วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2565

The Memories

 
 

               ~ คืนนี้จันทร์นวลผ่อง มองแล้วคิดถึงแต่เธอ ตัวฉันยืนมองเหม่อ ถามว่าเธออยู่ที่ใด วอนสายลมแผ่วๆ ให้ช่วยพัดพาใจไป บอกกับเธอ ว่าคิดถึง ~ เสียงดนตรีเบา ๆ ในความเงียบสงัดยามดึก กับเหล้าวิสกี้ และล็อคเก็ตผลึกน้ำตาลในมือพาให้ใจคิดทบทวนเรื่องเก่า ๆ  ปีนี้เป็นปี 2563 ปีที่อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 มันทำเอาวิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ผมชื่อ จอม อายุ 36 ปี ปัจจุบันทำงานอยู่ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ผมสังกัดอยู่ติดเชื้อ COVID-19 และการอยู่บ้านเฉย ๆ มันก็ทำให้ผมมีเวลาคิด มีเวลาทบทวนเรื่องต่าง ๆ รวมถึงย้อนนึกถึงเรื่องราวในอดีต มันเป็นอดีตเมื่อ 5 ปีก่อนที่ภาพมันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
               ครอบครัวผมเคยอยู่ในกรุงเทพ แต่ด้วยความแออัดของพื้นที่เนื่องจากตอนนั้นผมกำลังจะแต่งงานโดยวางโครงการจะสร้างครอบครัวและมีลูก จึงปรึกษากับทางบ้านและได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรี โดยซื้อทาวน์เฮ้าส์ติดกัน 2 หลัง หลังหนึ่งพ่อกับแม่ผมอาศัยอยู่ และอีกหลังหนึ่งผมอาศัยอยู่กับภรรยา มันช่างเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่สุดท้ายเราก็อยู่กินกันได้ไม่นานก็หย่าร้างกันไป ปัจจุบันผมจึงอยู่บ้านเพียงลำพัง ผมมีน้องสาวอยู่ 1 คน เธออายุห่างจากผม 2 ปี หวาน คือชื่อของเธอ หวานแต่งงานกับรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย และย้ายไปอยู่บ้านสามีที่จังหวัดนครปฐม โดยทุกปีช่วงเทศกาลสงกรานต์หวานจะพาครอบครัวมารดน้ำขอพรพ่อกับแม่เสมอ และเรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อไปนี้มันเกิดขึ้นเมื่อตอนสงกรานต์ปี 2558

               < -------- >

               13 เมษายน 2558

               “ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง” ช่วงเวลาสาย ๆ ของวันก็มีเสียงกดกริ่งที่หน้าบ้าน ผมรู้ทันทีว่าต้องเป็นยัยหวานแน่นอน เพราะไม่มีใครจะมากดกริ่งบ้านผมรัว ๆ แบบนี้ พอเปิดประตูบ้านออกไป ภาพที่เห็นก็คือหญิงสาวสูงประมาณ 160 ซม. ผิวขาว ผมยาวมัดรวบปลายผมทิ้งดิ่งถึงกลางหลัง อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกว้างสีน้ำตาลอ่อน กางเกงยีนส์สีซีดขาสั้น เธอกำลังวุ่นวานกับการหอบของพะรุงพะรังออกจากท้ายรถ แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจคือ ไอ้แมนไปไหน แมนคือสามีของยัยหวาน มันเกิดปีเดียวกับผมแต่อ่อนเดือน แมนเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดี อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ชอบทำตัวเหมือนหนุ่มเจ้าสำอาง ซึ่งอันที่จริงผมก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันซักเท่าไหร่
               “หวาน... ไอ้แมนไม่มาเหรอ” ผมยืนตะโกนถามอยู่หน้าประตู
               “ไม่มา...” หวานตะโกนตอบห้วน ๆ
               “แล้วมันไปไหน ทำไมไม่มาด้วยกัน” ผมยังคงตะโกนถามกลับไป
               “ถามอยู่นั่นแหละ มาช่วยกันยกของก่อน” เสียงตะคอกเล็ก ๆ ช่วยเตือนว่า เออมึงจะยืนถามอยู่ทำไม ทำไมไม่ไปเปิดประตูรั้วบ้านแล้วช่วยน้องยกข้าวของ และแล้วกระเป๋าใบใหญ่ กับของฝากหลากหลายก็ถูกลำเลียงเข้ามาในบ้าน
               “เฮ่อ... เหนื่อยเลย” หวานหยิบรีโมทแอร์มาเปิด แล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าจากการขับรถ และขนของเข้าบ้าน
               “มาถึงก็เปิดแอร์เลยนะ ยัยตัวแสบ”
               “โถ่พี่จอม ก็คนมาเหนื่อย ๆ หิ้วของหนัก แล้วนี่มันเดือนอะไรพี่ นี่มันเดือนเมษานะพี่ โคตรร้อน... แล้วมีแขกมาบ้านนี่พี่ไม่คิดจะหาน้ำหาท่ามาให้กินหน่อยเหรอ แล้ว...”
               “โอเค พอ ๆ ๆ” น้องสาวผมบ่นใส่มาเป็นชุด จนผมต้องเบรกเธอแล้วเดินไปเอาน้ำเย็นมาให้
               “เอ้า... เป็นไง ตกลงทำไมมาคนเดียว ไอ้แมนก็ไม่มา หนูวิวก็ไม่มา” ผมยังคงสงสัยที่เธอมาคนเดียวโดยไม่เอาลูกสาวและสามีมาด้วย เพราะตั้งแต่หวานแต่งงานออกไปเมื่อปี 2553 นั่นคือแต่งงานหลังจากผมแต่งเพียงปีเดียว ทุก ๆ ปีเธอจะพาครอบครัวมาพักช่วงสงกรานต์ที่บ้านผมเสมอ
               “ไว้เล่าทีเดียวได้ป่าว เดี๋ยวไปบ้านโน้นพ่อกับแม่ก็ถามอีก... ไป ๆ ไปไหว้พ่อกับแม่กัน” เจ้าน้องสาวของผมคนนี้ยังคงกวนประสาทเหมือนเดิม หลังจากพูดจบเธอก็ลุกขึ้น จัดแจงหยิบพวงมาลัย กับน้ำอบ พร้อมของฝากหลายอย่างแล้วเดินนำหน้าไปบ้านแม่ทันที
               จากที่นั่งฟังการสนทนาของหวานกับแม่ก็ได้ความว่า ไอ้แมนติดงานด่วนเลยมาไม่ได้ ส่วนหนูวิว ลูกสาววัย 2 ขวบเศษ ถูกคุณย่าพาไปเที่ยวต่างประเทศจึงไม่ได้มาด้วย แต่ฟังยังไงมันก็ดูแปลก ๆ เรื่องหนูวิวผมยังพอรับฟังได้ แต่เรื่องไอ้แมน มันจะมีงานด่วนอะไรช่วงสงกรานต์ แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้ซักอะไรเพิ่ม โดยวันนั้นเราอยู่บ้านแม่ทำกับข้าวกินกันจนตกเย็น จึงได้กลับมาบ้านผม
               เหล้าดี ๆ โซดาเย็น ๆ กับการบริโภคข่าวสารหน้าทีวีที่ห้องรับแขกชั้นล่าง คือ กิจกรรมที่ผมจะทำทุกหัวค่ำหลังอาบน้ำประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งวันนี้ก็ไม่ยกเว้น ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินลงมา น้องสาวผมนั่นเอง หวานอยู่ในชุดนอนเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวใหญ่ผ้าซาตินสีชมพูอ่อน ผมยาวที่มัดรวบเมื่อตอนกลางวันตอนนี้ถูกปล่อยออก กลิ่นหอมจาง ๆ จากแชมพูสระผมลอยมาตามลมกระทบเข้ากับจมูก
               “ไม่เปลี่ยนเลยนะพี่จอม กินเหล้าทุกวัน” หวานพูดพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวาของผม มือหนึ่งจับขาซ้ายยกขึ้นขัดสมาธิเผยให้เห็นต้นขาขาวเนียน ส่วนอีกมือก็เอื้อมหยิบรีโมทเพื่อเปลี่ยนช่องทีวี
               “เธอนี่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ ตั้งแต่เด็กจนโต ชอบแย่งพี่ดูทีวี” หวานได้ยินก็หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มตาหยีทำหน้าทะเล้น ก็ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เหล้าที่กินเข้าไป หรือ รอยยิ้มที่มีเขี้ยวซ้อนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมันติดตรึงในใจผมมาตั้งแต่ตอนเด็ก ทำเอาผมมองเหม่อโดยไม่รู้ตัว
               “เป็นอะไรพี่จอม” เสียงของหวานทำเอาผมสะดุ้งเล็ก ๆ แต่ก็ยังคงเก็บอาการ
               “ปะ... เปล่า... เอ่อ จะเล่าความจริงให้พี่รู้ได้รึยัง” ผมเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะมันก็เป็นเรื่องที่คาใจผมอยู่ทั้งวัน
               “ความจริงอะไรพี่” ทั้งสีหน้า น้ำเสียงและกริยาของหวานทำให้ผมรู้ว่าเธอเฉไฉ
               “ก็เรื่องไอ้แมน กับหนูวิว” เพียงแค่ผมพูดเธอก็นั่งก้มหน้านิ่งไป
               “ทะเลาะกันเหรอ” ผมถามย้ำด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนจิตใจ ตอนนั้นในใจผมคิดแค่ว่า ถ้าหากทะเลาะกันจริง ๆ ผมจะได้ช่วยหาทางแก้ไข
               “พี่จอมอย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย หวานไม่อยากพูดถึงมัน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ ทำให้ผมรู้ว่าน่าจะเดาถูกทาง ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์หมายจะโทรหาไอ้แมน แต่ก็ไวเท่าใจผมคิด หวานเองก็ดึงโทรศัพท์ไปจากมือผม
               “พี่ไม่ต้องโทรหาพี่แมนนะ” เธอพูดพร้อมวางโทรศัพท์ลง แต่กลับยกแก้วเหล้าของผมที่ยังเหลือเต็มแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมด
               “เฮ่ย ๆ ๆ เดี๋ยวก็เมาตาย คนไม่เคยกินเหล้าอยู่ ๆ ก็มายกหมดแก้ว” ผมออกท่าทางตกใจเพราะรู้ว่าหวานไม่ใช่คนดื่ม
               “ไม่เมาหรอกพี่ หวานกินมาหลายเดือนแล้ว” คำตอบของเธอทำเอาผมช็อคไปเหมือนกัน จากเด็กสาวใส ๆ ไม่แตะแอลกอฮอล์ อะไรกันที่ทำให้เธอหันมาดื่มมัน
               “อะ... เอาไปเลย จะกินก็รินเอง อย่ามาแย่งแก้วพี่” ผมยื่นแก้วให้เธอ เพราะยังไงเราก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว พอเหล้าเข้าปากหลายแก้วเข้า หวานก็เริ่มระบายสิ่งที่อยู่ในใจของเธอ
               “หนูวิว ย่าเค้าพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ส่วนที่วันนี้พี่แมนไม่มาเพราะเค้าจะไปเที่ยวกับเพื่อน แต่หวานอยากมาไหว้พ่อกับแม่ หวานคิดถึงแม่ ตอนนี้หวานเหมือนไม่มีใคร” น้ำเสียงที่เธอพูดมันแฝงไปด้วยความโศกเศร้าและโดดเดี่ยว ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวที่เคยห้าว ๆ โก๊ะ ๆ จะมาอ่อนไหวได้แบบนี้ เธอคงเจออะไรมาไม่มากก็น้อย
               “หวาน... หวานแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ มีลูกน้อย ๆ ที่น่ารัก ทำไมหวานถึงว่าหวานไม่มีใคร”
               “พี่จอม ประมาณครึ่งปีก่อน หวานมีความรู้สึกว่าพี่แมนเปลี่ยนไป เหมือนว่าเราห่างเหินกันมากขึ้น พูดคุยกันน้อยลง”
               “หวานว่าไอ้แมนมันมีผู้หญิงอื่นเหรอ”
               “ตอนแรกหวานก็ไม่แน่ใจ แต่หวานเคยเห็นข้อความ line เด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของพี่แมนว่า คิดถึงจัง ทำอะไรอยู่” เธอพูดพร้อมยกแก้วขึ้นดื่มหมด หน้าหวานเริ่มแดง ส่วนนัยน์ตาเธอคล้าย ๆ จะมีน้ำตาซึมเล็กน้อย
               “แต่หวานก็ทำอะไรไม่ได้ หวานแต่งเข้าไปอยู่บ้านพี่แมน งานหวานก็ไม่ต้องออกไปทำ เป็นแม่บ้านเลี้ยงดูลูก รับเงินเดือนจากผัว อยู่บ้านเค้าก็ต้องเกรงใจเค้า” ความในใจของหวานเริ่มพรั่งพรูออกมาเป็นคำพูด พร้อมกับเทเหล้าลงแก้ว
               “เบา ๆ หน่อยหวาน เดี๋ยวก็เมากันพอดี” ผมเริ่มปรามเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มดื่มหนักแบบแก้วต่อแก้ว
               “ไม่เมาหรอกพี่ หวานอยากดื่ม หวานอยากระบาย”
               “โอเค ถ้าน้องพี่อยากระบาย วันนี้เราพี่น้องกินให้เต็มที่ คุยกันทุกเรื่องไปเลย” จากที่ผมฟังน้ำเสียงของเธอที่ยังชัดเจน ไม่ออกอาการเมาแต่อย่างใด ประกอบกับนี่เป็นการดื่มเหล้าครั้งแรกระหว่างเรา 2 พี่น้อง ผมจึงพร้อมที่จะนั่งรับฟังเธอระบายความในใจ หวานเริ่มเล่าถึงเรื่องความเคลือบแคลงใจ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของตัวสามีเธอ ระหว่างการสนทนา เหล้าก็ถูกรินแล้ว รินอีก จนรู้สึกว่าภาษาที่เราใช้คุยกันเริ่มเปลี่ยน ความสุภาพที่เคยมีระยะห่างไว้เริ่มลดน้อยถอยลงไป
               “จากที่เมื่อก่อนเอากันอาทิตย์ละ 3 – 4 วัน ตอนนี้เหลืออาทิตย์ละวัน” หวานพูดพร้อมยกนิ้วชี้ที่จับแก้วเหล้าอยู่ด้วยเสียงเริ่มยานเล็กน้อย แล้วกระดกเหล้าดื่มหมดแก้ว ผมสังเกตไปที่ขวดเหล้า เหล้าขนาด 1 ลิตรหมดไปเกือบ ¾ ของขวด ผมเองก็เริ่มหน้าตึง ๆ
               “แล้วหวานอยากอาทิตย์ล่ะกี่วันล่ะ”
               “แหน่ะ... ลามก” หวานที่กำลังก้มหน้าเทเหล้า เหลือกตามองผมพลางชี้หน้าแบบยิ้ม ๆ
               “อ้าว... ก็หวานพูดขึ้นมาก่อนนี่หน่า” นี่มันมาถึงจุดที่เราพูดเรื่องบนเตียงกับน้องสาวได้ยังไง ใจนึงก็รู้สึกแปลก ๆ ใจนึงก็ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
               “ก็ไม่ใช่อาทิตย์ละวันป่าววะ บางทีหวานอยากหวานก็สะกิด พี่แมนแม่งก็ทำเฉย แล้วอย่างนี้ครอบครัวมันจะอยู่กันได้ยังไง” เธอเริ่มขึ้นเสียง
               “ถามจริง ๆ พี่จอม... หวานไม่สวยเหรอ” เธอพูดแล้วยื่นหน้ามาใกล้ผม ผิวขาวเหมือนหยวกของหวาน ใบหน้าเรียวได้รูป แก้มที่แดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ริมฝีปากสีชมพู
               “สวย หวานสวยมาก” ผมตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องคิด
               “หรือว่าหวานหุ่นไม่ดี นมหวานก็มีนะ” หวานไม่พูดเปล่า เธอยก 2 มือขึ้นจับหน้าอกตัวเองแล้วแอ่นตัวเผยให้เห็นขนาดของเต้านม แถมยังมีรอยนูนเป็นเม็ดดันเสื้อออกมาทำให้รู้ว่าหวานไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน
               “ดี หวานหุ่นดี” ถึงเราจะเป็นพี่น้องกันแต่ภาพที่เห็นก็ทำเอาพี่ชายคนนี้จินตนาการถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในไปถึงไหนต่อไหน ตรงหน้านี่มันน้องสาวแท้ ๆ ของผม แต่ทำไมผมถึงมีความรู้สึกอยากสัมผัสมันขึ้นมา
               “แล้วทำไมแม่งยังไปมีคนอื่นอีกวะ ผู้ชายแม่งก็เหี้ยแบบนี้ทุกคน”
               “อ้าว ๆ พี่ก็ผู้ชายนะโว้ย”
               “ถ้าพี่แมนแม่งมีคนอื่นได้ หวานก็มีคนอื่นได้ เพื่อนผู้ชายในกลุ่มหวานก็มี” เพียงได้ฟัง เหล้าในปากผมก็แทบพุ่งออกมา เมื่อความคิดของน้องสาวผมเริ่มออกนอกลู่นอกทาง
               “ยัยหวาน เราเป็นผู้หญิงนะ”
               “ผู้หญิงแล้วไงพี่ หวานต้องคอยแชร์ควยผัวตัวเองกับคนอื่นเหรอ เวลาหวานดูดควยพี่แมน หวานต้องคิดมั๊ย ว่าควยนี้เคยไปเสียบหี ไปเย็ดหีใครมาบ้าง” ภาษาที่ใช้เริ่มดิบเถื่อนไปตามความเมาของเธอ ซึ่งเหตุผลที่เธอยกขึ้นมามันก็ทำให้ผมเถียงไม่ออกเหมือนกัน แล้วจู่ ๆ ภาพประกอบคำพูดของหวานก็ลอยเข้ามา ภาพน้องสาวผมกำลังดูดควย แค่คิดดุ้นเนื้อในกางเกงก็ค่อย ๆ พองขึ้นจนผมต้องแอบเอามือกดมันลง
               “แต่ถึงยังไงพี่ก็ไม่สนับสนุนให้เราประชดผัวด้วยการไปเปลืองตัวหรอกนะ”
               “แหม ๆ หวงน้องล่ะซี้...” หวานพูดมองผมแบบทะเล้นแถมยื่นหน้าเข้ามาใกล้
               “ก็...” ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อเธอพูดแทงใจดำผม ผมยอมรับว่าผมหวงน้องสาวคนนี้มาก ตั้งแต่เล็ก ๆ แล้วที่มีผู้ชายมาจีบเธอมากมาย แต่ผมก็กันท่ามาโดยตลอด จนหวานคบกับไอ้แมน และเธอยืนยันว่าจะแต่งงานอยู่กินกับผู้ชายคนนี้ ผมจึงต้องปล่อยเธอไปตามทางที่เธอเลือกเอง
               “ก็อะไร ว่าแต่พี่จอมเถอะหย่ากับเมียมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่หาเมียใหม่ซักที... เอ... หรือว่าชอบซื้อกิน” จากเรื่องที่คุยกันแต่แรกเป็นเรื่องของหวาน แต่ตอนนี้กลับวกมาเข้าเรื่องของผมได้ยังไง
               “จะบ้าเหรอ เอาจริง ๆ นะ พี่ไม่เคยซื้อกินเลยซักครั้ง”
               “จริงดิ พี่จอมของน้องหวานเป็นคนดีอย่างนั้นเชียว นับแล้วก็... 3 ปีแล้วนะที่พี่อยู่คนเดียว แล้วเวลาเงี่ยนขึ้นมาทำไงล่ะพี่”
               “..........” ผมได้แต่อึ้ง คำถามของเธอทำเอาผมจุก นี่เราคุยถลำลึกไปรึป่าว
               “ชักว่าวอะเด้ ใช่ป่าว บอกมา” เธอยังคงคุยทำหน้าทะเล้น
               “เออ... ว่าวก็ว่าว” แก้วเหล้าถูกยกขึ้นดื่มแก้เขิน ผู้ชายที่ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วแต่ยังต้องมาช่วยตัวเองมันคงน่าอับอาย
               “แล้วทำไมพี่จอมถึงหย่ากับเมียล่ะ”
               “..........” มันเป็นเรื่องที่ผมไม่กล้าจะบอกให้หวานฟัง
               “ไม่พูด... ไหนว่าคุยกันทุกเรื่องไง” หวานเริ่มรุกผมหนักขึ้น
               “เรื่องอย่างว่า พี่กับเมียเข้ากันไม่ได้”
               “เรื่องอย่างว่า... อย่างว่าอะไร นี่น้องนะ คุยให้ชัด” หวานยกแก้วขึ้นดื่มต่อ เธอพูดจาแบบนักเลงเมื่อผมตอบแบบอ้อม ๆ
               “เอาจริง ๆ เลยนะ พี่มันเป็นคนมีความต้องการสูงอยากเอาทุกวัน บางวันอยากขึ้นมาหลาย ๆ ครั้ง เมียพี่หาว่าพี่หื่น หาว่าพี่เป็นโรคจิต เสพติดเซ็กส์ ส่วนเธอก็ไม่ค่อยชอบเรื่องพรรค์นี้ซักเท่าไหร่ เราก็เลยหย่ากันไป”
               “โห... โคตรอิจฉาเมียพี่เลยว่ะ ถ้าไอ้พี่แมนเป็นแบบพี่จอมนะ หวานคงมีความสุขมาก” หวานพูดไปหัวเริ่มผงก ตาหรี่ลงเหมือนคนเมา แล้วเหล้าแก้วสุดท้ายก็ถูกกระดกจนหมด เธอก็นั่งนิ่งไปซักพัก
               “หวาน... ขึ้นบ้านนอน” ผมเอามือไปจับไหล่เธอเขย่าเบา ๆ” จนเธอสะดุ้ง
               “เอามาอีกขวดเลยพี่จอม หวานยังไหว”
               “พอก่อน พรุ่งนี้ค่อยกินใหม่ก็ได้” ผมลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ พยุงเธอจากด้านหลัง 2 มือผมช้อนเข้าใต้รักแร้เพื่อยกตัวเธอขึ้น หวานอยู่ในอาการเมาแล้วจริง ๆ ตัวเธออ่อนปวกเปียกแต่ยังพอมีสติ
               “กินวันนี้เลยพี่จอม หวานอยากกินเหล้า” ยังไม่วายจะสิ้นฤทธิ์ เจ้าน้องสาวตัวแสบของผมยังคงบ่นเสียงอ้อแอ้ ระหว่างที่ผมประคองให้เธอเดิน มือผมก็ได้สัมผัสเข้ากับเต้าอวบภายใต้เนื้อผ้าลื่น ๆ อย่างไม่ตั้งใจ มันทั้งใหญ่ทั้งนุ่ม กลิ่นกายของหวานหอมจนผมรู้สึกได้แม้จะดื่มเหล้ามาเยอะก็ตาม ผมยอมรับว่าตอนนั้นท่อนเอ็นของผมค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นอีกครั้ง
               “นี่น้องสาวมึงนะโว้ย” ผมเผลอบ่นกับตัวเองเบา ๆ
               “อะไรเหรอพี่จอม” เธอพูดสวนกลับมา
               “ปะ... เปล่า” ผมตอบติดอ่างทันที เมื่อถึงห้องหวานผมก็ค่อย ๆ วางเธอลงบนที่นอน แล้วเดินกลับมาหมายจะปิดไฟ ผมหันไปมองเธออีกครั้ง หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันหลัง สะโพกเธอช่างกลมกลึงรับกับเอวที่คอดกิ่ว ผมยืนมองด้วยใจที่สับสน หวานเมามากขนาดนี้ถ้าผมทำอะไรลงไปเธอคงไม่สามารถขัดขืนผมได้ ยิ่งคิดว่าหวานจะไปมีชู้เพื่อประชดไอ้แมน ผมยิ่งหึงหวงน้องสาวขึ้นไปอีก อยู่ดี ๆ เท้าผมก็ก้าวสืบเข้าไปยังเตียงนั้นโดยไม่รู้ตัว แต่เหมือนมีอะไรมาดึงผมไว้ 2 มือผมกำหมัดแน่นแล้วหันหลังกลับปิดไฟ ปิดประตูแล้วกลับมานอนยังห้องของตัวเอง คืนนั้นในความมืด ผมคิดไปต่าง ๆ นานา ทั้งเรื่องที่เราคุยกัน ทั้งหน้าอกนุ่ม ๆ ทั้งเรียวขาขาว ๆ และใบหน้าที่สวยงามของเธอ จนอดไม่ได้ที่จะงัดลำควยออกมาชักว่าว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจินตนาการถึงน้องสาวตัวเอง เพียงไม่นานน้ำควยผมก็พุ่งออกมา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็หวนกลับมาด้วย ผมรีบลุกขึ้นไปชำระล้างก่อนจะกลับมานอนครุ่นคิดเรื่องต่าง ๆ จนผลอยหลับไป

               14 เมษายน 2558

               เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือสะกิดผมให้ตื่น ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองที่หน้าต่างยามเช้าของเวลา 6 โมง พลางคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ผมรู้สึกดีใจมากที่ไม่ได้ทำบ้าบออะไรลงไป เช้านี้ผมรีบไปซื้อกับข้าวที่ตลาดหน้าหมู่บ้านมาเตรียมให้น้องสาว สำรับถูกวางไว้อย่างครบครันบนโต๊ะตัวเดิมที่นั่งดื่มกันเมื่อคืน ผมดูทีวีรอหวานอยู่นานจนต้องหันไปมองนาฬิกา นี่มัน 9 โมงกว่าแล้ว ทำไมยัยหวานยังไม่ลงมาอีก
               "สงสัยจะเมาจริง ๆ” ผมบ่น แล้วเดินขึ้นบ้านหมายจะปลุกหวาน เมื่อเปิดประตูเข้าไป ถึงแม้แสงสว่างจะไม่มากนักเพราะไม่ได้เปิดไฟ แต่แสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านผ้าม่านมามันเพียงพอที่จะทำให้เห็นทุกอย่าง ภาพที่เห็นทำเอาผมตกอยู่ในมนต์สะกด มือที่จับลูกบิดอยู่ค่อย ๆ ดึงประตูปิดแบบแผ่วเบาที่สุด ผมค่อย ๆ ย่างเท้าเดินเข้าไปยืนตรงปลายเตียงแบบละสายตายังจุดนั้นไม่ได้ ลมหายใจผมเหมือนจะติดขัด หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกเหมือนมันจะทะลักออกมา น้ำลายในคอเหนียวจนต้องขย้อนกลืนมันลงไป ร่างของหญิงสาวนอนแผ่หลา เผยให้เห็นชั้นในผ้าซีทรูสีชมพูอ่อน ภายใต้เนื้อผ้าบางเบานั้นเป็นพูเนื้อขนาดใหญ่ เนินโคกโหนกนูนมีไรขนขึ้นอุย ๆ ให้พอเห็นได้ ผมเพ่งพินิจสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นอยู่นานด้วยความหลงใหล ใบหน้าผมร้อนผ่าวแม้ในห้องจะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำก็ตาม และเหมือนไม่รู้อะไรมาดลใจ ผมตัดสินใจโน้มตัวใช้มือทั้ง 2 ข้างค่อย ๆ วางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้หวานตื่น พร้อมกับค่อย ๆ ก้มหน้าลงดอมดมเนินหีนั้น เพียงได้กลิ่นที่เย้ายวนดุ้นเอ็นผมก็พองขึ้นทันที มือซ้ายของผมละออกจากที่นอน แล้วควักท่อนเนื้อนั้นออกมาจากซิปกางเกง ผมหลับตาลงพร้อมกับดมหีน้องสาว มือก็เริ่มสาวชักลำควย ทั้งกลิ่นที่เย้ายวนผสมกับความเงี่ยน ผมตัดสินใจแลบลิ้นออกไปเลียร่องหีภายนอกชั้นในเบา ๆ ปลายลิ้นได้สัมผัสเข้ากับเนื้อผ้าบาง ๆ มันช่างได้อารมณ์และตื่นเต้น
               “อื่มมมม...” เสียงเหมือนครางเบา ๆ กับขาที่แยกออกอีกเล็กน้อยทำเอาผมตกใจหยุดการกระทำ  ผมเหลือกตาขึ้นมองหน้าหวาน เธอยังคงหลับ นี่หวานคงกำลังฝันหวานอยู่เป็นแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งได้ใจ ผมจูบซอกขาตรงเนื้อแท้ของหวานแล้วค่อย ๆ แซะปลายลิ้นหมายจะเข้าไปเลียเนินเนื้อแบบไม่ต้องผ่านเนื้อผ้าบาง ๆ แต่แล้วก็เหมือนฟ้าผ่ามากลางกบาลผม
               “พี่จอมทำอะไร...!!!” เธอพูดพร้อมดึงตัวลุกขึ้นถอยไปนั่งที่หัวเตียง
               “ปะ... ป่าว” ผมตกใจจนพูดอะไรไม่ออก อายก็อาย หลักฐานก็ยังคามืออยู่ ผมลนลานรีบเก็บไอ้ตัวปัญหาเข้าที่ทันที
               “พี่เห็นหวานยังไม่ตื่น พี่ก็เลยขึ้นมาปลุกไปกินข้าว” พูดเสร็จผมก็รีบออกจากห้องเธอ แล้วลงมานั่งยังโต๊ะกินข้าว พยายามรวบรวมสติที่เตลิดไปไหนต่อไหนให้กลับมา แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลย ประมาณครึ่งชั่วโมง หวานก็เดินลงมา แต่เธอกลับไม่นั่งลงกินข้าว หวานเดินออกไปบ้านแม่โดยไม่พูดหรือเอ่ยอะไรกับผมซักคำ
               “ตายห่าแล้วมึง ไอ้จอม” ผมบ่นกับตัวเองพร้อมกับเอามือกุมขมับ ทุกอย่างที่ผมคิดตอนนั้นเป็นลบหมด เธอต้องไปบอกพ่อกับแม่แน่ ๆ ผมจะต้องกลายเป็นไอ้โรคจิต วันนั้นทั้งวันหวานไม่ได้กลับเข้ามาบ้านผมเลย ผมคิดจินตนาการไปมั่วจนแทบจะเป็นบ้า
ตกเย็นประมาณ 6 โมง ผมก็เริ่มดื่มเหล้า ซึ่งถือว่าเร็วกว่าปกติ ยิ่งดื่มก็ยิ่งคิด ผมต้องโดนพ่อแม่ด่า ผมต้องเข้าหน้าใครไม่ติดแน่ ๆ จนประมาณ 1 ทุ่ม น้องสาวผมก็กลับเข้าบ้านมาแล้วเดินผ่านโต๊ะผมขึ้นไปบนห้องทันทีโดยไม่เหลียวมองผมแม้แต่น้อย เหมือนกับผมเป็นเพียงธาตุอากาศหรือฝุ่นธุลี ซึ่งมันก็สมควรแล้วกับการกระทำของตัวผมเอง เธอต้องเกลียดผมมากแล้วแน่ ๆ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งดื่ม ผมไม่น่าให้อำนาจฝ่ายต่ำมาชี้นำการกระทำของตัวเองเลย ซักประมาณทุ่มครึ่งน้องสาวผมก็ลงมา เธอเดินมายังโต๊ะพร้อมด้วยแก้วหนึ่งใบ ชุดที่หวานใส่เหมือนกับเมื่อวานไม่มีผิด เปลี่ยนแปลงแค่เป็นสีขาวนวล เธอเอื้อมมือหยิบรีโมททีวีไปเปลี่ยนเหมือนเดิม หวานชงเหล้าดื่มไปพลางดูทีวี เวลาผ่านไปเกือบ 15 นาที ที่ไม่มีเสียงสนทนาใด ๆ เกิดขึ้น
               “หวานเชื่อแล้วว่าพี่จอมหื่นจริง” เธอพูดพร้อมมองตาผมพักนึง ก่อนจะคีบน้ำแข็งลงแก้ว หวานเป็นคนเอ่ยประโยคแรกขึ้นมาก่อน ซึ่งผมก็ใจชื้น แต่มันกลับเป็นประโยคที่ทำเอาผมไปไม่เป็น
               “พี่... พี่ขอโทษ”
               “..........” หวานไม่ตอบอะไร ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเธอต้องโกรธผมมากแน่ ๆ
               “หวาน ได้... เอ่อ... ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อ แม่รึป่าว” ผมถามเสียงอ่อย
               “..........” เธอยังคงไม่ตอบอะไรเหมือนเดิม
               “พี่...”
               “พอแล้วพี่จอม หวานเข้าใจพี่ เมื่อวานเราก็คุยกันแล้ว หวานรู้ว่าพี่หื่น พี่อัดอั้น ส่วนเรื่องพ่อกับแม่หวานไม่ได้บอกอะไรหรอก... พอใจรึยัง” ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร หวานก็ชิงพูดเหมือนรำคาญผม แต่คำตอบของเธอก็ทำให้ผมดีใจเหมือนยกภูเขาที่สะสมความกังกลทั้งหมดของวันออกจากอกไป
               “แล้วเมื่อเช้าทำไมไม่กินข้าวล่ะ แล้วก็ไปอยู่บ้านแม่ทั้งวัน”
               “เอาจริง ๆ นะ เมื่อเช้าหวานก็ตกใจอยู่ ไม่คิดว่าพี่จะทำอะไรแบบนั้น แล้วจะให้ลงมากินข้าวด้วยมันก็แปลก ๆ มันจะมองหน้ากันยังไง มันจะคุยกันยังไง ก็เลยไปกินบ้านแม่ แล้วก็นั่งคุยกับแม่ อยู่เป็นเพื่อนแม่ ก็ปี ๆ นึงหวานจะได้กลับมาหาแม่ซักครั้ง” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
               “แสดงว่าหวานไม่โกรธพี่แล้วนะ”
               “มันก็ไม่เชิงหรอก จะให้รู้สึกยังไงดีล่ะ อยู่ ๆ ก็สะดุ้งตื่นเพราะพี่ชายกำลังเลียหีตัวเอง พร้อมกับชักว่าวไปด้วย มันแปลก ๆ ปะ”
               “พี่ขอโทษ มัน... มันอดใจไม่ไหวจริง ๆ” ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้าตอบออกไปอย่างนั้น
               “อดใจไม่ไหว... ยังไง... ก็แค่พี่เงี่ยน ไม่ได้ปลดปล่อย” หวานเอียงคอถาม
               “ป่าวนะ ตอนนั้นพี่ไม่ได้อยาก แต่คือของหวานมัน...” ผมไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป
               “ของหวานมันทำไมเหรอ เชื่อมั๊ยตั้งแต่แต่งงานมาพี่แมนยังไม่เคยเลียของหวานเลยแม้แต่ครั้งเดียว” หวานดื่มเหล้าไปครึ่งแก้วแล้วหันมาพูดสีหน้าออกอาการเซ็งอย่างเห็นได้ชัด
               “..........” จะให้ผมพูดอะไรล่ะ ก็ตรงหน้านี่มันน้องสาวตัวเองนะ อยู่ ๆ จะให้บรรยายอะไรออกไปได้ยังไง
               “พูด...!!!” หวานเค้นถามผมพร้อมกับกระดกเหล้าที่เหลือ แล้วชงเหล้ารอฟังคำตอบ
               “ก็ของหวานสวยมาก โคกมันโหนกนูน ส่วนแคมเนื้อก็เป็นพูอวบ แถมหวานเป็นคนขาวด้วยมันเลย...” พูดไปใจผมก็ยิ่งเต้นแรง
               “มันเลยอะไร... ทำไมพี่จอมชอบพูดกั๊ก ๆ ไม่พูดให้จบวะ” หวานพูดคิ้วขมวด
               “มันเลยอยากเลียของหวาน” ผมตัดสินใจพูดออกไปแบบตรง ๆ แต่ก็สังเกตได้ว่าคำตอบของผมทำเอาหวานหน้าแดงไปเหมือนกัน
               “โถ่พี่... พี่แมนมันยังไม่ยอมเลียของหวานเล้ย” หวานตัดพ้อเสียงสูง แก้วในมือก็ถูกยกขึ้นดื่มอีก วันนี้เธอดื่มเร็วและเข้มกว่าเมื่อวานมาก อาจะเป็นเพราะเมื่อวานดื่มหนักวันนี้เลยดื่มได้เยอะ
               “ไอ้แมนมันโง่ มีของดีอยู่กับตัวแต่ไม่ใช้” ผมตอบแบบจริงจัง เพราะผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตา ทุกอย่างที่เป็นหวาน เธอคือผู้หญิงที่สวยงามที่สุดที่ผมเคยเจอมา ตั้งแต่วินาทีนั้นผมมีความรู้สึกว่าผมหลงรักน้องสาวตัวเองขึ้นมาซะแล้ว
               “ถามหน่อย” หวานหันมามองหน้าผม ซึ่งผมก็ใจหายวาบ เพราะหน้าตาเธอดูจริงจังมาก
               “มีอะไรเหรอ”
               “ถ้าเมื่อเช้า... หวานไม่รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน... มันจะไปจบตรงไหน” เธอถามแล้วยังคงมองหน้าผมเพื่อรอคำตอบ
               “.......... ไม่รู้สิ ก็หวานตื่นขึ้นมาก่อน พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่จะถลำลึกไปถึงขั้นไหน แต่ที่รู้ ๆ คือ มันผ่านไปแล้ว” ผมรวบรวมสติก่อนจะพูดมันออกไป เมื่อหวานได้ฟังคำตอบก็ไม่พูดอะไร เธอชงเหล้าอีกแก้ว แต่แก้วนี้ชงหนามาก ก่อนจะยกกระดกรวดเดียวหมดแก้วแล้ววางมันลงเบา ๆ และคำพูดที่เธอเอ่ยขึ้นมาหลังจากนี้มันเปลี่ยนชีวิตของเราทั้ง 2 คน
               “งั้นเรามาย้อนเวลากัน” หวานจ้องตาผมก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องไป ทิ้งให้ผมนั่งอึ้งอยู่กับคำพูดของเธอ เพียงคำพูดนี้ทำเอาหน้าผมร้อนผ่าว นี่หวานกำลังชวนผม… ไม่ ๆ ผมสะบัดหัวไปมา แต่คำพูดเมื่อครู่นี่มัน... ผมตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อเดินไปยังห้องของเธอ ระหว่างทางมีคำถามมากมายในหัวที่ถาโถมกันเข้ามา นี่มันคืออะไร นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น และแล้วผมก็มาหยุดตรงหน้าประตูห้องเธอ ผมค่อย ๆ บิดลูกบิดเปิดเข้าไปอย่างตื่นเต้น ภาพที่เห็นไม่ต่างกับเมื่อเช้า มันคือภาพที่ทำให้ผมเหมือนถูกมนต์สะกดอีกครั้ง หากแต่มันชัดเจนยิ่งกว่า แสงไฟจากหลอด LED สาดกระทบผิวกายของหญิงสาวที่นอนอยู่ในท่า 2 มือประสานกันที่หน้าอก ใบหน้าอันงดงามที่หลับตาลงเหมือนเจ้าหญิงนิททราที่กำลังหลับใหล เสื้อนอนร่นขึ้นเผยให้เห็นชั้นในซีทรูสีขาวขอบขาเว้าสูงที่ปิดบังเนินนูนเป็นหลังเต่าไว้ ผมค่อย ๆ ปิดประตูพลางคิดว่านี่เวลาย้อนกลับมาแล้วจริง ๆ เหรอ  และแล้วตอนนี้ผมก็มายืนที่ปลายเตียงเหมือนเมื่อตอนเช้า สายตาผมเพ่งพินิจเนินนูนภายใต้ชั้นในบางเฉียบนั้นอีกครั้ง แต่ในสมองยังครุ่นคิดบางอย่าง นี่ผมจะเป็นพี่ชายที่แสนดี หรือกำลังจะเป็นไอ้หื่นแบบที่น้องสาวพูด แต่แล้วกำแพงในใจก็ถูกพังทลาย หวานค่อย ๆ แยกขาออกเล็กน้อยเหมือนเชิญชวนให้ผมทำอะไรซักอย่าง ในเมื่อเวลาถูกย้อนกลับแล้วผมคงต้องดำเนินไปตามบทที่เคยเล่นไว้ มือทั้ง 2 ข้างวางลงบนเตียงอีกครั้งแล้วค่อย ๆ ก้มลงไปดอมดมเนินสวาทของหวาน กลิ่นหอม ๆ จากร่องเสียวของเธอมันช่างเย้ายวนจิตใจ ผมรู้สึกได้ถึงดุ้นเอ็นตัวเองที่ค่อย ๆ พองขึ้น เหตุการณ์มันเหมือนเมื่อตอนเช้าไม่มีผิดเพี้ยน นิ้วโป้งซ้ายถูกสอดเข้ากับขอบกางเกงยางยืดของตัวเองแล้วดึงรั้งมันลงไปกองกับพื้นพร้อมกับกางเกงในเพื่อปลดปล่อยให้ท่อนเอ็นที่บัดนี้แข็งตัวเต็มที่เป็นอิสระ ไม่มีอะไรต้องคิดอีกแล้ว ผมจัดแจงท่าทางตัวเองให้ถนัดในการที่จะโลมเลียเนินนูนภายนอกชั้นในบาง ๆ ตัวนี้ ผมค่อย ๆ ฝังปลายจมูกซุกเข้ากับกลางร่องเบา ๆ มันทั้งนุ่มทั้งหอม และรู้สึกได้ทันทีว่าหวานสะดุ้งเล็กน้อย ผมแลบปลายลิ้นออกจนแตะกับเนื้อผ้าซีทรูแล้วพยายามดุนลิ้นเข้ากับร่องเสียว เรียวลิ้นที่ตวัดไปมาผสมกับน้ำลายทำให้เนื้อผ้าค่อย ๆ ยู่เข้าไปในร่องจนสัมผัสกับติ่งแตด
               “อื่มมมม...” นี่เป็นเสียงครางเบา ๆ ครั้งแรกของหวานพร้อมกับบิดเอวเล็กน้อย ขาเธอค่อย ๆ ถ่างออกอีกแต่ยังคงสงวนท่าที ยิ่งได้ยินเสียงเธอครางผมก็ยิ่งย่ามใจ ผมละใบหน้าออกจากหว่างขาเล็กน้อย แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางมือขวาเกี่ยวเข้ากับขอบขาชั้นในของเธอ หวานเองก็คงรู้ว่าผมกำลังจะทำอะไร ในใจตอนนี้ผมระทึกไปหมด ผมค่อย ๆ รั้งชั้นในเปิดเผยให้เห็นหลังเต่าอันโหนกนูน เส้นไหมเบาบางเหมือนของเด็ก พูเนื้อที่แม้จะผ่านการใช้งานมาแล้วแต่ยังคงขาวและอวบอูม
               “สวยเหลือเกิน” ผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสิ่งเบื้องหน้า แล้วก้มลงฝังใบหน้าเข้ากับเนินเนื้อนั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมได้สัมผัสกับของจริง พูหีของน้องสาวแสนสวยของผมกำลังบดเบียดกับริมฝีปากผมอยู่ ผมแลบลิ้นตวัดเข้ากับติ่งแตดเธอ เพียงสะกิดโดนเม็ดเสียวเอวเธอก็ยกรับปลายลิ้นผมทันที
               “ซี๊ดดดส์...” หวานสะดุ้งเอามือที่กุมหน้าอกอยู่ลงมาจับหัวผมแล้วร้องคราง น้ำหีของเธอถูกขมิบออกมาชโลมเรียวลิ้นของผม ความหวานหอมยิ่งส่งให้ผมโลมเลียติ่งเสียวของเธอมากขึ้น ความโหนกนูนและนุ่มนวลทำให้ผมหลงใหลเนินเนื้อนี้มากทั้งดูดทั้งเลียสลับกันอย่างคนกระหาย ส่วนหวานเองก็ร่อนเอวเด้งรับร้องครางเป็นระยะ เธอช่างเร่าร้อนเหลือเกิน และเพียงไม่นานนัก
               “ซี๊ดดดส์... หวานเสียว... พี่จอม... หวานจะ... อู้ววววว...” หวานร้องคราง แอ่นสะโพกพร้อมกับดึงรั้งหัวผมให้ใบหน้าและเรียวลิ้นฝังอยู่ในร่องหีเธอ แล้วขมิบน้ำรักแห่งความสุขกระสันออกมา ร่างของหวานกระตุกสะท้านก่อนจะคลายตัวลง มือที่รั้งหัวผมไว้วางแผ่ลงข้างลำตัวพร้อมกับหอบหายใจเหนื่อยอ่อน ผมใช้เสื้อตัวเองปาดเช็ดน้ำรักที่ปากและใบหน้าก่อนจะพยุงตัวขึ้นยืนที่ปลายเตียงทั้ง ๆ ที่แก่นกายยังแข็งโด่ ตาของเรา 2 พี่น้องประสานกันแต่ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ยออกมา แล้วคำถามที่หวานถามว่ามันจะจบที่ตรงไหนก็ผ่านเข้ามาในหัว ผมจะจบมันแค่นี้ หรือจะยังไง แต่เพียงชั่วอึดใจหวานก็ทำให้รู้ว่าเรื่องมันยังคงต้องดำเนินต่อไป เธอยันตัวขึ้นขยับมานั่งที่ปลายเตียง ทำให้ตอนนี้ลำควยผมอยู่ตรงหน้าหวาน ผมตื่นเต้นมากและลุ้นว่าเธอจะทำอย่างที่ผมคิดไว้หรือไม่ เธอจะอมของผมงั้นเหรอ หวานเงยหน้าขึ้นมามองผมเล็กน้อยก่อนจะอ้าอมควยผมเข้าไปในปากเธอ
               “โอยยยย...” ผมเผลอครางออกมาทันที เพราะไม่ได้รู้สึกเสียวแบบนี้มานานหลายปีแล้ว และนี่น้องสาวผมกำลังอมควยของผมอยู่ ผมก้มลงมองเธอทุกอิริยาบถ หวานทั้งดูดทั้งเลียรอบควยผมอย่างเชี่ยวชาญ ความอุ่นของปากเธอกับเรียวลิ้นนุ่ม ๆ ที่ช่างอัศจรรย์มันตวัดเงี่ยงคอหยักจนผมเสียวสะท้าน หวานขยับโยกหัวเข้าออกอมลำเนื้อตั้งแต่คอหยักถึงโคน มันเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว ผมไม่อยากจะให้มันจบแค่นี้เลยจริง ๆ แต่ทั้งความตื่นเต้น ประกอบกับรสสัมผัสเสียวซ่านที่ห่างหายไปนาน
               “หวาน... พี่... พี่ไม่ไหวแล้วหวาน...” ผมปล่อยน้ำรักเข้าในปากหวาน มันพุ่งทะลักเข้าไปจนเหมือนเธอจะสำลักแต่ก็ยังไม่ละปากจากลำควย หวานกลืนมันลงไปและยังดูดเหมือนจะรีดเอาน้ำเงี่ยนของผมให้ออกให้หมด และแล้วลำควยที่กระตุกขับน้ำเงี่ยนออกมาก็ค่อย ๆ คลายตัวลงช้า ๆ หวานจึงค่อย ๆ ละปากออกจากมัน ซึ่งผมได้แต่ยืนนิ่งขาสั่นเล็กน้อย หวานลุกขึ้นโดยไม่มีคำพูดสิ่งใดแล้วออกไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้าง ส่วนผมก็ยังคงยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนหวานกลับเข้าห้องพร้อมกางเกงชั้นในตัวจิ๋วในมือ โดยที่ผมก็ยังยืนคิดสับสนถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่อยู่อย่างนั้น
               “อ้าว... ไม่ไปล้างเหรอ” เออจริง ผมจะมายืนอยู่ทำไม ผมเดินอย่างเหม่อลอยออกไปล้างทำความสะอาด พอล้างเสร็จผมก็เดินโท่ง ๆ ออกมาจากห้องน้ำ ในใจคิดว่าคงต้องกลับเข้าห้องนอนตัวเอง มันจบแล้วสินะ
               “เออ... ลืมกางเกง” ทำไมสติสตังผมมันถึงได้กระเจิงไปไหนหมด ผมกลับเข้าไปในห้องหวานอีกครั้ง ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงกดเล่นโทรศัพท์มือถือโดยมีผ้าห่มคลุมท่อนล่างอยู่ เธอหันมามองหน้าผมแต่กลับไม่มีคำพูดอะไร หวานทำให้ผมอึดอัดกับการไม่พูดของเธอ ผมก้มลงหยิบกางเกงขึ้นมาแล้วเดินกลับไปยังประตู
               “ปิดไฟให้ด้วย แล้วเปิดไฟหรี่ให้หน่อย” หวานบอกสั่งไล่หลังผมก่อนที่ผมจะออกจากห้องเธอ ซึ่งผมทำตามอย่างว่าง่าย และก่อนผมจะได้จับลูกบิดประตูก็ได้ยินเสียง
               “นอนนี่ก็ได้นะ” นี่มันเสียงสวรรค์ชัด ๆ ผมโคตรดีใจที่หวานพูดมันออกมา ผมไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มกับตัวเองแล้วแทรกตัวเข้านอนภายใต้ผ้าห่มด้านขวามือเธอ เวลาผ่านไปซักพักแสงจากโทรศัพท์หวานก็หายไป เธอวางมือถือไว้บนหัวเตียง แล้วหันตะแคงมาทางผม
               “เรา 2 คนผิดมั๊ย” หวานถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังกล ผมหันตะแคงไปหมายจะตอบเธอ แว๊บแรกที่เห็นด้วยแสงไฟสีส้มแบบใกล้ ๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าหวานสวยราวกับนางฟ้าเข้าไปใหญ่
               “จะว่าผิด มันก็ผิด ซึ่งเป็นความผิดที่มนุษย์เรากำหนดว่ามันเป็นเรื่องผิด จะว่าไม่ผิดมันก็อยู่ที่เราจะหาข้อแก้ต่าง” พอหวานได้ฟังก็เงียบไปครู่ใหญ่
               “ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว หวานก็มีความสุข พี่จอมก็ได้ปลดปล่อย เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”
               “อื่ม” คำตอบของเรา เหมือนเรา 2 คนเข้าข้างตัวเอง
               “แล้วเป็นไงบ้าง” อยู่ ๆ หวานก็ถามขึ้นมาห้วน ๆ
               “เป็นอะไร ยังไง... งง” ผมถามพร้อมขมวดคิ้ว เพราะงงจริง ๆ ว่าเรื่องอะไร
               “ก็ของหวานเป็นยังไงบ้าง” หวานถามเสียงเย้าเหมือนเด็ก ๆ
               “ของอะไร” ผมพอรู้แล้วแต่แกล้งพูดแหย่เธอ
               “ก็ได้เลียของหวานแล้วเป็นไงบ้าง” เธอพูดหลบตาใบหน้าอาย ๆ
               “ของหวานสวยมาก น้ำก็หวาน หวานเหมือนชื่อเลย ให้เลียทุกวันก็ยังได้”
               “บ้า... พี่จอม” หวานตีแขนผมเบา ๆ
               “จริง ๆ นะ พี่ชักหลงหวานแล้วสิ” ผมพูดพลางใช้มือขวาลูบปอยผมเธอเบา ๆ สัมผัสที่ได้แตะร่างเธอเพียงเล็กน้อยกลับทำเอาแก่นกายผมตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง
               “พี่จอม...” เธอเรียกชื่อเบา ๆ แววตาประสานมายังผม
               “มีอะไรเหรอ”
               “พี่จอมอยากได้หวานมั๊ย” คำถามที่ชวนผมอึ้ง ผมจะรับบทคนดีก็ได้ ก็แค่ปฏิเสธเพราะเพียงเท่านี้ก็ถือว่ามากแล้วที่ผมได้จากน้องสาว แต่... ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมอยากได้เธอมากจริง ๆ
               “..........” แทนคำตอบ ผมดึงผ้าห่มเหวี่ยงลงไปกองที่พื้น ก่อนจะดันตัวหวานให้นอนหงายซึ่งผมก็เห็นแล้วว่าท่อนล่างเธอไม่มีชั้นใน มันเปลือยเปล่าเช่นเดียวกันกับผม แล้วผมก็แทรกตัวเข้าไปอยู่หว่างขาเธอ ตอนนี้ปลายควยผมอยู่ห่างจากปากถ้ำสวรรค์ไม่ถึงคืบ หวานหลับตาลงช้า ๆ เหมือนพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมมองหน้าหวาน ริมฝีปากเรียวงามกับรอยยิ้มทะเล้นที่มีเขี้ยวยังตรึงใจผมอยู่เสมอ ผมก้มลงบรรจงจูบปากเธอเบา ๆ มันเป็นอะไรที่ผมบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ ผมได้จูบปากกับน้องสาวตัวเอง น้องสาวที่ผมรักมาก ๆ และไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ เรียวลิ้นผมค่อย ๆ แทรกผ่านริมฝีปากของหวานเข้าไปช้า ๆ ซึ่งเธอก็ตอบรับมันเป็นอย่างดี แขนของหวานยกขึ้นโอบกอดผมแล้วเราพี่น้องก็จูบปากกันอย่างดูดดื่ม โดยที่ยังมีลำควยแข็งโด่ฉวัดเฉวียนอยู่ที่หว่างขาของเธอ
               “อื่มมมม...” ทั้ง ๆ ที่ยังบดปากกับกันอยู่ หวานครางเบา ๆ ในลำคอเมื่อปลายดุ้นถูงัดเข้ากับติ่งเสียวของเธอ ท่อนเอ็นถูกถูไถยังปากถ้ำไปมาจนบางครั้งเอวหวานก็กระดกรับ ผมรับรู้ได้ถึงความฉ่ำลื่นที่ไหลออกมาชโลมดุ้นเอ็นที่กำลังถากไปมาบริเวณปากร่องเสียว และแล้วหวานก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับผมที่ละจากการจูบปาก เรา 2 คนมองตากันอีกครั้งเมื่อบัดนี้ดุ้นเนื้อที่ขยับถูไถไปมาจนส่วนปลายได้จ่อตรงเข้ากับปากรูหีของหวานแล้ว เพียงแค่ผมดันมันนิดเดียวความสัมพันธ์ของเรา 2 พี่น้องจะไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล
               “หวาน... ถ้านี่เป็นเพียงการประชดใครคนนึง สิ่งที่กำลังจะตามมามันจะทำให้หวานเสียใจนะ” ผมมองตาเธอแล้วเอ่ยถาม ผมรักน้องสาวคนนี้มาก และตอนนั้นผมก็หลงเธอมากด้วย แต่การที่จะทำลายชีวิตเธอเพราะความอยาก ความเงี่ยนของตัวเอง มันไม่เป็นธรรมกับเธอเลย
               “พี่จอม... พี่จอมรักหวานมั๊ย” ทั้งสีหน้าและแววตาบ่งบอกว่าเธอถามมันจากใจจริง
               “รักสิ... รักมากด้วย” เพียงผมตอบคำถามจบ หวานก็รั้งเอวของผมเข้าหาตัวเธอเบา ๆ ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี สัมผัสของความรู้สึกที่ปลายควยค่อย ๆ แทรกตัวผ่านช่องแคบที่ฉ่ำลื่นเข้าไปช้า ๆ จนท่อนเอ็นมุดเข้าไปมิดด้าม พาเอาหนอกควยบดเข้ากับเนินหีของเธอ ภายในนั้นทั้งอุ่นและนุ่ม ผนังถ้ำโอบรัดลำลึงค์ผมเหมือนจะกลืนกินให้เป็นเนื้อเดียวกัน
               “อู้ววววว...” หวานหรี่ตากัดริมฝีปากด้วยความเสียว
               “ของหวานฟิตจัง พี่อยากเอาหวานไปอย่างนี้นาน ๆ” ผมชันแขนขึ้นค่อย ๆ ถอนดุ้นเนื้อแล้วซอยเข้าออกช้า ๆ ตอบแทนความรักที่เธอมอบให้ ผมก้มมองภาพลำควยตัวเองที่กำลังมุดเข้าออกรูหีของหวานมันมันเลื่อมไปด้วยน้ำรักของเธอ
               “ซี๊ดดดดส์... พี่จอม หวานเสียว... ซี๊ดดดดส์....” เธอพูดพลางใช้มือบีบแขนผมแน่น
               “พี่ก็เสียว หวาน... ของหวานทำไมมันถึงทำให้ควยพี่เสียวขนาดนี้” ด้วยความเสียวขนาดนี้ถ้าผมซอยต่อไปคงเสร็จก่อนเธอเป็นแน่ ผมจึงดึงตัวหวานขึ้นนั่ง เธอเองก็รู้งานพอเปลี่ยนท่าก็เป็นฝ่ายควบขย่มบดควยผมทันที
               “ซี๊ดดดดส์... ท่านี้ควยเข้าลึกจังพี่จอม... หวานเสียวหีไปหมดแล้ว” ก่อนที่เธอจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ผมก็เอาปากประกบกับเธอ หวานโยกหีเย็ดควยผมพร้อมกับบดปากแลกลิ้นกันเหมือนอดอยากเซ็กส์มานาน 2 มือผมตอนนี้กำลังเค้นเข้ากับเต้าอวบภายนอกเสื้อของเธอ มันช่างนุ่มนิ่มและกลมกลึงเหลือเกิน ผมใช้นิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างบดบี้เข้ากับปลายยอด
               “โอ้ยยย... พี่จอม... อย่าเล่นหัวนม... หวานเสียวววว” เธอละปากจากการจูบทันทีที่ปลายถันถูกเคล้าคลึง แต่ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ ผมปลดกระดุมเม็ดบนของเธอออก แล้วยกชายเสื้อขึ้นถอดมันออกไป ตอนนี้น้องสาวคนสวยของผมเปลือยเปล่าแล้ว หน้าอกเธอขาวใหญ่สวยได้รูป หัวนมสีน้ำตาลอ่อนตั้งชูชัน หวานเองก็ถอดเสื้อผมออกเช่นกัน ซึ่งผมก็ยอมให้เธอถอดออกแต่โดยดี ผมก้มหน้าซุกไซ้เข้ากับเต้านมอย่างหลงใหล
               “ซี๊ดดดดส์... เสียวววว... หวานเสียวทั้งนม เสียวทั้งหีเลยพี่จอม” หวานแอ่นอกรับการดูดปลายยอดปทุมถันของเธอทันที ผมทั้งดึงเอวเธอให้โยกเข้าออกพร้อมตวัดดูดเลียหัวนมสร้างความเสียวกระสันให้น้องสาว
               “พี่จอม... พี่จอม... อ้า...” เพียงไม่นานหวานก็กอดผมแน่นร่างเกร็งกระตุก ในโพรงหีดูดรัดลำควยผมเป็นจังหวะ เธอคงขึ้นสวรรค์ไปอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็เสียวมากจนใกล้เสร็จเช่นกัน ผมรีบจับเธอลงนอนแล้วซอยควยเข้าออกไม่ยั้ง
               “ซี๊ดดดดส์... พี่จอม... หวาน... หวาน... จะเสร็จอีกแล้ว...” ผมกระหน่ำเย็ดท่อนเอ็นเข้ากับรูหีของหวานจนเราทั้งคู่เสร็จไปพร้อมกัน ผมรู้สึกได้ถึงน้ำเงี่ยนที่พุ่งออกจากลำควยอย่างแรง ดุ้นเนื้อมันกระตุกไปพร้อมกับการโอบรัดของโพรงหีที่เพิ่งขึ้นสวรรค์เป็นรอบที่ 3 เหงื่อกาฬของเราทั้ง 2 แตกเต็มตัว มีเพียงเสียงหอบหายใจและแววตาที่ประสานกัน
               “หวานรักพี่จอมจัง” เธอพูดแล้วยิ้มพลางเอามือขึ้นลูบแก้มผม
ถึงแม้ว่าความเสียวซ่านมันจะหายไปแล้ว แต่ความรู้สึกผิดของ 2 เรากลับไม่มีอยู่เลย หวานและผมไม่ได้รู้สึกผิดที่ทำในสิ่งที่ผิดประเพณี อาจเป็นเพราะมันคือสิ่งที่เราถวิลหามาทั้งชีวิต เซ็กส์ที่เข้ากันได้ จิ๊กซอว์ที่ต่อเข้ากันได้อย่างพอดี คืนนั้นผมกับหวานเอากันทั้งคืน ผมเสร็จไป 4 ครั้ง ส่วนหวานนั้นนับไม่ถ้วน ซึ่งผมก็ถามเธอว่าแตกในแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ หวานบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เอากับไอ้แมนมาตั้ง 2 ปีกว่าจะท้อง มันไม่ได้จะท้องกันง่าย ๆ     

               15 เมษายน 2558

               ประมาณ 9 โมงเช้า ผมสะดุ้งตื่นลืมตาบนที่นอนในห้องหวาน แต่ไม่ใช่ด้วยแสงอาทิตย์หรือนาฬิกาปลุก หากแต่เป็นเพราะยัยหวานที่กำลังดูดควยผมเล่นอย่างสนุกสนาน
               “ควยพี่จอมแข็งดีจัง” หวานละปากจากดุ้นเนื้อหันมาพูดทักทายกับผมพร้อมยิ้มหน้าทะเล้น ผมก็ได้แต่ยิ้มรับ และแล้วกิจกรรมทางเพศของเราก็ดำเนินต่อไป กว่าจะถึงเที่ยงซึ่งเป็นเวลาที่หวานต้องกลับนครปฐม เราก็เอากันอีกหลายครั้ง โดยไม่กินข้าวปลา ทั้งบนเตียง ทั้งห้องอาบน้ำ หรือแม้แต่ห้องรับแขก
สุดท้าย นี่คงมาถึงตอนจบของคำถามที่ว่า มันจะไปจบตรงไหน หลังจากที่หวานไปลาพ่อกับแม่แล้วกลับมาเก็บข้าวของเสื้อผ้า เบื้องหน้าของผมคือน้องสาวที่ผมรักที่สุดกับกระเป๋าใบใหญ่ของเธอ
               “พี่จะไม่ลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเลย” ผมพูดพลางลูบปอยผมของเธอ
               “หวานรักพี่จอมนะ แล้วหวานจะกลับมาใหม่”
               “พี่ไม่อยากให้มีวันที่ 15 เลยจริง ๆ เราหยุดเวลาไว้ที่วันที่ 14 ได้รึป่าว” ทำไมอยู่ ๆ น้ำตาผมถึงไหลออกมา
               “พี่จอม อย่าร้องไห้” หวานยกนิ้วโป้งขึ้นปาดน้ำตาที่อาบแก้มของผม แต่ดวงตาเธอก็แดงระเรื่อเช่นกัน ผมประคองใบหน้าของเธอด้วย 2 มือแล้วบรรจงก้มลงจูบที่ริมฝากปากหวานอีกครั้ง รสสัมผัสนั้นผมจะไม่มีวันลืมมันเลย
               “อะ... พี่จอม... สิ่งที่สื่อถึงความหวานเหมือนชื่อของหวาน หวานให้พี่จอม” เธอหยิบล็อคเก็ตซึ่งภายในบรรจุบางอย่างที่เป็นเหมือนผลึกน้ำตาลวางใส่มือผม
               “พี่จะเก็บมันไว้อย่างดี” สุดท้ายเราก็ต้องจากกัน ผมหิ้วกระเป๋าเดินไปส่งเธอที่รถ ในใจมันเหมือนคนกำลังอกหัก ความรู้สึกเหมือนคนกำลังจะตาย รถของหวานค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจนลับตาไป ผมยังยืนอยู่ตรงนั้นเกือบ 10 นาที เพียงหวังว่าเธอจะเลี้ยวกลับมาแบบในละคร แต่มันก็ไม่เกิดปาฏิหาริย์  ผมก้มมองล็อคเก็ตในมือก่อนจะเดินเข้าบ้านอย่างสิ้นหวัง หลังจากวันนั้นผมก็เป็นโรคซึมเศร้าอยู่พักใหญ่กว่าจะทำใจได้ และไม่นานนักหวานก็ส่งข่าวว่าคืนดีกับไอ้แมนแล้ว และกำลังท้องลูกคนที่ 2 ประมาณต้นปี 2559 เธอก็คลอดลูกชายชื่อว่ากรานต์ ทำให้สงกรานต์ปี 2559 เธอจึงไม่ได้มาเพราะต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก ส่วนปี 2560 – 2562 หวานมาไหว้พ่อกับแม่ตามปกติโดยมีสามีเธอมาด้วย ซึ่งเราก็ไม่ได้เอยถึงเรื่องวันนั้นอีกเลย

               < -------- >

               ส่วนปีนี้รัฐบาลสั่งให้วันที่ 13 – 15 เป็นวันทำงานตามปกติประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เธอจึงไม่มา และนี่ก็คือความหลังครั้งอดีตที่ผมไม่มีวันลืมมันได้เลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น