สันดานเจ้าชู้ที่เจือปนอยู่ในสายเลือดอันเข้มข้นจนติดเป็นนิสัย ย่อมยากที่จะขัดเกลาให้จางหายได้ลง ชาติเจ้าชู้แล้วก็ต้องเจ้าชู้ไปจนแก่ตาย ถ้าเป็นชายก็พอทำเนา แต่นี่หล่อนเป็นหญิง กว่าจะรู้สึกตัว หล่อนก็ได้ชื่อว่าเป็นนางกากีไปเสียแล้ว
จากพฤติการณ์ตอนหนึ่งของสาวสังคมนามกระเดื่องกรุงฯ ที่ข้าพเจ้ากล้าเสี่ยงคุกตะรางเผยชีวิตจริงอันเร้นลับของเธอให้โลกรู้ เพื่อเป็นบรรณาการแด่ท่านชายได้ศึกษาและตระหนักในคำโบราณที่ว่า
ช้างสาร! งูเห่า! ข้าเก่า! เมียรัก!
ยังจะใช้ได้ในมัยดาวเทียมนี้อีกหรือ?
เมื่ออ่านแล้ว
เชิญมวลมิตรวิพากษ์วิจารณ์กันเองเถอะ ข้าพเจ้าขอมุดดินลาไปก่อนละ...
จากข้าพเจ้า
วิหค เวหา
ศรีสุดาที่รัก
พี่ต้องเดินทางไปราชการที่ภาคอิสานโดยด่วนด้วยเครื่องบินเย็นวันนี้ พี่ไม่มีโอกาสกลับบ้าน จึงให้คนถือจดหมายมาบอก ขอให้เธอช่วยจัดเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นฝากผู้ถือจ.ม.นี้มาด้วย พี่จะกลับก็คงบ่ายวันมะรืน...
รัก
ชาลี
ศรีสุดาหัวเราะหยันให้กับจดหมายของผัว หล่อนโยนมันทิ้งลงไปที่พื้น แล้วหันเข้าหากระจกเอียงคอแตะทรงผม “ทรงเมษาสวาท” อันเป็นที่นิยมของท่านหญิงในยุคนี้ กิริยาสาวทั้ง ๆ ที่มีผัวแล้วร่าเริงและดีดดิ้นแม้จะอยู่กับตัวเอง
ชาลีอาจจะเป็นผัวที่ขรึมเครียดเปรียบประดุจน้ำยาเย็นที่ปราศจากรสชาติสำหรับหล่อนตลอดมา ตลอดระยะของชีวิตสมรส ๑ ปีที่มีแต่ความเบื่อหน่าย
เพราะชีวิตสาวในสังคมของหล่อนพบกับการพะเน้าพะนอจากคนอื่น แต่ชีวิตวิวาห์ไม่เพียงแต่หล่อนจะไม่ได้รับอย่างเคย กลับจะต้องให้หล่อนพะเน้าพะนอเขาอีก
ฉะนั้น ชาลีอาจจะเป็นผัวที่สร้างความเกลียดและรำคาญให้แก่หล่อนโดยการอยู่กับเมีย แล้วใช้เมียอย่างมากก็จุดบุหรี่ให้สูบในขณะเขานั่งทำงานอย่างเป็นสุข เขาจะจริงจังกับเมียโดยความเป็นลูกผู้ชายบึกบึนและจองหองต่อการที่จะมองเมียด้วยสายตาดุและกร้าวเมื่อหล่อนทำอะไรผิดใจจากเขา เป็นต้นว่าปลีกตัวจากบ้านไปเริงรื่นอยู่ตามงานราตรีต่าง ๆ จนลืมเวลาอันควรและลืมความเป็นลูกผู้หญิง ศรีสุดารู้สึกว่าวันหนึ่งเขาอาจจะตบหล่อนได้โดยไม่รู้สึกตัว เพราะความไม่พอใจของเขาที่เก็บเงียบอยู่ในความเคร่งขรึม เขาเคยบอกหล่อนว่า
“เธอจะเป็นอะไรก็ตาม แต่เธอยังเป็นเมียของฉัน และที่สำคัญที่สุด ฉันขอร้องอย่าทำลายความเป็นลูกผู้ชายของฉัน”
แต่ความเป็นลูกผู้ชายของเขากลับเป็นที่น่าแค้นและน่าหัวเราะของศรีสุดา หล่อนเห็นเขาเป็นเสนียดของชีวิตอันสวยสดของหล่อนมากกว่าผัว...และความจริงนั้น ผู้หญิงเริ่มมีชู้แล้วย่อมชังผัว...หล่อนตกอยู่ในปรากฏการณ์แห่งชีวิตเช่นนั้น
ด้วยประการนี้ เมื่อชาลีให้มีอันต้องจากบ้านไป ศรีสุดาจึงแสนสุขและตื่นเต้นเหลือคณนา
หล่อนบรรจงแต่งตัวพรมน้ำหอมทั่ววรกาย มองสำรวจดูความสมบูรณ์ของตัวเองแล้วก็นึกกระหยิ่มในใจ เพราะจะดูตรงไหนก็อวบใหญ่กว่าเมื่อก่อนแต่งงานเป็นไหน ๆ
“ลงไม่มาตามนัดก็โง่ที่สุด”
ศรีสุดาสาวรำพึงกับตัวเอง แต่ไม่วายที่จะมองข้ามหน้าต่างออกไปสู่ถนนใหญ่บ่อยครั้ง หล่อนนัดกับใคร และทำไม จึงสั่งให้คนใช้พากันออกไปเที่ยวหย่อนใจนอกบ้านได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยใจดีอย่างนี้มาก่อน แต่นั่นเป็นความประสงค์ของหล่อนที่ไม่อยากให้คนใช้พลอยสอดรู้สอดเห็น เพราะแขกหนุ่มของหล่อนในคืนนี้เขาจะมาในแบบเหนือมนุษย์!
นาฬิกาปารีสในห้องโถงกังวานบอกเวลา ๒๒.๐๐ น. นั่นเป็นเวลานัดหมายซึ่งหล่อนได้แอบโทรศัพท์แจ้งไปให้เขาทราบ และขอให้มาตรงเวลานั้น เพราะเป็นเวลาที่หล่อนอยู่คนเดียว
ศรีสุดารู้สึกกระสับกระส่าย หล่อนจึงลุกขึ้นยืนและบิดขี้เกียจ แต่แล้วกลับสะดุ้งในเมื่อไหล่ของหล่อนถูกโอบด้วยมือของใครคนหนึ่งที่แอบย่องมาทางเบื้องหลัง
“อุ๊ย...ใคร?” อุทานออกมาเบา ๆ แล้วยิ้มหวานเข้ารับพร้อมกับโผเข้าสู่อ้อมแขนที่กำลังอ้าคอยอยู่ แล้วยื่นหน้าท้าการจูบด้วยความเต็มใจก่อนที่จะเอ่ยวาจาคำใดออกไป
“คิดว่าจะไม่มาตามนัดเสียอีก” ฉอเลาะหลังจากถอนปากออกจากการจูบ
“แอบมาเงียบ ๆ ทำเอาตกใจหมด”
ชายหนุ่มยิ้มและเป็นยิ้มที่มีความหมาย เมื่อสายตามองทะลุลงไปในซอกทรวง
“มีอย่างรึ คนสวยนัดแล้วจะไม่มา”
“ปากหวานนัก อย่างฉันรึคนสวย” พูดพร้อมกับยกนิ้วมือเรียวงามแตะริมฝีปาก เขามองสบตาลึกซึ้ง แล้วหล่อนก็โผเข้าโอบกอดรับการจูบอย่างซาบซึ้งดูดดื่ม
มันเป็นความสดชื่นที่มีชีวิตชีวาเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มสนองการสัมผัสเสียดสีอย่างถึงอกถึงใจพร้อมมือของเขาก็ควานไปตามโคกเว้าอย่างเปะปะ หล่อนสั่นสะท้านเหมือนต้องลมหนาว
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งซนนัก เข้าไปข้างในเถอะ” หล่อนฉอ้อนเสียงเครือ “เราอยู่ตรงนี้ไม่ปลอดภัย”
แต่ชายหนุ่มรู้ว่าหล่อนไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หล่อนเร่งเวลาแห่งความสุขและความกระหายสวาทมากกว่ากระมัง
เขาจึงได้โอบอุ้มร่างหล่อนขึ้น ศรีสุดาร้อง
“อุ้ย...” เบา ๆ
ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เขาวางร่างงามไว้บนฟูกหนาเหนือเตียงนอนซึ่งปูไว้ด้วยผ้าขาวสะอาด พลางโถมตัวทับร่างของหล่อน
“อุ๊ย...แมน...อดอยากมาจากไหนไม่รู้...ปล่อยก่อนค่ะ”
แต่ก็เปล่า ชายหนุ่มคงโถมทับลงไปทั้งร่างและรัดเธอไว้แนบแน่นเช่นเดิม
“ดาจ๋า...แมนจะคลั่งใจตายเพราะหลงรักดาอยู่แล้ว”
พลางจมูกอันหื่นกระหายก็ระดมจูบลงไปบนพวงแก้มอันเปล่งปลั่งด้วยสายโลหิตของเธอราวกับสายฟ้าแลบ เสียงดังฟอด ๆ ไม่ขาดระยะ อีกครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มประทับริมฝีปากลงไปจรดแนบสนิทกับริมฝีปากอันจิ้มลิ้มของเธอแนบนิ่งและนานจนกระทั่งปรากฏว่าขณะนี้ศรีสุดาผู้เลอโฉมอ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขา ดวงตาอันสุกสกาวของเธอค่อย ๆ หรี่ปรือลงทุกขณะที่แขนเขารัดร่างเธอกระชับแน่น จนกระทั่งเนื้อหน้าอกที่นูนเต่งของเธอเบียดเสียดกับแผ่นอกอันกว้างใหญ่ของเขาแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
บัดนี้หล่อนรู้สึกว่ามีอะไรมาทิ่ม ๆ ตำๆ ดุนดันอยู่ที่หว่างขาตลอดเวลา และมือของเขาที่โอบรอบเอวอยู่ก็เลื่อนต่ำลงมากระชับแน่นที่แก้มตูดทั้งสองข้าง โลหิตแห่งความกระสันต์จึงฉีดพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย เมื่อได้สัมผัสกับเพศตรงข้ามเช่นนี้
หล่อนพยายามบิดเบือนใบหน้าให้รอดพ้นจากจมูกเขาซึ่งกระหน่ำจูบลงมาอย่างสะบัดช่อ
“โธ่ แมนขา ไปปิดประตูเสียก่อนเถิด เดี๋ยวเด็กคนใช้มันโผล่มาเห็นเข้าละก็ขายหน้าแย่เชียว”
คำพูดของหล่อนเสมือนหนึ่งเป็นเครื่องหมายเชิญชวนเบิกทางให้เขาสามารถมองเห็นประตูแห่งความสุขซึ่งกำลังรออยู่เบื้องหน้าลิบ ๆ นั้นได้
ด้วยความฝืนใจอย่างยิ่งทำให้ชายหนุ่มต้องผละออกจากร่างงามซึ่งเขาตะกองกอดแนบข้างเพียงชั่วขณะ เขาลุกเดินไปปิดประตูห้องนอนของศรีสุดาคนสวย และไม่ลืมลงกลอนทั้งข้างล่างข้างบนอย่างแน่นหนา
อากัปกิริยาของชายหนุ่มอยู่ในความสังเกตของศรีสุดาคนสวย ทุกอิริยาบถเธอมองเห็นที่หว่างขาของชายหนุ่มขณะนี้ตุงโด่ แล้วก็พลอยพาให้ใจระทึกด้วยว่าจะแกล้งยั่วเย้าให้เขางุ่นง่านหนัก
เธอจึงรีบแฝงกายไปหลบซ่อนอยู่หลังม่านแพรซึ่งตั้งอยู่หลังตู้ใส่เสื้อผ้า
ขณะนี้แมนชายชู้หื่นกระหายเสียเหลือประมาณ ฉะนั้นเมื่อใส่กลอนประตูเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาหาเหยื่ออันโอชะ ซึ่งคิดว่าคงกำลังนอนคอยอยู่ด้วยความกระหายหิวเช่นกัน แต่แล้วก็เปล่า...ร่างนั้นอันตรธานไปเสียแล้ว...
แมนยิ้มน้อย ๆ ในการเล่นวิตถารแอบซ่อนของหญิงผู้เป็นที่พิศวาส แสร้งสืบเท้าทำเป็นเดินหาไปทั่วบริเวณห้อง มองดูใต้เตียงในตู้เสื้อผ้าและแทบทุกแห่ง แต่แล้วก็มาหยุดนิ่งอยู่ข้างม่านแพร ก้มลงมองทางช่องม่าน...ก็เห็นหล่อนยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ เขามองเห็นดวงหน้าเธอยิ้มละไม ด้วยนึกสนุกในการเล่นซ่อนหา
ฝ่ายชายชู้ขณะนี้มีความกำหนัดอย่างสุดกลั้น เกรงว่าจะไม่ทันการจึงค่อย ๆ ถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วอึดใจเดียว ร่างของเขาก็ล่อนจ้อนเปลือยเปล่าราวกับทารก เขาหยิบเสื้อผ้าแขวนไว้ แล้วค่อย ๆ จรดฝีเท้าย่องเข้าไปในม่านญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นศรีสุดากำลังปิดตายืนหันหลังให้เขาอย่างกระดากอายตามวิสัยเพศของหญิง
แมนมิได้รอช้าอีกแล้ว ถาโถมเข้าโจมตีทันที
หล่อนหวีดร้องออกมาเบา ๆ เมื่อเขาสัมผัสร่างพร้อมกับหัวเราะคิกด้วยนึกสนุกชอบใจ
“แมนจับดาได้แล้ว...ไม่ยอมละ ดาต้องให้รางวัล”
“จะเอาอะไรล่ะคะ” เอียงแก้มประชิดจมูกถาม
“ไอ้นี่” พูดสวนคำพูดพร้อมกับมือตะปบลงที่โคกหี
“วุ๊ย...บ้า” อุทานเสียงเครือ
“เธอจะแก้ผ้าฉันทำไม?”
แต่แมนไม่ตอบ คงใช้มือควานหารังดุม
เมื่อรู้ว่าเขากำลังคุกคามอธิปไตยของเธอจนเกินไปแล้ว ก็แสร้งดีดดิ้นและขัดขืน
“อุ๊ย...อย่า...อย่าค่ะ”
แต่เปล่า ขณะนี้ฤทธิ์ตัณหาอย่างแรงกล้าทำให้ชายหนุ่มหมดความกระดากอายใด ๆ ทั้งสิ้น เขาพยายามปลุกปล้ำปลดอาภรณ์ของเธอออกจนหมดสิ้น
ศรีสุดาหวีดร้องเมื่อซับในชิ้นสุดท้ายที่เธอนุ่งอยู่มันได้เลื่อนหลุดลงไปกองกับพื้นเสียแล้ว
และโดยรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ มิทันที่เธอจะก้มลงหยิบขึ้นมาปิดบังของสงวน เธอก็รู้สึกร่างของเธอนั้นได้ลอยขึ้นจากพื้นห้องมาสู่เตียง แต่มันก็เป็นความหรรษาที่หล่อนปรารถนาเสียเหลือเกิน
แสงไฟนีออนลูบไล้เรือนร่างเปลือยของหล่อนให้ขาวโพลนให้สะดุดสายตาชายชู้ เขาคิดว่าผิวผ่องที่เด่นอยู่เหนือเตียงนี้คงไม่เคยต้องแดดและลมลูบไล้ให้เกิดราคีมาก่อน เพราะจะมองส่วนใดก็มีแต่สะอาดเกลี้ยงเกลา ประทุมตระหง่านชูสล้างเผยรับแสงไฟอย่างเย้ายวน ท่อนขาอวบลาดสูงจรดแนวสะโพก ก้อนเนื้ออัดแน่นแห่งความสมบูรณ์ จะมีสิ่งใดอีกเล่าที่สวยนอกเหนือไปกว่าร่างโสภานี้...
“คืนนี้ขอให้เป็นความสุขของเรานะครับ” แมนกระซิบเสียงสั่น
ศรีสุดาพยักหน้ายิ้มรับด้วยใบหน้าแดงก่ำราวกับสีของกลีบกุหลาบ
เขาจูบลงไปที่ทรวงอกของเธอด้วยความคะนอง เธอซี๊ดปากซู้ดซ้าด สยิวกายแอ่นอกขึ้นด้วยสุดกระสันต์
“อูย...แมน..ขา...โอย...เสียว...” หล่อนครางออกมา
นั่นเองชายชู้จึงละจากการจูบ เขาลุกขึ้นนั่งยอง ๆ เพ่งพินิจไปยังโคกหีอันอวบอูมคล้ายกับเนินดิน ตรงกลางมีรอยแยกแตกออก ภายในร่องที่แยกออกจากกันนั้นมีสิ่งหนึ่งเหมือนลิ้นแพลมออกมาแดงระเรื่อ เหนือขึ้นไปเส้นหมอยสีดำเป็นกระจุกใหญ่อยู่เบื้องบนทำให้เพิ่มความเสน่หาให้กับชายหนุ่มเป็นทวีคูณ
เขาเหลือที่จะอดกลั้นต่อไปไม่ไหว ก้มลงมองดูลำลึงค์ของตัวแล้วก็มองดูโยนีของศรีสุดา รู้สึกว่ามันพอฟัดพอเหวี่ยงที่จะเป็นคู่ซ้อมกันได้ จึงมิรอช้า ขยับกายเข้าไปในหว่างขาทันที
เมื่อได้ระยะดีแล้ว แมนก็จับขาใหญ่อันสลักเสลาราวงาช้างของหล่อนให้ยกตั้งชันขึ้น พอจับขาเธอยกขึ้น หอยแมงภู่ตัวเขื่องของหญิงสาวก็ปลิ้นแบะและแยกเขี้ยวออกจนมองเห็นเม็ดแตดภายในได้ถนัด ต่ำจากแตดลงมาเล็กน้อย สายตาเขาก็ประสบกับรูเล็ก ๆ สีแดงปนม่วงเป็นโพรงลึกกลวงโบ๋ และเพราะเจ้ารูนี้เองทำให้เขากระเถิบกายเข้าไปชิดติดกับตูดหล่อน เขาค่อย ๆ คุกเข่าลงจนหน้าขาสัมผัสกับท่อนขาอันอ่อนนุ่มที่ก้นงอนของเธอ
แมนจับขาศรีสุดาขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้เธอมิได้ขัดขืนแต่ประการใด เพราะหมดสิ้นแล้วซึ่งความกระดากอาย และความบัดสีนานาประการ...เหลืออยู่แต่ความกระหายและความอยากเย็ดกับชายชู้เสียเต็มประดา จนรู้สึกว่าขณะนี้น้ำรักได้ไหลเอ่อออกมาบ้างแล้ว ซึ่งเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่รู้สึกว่า ที่หน้าประทานอันแดงก่ำนั่นมีน้ำเมือกลื่น ๆ ไหลรินเช่นกัน
ดังนั้นแมนจึงเบียดตัวให้ชิดสนิทกับตูดของหล่อนมากเข้า มือก็จับหัวถอกยัดเข้าไปในร่องเนื้อซึ่งเป็นรอยปริทันที
พอรู้สึกว่ามีอะไรมาทิ่มตรงรูหี ศรีสุดาก็สะดุ้งลืมตาโพลงขึ้น และเมื่อเห็นชู้กำลังทำอะไรอยู่ ก็หลับตาพริ้มต่อไป
คะเนดูว่าไม่พลาดแน่นอน แมนก็ขมุบขมิบหัวถอกเข้าไปภายในรูสวรรค์ แต่แมนเป็นหนุ่มที่มีลึงค์ใหญ่มิใช่น้อย ดังนั้นจึงรู้สึกฝืด เดชะบุญที่ทั้งสองได้หลั่งน้ำเมือกออกมาแต่แรกบ้างแล้ว ความฝืดจึงค่อยบรรเทาลงได้บ้าง กระนั้นก็เถอะ พอแมนออกแรงดันเข้าแรงสักหน่อย แคมโยนีทั้งสองข้างก็บู้ลู่ตามลึงค์เข้าไป เธอร้องครางออกมา
“โอย...แมนขา...เบา ๆ หน่อยซีคะ...อูย ดาทนไม่ได้ ...มันแสบเหลือเกิน...”
เมื่อหญิงสาวพูดเช่นนี้ แมนจำต้องหยุดยั้งการกระทำเพราะบังเกิดความสงสาร ขณะนี้ควยเขามันลุกเด่แข็งปั๋งแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยความเงี่ยนเต็มประดา จึงค่อย ๆ ดันหัวถอกขยิกเข้าขยิกออกเพียงเบา ๆ อยู่ชั่วครู่เท่านั้น หัวแดงของเขาก็ผลุบลึกเข้าไปได้ครึ่งหนึ่ง ความมันความสนุกสนานจนลืมตัวทำให้แมนออกแรงลงแส้ม้าอย่างห้อเหยียดทันที ลำลึงค์ผลุบหายเข้าไปทุกขณะ เป็นเวลานานแล้วที่ศรีสุดามิได้หลับนอนกับสามีเลย เพิ่งจะมาโดนชู้คนนี้เย็ดเป็นครั้งแรก ดังนั้นความเสียวกระสันต์จึงซ่านขึ้นถึงขีดด้วยกันทั้งหนุ่มและสาว หล่อนสูดปากบิดกายไปมา ส่วนมือนั้นกำแน่น
“อูย...แมนขา...ดาเสียวเหลือเกินค่ะ เบา ๆ หน่อยซี...โอย ดาช้ำไปหมดแล้ว”
ยิ่งเห็นฝ่ายหญิงเสียว ความลำพองก็ถีบทะยานขึ้นทุกระยะ เขาใช้มือทั้งสองข้างเคล้นเต้านมอันตึงด้วยความรัญจวน
“อย่าบีบแรงนักซิคะ...โอย...ซี๊ด...แมนขา...มันยิ่งเสียว...โอย...”
“เสียวมากหรือ ดา”
“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่วเบา ใบหน้าแดงก่ำ
ชายหนุ่มหยุดยั้งการบีบเต้านมทั้งสอง แต่เมื่อหยุดนิ่ง ปากก็ทำหน้าที่ต่อไป เขาเอนกายราบลงบนร่างหล่อน เหยียดขาออกไปทับขาทั้งสองข้างของหญิงสาว ลึงค์ซึ่งคาอยู่ค่อนลำก็พุ่งหัวลึกจมดิ่งลงในรูได้เต็มที่ ทำให้มันผลุบหายเข้าไปในกลีบสวรรค์เกือบมิดด้าม คราวนี้เอง ศรีสุดาเสียวจนตัวสั่นแทบเป็นบ้า
“อุ๊ย...แมน ดาทนไม่ไหวแล้ว โอย...แสบ..อูย..เสียว...โอย แมนขา ดา...ดาจวนแล้วค่ะ” พึมพำออกมาแทบไม่ได้ศัพท์
“กลั้นเอาไว้อีกหน่อยเถอะดา เดี๋ยวจะได้ขึ้นสวรรค์พร้อม ๆ กัน” เขาตอบพร้อมกับโยกตูดขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ได้ขาดระยะ ปากก็จูบไล้ไปทั่วทั้งใบหน้ามือก็เคล้นคลึงหัวนมอยู่ไปมามิได้สร้าง ตูดยกขึ้นกระเด้ากระทุ้งเข้าไปอย่างรุนแรงและลึกเพียงพักใหญ่ บักใหญ่ยาวก็จมหายจนมิดด้าม หัวถอกบานพุ่งหัวไปจรดมดลูก หนอกต่อหนอกสนิทแน่นมองเห็นระหว่างหนอกดำมะเมื่อมด้วยเส้นหมอยของหญิงชายเคล้าปนกัน ความมันสวาททำให้ศรีสุดาลืมตัวไปชั่วขณะ หล่อนเอื้อมมือรัดรอบหลังชู้ไว้ พร้อมกับขาใหญ่ก็โอบตวัดรัดเอวเขาแนบแน่น ยิ่งเพิ่มให้ลึงค์และโยนีเข้ามิดชิดสนิทกันดียิ่ง
เมื่อหญิงสาวช่วยเหลือถึงเพียงนี้ เจ้าหนุ่มก็หาหยุดยั้งการกระทำแม้แต่น้อยไม่ เร่งกระแทกอย่างแรง เสียงเตียงลั่นอ๊อดแอ๊ด อ๊อดแอ๊ด เป็นจังหวะจะโคนอยู่ตลอดเวลา กระเด้าไปพลาง ปากก็ซักไซ้ถึงความสุขที่เขาปรนให้
ทุกครั้งที่เขากระเด้าลงมา และซักถามอะไร เธอก็ตอบจนหมดสิ้น พร้อมกันก็เด้งตัวขึ้นรับการกดกระเด้าของเขาทั้ง ๆ ที่ขายังโอบตวัดรัดเอวเขาอยู่ มันช่างมีความสุขอันล้ำเลิศเสียนี่กระไร
ฝ่ายหนึ่งกระเด้าควยเข้าไป อีกฝ่ายหนึ่งกระเด้งรับเสียงดังฉับ ๆ ผสมกับเสียงเตียงลั่นอ๊อดแอ๊ด ๆ ระคนกับเสียงลูกฝาแฝดทั้งพวงของแมนกระทบกับตูดของศรีสุดาดังเปาะแปะๆ ฟังดูแล้วคล้ายกับดนตรีสวรรค์มาขับกล่อมภวังค์หนุ่มสาวให้ล่องลอยไปตามความเคลิบเคลิ้มของหัวใจ มันเป็นบทเพลงที่สวรรค์สร้างมาจำเพาะให้ชื่อบทเพลงนี้ว่า “โยนีพิศวาสลึงค์”
นานเท่านานที่หนุ่มสาวทั้งสองแนบร่างสนิทเกือบเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อที่จะให้รสสวาทตรึงใจไปอีกนาน
โดยความรวดเร็ว เขาก็จับศรีสุดาคนสวยให้คว่ำหน้าขึ้นทั้ง ๆ ที่ลำยาวยังเสียบคารูเธออยู่นั้น พอพลิกเธอขึ้น ร่างของเขาก็ลงนอนแทนที่ของเธอ อากัปกิริยาชายชู้ที่ทำกับเธอเช่นนี้ ทำให้หล่อนอายแทบจะแทรกแผ่นดิน
“ว๊าย! แมน...สัปดนจริง”
แมนหัวเราะด้วยความพอใจ
“ผลัดกันบ้างซี...ดาจ๋า...ดาต้องช่วยแมนทำมั่ง แมนเหนื่อยจะตาย”
“ไหน ๆ จะมีชู้แล้วทั้งที คืนนี้ขอเย็ดกับชู้คนนี้ให้สมใจ” คิดแล้วก็กล่าวเบา ๆ
“ถ้าจะให้ดาช่วย แมนก็ต้องนอนเฉย ๆ อย่ากระดุกกระดิกนะคะ”
พยักหน้ารับด้วยความปรีดา พร้อมกับใช้มือพยุงกายให้หญิงสาวลุกขึ้น ศรีสุดาค่อย ๆ แยกขาตัวเองคร่อมบนร่างแมน และหย่อนโยนีอันเป็นพวงทับลงไปบนลึงค์ทีละน้อย ๆ พอหย่อนลงมาได้หน่อย แมนก็กระเด้งตัวสวนขึ้นรับทันที
ศรีสุดาตบขาเขาดังเพี๊ยะ
“แน่ะ...ดาบอกให้อยู่นิ่ง ๆ ไม่ต้องดุกดิกทำอะไรทั้งนั้น ดาจะทำเอง เข้าใจไหม”
แมนไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้มมองดูการกระทำของคนรักด้วยตาปริบ ๆ พร้อมกับหล่อนก็ขย่มตัวขึ้นลงเบา ๆ และหนัก ๆ สลับกัน
แต่แล้ว เขาก็ไม่สามารถจะอดทนกลั้นความเสียวไว้ได้ เลยลืมสัญญาเมื่อครู่นี้เสียสิ้น
แมนจึงเอื้อมมือมาเบื้องหลังเธอ และจับแก้มตูดอันขาวสล้างแหกออก เมื่อหล่อนขย่มตัวลงมานั่นเอง แมนจึงเด้งขึ้นสุดแรง
“อุ๊ย...แมน...อุ๊ยแหม...ไม่อยากเชียว” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด แล้วมิได้ว่ากล่าวอะไร คงกระเด้าขย่มซอยตะโพกหนักขึ้น
แมนก็กระดกเอวรับเป็นจังหวะ พร้อมกับใช้นิ้วไชเข้าไปในรูตูดของศรีสุดาอย่างบรมสุข
จนในที่สุด ควยทั้งยาวใหญ่ก็หายลับเข้าไปในรูหีหล่อนจนหมดสิ้น
เจ้างูร้ายเลื้อยเข้าเลื้อยออกจนกลีบโยนีโย้ เขาสังเกตดูใบหน้าหล่อนแดงเข้า เพราะเหนียมอายที่เห็นเขามองดูของลับทำงานไม่วางตา
ดังนั้นเธอจึงก้มตัวลงบังเสีย แต่มันก็เป็นโอกาสอันดีที่ชายหนุ่มต้องการความอบอุ่นอยู่นานแล้ว แมนจึงโอบกอดเบื้องหลังอันขาวผ่องไว้แน่นจนเนื้อหน้าอกเบียดกันสนิท ส่วนขาของเขาก็ยกตะหวัดรัดตูดหล่อนเข้ามาจนแนบแน่น เธอมิได้รังเกียจหรือว่ากล่าวแต่ประการใด หนำซ้ำยังส่ายตูดขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
เมื่อขาแมนรัดไว้แน่นเช่นนี้ เวลาเธอยกตูดกระเด้าขึ้นลง ขาชายก็ตามติดขึ้นไปด้วย ทำให้ลึงค์ได้เข้าในรูลึกขึ้น หนำซ้ำแมนยังช่วยสปริงตัวรับอย่างไม่หยุดหย่อน มันจึงเป็นความสนุกสนานอันเลอเลิศซึ่งยากจะหาได้อีก
ปากของเขายังทำการดูดปากหล่อน ลิ้นต่อลิ้นทำหน้าที่ดุนดัน ยิ่งเพิ่มความมันให้บังเกิดขึ้นสุดคณนา
ยามเมื่อเธอยกตูดกระเด้าครั้งหนึ่งก็พอให้ตูดของชายหนุ่มตามติดขึ้นไปด้วย
“ดา...สุขเหลือเกิน...แมนขา...โอย...แมน...ทำไมถึงอร่อยอย่างนี้...อูย...ช่วยดากระเด้งแรง ๆ ...ออย...”
“ดา...”
“ขา...เรียกทำไมคะ”
“เมื่อไหร่ดาจะให้มาหาอีกล่ะ”
เขาถามเสียงกระซิบ
“โถ...เท่านี้ยังไม่พออีกหรือ แมนขา...ดาช้ำหมดแล้ว...โอย...เสียว...ซี๊ด...”
แน่ละ หล่อนตกอยู่ในสภาพของดอกไม้ที่ถูกเชยชมอย่างหนัก และถ้าหล่อนจะเป็นดอกไม้ก็คงไม่ผิดอะไรกับดอกกระดังงาที่ถูกปลิดมาจากกิ่งก้าน รู้ตัวและพอใจจะให้ช้ำ เพราะว่าเมื่อหล่อนกระดังงาช้ำแล้วนั้น มันสุดจะหอม
คืนนี้ศรีสุดาช้ำหนัก จึงสนุกนัก
“เป็นอะไรหรือ ดาถึงทำหน้าอย่างนี้”
“พูดไม่ถูกค่ะ”
ขณะที่หล่อนพูด หล่อนก็กระเด้งตะโพกไปมามิได้ขาด ความเสียวกระสันต์ของหนุ่มสาวได้ทวีขึ้นจุดสุดยอดแล้ว
“แมน..ข..ขา...โอย...ว๊าย น้ำรักดาออกแล้ว อูย...ซี๊ด...เอ่อ...เย็ดกันทำไมถึงมันอย่างนี้”
กล่าวแล้วเธอก็กอดรัดร่างของแมน รัดไว้เสียแน่นแทบจะหายใจไม่ออก ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับชายชู้มีความรู้สึกเช่นกัน และน้ำอสุจิซึ่งอัดอั้นมาก็พุ่งฉูดจากแหล่งพร้อมกัน หนุ่มสาวจึงบรรลุถึงสวรรค์บนหนามงิ้วอย่างสมใจ
เวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างอ้อยสร้อย ทั้งหนุ่มและสาวยังนอนเปลือยกายหยอกเย้าโดยมิได้เกรงนรกอเวจี
“แมนขา...” เรียกค่อย ๆ พร้อมกับกระซิบ “ดาอยากซ้อมเท้าจัง คืนนี้สวนลุมสนุก”
“รึครับ...เออ...จริงซี ผมลืมไปว่าคืนนี้ลีลาศครั้งมโหฬาร”
ดังนั้นไม่ช้า สองหนุ่มสาวก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถเก๋งคันงาม โดยศรีสุดาเป็นผู้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว และนำมาหลบข้างเกาะลอยลุมพินี ซึ่งกำลังมีดนตรีกังวานอยู่
สถานที่นั้นคับคั่งไปด้วยนักสังคมทั้งชายหญิง หล่อนได้รับการทักทายจากมิตรสนิทอย่างมากมาย โดยเฉพาะมิตรชายผู้เคยหลงในเรือนร่างอันเสน่ห์ของหล่อนมาก่อน
“คุณดา...!” เสียงใครคนหนึ่งร้องทัก หล่อนจึงหันมาทางเขาทันที
“อุ๊ย...คุณเอกชัย” อุทานออกมาพร้อมกับอุ้งมือน้อย ๆ ยื่นออกไปให้เขาเช็คแฮนด์ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น
“ชาลีมิได้มารึ” ชายหนุ่มผู้ได้รับปริญญาจากยุโรปกระซิบถาม
“ค่ะ” บอกเขาแล้วยิ้มช้อนตาขึ้นสบตาเขาอย่างหวานฉ่ำ เล่นเอาหนุ่มหัวนอกตะลึงงัน
“หวังว่าคืนนี้คงได้รับเกียรติจากคุณ”
ศรีสุดายิ้มน้อย ๆ หันมาหานายแมนที่เห็นเขามาหายไป ก็พอดีเสียงทรัมเป็ตดังแผดก้องหลบเสียงต่ำเป็นสูงอย่างโหยหวน แล้วดนตรีทุก ๆ ชิ้นก็กระหึ่มตาม
เธอประเดิมด้วยจังหวะกระแทกกระทั้นอย่างสบอารมณ์ พลางหมุนตัวด้วยลีลาสุดสวย สองมือตบเพื่อให้เข้ากับจังหวะร็อค ขณะนี้หล่อนช่างร่าเริงเสียนี่กระไร กลิ่นเหล้า ควันบุหรี่ เสียงดนตรี และการสัมผัสเสียดสีของเพศตรงข้ามดูเป็นสิ่งที่หล่อนจะขาดเสียมิได้
จบเพลง หล่อนก็ไปนั่งเป็นเกียรติให้กับเขาสองต่อสอง และด้วยความที่เท้าไฟถูกขากันมาก่อน จึงสนิทสนมต่อกันเป็นพิเศษ
คุยกันไปดื่มกันไป ไม่ช้าฤทธิ์สุราชั้นเยี่ยมจากต่างประเทศก็วิ่งซ่านอยู่ในสายเลือดหนักเข้า เขาและหล่อนก็ตกเข้าไปในหลุมโลกีย์พิศวาส
“คุณดานี่ยิ่งมองก็ยิ่งสวยกว่าแต่ก่อน” ชายหนุ่มพูดสัพยอก
“อุ๊ย...! ขวาง...ท่าจะเมาเสียแล้วซีนะ” กล่าวพลางชม้ายตามองอย่างหยาดเยิ้มและหวานซึ้ง แล้วไม่วายพูดด้วยหางเสียงสั่นขึ้นอีก “ยี่สิบเข้านี่แล้ว...ยังจะสวยอีกรึคะ ท่าจะเป็นฤทธิ์เหล้ากระมังทำให้เห็นเมียคนอื่นสวย”
เอกชัยยิ้ม แต่หนวดเหนือริมฝีปากของเขาเพิ่มเสน่ห์ ทำให้ยิ้มนั้นเก๋เป็นบ้า
แม้ชาลีจะเป็นเพื่อนกันมาก็ตาม เอกชัยคิด...แต่ทว่าเขาไม่ถือ ถ้าเมียเพื่อนยินยอมและพร้อมใจที่จะพลีร่างให้แก่เขา
“ผมว่าเราไปนั่งรถลอยลมคุยกันดีกว่านะ”
“อุ๊ยน่าเกลียด...ใครเห็นเข้าจะเข้าใจเป็นอื่น” แกล้งพูดออกไปด้วยมารยา แต่ใจจริงนั้นช่างตรงกันข้ามเสียเหลือเกิน
“ขอโทษนะครับ อย่าหาว่าผมล่วงเกินเลย” เขากล่าวตัดบทพร้อมกับยืนขึ้น เอื้อมมือกุมต้นแขนเธอดึงขึ้นเบา ๆ
เท่านั้นเอง ศรีสุดาก็ลุกตามเขาไปนั่งบนรถเก๋งคันงาม มิได้สนใจว่าเพื่อนนอนของหล่อนคนที่ชื่อนายแมนบัดนี้เขาอยู่ที่ไหน?
“จะพาดาไปไหนคะ” ฉอ้อนถามเพื่อนของผัวด้วยความงัวเงียขณะนั่งเคียงคู่กับเขา
“บางแสน”
“ต๊าย...ตาย..ถึงบางแสนเชียวหรือคะ” อุทานแล้วก็เงียบ มิคัดค้านแต่อย่างใด
บางแสนซึ่งไม่ใช่ฤดูตากอากาศ มันมีแต่ความเงียบเหงา คงได้ยินเสียงแต่คลื่นกระทบฝั่งโครมครัน ไฟวอมแวม
“เรานั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่า...คุณดา”
“ค่ะ..ที่ตรงนี้ลมเย็นสบาย”
เขาและหล่อนนั่งเคียงคู่กัน ร่างของศรีสุดาอยู่สูงกว่าเขาเล็กน้อย
“คุณดารู้ตัวบ้างไหมว่า...สวย”
“สวยอีกแล้ว” จีบปากจีบคอปรามเขาออกไป
ความจริงศรีสุดากำลังเบื่อผัว หล่อนกำลังสนใจในความสมาร์ทและเจ้าชู้ของเขา หล่อนชอบเห็นสายตาชายแสดงความรักอันซาบซึ้งให้เธอสังเกตเห็นแล้วเธอก็บังเกิดความรู้สึกลึกซึ้งในอกเช่นกัน
“ดา”
“ขา” ขานรับเสียงแตกพร่า
“ผม...ผม...รักคุณ”
“อุ๊ยตาย..” ทำเป็นตกใจร้องเสียงแหลม
“เป็นไปได้หรือคะ..เอกชัย...ดาชอกช้ำแล้ว หนำซ้ำผัวก็ยังมี...แต่คุณยังโสด”
เขามองหล่อนด้วยสายตาประกายวาว เพราะจริตกิริยากระตุ้งกระติ้งนั้นบาดใจพิลึก
“คุณเหมือนดวงใจของผม...ผมหลงรักมานานแล้ว...แม้จะมีเจ้าของก็ตาม” เขากล่าวออกมาอย่างเร่าร้อน ลืมตัวเอื้อมมือมาโอบไหล่เธอไว้
หล่อนรู้สึกเสียววาบ ภายในอกนั้นกรุ่นไปด้วยเพลิงตัณหา ทอดสายตาสบเขาอย่างหวาน ไม่มีเหลือแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะผลักไส
“อย่าซิ...ชัยขา...อย่าทำอย่างนี้ เดี๋ยวเสื้อผ้ายับหมด” เขาจูบลงบนพวงแก้มอย่างกระหายหิว ยังความซาบซ่านถึงอกถึงใจหล่อนยิ่งนัก
“อุ๊ย...คนใจร้าย” ร้องออกมาเหมือนคราง “ดา...ดาจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
เขาถอนจมูกออก คลายแขนออกจากร่างอันอวบเสน่ห์ กระซิบกรอกลงไปในรวงหู
“ชื่นใจของผม ผม...ผมจะกระอักรักคุณดาอยู่แล้ว”
“เรียกดาเฉย ๆ ซีคะ...ชัยขา” เธอสำแดงรักออกมา พร้อมกับรั้งคอเขาลงมาจูบสนอง ปากก็พร่ำฉอเลาะ
“รักดาจริง ๆ หรือคะ” แต่เขาไม่ตอบ กดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของหล่อน กดและเคล้นจนลิ้นต่อลิ้นสัมผัส ยังความกระสันต์เสียวให้เกิดขึ้นด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“เป็นของผมนะ..คนดี” เช็ดจมูกเกลือกกลิ้งที่ใบหูกระซิบ
ศรีสุดาครางอี๋ เลือดตัณหาท่วมหัวใจ คนพิลึก หล่อนนึกเคือง...จะเอายังมีหน้ามาข ใครเขาจะบอกให้...!
“อยากกอดเนื้อธรรมชาติของดาให้สมรัก”
“ดาอาย” หล่อนบอกเสียงสั่น พลิกตัวหันหน้าเข้าหาชายชู้
เอกชัยวางร่างหล่อนราบกับชายหาด ปล่อยให้เท้าทั้งสองของหล่อนยันพื้นทราย พลันกระตุกสายรัดตรงสะเอว แล้วดึงให้หลุดเลื่อนไหลไปกองกับหาดสีทอง
ศรีสุดาอุทานออกมาเบา ๆ ทั้งอายทั้งสยิวเพราะว่าร่างอันโสภาของหล่อนอยู่ในชุดวันเกิด ขาวผ่องโพลน นอนอาบแสงจันทร์ข้างแรมแก่อยู่เหนือหาดทรายชายทะเล
เมื่อเขาซุกหน้าเข้าไปในหว่างขา พอจูบกระทบกับเนินสร้าง ศรีสุดาก็สะดุ้งเฮือก แอ่นหีเพราะเสียวซ่าน จึงใช้ขาอ่อนหนีบคอเขาแน่น
“อูย...เสียว...ซี๊ด...” หล่อนครางดิ้นกระแด่วเมื่อลิ้นเขาสอดไปในรูแคม และเลียผ่านกลีบเนื้อตรงปลายแตด ก่อให้เกิดอารมณ์ใคร่แทบดิ้นตาย หล่อนเสียวจนน้ำหีน้ำตาเล็ด
“โอย...ชัยขา...พอที...” หล่อนร้องอู้เพราะหนวดขลิบไว้เหนือริมฝีปากของเขามันเข้าไปเสียดสีแคมใน ช่วยในการเสริมราคะจนสุดจะทน
“ชัยขา...เงยหน้าเสียทีซี” กระซิบอ้อนแต่ชายชู้กลับซุกจมูกและสูดเอากลิ่นชาแนล กลิ่นเบอร์ห้าที่หล่อนใช้เครื่องฉีดฉีดเข้าในรูโยนีเป็นประจำจนได้รับฉายาจากเพื่อนนอนว่าแม่โยนีหอม
“หอมมากหรือชัยขา ถึงได้ระดมจูบเอาอย่างนี้”
ชายชู้ถอนจมูกและเงยหน้าขึ้น หล่อนยิ้มหวานฉ่ำ
“ยอมเป็นของผมหรือยัง” ถามด้วยสายตาวิงวอน
“ค่ะ” หลุดคำออกมาด้วยความใจง่าย ก็พอดีเอกชัยปลดอาภรณ์ตัวล่อนจ้อนเช่นกัน
แยกขาหล่อนพร้อมกับเสือกตัวเข้าสอดระหว่างกลาง
พอควยกระทบง่ามตูด หล่อนก็อุ๊ยเบา ๆ จนหีขมิบแตดเต้นริก ๆ
“อูย...ขึ้นสูงหน่อยซีคะ...นั่นมันรูตูด...โอย..สูงอีกนิด นั่นตรงนั้น ตรงรูแล้ว ชัยขา...ใส่มันเข้าไป ค่อย ๆ ก่อน” หล่อนบงการออกมาให้เขารู้
เอกชัยจึงกระแทกพรวดโดยมิได้ยับยั้ง
ศรีสุดาสะดุ้งเฮือกทั้งตัว ตาเหลือกลานซี๊ดปาก เสียงออกตามไรฟัน เพราะหล่อนไม่มีการเจ็บปวดอีกแล้ว เมื่อตอนค่ำเล่นชู้กับแมนบนเตียงนอนของผัว มาตอนดึกนี้หนีมาเย็ดกับชู้คนที่สองกลางชายหาดโดยมีเม็ดทรายรองรับ และมองเห็นดาวเดือนเกลื่อนสวรรค์
“โอย...ชัย...ขา” หล่อนครางแล้วก็คิดในใจ “เย็ดบนเตียงนอนกับหาดทรายบรรยากาศมันผิดกันพิลึก”
ตูดใหญ่ของหล่อนลอยร่อนรับควยที่เขาควานอยู่รอบ ๆ รู หล่อนเด้งติด ๆ กันหลายทีจนลำควยนั้นมิดหายทั้งด้าม
“ดา...”
“ขา...”
“จวนหรือยัง”
“อูย...จวนแล้วค่ะ ชัยขา...โอย...ซี๊ด...เย็ดแรง ๆ ถี่ ๆ...โอย...มันจังเลย ชัย..ขา..ด...ด..า จวนแล้ว โอย...โอย...ออกแล้ว อูย...เธอล่ะ”
มิทันที่เขาจะตอบ คลื่นลูกใหญ่ก็ม้วนตลบขึ้นมาบนหาดด้วยกำลังแรง กระทบร่างของหนุ่มสาวจนทั้งสองหมุนกลมกลืนไปกับเกลียวคลื่น
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565
ศึกเพื่อนนอน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น