วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566

เส้นทางเจ้าสาว #2

 
 
 


==================

กว่าที่ชายและหญิงคู่นึง จะได้เข้าหอลงโลง เอ้ย!! ลงโรงร่วมกันเป็นมั่นเป็นเหมาะน่ะ รู้มั้ยคะว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากไม่น้อยไปกว่าการสอบเอนทรานซ์ หรือการไปสมัครงานในบริษัทใหญ่ๆ เลยก็ว่าได้ มันมีความกดดันทั้งในแง่ที่ว่า นี่คือการประกาศให้เพื่อนฝูงพี่น้องและโลกได้รับรู้ว่า เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันนะ แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากให้งานแต่งงานของตัวเองออกมาดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อันนี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องของการจัดงานให้ใหญ่โตหรือสินสอดอลังการงานสร้างแบบดารานะคะ แต่หมายถึงอยากให้พิธีการต่างๆ แขกเหรื่อที่มาในงาน รวมถึงโมเมนท์สำคัญๆ เกิดขึ้นอย่างที่ตั้งใจหวังไว้ และกลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่จะฝังอยู่ตลอดชีวิตคู่ของเรานั่นเอง

แน่นอนค่ะ สำหรับเจ้าสาวอย่างกุ๊กเอง กว่าที่จะได้ปรากฏตัวในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดสะอ้านนั้น ก็ย่อมต้องมีผ่านกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ มากมาย เพื่อที่จะขัดเกลาให้ภาพของเจ้าสาวในวันงานนั้น ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาผิวพรรณ กระชับสัดส่วน เตรียมหาชุดเจ้าสาวสวยๆ ที่ถูกใจ ตลอดจนถึงการจัดเตรียมของชำร่วยต่างๆ เพื่อเอาไว้แจกให้แขกเหรื่อ นี่ยังไม่นับพวกงานยิบย่อยที่ดูจะไม่จำเป็นอย่างงานปาร์ตี้สละโสด ที่ยัยมินกับยัยเอ๋เพื่อนซี้เป็นคนจัดหาดูแลให้ ซึ่งก็ดูจะตื่นเต้นซะยิ่งกว่าเจ้าของงานอย่างกุ๊กเสียอีก ชักจะระแวงๆ แล้วนะ ว่ายัยสองคนนี้ต้องมีอะไรแสบๆ มาแกล้งกุ๊กแน่ๆ เลย

ยิ่งยัยมินสาวเปรี้ยวจอมแสบนี่ยิ่งอันตราย ไว้ใจไม่เคยได้เลยค่ะ เคยมีตอนที่เราไปเที่ยวผับด้วยกันเมื่อหลายเดือนก่อน ยัยนี่พากุ๊กไปนั่งร่วมโต๊ะกับแก๊งหนุ่มๆ แปลกหน้า แล้วหนีไปกับหนุ่มหล่อในกลุ่มนั้นสองต่อสอง ทิ้งให้กุ๊กนั่งเอ๋ออยู่คนเดียวกลางวง ดีนะว่าตอนนั้นยังไม่เมาเท่าไหร่ เลยรีบชิ่งขอตัวออกมาได้ ยัยมินนะยัยมิน หน้าตาก็ดี โปรไฟล์ก็ไม่ได้บ้านๆ ดันชอบทำตัวก๋ากั่นไม่แพ้ผู้ชาย นี่ถ้าไม่ติดว่าเราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถมนะ แม่จะโทรไปด่ายันเช้าเลยคอยดู

ส่วนยัยเอ๋นี่ก็เพื่อนกลุ่มเดียวกันสมัยมหาลัยฯนั่นแหละค่ะ สาวแบ๊วหน้าหวาน ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย บางทีก็โก๊ะซะจนหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นสาวน่ารักร่างเล็ก แต่หน้าอกหน้าใจของเอ๋ดันบึ้บบั้บสวนทางกับขนาดตัวจนยัยมินต้องอิจฉา แกล้งบีบแกล้งจับอยู่บ่อยๆ เลยล่ะค่ะ ก็แหม ในกลุ่มเพื่อนซี้ 3 คนนี้ กุ๊กเองด้วยความที่เป็นคนอวบๆ แม้ว่าจะผอมลงไปแล้ว แต่ตรงอกก็ยังเด่นชัดด้วยขนาด 36C ขณะที่อีกคนตัวเล็กกระจิ๊ดริด แต่ดั๊นมีไขมันอุดตันอยู่ในปอด ปาเข้าไปตั้ง 32D แน่ะ ขณะที่ยัยมินคนที่เปรี้ยวที่สุด จัดจ้านที่สุดในแก๊ง กลับคอยพกไม้กระดานติดตัวด้วยไซส์ 33A ซะนี่ ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้ามัน ซึ่งหลังจากที่กุ๊กเล่าเรื่องแต่งงานให้ทั้งสองคนฟัง ยัยมินก็รีบเสนอคอร์สเสริมสวยสำหรับเจ้าสาวให้ทันที เล่าให้ฟังเป็นฉากๆ ว่าต้องเตรียมทำอะไรบ้าง ต้องไปสปาผิวที่ไหนบ้าง เรียกว่าเล็คเชอร์กันแบบฟรีๆ เลย

“ทำไมมึงรู้เยอะจังวะมิน ทั้งที่ไม่เห็นจะมีผั.. เอ้ยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าซักที”
“อ้าวอีกุ๊ก! ปากเหรอน่ะมึง ทำไม? กูจะศึกษาลู่ทางเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าบ้างไม่ได้รึไง ทีมึงกับเอ๋ ไม่เห็นเคยคิดสนใจจะมีผัวกัน รู้ตัวอีกทีแม่งจะสละคานทิ้งกูกันหมด เนี่ย! ดูซิ อีนังเอ๋แม่งป่องเอาป่องเอา คนล่าสุดในท้องนี่ก็เดือนกว่าแล้วนะมึง อีพวกนี้นี่ แรดเงียบกันทั้งนั้น ชิ!” มินบ่นไม่หยุดพลางเอามือลูบท้องเอ๋ไปด้วย
“ก็มึงเรื่องมากเองนี่หว่า พี่เจมส์ที่ว่าหล่อนักหล่อหนา มึงก็ดันถอยห่างออกมาเองไม่ใช่รึไง” ยัยเอ๋ถองเข้าไปหนึ่งดอก
“โห่มึง ก็พี่เค้าแม่งเจ้าชู้ขนาดนั้น ใครจะกล้าไปเสี่ยงคบจริงจังด้วยวะ นี่กูพึ่งจับได้ไม่นานมานี้เองนะ ว่ามันแอบดอดไปกิ๊กกับเด็กฝึกงานที่บริษัทตัวเองอ่ะ คิดดูดิมึงงงง” คำพูดของมินพาลให้กุ๊กอดนึกไปถึงพี่โจ้ ว่าที่เจ้าบ่าวตัวเองไม่ได้ เออเนาะ ผู้ชายหน้าตาดีนี่ ส่วนใหญ่ก็มาแนวนี้ทั้งนั้น แถมพี่โจ้เองก็มีคดีให้กุ๊กจับได้คาหนังคาเขาเสียด้วย ถึงหลังๆ จะดูสงบเสงี่ยมลงไปแล้วก็เถอะ แบบนี้แล้วกุ๊กจะคุมพี่เค้าได้ตลอดรอดฝั่งมั้ยเนี่ย เฮ้อ คิดแล้วก็กลุ้มใจเปล่าๆ

กุ๊กขอตัวแยกจากเพื่อนหลังจากนั่งเม้าท์กันอยู่ในร้านเบเกอรี่เป็นชั่วโมงๆ หอบเอาใบปลิวคลีนิคเสริมสวยชั้นนำที่ยัยมินแนะนำกลับบ้านมาเป็นปึกๆ อย่างกับแนวข้อสอบ กะว่าจะเอามาให้พี่โจ้ช่วยเลือกให้ซักหน่อย เพราะเลือกคนเดียวคงตัดสินใจไม่ถูกแน่

“พี่ว่าแพ็คเกจสปากับนวดเสริมสวยก็โอเคนะ ราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย” พี่โจ้พูดขึ้น ในมือถือโบรชัวส์ของร้านสปาชื่อแปลกๆ มาให้กุ๊กดู
“อืม หนูก็ว่าจะลองดูพวกนี้แหละ เห็นว่ามันมีขัดผิวฟรีให้ด้วย” กุ๊กเอื้อมมือไปหยิบใบปลิวนั้นมาดูแบบละเอียด
“เออ จะว่าไป ถ้ากุ๊กอยากไปนวดบำรุงผิวอ่ะ พี่จะบอกว่าพี่รู้จักเพื่อนที่ทำพวกนี้อยู่นะ จะลองไปดูก่อนมั้ยล่ะ เผื่อว่าจะขอมันลดครึ่งราคาได้ด้วย ยังไงก็คนกันเอง ถ้าไม่ดีเราก็ค่อยเปลี่ยนไปทำที่อื่นแทนก็ได้ ถือซะว่าทดลองหลายๆ ที่”
“โห ลดครึ่งราคาเลยเหรอพี่ นี่เพื่อนหรือสาวที่เคยคั่วกันแน่เนี่ย บอกมาเลยนะ” กุ๊กแกล้งชี้นิ้วทำท่าดุๆ ใส่พี่โจ้
“เพื่อนคร้าบเพื่อน แหม คิดแง่ร้ายตลอดเลยนะเรา เพื่อนผู้ชายน่า ไอ้หนึ่งนี่รู้จักกันตั้งแต่สมัยม.ต้นแล้ว คุยได้ สบายมาก”
“โอเค งั้นลองไปดูก็ได้ ถ้าได้ลองฟรีซักทีก็ดีดิเนอะ ฮิฮิ” กุ๊กตกปากรับคำพี่แกไปง่ายๆ โดยไม่ได้รู้เลยว่า อีตาพี่โจ้จอมแสบเนี่ย มันวางแผนแกล้งทรมานแฟนตัวเองเอาไว้แบบแสบทรวงสุดๆ

พี่โจ้พากุ๊กมาถึงหน้าร้านนวดสปาแถวๆ ย่านเอกมัย ป้ายหน้าร้านเขียนชื่อตัวหนังสือฟ้อนท์ลายไทยตวัดโค้งเอาไว้ว่า 'La-Ong-Fong Massage & Spa' ตัวร้านตกแต่งเป็นแบบเดียวกับร้านสปาเสริมความงามทั่วไป ประตูกระจกใสติดเคลือบเอาไว้ด้วยสติกเกอร์ฝ้าสีเทา เว้นพื้นที่ให้พอมองเห็นเข้าไปในร้านได้ในบางมุม ด้านในเป็นห้องรับลูกค้า มีโซฟายาวสีขาวตั้งเรียงกันเป็นคู่ๆ พร้อมชุดโต๊ะรับแขกและตู้เก็บนิตยสารวางเรียงรอไว้ครบครัน ลึกเข้าไปด้านหลังมีการแบ่งสัดส่วน มีทั้งห้องนวดรวมแบบนวดแผนไทย สำหรับลูกค้าที่มานวดตัว นวดเท้า หรือนวดคอบ่าไหล่เพื่อคลายปวดธรรมดา รวมไปถึงห้องนวดแบบส่วนตัว สำหรับลูกค้าที่จะมานวดเสริมความงาม และทำสปาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งพอดูราคาคอร์สแล้วก็แอบสะอึกเหมือนกันนะเนี่ย แต่พอพี่โจ้ยืนยันว่าครั้งนี้ได้ทดลองนวดฟรีแน่นอน ก็เลยค่อนข้างใจชื้นขึ้นมาหน่อย พี่หนึ่ง เจ้าของร้านเดินออกมาทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเอง เราพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนที่พี่โจ้จะขอแยกไปคุยกับพี่หนึ่งรำลึกความหลังกันสองคน โดยให้พนักงานหญิงพาตัวกุ๊กไปที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวนวดคอร์สใหญ่แบบจัดเต็ม

น้องปลา พนักงานนวดสาววัยรุ่นเดินพากุ๊กเข้ามาถึงห้องนวดด้านใน ภายในห้องมีโซฟายาวตั้งรออยู่กับชุดรับแขก มีคอมพิวเตอร์พีซีตั้งอยู่สำหรับให้ลูกค้าที่มารอได้ใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตไปพลางๆ โห ครบเครื่องเหมือนกันนะเนี่ย ขณะที่ตัวห้องสำหรับนวดจริงๆ นั้นต้องเดินเข้าไปด้านในอีกที มีผนังและประตูกั้นปิดทึบ ตรงกลางติดกระจกบานใหญ่ยาวครอบผนังสองฝั่งเอาไว้ ซึ่งตอนแรกกุ๊กเองก็นึกว่ามันเป็นแค่กระจกเงาสำหรับเอาไว้ยืนส่องเช็คความเรียบร้อยเฉยๆ ซะอีก ที่ไหนได้ มันดันเป็นกระจกเงาสะท้อนแบบด้านเดียว มองเห็นเฉพาะจากภายใน ซึ่งคนที่รออยู่ข้างนอก จะไม่สามารถมองเข้าไปเห็นด้านในของห้องนวดได้เลย

น้องปลาพากุ๊กเข้ามาในห้องแต่งตัวด้านในเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับเริ่มต้นคอร์ส โดยค่อยๆ ถอดชุดเดรสกระโปรงและชุดชั้นในออกจนหมด รู้สึกโล่งๆ นิดๆ ก่อนจะหยิบเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวขึ้นมาพันคลุมรอบกายแล้วเดินตามน้องปลาออกไปอย่างว่าง่าย ขั้นตอนแรกก็คือการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมที่เราคุ้นเคยกันดีนี่เอง ขั้นตอนการแช่น้ำแร่ผสมน้ำนมของที่นี่คือการผสมผสานระหว่างการอาบแช่น้ำนมสูตรเข้มข้น ซึ่งโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบสดสีแดงสวย โดยมีการอุ่นน้ำในอ่างด้วยอุณหภูมิพอเหมาะ เพื่อขยายเปิดรูขุมขนให้น้ำนมซึมเข้าไปบำรุงผิวกายภายในอีกที พร้อมกลิ่นหอมฟุ้งจากกลีบกุหลาบสด ที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายสบายตัว

กุ๊กแช่อยู่ในอ่างคนเดียวจนเกือบจะเคลิ้มหลับ น้องปลาก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อพากุ๊กไปยังขั้นตอนที่ 2 นั่นคือการขัดตัวขจัดเซลล์ผิวเสียและขี้ไคลออกให้หมด โดยน้องปลาให้กุ๊กขึ้นไปนอนคว่ำหน้าบนเตียงนวด ขยับผ้าขนหนูที่คลุมตัวลงไปทบไว้ที่บั้นเอว แล้วใช้เปลือกแข็งๆ อะไรซักอย่าง ค่อยๆ ขัดไปที่แผ่นหลังของกุ๊กจนรู้สึกได้ว่าขี้ไคลที่เกาะอยู่หลุดลอกออกมาเป็นแถบ น้องปลาค่อยๆ ออกแรงขัดผิวกุ๊กแบบนุ่มนวลสลับกับกดเน้นๆ เป็นจังหวะต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่แผ่นหลังเนียน ไล่ไปตามไหล่ แขน ย้อนกลับมาที่สะโพก ขาแล้วก็น่อง ก่อนจะจับตัวกุ๊กพลิกขึ้นมานอนหงาย โดยที่มีผ้าขนหนูปกปิดเฉพาะช่วงล่างเอาไว้ โอยยยย เขินโคตรๆ ที่ต้องมานอนเปลือยอกให้น้องเค้านวดตัวอยู่แบบนี้ แต่ดีนะเนี่ยที่หมอนวดยังเป็นผู้หญิงด้วยกัน ถ้าเกิดเป็นผู้ชายล่ะก็ รับรองว่ากุ๊กคงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ ค่ะ

น้องปลานวดอยู่พักนึงก็เริ่มหันมาจัดการกับเส้นขนรำไรตามเนื้อตัวของกุ๊ก น้องเค้าช่วยแว็กซ์ขนแขนและขนหน้าแข้งที่ค่อนข้างขึ้นชัดออกไปจนกุ๊กน้ำตาเล็ด ไม่เว้นแม้แต่ขนตรงจุดลับกับบริเวณบั้นท้ายที่มีขึ้นประปราย ก็โดนน้องเค้าเล็มๆ ออกให้จนมันเป็นทรงสวย ระหว่างที่โดนตัดแต่งทรงผมให้ กุ๊กก็ได้แต่นอนหลับตาหน้าแดงแป๊ด ไม่กล้าสบตากับน้องปลาเลย่คะ ถึงจะรู้ว่าน้องเค้าไม่ได้คิดอะไร เพราะเจอมาเยอะแล้วก็เหอะ แต่เราเองนั่นแหละ ที่พึ่งเคยจะมานอนแก้ผ้าให้คนอื่นปู้ยี่ปู้ยำร่างกายแบบนี้ หลังจากที่ขัดผิวและแว็กซ์ขนเรียบร้อยแล้ว น้องปลาก็บอกให้กุ๊กเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ เพื่อเตรียมที่จะไปนวดน้ำมันในขั้นตอนสุดท้าย กุ๊กจึงพันผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว หยิบเอากางเกงในกระดาษสีครีมขุ่นที่ทางร้านเตรียมไว้ให้มาสวม เนื้อผ้าของมันนิ่มๆ แปลกๆ เหมือนพร้อมจะขาดได้ในทุกเมื่อที่โดนน้ำ ความบางนั้นไม่ต้องพูดถึง พอเสร็จแล้วก็พันผ้าขนหนูผืนหนาคลุมทับอีกที ก่อนจะออกมานั่งรอน้องปลาบนโซฟา

พี่โจ้กับพี่หนึ่งเดินตามเข้ามาสมทบในห้อง พร้อมกับน้องเอก พนักงานนวดหนุ่มหน้าตาใช้ได้ รูปร่างกำยำพอสมควร ฟังจากน้ำเสียงแล้วท่าทางจะยังเด็กๆ อายุ 20 ต้นๆ อยู่เลย น้องเอกไหว้สวัสดีกุ๊กที่รับไหว้แบบเขินๆ ก็แหม มีผู้ชายแปลกหน้าตั้งสองคนมายืนอยู่ในห้องเดียวกัน โดยที่เนื้อตัวของกุ๊กก็มีแค่ผ้าขนหนูกับกางเกงในบางๆ ปกปิดร่างกายอยู่นี่คะ ก็ต้องแอบเขินเป็นธรรมดา น้องปลาเตรียมห้องนวดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเรียกให้กุ๊กเข้าไป แอบตกใจเหมือนกันที่เห็นน้องเอกเดินตามเข้ามาด้วย ไม่นึกว่าน้องเค้าจะเป็นคนนวดให้นะเนี่ย กุ๊กเขินสุดๆ จนต้องออกมาตั้งหลักข้างนอกกับพี่โจ้

“ไม่เป็นไรหรอกครับกุ๊ก เอกเค้ามืออาชีพ นวดคอร์สพวกนี้มาหลายปีแล้ว แถมมีปลาช่วยดูแลอยู่ด้วย รับรองไม่มีเรื่องอะไรน่ากลัวแน่นอน” พี่หนึ่งพูดยืนยันความปลอดภัยเป็นมั่นเป็นเหมาะ กุ๊กฟังแล้วก็ได้แต่หันไปมองหน้าพี่โจ้อย่างหวาดๆ
“ทำตัวสบายๆ นะคนดี ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ก็นั่งรออยู่ข้างนอกนี่ทั้งคน” พี่โจ้ลูบหัวแล้วส่งยิ้มหวานมาให้ เมื่อไม่มีทางเลือกกุ๊กจึงต้องยอมเดินเข้าลานประหารไปแบบอึนๆ ได้ยินเสียงน้องปลาปิดประตูแล้วอดใจสั่นไม่ได้ มองผ่านกระจกออกไปเห็นพี่โจ้กับพี่หนึ่งเริ่มหันไปคุยอะไรกันอีกแล้ว ไม่สนใจกุ๊กเลย ฮือๆๆๆ กุ๊กปีนขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียง

“ขออนุญาตนะครับพี่” น้องเอกพูดยกมือไหว้ กุ๊กผงกหัวเบาๆ เป็นคำตอบ น้องเอกค่อยๆ คลี่กางผ้าขนหนูที่ห่อตัวกุ๊กอยู่ออกมา วางพาดเป็นแนวยาวไว้ที่สะโพก น้องปลาหยิบขวดน้ำมันอโรม่าขึ้นมาบีบราดลงไปกลางหลังเนียนเรียบ ใช้ฝ่ามือค่อยบี้ทาน้ำมันให้แผ่กระจายไปทั่วแผ่นหลังจนเป็นวงกว้าง เสร็จแล้วก็ถอยห่างออกไป เปิดทางให้น้องเอกค่อยๆ ออกแรงบีบนวดลงไปเบาๆ
“ถ้าเจ็บบอกได้เลยนะครับพี่” กุ๊กพยักหน้าตอบ ไม่กล้าส่งเสียงออกไป ในหัวตอนนี้มีแต่ความตื่นเต้นที่ต้องมาถูกชายหนุ่มคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน ฟอนเฟ้นร่างกายเราอยู่แบบนี้ สัมผัสจากมือของเอกมีทั้งหนักแน่นสลับกับแผ่วเบาไปมา แต่ที่แน่ๆ คือแรงดีกว่าน้องปลามาก บางจังหวะที่นวดกดเส้นให้หนักๆ ก็ทำเอากุ๊กเคลิ้มแทบจะหลับไปเลย น้องเค้านวดเก่งจริงๆ ค่ะ แต่ยังไม่ทันจะได้หลับก็ต้องสะดุ้งซะก่อน เพราะมือของน้องเอกตอนนี้เริ่มจะป้วนเปี้ยนลงไปบริเวณสะโพกซะแล้ว พอกุ๊กทำท่าเหมือนจะหันไปมอง น้องเอกก็รีบเลื่อนมือลงไปนวดลูบตามข้อเท้า ไล่สลับกับนวดตามน่องไปมา ความเจ็บแปร๊บๆ จากที่โดนบีบน่อง ทำให้กุ๊กหันเหความสนใจมาทางนี้แทน

“อุ๊ยย เจ็บค่ะ เจ็บๆๆ” น้องเอกค่อยๆ ลดมือลง ผ่อนจังหวะบีบนวดเบาๆ ขณะที่น้องปลาก็คอยช่วยเติมน้ำมันกลิ่นหอมให้ไม่ขาด ซักพักน้องเอกก็เหมือนจะเริ่มซุกซนอีกแล้ว น้องเค้าค่อยๆ เลื่อนมือบีบนวดขึ้นมาจากน่องขา สอดขึ้นมาใต้ผ้าขนหนู ไล่มาจนถึงบริเวณต้นขาอ่อนด้านหลังของกุ๊ก เล่นเอาตัวสั่นใจเต้นหวิวๆ เลยค่ะ คราวนี้กุ๊กไม่กล้าหันหน้าไปมองอีก เพราะกลัวว่าหันไปบ่อยๆ น้องเค้าจะอึดอัดนวดไม่ถูก แต่นั่นเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยค่ะ เพราะพอเห็นว่ากุ๊กไม่มีอาการต่อต้าน น้องเอกเลยยิ่งได้ใจ ค่อยๆ ขยับมือนวดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนมันแทบจะบีบเข้าไปตรงกลางแก้มก้นกลมกลึงอยู่แล้ว

กุ๊กพยายามกลั้นหายใจไว้ไม่ให้ตัวสั่น แต่พอสองมือของน้องเอกบีบหมับเข้ามาที่ก้นเต็มๆ ก็เผลอสะดุ้งจนต้องผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ ดัง ฮื่ออออออ น้องเอกก็ยังคงนวดต่อไปเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา กุ๊กเลยคิดไปเองว่า อ๋อ ปกติเค้าก็นวดกันแบบนี้อยู่แล้วล่ะมั้ง ผ่านไปครู่หนึ่งน้องปลาก็ดึงผ้าขนหนูขึ้นมาปิดคลุมตัวกุ๊กเหมือนเดิม แล้วบอกให้กุ๊กขยับขึ้นมานอนหงายแทน เอาล่ะค่ะ คราวนี้ไม่มีที่ให้หนีให้หลบตากันอีกแล้ว กุ๊กชันตัวลุกขึ้น แล้วขยับเอนตัวนอนหงายลงไปกับเตียง ผ้าขนหนูขาวสะอาดถูกดันนูนอยู่บนหน้าอกอวบๆ คู่นั้น มันสั่นกระเพื่อมตามจังหวะหายใจที่ลึกผิดปกติเพราะความตื่นเต้น อายด้วยที่มีคนมาเห็นพุงน้อยๆ แผ่หราโชว์อยู่แบบนี้ ในใจก็คิดแค่ว่าเอาไงดีน้อทีนี้

แต่อีตาหมอนวดคนนี้สิคะ ไม่ยอมเว้นช่วงให้ได้พักกันเลย กลับใช้สองมือหนาๆ คู่นั้นกวาดลูบลงมาบริเวณหน้าท้องจนกุ๊กตัวแอ่นเพราะความสยิวและจั๊กกะจี้ ปลายนิ้วของน้องเค้าลูบไล้กวาดเป็นทาง สัมผัสของมันสร้างความสบายตัวแต่ไม่สบายใจไปพร้อมๆ กัน มันเป็นความรู้สึกอึ้ง เหวอ ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เกร็งตัวนอนนิ่งให้เค้าลูบคลำอยู่อย่างนั้น
“ฮืมมมมมมม” กุ๊กพ่นลมหายใจออกมายาวๆ เมื่อถูกน้องเอกใช้มือคลึงไล่ขึ้นมาจากช่วงหน้าท้อง ไปหยุดยอยู่บริเวณซี่โครงใต้ราวนม ต่างฝ่ายต่างลุ้นกันอยู่ว่าจะโดนมิโดนแหล่ ก็พอดีว่าน้องปลาขยับเข้ามา บีบน้ำมันเพิ่มให้เป็นการลั่นระฆังหมดยก พอน้องปลาถอยหลังออกไป น้องเอกก็รีบปรี่เข้ามาใหม่ สองมือก็ยังคงลูบไล้ไปมาบริเวณหน้าท้องขาวอวบ คราวนี้น้องเอกไม่รอช้า เลื่อนมือบีบขึ้นมาถึงบริเวณใต้ราวนม ปลายนิ้วสัมผัสเฉียดเข้ากับก้อนเนื้อนุ่มๆ ก่อนจะแหวกออกด้านข้างโลมไล้ไปมาบริเวณไหปลาร้าและตรงบ่า

“อืออออ....” กุ๊กหลับตาพริ้ม รู้สึกตัวมันเบาๆ หวิวๆ แปลกๆ นึกว่าจะรอดแล้ว ที่ไหนได้ น้องเอกดันบอกขออนุญาตลวกๆ แบบไม่รอคำตอบ แล้วดึงผ้าขนหนูที่ปิดหน้าอกกุ๊กไว้ เอามาพับปิดสะโพกด้านล่างจนหน้าอกกุ๊กโผล่ออกมาท้าทายสายตา
“ว้าย!” เสียงกุ๊กร้องลั่นด้วยอารามตกใจ ยันตัวลุกขึ้นเอามือปิดหน้าอกไว้ หันหน้าไปหาพวกพี่โจ้เพื่อขอความช่วยเหลือ เลยได้รู้ตอนนี้นี่แหละว่ามันเป็นกระจกเงาแบบมองเห็นด้านเดียวจากภายใน แถมห้องนี้ยังออกแบบมาให้เป็นห้องเก็บเสียงอีกด้วย อีตาพี่โจ้ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรจึงเอาแต่นั่งคุยกับพี่หนึ่งอย่างออกรส ในมือก็ถือกระป๋องเบียร์กระดกไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน อีตาบ้านี่ เมียโดนลวนลามกึ่งเปลือยอยู่แบบนี้ ใจคอไม่คิดจะสนใจอะไรหน่อยเหรอยะ

“ไม่ต้องกลัวนะคะพี่กุ๊ก เอกเค้าแค่จะนวดกระชับทรวงอกให้ตามขั้นตอนเฉยๆ ค่ะ” น้องปลารีบพูดออกตัว
“แต่ว่ามัน.. มันแปลกๆ นะ”
“ถ้าพี่กุ๊กไม่สะดวก เดี๋ยวตรงส่วนนี้ให้ปลาเป็นคนนวดให้แทนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่เขินกัน”
“เอ่อ คือ...” กุ๊กลังเลไม่รู้จะตอบน้องเค้าไปยังไง แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวจะโดนหาว่าเรื่องมาก มาใช้บริการฟรีแล้วยังจุกจิกจู้จี้อีก ก็เลยต้องยอมให้น้องปลาขยับเข้ามานวดหน้าอกให้แทน แต่ถึงแม้ว่าคนนวดจะเป็นผู้หญิงด้วยกัน และมีการเอาผ้าขนหนูมาปิดบังด้านบนเอาไว้แล้วก็เถอะ กุ๊กก็ยังอดหวิวๆ ใจไม่ได้ เมื่อโดนมือน้องปลาบีบนวดเข้ามาเต็มๆ สองเต้า

ปลายนิ้วของปลาขยับคล่องแคล่วไม่ต่างอะไรจากเอก บางจังหวะยังดูเหมือนจะพริ้วไหวกว่าด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ากุ๊กรู้สึกไปเองรึเปล่านะ แต่เหมือนน้องปลาจะพยายามนวดเฉี่ยวบริเวณหัวนมกุ๊กเป็นระยะๆ เล่นเอาเสียวจนตัวเกร็งไปเหมือนกัน แรกๆ มันก็ยังรู้สึกตึงๆ ดีอยู่หรอก แต่ซักพักมันก็เริ่มจะไม่ใช่การนวดธรรมดาแล้ว เพราะเริ่มมีการลูบไล้บริเวณหัวนมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ทันที่กุ๊กจะบอกขอพัก น้องเอกที่ยืนคอยอยู่ ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามา วางมือแหมะลงบนหน้าขาของกุ๊กโดยไม่ทันตั้งตัว

“อุ๊ย..!?” กุ๊กหลุดอุทานออกไปเบาๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะไม่รู้ว่าน้องเค้ากำลังจะทำอะไรกันแน่ เอกค่อยๆ ใช้มือสากๆ ลูบไปมาอยู่ที่หน้าขา บีบนวดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นมาถึงบริเวณโคนขาหนีบ ลากปาดเฉี่ยวไปมาเหมือนจะแกล้งยั่วให้กุ๊กรู้สึกอะไรบางอย่าง ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่า มันก็รู้สึกตั้งแต่โดนลูบด้านบนแล้วนะนั่น ขณะที่น้องปลาเองก็ไม่น้อยหน้า ใช้สองมือสลับกันบีบคลึงอกกุ๊กอย่างเชี่ยวชาญ คล้ายกับว่าผู้หญิงด้วยกันก็ย่อมรู้จุดพึงใจของกันและกันได้ดีที่สุด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั้งสองทางทำให้กุ๊กเริ่มจะหมดแรงลงไปเรื่อยๆ
“อือออออ... พี่ว่า... เราพักก่อนมั้ย?”

“อีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ ทนอีกนิดนึงนะคะ” น้องปลาตอบพลางเร่งมือหนักขึ้นไปอีก น้องเอกเองก็คงกลัวว่ากุ๊กจะตั้งสติได้เสียก่อน เลยรีบสอดมือเข้ามาลูบตรงเป้ากางเกงในกระดาษของกุ๊กแบบเต็มๆ ไม่ต้องยั้งกันอีกต่อไป ทันทีที่นิ้วสัมผัสเข้ากับเป้า ความสยิวก็พุ่งสะท้านไปทั่วร่างกุ๊ก กางเกงในกระดาษที่เปียกชุ่มมาพอสมควร จากทั้งคราบน้ำมันอโรม่าที่ราดลงไป รวมกับคราบน้ำอะไรบางอย่างที่กำลังค่อยๆ ซึมออกมาจากภายในตัว  จึงทำให้เนื้อกางเกงในค่อยๆ ขาดออกจากแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น

“ว้าย! ตายแล้ว เอก... ไม่เอานะ!” กุ๊กพยายามชันตัวขึ้นไปห้าม แต่เอกกลับยิ่งออกแรงคลึงน้องสาวของกุ๊กหนักข้อขึ้นไปอีกจนแทบจะลุกไม่ขึ้น น้องปลาเองก็คอยช่วยอีกแรงด้วยการก้มหน้าลงไปงับเบาๆ ที่หน้าอกกุ๊ก คราวนี้กุ๊กรู้ตัวชัดๆ แล้วว่านี่ไม่ใช่การนวดธรรมดาแน่ พยายามจะร้องเรียกให้พี่โจ้เข้ามาช่วย แต่เรี่ยวแรงก็ขาดหายไปหมด มีแต่ความเสียวที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเกาะกุมร่างกายจนหนักอึ้งไปหมด หันไปมองหาพี่โจ้ ก็เห็นว่าแกกำลังนั่งอ่านนิตยสารฟุตบอลรออยู่คนเดียว โดยไม่เห็นตัวพี่หนึ่งแล้ว




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น