วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ด้วยรักและผูกพันธ์ ตอนแม่ครับ เดือนเพื่อนผม ep.15

 
 
 

"เดือน..." ผมรีบร้องทักเพื่อนทันทีที่เงยหน้ามองเด็กสาวที่กำลังยืนขายพวงมาลัย เมื่อดุจเดือนได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อ ก็หันหน้ามามองทางผมเช่นกัน แล้วทักตอบด้วยการเรียกชื่อผม ด้วยความแปลกใจ ที่บังเอิญมาพบกันอีกครั้ง

"เดือน..นี่แม่นงค์ของเรา.." ผมรีบแนะนำดุจเดือนให้รู้จักแม่นงค์ เธอก็กระพุ้มมือยกไหว้ทันที ด้วยท่าทีอายๆ

"ดุจเดือนเพื่อนที่ราม..เล่าให้แม่ฟังไงครับ....." แม่ยิ้มรับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แล้วเอื้อมมือฉุดแขนดุจเดือนเข้ามามองใกล้ๆอย่างพิจารณา รุปร่างเล็กๆบางๆของเธอ

"ขยันจริงลูก..พวงมาลัยพวกนี้ หนูรับมาขายหรือร้อยเองจ๊ะ.." แม่นงค์ถามดุจเดือนเสียงอ่อนหวาน แล้วหยิบพวงมาลัยในตะกร้าขึ้นมาพิจารณาดูอีกครั้ง พร้อมกับฉุดแขนดุจเดือนจนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ข้างๆตัวแม่นงค์

"เดือนร้อยเองค่ะคุณน้า...แต่แม่เป็นคนไปซื้อดอกไม้มาให้..." เสียงดุจเดือนสั่นๆ คงประหม่าที่โดนแม่นงค์ซักถาม ส่วนผมก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ

"หนูเดือนมีฝีมือนะจ๊ะ..งานร้อยดอกไม้ละเอียดสวยงามเชียว..ว่าแต่หนูขายพวงละเท่าไหร่จ๊ะนี่..." คราวนี้ผมเห็นรอยยิ้มบนใบหน้า
ดุจเดือนแว๊บๆ เมื่อแม่นงค์สอบถามเรื่องราคา เธอคงคาดการณ์ว่าแม่นงค์ของผมคงต้องอุดหนุนซื้อแน่นอน

"ปรกติเดือนจะขายพวงละ20บาทค่ะ..แต่ถ้าคุณน้าจะซื้อ..เดือนลดให้เหลือ15บาท่ค่ะ..." ดุจเดือนตอบย้มๆเสียงเบาๆ แต่แววตาสุกใส มีความหวังว่าแม่นงค์คงซื้อพวงมาลัยสดของเธออย่างแน่นอน

"ทำไมหนูต้องลดราคาให้น้าจ๊ะ..." แม่สอบถาม พร้อมกับลงมือหยิบพวงมาลัยในตะกร้าหวายเล็กๆออกมากองนับดูบนโต๊ะทีละพวงๆ

"ก็คุณน้าเป็นคุณแม่ของรามนี่คะ.."เสียงใสๆตอบซื่อๆ จนแม่นงค์อมยิ้ม

"ถ้างั้นน้าเหมาหมดเลย 18พวงใช่มั๊ยจ๊ะ..." แม่นงค์พูดจบ ดุจเดือนก็อมยิ้มด้วยความดีใจ อย่างน้อยวันนี้เธอก็สามารถขายพวงมาลัยได้หมดในเวลาที่รวดเร็วกว่าทุกวัน แม้กำไรที่ได้ จะลดลงก็ตาม

"เอี..18พวงนี่เป็นเงินเท่าไหร่จ๊ะ.."แม่นงค์ถามพร้อมหยิบกระเป๋าใส่เงินใบเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าถือใบใหญ่ของแม่ ดุจเดือนคงรีบคำนวณตัวเลขในใจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะบอกออกไปว่า

"270 บาทค่ะ..."

"ตายจริง..น้ามีเงินเพียงแค่200บาทเอง หนูลดให้น้าอีกได้มั๊ยจ๊ะ..." แม่นงค์ร้องถามยิ้มๆ แต่ดุจเดือนกลับทำท่าเลิกลั่ก หันมามองทางผม คิดว่าถ้าขายออกก็คงขาดทุน ครั้นจะไม่ขายก็เกรงใจว่าแม่นงค์เป็นแม่ของเพื่อน จึงส่งสายตามองมาที่ผมเหมือนขอร้อง

"เอาเงินที่รามก่อนก็ได้ครับแม่..." แม้ผมจะสงสัยว่าแม่นงค์คงไม่มีเงินพกติดตัวมาแค่นี้แน่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าแม่นงค์จะล้อหลอกดุจเดือนเพื่อนผมไปทำไม

"งั้นเสี่ยรามเอาเงินมาจ่ายแทนแม่ด้วยละกันนะ..." แม่นงค์ล้อผมยิ้มๆ ผมก็รีบล้วงไปควักกระเป๋าเงินออกมา มีเงินติดอยู่ในกระเป๋าเพียง300บาท เพราะไม่คิดว่ามาเที่ยวกับแม่นงค์ผมจะต้องจ่ายอะไรเลยเอาเงินมาเพียงเท่านี้ จึงยื่นส่งเงินทั้งหมดให้แม่นงค์

"เอาจ๊ะ..หนูเดือน..ค่าดอกไม้ ไม่ต้องทอนตังค์หรอกจ๊ะ..วันนี้เสียรามเขาใจดี..."แม่นงค์ยังล้อผมกลั้วเสียงขำๆ จนผมเริ่มอาย ดุจเดือนก็ยื่นมือมารับเงิน พร้อมกอบพวงมาลัยทั้งหมดใส่ถุงยื่นให้แม่

"เอ้านี่จ๊ะ..น้าให้หนูเดือนเป็นรางวัลของคนขยัน.." แม่นงค์ยื่นเงินสองร้อยของตนเองให้ดุจเดือน แต่เธอไม่รับ ทำท่าอึกอัก หันมามองหน้าผมที หน้าแม่นงค์ที สลับกันไปมา ผมเลยแก้สถานการณ์ด้วยการคว้าเงินจากมือแม่นงค์แล้วยัดลงไปในตะกร้าหวายที่ว่างเปล่า แล้วกระซิบบอกดุจเดือนเบาๆว่า ให้รับเงินไว้จะได้ไปจ่ายค่าห้อง ดุจเดือนก็ยิ้มตอบแล้วกระซอบบอกขอบคุณ แล้วยกมือไหว้แม่ผมก่อนจะกล่าวลา

"เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ..ดอกไม้ก็ขายหมดแล้ว..หนูจะไม่อยู่ทานไอศครีม เป็นเพื่อนเสี่ยรามลูกของน้าก่อนหรือจ๊ะ" แม่พูดยิ้มๆ แล้วใช้มือกดไหล่จนดุจเดือนต้องทรุดตัวลงนั่งตามเดิม ก่อนจะร้องบอกพนักงงานเสริฟให้เอาเมนูไอศครีมมาให้ดุจเดือนเลือกสั่งตามใจชอบ

"อย่าเลยราม เดือนเกรงใจ.." แต่ดุจเดือนก็ยังลังเล ไม่กล้าสั่งไอศครีม ด้วยความเกรงใจแม่นงค์

"สั่งเลยเดือน..แม่นงค์ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก..เพราะแม่เค้าไม่มี ฮ่าๆๆๆ" ผมเล่นมุกตลก หวังให้ดุจเดือนขัน แต่กลับเป็นแม่นงค์ที่หัวเราะขันๆออกมาแทน

"นี่แน่ะแซวแม่..." แม่นงค์พูดยิ้มๆ แล้วยื่นนิ้วมาเหน็บปากผมเบาๆ เราสองคนแม่ลูกหยอกล้อกันแบบนี้ ทำให้ดุจเดือน ผ่อนคลายจนหายเกร็ง แล้วที่สุดเธอก็กวาดสายตาไปตามเมนู แต่ไม่ได้มองรุปภาพสวยของไอศครีมรสต่างๆที่เขาถ่ายโชว์ ผมสังเกตุเห็นว่าดุจเดือนเลื่อนสายตาไปมองราคาของสินค้า แล้วจิ้มนิ้วลงไปที่ราคาต่ำที่สุด

"อันนี้ก็ได้ค่ะ..." ผมเดาได้ว่าดุจเดือนคงไม่เคยทานไอศครีมแบบนี้แน่ ก็ไม่อยากขัด เมื่อเธอเลือกแล้ว พนักงานเสริฟก็ถือเมนูเดินจากไป แล้วสักครู่ก็เอาไอศครีมที่ดุจเดือนสั่งมาให้ แม้ผมจะไม่เคยทาน แต่ดูหน้าตาไอศครีมในถ้วยแล้ว ผมว่ามันไม่อร่อยอย่างแน่นอน แต่ดุจเดือนกลับกินมันเข้าไปเสมือนว่ามันเอร็ดอร่อยนักหนา แพล็บเดียวก็หมดถ้วย แล้วยกมือไหว้ลาแม่นงค์กลับออกไปเงียบๆ ทางประตูเดียวกับที่ผมกับแม่นงค์เดินเข้ามา

"เพื่อนลูกรามน่าสงสารนะคะ...." พอดุจเดือนจากไปแล้ว แม่นงค์ก็พูดถึงเธอกับผมด้วยสีหน้าขรึมๆเรียบๆ

"ใช่ครับ..ดูสิแม่ เดือนคงไม่เคยทานไอติมแบบนี้ ทานเสียเกลี้ยงถ้วยเลย...แต่เดือนก็ขยันดีนะครับแม่นงค์..."

"ใช่จ๊ะ..เด็กแบบนี้น่ารัก..แม้จะขัดสนเงินทอง แต่ก็คงถูกพ่อแม่อบรมมาดี มีสัมมาคารวะ...เพื่อนแบบนี้รามต้องคบไว้นานๆนะจ๊ะ..." แม่นงค์พูดเรียบๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนเก่า จนผมไม่กล้าเดาว่าแม่คิดอะไรอยู่ หรืออาจจะเป็นพี่ลักษณ์ ลูกสาวอีกคนหนึ่งของแม่ก็ได้

"ครับแม่..." ผมตอบรับคำแม่นงค์สั้นๆ แต่ใจกลับหวนคิดไปถึงหน้าใสๆ ที่มักมีรอยยิ้มติดแก้มอย่างสม่ำเสมอของดุจเดือน

"ไปเดินเที่ยวกันเถอะจ๊ะ...ทานอิ่มแล้วไม่ใช่หรอ..." แม่นงค์เงียบไปสักครู่ ก็ชวนผมออกไปเดินเที่ยวภายในสวนลุมพินี

เราสองคนแม่ลูกต่างสนุกสนาน และปลอดโปร่ง เมื่อได้เดินเที่ยวตามสวนสาธารณะ ที่อากาศบริสุทธิ์ และร่มรื่น จนกระทั่งเกือบเย็น แม่นงค์จึงพาผมไปทานข้าวในห้างแถวๆนั้น แล้วพากันกลับบ้าน ตลอดเวลาที่ผมนั่งรถกลับบ้านโดยที่แม่นงค์เป็นคนขับนั้น ผมก็เอนหัวลงไปนอนหนุนตักนุ่มๆของแม่นงค์มาตลอดทาง จนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียตอนไหนไม่รู้เรื่องเลย จนกระทั่งรถมาจอดภายในรั้วบ้านแล้วนั่นแหละ แม่นงค์จึงปลุกเรียกผม

"รามจ๋า..ตืนได้แล้วลูก.." แม่นงค์เรียกชื่อผม พร้อมเขย่าแขนเบาๆ ผมรู้สึกตัวตื่นแล้ว แต่ยังแกล้งนอนหลับตานิ่งๆเฉยๆ จนแม่นงค์เขย่าตัวอีกครั้ง ผมก้ยังแสร้งทำเฉยเหมือนเดิม

"ตายละ..หลับสนิทขนาดนี้เชียวหรือ..สงสัยคงเพลียหนัก..." เสียงแม่นงค์พูดคนเดียวเบาๆ แล้วเขย่าตัวเรียกผมอีกครั้ง ผมก็ยังคงแกล้งหลับเหมือนเดิม

"ราม..ตื่นเถอะลูก...แม่อุ้มรามไม่ไหวนะคะ..ตัวโตจะเท่าแม่อยู่แล้ว" แม่นงค์ยังคงพูดคนเดียวเบาๆ เมื่อเห็นว่าปลุกเท่าใด ผมก็ยังนอนนิ่ง พยายามหายใจให้สม่ำเสมอ จนแม่นงค์อึ้งไปสักพัก คงกำลังหาวิธีที่จะทำให้ผมตื่น

"ราม..ถึงบ้านแล้ว..ตื่นเถอะลูก..ไม่อุ้มหนูไม่ไหวนะ..." แม่นงค์เขย่าเรียกผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ออกแรงเขย่าจนตัวผมโยกไปมา แต่ผมก็ยังคงแกล้งหลับ ระบายลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ แม้ว่าแม่นงค์จะร้องขู่

"ถ้ายังไม่ตื่น..แม่ทิ้งให้นอนในรถคนเดียวแล้วนะ" แม่นงค์ขู่ก็แล้ว ผมก็ยังแสร้งนอนหลับตานิ่งๆ จนได้ยินเสียงแม่นงค์เปิดประตูรถ และปิดเข้ามาดังปัง ผมก็ยังทำเฉย จนหายใจเข้าออกได้สักสามรอบ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรถฝั่งที่ผมนั่ง แล้วแม่นงค์ก็เอื้อมมือมาสอดรอบหลังผม ออกแรงยกผมขึ้น

"อูยยยยหนัก ๆ ไม่ไหว..." เสียงแม่นงค์ร้องบอก แล้ววางผมลงตามเดิม พร้อมบ่นเบาๆ

"เด็กน้อ..เด็ก..คงเพลียจัดจนหลับไม่รู้เรื่องละสิ..ก็แหมมมตัวแค่นี้ หลั่งออกมาได้ติดๆตั้งสองสามครั้ง..น่าตีนักเชียว..." แม่นงค์ไม่ได้ตีผมหรอกครับ แต่แม่นงค์กลับลูบมือมาตามหน้าตามตัวของผม แล้วก้มตัวลงมา จนนมอวบหยุ่นสองเต้าแนบกับหน้าอกผม แล้วยื่นจมูกมาหอมแก้มผมดังฟอด พร้อมหัวเราะคิกๆ เหมือนนึกอะไรได้

สักครู่มือของแม่นงค์ก็ลูบมาตามแขนผมก่อนจะวกมาที่เป้ากางเกง ผมตกใจจนแทบจะลืมตาบอกว่าผมตื่นแล้วครับ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อมือแม่นงค์สัมผัสกับท่อนลำของผมที่มันตั้งแข็งขึ้นมาน่วมๆ

"อ่ะ.." เสียงแม่นงค์ร้องเบาๆ เมื่อผ่ามือสัมผัสลงมาที่ท่อนลำเล็กๆของผม จนแม่รู้สึกว่ามันเริ่มพองตัวขึ้นมาน่วมๆ ก็กำบีบเบาๆ จนมันแข็งขึ้นมาเต็มที่

"เห้ออ..หลับซะแล้ว..แม่กะว่าจะชวนลูกรามมานอนที่ห้องแม่คืนนี้สักหน่อย..." ผมไม่รู้ว่าแม่นงค์พูดจริงๆ หรือแกล้งหลอกล่อให้ผมตื่นกันแน่ จึงยังคงแสร้งนอนนิ่งๆเฉยๆ กะว่าอีกสักพักจะแกล้งทำเป็นตกใจตื่นพอดี แต่คงไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อแม่นงค์ยื่นมือมาปลดขอกางเกงผมออก แล้วรูดซิปลงดังคว๊าก ก่อนจะล้วงมือเข้ามาในกางเกง แล้วจับท่อนลำแข็งๆแกร่งของผมกุมกำเอาไว้ แล้วบีบนวดเบาๆ
จนมันกระดกสู้มือแม่นงค์งึกๆ

"ราม..ตื่นเถอะลูก....เดี๋ยวคืนนี้แม่ให้นอนที่ห้องด้วย..." แม่นงค์ก้มหน้าลงมากระซิบเสียงหวานๆที่หูผม เมื่อผมยังนิ่งเฉยๆแม่ก็จูบพร้อมชอนไชลิ้นเข้ามาในรูหู ส่วนมือก็ยังจับท่อนลๆเล็กๆแข็งๆของผมกระทอกรูดเล่นเบาๆ

คราวนี้ผมทนแกล้งหลับอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะมันจั๊กกะจี๋รูหูเหลือเกิน แต่เพื่อให้เนียนผมแสร้งทำเป็นสะดุ้งตกใจตื่น แล้วสอดมือโอบรัดหัวแม่นงค์แน่น แม่นงค์ก็ผงะ เตรียมอ้าปากต่อว่าผม แต่โดนผมกอดรัดหัวแล้วดึงลงมา จนปากที่เตรียมอ้าออกของแม่นงค์ประกบติดปากของผม

ผมกดปากจูบริมฝีปากแม่นงค์ลงไปเน้นๆ แต่ครั้งแรกยังใช้ลิ้นไม่เป็น แม่นงค์นั่นแหละที่สอดปลายลิ้นเข้ามาในปากของผมก่อน ลิ้นนิ่มๆพริ้วไหวในโพรงปากของผม กวาดแตะเลีบไปตามกระพุ้งปากและไรฟัน จนมาพัวพันกับลิ้นของผม ความรู้สึกเหมือนมันโดนไฟช็อต จนชาไปทั้งร่าง แล้วลิ้นผมก็ทำงานไปได้เอง ทั้งพัวพันสอดเกี่ยว เลี้ยวลดเข้าไปในปากแม่นงค์ ทั้งดูดทั้งดุน จนแม่นงค์หายใจดังเฮือกๆ
มือที่กุมกำรูดเล่นท่อนลำแข็งๆของผม ก็เร่งรูดเล่นคลึงหนักแรงขึ้น

"ตัวแค่นี้ เล่ห์เหลี่ยมร้ายนักนะลูกคนนี้..." แม่นงค์คายปากออกมาจากการโดนจูบ แล้วบ่นเบาๆเสียงหวานๆ

"ก็แม่นงค์น่ารักนี่ครับ ทั้งใจดี ทั้งน่ารัก.." ผมไม่รู้ว่าที่ผมพูดมันเกี่ยวกันมั๊ย กับการวางแผนแกล้งแม่นงค์ แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ดูเหมือนแม่นงค์จะยิ้มพอใจ ที่ถูกผมชมว่าทั้งใจดีและน่ารัก

"ปล่อยแม่ก่อนลูกจ๋า..ดะ..เดี๋ยวคืนนี้แม่ให้นอนด้วยที่ห้อง.." แม่นงค์บอกยิ้มๆ ผมก็รีบปล่อยมือที่กอรัดคอแม่ออก แล้วผุดลุกขึ้น ยัดท่อนลำแข็งๆลงไปในกางเกง ไม่ทันได้รูดซิป แค่ติดตะขอ ผมก็กระโดดลงมาจากรถ แล้วจูงแม่นงค์ลากเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น