วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566

คบเด็กข้างบ้าน #2


 

สติสัมปชัญญะของเราค่อยๆ หลุดล่อนเหลือน้อยลงไปทุกทีๆ ไม่ต่างอะไรจากเสื้อผ้าอาภรณ์ที่เคยห่อหุ้มร่างกายของเราเอาไว้จนมิดชิด บัดนี้กลับกระจัดกระจายหายไปคนละทิศคนละทางจนเนื้อตัวแทบล่อนจ้อน

เสื้อยืดแขนยาวสีเขียวมรกตวางกองพาดอยู่แถวๆ อ่างล้างจาน ข้างๆ มียกทรงสีดำวางกองอยู่ไม่ห่าง กางเกงในผ้ายืดสีดำถูกถลกลงมากองอยู่แทบเท้า มีเพียงแค่กระโปรงพลีทสั้นสีดำตัวโปรดเท่านั้นที่ยังคงเกาะติดร่างกายของเราอยู่ในตอนนี้ แต่สภาพของมันก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่ากันซักเท่าไหร่หรอกค่ะ เนื่องจากโดนอีตาโมจับถลกขึ้นไปกองอยู่เหนือสะโพกซะสูง จนเปิดเผยให้เห็นแก้มก้นงามงอนทั้งสองลูกของเราอย่างชัดเจน

ร่างของเราตอนนี้กำลังยืนโก้งโค้งฟุบหมอบอยู่บนเคาท์เตอร์ข้างอ่างล้างจาน สองขากางถ่างอ้าออก ปล่อยตัวปล่อยใจให้โมใช้ปากจู่โจมจิ๊มิ๊ของตัวเองจากทางด้านหลัง มันช่างเป็นความรู้สึกที่เสียวซ่านเกินคำบรรยาย ลิ้นของโม เดี๋ยวก็ปาดไปทางโน้นที ทางนี้ที บางทีก็แกล้งกดจี้เข้ามาเน้นๆ ที่คลิตอริสแบบหนักๆ ทำอย่างกับว่าจิ๊มิ๊เราเป็นไอติมรสหวานมันถูกปากซะอย่างนั้นล่ะ เล่นเอาเราขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่

เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเด็กหนุ่มวัยยังไม่ถึง 20 ปีดี จะมีลีลาทางเพศที่หวือหวาเร้าใจได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้มันโตเกินวัยหรือยังไง แต่ที่รู้ๆ ก็คือ สมัยที่เรายังเป็นนักศึกษาน่ะไม่ได้ช่ำชองขนาดนี้แน่นอน มันเหมือนกับว่าอีตานี่ได้ศึกษาเรียนรู้จุดอ่อนบนร่างกายของผู้หญิงเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะจู่โจมเล่นงานจุดนั้นซ้ำๆ จนอีกฝ่ายหมดสภาพเสียด้วย

“แผล่บ.. บบบบ แผล่บ.. บบบบ อืมมม น้ำพี่.... หวานถูกใจผมจริงๆ แผล่บ.. บบบบ” โมเอ่ยปากชมพร้อมกับใช้ลิ้นดูดเลียน้ำรักจากจิ๊มิ๊ของเราอย่างเต็มคราบ อีตาบ้าเอ๊ย! น้ำตรงนั้นมันจะไปหวานได้ยังไงเล่า!
“อุ๊ย! โม เบาๆ... อย่าคว้านตรงน้าน... นนนน" เราครางเสียงกระเส่า ส่ายหน้าสะบัดไปมาด้วยอารมณ์เสียวสยิว

พอใช้ปากเล่นงานจิ๊มิ๊ของเราจนมันเปียกโชกหนำใจแล้ว พ่อตัวดีเค้าก็เลยเปลี่ยนเป้าหมาย ลุกขึ้นมาสวมกอดเราจากทางด้านหลัง ใช้สองมือคว้าหมับจับเข้าที่หน้าอกของเราแบบเต็มๆ ส่วนท่อนล่างก็คอยถูไถบดเบียดกับบั้นท้ายของเราไปด้วย ขนาดว่ามีกางเกงขาสั้นกับกางเกงในขวางกั้นอยู่อีกสองชั้น แต่เราก็ยังรู้สึกได้ว่าเจ้าหนูของโมมันกำลังพองโตแข็งตัวอยู่อย่างเต็มที่

“อือ.. อออ อย่าซี่ มันจั๊กจี้....” เราร้องห้ามอย่างอ่อนแรง เมื่อโดนนิ้วมือของโมเขี่ยบี้เล่นหัวนมทั้งสองข้างอย่างเมามัน
“เขี่ยแบบนี้แล้วเสียวดีมั้ยครับพี่พัช?” โมเอ่ยปากถามพร้อมกับใช้นิ้วกลางเขี่ยสะกิดปลายจุกยอดของเราเร็วๆ รัวๆ เล่นเอาเราเสียวแปล๊บไปทั่วทั้งร่าง เนื่องจากโดนเล่นงานซ้ำๆ ที่จุดอ่อนจนอารมณ์หื่นชักเริ่มที่จะจุดติดขึ้นมา
“ก็บอกว่าให้หยุดไง อ๊ะ! อืม.. มมม นี่.. ยังอีก...”

โมใช้มือขวาขยำขยี้หน้าอกของเราอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่มือซ้ายก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาทักทายกับจิ๊มิ๊ของเราที่กลางหว่างขา ใช้หัวแม่โป้งบดคลึงปุ่มกระสันของเราเป็นวงกลมเบาๆ ส่วนนิ้วกลางก็คอยกรีดถูไถเข้าที่ปากทางซึ่งกำลังเปียกเยิ้ม ก่อนที่โมจะจับเราพลิกร่างให้หันกลับมาประจันหน้ากันตรงๆ

“อ๊ะ! โอ๊ยย โม ยะ... อย่า อ๊ะ! อาห์... ซี้ดส์....สสสสส์ อาาาาาาห์.......” เราครางพ่นลมหายใจออกมายาวๆ อย่างลืมตัว ทันทีที่ปลายนิ้วของโมเริ่มติดเครื่องและสอดแยงเข้ามาภายในร่าง พอกดทิ่มลึกเข้ามาจนสุดโคนข้อแล้ว โมก็ค่อยๆ ชักนิ้วเข้าออกเบาๆ พอตั้งหลักได้แล้วจึงเริ่มต้นเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น

“อ๊ะ... อ๊ะ.... อืม.. มมมมม อาห์... อ๊ะ อาห์... สสส ซี้ดส์..... สสสส์” เราสูดปากร้องครางแทบฟังไม่ได้ศัพท์ แหงนหน้าเริ่ดๆ หลับตาปี๋ สองมือจิกเกร็งเข้ากับเคาท์เตอร์ เผลอข่มกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความเสียวซ่าน
“เสียวใช่มั้ยครับ? พี่ชอบแบบนี้ใช่มั้ยครับ?” โมเห็นอาการของเราก็ยิ่งเอ่ยปากถามเร่งเร้า ใช้ปลายนิ้วเขี่ยถูที่บริเวณจุดจีสปอตของเรายิกๆ จนเราต้องเผลอขมิบจิ๊มิ๊แรงๆ เพื่อคอยข่มกลั้นความเสียว

“อ๊ะ! อ๊ะ... อึ๋ย.. ยยยยยย โม อย่า... อย่าแยงตรงนั้นซี่ ฮือ... ออออ” ปากเราก็คอยร้องห้ามปรามไปเรื่อย แต่สองขาเจ้ากรรมมันดันถ่างอ้าออกกว้างอย่างไม่คิดจะเชื่อฟังกันบ้าง

ขนาดว่าร่างกายตัวเองยังไม่ยอมเชื่อฟังเลย แล้วคิดว่าอีตาโมมันจะยอมหยุดเหรอคะ ยิ่งเห็นเราครางโมเลยยิ่งได้ใจ ก้มหน้าลงมาจูบเข้าที่หน้าอกของเรา พร้อมกับออกแรงชักนิ้วเข้าออกอย่างเร็วระรัวจนร่างของเราแทบลอยไม่ติดพื้น น้ำหล่อลื่นกระฉอกเจิ่งนองเปรอะไปหมด สภาพของเราตอนนี้แทบไม่เหลือหนทางปกป้องตัวเองได้อีกแล้ว แบบนี้สินะ ที่เค้าเรียกกันว่าน้ำเดินเนี่ย ตายๆๆๆ

“อ๋อย... สสส ซี้ดดดดส์ มะ... โม โอ๊ย.... ยยยย พี่เสียว.... โอ๊ย... ยยย ซี้ดส์... สสสสส์ อาห์...”
“จ๊วบ... บบ.... จ๊วบ... บบบ อืมมม กลิ่นตัวพี่หอมจังเลย จ๊วบ... บบบบบบบ!” โมเอ่ยปากชมสลับกับคอยดูดนมเราไปด้วย  เล่นเอาเราขนลุกซู่ๆ ไปทั่วทั้งร่าง พยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างอ่อนแรง ในใจเริ่มโอนเอียงไปกับรสสัมผัสอันเปี่ยมสุขของอีกฝ่าย ยิ่งห่างจากเรื่องเซ็กส์มานานๆ มันก็ทำให้ร่างกายของเรายิ่งไวต่อการกระตุ้นเร้า เนื้อตัวเราอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของโมจนหมดสิ้น

“โอ๊ย... ยยยย โม... พอแล้วนะ... อย่าทำพี่เลย.... สสส ซี้ดส์... สสส์” เราเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พี่พัชอย่าฝืนเลยครับ ผมรู้นะว่าพี่เองก็แอบเหงาอยู่เหมือนกัน ให้ผมทำให้พี่มีความสุขนะครับ” เจ้าเด็กบ้านี่ ดันมาทำเป็นรู้ใจเราอีก ก็จริงอยู่ที่เราอาจจะมีรู้สึกเหงาๆ เคว้งคว้างอยู่บ้าง แต่มันก็ยังไม่ได้ถึงขั้นที่เราจะยินดีเล่นชู้กับผู้ชายคนอื่นเสียเมื่อไหร่
“จะบ้าเหรอ...? ถ้าพี่อ๊อฟรู้เข้า พี่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? โมก็รู้นี่ว่าพี่เค้าขี้หึงแค่ไหน นี่! อย่าซี่...” เราพยายามพูดเตือนสติโม เพื่อดึงเหตุผลให้กลับมาอยู่เหนืออารมณ์

“ก็ถ้าพี่ไม่พูด... ผมไม่พูด... พี่เค้าก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ” โมตอบง่ายๆ พร้อมกับดูดหน้าอกเราเสียงดังจ๊วบ... บบบบบบบบ!
“อ๊ะ..! อือ... ออออ... ไม่เอา พี่ไม่อยากทำ... หยุดเถอะ พี่ขอร้อง” เราพยายามรวบรวมสติอ้อนวอนขอความเห็นใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลใดๆ ทั้งสิ้น โมดันร่างของเราให้นั่งลงไปบนเคาท์เตอร์ จับแหกขาของเราอ้าออกกว้าง ก่อนจะยิ่งเร่งออกแรง เดินเครื่องทั้งนิ้วมือและปลายลิ้น จู่โจมสองทาง บนล่างเป็นพัลวัน จากเสียงห้ามในทีแรกก็เลยกลายเป็นเสียงครางกระสันเสียวไปโดยไม่รู้ตัว

เราไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเราไม่ได้มีอะไรกับพี่อ๊อฟมาพักใหญ่ๆ หรือเป็นเพราะเราตื่นเต้น หรือเพราะโมมันเก่งกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ก็คือ... เราถูกโมฉุดกระชากลากพาอารมณ์หื่นด้วยนิ้วและลิ้น จนใกล้จะเข้าเส้นชัยไปในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2-3 นาทีเท่านั้นเอง

ในหัวของเราตอนนี้มันขาวโพลนไปหมด ความรู้สึกต่อต้านจางหายไปแบบหมดสิ้น มีเพียงแค่ก้อนความรู้สึกเปี่ยมสุขที่มันค่อยๆ พองล้นทะลักออกมาจากภายในร่าง คล้ายกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนที่มันจะระเบิดแตกโพล๊ะออกมา

“อ๋า... โม... อ๊ะ... อืม... มมมม โอ๊ย... ยยยย พี่... พี่จะไม่ไหวแล้วนะ....” เสียงครางของเราดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างลืมตัว
“อ๊ะ..! ตรงนั้น... อาห์... สสสส อ๊ะ! อ๋าา... าาาาาาาาา! อ๋าาาาาาาาาาาาาา!!” เราหวีดร้องออกมาเต็มเสียง หน้าขาสั่นกระตุกแรงๆ อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อร่างกายและจิตใจพุ่งขึ้นถึงจุดสุดยอดของห้วงอารมณ์เสียว รู้สึกได้เลยว่าข้างในตัวมันขมิบยวบๆ อย่างรุนแรง หยาดน้ำใสๆ พุ่งทะลักออกมาจนเลอะหน้าขา

มันเป็นความรู้สึกสุขสมและอิ่มเอิบที่เราโหยหามาพักใหญ่ๆ น่าเสียดายที่มันกลับเกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มข้างบ้าน ไม่ใช่แฟนตัวเองอย่างพี่อ๊อฟ...

พอเห็นเราเสร็จสมอารมณ์หมายไปเรียบร้อยแล้ว ตาโมก็ไม่รอช้า รีบฉวยจังหวะ ปลดกระดุมกางเกงขาสั้นของตัวเอง พร้อมกับรูดกางเกงในออกไปทีเดียวพร้อมๆ กัน เจ้าหนูของโมจึงเด้งผึงออกมาท้าทายสายตาของเราแบบชัดเจน สภาพของมันกำลังพร้อมรบแบบเต็มที่ ท่อนลำเป็นสีแดงก่ำคล้ำเข้ม ที่บริเวณปลายหัวบานอ้าเหมือนกับดอกเห็ดอ้วนๆ ดูน่าเกลียดน่ากลัวเหลือเกิน ซ้ำยังดูจะใหญ่โตกว่าของพี่อ๊อฟอย่างเห็นได้ชัด

มันจะเป็นยังไงน้า...? ถ้าเกิดว่าเจ้าแท่งเนื้ออวบอ้วนนี้มันมุดทิ่มเข้ามาข้างในตัวเราเนี่ย... แค่คิดก็ผิดแล้วค่ะ เพราะเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อีตาโมมันก็ดันออกแรง กดเจ้าหนูใส่เข้ามาในจิ๊มิ๊ของเราจริงๆ ด้วย!

“โอ๊ะ! โอ๊ย... โอ๊ย.... ยยยยยยยย! โมพี่เจ็บ!” เราร้องกรี๊ดเสียงหลง เมื่อโดนเจ้าหนูปักทิ่มเข้ามาแค่ครึ่งลำ ขนาดว่าตรงนั้นของเรามันเปียกโชกแล้วนะ เรายังรู้สึกเจ็บจุกได้ขนาดนี้ พอโมได้ยินเราร้องก็เลยเริ่มเบาแรงลงไปหน่อย ค่อยๆ แดะ ค่อยๆ ดันมันเข้ามาเบาๆ ทีละนิด ทีละหน่อย ไม่นาน แท่งเนื้ออ้วนๆ ยาวๆ ก็มุดเข้ามาอยู่ในร่างของเราได้แบบหมดจด

พร้อมๆ กับที่เราได้สูญเสียสถานะของการเป็นภรรยาผู้รักเดียวใจเดียว กลายมาเป็นหญิงสาวร่านสวาทที่ปล่อยให้ชู้หนุ่มได้เข้ามาตักตวงหาความสุขถึงในบ้านตัวเอง บ้านที่เราร่วมกันเลือก ร่วมกันซื้อมาด้วยกันกับพี่อ๊อฟ...

ใช่ค่ะว่าเราเองอาจจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง แถมก่อนหน้าที่จะมาคบกับพี่อ๊อฟนี้ เราเองก็เคยมีแฟน เคยมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้มาก่อนแล้ว เพียงแต่ว่า... ที่ผ่านๆ มา มันเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจของเราเอง เกิดขึ้นกับผู้ชายคนที่เราคบหาเป็นแฟนอยู่ด้วยในขณะนั้น ซึ่งมันแตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างสิ้นเชิง แทบจะใกล้เคียงกับคำว่าถูกข่มขืนเสียด้วยซ้ำ...

 พอนึกแบบนี้แล้วน้ำตาของเราก็พลันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

“พี่พัช อย่าร้องไห้เลยนะครับ” โมพูดปลอบใจ ใช้นิ้วปาดน้ำตาออกจากแก้มของเรา ทั้งๆ ที่อาวุธประจำกายยังเสียบปักคาอยู่ในร่างของเรา เวลาที่โมขยับตัวแต่ละครั้ง มันก็ทำให้เรารู้สึกเสียวๆ หวิวๆ ที่ตรงนั้น จนไม่อาจเก็บกลั้นเสียงครางเอาไว้ได้
“อุ๊ย! อืม... อย่าพึ่งขยับนะโม พี่ยังจุกอยู่เลย” เราพูดขอความเห็นใจ ซึ่งโมก็รับฟังแต่โดยดี
“ไม่ต้องเกร็งนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้พี่รู้สึกดีกว่านี้” โมว่า ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาจูบปากเราอีกครั้ง ความเสียวทำให้เราลืมตัว เผลอแลกลิ้นเข้าสู้

เราถูกโมบดปากจูบจนแทบลืมหายใจ ขณะที่ด้านล่างก็โดนแท่งเนื้อทิ่มมุดเข้ามุดออกเป็นจังหวะเนิบๆ พอโดนเข้าหลายๆ ที อาการจุกเสียดในทีแรกก็ค่อยๆ เลือนหายไป หลงเหลือไว้แต่เพียงความรู้สึกเสียวจี๊ดๆ ที่บริเวณหว่างขา ยิ่งโมเร่งความเร็วในการขยับตัวเข้าออกมากขึ้นเท่าไหร่ อาการเสียววูบวาบๆ มันก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

“อึ๊! อื้อ... อื้ม.. มมมมม” เราอยากจะแหกปากร้องครางออกมาดังๆ แต่ติดที่ว่าริมฝีปากถูกอีกฝ่ายอุดปากอยู่ ก็เลยทำได้เพียงส่งเสียงครางดังๆ อยู่ในลำคอ
“อืม... มมมมม” โมครางยาวๆ ตอบกลับมา ปลายลิ้นยังคงคอยตามพัวพันเข้าหาลิ้นของเราไม่หยุดหย่อน

ทุกครั้งที่อาวุธของโมมุดเข้ามุดออกภายในร่าง เรารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณในตัวเราก็โดนโมคว้านติดออกไปด้วย เรี่ยวแรงของเราค่อยๆ ถดถอยลดน้อยลง เหมือนกับลูกโป่งที่กำลังถูกปล่อยลมออก มันค่อยๆ ส่งเสียงฟู่ววววว.... ออกมายาวๆ ก่อนที่รูปร่างจะค่อยๆ แห้งเหี่ยวและฟีบลงเรื่อยๆ

ความรู้สึกต่อต้านในใจถูกสูบหายไปอย่างไร้ร่องรอย สวนทางกับอารมณ์หื่นที่กำลังถูกเป่าให้พองตัวกลับคืนมาเรื่อยๆ รสรักที่โมมอบให้มันทำให้เราแทบสติหลุดลืมโลกไปเลย จังหวะต่างๆ มันช่างหนักแน่นลงตัว สอดประสานสัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อตัวของเราสั่นกระตุกวูบวาบจนรู้สึกได้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อารมณ์ของเราไต่ระดับกลับมาอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่พึ่งจะถึงจุดสุดยอดไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้ ซึ่งที่ผ่านๆ มา พี่อ๊อฟเองก็ยังไม่เคยทำให้เราตื่นเต้นได้ขนาดนี้มาก่อน

อวัยวะตรงส่วนนั้นของโมมันช่างใหญ่โต ท่อนลำยื่นยาวราวกับกระบอกไฟฉาย เวลาที่กดเข้ามาในร่างของเราแต่ละครั้งนะคะ เล่นเอาเรางี้จุกเสียดไปถึงท้องน้อยเลยล่ะคุณ ได้แต่สูดปากครางซี้ดซ้าดจนน้ำลายไหลย้อยที่มุมปาก ลืมเลือนเรื่องศีลธรรมความเหมาะสมต่างๆ ไปจนหมดสิ้น ทำได้แค่เพียงเกร็งร่างรอรับความสุขที่กำลังกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุดหย่อน

กลิ่นกายแปลกๆ จากเรือนร่างของโม จังหวะและลีลาการเข้าทำที่แตกต่าง รวมถึงขนาดของเจ้าหนูที่เหนือล้ำกว่า มันผสมผสานรวมกัน และทำให้ร่างกายของเราร้อนรุ่มไปด้วยอารมณ์หื่นหิว ดูเหมือนแค่ครั้งเดียวจะยังไม่เพียงพอเสียแล้ว เราอยากได้ความสุขแบบเมื่อกี้อีกครั้ง... ความสุขที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น.... และมากขึ้นเรื่อยๆ....

โมจับร่างของเราให้พลิกกลับมาอยู่ในท่ายืนโก้งโค้งเกาะขอบเคาท์เตอร์เหมือนกับในตอนแรก เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการใช้ปากให้ แต่เป็นการออกแรงกระทุ้งร่างของเราจากทางด้านหลัง

โอ้มายก็อด! ไม่อยากเชื่อว่าเราจะปล่อยให้เด็กอายุ 18 มันจับเล่นท่าด็อกกี้คาบ้านของตัวเองแบบนี้... แทบอยากจะเอาหน้ามุดดินหนีอายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่จะหนีไปไหนได้ล่ะคะ ในเมื่อโดนอีตาโมจับล็อคสะโพกไว้ไม่ยอมปล่อยอย่างนี้ สุดท้ายเราก็เลยได้แต่ยืนแหกปากร้องครวญครางอย่างหมดสภาพอยู่ในครัวแบบนี้

แต่สิ่งที่น่าขายหน้ายิ่งกว่าการถูกเด็กมันปลุกปล้ำในท่านี้ก็คือ... การที่เราดันรู้สึกเสียวซ่านถึงใจไปกับลีลาการกระแทกกระทั้นของอีตาโม จนต้องเผลอเด้งก้นสวนสู้กับมันอย่างลืมตัวนี่แหละ

“อ๋อย... ยยยย สสสส ซี้ดดดส์ อาห์... อ๊ะ อ๋า.. าาา อ๋า... าาาาาา!” เสียงครางของเราดังแข่งกับเสียงเนื้อที่กระทบเข้าหากันเป็นจังหวะ
“อูย... ซี้ดส์ เสียวควยชะมัด ตอดไม่หยุดเลย” โมหลุดถ้อยคำหยาบคายออกมาตรงๆ อย่างลืมตัว เราได้ยินแล้วยิ่งรู้สึกเสียววูบวาบไปทั่วท้องน้อย ถ้อยคำหยาบโลนพวกนี้มันช่างกระตุ้นเร้าอารมณ์หื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วแทบทนฟังมันไม่ได้ด้วยซ้ำ
“โอ๊ย... ยยยย โม พี่เสียวจังเลย... โอ๊ย... ยยย ระ.. แรงๆ เลย อ๊ะ อืม.. มมมม” เราลืมเลือนเรื่องอื่นๆ ไปจนหมดสิ้น แหกปากร้องสั่งการให้อีกฝ่ายเร่งป้อนความสุขให้ตัวเองอย่างหน้าไม่อาย

“โอ๊ย... ยยยย โม... ฮือ... ออออ บะ.. แบบนั้นแหละ! ตรงนั้น! อื้มมมม” เราร้องครางหลับตาปี๋ เกร็งสะโพกเด้งสู้กับเจ้าหนูของอีกฝ่ายอย่างสุดชีวิต ไม่นานคลื่นความเสียวก็ทะลักล้นออกมาจากภายในร่างอีกเป็นครั้งที่สอง
“อ๊ะ! อ๊ะ... อาห์... พี่... พี่เสียวอีกแล้ว... โอ๊ย! พี่จะถึงอีกแล้ว โม แรงๆ เลย... อ๊ะ อ๋าาาาาาาาาาาา!!” เราแหกปากหวีดร้องอย่างรุนแรง ร่างกระตุกเฮือกๆ เมื่อเสียวซ่านจนถึงจุดสุดยอด โพรงเนื้อสาวขมิบตอดเข้ากับเจ้าหนูของโมแบบถี่ยิบๆ

“อู๊ย... พี่พัชครับ หีพี่ตอดแรงแบบนี้ ผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกันนะ อูย... ยยยย ซี้ดส์... สส์ ผม... ผมเสร็จแล้วครับพี่!” ใบหน้าของตาโมบิดเบี้ยวด้วยความเสียวเกร็ง เร่งอัดแท่งเนื้อใส่ร่างของเรารัวๆ อีกไม่กี่ที ก็ปล่อยน้ำเชื้ออุ่นๆ พุ่งวาบเข้ามาในร่างของเราเต็มๆ!
“ว้าย! ตายแล้ว! โม เอาออกมาก่อน!” เราตกใจแหกปากร้องลั่น เมื่อได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อีกฝ่ายเหมือนกำลังติดพัน ใช้มือล็อคจับสะโพกเราไว้แน่นพร้อมกับกระตุกปล่อยน้ำเชื้อออกมาจนหมดไม่เหลือซักหยด

ที่ตลกก็คือ ทั้งๆ ที่แหกปากอยู่แบบนั้น แต่ร่องรักของเรากลับเอาแต่ขมิบใส่เจ้าหนูของโมไม่ยอมหยุด ราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้

“อูย... ไม่ทันแล้วครับพี่” โมเอ่ยเสียงอ่อย พร้อมกับค่อยๆ ถอนอาวุธประจำกายออกมาช้าๆ มองเห็นหยดน้ำสีขาวขุ่นไหลติดออกมาด้วย เราก้มลงไปมองสภาพจิ๊มิ๊ของตัวเองแบบชัดๆ แล้วแทบลมจับ สภาพของมันบวมอ้าเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ปากทางเข้าเปิดอ้าออกเป็นรูโบ๋ มีน้ำเชื้อของโมไหลย้อยออกมาเป็นทาง

นี่เราพึ่งมีอะไรกับโมไปจริงๆ! แถมยังปล่อยให้อีกฝ่ายเสพสุขจากร่างกายของเราโดยไม่คิดที่จะป้องกันอีกด้วย!

ความจริงที่เกิดขึ้นทำให้น้ำตาของเราไหลออกมาอีกเป็นครั้งที่สอง โมเห็นเข้าก็พยายามจะเข้ามากอดปลอบ แต่คราวนี้เราไม่พร้อมที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัสร่างกายอีกแล้วจึงรีบเอ่ยปากห้าม

“โม... กลับไปก่อนนะ พี่ขอร้อง...” เราพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่แฝงเอาไว้ด้วยความจริงจัง โมฟังแล้วก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับเงียบๆ หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินหายออกไปทางหน้าบ้าน ซึ่งทำให้เราพึ่งนึกออกอีกเรื่องนึงว่า... นี่เราพึ่งจะมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นในบ้านตัวเองกลางวันแสกๆ โดยที่ประตูบ้านไม่ได้ล็อคด้วยซ้ำ!

เรารีบหอบเสื้อผ้าที่กองกระจัดกระจายขึ้นมาแนบอก พาร่างของตัวเองเข้าไปขังหลบอยู่ในห้องน้ำ ปล่อยให้น้ำตามันไหลทะลักออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ที่เราร้องไห้นี่ไม่ใช่เพราะว่าเสียใจที่ถูกโมล่วงเกินนะ แต่เสียใจที่ได้รู้ว่าตัวเราเองนี่แหละที่กำลังเป็นฝ่ายถลำลึก ตกลงไปในบ่วงความสัมพันธ์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ เราร้องจนพอใจแล้วจึงอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ทั้งภายใน... และภายนอก...

คราบไคลสกปรกหลุดออกจากร่างกายเราไปหมดแล้ว แต่ความรู้สึกของเรากลับยังคงแปดเปื้อนไม่ยอมเปลี่ยน... น้ำตาที่เคยไหลก็ดูจะเหือดแห้งจนหลงเหลือแต่เพียงคราบ แต่หัวใจของเรากลับยังคงเจ็บปวดไม่หาย...

พอตั้งหลักและตั้งสติได้ เราจึงรีบออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินเพื่อป้องกันผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ในภายหลัง....

=======================================

เราเคยได้อ่านกระทู้ดราม่าพันทิป เกี่ยวกับเรื่องของชายหญิงที่แอบนอกใจคู่ครองของตัวเอง ทั้งแบบที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งในตอนนั้นเรายังรู้สึกนึกสมเพชคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ทำตัวไม่ต่างอะไรจากสัตว์ที่ปล่อยให้อารมณ์ความใคร่ ครอบงำอยู่เหนือศีลธรรมและความเหมาะสม ใครจะไปรู้ล่ะคะ ว่าวันนึง... เราจะได้มาตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้นเสียเอง เข้าทำนอง 'ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง' ของแท้เลย

เราทั้งรู้สึกอับอายและนึกชิงชังรังเกียจความซื่อบื้อของตัวเอง ที่เป็นฝ่ายเปิดประตูเชื้อเชิญให้โมได้เข้ามาย่ำยีเสพสุขถึงในบ้านตัวเองแบบนี้ ไม่รู้จะไปสู้หน้าพี่อ๊อฟยังไง ทั้งๆ ที่เค้าก็เคยเตือนว่าให้ระมัดระวังท่าทีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับโมมาตั้งนานแล้ว แต่เรากลับหลงคิดไปว่าพี่เค้าก็แค่หึงหวงเกินเหตุ จนเผลอเดินดุ่มๆ หลงเข้าไปในปากของเสือผู้หญิงแบบโมโดยไม่รู้ตัว...

“ตัวเอง...” เสียงพี่อ๊อฟเอ่ยปากเรียกเราเบาๆ จากโซฟาหน้าทีวี
“มีไรเหรอ?” เราละสายตาจากหน้าจอสีขาวอันว่างเปล่าของโปรแกรมเวิร์ด ก่อนจะหันหน้าไปตามเสียงเรียก
“ตัวเองเครียดเรื่องรายงานอยู่เหรอ เค้าเห็นเธอเหม่อจ้องหน้าจอเปล่าๆ มาเป็นนาทีแล้วนะ มาพักก่อนมั้ย เดี๋ยวจะเครียดไปเปล่าๆ” พี่อ๊อฟเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“เค้าไม่ได้เครียดหรอก ก็แค่... นึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” เราตอบพร้อมกับลุกเดินมานั่งข้างๆ พี่แก
“จ้ะ ไม่ได้เครียดก็ดีแล้วล่ะ อาทิตย์หน้าเค้าก็ต้องไปทรูปที่ภาคใต้ตั้งสิบวัน เค้ากลัวว่าจะไม่ได้มาอยู่ดูแลเวลาที่ตัวเองเครียดน่ะสิ”
“อื้อ อ้วนอย่าคิดมากเลย เค้าสบายดี เรื่องรายงานมันก็ไปเรื่อยๆ ของมันอ่ะ ยังไงก็ช้าเหมือนเดิม แฮะๆ”
“ไม่เป็นไรจ้า ถ้ามีไรให้เค้าช่วยได้ก็บอกแล้วกันนะ เดี๋ยวจะได้ช่วยดูให้” พี่อ๊อฟว่าพร้อมกับใช้แขนโอบไหล่เราเข้าไปกอดแนบแน่น

ยิ่งอ้อมกอดของพี่เค้าอบอุ่นมากเท่าไหร่ ในใจของเราก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น...

เราใช้เวลาอยู่เป็นปีๆ ก่อนหน้านี้ กว่าที่จะสามารถปรับตัวให้ชินกับการอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว เวลาที่แฟนต้องเดินทางไปค้างคืนที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายวัน แต่พอมีเรื่องของโมเกิดขึ้น... มันก็ทำให้เราต้องกลับมารู้สึกเคว้งคว้างและไร้ที่พึ่งพิง รู้สึกหวาดหวั่นกับการต้องอยู่ในบ้านตามลำพังขึ้นมาอีกเป็นคำรบสอง

ใจนึงก็กลัวว่าโมจะฉวยโอกาสที่แฟนเราไม่อยู่ ตามมาตอแยและวุ่นวายกับเราหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนเราต้องคอยล็อคกลอนประตูที่บ้านไว้ตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยจะกล้านั่งทำงานที่ชั้นล่างเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย

ส่วนอีกใจนึงก็กลัวว่าตัวเองจะเกิดทนเหงาขึ้นมาไม่ไหว เพราะตั้งแต่ที่เราโดนน้องมันล่วงเกินคราวนั้น จนผ่านมาเกือบๆ จะครบอาทิตย์อยู่แล้ว แต่เชื่อมั้ยคะ... ว่ารสสัมผัสที่เกิดขึ้นในวันนั้น มันยังคงฝังอยู่ภายในความทรงจำของเราโดยไม่ลบเลือนหายไปไหน

เราขอสารภาพตรงๆ เลยนะ ว่าเราไม่เคยรู้สึกเสียวขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มันเป็นความสุขทางเพศที่แม้แต่แฟนเราก็ไม่เคยทำให้เราได้ ทั้งๆ ที่แฟนเราเองก็ไม่ได้ย่ำแย่ แต่อีตาโมนี่ต้องเรียกว่าเป็นสุดยอดจริงๆ มันเหมือนกับว่าโมต้องการจะสัมผัสสำรวจร่างกายของเราให้ทั่วทุกมุม ถ้าหากว่ากลืนกินเราลงไปทั้งตัวได้มันคงทำไปแล้ว... เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะสามารถถึงจุดสุดยอดติดต่อไล่ๆ กันได้แบบนั้น ขนาดว่าแค่ลิ้นของโมก็ยังทำให้เราสุขล้นจนตัวสั่น

เราไม่ใช่คนติดเซ็กส์ค่ะ ไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากมายเท่าไหร่ จนกระทั่งมาโดนตาโมเล่นงานแบบเนื้อๆ เน้นๆ ก็เลยพึ่งจะได้รู้จักว่าความสุขแบบสุดยอดบนเตียงนั้นมันเป็นยังไงกันแน่... รสชาติอันแสนจะเร้าใจที่ได้รับ มันทำให้เราเผลอเปรียบเทียบลีลาของทั้งคู่ไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นเลยซักนิด แต่ว่ามันอดไม่ได้จริงๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับกันตรงๆ แหละค่ะ ว่าลีลาของนายโมนั้นช่างเก่งฉกาจยิ่งกว่าแฟนเรามากมายนัก

และยิ่งคราวนี้พี่อ๊อฟต้องเดินทางไปทำงานหลายจังหวัดติดต่อกันเป็นสิบวัน ก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันแย่ลงไปอีก เพราะเท่ากับว่าเราต้องติดอยู่กับความรู้สึกโหยหานี้ไปอีกนานเป็นอาทิตย์... ถ้าเกิดว่าอีตาโมบุกเข้ามาประชิดตัวได้ในช่วงเวลานั้นล่ะก็... เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากมันได้อีกมั้ย?

“เค้าไปแล้วนะ ไว้เดี๋ยวบ่ายๆ จะโทรหานะตัวเอง” พี่อ๊อฟเอ่ยปาก ขณะผูกเชือกรองเท้าเตรียมตัวจะออกจากบ้าน
“ฮือ.... อ้วนไปตั้งหลายวัน เค้าเหงาอ่า” เราพูดเสียงเศร้าพร้อมกับใช้มือกอดร่างของพี่เค้าไว้เหมือนไม่อยากให้ไป
“โอ๋ๆๆ ไม่เหงานะคนดี เดี๋ยวอีกสองอาทิตย์เค้าก็กลับมาแล้ว รอนิดนึงนะคะ ยังไงเค้าก็จะโทรหาตัวเองตลอดแหละ” พี่อ๊อฟพูดแล้วก็เอามือลูบหัวเราเบาๆ เพื่อปลอบใจ

“รีบๆ กลับมานะ ห้ามเถลไถลที่ไหนนะ”
“จ้าๆ ไม่เถลไถลหรอกคร้าบ”
“แล้วก็ห้ามไปติดหญิงที่จังหวัดอื่นด้วยอ่ะ” เราพูดหยอกเย้าขู่ไปตามปกติ
“โอ๊ย เค้าอ่ะไม่มีหรอก กลัวว่าตัวเองต่างหาก จะแอบแว้บหนีไปเที่ยวกับหนุ่มๆ ที่ไหนตอนเค้าไม่อยู่” คำพูดหยอกล้อของพี่อ๊อฟกลับทำให้เราต้องสะอึก เหมือนกับโดนมีดปักเข้ามากลางอก

“บ้า! วันๆ อยู่แต่ในบ้านแบบนี้ จะไปมีหนุ่มเหนิ่มที่ไหนอีกเล่า” เรารีบข่มอารมณ์ตระหนกพร้อมกับปั้นหน้ายิ้มตอบกลับไป
“จ้า เค้าล้อเล่น ไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเจอกัน” พี่อ๊อฟส่งยิ้มหวานให้ทิ้งท้าย
“บ๊ายบาย” เราโบกมือให้แฟนเบาๆ ด้วยรอยยิ้มแห้งๆ พอประตูบ้านปิดลง สีหน้าของเราจึงกลับมาเศร้าซึมอีกครั้ง

และแล้วที่พึ่งของเราก็จากไป... ทีนี้ก็เหลือแค่เราคนเดียวแล้วที่จะต้องอยู่รับมือกับสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยง ซึ่งพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อภายใต้ระยะเวลาสิบวันนี้...

ช่วงวันสองวันแรกเราก็แอบกังวลใจอยู่เหมือนกันนะคะว่าอีตาโมนั้นจะโผล่หน้าเข้ามาอีกเมื่อไหร่ เวลาจะออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องคอยระแวดระวัง มองซ้ายมองขวาให้ดีๆ ส่วนเวลาที่นั่งทำงานอยู่ในบ้านก็ต้องคอยล็อคประตูให้สนิท ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้ามาได้ง่ายๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นความกังวลที่มากเกินกว่าเหตุ เพราะถึงตอนนี้ก็ผ่านไปจนจะ 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าอีกฝ่ายจะบุกเข้ามาประชิดตัวเราแต่อย่างใด

กลับกลายเป็นเราเองเสียอีก ที่ฝืนทนกับความรู้สึกเดียวดายและเปลี่ยวเหงาไม่ไหว แค่เพียงได้ยินเสียงพี่อ๊อฟทางโทรศัพท์ก็รู้สึกหวิวๆ โหวงๆ ชอบกล ในใจเฝ้าโหยหาแต่อ้อมกอดอุ่นๆ และรสสัมผัสที่ห่างหายไปจากสามี ร่างกายมันร้อนรุ่มๆ ไปทั้งตัว ตรงกลางหว่างขาเหนียวเหนอะหนะจนรู้สึกได้ บ้าจริง... ทำไมช่วงหลังๆ มานี้เราถึงมีอารมณ์ได้ง่ายดายขนาดนี้นะ?

สายตาของเรามองทอดยาวออกไปนอกหน้าต่าง มองลงไปเห็นร่างสูงโปร่งของนายโมที่กำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่รอบๆ หมู่บ้าน หรือว่าจริงๆ แล้ว เราจะคิดถึงรสสัมผัสจากโมกันแน่นะ....?

บ้าๆๆ นี่เราเผลอคิดอะไรบ้าๆ ขึ้นมาเนี่ย โอ้ย! ตายๆๆ แค่เผลอนึกถึงใบหน้าของโมในวันนั้นขึ้นมา ใบหน้าของเราก็รู้สึกร้อนผ่าวๆ ไปหมด และคราวนี้ก็เลยสลัดภาพเหล่านั้นออกไปจากในหัวไม่ได้เลย

ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องแย่ๆ ในชีวิตแท้ๆ แต่ทำไมกันนะ... เวลาที่นึกย้อนไปแล้ว มันกลับทำให้หัวใจของเราเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกอุ่นๆ ของท่อนเนื้อที่กดลึกเข้ามาข้างใน.... แรงบดอัดจากเรือนร่างกำยำของโม... ความสุขสมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมันทะยานขึ้นถึงขีดสุด ก่อนที่จะทะลักทลายออกมา... แค่นึกถึงภาพเหล่านั้นก็ทำให้หว่างขาของเราเปียกชุ่มโชกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ปลายนิ้วเรียวยาวของเราค่อยๆ ลูบไล้สัมผัสกับหน้าอกของตัวเองผ่านทางเสื้อยืด อีกมือก็สอดลึกเข้าไปด้านในของกางเกงขาสั้น พอปลายนิ้วแตะเข้ากับปุ่มกระสันแล้วร่างของเราก็พลันกระตุกเฮือกๆ ราวกับถูกไฟช็อตแปล๊บๆ อือ.... ทำไมมันถึงได้รู้สึกดีแบบนี้นะ...  ถึงแม้ว่าเราจะเคยช่วยตัวเองมาบ้างก่อนหน้านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำมันโดยจินตนาการถึงชายอื่นซึ่งไม่ใช่แฟนตัวเอง หนำซ้ำยังเป็นเด็กหนุ่มวัยไม่ถึง 20 ปีดีเสียด้วย

ในใจเราบังเกิดความรู้สึกต่อต้านและกระดากอายขึ้นมาตะหงิดๆ แต่ร่างกายมันกลับคอยเคลื่อนไหวไปเองโดยไม่ยอมฟังคำสั่ง สองมือของเราทำงานอย่างคล่องแคล่ว ทั้งเขี่ย ทั้งสะกิดไปมาย้ำๆ โดยที่ในหัวก็คอยจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์วันนั้นควบคู่ไปด้วย

ภาพร่างเปลือยเปล่าของเราที่กำลังถูกโมระดมจูบซุกไซร้ไปทั่ว ไม่มีส่วนไหนในร่างกายของเราที่ไม่ถูกปลายลิ้นของโมลากสำรวจสัมผัส ไล่ตั้งแต่ซอกคอ ลากยาวมาถึงทรวงอก ผ่านสะดือกับเอวคอดกิ่ว ก่อนจะเลื้อยลงมาจิบชิมน้ำหวานที่ปากทางเข้าจิ๊มิ๊ของเราตรงๆ สัมผัสสยิวที่เกิดขึ้นในวันนั้นยังประทับฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของเราจนยากที่จะลืมเลือนได้

อือ.... ก็พี่อ๊อฟเองนั่นแหละที่เป็นคนผิด ทิ้งให้เราต้องทนใช้ชีวิตเหงาๆ อยู่คนเดียวแบบนี้มาเป็นปีๆ แล้วมันจะแปลกตรงไหน ถ้าหากว่าเราจะเกิดเผลอใจหวั่นไหวไปกับเด็กหนุ่มหล่อล่ำแบบโมล่ะ...? ในหัวของเราพยายามคิดหาเหตุผลข้างๆ คูๆ เพื่อช่วยสนับสนุนการกระทำอันต่ำช้าของตัวเอง ความฟินที่เกิดขึ้นจากปลายนิ้ว ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดก่อนหน้านี้ดูจะหลุดลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

เราหลับตาปี๋ เอนกายนอนหงายอยู่บนเตียงนอน ชายเสื้อยืดถลกเปิดขึ้นไปจนมองเห็นสองเต้าเปลือยเปล่า กางเกงขาสั้นรูดกองคาอยู่ที่ปลีน่อง สองขาถ่างอ้ากว้าง เร่งถูไถปลายนิ้วเข้ากับเม็ดคลิตอริสของตัวเองเป็นวงกลมรัวๆ รู้สึกเสียวจี๊ดๆ ที่บริเวณท้องน้อยจนเริ่มที่จะเก็บเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่

“อือ... ซี้ดส์... สสสส์ โม.... พี่เสียว.. ววววว” เราหลุดปากครางออกมาเบาๆ ออกแรงกดสอดปลายนิ้วกลางเข้าไปในร่าง เพื่อหวังจะดับความร้อนรุ่มที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“อ๋อยส์.... สสส ซี้ดส์ อืม โม... โอ๊ยยยยย โม...” สะโพกของเราเกร็งค้างลอยอยู่กลางอากาศ เร่งชักปลายนิ้วเข้าออกเร็วๆ รัวๆ จนน้ำหล่อลื่นกระฉอกเปรอะเลอะที่นอน อารมณ์สยิวภายในร่างจวนเจียนจะระเบิดออกมาในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

'ตือ... ตื่อดื๊อ... ตื๊อดือดื่อดือดื๊ออออออ...' เสียงริงโทนมือถือที่ดังขึ้น กระชากอารมณ์หื่นของเราให้กลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง ปลายนิ้วของเราสะดุดหยุดกึ้กค้างอยู่ที่ปากถ้ำ รีบถลันลุกไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูด้วยความเร่งรีบ หน้าจอมือถือแสดงรายชื่อว่าเป็นพี่อ๊อฟที่โทรเข้ามา โห... อะไรพี่เค้าจะโทรเข้ามาได้ถูกจังหวะ พอดิบพอดีขนาดนี้เนี่ย...

เราสูดลมหายใจลึกๆ ปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย ต่างฝ่ายต่างใช้เวลาคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่พี่เค้าจะขอตัดบทเพื่อกลับไปประชุมกับทีมงานต่อ พอวางสายจากแฟนเสร็จปั๊บเราก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความอ่อนใจในทันที

เฮ้อ... ขนาดแค่ 2 วันแรกยังลำบากขนาดนี้... แล้วอีก 8 วันที่เหลือนี่เราจะรอดมั้ยเนี่ย...?

แล้วความสงสัยของเราก็แทบไม่ต้องรอนาน เพราะพอย่างเข้าเช้าวันที่ 3 ปุ๊บ คลื่นความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากนายโมก็ซัดเข้ามาเยี่ยมเยียนถึงหน้าประตูบ้านของเรา

'ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!' เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนเรียกของโม

“พี่พัชครับ อยู่มั้ยครับ?” น้ำเสียงอันแสนจะคุ้นเคยเอ่ยร้องเรียกชื่อของเราอย่างชัดถ้อยชัดคำ  นั่นไง... พ่อตัวปัญหามาเยี่ยมเราอีกจนได้ เรากดหรี่เสียงทีวี พยายามกลั้นลมหายใจนั่งให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แสร้งทำทีเป็นว่าไม่อยู่บ้าน ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล เสียงเคาะประตูดูจะเงียบหายไปในที่สุด ไอ้เราก็อุตส่าห์คิดว่ารอดแล้วแน่ๆ... แต่อีกเพียงแค่ไม่ถึงชั่วอึดใจ เสียงริงโทนมือถือเจ้ากรรมของเราที่วางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน ก็ดันร้องลั่นขึ้นมาจนได้ยินไปทั้งบ้าน

อีเด็กบ้านี่ดันโทรเข้าเครื่องเราซะนี่! ลืมไปเลยว่าโมมันมีเบอร์มือถือเราอยู่ แถมไม่ได้ปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้ด้วย คราวนี้ล่ะค่ะ เสียงเคาะประตูหน้าบ้านเลยดังขึ้นมาอีกรอบ

“พี่พัชครับ เปิดประตูหน่อยครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงเรียกของโมชักจะดังขึ้นๆ จนเรากลัวว่าบ้านหลังอื่นๆ เค้าจะได้ยินหรือออกมาดู แล้วเกิดนึกสงสัยไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโมขึ้นมา ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะเป็นช่วงสายๆ ของวันทำงาน และไม่น่าจะมีใครอยู่บ้านก็เถอะ แต่ถ้าเกิดมีใครซักคนมาเห็นภาพเด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์ มาคอยยืนวอแวเคาะประตูร้องเรียกหาหญิงสาวที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วอยู่แบบนี้ มันก็คงจะเป็นภาพที่ดูไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ และเผลอๆ จะตกเป็นขี้ปากของคนในหมู่บ้านเอาได้

สุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เราจึงตัดสินใจยอมเปิดประตูเพื่อเคลียร์กับโมให้รู้เรื่อง โดยแอบหวังว่าไอ้ความเป็นผู้ใหญ่และวัยที่มากกว่า มันจะช่วยให้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

“โมมีอะไรรึเปล่า..?” เราเอ่ยถามโมหน้าประตู โดยพยายามข่มน้ำเสียงให้ราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่ ขอเข้าไปคุยข้างในได้มั้ยครับ ตรงนี้ดูจะไม่เหมาะ” โมตอบพลางเหลียวซ้ายแลขวาไปรอบๆ เหมือนกลัวคนอื่นจะเห็น แม้ว่าเราจะแอบกังวลในเรื่องเดียวกัน แต่ก็ยังไม่กล้าไว้ใจ ปล่อยให้อีตานี่เข้ามาอยู่ในบ้านสองต่อสองอยู่ดี

“พี่ว่า... ไม่ดีมั้ง คุยกันตรงนี้แหละ ปลอดภัยดี” เราตอบดักคอ
“โธ่... นี่พี่ยังไม่ไว้ใจผมอีกเหรอครับ?”
“พี่จะไว้ใจโมได้ยังไง? หลังจากเรื่องที่โมทำไว้กับพี่น่ะ” น้ำเสียงของเราเริ่มแข็งกร้าว แม้จะแอบสั่นๆ อยู่บ้างนิดๆ พอเจอย้อนเข้าแบบนี้โมก็เหมือนจะไปต่อไม่ถูก

แต่โชคก็เหมือนจะเข้าข้างนายโมอีกแล้ว สายตาของเราพลันเหลือบไปเห็นคุณป้าบ้านตรงข้ามกำลังเปิดประตูออกมาพอดี ถ้าปล่อยไว้แบบนี้รับรองว่าแกต้องสังเกตเห็นเรากับโมแน่ๆ แล้วยิ่งป้าแกขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนช่างนินทาอยู่แล้วด้วย ขืนปล่อยให้ตัวเองตกเป็นหัวข้อเม้าท์มอยของแกคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ พอคิดได้แบบนั้น ร่างกายของเราจึงตอบสนองไวเท่าความคิด ดึงร่างของโมให้หลบเข้ามาในบ้าน พร้อมกับผลักบานประตูปิดทันทีเพื่อหลบเลี่ยงให้พ้นจากสายตาของคุณป้า

และนั่นทำให้เรากับโมได้มาอยู่ใกล้ชิดกันสองต่อสองในบ้านหลังนี้อีกครั้ง....

แม้ว่าตอนนี้เราจะสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดเป็นชุดเดรสกระโปรงบานคลุมเข่าแล้วก็ตาม แต่ไม่รู้ทำไม... พอถูกสายตาเจ้าเล่ห์ของโมจ้องมองมาตรงๆ เรากลับรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพล่อนจ้อน เหมือนกับโดนอีกฝ่ายอ่านใจเราได้ทะลุปรุโปร่ง จนต้องรีบใช้สองมือปกปิดเรือนร่างของตัวเองเอาไว้โดยอัตโนมัติ

“นี่พี่อ๊อฟไปต่างจังหวัดอีกแล้วเหรอครับ?” โมเอ่ยปากโยนหินถามทางขึ้นมาทันที ก่อนจะค่อยๆ เดินสำรวจไปรอบๆ ห้องเหมือนว่ากำลังอยู่ในบ้านตัวเอง
“เปล่านี่ พี่เค้าก็อยู่ออฟฟิศตามปกตินั่นแหละ” เราพยายามแกล้งลักไก่
“อย่าหลอกกันเลยครับ ผมรู้นะ ว่าพี่อ๊อฟไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้ว” โม้ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทัน

นั่นไง... สรุปว่าอีตานี่ก็แค่รอจังหวะให้มั่นใจจริงๆ ว่าพี่อ๊อฟไม่อยู่บ้าน แล้วจึงกล้าที่จะรุกเข้ามาหาเราอีกสินะ แผนเยอะนักนะหล่อน.... พอเจอแบบนี้ก็เล่นเอาเราแอบหวั่นๆ ขึ้นมาเหมือนกัน เพราะรู้ดีว่าช่วงหลังๆ นี้ตัวเองดูจะหื่นง่ายมากเป็นพิเศษ ยิ่งพึ่งจะอารมณ์ค้างมาจากการช่วยตัวเองเมื่อวันก่อน ขืนโดนตาโมจู่โจมขึ้นมาตอนนี้ เห็นทีคงยากที่จะต้านทานได้แน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว เราก็ยังพยายามทำใจดีสู้เสือกลับไป

“ไหนว่ามีอะไรจะคุยกับพี่ไง รีบๆ เข้าเรื่องเลยได้รึเปล่า?” เราถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกระด้างไว้ในที
“โธ่... ทำไมพี่พัชเย็นชากับผมจังเลยครับ ทั้งๆ ที่เราเองก็ 'สนิทกัน' ขนาดนี้แล้วแท้ๆ” โมเอ่ยหยอกมาแรงๆ
“นี่... พูดให้มันดีๆ นะ ถึงยังไงพี่ก็โตกว่าเธอ จะล้อเล่นอะไรก็ให้มีขอบเขตกันบ้าง” เราเอ็ดออกไปอย่างไม่พอใจ

“คนเราจะชอบกัน... อายุมันสำคัญด้วยเหรอครับ? หรือพี่จะบอกว่าพี่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับผมซักนิดเลยเหรอ?” คำถามของโมเหมือนตีแสกหน้าเราเต็มๆ จะเอ่ยปฏิเสธออกไปก็พูดได้ไม่เต็มปาก ก็เมื่อวานนี้เรายังพึ่งจะแอบช่วยตัวเองโดยจิ้นถึงน้องมันอยู่เลย...
“พอเหอะ พี่ว่าโมเลอะเทอะใหญ่แล้วนะ” เราพยายามตอบบ่ายเบี่ยงแบบไม่กล้าสบตา

“ผมชอบพี่พัชจริงๆ นะครับ... พี่รู้รึเปล่า ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นมันทำให้ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย แล้วผมก็รู้ด้วยว่าพี่เองก็มีความสุขไม่แพ้กัน ถึงพี่จะพยายามปฏิเสธก็เหอะ แต่ร่างกายพี่มันก็ฟ้องออกมาหมดแล้ว... ผมรู้ดีครับว่าพี่เองก็มีครอบครัวอยู่แล้ว และก็ไม่ควรจะไปวุ่นวายอะไรกับพี่อีก แต่ผมห้ามใจไม่ไหวจริงๆ เวลาได้เห็นหน้าพี่ทีไร ในหัวผมก็เฝ้าคิดแต่อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆ อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับพี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้...”

โมเอ่ยปากพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกมาจนหมดเปลือก มันเป็นความรู้สึกที่แสนจะผิดที่และผิดทาง แต่กลับฟังดูอ่อนหวานและงดงามเสียจนเราเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปยังไงดี ทั้งๆ ที่เคยตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องยุติ และตัดขาดความสัมพันธ์กับน้องมันแบบจริงๆ จังๆ ให้ได้ แต่พอเจอลูกอ้อนแบบนี้เข้าก็ชักจะเป๋ๆ ไปเหมือนกันค่ะ

“แต่ว่า...” ในหัวเรามีแต่ความสับสน รู้สึกเหมือนสมองเบลอไปหมด พอเห็นเราได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ โมจึงชิงจังหวะพูดขึ้นมาอีก
“ผมขอโทษที่ลืมตัวทำเรื่องแย่ๆ ลงไป ถ้าพี่พัชจะเกลียดผม จะโกรธผม จนไม่อยากเห็นหน้าผมอีก ผมก็เข้าใจดี ผมแค่อยากให้พี่รับรู้ความรู้สึกของผมบ้าง... ก็เท่านั้นเอง” คำพูดของโมแฝงความรู้สึกผิดหวังและตัดพ้ออยู่ในที แววตาดูเศร้าๆ คล้ายกับจะร้องไห้

“ไม่เอาดิ... โมเล่นพูดแบบนี้พี่ก็ลำบากใจเหมือนกันนะ โมก็รู้สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ถูก... แค่นี้พี่ก็ทำผิดต่อพี่อ๊อฟมามากพอแล้วนะ”
“ถ้าพี่เค้าไม่รู้ มันก็คงไม่เป็นปัญหารึเปล่าครับ... ถ้าพี่ไม่พูด ผมไม่พูด... เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นแค่ความลับระหว่างเราสองคนเท่านั้น” คำพูดมักง่ายของโมชักจะฟังดูเข้าเค้าขึ้นมาชอบกล

“ผมรู้นะ... ที่ผ่านมาพี่พัชต้องทนเหงาอยู่เป็นปีๆ เวลาที่พี่อ๊อฟไม่อยู่ ผมไม่อยากเห็นพี่ต้องมานั่งเศร้า ใช้ชีวิตเหงาๆ อยู่คนเดียวแบบนั้นอีกแล้ว... ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาให้พี่นะครับ” โมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ขณะที่สองมือก็คว้าหมับเข้ามาที่ต้นแขนทั้งสองข้างของเรา
“ผมชอบพี่นะครับ...”  สายตาของโมดูแวววาวเป็นประกาย ทำให้เราอดเผลอใจอ่อนไม่ได้

และยังไม่ทันที่เราจะได้เห็นคล้อยหรือตอบปฏิเสธอะไร นายโมก็เป็นฝ่ายชิงจังหวะ โน้มตัวเข้ามาประกบจูบปากกับเราเสียก่อน...

“อื้อ!? อื้ออออ!?” เราอุทานอู้อี้อยู่ในลำคอด้วยอารามตกใจ พยายามจะสะบัดตัวดิ้นหนี แต่ถูกท่อนแขนของอีกฝ่ายกอดรัดร่างเอาไว้แน่น ขณะที่ริมฝีปากก็ถูกปลายลิ้นของอีกฝ่าย ทั้งดุนทั้งแซะ พยายามที่จะกดสอดเข้ามาด้านในให้ได้ แม้ว่าเราจะออกแรงเม้มปากเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ เพราะสุดท้ายแล้วปลายลิ้นของโมก็ทิ่มทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเราได้อยู่ดี

พอลิ้นของเราสองคนแตะเข้าหากันปั๊บ เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านของเราก็พลันมลายหายวับไปในทันที... รสจูบอันดูดดื่ม คล้ายกับไปจุดสวิตซ์ความทรงจำถึงเหตุการณ์วาบหวามในคืนนั้น ให้กลับมาแจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง เราเผลอตวัดปลายลิ้นของตัวเองเข้าพัวพันกับลิ้นของโมอย่างลืมตัว ต่างฝ่ายต่างดูดปากแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน จนคล้ายกับว่าไอ้ประโยคที่พึ่งจะโต้เถียงกันไปเมื่อสักครู่นั้น มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน... สารภาพตามตรงว่าตอนที่จูบกันนั้นน่ะ น้ำเดินเลยค่ะ... มันแฉะจนแทบจะทะลุออกมานอกกางเกงในอยู่แล้ว...

เราใช้เวลาตั้งหลักรวบรวมสติอยู่เกือบๆ นาที กว่าที่จะสามารถออกแรงผลักร่างของโมให้ผงะถอยห่างออกไปได้

“โม... เอ่อ.... จะทำจริงๆ เหรอ?” เราพยายามถามเพื่อซื้อเวลา แต่อีตาโมก็เหมือนจะไม่ได้สนใจฟังซักเท่าไหร่ กลับใช้สองมือขยับเข้ามาโอบรั้งร่างของเราเอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับก้มหน้าลงมาจูบปากกันอีกครั้ง ซึ่งพอถึงจุดนี้เราเองก็ใจแตกแล้ว ไม่ได้แสดงอาการต่อต้านใดๆ เหมือนกับครั้งแรกๆ แล้ว ปล่อยให้ปลายลิ้นของโมสอดสำรวจเข้ามาด้านในอย่างเต็มที่ บางจังหวะเรายังเผลอสอดลิ้นกลับเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยเช่นเดียวกัน สองมือของโมก็คอยบีบหมับเข้าที่แก้มก้นของเราไปด้วยอย่างมันเขี้ยว

เราทั้งคู่จูบปากกันอยู่อีกครู่ใหญ่ๆ ก่อนที่โมจะเปลี่ยนมาจูบซุกไซร้เข้าที่ซอกคอของเราอย่างหื่นหิว มือไม้ก็เลื้อยไต่สำรวจเรือนร่างของเราไปทั่ว ทั้งหน้าอก ทั้งบั้นท้าย เราโดนรุกหนักเข้าจนเริ่มรู้สึกหวิวๆ เหมือนในหัวมันล่องลอย เบาๆ เคลิ้มๆ แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังโดนอีกฝ่ายดันร่างจนเอนหงายลงไปบนโซฟา กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่โดนอีตาโมจับถ่างขาอ้าออกกว้าง พร้อมๆ กับมุดเข้ามาดอมดมจิ๊มิ๊ของเราถึงด้านในกระโปรงนี่แหละ!

“อุ๊ย! ว้ายตายแล้ว! โม อย่า! ไม่เอาอย่าเลีย!” เราร้องอุทานเสียงหลง เมื่อถูกริมฝีปากของอีกฝ่าย ประทับจูบเข้ามาที่เป้ากางเกงใน ลิ้นของโมทั้งตวัด ทั้งกดดุนย้ำๆ ไปมาที่บริเวณเนินสามเหลี่ยม จนเป้าเราเปียกชุ่มโชกไปด้วยคราบน้ำลายและคราบน้ำรักที่ทะลักซึมออกมาไม่หยุดหย่อน ก่อนที่โมจะใช้มือแหวกเนื้อผ้ากางเกงในของเราออกไปไว้ด้านข้าง พร้อมกับใช้ปากเล่นงานที่จิ๊มิ๊ของเราแบบตรงๆ

“อ๋อย... สสส ซี้ดดดดส์ โม อืม... มมมมม ยะ... อย่ากดตรงนั้นนนน อุ๊ย ซี้ดส์... ฮืออออ” ปากเราก็คอยร้องห้าม แต่สองมือกลับขยุ้มจิกยึดเส้นผมของโมไว้แน่น พร้อมกับออกแรงกดศีรษะของอีกฝ่ายให้ขยับขึ้นลงไปมาอย่างเมามัน ส่วนโมนั้นก็ไม่ขัดข้อง ยิ่งออกแรงดูดเม้มไปที่ปุ่มกระสันของเราอย่างถึงอกถึงใจ

“อ๊ะ! อ๊ะ... อาห์ โอ๊ย พี่... พี่ไม่ไหวแล้วโม... โอ๊ย.. สสส ซี้ดส์… โอ๊ย... ยยยยย” พอโดนเล่นงานจุดอ่อนได้ไม่กี่นาที เราก็ชักจะทนเสียวไม่ไหว แหกปากร้องครวญครางอย่างหมดสภาพ หน้าขาสั่นกระตุกยิกๆ สองมือจิกลงไปบนเส้นผมของโมแรงๆ เตรียมจะระเบิดอารมณ์ความสุขออกมาอย่างสุดกลั้น...

แต่จู่ๆ อีตาโมกลับหยุดปากขึ้นมาซะอย่างนั้น!!

“ฮื๊อ..?” เราเผลอหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ เหมือนไม่เข้าใจ สายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความสับสน
“พี่พัชยอมผมแล้วใช่มั้ยครับ?” พ่อตัวแสบเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่บริเวณริมฝีปากยังมีคราบน้ำรักของเราเกาะเยิ้มติดอยู่เลย

โอ้โห! เราฟังแล้วหน้าชาขึ้นมาเลยค่ะ นี่ใจคอน้องมันตั้งใจจะถามคาดคั้นเอาคำตอบจากปากเราตรงๆ เลยเหรอเนี่ย? เราได้แต่ยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก ในใจตอนนั้นน่ะยอมรับค่ะ ว่าอยากสุดๆ แล้ว จิ๊มิ๊เปียกชุ่มแบบสุดๆ แต่ติดที่อายน้องมัน เลยไม่กล้าตอบอะไรออกไป

“ถ้าพี่ไม่บอก งั้นผมไม่ทำต่อนะ” โมเอ่ยย้ำอีกรอบ พร้อมกับปลดเปลื้องกางเกงและท่อนล่างของตัวเองออกจนหมด เจ้าหนูขนาดบิ๊กเบิ้มจึงเด้งผงาดท้าทายสายตาของเราอย่างเย้ายวนใจ ความอวบแน่นของแท่งเนื้อตลอดจนถึงปลายหัวที่บานโร่เป็นสีแดงเข้ม มันช่างดูน่ากลัวซะจนเรารู้สึกอึดอัดเหนียวคอไปหมด จนต้องรีบหันหน้าหลบตาเพราะไม่กล้าเผชิญหน้าจ้องมองมันตรงๆ

คำพูดล่าสุดของโมทำให้เรากลับมามีทางเลือกอีกครั้ง ถ้าเราตัดสินใจที่จะหยุด ทุกอย่างก็จะจบลงแค่นี้ แล้วเราก็จะรอดพ้นจากสถานะของการแอบคบชู้ลับหลังแฟนตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องนึกสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น และหากเป็นสถานการณ์ปกติแล้ว เราย่อมเลือกข้อนี้อย่างไม่ลังเลแน่นอน

แต่อีกใจนึงเราก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ เสียดายที่อารมณ์ทุกอย่าง มันถูกปลุกเร้าปูทางมาจนจวนเจียนจะเสร็จสิ้นอยู่รอมร่อ ขอแค่ต่อเวลาออกไปอีกนิดเดียว เราก็จะได้พบกับความสุขหรรษาที่มายืนรออยู่ตรงหน้านี้แล้ว ยิ่งเห็นเจ้าหนูของโมมันกระตุกยุกยิกยั่วเย้าอยู่เบื้องหน้า หัวใจของเราก็ยิ่งเต้นสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ มันเป็นช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย เหมือนกับเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนที่ใครซักคนจะตัดสินใจเดินหน้าทำอะไรร้ายแรงๆ ซักอย่าง โดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะไม่สามารถหันหลังและย้อนกลับไปทางเดิมได้อีก

“โม... พี่ทำไม่ได้จริงๆ พี่ไม่อยากทำผิดลับหลังพี่อ๊อฟอีกแล้ว” น้ำเสียงของเราแหบพร่าจนแทบไม่ได้ยิน
“พี่ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ ปล่อยให้ผมเป็นคนทำเอง นะครับพี่ เดี๋ยวเดียวก็จบแล้ว” โมเอ่ยปากเล่นคำอย่างหัวไว จนเราไม่รู้จะสรรหาเหตุผลใดๆ มาเถียงกับมันได้อีก สายตาก็เผลอจับจ้องไปที่อาวุธร้ายประจำกายของนายโมเหมือนถูกมนต์สะกด

เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว... เพื่อนๆ ก็คงพอจะรู้แล้วใช่มั้ยคะว่าเราตัดสินใจเลือกทางไหน...

เราตัดสินใจข่มความอาย หลับตาพยักหน้าไปเบาๆ แทนคำตอบ รู้สึกเจ็บใจและอับอายแบบสุดๆ ที่ต้องยอมพ่ายแพ้ให้แก่ความต้องการลึกๆ ของร่างกาย ซึ่งแม้จะไม่ต้องลืมตาดูก็พอจะรู้ว่าอีตาโมนั้น คงกำลังอมยิ้มชอบใจอยู่เป็นแน่

“ถ้างั้น... ผมขอเย็ดพี่เลยนะครับ” โมพูดพร้อมกับแยกขาของเราออก ดึงรูดกางเกงในผ้ายืดสีครีมออกมากองอยู่ที่ข้อเท้า ก่อนจะขยับตัวเข้ามาทาบประจำที่ เตรียมจะดันแท่งเนื้อเข้ามาในตัวเรา แต่โดนเรารีบชิงร้องห้ามเสียก่อน

“เดี๋ยวโม! ใส่ถุงก่อน!” เราร้องถามหาถุงยางด้วยน้ำเสียงตกใจ เล่นเอาโมหน้าเสียขึ้นมาทันควัน
“โทษครับพี่ ผมไม่ได้เตรียมมา... แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมสะอาดแน่นอน รับรองได้” โมรีบพูดให้เราสบายใจ แต่ปัญหามันไม่ใช่เรื่องนั้นน่ะสิ

“ไม่เอา มันเสี่ยง” เราเองก็ยืนกรานไม่ยอมเหมือนกัน ก่อนหน้านี้แค่ครั้งเดียวก็เสี่ยงพออยู่แล้ว ไหนจะเรื่องโรค ไหนจะเรื่องเสี่ยงท้องอีก นี่ชั้นก็อุตส่าห์ยอมให้แกขนาดนี้แล้วนะอีตาบ้า!!
“เดี๋ยวผมเอาออกมาเสร็จข้างนอกก็ได้ครับ” โมยังพยายามดันทุรังไม่เลิก
“งั้นมานี่มา” เราค่อยๆ ชันกายลุกขึ้นพร้อมกับรูดกางเกงชั้นในของตัวเองออกจนพ้นข้อเท้า ก่อนจะเดินพาโมขึ้นไปบนห้องนอน

“เอ้า! ใส่นี่ก่อน” เราหยิบกล่องถุงยางที่ยังไม่ได้แกะจากในลิ้นชักแล้วโยนส่งให้โม อีกฝ่ายรับไปแกะอย่างรวดเร็วก่อนจะสวมมันเข้ากับหว่างขา แต่จนแล้วจนรอดก็ใส่ไม่เข้าซักที
“พี่พัชครับ เอ่อ... มีไซส์ใหญ่กว่านี้มั้ยครับ? อันนี้มันเล็กไปหน่อย” คำพูดของโมทำให้เราพึ่งนึกอะไรขึ้นได้

ตายล่ะหว่า ก็เจ้าหนูของโมมันใหญ่เบิ้มกว่าของแฟนเราตั้งเยอะเลยนี่นา แล้วมันจะใช้ถุงยางไซส์เดียวกันได้ยังไง พอรู้แบบนี้แล้วเราก็เลยจนปัญญาเหมือนกัน อุตส่าห์กลั้นใจเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ดันมาตกม้าตายเอาตรงนี้เนี่ยนะ?

“ไว้ใจผมเถอะครับพี่ ผมปลอดภัยจริงๆ เดี๋ยวค่อยเอาออกมาแตกข้างนอกก็ได้” โมพยายามเอ่ยปากโน้มน้าวเราอีกครั้ง ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ทนใจแข็งต่อไปอีกไม่ไหว ความอยากมันทำให้เราตัดสินใจยอมพยักหน้าตอบรับไปในที่สุด
“ก็ได้ แต่ว่าต้องเอาออกมาเสร็จข้างนอกนะ ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆ ด้วย”
“งั้น... ตามนี้นะครับ” พอเห็นว่าเราโอเคแล้ว โมจึงใช้สองมือดันไหล่ของเราให้เอนหงายลงไปบนเตียง

ชายชุดกระโปรงของเราถูกโมจับถลกสูงขึ้นไปกองอยู่เหนือเอว เปิดเผยให้เห็นเนินเนื้อสาวอย่างชัดเจน สภาพของมันตอนนี้แทบจะกลายเป็นแอ่งน้ำขังอยู่แล้ว เราพยายามจะใช้มือบังปิดเอาไว้ แต่ตาโมก็รีบคว้าข้อมือของเราแล้วใช้แรงง้างออกไปอย่างง่ายดาย พอเห็นว่าคงจะขัดขืนอะไรไม่ได้แล้ว เราก็เลยยอมปล่อยเลยตามเลยไปในที่สุด

โมใช้มือดันหน้าขาของเราให้งอสูงอยู่ในท่าตัวเอ็ม ก่อนจะค่อยๆ จับท่อนเนื้อจ่อจรดเข้าไปที่ปากร่องตรงกลางจิ๊มิ๊ พอตั้งหลักได้เข้าที่แล้ว โมก็ออกแรงส่งเจ้าท่อนเนื้ออวบอ้วนทิ่มเข้ามาแบบตรงๆ

“อุ๊! อู๊ยยยย... ยยยย บะ... เบาๆ โอ๊ย.... มันแน่น! ฮือออออ อย่าพึ่งกดเข้ามา... าาาาา” เราต้องรีบร้องห้ามเสียงหลง เพราะนายโมเล่นกระทุ้งกระแทกเข้ามาในร่างของเรารวดเดียวแบบไม่บันยะบันยังจนมุดเข้ามาเกินครึ่งลำ เล่นเอาเราทั้งเจ็บทั้งจุกจนแทบจะน้ำตาเล็ด
“อู๊ยสสส... ซี้ดส์.. สสสส ค่อยๆ ก่อนซี่... พี่เจ็บนะโม” เราได้แต่ร้องครวญครางหงิงๆ เพื่อขอความเห็นใจ ซึ่งก็พอจะทำให้โมเริ่มที่จะเพลาๆ เรี่ยวแรงลงไปบ้าง เปลี่ยนมาใช้บั้นเอวบดโม่กดเข้ามาแบบเนิบๆ และนุ่มนวลแทน

“ดีขึ้นมั้ยครับ?” โมเอ่ยถาม ขณะที่สะโพกก็คอยกดโม่คลึงไปด้วย
“อือ... อออ ดะ.. ดีจ้ะ แต่ว่า... พี่จุกจังเลย มันแน่นไปหมด... ของโมใหญ่เหลือเกิน” เราระบายความรู้สึกออกไปตามตรง
“ทนอีกนิดนะครับ จะสุดแล้ว.... ฮึบ.. อืมมมม”
“อ๊ะ! อื้อ.... สสส... ซี้ดส์.. สส อื้อออ.. ออออ!” เราร้องครวญครางออกมายาวๆ ในจังหวะที่โมออกแรงส่งลำหอกกดเข้ามาจนมิดด้าม

พออะไรๆ มันเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว นายโมก็เริ่มต้นเดินเครื่องทันที ค่อยๆ ขยับบั้นเอว ส่งไอ้หนูมุดเข้ามุดออกในร่างของเราเป็นจังหวะ ไล่ระดับจากเกียร์ 1... เกียร์ 2... เกียร์ 3... ไปจนถึงเกียร์ 4 ซึ่งพอมาถึงตรงนี้ ทั้งห้องก็เหลือเพียงแค่เสียงเนื้อของเราสองคนที่ตีกระทบกันจนดังสนั่น ปั้บ..! ปั้บ..! ปั้บ..! ปั้บ...!! ปั้บ...!!! สลับกับเสียงร้องครวญครางโหยหวนด้วยความเสียวซ่านของเราเท่านั้นเอง

ชุดกระโปรงของเราตอนนี้ ท่อนบนถูกถลกลงมากองคาไว้กลางลำตัว ยกทรงถูกเลิกขึ้นไปวางอยู่เหนือหน้าอก ส่วนท่อนล่างก็กำลังโดนท่อนเนื้อของนายโม เจ้าเด็กแสบออกแรงขย่มเราในท่านี้ได้พักนึงก็เหมือนจะเริ่มๆ เบื่อ ใช้มือจับพลิกร่างของเราให้นอนตะแคงหันข้าง ส่วนตัวเองก็ประกบทาบเข้ามาจากทางด้านหลัง ก่อนจะออกแรงเย่อเราอีกรอบ

“อ่ะ... อ๋าย.. ยยยย สสสส ซี้ดส์ อืม.. มมมมม อ่ะ... อ๋าาาา... อ๋าาาาาาา... าาาาาาา!!” เราครางเสียงหลงไม่เป็นภาษา รู้สึกคับตึงข้างในร่างกายแบบสุดๆ เนื้อตัวสั่นกระเพื่อมไปมาตามแรงกระแทกของอีกฝ่าย หน้าอกหน้าใจตอนนี้ก็ถูกฝ่ามือของนายโมขยำขยี้เล่นตามใจชอบ

ผิวกายของเราเสียดสีเข้าหากัน ทั้งภายในและภายนอก... มันเป็นความรู้สึกสุขเสียวที่มาพร้อมกับความหวาดวิตกและลุ้นระทึก... ทุกๆ ครั้งที่ดุ้นเนื้อของโมกดทิ่มคว้านเข้ามาในร่าง มันทั้งเสียว ทั้งจุกจนราวกับว่าร่างของเรากำลังจะฉีกขาดออกเป็นสองซีก จะหนีก็หนีไม่ออก ทำได้เพียงแค่ดิ้นกระแด่วๆ ไปมาอยู่กับที่

“เสียวหีมั้ยครับพี่พัช ควยผมอร่อยสะใจดีมั้ย?” ตาโมเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย ฟังดูโรคจิตยังไงชอบกล
“อ๋าาาาา! สะ... เสียวสิ โอ๊ย... ทำไมมันเสียวแบบนี้?” ความเสียวที่กำลังครอบงำ ทำให้เราเผลอหลุดปากตอบออกไปอย่างลืมตัว
“เสียวตรงไหนครับ ตรงหีเหรอ?” โมเอ่ยถามย้ำคำ ค่อยๆ ชะลอความเร็วลง เหมือนจงใจจะแกล้งยั่วเรา

“ก็... ก็ตรงนั้นนั่นแหละ...โอ๊ย! พี่เสียวหี...! โมทำแรงๆ ซี่...” สุดท้ายเราก็ต้องยอมพ่ายแพ้แก่อารมณ์หื่นของตัวเองอย่างราบคาบ เอ่ยปากอ้อนวอนขอให้อีกฝ่ายปรนเปรอความสุขทางเพศให้อย่างหมดอาย
“จัดให้ฮะ” พอสิ้นคำ โมเลยกลับมาตั้งใจตะบันอัดใส่ร่างของเราแบบเน้นๆ จนเราแทบจะกระเด็นกระดอนหล่นลงมาจากเตียง

จากที่เคยประกบชิดติดกันอยู่ในท่านอนตะแคง รู้ตัวอีกทีร่างของเราก็พลิกมาอยู่ในท่านอนหมอบฟุบคว่ำไปกับเบาะ โดยมีร่างของโมคอยตามกระทุ้งอยู่ด้านหลัง

“นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! ชอบใช่มั้ย? ชอบโดนควยผมใช่มั้ย?” โมถามเร้า พร้อมกับออกแรงกระทุ้งแบบเน้นๆ จนเกิดเป็นเสียงดังสนั่น
“อาห์.... ชะ... ชอบ... ชอบซี่ อ๊ะ! อ๋างงง.. งงงง โอ๊ย แรงๆ แบบนั้นแหละ” เราครางตอบอย่างสะใจ
“ให้ผมเย็ดพี่แบบนี้... ทุกวันเลยนะ?”

“อื้อออออ! อื้มมมมมมมม!!” ความสุขเสียวที่ได้รับ ทำให้เราโยนเรื่องเหตุผลและความเหมาะสมต่างๆ ทิ้งไปจนหมดสิ้น แค่หลับหูหลับตาตอบเออออกลับไป พลางปล่อยตัวปล่อยใจให้โมได้ขึ้นควบขย่มตามใจชอบ
“หีฟิตๆ แบบนี้... ผมจะเย็ดให้พี่ลืมผัวไปเลย” จากเด็กหนุ่มขี้เล่นพูดจาสุภาพที่เคยรู้จัก มาบัดนี้กลับแปลงร่างไปเป็นชายหนุ่มบ้ากาม ที่คอยพร่ำวาจาหยาบโลนใส่เราอย่างไม่นึกเกรงใจกันซักนิด หรือนี่ต่างหาก... คือตัวตนที่แท้จริงของโม?

“อ๊ะ! อ๋อย... สสส ซี้ดส์ อ๋อยย.. ยยยย ไม่ไหว... มะ... ไม่ไหวแล้ว.. วววว” เราแหกปากร้องครางดังลั่น เมื่อโดนโมอัดกระแทกแรงระรัว จนตัวลอยละล่องขึ้นสวรรค์ไปก่อนหนึ่งรอบอย่างรวดเร็ว

ถึงจะเห็นว่าเรานั้นเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนโมจะไม่ได้สนใจเลยซักนิด ยังคงตั้งหน้าตั้งตาซอยไม่ยั้ง หนำซ้ำยังดูเหมือนจะยิ่งเร่งความเร็วขึ้นไปเสียอีก เนื่องจากว่าพ่อตัวดีเองก็กำลังใกล้จะเข้าเส้นชัยเหมือนกัน

“ซี้ดส์... สสส์ หีพี่เย็ดมันสะใจเหลือเกิน... ทั้งรัดทั้งตอดจนผมจะแตกอยู่แล้วเนี่ย อู๊ย.. ยยยย” โมครวญครางพร่ำเพ้ออย่างสาแก่ใจ จับช้อนขาของเราลอยค้างกลางอากาศ พร้อมกับเร่งสปีดกระดกบั้นท้ายอัดยิกๆๆ จนกรรมการแทบจะนับคะแนนกันไม่ทัน
“อ๊ะ! อ๋า.... าาาา ซี้ดส์... สสส โอ๊ยโม! พอก่อน... พี่มะ.. ไม่ไหวแล้ว... ยะ.. อย่าพึ่ง... โอ๊ยยยย! พี่จะขาดใจอยู่แล้ว.. วววววว”

เราแหกปากร้องลั่น เมื่อร่างกายได้เผชิญหน้ากับความสุขเสียวในแบบที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มันเป็นรสชาติความสุขที่ถาโถมเข้ามาแบบต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจะถึงจุดสุดยอดไปครั้งนึงแล้ว แต่พอโดนโมกระแทกต่อไปเรื่อยๆๆ มันก็ทำให้อารมณ์หื่นของเราค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นมาอีก จนกระทั่งจวนเจียนจะระเบิดออกมาเป็นครั้งที่สองอยู่รอมร่อ เสียงเนื้อของเราสองคนตีกระทบกันดังปั้บๆๆๆ ราวกับอาวุธร้ายที่เข้าห้ำหั่นกันอย่างไม่หวั่นเกรง เพียงแต่เสียงกรีดร้องที่เกิดขึ้นนั้น หาได้มาจากความเจ็บปวดเพราะบาดแผลไม่ แต่มาจากความรู้สึกสุขเสียวที่ยากเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

“อ่ะ... อ๋าาา!! อ๋าาาาาา!!! พี่เสร็จ... เสร็จอีกแล้ว... วววววว!!” เราหวีดร้องออกมาสุดเสียง เนื้อตัวเกร็งกระตุกเฮือกๆ เมื่อร่างกายถูกกระตุ้นจนพุ่งถึงจุดสุดยอดไปเป็นครั้งที่สอง ก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบทะยานเข้าเส้นชัยตามเรามาแบบติดๆ
“อุ๊บ! ไม่ไหวแล้วครับพี่” โมครวญครางเสียงหอบกระเส่า รีบขยับตัวถอนท่อนเนื้อหลุดออกมาดังผั้วะ ก่อนจะรีบปีนขึ้นมาคุกเข่าคร่อมประจำที่อยู่เหนือใบหน้าของเราอย่างรวดเร็ว

เรารู้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แต่ด้วยความที่ร่างกายพึ่งจะทะยานขึ้นถึงจุดสุดยอดซ้ำสองไปแบบหมาดๆ ทำให้เราหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะดิ้นรนขัดขืน หรือขยับตัวหลบหนีใดๆ ทั้งสิ้น ได้แต่รีบหลับตาปี๋ กลั้นใจรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

ก่อนที่หยดน้ำอุ่นๆ หนืดๆ จะพุ่งกระทบเข้าที่แก้มของเราแบบเต็มๆ จนรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั่วทั้งแก้ม อันเป็นสัญญาณยุติเกมกามครั้งล่าสุดนี้อย่างเป็นทางการ...

หรืออย่างน้อยก็เฉพาะสำหรับรอบนี้ล่ะนะ.....    


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น