วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567

คืนบ้านไหว

 
 

บรรยากาศในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าว มันก็เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว บ้านของเราเป็นอย่างบ้านนอกในต่างจังหวัด คือ ลักษณะจะเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง เพราะใต้ถุนบ้านมักจะเอาไว้ใช้สอยประโยชน์ต่าง ๆ เช่นเก็บเครื่องไม้เครื่องมือในงานเกษตรหรือเอาไว้เป็นคอกเลี้ยงสัตว์ ส่วนชั้นบน จะแบ่งเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นชานบ้าน ที่เอาไว้ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวโดยจะกินพื้นที่มากกว่าครึ่งของตัวบ้าน ในส่วนนี้จะไม่มีฝาบ้านล้อมรอบ จะเปิดโล่งเพื่อรับลม อีกส่วนจะเป็นพื้นที่เอาไว้หลับนอน โดยลักษณะของบ้านดังกล่าวหลายบ้านมักจะใช้ตู้เก็บเสื้อผ้าหรือเครื่องนอนมากั้นเอาไว้เพื่อให้ลับตาในระดับหนึ่ง ซึ่งบ้านของเราก็เป็นอย่างนั้น พื้นไม้ที่ปูเอาไว้อย่างหยาบ ๆ ก็จะไม่ค่อยสนิท ทำให้เวลาที่มีลมพัด ความเย็นเยือกจะลอดช่องว่างระหว่างแผ่นไม้เข้ามาปะทะร่างกาย หากช่วงไหนที่มีลมก็จะมีเสียงไม้ที่ต่อกันไม่สนิทเสียดสีกันดังเอียดอาดด้วย
ผมกับแม่อยู่กันเพียงสองคนเพราะพ่อต้องไปทำงานที่เมืองหลวง จึงทำให้เรากั้นห้องเป็นเพียงสองห้องอย่างง่าย ๆ บ้านแต่ละหลังในหมู่บ้านก็จะอยู่ห่างกันพอสมควร
ในฤดูหนาวหนึ่งที่ลมพัดกระพือแรงมากจนทำให้บ้านทั้งหลังโยนตัวไปมาจนผมกลัวว่ามันจะพัง ความหนาวเย็นกระตุ้นประสาทการรับรู้ตลอดเวลาจนทำให้นอนไม่หลับ แล้วอยู่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงสังกะสีหลังคาบ้านกระพือและสั่นสะเทือน ผมรู้สึกกังวลจึงได้ห่มผ้าและม้วนเข้าอย่างแน่น แต่เมื่อนอนไม่หลับ ทั้งยังตาสว่างจึงทำให้การรับรู้ชัดเจนขึ้น นั่นทำให้รู้ได้ว่า ไอ้เสียงสังกะสีกระพือนั่นไม่ใช่เพราะลม เพราะผมไม่ได้ยินเสียงใบไม้กระทบกันที่นอกบ้านแบบปกติที่มันจะต้องมี ผมเบิกตาโพลงในความสลัวขึ้นแล้วตั้งใจฟัง จนกระทั่งรู้สึกว่าบ้านสะเทือนเป็นจังหวะต่อเนื่อง โดยบางจังหวะก็แรงขึ้นทุกที แม้ในขณะนั้นผมจะอายุเพียงสิบห้าปีแต่ก็จะพอเดาได้จากเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน มันมีเสียงอย่างคนตบมือดังบ้างเบาบ้าง ทั้งยังมีเสียงหายใจหอบกระเส่าและหายใจหนัก ๆ ปนกันอยู่ ผมมองไปรอบ ๆ ห้องนอนเพื่อจะหาที่มาของเสียงจนได้รู้ว่าต้นกำเนิดเสียงมาจากอีกฝั่งของตู้เก็บเสื้อผ้า แม้กลางดึกสงัดอย่างนี้จะมืดสลัว แต่ในคืนเดือนเพ็ญ มันก็ทำให้พอจะมองเห็นอะไรได้ชัดพอควร ผมค่อย ๆ คลานอย่างเชื่องช้าและเบาที่สุด ในขณะเดียวกันอีกฝั่งนั้นกลับรุนแรงขึ้นจนในบางทีได้ยินเสียงแค่น ๆ ของผู้หญิงเล็ดลอดมา ผมขยับตัวไปทางด้านเท้าเพราะตรงนั้นจะมีช่องว่างอยู่เพราะตู้ของเราวางไว้ไม่เต็ม ผมค่อย ๆ ชะโงกหน้าเข้าไป แม้ในใจจะคิดไว้ว่าจะเจออะไรแต่ก็ยังทำใจอยู่นาน เพราะในขณะที่สายตาของผมพ้นเหลี่ยมตู้ไปแล้วนั้น เห็นร่างขาวโพลนเล็ก ๆ ของแม่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนถ่างขาอยู่บนร่างกายของชายคนหนึ่ง แม่นั่งหันหน้าไปทางเท้าแต่เอนตัวไปด้านหัวนอนโดยหว่างขาแม่มีขนดกดำ มันดกดำมากจนมองเห็นไปว่าเจ้าความเป็นชายของเขาหายวับเข้าหว่างขาของแม่ ผมไม่คิดว่าจะเห็นแม่ที่เรียบร้อยและพูดน้อยกำลังขึ้นขย่มความเป็นชายของเขา
หลังจากทำใจอยู่สักพักโดยในระหว่างนั้นแม่ของผมก็ยังคงนั่งเอนหลังขย่มลำเอ็นนั้นต่อเนื่อง ผมค่อย ๆ โยกตัวไปมองอีกครั้ง ครั้งนี้ผมมีสติมากขึ้นจึงค่อย ๆ มองร่างกายของแม่อย่างพิจารณา เห็นเต้านมขนาดไม่ใหญ่ของแม่แกว่งไกวไปตามจังหวะที่ขย่ม แต่ที่หว่างขานั้นยังมองเห็นแค่ว่าเป็นอะไรดำ ๆ
ในระหว่างที่ลมพัดแรงมาวูบหนึ่งแม่ก็หยุดลง ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นทำให้ผมต้องรีบหลบ จนเมื่อบ้านเริ่มสั่นอีกครั้ง ผมจึงค่อย ๆ โผล่หน้าออกไปอีกที แม่ผมอยู่ในท่าคลานเข่าโดยหันหัวมาทางฝั่งเท้า แล้วหันบั้นท้ายไปทางหัวนอน ชายคนนั้นใช้มือจับที่เอวแม่ทั้งสองข้างอย่างแน่น พร้อมกับกระแทกบั้นท้ายแม่สุดแรงจนเกิดเสียงเนื้อฟาดกันดังลั่นไม่น้อยไปกว่าเสียงบ้านสั่นสะเทือน แล้วเสียงครวญครางของแม่ก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหว ต้องถอดกางเกงแล้วควักเอาลำเอ็นเล็ก ๆ นั้นออกมาลูบเล่น พร้อมกับรูดมันไปพร้อม ๆ กัน
แม่ทำหน้าบิดเบี้ยวซึ่งผมไม่เข้าใจความหมาย ชายคนนั้นกระแทกไม่หยุด ผมพยายามนึกว่าเขาเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่พ่อผมแน่นอน เขาคลุมใบหน้าจนผมมองไม่ออก แต่ความดุดันของเขาช่างมีมากเหลือเกิน แม่ผมเริ่มดิ้นพล่าน มือทั้งสองขยุ้มผ้ารองนอนจะยับยู่ยี่ พร้อมพูดออกมาด้วยเสียงกระเส่า “เบา ๆ หน่อย เดี๋ยวลูกพี่ตื่น ซี๊ดดด” แม่ครางออกมา แต่เขาก็ไม่หยุดกลับทำแรงกว่าเดิม บ้านทั้งหลังสั่นสะเทือน เสียงสังกะสีกระพือ เสียงข้าวของ แก้วน้ำ กระทบกันดังกริก ๆ อย่างถี่ ๆ แม่เองก็โดนกระทบเหมือนกัน แล้วในที่สุดเขาก็ครางออกมาบ้างพร้อมกับเด้าอย่างแรงสองสามทีแล้วทิ้งตัวลงนอน แม่ทิ้งตัวลงนอนไปตามเขา “แตกในนี่เสียวจริง” ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนจะขยับตัวเพื่อใส่เสื้อผ้า ทั้งที่ตัวเองยังหอบเหนื่อย แม่ขยับตัวไปนอนหงายข้าง ๆ ปล่อยให้มวลอากาศเย็น ๆ ปะทะร่างกาย “อดอยากมาจากไหนนี่ เย็ดพี่เหมือนอดอยากมานาน พี่กลัวว่าลูกจะตื่น” แล้วชายคนนั้นลุกขึ้นไปยืนที่หน้าประตู “ก็นะ กว่าจะถึงคิวผม ลูกพี่ตื่นก็ชวนมาเย็ดด้วยกันสิ เห็นบ่นว่าอยากเอาอยู่ไม่ใช่เหรอ” ทั้งสองหัวเราะเบาๆ พร้อมกัน แม่พูดทิ้งท้ายว่า “พี่ไม่ว่างสามสี่วันนะ รอคิวเหมือนเดิมนะ” เขาพยักหน้าก่อนจะปิดประตูบ้าน ปล่อยให้แม่นอนเปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น
ตื่นเช้าขึ้น ผมมองเห็นแม่ที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ในห้องครัว ผมมองเห็นแม่จึงเดินเข้าไปกอดแม่จากด้านหลัง…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น