดียวแลทุกค่ำคืนก่อนเข้านอนก็ตั้งความหวังว่าจะได้พบกับเจ้า”
“............................................”
“ทว่าหลายคืนแล้วนะที่เจ้าไม่ไปพบกับนาง...มันทำให้นางกระวนกระวายใจไม่น้อย”
“อีกไม่นานนี้ล่ะที่เราจะพบกับแม่”
“ฮึ!!...กระนั้นก็ถึงกับให้ข้าต้องมาข้องเกี่ยวด้วย”
“เพราะเราไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดเหมาะสมเท่ากับเจ้าแล้ว...อชินีสุราลัย”
“...ช่วยไม่ได้”
“อีกอย่างเราก็ไม่อยากให้แม่รู้ตอนนี้ว่าวสันตะนุจรินทร์เป็นลูกของใคร”
“ที่ข้าช่วยเจ้าก็เพราะเห็นแก่ความเป็นสหายเก่าแต่ยังไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าจะทำไปเพื่ออะไร?”
“อชินีสุราลัย...เราอยากรู้เหลือเกินว่านางจะเลือกอะไรระหว่างของสำคัญกับบุตรสาวที่ยังไม่ได้ถือกำเนิด?”
“...ก็สมกับเป็นตัวเจ้าดีนะ...ไม่เหมือนวสันตะนุจรินทร์ที่มักจะมองอย่างผิวเผินและชอบเล่นมากเกินไป”
“เมื่อไหร่เจ้าจะสนิทกับวสันตะนุจรินทร์สักที?”
“คงไม่มีวันนั้นหรอกเพราะน้องของเจ้ามักจะก่อปัญหาให้ข้ารำคาญใจอยู่เนืองๆ...เอาล่ะ!!...เจ้าอยากให้ข้าช่วยเมื่อใดก็บอกล่ะกัน”
“ขอบคุณเจ้ามาก”
“แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนว่าจิตใจของมนุษย์นั้นยากจะคาดเดา...บางทีผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่เป็นดังที่เจ้าหวัง...หึ!...มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเพราะครั้งนี้ที่ยอมช่วยก็เพื่อจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าแท้จริงแล้วมนุษย์คืออะไรกันแน่?”
“....................................................”
.................................................................................................................................................
20 มกราคม 2549
“วันอาทิตย์นี้ไปดูหนังกันนะ”
“...ก็ได้อยู่หรอกแต่จะไปกันสองคนหรือไง?”
“ใช่สิ...เจ๊ไม่ชอบดูหนังในโรงเพราะมันเสียงดังหนวกหู”
“พวกเธอ...วันหยุดแทนที่จะพักผ่อนหรือทบทวนตำราเรียนแต่ยังจะออกไปเที่ยวอีก”
“พี่แคทก็...ทำตัวเป็นคนแก่...รู้จักออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกมั่งซี่~~”
“ถ้าผลการเรียนของน้องดีไม่สอบผ่านแบบคาบเส้นแทบทุกครั้งพี่ก็ไม่มีอะไรจะพูด...เอาเกรดเฉลี่ยอย่างนี้ไปสมัครงานแล้วใครเขาจะรับ?”
“จบออกไปฝนก็ไม่คิดจะสมัครงานที่ไหนอยู่แล้วเพราะฝนจะเป็นแม่บ้านให้บอล”
“นี่!!”
“เอาเป็นว่าถ้าพี่ไม่ไปดูหนังด้วยฝนก็จะไปกับบอลแค่สองคน”
“ไม่มีทางที่พี่จะยอมปล่อยให้ไปกันตามลำพัง”
...ความหมายคือพี่แคทจะไปรับไปส่งพวกเราและอาจรวมถึงดูหนังพร้อมกันด้วยเพื่อป้องกันการ “แว่บ” หนีออกกลางคัน...
“เซ็งเลย!...เจ๊รู้ทันซะได้”
“เธอยังจะชิ่งไปไหนอีกเล่า?”
“ก็...”
“อึ๋ย~~”
“ชู่ว!!”
“?”
(จะชวนไปต่อกันที่โรงแรมเรอะ?...อยากเข้า...เอ้ย!!!...มะ...มันคงไม่ค่อยดีมั้ง?)
“แต่อย่านึกว่าเค้าจะยอมแพ้ง่ายๆ...โอกาสไม่มีได้มีครั้งเดียว”
“...............................................”
“เด็กๆ...ป้าซื้ออาหารสดมาให้จ้ะ...ช่วยรับที”
“ค่า!!”
“...เมื่อกี้พวกเธอกระซิบกระซาบอะไรกัน?”
“ไม่มีอะไรมากครับ”
“หึ!...ไม่จริงหรอกแต่ฉันก็พอจะคิดออกนะ”
“ว้าว!?...ปลาหมึกตัวใหญ่จังเลย!!...จะนึ่งมะนาวหรือต้มยำหม้อไฟก็เข้าท่า...ป้าเอ็มอยากกินอะไรจ๊ะ?”
“แล้วแต่หนูฝนเลยจ้ะ”
“งั้นไม่มัวรอช้าละ...เจ๊มาช่วยหนูด้วย”
...ก่อนเข้าห้องครัวจังหวะพี่แคทเดินผ่านผมก็เหลือบมองแว่บหนึ่งโดยไม่พูดอะไร...งานนี้ไม่ใช่ง่ายเพราะอย่าว่าแต่ดูหนังเลย...ขนาดเวลาไปเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแท้ๆเธอยังตามคุมเราสองคนไม่ให้อยู่กันตามลำพัง...
(พี่แคทที่เดินตามหลังเรากับฝนจึงกลายเป็นภาพคุ้นตาของใครๆหลายคนไปแล้ว)
“ป้าเอ็มไม่ต้องช่วยก็ได้ค่ะ”
“เอาเถอะน่า--...หลายคนช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ”
“ฮี่!...ป้ากลัวเจ๊จะทำเสียเรื่องใช่มั้ยล่า?”
“ปะ...ปากน่ะ!!”
“ฮ่าๆๆๆ”
(มันก็มีส่วนจริงแหละ...หากเป็นเรื่องเข้าครัวพี่แคทน่ะเผลอละสายตาไม่ได้หรอก)
“นายท่าน”
“?”
“...นายหญิงฝากมาค่ะ”
(แผ่นกระดาษเล็กๆที่แน่นอนว่าพออ่านข้อความในนั้นแล้วก็ต้องขยำทิ้งทันที)
“..............................................”
“..............................................”
“ป้าเอ็มนัดให้ไปเจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรมวันอาทิตย์นี้ตอนสิบโมง?”
“แล้วศิจะช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่นและไม่มีใครสงสัยแน่นอนค่ะ”
(แต่วันอาทิตย์ตอนเก้าโมงเราก็มีนัดว่าจะไปดูหนังกับฝนด้วย!?...รถไฟจะชนกันซะแล้วเหรอเนี่ย?)
“คือวันอาทิตย์...”
“ไม่สะดวกหรือคะ?”
“...เลื่อนเป็นวันเสาร์ได้มั้ย?...ฉันจะเข้าตัวเมืองไปบ้านเพื่อนจากนั้นค่อยแวะ”
“ศิจะบอกนายหญิงนะคะ”
...ช่วงหัวค่ำป้าเอ็มตอบโอเคที่จะเลื่อนมาเป็นวันเสาร์ซึ่งผมก็รู้ดีว่าการนัดพบครั้งนี้มี “ความหมาย” ว่าอะไรและแล้ววันเสาร์ก็มาถึง...
“เค้าอยากตามไปด้วย~~”
“ยังไม่ถึงวันของเธอ”
“เจ๊อ่ะ!!”
“พี่อุตส่าห์ตามใจปล่อยให้ไปกันแค่สองคนแล้วนะ...อย่าเรื่องมาก!!!”
“กะ...ก็ได้”
(ไม่รู้เพราะอะไรจู่ๆพี่แคทก็เปลี่ยนใจไม่ตามเรากับฝนไปดูหนัง?...ไว้ใจหรือมีแผนการอะไรอยู่หรือเปล่า?)
“แล้วเธอจะกลับกี่โมง?”
“คงสักบ่ายๆครับ”
“แค่คุยกับเพื่อนเรื่องออกไปฝึกงานต่างจังหวัดต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลย?”
“แหม~~...มันไม่ใช่ง่ายๆที่จะคุยแป๊บเดียวจบนะครับ”
“แต่ยังเหลือเวลาอีกต่างนาน...ทำเป็นตื่นเต้นไปได้”
“ตกลงกันไว้แต่เนิ่นๆน่ะดีแล้ว”
...ทว่าเอาเข้าจริงก็คุยกันไม่นานหรอกเพราะแค่ไปถามว่าจะเลือกฝึกงานที่ไหนกันระหว่างขึ้นเหนือกับลงใต้แต่สุดท้ายยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเสียงยังแตกอยู่ฉะนั้นผมจึงอยู่บ้านเพื่อนแค่แป็บเดียวก่อนมุ่งหน้าไปที่โรงแรมในเวลาสิบโมงเช้า...
(ไปไหนหว่า?...ไม่เห็นเลย)
“ป้าเองจ้ะ”
“อยู่ไหนครับ?...ผมมาถึงหน้าห้องอาหารแล้ว”
“เข้ามาเลย...ที่โต๊ะในสุดทางขวามือ”
(เพราะนี่เป็นการ “แอบนัดพบ” จึงต้องให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด...เรายังอดใจเต้นระทึกตามไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน)
“ผมมาแล้ว...เฮ้ย!?”
“เอกคเชนทร์!!!...นี่แก...”
(คนที่นั่งหันหลังรอเราอยู่ไม่ใช่ป้าเอ็มแต่กลับกลายเป็นพี่เซค!!!!...นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?)
“พี่...พี่เซค”
“................................................”
(ถึงคราวพูดคำว่า “ฉิบหาย” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว!!!...โรงแรมนี้เป็นสถานที่นัดพบของผมกับป้าเอ็มแต่ในเมื่อพี่เซคปรากฏตัวอยู่ที่นี่ก็หมายความว่า...)
“แก...”
“................................................”
“ที่แท้ก็เป็น...”
(“กล้ามาก~~...แกบังอาจมาก!!!...ไม่นึกจริงๆว่าแกนี่เองที่เป็นชายชู้ของแม่ฉัน!?”
“อึ๊ก!!”
“ทำลงไปได้ยังไงนั่นคือป้าแท้ๆของแกเลยนะ!!!...แค่คลำไม่พบหางก็โดดเข้าใส่แล้วเรอะ?”
“พี่เซค...ฟังผมก่อน”
“ไปแก้ตัวกับยมบาลเอาเองเถอะและจงไป...ไปในสภาพตัวขาดเป็นชิ้นๆ...ไอ้สัตว์นรก!!!!)
“เฮ่ย!!”
“อะ...อื๋อ?”
“ฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า?”
“หะ...พี่พูด...พูดอะไร?”
“เอ่อ--...มีอะไรกันหรือครับ?”
“ปัทโธ่เอ๊ย!!”
(บริกรหนุ่มเข้ามาถามเพราะได้ยินเสียงดังขณะที่พี่เซคก็รีบฉุดแขนเราออกจากห้องอาหารทันที)
“จะพาผมไปไหน?”
“หุบปาก!!”
“...............................................”
“คุณแม่เล่นอะไรบ้าๆเนี่ย?...ไอ้หมอนี่เหรอผู้ชายที่จะแนะนำให้รู้จัก?...ขำไม่ออกนะเฟ้ย!!!”
“เอ๋!?”
...พี่เซคฮึดฮัดลากตัวผมมาถึงลานจอดรถด้านหลังก่อนจะหยิบมือถือกดเบอร์หาแม่ของเธอโดยระหว่างนั้นญาติสาวผู้พี่วัย 26 ก็จ้องตาขวางแถมชี้นิ้วใส่หน้าผมตลอด...
“รู้ถึงไหนอับอายขายขี้หน้าไปถึงนั่น!!!”
“!?”
“ไงจ๊ะลูก?”
“คุณแม่!!...ตลกแบบนี้ขำไม่ออกนะคะจะบอกให้...ผู้ชายที่จะแนะนำให้หนูรู้จักไหงถึงกลายเป็นไอ้บ้ากามนี่ไปได้?”
(โอ้โห!?...มันจะแรงเกินไปหน่อยแล้วไม่ไว้หน้ากันมั้งเลยนะ!!!...เอ๊ะ!?...เท่าที่ฟังๆดูรึว่าพี่เซคจะยังไม่รู้ความจริงระหว่างเรากับป้าเอ็ม?)
“ใจเย็นก่อนๆซี่~~”
“ไม่ใจเย็นอะไรทั้งนั้นค่ะ!!...คุณแม่บังคับให้มาหนูก็ยอมมาแล้วแต่เจ้าเอกคเชนทร์นี่น่ะเหรอผู้ชายที่เหมาะสมกับหนู?...มันเป็นแค่การล้อเล่นใช่มั้ยคะ?”
“แม่เอาจริง”
“ล้อเล่นใช่ไหมคะ?”
(อุ!!...สีตาดำของพี่เซคเริ่มจะเปลี่ยนไปแสดงว่าโมโหจริงๆนะเนี่ย?...เราว่าป้าเอ็มทำเกินไปหน่อยแล้ว)
“ก็บอกว่าแม่ไม่ล้อเล่น...แม่อยากให้พวกเธอสองคนได้ปรับความเข้าใจกันจึงคิดแผนนัดหมายครั้งนี้ขึ้น”
...แต่เข้าใจผิดไปเสียไกลเลยแฮะ...ที่แท้ป้าเอ็มก็ไม่ได้นัดหมายให้ผมมาพบกับเธอทว่าเป็นลูกสาวคนโตของเธอต่างหากและโชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้เผลอหลุดปากพูดอะไรไม่อย่างงั้นเน่าคาห้องอาหารหรูของโรงแรมระดับสี่ดาวนี่แน่!!!...
(ทว่าเมื่อกี้ก็ช๊อคจนจินตนาการอย่างน่ากลัวเชียว!!)
“งั้นความพยายามของคุณแม่ก็เปล่าประโยชน์เพราะหนูจะไม่ปรับความเข้าใจหรือนั่งลงคุยกับผู้ชายคนนี้แม้แต่คำเดียว...ไม่มีวัน!!...หนูจะกลับบ้านล่ะ”
“เอ้ยเดี๋ยวก่อน!!...แม่อุตส่าห์คิดแผนนี้ตั้งนาน...แผนนัดเดทที่บิดพลิ้วไม่ได้...”
“ไร้สาระที่สุดค่ะ!!!...ครั้งนี้หนูจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ผู้ชายน่ะมันหาดีไม่ได้สักคนเดียวโดยเฉพาะเจ้าหลานชายคนโปรดของคุณแม่...ต่อให้โลกนี้เหลือมันเพียงคนเดียวหนูก็ไม่เลือก!!!!”
(พอพี่เซคตัดสายความอดทนของเราก็มาถึงที่สุด...มันจะหยามกันมากเกินไป!!!)
“เห็นเขาเงียบหน่อยก็ด่าฉอดๆ...ปากจัดแบบนี้น่าเอาไปด่าแข่งกับแม่ค้าในตลาดนัก...ฮึ!!...ผมว่าพี่เซคชนะขาดลอยชัวร์”
“ไอ้บ้ากาม!!!”
“เออจะทำไมยัยผู้หญิงวิปริต?...นึกว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน?...ดีเลิศตายละให้ฟรียังไม่อยากมองเล้ย!!!!”
“แก...”
...พี่เซคที่เดินจากไปแล้วหันหน้ากลับมาอีกครั้งเมื่อโดนผมโต้กลับไปบ้าง...ทีนี้เธอมายืนจ้องหน้าผมๆก็จ้องกลับอย่างไม่กลัวเพราะอารมณ์ขึ้นเหมือนกันแต่นานเข้าก็เริ่มใจฝ่อเพราะตาของพี่เซคเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอันเป็นเครื่องหมายของสุริยะโลหิตแท้จริง...
“หึ!!...ตั้งแต่ไปเข้าพวกกะยัยอ๋อมก็ปากเก่งใจกล้าขึ้นเยอะเลย....คงเสี้ยมสอนกันมาอย่างดีสิท่า?”
“อย่า...ดูถูกกันให้มากนัก...ผมก็มีศักดิ์ศรีไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร”
“ตรงไหนฟะ?”
“อยากรู้ไหมล่ะ?”
“โฮ่~~...แกจะพิสูจน์ยังไงมิทราบ?”
“รับรองพี่เซคต้องคิดไม่ถึงแน่”
“พวกคุณมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“?”
“..............................................”
“ผมได้ยินเสียงทะเลาะกันก็เลยมาดู”
“...ไม่มีอะไรค่ะ...แค่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
“ประมาณนั้นแหละครับ”
“อย่าเพิ่งลำพองใจ...ถ้าฉันบอกยามว่าแกพยายามจะปล้ำฉัน...แกซวยแน่”
“คำพูดโกหกพกลมแบบนั้นน่ะอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ...เดี๋ยวคนอื่นก็รู้”
“.............................................”
“.............................................”
“ลืมซะให้หมดว่าวันนี้เรามาพบกัน”
“ที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้เพราะผมก็ไม่อยากจะจดจำอยู่แล้ว”
“ฮึๆ...แกเสียมารยาทกับฉันมาก...แล้วจะได้เห็นดีกัน”
...พี่เซคเดินไปขึ้นรถแต่ยังไม่ขับออกไปส่วนผมยืนคุยกับยามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแค่ความเข้าใจผิดกันเท่านั้น...
“แย่เลยนะครับ”
“ผมก็ว่างั้น...เฮ้ย!!!”
“!?”
“ยัยพี่บ้า!!!!...นี่ใจคอคิดจะขับรถชนกันเชียวเรอะ?”
“แกเสือกมายืนเต๊ะท่าขวางทางเองโว้ย!!!”
“หนอยแน่ะ!!”
(ที่บอกว่าแล้วจะได้เห็นดีกันคือไอ้นี่หรือเปล่า?...แสบสันต์เข้าไปถึงทรวงลูกพี่ลูกน้องเราคนนี้เมื่อกี้โดดหลบแทบไม่ทัน...สักวันจะต้องแก้แค้นให้สาสมเลยคอยดู!!!!)
“เธอชูนิ้วกลางให้น้องด้วย”
“ฮึ่ม!!!”
..........................................................................................................................................
“ป้าเกือบจะทำให้ผมหัวใจวายตายแล้ว!!!”
“...แย่กว่าที่คิดแฮะ”
“ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ...ถ้าเรื่องแดงขึ้นมานี่ผมเน่าสนิทเลย”
“จ้าๆๆ...ป้าจะชดใช้ให้เอง...พ่อบอลขึ้นมาที่ชั้น 12 ห้อง 1210”
“นี่...ป้าก็อยู่ที่โรงแรมนี้เหรอ?”
“รีบมาตรงลิฟท์เร็วๆเข้า...ศิจะรออยู่”
“.............................................”
(ค่อยยังชั่วที่ยังมีรางวัลปลอบขวัญ...นับว่าไม่เสียเที่ยวที่มา)
“รายละเอียดก็ถามนายหญิงเองนะคะ”
“เธอจะเข้าไปด้วยใช่มั้ย?”
“อุ๊ย!!...นายท่านอย่ารุ่มร่ามสิคะ~~...ศิไม่เข้าไปเป็นก้างของนายหญิงหรอก”
“ว้า!!”
...ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ผมจึงทำได้แค่กุมหน้าอกกับเอามือลูบบั้นท้ายของสาวน้อยคนสนิทป้าเอ็มเท่านั้น...ศิเอาไว้โอกาสหน้าก็ได้เพราะอย่างไรก็พอจะหาจังหวะได้ง่ายกว่า...เมื่อเข้าไปในห้องก็เห็นป้าเอ็มนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนอนตะแคงบนเตียงมือท้าวแก้มโปรยรอยยิ้มหวานจ๋อยต้อนรับซึ่งเล่นเอาผมตะลึงไปชั่วขณะ...
“ขอให้มีความสุขนะคะ”
“อะ...อืม”
“..........................................”
(ศิจะคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกเพื่อคอยมองดูว่ามีใครเดินเข้าออกผ่านไปมาบ้างและเหตุผลหลักๆก็คือหูตาของพี่เซคที่มีชุกชุมยิ่งกว่ายุงนั่นเอง)
“ผมว่าพี่เซคเหมาะจะเป็นแม่ค้ามากกว่าหมอ”
“ปกติเซคจะไม่ตัดสายของป้ากลางคัน...นี่แสดงว่าเธอคงโมโหมาก?”
“โมโหจนตาเปลี่ยนสีเลยละ”
“งั้น...คงไม่ได้เผลอจ้องนานหรอกใช่มั้ย?”
“ก็...ทำไมครับ?”
“เพราะถ้าพ่อบอลเผลอมองนานๆอาจจะโดนสะกดจิตเข้าน่ะสิ”
“หา!?”
“ถึงพลังจิตของเซคจะไม่รุนแรงเท่าม่อนแต่ก็นับว่าอันตราย...จริงๆแล้วเซคสามารถสะกดจิตคนอื่นได้เหมือนกันแต่น้อยคนจะรู้”
“เธอจะสะกดจิตผมหรือ?”
“เพื่อให้พูดความจริงไงล่ะ”
“?”
“หากเซคสะกดจิตพ่อบอลแล้วถามในทำนองว่าเคยมีอะไรเกินเลยกับป้าหรือเปล่า?...เมื่อนั้นก็อาจจบเห่เอาง่ายๆแน่”
“................................................”
“อ่ะ!!...สรุปว่าอย่าเสี่ยงไปสบตาของเซคตอนอยู่ในภาวะตะวันเลือดเป็นใช้ได้”
“แล้วป้านึกยังไงครับถึงให้ผมมาเจอคนอันตรายอย่างพี่เซค?”
“ก็อยากจะให้มาพูดคุยกันดีๆไงแต่ป้าคงคาดหวังมากไปหน่อย”
“หวังมากไป?”
“กลางปีนี้เซคก็จะ 27 แล้วแต่ยังไม่ยอมคบผู้ชาย...แนะนำผู้ชายให้ก็เอาแต่ผัดผ่อนบอกไว้คราวหน้ามั่งล่ะ...ยังไม่พร้อมมั่งล่ะ...ป้ารำคาญก็เลยจัดการซะ”
“แต่มันเสี่ยงมากเลยนะครับ...ถ้าพี่เซคเฉลียวใจล่ะก็...”
“ป้าจงใจให้เธอมาที่ๆอันตรายแต่ก็มีเหตุผลอื่นช่วยปิดบังอยู่แล้วน่า--”
“เอาข้ออ้างจะหาผู้ชายมาใช้งั้นเหรอ?”
“เกิดพ่อบอลกับเซคพูดคุยถูกคอก็อาจจะชวนกันมาเปิดห้องบนนี้ก็ได้นี่”
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ...พี่เซคน่ะเกลียดขี้หน้าผมที่สุด!!!”
“ที่จริงป้าก็...ไม่คิดว่ามันจะสำเร็จแต่แรกแล้วถึงได้มานอนรอตาหนูอยู่นี่ไงจ๊ะ”
...เป็นแผนที่เสี่ยงทว่าก็แยบยลไม่เบา...ป้าเอ็มมารอในห้องนี้ตั้งแต่ต้นและคอยกำกับบทบาทของพวกเรา...สมมติถ้าผมกับพี่เซคลงเอยกันได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมในความคิดของป้าเอ็มแต่หากไม่สำเร็จสาวใหญ่ก็ยังมีแผนสองรองรับ...ป้าเอ็มเรียกให้ผมเข้ามายืนที่ขอบเตียงแล้วพลิกนอนคว่ำยื่นมือปลดตะขอดึงกางเกงลงทั้งนอกในพลางลูบคลำไอ้หนูเป็นการอุ่นเครื่อง...
“ตาหนูจะกลับกี่โมง?”
“สักบ่ายๆครับ”
“ยังมีเวลาตั้งสองชั่วโมงกว่า”
“แต่เราอย่ามัวคุยถึงคนอื่นกันเลยนะครับ”
“ฮิๆ...ป้าหวังแบบนั้นอยู่แล้วจ้า!!”
...........................................................................................................................................
“................................................”
“................................................”
“อ๊าโธ่เว้ย!!!”
“ใจเย็นๆสิพี่ก็!!”
“เจ้าอ๋อม~~...มีใครร้อยมาลัยแล้วแหกปากร้องโวยวายอย่างเจ้ามั่งหรือเปล่า?”
“หนวกหูน่าตาแก่!!”
“ห๊ะ!?...เจ้าจะแกล้งข้าอีกแล้วใช่มั้ย?...หือๆๆ...นี่จะเอาอีกแล้วใช่มั้ย?”
“พูดงี้เดี๋ยวสวย!”
“ยาย!...ยายๆๆๆ...ยายจ๋ามานี่เร็ว!!...เจ้าอ๋อมจะแกล้งตาอีกแล้ว!!!”
“เอ้ย!?”
“เร็วๆเข้า...เจ้าอ๋อมมันจะอาละวาดใหญ่แล้ว!!”
“ซวยละ!!”
“ตะ...ตาแก่บ๊องเอ๊ย!!!”
“มีอะไรกันอีก?...เสียงโหวกเหวกดังไปถึงหน้าบ้านโน่น”
“ยาย!!...เมื่อกี้เจ้าอ๋อมทำตาดุใส่...อูย~~...น่ากลัวที่สุด!!!”
“หมั่นไส้ตาเฒ่านี่จริงจริ๊ง!!!...ถ้าไม่เพราะเห็นว่าเป็นตาล่ะก็จะถีบให้ตกจากเรือนเดี๋ยวนี้แหละ”
“หือ?...เจ้าป้อมก็พลอยเป็นไปด้วยนะยาย!!...ดูสิๆ...มันขู่ตาฟอดๆเลย”
“หยะ...หยุดใส่ไฟเดี๋ยวนี้น๊ะ!!!”
“ยังทำหน้าแค้นเคืองด้วยแน่ะ!!...แบบนี้ต้องลงโทษให้หนักเชียว”
“พอแล้วๆๆ...ขนมจีนผสมน้ำยาพอกันทั้งตาทั้งหลาน!!!...ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”
“เออะ!!”
“ฮี่~~”
“สมน้ำหน้าตาแก่!!!”
“แม่อ๋อม...ยายสั่งให้ร้อยมาลัยตั้งนานทำไมเพิ่งจะได้แค่นิดเดียวแล้วยังบิดๆเบี้ยวอีก?...หัดมีความตั้งใจซะมั่งสิ”
“ฉันก็ตั้งใจแล้วนะยายแต่มันทำไม่ได้จริงๆ”
“หยุดอ้างอะไรที่ไม่เข้าท่าซะที!!”
“ฮึ๊ย~~...ยายจะสอนให้ฉันนั่งพับเพียบร้อยพวงมาลัยสวยๆก็เหมือนกับฝึกให้เสือกินผักเป็นอาหารนั่นแหละ”
“ดูดู๊!!...ช่างเปรียบไปได้เจ้าหลานเวร”
“แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสั่งให้ไปไล่กระทืบพวกศิวะบัณฑิต...ฉันจะรีบตามไปจัดการให้อย่างรวดเร็วทันใจ...นะยาย!!”
“ตายๆๆๆ...ตายแล้วหลานสาวฉัน!!!...งานแม่บ้านแม่เรือนไม่สนใจนำพาคิดจะแต่เที่ยวไล่เตะไล่ตีชาวบ้านชาวช่อง...ฉันจะเป็นลม~~”
“หนูมียาลมยาหม่องค่า~~”
“ยายประชด!!”
“อ้าว!?”
“ไม่ต้องเลยนะ!!...ก่อนเที่ยงนี้แม่อ๋อมจะต้องตั้งใจร้อยพวงมาลัยให้เสร็จไม่งั้นก็อย่าได้กินข้าวกลางวัน...ร้อยให้สวยๆด้วย...แม่ป้อมก็เหมือนกัน...ใช้เข็มเย็บปักถักร้อยได้ดีก็นับว่าเข้าท่าแต่ปรับปรุงกิริยามารยาทหน่อย”
“ยาย~~...ฉันไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้จริงๆนะ”
“ไม่ต้องมาต่อรอง!...พูดอะไรออกมาก็ขอให้ทำตามที่พูดไม่งั้นจะเป็นที่น่าเชื่อถือของลูกบ้านได้อย่างไร?...ต่อให้ต้องอยู่ที่นี่เป็นปีก็ต้องอยู่!!”
“แต่...แต่สิ้นเดือนนี้พวกฉันจะไปอยู่กับบอล...”
“ไม่ยอมละทิ้งนิสัยกระโดกกระเดกวางก้ามใหญ่โตชอบข่มขู่คนอื่นแบบนี้ยังคิดจะไปที่ไหนอีกได้เรอะ?”
“อ้าวยาย!?...ก็ไหนสัญญาว่าเมื่อพวกหนูมาเรียนรู้กิริยามารยาทที่โยนกบูรพาจนครบหนึ่งเดือนก็จะปล่อยให้ออกไปหาพี่ชายได้ไงคะ?”
“แล้วปาเข้าไปเกือบครึ่งเดือนนี่มันมีอะไรดีขึ้นหรือยัง?...วันก่อนที่คนจากศิวะบัณฑิตมาอวยพรปีใหม่ก็ทีนึงแล้ว...อย่านึกว่ายายไม่รู้นะว่าทั้งสองคนทำอะไรไว้บ้าง?...ไม่รับของขวัญก็ยังพอทำเนาแต่นี่ดันแอบไปวางยาในอาหารจนท้องเสียกันหมด”
“การใช้เล่ห์กลเพื่อเอาชนะศัตรูเป็นสิ่งที่หนูถนัดและนี่คือความคิดของหนูคนเดียวไม่ใช่พี่อ๋อม”
“...แต่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยไม่ใช่หรือไง?”
“เพราะฉันเกลียดพวกมัน!!!...จุดประสงค์ที่มาอวยพรปีใหม่คราวนี้เป็นแค่ข้ออ้างแต่แท้จริงจะมาเจรจาขอบอลไปเป็นหลานเขยไม่ใช่รึไง?”
“จริงด้วย!!...เรื่องอะไรพี่ชายจะต้องไปแต่งงานกับผู้หญิงจากศิวะบัณฑิต...ป้อมไม่มีวันยอม!!!”
“เฮ่ย~~...ข้าก็บอกจนปากจะฉีกว่านี่มันแค่พูดคุยกันเฉยๆ...ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดอะไรสักหน่อย”
“แต่สุดท้ายก็จะตกลงใช่มั้ย?...หืม~~...ตกลงใช่มั้ย?”
“บ๊ะ!!...เจ้าพวกนี้ชักพูดไม่รู้เรื่อง”
“งั้นเกลียดยายด้วยสิเพราะยายน่ะก็เติบโตมาจากศิวะบัณฑิต...ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาตั้งแต่จำความได้”
“.......................................................”
“.......................................................”
“ยายจะไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนเป็นอย่างนี้อีก...ถ้าประพฤติตัวเป็นกุลสตรีที่เรียบร้อยไม่ได้ก็อย่าหวังจะก้าวเท้าออกจากโยนกจัตุรัส...ตั้งใจเรียนรู้คุณสมบัติที่ดีของกุลสตรีซะอย่าให้อายสามคุณหนูแห่งศิวะบัณฑิต”
“ให้ได้สักครึ่งของเจ้าม่อนก็ยังดี”
“ฉันเกลียดการถูกเปรียบเทียบที่สุดเลย...โธ่!!...อย่างยัยศรมุกดาน่ะจับนั่งนิ่งๆทั้งวันก็ทำได้เพราะแม่คุณชอบทำตัวตายซากราวกะผีดิบ”
“ยายอ่ะ!!”
“มาลัยน่ะร้อยให้เสร็จเร็วๆบ่ายจะได้เอาไปให้แม่หมอ...ตาเองก็อย่ามัวแหย่หลานให้มากนัก...เดี๋ยวพอโดนแกล้งก็จะมาร้องโอดครวญบอกตรงๆว่าฉันรำคาญ...แล้ววันๆไม่ทำอะไรก็ชอบมากวนประสาทหลานซะด้วยนะตาเฒ่าขี้เหงานี่”
“จ้าๆ”
“ฮึ่ม!!...กะอีแค่ของพรรค์นี้คนอย่างศรรัตน์จะทำไม่ได้เชียวหรือไงวะ?”
“พี่อ๋อมพยายามเข้า”
“หึๆๆ”
“ตาแก่หัวเราะอะไร?...อยากมีเรื่องเรอะ?”
“แน่ะๆๆ...ไม่ทันไรก็จะพาลใส่ข้าอีกละ!!”
“เริ่มต้นก็ตาแก่นั่นแหละที่มาแหย่ฉันก่อน”
“แต่ถ้าเจ้าไม่เอะอะข้าก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ...อืม--...จะว่าไปสอนให้เจ้าร้อยพวงมาลัยจนเป็นนี่สู้สอนให้ลิงพูดได้ยังจะง่ายซะกว่า”
“ใช่ไหม...ล่ะ?...อื๋อตาเฒ่า!?...หลอกด่าฉัน!!!”
“ข้าเปล่าๆ”
“อย่าค่ะพี่!!...เที่ยวนี้ถ้ายายรู้เข้าเราจะยิ่งซวย”
“ฮ่าๆๆๆ...คนอย่างนางพญาเสือต้องมานั่งเอี้ยมเฟี้ยมร้อยพวงมาลัย...น่าขำจริงๆวุ้ย!!”
“ทน...ทนไม่ไหวแล้ว~~...จะจับโยนลงหม้อแล้วก็ต้มกินทั้งกระดูกเลยตาแก่บ้า!!!”
“พี่อ๋อม...ไม่ค่ะไม่!!”
“ข้าไปก่อนล่ะเน้อเจ้าหลานเวร!!...ฮะๆๆๆๆ...แค่นี้ก็กินข้าวกลางวันอร่อยแล้วโว้ย!!!”
“ฮึ่ยเจ็บใจ~~...เจ็บใจนัก!!!...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หัวเราะเยาะฉัน”
“อดทนค่ะ...เราต้องอดทนจนกว่าจะถึงกำหนดหนึ่งเดือน”
“ถ้ายัยสองซกมกแอบจิตมาเห็นฉันในสภาพนี้พวกมันต้องขำกลิ้งจนท้องขัดท้องแข็งแต่เมื่อกี้ป้อมไม่ได้ฟังที่ยายพูดเหรอ?...ถึงครบหนึ่งเดือนเราก็อาจจะไม่ได้ออกจากที่นี่นะ”
“ถึงตอนนั้นหากยายไม่ปล่อยเราก็หนีสิคะ”
“หนี...”
“ฮึ!!...ไม่มีใครจะหยุดเราสองพี่น้องได้หรอก”
“...นั่นสินะ”
“หรือไม่งั้นก็ขอให้แม่ช่วยพูดกับยาย”
“อย่าดีกว่า...เรื่องของเราๆควรจะจัดการเอง”
“ไม่รู้ป่านนี้แม่กำลังทำอะไรอยู่นะคะ?”
“พี่เพิ่งคุยกับแม่เมื่อสักครู่นี้เอง”
“ว่ายังไงมั่งคะ?”
“คือเวลานี้แม่กำลัง...”
..............................................................................................................................
“โอ้...อู้ววววววว...เป็น...เป็นไงจ๊ะ...อุ...ยะ...ยังจำความรู้สึกนี้ได้มั้ย?”
“ครับ...หีป้า...ยังฟิตและก็...โอออออออ...เย็ดมันส์ควยเหมือนเดิม”
“อูยยยยยยยยยยยยย...เสียว...เสียวหีแทบขาดใจ...เย็ดมันส์ก็จงเย็ดให้หนักๆสิ...ซีดสสสสสสสสสสส...เอาควยแข็งๆนั่นแทงหีป้าให้รูบานไปเลยซี่!!...โอ๊ววววววววว”
“ร่านควยเหลือเกินป้าคนสวยของผม...อุ๊บ!!...ทะ...ทำไมรูหีถึงได้ฟิตอย่างนี้?”
“เร็วอีกสิ...เร็วกว่านี้อีก...อ๊าวววววววววววววว...มือตกหรือไงจ๊ะ?”
“ไม่ใช่ครับ...ผมยังไม่เอาจริงต่างหาก”
“งั้นก็ถึงเวลาแล้ว...อื้มมมมมมมมมมม...เย็ดให้สมกับที่ป้าเฝ้ารอ”
“เปลี่ยนท่าดีกว่าครับ”
“จะ...จะมีท่าไหนมันส์กว่าท่าหมาอีกล่ะ?”
“ท่า...ขย่มตอไง”
“วิเศษมาก!!...ป้าก็อยากขย่มควยตาหนูมาตั้งนานแล้ว”
“งั้นก็...”
“เดี๋ยว...อย่าใจร้อน...อืออออออออออ...ตะ...ตาหนูเย็ดท่านี้ไปก่อนเถอะ...อืมมมมมมมมมมม...ป้ายังไม่ค่อยถึงใจเลย”
...ผมกดตัวป้าเอ็มลงต่ำแล้วยกบั้นท้ายโด่งขึ้นก่อนจะชักควยที่อาบเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นจากในช่องคลอดของสาวใหญ่ออกมา...ป้าเอ็มเผลออุทานด้วยความเสียดายแต่ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นหวีดร้องลั่นห้องเพราะผมอาศัยช่วงทีเผลอแทงควยสวนเข้าหีเข้าไปทีเดียวอย่างไม่รั้งรอ...
“บะ...บ้าจัง!!...ตาหนูเนี่ยชอบแกล้งป้า”
“เพื่อความเสียวซ่านสะท้านควยหีไงจ๊ะ”
“หัวใจจะวายแล้วย่ะ!!...เอ้า!...เข้าหีมิดแล้วก็อย่าช้า...กะ...กระเด้าให้น้ำควยกระฉูดเต็มรูเลยเร็วๆเข้า!!!”
“แน่อยู่แล้ว”
“อ๊าวววววววววววว...อื๊อออออออออออออออออ”
“กรอดดดดดดดดด...สุด...สุดยอดจริงๆ”
“อ๊าาาาาาา”
“เด้งตูดหน่อยสิจ๊ะคนสวย”
“อืออออออออออออออ”
“เร็ว...เร็วอีกครับ...อูยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“อ๊อยยยยยยยยยยย...สะ...เสียวจังเลยตาหนูจ๋า~~...โอ๊ยยยยยยยยยยยย”
“ฮึ่มมมมม...หีฟิตอย่างกะของสาวๆ...ซีดสสสสสสสสสส”
“อื้มมมมมมมมมมม...ควยตาหนูก็ใหญ่ดีเหลือเกิน...อึ๊ยยยยยยยยยยยยย...แน่นคับรูจัง...โอ๊วววววววววว”
...ในห้องหรูชั้นสิบสองมีแต่เสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวกระสันของหนุ่มสาวต่างวัย...หากใครไม่รู้จักผมก็คงจะคิดว่าป้าเอ็มแอบมีผัวเด็กแต่พอเอาเข้าจริงแล้วหน้าตาผมกับพี่สาวของพ่อคนนี้ก็แทบจะดูคล้ายว่าอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน...
“อั๊ก!!...เบาๆหน่อยตาหนู...อุ...อู๊ยยยยยยยยยยยย...ควย...หัวควยมันทิ่มปากมดลูกเมื่อกี้...อ๊ายยยยยยยยยยย”
“แย่...แย่แล้ว!!!”
“เอ๋?”
“ผม...ผมกำลังจะแตก...จะแตกแล้วครับ!!!!”
“เดี๋ยวก่อนซี่~~...จะรีบออกไปไหนเล่า?”
“อื้อหืม!!...ก็หีป้าน่ะสิ...ทั้งฟิตทั้งตอดแรงเหลือหลาย...มันบีบควยผมหนึบๆๆๆไม่หยุดเลย”
“ฮิๆๆ”
“ป้าขำอะไร?”
“ก็ขำหลานชายสุดที่รักไง”
“เห?”
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าพ่อบอลโชคดีกว่าผู้ชายอีกหลายคนนัก?”
“ยังไง?”
“เพราะพวกเขาเหล่านั้น...อืมมมมมมมมมมม...ทำ...ทำได้แค่มองแล้วเก็บไปฝันกับชักว่าวเท่านั้นเอง”
“มอง...อะไรมั่งครับ?”
“หน้าอกเอย...ขาอ่อนเอย...บางทีก็แอบดูในหว่างขาหรืออกเสื้อ...อึ๊ก!!...เวลาป้าไปกินอาหารในห้างน่ะประจำเลย”
“โอ้!!!”
“คนที่เดินไปมาหรือแม้กระทั่งพนักงานร้านจะต้องแอบชำเลืองมองลงต่ำ...แอบมองกางเกงในป้าไง”
(เพราะหมู่นี้ป้าเอ็มชอบนุ่งกระโปรงสั้นๆด้วยนี่นา...หืม?...จะชวนคุยเพื่อให้ออกช้าหรือเร่งให้แตกไวขึ้นเนี่ย!?)
“จะ...จงใจจะโชว์?”
“...เปล่าสักหน่อยแต่บางทีก็มีแอบโชว์นิดหนึ่ง”
“ผม...ได้ยินแบบนี้แล้วชักหวงป้านะ”
“ฮิ!...งั้นก็ต้องหาเวลามาอยู่กับป้าบ่อยๆด้วยนะจ๊ะ...มะ!!...ตานี้ป้าขอบรรเลงฝีมือมั่ง”
...ป้าเอ็มลุกยืนแล้วหันหลังหย่อนก้นนั่งยองๆพลางเอื้อมมือจับท่อนควยตั้งโด่รูดสองสามทีก่อนจะจ่อหัวหยักเข้าใกล้ปากรูหีแล้วดันเข้าไปทีเดียวมิดดุ้น...ทั้งเธอและผมต่างร้องครางออกมาพร้อมกันทันใดและจากที่เห็นในกระจก...สาวใหญ่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ใช่น้อยเลย...
“เป็นอะไรครับ?”
“จุก...นิดหน่อย”
“ก็อยากลองของ...เล่นผลุบหายเข้ารูในทีเดียวนี่ครับ”
“ง้านเหรอ~~”
“โอ๊วววววววววววววว...อะ...อะไรนี่?”
“เป็น...เป็นไงล่ะ...เสียวควยมากใช่มั้ยจ๊ะ?”
“ครับ...ป้าเก่งจังเลย”
“อึ๊ยยยยยยยยยยยยย...ป้าชอบควยตาหนูที่สุด...อู๊ยยยยยยยยยยยย...แน่นเต็มรูแถมแข็งปั๋ง...ซีดสสสสสสสสสสส...จะ...แตกจริงๆเหรอนี่?”
“ครับ...ผมชักกลั้นไม่ไหว”
...พอป้าเอ็มรู้ว่าผมใกล้จะน้ำแตกก็รีบขย่มถี่ยิบจนเตียงไหวยวบๆเพราะหวังจะเสร็จไปพร้อมกันแต่ผมคิดว่าถ้าหล่อนกระแทกควยเร็วแบบนี้มีหวังได้ไปสวรรค์ก่อนแหงๆ...บอกให้ช้าๆกว่านี้หน่อยดีมั้ยนะ?...
“ปะ...ป้าครับ”
“อ๊อก!!...เด้งควยสู้สิ...ระ...เราจะออกพร้อมกัน”
“ผะ...ผมว่า...จะ...จะไม่ไหวแล้ววววววว”
“อ๊าาาาาาา~~...อย่า...อย่าเพิ่งซี่!!...รอป้าก่อน...อูยยยยยยยยย...เสียวหีจังเลยยยยยย...อื้อหือ~~...เต็มหีดีเหลือเกิน”
“ซีดสสสสสส...ไม่...ไม่ไหวจริงๆนะป้า...อ๊ากกกกกกกก”
(เขย่งเท้ายกตูดขย่มควยอย่างไม่มียั้งแรงเลยสักนิด!!!...ไม่รู้สาวใหญ่พราวเสน่ห์ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน?)
“แหม~~...ไม่ได้เย็ดกันเดี๋ยวเดียว...ความอึดตกลงไปนะเนี่ย?”
“ช้า...ขย่มช้าลงอีกนิด...โออออออออ...ได้...ได้โปรด!!”
“ได้...แต่ขอเน้นๆหนักๆนะจ๊ะ...อึ๊บๆๆๆๆ...อืออออออออออ...นั่น...ซีดสสสสส...ต้องแบบนั้น...อ๊อยยยยยยยยยย”
“โอ๊ววววววววววววววว”
“อ๊าวววววววววววววววววว”
“อึ๊ยยยยยยยยยยยยยย...เสียวควยฉิบ...กรอดดดดดดด”
“ซีดสสสสสสสสสสสส...เย็ด...เย็ดอร่อยอย่าบอกใครเชียวหลานฉันนี่...อืมมมมมมมมมมม”
“ไม่ไหว...อ๊ากกกกกกก...ผมไม่ไหวแล้วป้า”
“งั้น...ปล่อย...ออก...ออกมาเลย”
...เท่านั้นแหละทำนบที่ผมอดทนกลั้นแล้วกลั้นอีกก็พังทลายดุจท่อน้ำแตก!!!...ท่อนควยที่รู้หน้าที่ตัวเองทำงานทันทีโดยไม่ต้องสั่งโดยน้ำกามที่กักเก็บมาเป็นอาทิตย์ก็ถึงคราวที่จะได้ออกมาภายนอกแล้วผู้ที่ทำให้มันกระฉูดออกมาก็คือคุณป้าคนสวยของผมนั่นเอง...สาวใหญ่นั่งนิ่งตัวเกร็งกดแช่หนอกหีและออกอาการสะดุ้งเป็นระยะเพราะรู้สึกถึงคาวน้ำกามที่พุ่งเข้าสู่ช่องคลอดของหล่อนอย่างเต็มที่...
“ร้อนข้างในไปหมด”
“โอ...โอววววววววววว...โออออออออ”
“ทะ...ทำไมเที่ยวนี้ออกไวกว่าทุกที?”
“...ผม...คงจะตื่นเต้น”
“เหรอ?”
“ผมขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะตาหนู...ดีเหมือนกันที่หลั่งในหีป้าเต็มๆ”
“แต่ป้ายังไม่เสร็จ”
“เอาน่าๆ...เรื่องเล็กน้อยอย่าคิดมาก”
(แต่มันใหญ่เอาการสำหรับผู้ชายนะครับ!!!)
...................................................................................................................................................
“อือ”
“...............................................”
“ป้าเอ็ม”
“จ๋า~~”
...รู้สึกผมจะงีบหลับไปชั่วครู่ด้วยความอ่อนเพลียเพราะจำได้ว่าพอป้าเอ็มขย่มจนผมน้ำแตกคาร่องรูสติก็ค่อยๆรางเลือนโดยท้ายสุดเห็นสาวใหญ่ขยับลุกออกจากหว่างขาแล้วก้มลงดูดน้ำควยพลางใช้ลิ้นทำความสะอาดท่อนลำให้...ลีลายังเร่าร้อนไม่เปลี่ยนจริงๆคุณแม่ลูกสี่คนนี้เล่นเอาผมหายใจหายคอตามจังหวะแทบไม่ทัน...
(ใช่จริงๆ...คุณป้าคนสวยนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งกำลังเติมลิปสะติก)
“หลับต่ออีกสักหน่อยสิจ๊ะ”
“................................................”
“?”
“................................................”
“หน้าป้ามีอะไรเหรอ?”
“ไม่ว่ารูปร่างหรือใบหน้า...มองยังไงๆป้าก็โกงอายุชัดๆ”
“ฮะๆๆ...ตาหนูเนี่ยพูดอะไรก็ไม่รู้!”
“กี่ครั้งๆผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่หรือผู้หญิงวัยใกล้ห้าสิบ”
“ก็เคยบอกแล้วว่าเรื่องอายุเอามาคุยกับป้าไม่รู้เรื่องหรอกจ้ะ”
“คงไม่เกินเลยว่าเวลาป้าเอ็มหวนคืนสู่วัยสาวน่ะดูอ่อนเยาว์กว่าพี่เซคซะอีก”
“ป้าดีใจที่ได้ยินแบบนี้แต่เซคไม่ใช่...เธอจะเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันทีเลยนะจะบอกให้”
“งั้นผมจะหาโอกาสไปพูดใส่หน้าซะเลยดีมั้ย?”
“อย่านะป้าขอร้อง!!...แค่นี้ก็แทบจะแล่เนื้อเถือหนังกันแล้ว”
“ครับๆๆ”
“จะกลับแล้วรึ?”
“ถ้ากลับช้าเดี๋ยวจะถูกสงสัย”
“ตั้งแต่มีอะไรด้วยกันนี่หนูฝนแทบจะกลายเป็นเงาพ่อบอล...พรุ่งนี้ก็จะไปเดท”
“ดูเหมือนป้าจะไม่ค่อยพอใจ?”
“หากคิดในแง่ว่าป้ากับหลานต้องมาใช้ของร่วมกัน...อย่างนี้ตาหนูก็ยิ่งมีเวลาให้ป้าน้อยลง”
“................................................”
“เมื่อกี้ป้าก็ยังไม่เสร็จด้วย...ยกสองว่าจะให้ล่อตูดสักหน่อย”
“เอาไว้คราวหน้าก็ได้ครับ...รับรองผมจะทำให้ถึงใจป้าเชียว”
“ไม่ต้องมาให้ความหวังย่ะ...อุ๊ย!!”
...สาวใหญ่คนสวยแกล้งทำงอนโดยการมองค้อนและลุกหนีผมจึงรีบตามไปสวมกอดพลางพูดปลอบประโลม...พอท่อนควยได้เสียดสีกับบั้นท้ายอันนุ่มนิ่มอวบอัดนานๆเข้าก็ชักจะมีอาการตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง...ป้าเอ็มรู้สึกถึงความผิดปกติแต่ยังใจแข็ง(?)ออกปากไล่ผมทั้งที่เธอก็ยืนตัวสั่นด้วยความกำหนัดเหมือนกัน...
“จะ...กลับแล้วไม่ใช่เหรอ?...รีบไปเลย”
“ออกมาใจจริงหรือเปล่า?”
“เอ๋!?”
“อยากให้ผมไปจริงๆแน่หรือ?”
“บ้า~~...ก็รู้ๆอยู่แก่ใจ”
“งั้นผมขออีกยกนะจ๊ะ”
“ไม่ต้องขอหรอก”
“?”
“เพราะสำหรับตาหนูน่ะกี่ครั้งป้าก็ให้ได้”
“ป้าเอ็มที่สุดแสนจะน่ารักของผม”
...ผมจึงล้มเลิกความคิดจะกลับบ้านแต่ตรงเข้าอุ้มป้าเอ็มไปวางที่เตียงแทนซึ่งสาวใหญ่ก็ไม่วายบ่นอุบอิบว่าเพิ่งจะเติมลิปสะติกมาหยกๆทว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยสักนิดเดียว...
“จะเอาน้ำเงี่ยนให้ออกหมดจนไม่เหลือไปถึงสาวอื่นเลยคอยดู!!!”
“ป้าหมายถึง...”
“ไม่รุ!!...ยกนี้พ่อบอลได้มองฟ้าเหลืองอ๋อยแน่ๆ”
(ในที่สุดป้าเอ็มก็โดนเล่นเสียวทางประตูหลังสมใจอยากซึ่งมันทำให้เรากลับออกมาจากโรงแรมในสภาพที่เดินขาสั่นนิดๆแต่ปวดเอวเป็นบ้าเลยเพราะดันรับคำท้าสาวเจ้าด้วยการเล่นท่าอุ้มแตง...ยัง!!...ยังเหลือขี่รถกลับบ้านอีกนะเนี่ย~~)
“อดทนไว้ๆ...จะให้ใครสังเกตเห็นไม่ได้โดยเฉพาะยัยผีกับพี่แคทแต่ก็แก้ตัวที่ยกแรกชิงออกไปก่อนสำเร็จแล้ว...ฮะๆๆ...โอ๊ย!!!...หลังกู~~”
......................................................................................................................................................
...คืนนั้น...
“จะตามหาตัวคุณน่ะไม่ยากเลยเพราะร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัยต่างรู้จักคุณหมอกันแทบทั้งนั้น”
“แสดงว่าฉันก็เป็นคนดังในแถบนี้ไม่เบาแฮะ!!...นั่งๆ...ได้ข่าวว่าโดนวางยาในอาหารเรอะ?”
“โชคดีที่ดิฉันไม่ได้กินแต่คนติดตามนี่สิแย่เลย”
“ฉันต้องขอโทษแทนสองน้องสาวจอมวู่วามด้วย...ไม่มีเหตุผลกันซะบ้างเล้ย!!!”
“ว่าแต่คุณหมอชวนดิฉันนั่งร่วมโต๊ะนี่จะไม่เป็นไรหรือ?”
“ไม่--...ฉันไม่บ้าบอคอแตกเหมือนสองแม่เสืออารมณ์ร้ายหรอก...น้อง!!...เอาแก้วมาอีกใบ”
“พูดได้ดีค่ะ”
“....................................................”
“ก่อนหน้านี้ดิฉันไปพบคุณศรมุกดาแต่ไม่เจอ”
“อ๋อ!...เธอออกไปข้างนอกน่ะ”
“งั้นดิฉันฝากของขวัญปีใหม่ให้เธอด้วยนะคะ”
“จริงๆไม่ต้องลำบากก็ได้...ฮะ!!...จะว่าไปน้องเอ้ก็หอบของพะรุงพะรังขึ้นรถไปเหมือนกัน”
“คงไม่ได้กลับเร็วๆนี้หรอกค่ะเพราะคุณสุริยาวรรณเป็นที่ชื่นชอบของคนในบ้านเรา”
“นั่นสิ”
“เอ่อ--...แล้วเรื่องที่เราคุยกันเมื่อวันก่อน”
“โฮ่!...เริ่มต้นก็มาแบบตรงๆเลยเหรอ?”
“คือดิฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้นค่ะ”
“ก็ได้...งั้นก่อนอื่นฉันขอถามว่าศิวะบัณฑิตของคุณน่ะคิดรอบคอบดีแน่แล้วหรือ?...เจ้าเอกคเชนทร์มันไม่มีคุณสมบัติอะไรจะคู่ควรกับสามดุรณีเลยสักนิดเดียว...ฉันกล้าเอาเกียรติของตัวเองเป็นเดิมพันด้วยล่ะ!!!”
“นั่นคือความคิดของคุณแต่คุณเอกคเชนทร์จะคู่ควรหรือไม่นั้นเราตัดสินเองได้ค่ะ”
“...สรุปว่าฉันเสือกไปเองใช่มั้ยเนี่ย?”
“ไม่ค่ะ...ข้อมูลกับความคิดเห็นของคุณหมอมีประโยชน์ต่อเรามากแต่เราก็มีจุดยืนเป็นของตัวเอง...เสียดายที่วันนี้ไม่ได้พบคุณเอกคเชนรทร์เพราะไม่อยู่บ้าน”
“โฮ่~~”
“แต่คุณสุรีย์พรรณกับคุณหยาดฝนก็มีอัธยาศัยที่ดีค่ะ”
“แววตาเจ้าชู้ของไอ้หมอนั่น...คุณได้เห็นเมื่อไหร่ก็จะรู้ซึ้งและอาจเปลี่ยนใจ”
“ที่แล้วๆมาความเจ้าชู้มันเป็นเรื่องปกติของผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายหัวของศิวะบัณฑิต...หญิงสาวมากมายล้วนแต่หวังจะได้รับใช้ใกล้ชิดแม้สักเพียงครั้งเดียวก็ตามและหากคุณเอกคเชนทร์มาเป็นนายหัวของพวกเราแล้วต้องการใครก็ย่อมกระทำได้...ไม่เว้นแม้แต่ดิฉัน”
“ทั้งที่คุณคือแม่ของน้องศิรินภาลัย...หนึ่งในสามดรุณีน่ะหรือ?”
“จะเป็นอะไรไปล่ะคะในเมื่อปีนี้หนูปลาเพิ่งจะอายุสิบห้าเอง?...เธอยังไม่ประสีประสาเรื่องความรักหรือผู้ชายและถ้าดิฉันจะคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใดนี่คะ?”
“...อยู่ข้างๆเตียงใช่หรือเปล่า?”
“ก็แล้วแต่ความคิดของคุณหมอ”
“ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน...เฮ้อ~~...ความนึกคิดของศิวะบัณฑิตทำให้ฉันอึ้งมาก”
“ก็คงคล้ายๆกับในทางลับของวิษณุมนตรีที่ไม่ห้ามลูกพี่ลูกน้องรักกันเองได้น่ะค่ะและนี่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่คุณศรบุษราคัมกับคุณศรโกเมนไม่พอใจพวกเรา”
“พูดอีกก็ถูกอีก...ฮึ!!...แค่ไอ้บ้ากามนั่นกลับเข้าโยนกจัตุรัสก็นำพาปัญหาน่าปวดหัวเข้ามาด้วยมากมาย”
“...ได้คุยวันนี้ดิฉันก็เชื่อแล้วว่าคุณหมอไม่ชอบหน้าคุณเอกคเชนทร์มากจริงๆ”
“พูดว่าเกลียดเข้าไส้จะดีกว่านะคะ...คุณศิริรัศมี”
“งั้นก็ยกคุณเอกคเชนทร์ให้พวกเราสิคะ...มันเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยเพราะมีแต่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายอีกทั้งคุณพ่อของดิฉันก็อยากได้เขามาเป็นหลานเขยตั้งนานแล้ว”
“หึ!!...หากฉันมีอำนาจตัดสินใจมากกว่านี้ล่ะก็จะจับไอ้หมอนั่นแพ็คลงกล่องของขวัญแล้วผูกริบบิ้นส่งด่วนไปถึงตำบลศรีไตรตรึงษ์โดยไม่คิดเงินสักบาทเดียว...ฉันสัญญา”
“ฮะๆๆ...คุณหมอช่างพูดได้ถูกใจดิฉันเหลือเกิน...ในฐานะตัวแทนของศิวะบัณฑิตมื้อนี้ดิฉันขอเป็นฝ่ายเลี้ยงเองนะคะไม่ทราบว่าจะรังเกียจไหม?”
“โอ้!!...จะรังเกียจได้อย่างไรกัน?...ฉันไม่คิดมากขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ดิฉันขอยืนยันคำพูดเดิมต่อหน้าคุณหนูศรเพทาย...หากวิษณุมนตรีไม่ต้องการคุณเอกคเชนทร์เช่นนั้นศิวะบัณฑิตก็จะขอรับไปเอง”
“ถ้าฉันเป็นคุณตาก็จะขอตอบเช่นกันว่า...ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง...ชนแก้ว!!”
“ค่ะ”
“ทำให้พวกฉันยอมรับไม่ได้ก็จงไสหัวออกจากตระกูลไป...หนทางของแกยังมีหลงเหลืออยู่ไม่ถึงกับตีบตันซะทีเดียวนะ...เอกคเชนทร์”
“...............................................”
.....................................................................................................................................................
...ในขณเดียวกัน...
“............................................”
“............................................”
“ทำไมกัน?...ทำไมถึงไม่ฝันถึงลูกรีย์?”
“............................................”
“ฝนดอดไปนอนที่ห้องบอลอีกแล้วรึ?...ห่างกันหน่อยไม่ได้เลยนะ!!”
“............................................”
“ทั้งที่พยายามตั้งจิตอฐิษฐานก่อนนอนตั้งหลายคืนแล้วแต่ไม่เคยฝันอีกหรือว่าจะเป็นเพราะเมื่อสามวันก่อน...”
(“ดึกป่านนี้เรียกพี่มาทำไม?”
“คือผมมีเรื่องจะถาม”
“อะไร?”
“วันนี้พี่กับอาจารย์โรจน์ไปไหนกันมาหรือครับ?”
“...ไปเอาของที่ตึกแปรรูป”
“ของ?”
“เครื่องฉายโปรเจคเตอร์น่ะ...มีเพื่อนไปด้วยอีกสองคน...เธอสงสัยอะไร?”
“เอ่อก็...”
“ถ้างั้นพี่ไปนอนล่ะ”
“เดี๋ยวครับ”
“?”
“ที่พี่เคยบอกว่าจะไม่รักชอบใครนั่น?”
“แล้วไง?”
“รวม...รวมถึง...ผมด้วยหรือเปล่า?”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ”
“งะ...งั้นขอให้ผมได้พูดเถอะนะครับว่า...ผม...ผม...”
“หยุด!!!”
“!?”
“เธออย่าพูดคำๆนั้นให้ฉันได้ยินหากยังต้องการให้ฉันมีความรู้สึกดีๆกับเธออยู่!!!”
“ทะ...ทำไมล่ะครับ?”
“ถ้าเธอพูดออกมาฉันจะถือว่าเป็นการดูหมิ่นและโกหกหลอกลวงกันอย่างรุนแรงที่สุด!!!!”
“ผมน่ะเหรอจะกล้าดูหมิ่น?...”)
“ลูกรีย์ต้องเข้าใจนะว่าจะให้แม่เชื่อคำพูดของเขาได้ยังไงเพราะอดีตเขาก็เคยบอกรักผู้หญิงมาแล้วแต่ปัจจุบันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?...ฉะนั้นแม่จึงห้ามไม่ให้เขาพูดคำๆนั้นที่เปรียบประดุจยาพิษนั่นออกมา....คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่ได้นั้่น...”
“..................................................”
“รึจะโกรธเรื่องนี้จริงๆถึงไม่ยอมมาหา...ฉัน...ฉันจะทำยังไงดี?”
.........................................................................................................................................
...ตัวอย่างในตอนหน้า...
“เค้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ๊จะยอมปล่อยให้พวกเราไปดูหนังกันตามลำพัง”
“พบคนท่าทางน่าสงสัยเดินลับๆล่อๆอยู่ใกล้ทางเข้าโรงหนังครับ!!”
“ฉันไม่ใช่โจรขโมยสักหน่อย!!!...มาตามจับฉันทำไม?”
“พนักงานและเจ้าหน้าที่รปภ.โดนทำร้ายไปหลายคนเลยล่ะ...ตอนนี้ตำรวจกำลังมาที่นี่เพื่อตามจับคนร้ายแล้ว”
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนร้ายจะเป็นผู้หญิงแถมหน้าตาดีซะด้วย...นั่นไงเธออยู่ตรงนั้น!!!!”
“ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าบุตรสาวคนโตของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่กลับโดนจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกาย!?”
“ทำไมเรื่องบ้าๆบอๆนี่จะต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วย?...หือ!?...เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะฉันได้ยินไม่ชัด?”
“มีผู้หญิงสองคนที่จะทำร้ายคุณพ่อจนถึงแก่ชีวิต...คุณแม่สัญญากับหนูนะคะว่าจะต้องปกป้องคุณพ่อไว้ให้ได้”
“อย่าเพิ่งทำหน้าเซ็ง...ฉันแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันได้หรอกน่าแต่ขอหัวเราะสักนิดก่อนนะ”
.........................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น