วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

พาเมียไปแค้มปิ้งกับเพื่อน 1

 
 
      

                พี่ชัยแกเดินเหินไม่ได้เพราะเจออุบัติเหตุเข้า แล้วแกเองก็ห่อเหี่ยวท้อแท้จนนกเขาไม่ขัน ในที่สุดเหตุการณ์ก็พาเอาผมกับนินเข้าไปร่วมวงศ์เพื่อนบ้านกันแนบแน่น หลังจากที่เราสนิทกันจนถึงไหน ๆ แล้ว พี่ชัยก็มีกำลังใจมากขึ้นที่จะทำกายภาพบำบัด พยายามที่จะให้ตัวเองกลับมาปกติ แล้วยังไปฝังเข็มรักษาอีกทางหนึ่ง นอกจากสองอย่างแล้วยังมีนวดประคบสมุนไพรไทยอีกอย่าง อาการก็ดีขึ้นนะครับ เริ่มขยับปลายเท้าได้ เราเองก็ดีใจที่เห็นพี่ชัยดีขึ้น เสียดายที่คนดี ๆ จะต้องพิการไปนะครับ เราก็ช่วยกันดูแลพี่ชัยอย่างสม่ำเสมอ อย่างที่พาไปเที่ยวชายทะเลที่เล่าให้ฟังแล้วนะครับ มาคราวนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศกันจากไปนอนโรงแรม เราก็กะจะไปกางเต็นท์นอนกันบ้าง ทั้งสามคนมอบหมายให้ผมหาที่ทางไว้ และเตรียมเต็นท์และข้าวของต่าง ๅ ด้วย ส่วนกับข้าวกับปลาฝ่ายสองสาวเป็นคนเตรียมพี่ชัยมีหน้าที่เป็นกำลังใจไปก่อนเพราะยังเดินไม่ได้วันเดินทางผมจัดการยืมรถแบบแวกอนของเพื่อนมาเพราะจะได้เอารถไปคันเดียวได้ กว่าจะจัดของขึ้นรถเสร็จก็แดดเกือบร้อนแล้วครับ ออกจากบ้านได้ก็คุยกันจ้อกแจ้กโดยเฉพาะเด็ก ๆ แต่พอขับ ๆ ไปก็ค่อย ๆ เงียบไปเพราะต้องตื่นเช้า ผมเลือกที่ไม่ไกลจากที่ทำงานผมเท่าไร และก็ไม่ไกลจากบ้านเราด้วย เป็นบริเวณที่เงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไป มีที่ทางกว้างขวาง ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย มีชายหาดที่เล่นน้ำได้สบาย ๆ ระหว่างทางก็แวะพักยืดเส้นยืดสายกันบ้าง รวมทั้งซื้ออาหารกลางวันเข้าไปก่อน เพราะคาดว่ากว่าจะถึงคงใกล้เที่ยง เราไปถึงที่หมายก็ห้าโมงครึ่งกว่า ๆ พอไปถึงเด็ก ๆ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าลงทะเลกันทันที จนทั้งนินทั้งคุณลูกหนูต้องรั้งไว้ทาครีมกันแดดเสียก่อน ผมก็จัดการรื้อของลงมาจากรถ เตรียมที่สำหรับกางเต็นท์ ส่วนสองสาวพอจัดการทางครีมให้เด็ก ๆ แล้วก็เอาเก้าอี้มาตั้งแล้วช่วยกันพยุงพี่ชัยลงมานั่ง ครึ่งชั่วโมงถัดมาเต็นท์หลังแรกก็เสร็จเรียบร้อย นินกับคุณลูกหนูก็จัดการเอาของเข้าไปเก็บ ผมจัดการกับเต็นท์หลังที่สอง แล้วก็ไปจัดการห้องน้ำต่อ ดีนะครับที่ผมหยิบยืมเอาส้วมแบบเล็ก ๆ มาด้วยเลยไม่ต้องขุดหลุมอะไรมาก พอจัดการเสร็จก็มากางเพิงอีกอันหนึ่งเอาไว้นั่งเล่นและกินข้าวกัน กว่าจะเสร็จก็ร่วมบ่าย เด็ก ๆ ขึ้นมากินข้าวกันแล้ว ผมก็ไปนั่งร่วมวงกัน"เกรงใจโจจังเลย พี่ช่วยอะไรไม่ได้" พี่ชัยพูดขึ้นมาลอย ๆ"โอ๊ย พี่ชัยไม่ต้องห่วงหรอกครับ เรื่องแค่นี้เองพี่" ผมตอบไปเคี้ยวข้าวไป "เดี๋ยวให้พี่ลุกขึ้นมาวิ่งได้ก่อนเหอะ ผมจะใช้ให้ทำงานแหลกไปเลย"คุณลูกหนูเอื้อมมือไปบีบขาพี่ชัยเบา ๆ ในขณะที่นินเสริม "ตอนนี้พี่ชัยพักให้สบาย ๆ เถอะค่ะ อย่าเกรงใจเลย ถ้าโจไม่ทำ เดี๋ยวนินจับตีก้นให้เอง""เดี๋ยว ผมจะออกไปซื้อของที่ตลาดนะครับ ทั้งกับข้าวทั้งน้ำแข็ง" สุดคำพูดผมเด็ก ๆ ก็แย่งกันสั่งจนระงมไปทั้งวง ทั้งขนม ทั้งน้ำอัดลม แต่ไม่มีใครอาสาไปช่วยสักคน"ลูกหนูไปช่วยค่ะ""อ๋อ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ แค่นี้เอง ไปเดี๋ยวเดียวเอง" ผมบอก อยากให้ได้พักผ่อนกัน แล้วแถว ๆ นี้ก็ไม่ไกลจากที่ทำงานของผมเท่าไรจึงคุ้นเคยอยู่แล้วแล้วก็ไม่รู้สึกลำบากอะไร"แหม เกรงใจพี่โจน่ะค่ะ" คุณลูกหนูเงยหน้าขึ้นมาพูด "คนเดียวมาตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่ได้หยุดเลย"สรุปว่าหลังอาหารกลางวัน นินกับคุณลูกหนูต้อนเด็ก ๆ เข้านอนพักก่อนยังไม่ให้ลงน้ำเพราะแดดยังแรงอยู่ ลูกน้องผมก็เอาถังขนาดสองร้อยลิตรมาตั้งให้สองถัง พร้อมกับน้ำจืดไว้สำหรับอาบ นอกจากนั้นยังช่วยกันกั้นผ้าพลาสติกเป็นห้องอาบน้ำให้ด้วย เป็นอันว่าหมดห่วงเรื่องน้ำอาบไปได้อีกอย่าง และทุ่นแรงผมไปด้วย พอเรียบร้อยผมก็ขับรถเข้าตลาดโดยคุณลูกหนูติดไปด้วย ซื้อของกันพักใหญ่จึงได้ของครบเรียบร้อย ก็กลับมาคุยกับคุณลูกหนูมาเรื่อย ๆ เรื่องอาการพี่ชัยน่ะครับ พักหลัง ๆ อาการพี่ชัยดีขึ้นกว่าช่วงที่เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เรียกว่าถ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้อีกไม่นานคงกลับมาเป็นคนเดิมได้"ขอบคุณพี่โจนะคะ" คุณลูกหนูพูดเสียงแจ่มใส "ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี""ไม่เห็นจะต้องตอบแทนอะไรนี่ครับ" ผมเลี้ยวรถเข้าทางแคบ ๆ ที่ตรงไปยังที่พัก "ผมดีใจที่ได้ช่วยพี่ชัยเสียอีก""แล้วไม่ดีใจเรื่องอย่างอื่นด้วยหรือคะ" เธอถามเอื้อมมือมากุมมือผม"ดีใจซิครับ แหม" ผมหัวเราะเบา ๆ "เรื่องตอบแทนน่ะ ไม่ต้องคิดหรอกครับ""ต้องคิดซิคะ อย่างวันนี้น่ะ พี่โจเหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้ว" คุณลูกหนูพูดยิ้ม ๆผมเลี้ยวรถเข้าจอด


                       ตอนที่เราลงจากรถทั้งสองเต็นท์เงียบเชียบ เลยเดินไปดู ปรากฏว่าเด็ก ๆ นอนกันอยู่ในเต็นท์หนึ่ง กิ่งไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านอยู่ข้างบนทำให้อากาศในเต็นท์ไม่ร้อนมากถึงแดดจะแรงเอาเรื่อง อีกอย่างประตูสองด้านก็เปิดโล่งให้ลมทะเลพัดผ่านได้สะดวก เราเลยเดินไปอีกเต็นท์หนึ่งที่ปิดประตูเงียบ ค่อย ๆ แง้มดู จึงเห็นว่าพี่ชัยกับนินนอนหลับสนิท พี่ชัยกอดนินที่คู้ตัวซุกอยู่อย่างสบาย ๆ ผมหันมายิ้มกับคุณลูกหนู"ถ้าคุณลูกหนูเหนื่อยก็นอนพักนะครับ เดี๋ยวผมจะจัดของก่อน" ผมบอกแล้วเดินกลับไปยกของลงจากรถจัดเข้าเพิงที่กางไว้ คุณลูกหนูเดินไปจัดการกับน้ำใส่กระติกไว้เพื่อให้เย็น ๆ  "คราวหน้าคงต้องเตรียมรถใหญ่กว่านี้สักหน่อยนะครับ ""นั่นซิคะ นี่ขนาดเด็ก ๆ ยังตัวไม่เท่าไร อีกหน่อยคงต้องใช้รถบรรทุกแล้ว" คุณลูกหนูนั่งดื่มน้ำเย็นแล้วส่งมาให้ผม "น้ำค่ะ ที่นี่กลางคืนคงมืดสนิทนะคะ ไม่รู้เด็ก ๆ จะกลัวหรือเปล่า""คงไม่หรอกครับ เราก็อยู่.." ผมหยุดชะงัก "ตายชัก ผมลืมเรื่องไฟเลย เดี๋ยวต้องไปเอาตะเกียงมาเพิ่มแล้วละครับ เอามาแค่ที่จะใช้ในเต็นท์แค่นั้นเอง คุณลูกหนูพักผ่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวเย็น ๆ ลงทะเลกันกับเด็ก ๆ ""ลูกหนูไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ไปด้วยดีกว่า"เป็นอันว่าเราต้องไปที่ทำงานผมอีกเที่ยวหนึ่งเพื่อเอาตะเกียงสักสามสี่ดวง คราวนี้ไม่ลืมอีกแน่ครับพร้อมกับน้ำมันก๊าดมาสำรองด้วย คุณลูกหนูก็นั่งไปเป็นเพื่อน คุยกันไปเรื่อยเปื่อยทั้งขาไปขากลับ"พี่โจว่า พี่ชัยจัดการพี่นินไปแล้วหรือเปล่าคะ" คุณลูกหนูถามขึ้นมาด้วยเสียงสนุกสนาน"สงสัยว่า นินจะจัดการพี่ชัยซะมากกว่าครับ" ผมตอบกลั้วหัวเราะ "พี่ชัยถึงหลับสนิทขนาดนั้น""งั้น ลูกหนูจัดการพี่มั่ง" เธอกระเซ้า"ป่านนี้เด็ก ๆ ตื่นกันแล้วแหละครับ" ผมหัวเราะ "หมดโอกาส ต้องรอไปกลางคืนแล้ว""ไม่รอค่ะ" เธอพูดแล้วขยับเข้ามาใกล้ ๆ มือเอื้อมมาปลดกางเกงผม "จัดการตรงนี้เลย" เธอหัวเราะเบา ๆ ขณะที่มือจัดการกับกางเกงผมเรียบร้อยแล้วล้วงเข้าไปควักเอาท่อนเนื้อของผมออกมาบีบเบา ๆ จนมันตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว"หา ผมขับรถนะครับเนี่ย" ผมประท้วง"ก็หยุดซิคะ" แล้วคุณลูกหนูก็ก้มลงตรงตักผม ไม่ทันจะสิ้นเสียงดีตอนที่ความอบอุ่นกลืนเอาส่วนปลายของท่อนเนื้อของผมเข้าไป ชิ้นเนื้ออ่อนนุ่มตวัดปลายมาจนเสียววาบไปทั้งตัว ผมต้องรีบหักพวงมาลัยเข้าโคนไม้ร่มครึ้มก่อนที่จะบังคับรถไม่ได้ มือข้างหนึ่งประคองแก่นเนื้อเอาไว้อีกข้างดึงขอบกางเกงผมไปทางปลายขาจนผมต้องขยับหย่งตัวให้ทั้งกางเกงตัวหลวมและกางเกงในขยับลงไอยู่ที่ขาอ่อน ท่อนเนื้อของผมจึงไม่มีอะไรเกะกะ คุณลูกหนูเธอจึงจัดการกับท่อนเนื้อผมได้เต็มที่จนเสียววาบ ๆ ผมได้แต่ประคองศรีษะเธอเบา ๆ มือข้างหนึ่งก็เอื้อมไปกุมเกาะปทุมถันครัดเคร่งไว้พลางนวดคลึงกดปลายเนื้อลงบนเม็ดยอดบัวจนเธอครางเบา ๆ ในลำคอ แต่คุณลูกหนูก็ตอบโต้มือผมโดยขยับมือรูดท่อนเนื้อขึ้นลงช้า ๆ พร้อมกับปลายลิ้นนุ่มตวัดพลิ้วไล่ไปตามความมน ริมฝีปากอวบอิ่มดูดเม้มตลอดท่อนเนื้อคุณลูกหนูเอื้อมมือควานคันบังคับเก้าอี้นั่ง ปลดล็อกแล้วด้นเก้าอี้ผมไปจนสุด ขยับตัวหย่งโย่ดึงขอบกางเกงขาสั้นของตัวเองรูดออกไปอย่างทุลักทุเล แล้วยกขาขึ้นคู้เข่าคร่อมตักผม หย่อนสะโพกลงให้กลีบเนินอูมอ้าอมกลืนท่อนเนื้อของผมเข้าไปช้า ๆ สะโพกกลมขยับส่ายไปมาทำให้ท่อนเนื้อแข็งเขม็งหมุนวนแทรกเบียดโพรงเนื้อนุ่มเข้าไปจนสุด เธอหยุดเป่าปากพรูใบหน้าสวยแฉล้มแดงซ่าน สองมือเกาะบ่าผมมั่นขณะที่เร่งขยับยกสะโพกขึ้นลง ก้มลงจูบผมอย่างกระหายผมดึงชายเสื้อยืดตัวหลวมขึ้น สอดมือเข้าไปข้างในจนพบกับผ้านุ่มเนียนที่ห่อหุ้มปทุมถันกลมเนียนไว้ สอดนิ้วมือผ่านขอบผ้าแล้วยกขึ้นจนผ้าชิ้นเล็กเปิดออก อุ้งมือสัมผัสกับนวลปทุมถัน อุ้งมือผมกดคลึงเบา ๆ ลงบนติ่งเม็ดยอดปทุมอยู่ไปมา ท่อนเนื้อถูกโพรงนุ่มชุ่มฉ่ำบีบรัดเป็นจังหวะ ความเสียวพุ่งเป็นระลอกจนต้องขยับสะโพกยกท่อนเนื้อสอดสวนทางขึ้นไป ปลายมนบานแหวกกลีบเนื้อนุ่มมุดเข้าออกเป็นจังหวะ ผมยกชายเสื้อจนพ้นปทุมถันงาม พวงเนื้อนวลเนียนขาวผ่องกลางแสงแดด เม็ดเนื้อน้อยสีชมพูปลายยอดถันรัดตัวจนชี้ตั้ง ผมจึงก้มลงดูดเม้มเอายอดหนึ่งไว้เบา ๆ พลางตวัดปลายลิ้นโฉบปลายติ่งเนื้อ อุ้งมือข้างหนึ่งกดบดเบียดลงบนยอดถันอีกข้าง โอบร่างบาง ๆ ไว้ให้ขยับเป็นจังหวะ ท่อนเนื้อสอดแทรกเข้าออกโพรงเนื้อนุ่มที่บีบรัดเป็นจังหวะตอบโต้อย่างไม่ลดละ ในขณะที่สะโพกกลมขย่มเนินลงกับท่อนแก่นเนื้อของผมหนัก ๆ เมื่อกดลงมาสุดก็ส่ายควงจนท่อนเนื้อควานไปจนทั่วโพรงความเสียวพุ่งซ่านไปจนทั่วตัวขณะที่ลูกหนูขย่มเบียดกลีบเนินนูนลงมาจนสุด แขนตวัดกอดรัดผมจนแน่น โพรงเนื้อนุ่มขมิบบีบตอดท่อนเนื้อรุนแรงถี่ยิบ จนผมสุดจะกลั้นความเสียว หยาดน้ำขุ่นข้นระเบิดฉีดเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มเต็มแรง"อี๊ยยสสสสส" ลูกหนูครางสะท้านเมื่อหยาดน้ำฉีดเข้ามาในร่างจนอุ่นซ่านเสียววาบ ๆ ไปทั้งเนินนูน สะโพกกลมขยับส่าย โพรงเนื้อบีบรัดเหมือนจะเค้นเอาหยาดน้ำออกมาให้หมดท่อน น้ำรักอุ่นฉีดพุ่งเป็นจังหวะ ๆ ครู่ใหญ่ ลูกหนูซบหน้าลงกับไหล่ผมหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย เหงื่อเม็ดใส ๆ ผุดขึ้นมาพราวหน้าผาก "อูยยยย พี่โจ  เสียวจัง.."ผมกระดกสะโพกดันท่อนเนื้อขึ้นกระทบเนินนูนเบา ๆ ทำเอาลูกหนูสะดุ้งเมื่อโดนขนหยาบโคนท่อนเนื้อบดเอาเม็ดติ่งกลางกลีบเนิน "ซี๊ด.. พี่นะ" เสียงกระเง้ากระงอด ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือคว้าเอากระดาษทิชชู่มาซับหยาดน้ำที่เนินนูน พลางยกสะโพกถอนกลีบออกจากท่อนเนื้อ หยาดรักขาวขุ่นคาวหยาดลงบนท่อนเนื้อผมเป็นทาง "อุ๊ย เลอะหมดเลย""ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวก็อาบน้ำได้" ผมบอกเธอเบา ๆ เธอสาละวนใช้กระดาษทิชชู่เช็ดหยาดรักของผมอยู่ แต่ยังไม่วายขยับมือรูดท่อนเนื้อเล่นอีกครู่หนึ่งพอเราจัดการเสร็จเรียบร้อย ผมก็ออกรถกลับที่พัก พอเลี้ยวเข้าไปก็ยังเงียบเชียบเหมือนตอนออกไป จึงจัดการขนของออกมาจัดเข้าที่ หันมาดูอีกทีคุณลูกหนูก็หายไปนอนหลับข้างพี่ชัยแล้ว ผมดูแล้วเห็นว่ายังไม่บ่ายมากเท่าไร เลยจัดแจงของให้เรียบร้อยต่อ พอเสร็จเห็นว่าบ่ายสามโมงกว่าแล้วเลยไปปลุกเด็ก ๆ เท่านั้นเองครับ เด็ก ๆ ลุกขึ้นมาก็ล้างหน้าล้างตาแล้วมาเข้าแถวให้ผมทาครีมกันแดดทีละคน แล้วก็วิ่งตื๋อลงน้ำกันไป ผมคว้าแว่นกันแดดเดินออกไปนั่งดูเด็ก ๆ ที่เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บริเวณหาดที่ผมเลือกนี่ น้ำไม่ลึกและไม่ชัน เด็ก ๆ จึงเล่นได้อย่างสนุกสนาน อันที่จริงไม่ต้องมานั่งดูก็ได้ครับแต่เห็นว่าไม่มีอะไรทำแล้วและเพื่อให้สบายใจด้วยจนบ่ายคล้อยสองสาวจึงได้ช่วยกันพยุงพี่ชัยมาสมทบ จัดการให้พี่ชัยไปนั่งแช่น้ำทะเลสบาย ๆ แล้วก็ลงไปเล่นกับเด็ก ๆ จนแดดเริ่มร่ม ผมก็ปลีกตัวไปจัดการตั้งเตาก่อไฟ ผมซื้อถ่านเทียมที่ทำจากเศษไม้อัดเป็นหลอดมา ก็สบายครับ ไม่ต้องใช้เศษไม้หรือหาฟืน ควันก็น้อย เอาหินก้อนเขื่อง ๆ มาตั้งสามเส้าแทนเตา เอาถ่านเทียมใส่ลงไป เอาแอลกอฮอล์ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตแหละครับใส่ลงไปหน่อยหนึ่ง แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ พอไฟติดเรียบร้อยดีก็จัดการเอาตาข่ายเหล็กพาดลงไป ได้เป็นเตาย่างอาหารแล้วครับ เรื่องหุงข้าวก็ใช้หม้อข้าวสนามสะดวกที่สุดครับ ตวงข้าง เติมน้ำ ตามขีดที่เขามีให้ ปิดฝาแล้วตั้งไฟ หุงแค่หม้อเดียวก็พอกินครับ เพราะว่าคงไม่กินข้าวกันเท่าไร แต่ถ้าไม่พอเดี๋ยวหุงเพิ่มก็ได้ครับ แค่สิบห้าถึงยี่สิบนาทีก็ได้ข้าวกินกันแล้ว พอดวงอาทิตย์ตกพวกที่เล่นน้ำก็ขึ้นมา เด็ก ๆ อาบน้ำกันก่อนแล้วก็เข้าไปแต่งตัวกัน สองสาวพาพี่ชัยไปอาบน้ำต่อ สงสัยคงฟอกสบู่กันที่เดียวแหง ๆ เพราะเสียงหัวเราะคิกคักดังมาแว่ว ๆ ผมก็จัดการจุดตะเกียงไปแขวนไว้ตามมุมต่าง ๆ แล้วกลับมาจัดที่ทางกินข้าวเย็นต่อ ลูกหนูพยุงพี่ชัยเข้าเต็นท์ไปแต่งตัว ผมเลยไปอาบน้ำบ้าง นินยังอาบอยู่ผมก็เลยเข้าไปอาบด้วย"โจ เหนื่อยมั๊ย ทำคนเดียวทั้งวันเลย" นินหันมาดู พอเห็นเป็นผมก็ถามขึ้น"ไม่หรอก สบายมากจ๊ะ" ผมจัดการเสื้อผ้าออกพาดไว้ แล้วตักน้ำราดศรีษะ น้ำเย็น ๆ ช่วยให้สดชื่นขึ้นมาทันที นินหันมาทางผมแล้วเทสบู่ลงกับหน้าอกผมละเลงจนฟองขึ้น "มีคนเอาเปรียบแหละ อาบน้ำแล้วยังใส่เสื้ออยู่อีก" นินยังใส่เสื้อยืดตัวโคร่งอยู่แหละครับ ตั้งแต่ขึ้นจากทะเล"ก็แหม.มันโล่งโจ้งอย่างนี้นะ" นินตอบหันไปมองรอบ ๆ ห้องอาบน้ำก็เป็นแค่คอกกั้นด้วยผ้าพลาสติกสูงแค่คอแหละครับ "ใส่เสื้ออยู่นี่ยังรู้สึกโล่ง ๆ เลย" นินพูดต่อมือไล้ฟองสบู่ไปทั่วตัวผม"จะมืดอยู่แล้ว ไม่มีใครมาดูหรอก" ผมตอบพลางเลิกชายเสื้อนินขึ้นแล้วดึงออกมาพาดไว้อีกด้านหนึ่ง เทสบู่ใสมือแล้วละเลงลงบนไหล่ลาดเนียนก่อนจะไล้ฟอกลงมาที่ลาดเนินอก มือนินฟอกลงมาถึงกลางตัวผมแล้วเกาะกุมแก่นเนื้อที่แข็งจนตั้งชันไว้และฟอกสบู่ไปจนทั่ว ผมก็ฟอกไล่ไปทั้งด้านหน้าด้านหลังขาวนวลแล้วรุกตอบด้วยมือลงไปที่พงเนินนูน"เมื่อบ่ายไปซื้อของนานจังนะ" นินกระเซ้า มือที่เต็มไปด้วยฟองสบู่จนลื่นช้อนเอาถุงหนังคลึงเล่นเบา ๆ ผมเองก็ฟอกไล้ฟองสบู่ลงไปที่แก้มก้นครัดเคร่งแน่นมือ ผมหัวเราะเบา ๆ"ก็มีคนหลับไปก่อนนี่นา" ผมตอบนิ้วมือชอนไชลงไปที่ร่องประกบจนนินต้องขยับเข้ามาเบียดชิด "ไม่รู้ทำอะไรถึงหมดแรงหลับ""ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกันแหละ" นินตอบเขย่งขึ้นจูบคางผมเบา ๆ "เห็นหายไปนาน เด็ก ๆ หลับแล้ว เลยคุยกับพี่ชัยแหละ""คุยกับพี่ชัยหรือคุยกับน้องชายพี่ชัยล่ะจ๊ะ""รู้แล้วยังมาพูด" นินหยิกหมับเบา ๆ "อาบน้ำเหอะ เดี๋ยวเด็ก ๆ รอกินข้าว" พูดแล้วตักน้ำราดฟองสบู่ออกจากตัว ครู่ต่อมาเราก็เดินกลับไปแต่งตัว เด็ก ๆ ออกมานั่งล้อมวงกันแล้วคุยกันสนุกสนาน ลูกหนูกำลังจัดของขึ้นย่าง เราจึงรีบแต่งตัวออกมาช่วยกันย่างอาหาร มื้อนี้มีอาหารทะเลย่างทั้งนั้น ข้าวที่หุงไว้พร่องช้ากว่ากับข้าวนะครับ อย่างแรกที่หมดไปก็กั้งตัวโต ๆ ที่ย่างแทบไม่ทัน เรียกว่าย่างเสร็จ แกะปุ๊บหมดปั๊บ อย่างอื่น ๆ ก็ทยอยกินกันไปเรื่อย ๆ รอบด้านมืดสนิทแล้วครับเพราะพระจันทร์ยังไม่ขึ้น พวกเราก็กินกันไปคุยกันไป เด็ก ๆ ก็กินไปเล่นไป เราก็ย่างกันไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่กินกันเร็วนัก บรรยากาศเงียบสงบดีครับ ไม่มีเสียงอื่น ๆ มารบกวน พอเสร็จเรียบร้อยเราก็ช่วยกันเก็บกวาดซากทั้งหลายห่อไปฝังไว้ไกล ๆ หน่อย ส่วนที่ต้องล้างผมก็หอบไปชายหาดล้างน้ำทะเลเอาทรายถูเดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อยแล้วมาล้างน้ำจืดอีกเที่ยวเป็นอันเสร็จ เด็ก ๆ ก็นั่งล้อมวงเล่นเกมกันต่อมีคุณแม่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนนำ  พี่ชัยเองได้แค่นั่งดูสลับหัวเราะอย่างรื่นเริง ผมไปหาเศษไม้ท่อนขนาดแขนมาใส่เตาเพิ่มจะได้สว่างขึ้นแล้วไปนั่งคุยกับพี่ชัย ครู่เดียวคุณแม่ยังสาวสองคนก็มาดึงตัวไปเล่นกับเด็ก ๆ พักต่อมาก็มาช่วยกันประคองพี่ชัยไปเล่นด้วย เด็ก ๆ เลยสนุกกันเต็มที่แหละครับเล่นกันพักใหญ่ ผมเหลือบดูนาฬิกาก็ยังไม่สามทุ่มดี เด็ก ๆ ก็เริ่มง่วงกัน คงเพราะเล่นน้ำกันมาตั้งแต่บ่ายโน่น สองสาวเลยไล่ต้อนไปแปรงฟันล้างหน้าอีกเที่ยวก่อนพาเข้าไปนอน ตอนแรกจะแยกกันนอน คือนอนกับพ่อแม่ตัวเอง แต่ปรากฏว่าเด็ก ๆ จะนอนเต็นท์เดียวกัน เลยต้องจัดการย้ายเครื่องนอนกันอีกครั้ง ครู่ใหญ่เด็ก ๆ ก็เข้าไปคุยกัน เล่นกันในเต็นท์ต่ออีกพักใหญ่ถึงจะค่อย ๆ เงียบลง พอเด็ก ๆ หลับแล้วสองสาวจึงได้ออกมา เปลวไฟจากขอนไม้ในเตาวับแวมให้สองสาวที่เดินเคียงข้างกันมาสวยน่าชม เรามานั่งคุยต่อ ทุกคนถูกใจสถานที่มาก เพราะเงียบสงบเป็นส่วนตัวไม่มีใครมาพลุกพล่าน อากาศสบาย ๆ ถึงจะค่อนข้างอุ่นแต่ก็ค่อย ๆ เย็นลง ดวงจันทร์เริ่มส่องแสงขึ้นมาสว่างนวลจนเห็นพุ่มไม้ตะคุ่ม ๆ และชายทะเลราง ๆสองสาวเดินไปดูความเรียบร้อยของเด็ก ๆ ผมก็ดับตะเกียงข้างนอกจนเหลือแต่กองไฟในเตา พี่ชัยนั่งเอกเขนกอย่างสบายใจ"พี่.... ขาพี่เป็นไงบ้างล่ะ""ดีขึ้นเยอะแล้ว ขอบใจนะโจ" พี่ชัยพูด ขยับขาไปมาให้ดู "คงอีกไม่นานหรอก สักสองปีมั๊ง""ดีจังเลยพี่" ผมยิ้มสบายใจ เติมน้ำให้พี่ชัย "จะได้ไปเที่ยวกันไกล ๆ อีกหน่อย ไม่งั้นห่วงพี่นะ ลำบากลำบน""เฮ่ย.." พี่ชัยหัวเราะเบา ๆ "ลำบากอะไร เห็นพวกเรามีความสุขพี่ก็ดีใจเหมือนกันละว้า นี่ก็เกรงใจโจนะ ไปไหนมาไหนเหนื่อยอยู่คนเดียว""ไม่เหนื่อยหรอกครับ" ผมยิ้ม "มากับบ้านพี่น่ะ สนุกออก เด็ก ๆ ก็สนุกด้วย สนิทกันดีออกอย่างนั้น เหมือนพี่น้องท้องเดียวกันเลย""พ่อแม่ ก็สนิทกันด้วย" พี่ชัยเน้นที่คำว่าสนิทเป็นพิเศษ "แต่เอ๊ะ ไอ้สองคนของพี่นี่ ฝีมือเราหรือเปล่าล่ะเนี่ย""โฮ้ย... พี่ ตอนนั้นพี่ยังเดินปร๋ออยู่เลย ฝีมือพี่นั่นแหละ" ผมตอบ "ว่าแต่ว่า ของผมเนี่ย ฝีมือพี่ด้วยหรือเปล่าน๊า  ดูหน้าตาคล้าย ๆ พี่ยังไง ๆ ก็ไม่รู้" ผมแซวตอบ เราหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก"หนุ่ม ๆ คุยอะไรกันคะ" เสียงใส ๆ ถามขึ้นแทรก นินกับลูกหนูเดินมาสมทบ"คุยว่า ไอ้สี่คนที่อยู่ในเต็นท์นั่นน่ะ ใครฝีมือผม ใครฝีมือโจ ไง" พี่ชัยหันไปตอบ"เซี๊ยว.. พี่ชัย" ลูกหนูบ่นแต่หน้าแดง"พี่ เราย้ายไปชายทะเลดีกว่า ลมกำลังสบาย" ผมชวนแล้วลุกขึ้นนำไปชายทะเล สองสาวพยุงพี่ชัยไปทางชายทะเล ผมคว้าเอาผ้าใบผืนใหญ่ไปปู แล้วเราสี่คนก็นั่งคุยกันต่อ ลมพัดเย็นสบาย เห็นหน้ากันรำไรกลางแสงจันทร์อ่อน ๆ เรานอนคุยกันไปดูดาวกันไป สามคนก็ถามเรื่องดาวต่าง ๅ ผมตอบไปก็ผสมนิทานร่วมไปด้วย นาน ๆ ที ก็ลุกหันไปดูเต็นท์เด็ก ๆ กันทีหนึ่ง"โจ" พี่ชัยส่งเสียงขึ้นมาหลังจากที่เรานอนเงียบ ๆ กันพักหนึ่ง "ดาวกับแฟนเรานี่ อะไรสวยกว่ากัน""โห..พี่ " ผมร้อง หัวเราะเบา ๆ "คำถามกินใจ ไม่ตอบดีกว่าครับ" เราหัวเราะกันเบา ๆ ผมหันไปมองหน้านิน ผิวผ่องเหมือนกับจะสว่างขึ้นมากลางความมืด ลาดหน้าผากโหนกโค้งลาดลงรับดั้งจมูกเรียว ผมอดไม่ได้ต้องพลิกตัวขึ้น โอบแขนข้ามไปคร่อมนินไว้และประทับจูบลงบนริมฝีปากจิ้มลิ้มเบา ๆ นินจูบตอบ "นินจ๋า ผมรักคุณเหลือเกิน"เสียงพี่ชัยกับลูกหนูหัวเราะคิกคัก นินยกแขนขึ้นโอบรอบคอผมหลวม ๆ"สงสัยจะโดนเสน่ห์แสงจันทร์กระมังคะ" นินพูดกลั๊วหัวเราะแล้วก็เหลือแต่เสียอื้ออ้าเมื่อผมปิดปากด้วยจูบดูดดื่ม ลุกหนูขยับตัวขึ้นเกยหน้าอกพี่ชัยมองเราสองคนตาแป๋ว จากจูบเบา ๆ ผมจูบไล่ไปตามพวงแก้มหอมกรุ่น แล้วไล่ลงมาตามเรียวคอระหง นินถอนหายใจเบา ๆ มือสองข้างไล้เส้นผมของผม ผมไล่ริมฝีปากไปตามลาดเนินนอกเสื้อแล้วกดลงบนปทุมนุ่มหนั่น ภายใต้เสื้อไม่มีเสื้อตัวในผมจึงเม้มปุ่มปมเนื้อเบา ๆ มือสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดแล้วรุกไล่ไล้ขึ้นมาจนถึงเนินถัน ลูบไล้ไปมาแล้วสอดขึ้นกุมเกาะเนื้อนวลเนียนมือ กดฝ่ามือลงกับเม็ดเนื้อคลึงเบามือ นินพ่นลมออกจากริมฝีปากจิ้มลิ้มมือสอดลงคลำท่อนเนื้อของผมที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขาสั้นตัวหลวมแล้วสอดมือลอดผ่านลงไปจนพบความแข็งแกร่ง กุมกำท่อนเอ็นคลึงเบา ๆ ตอบโต้ผมขยับตัวออกห่างนิดหนึ่ง ดึงเสื้อยืดออกไปจากตัวผมแล้วดึงชายเสื้อของนินต่อไป นินยื้อไว้นิดหนึ่ง พลางหันไปมองพี่ชัยกับลูกหนูที่นอนมองอย่างสนใจ มือของนินเกาะกุมอยู่ที่ท่อนเนื้อของพี่ชัยที่โป่งพองดันกางเกงขึ้นมาเป็นลำ"พี่ชัยเขาเห็นมาจนหมดตัวแล้วแหละ" ผมบอกนินเบา ๆ ขณะดึงชายเสื้อต่อ นินอิดออดนิดหนึ่งก่อนจะปล่อยมือขยับตัวให้ผมดึงเสื้อออกพ้นไปจากตัว เนินถันขวบผ่องอวบอาบด้วยแสงจันทร์นวล แสงอ่อน ๆ ที่ทอดลงมาต้องปทุมเนียนก่อให้เกิดเงาหลืบซับซ้อน ผิวนวลถูกแสงจันทร์ขับจนเหมือนลอยเด่นอยู่เหนือผืนผ้า ผมก้มลงจูบไล้ไล่ตามความโค้งนูนหนั่นของปทุมถันทั้งคู่ แล้ววนเวียนไปมาและไต่ขึ้นสู่ยอดโนมเนื้อ นินถอนหายใจยกอกยืดขึ้นรับริมฝีปากเหมือนจะอึดอัด ผมไล้ลิ้นตวัดแผ่วพลิ้วอยู่บนติ่งเนื้อจนมันลุกชัน มืออีกข้างตระกองกอบเนื้อนุ่มกดคลึงช้า ๆ อุ้งมือประทับลงบนเม็ดติ่งเนื้อถูวนไปมาจนนินครางอื้ออ้าบิดตัวไปมาผมคลึงเคล้าเนินถันสลับไปมา เกาะกุมเม้มดูดปลายติ่งเนื้อเหมือนเด็กกระหายหิว ปลายลิ้นลากเลียตวัดเบาสลับจี้เน้นกดลงบนติ่งจะงอย นินขยับมือบีบเคล้นท่อนเนื้อภายในกางเกงตัวหลวมแล้วสอดมือลึกลงไปกอบกุมพวงถุงหนังอ่อนนุ่ม แล้วดึงมือออกสอดมือเกี่ยวเอวกางเกงผมดันลง ผมขยับสะโพกให้ขอบกางเกงขยับลง แล้วขยับตัวจัดการกางเกงออกไปจนพ้นตัว แล้วหันไปจัดการนินจนเหลือแต่ร่างขาวโพลนกลางแสงจันทร์ ผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นลูกหนูจัดการกางเกงพี่ชัยจนท่อนเนื้อเป็นอิสระตั้งชันอยู่ในอุ้งมือของลูกหนู พี่ชัยยิ้มให้ผมพลางสอดมือลอดเข้าไปใต้เสื้อเกาะกุมเนื้อเนินลูกหนูเอาไว้ นินจับตัวผมพลิกจนผมกลับลงไปนอนข้าง ๆ พี่ชัย แล้วยกขาข้ามขึ้นมาคร่อมสะโพกผมไว้ ฟุบตัวลงแนบกับผม เนินกลีบเนื้อจรดลงกับท่อนเนื้อที่ตั้งแข็ง สะโพกผายขยับไปมาให้กลีบเนินปัดป่ายปลายมนไปมาเบา ๆสะโพกกลมมนค่อย ๆ กดลง กลีบเนินชุ่มฉ่ำแบะอ้าออกกลืนเอาท่อนเนื้อของผมเข้าไปช้า ๆ จังหวะสะโพกส่ายขยักกดยกสลับกันไปมา ท่อนเนื้อแก่นกายของผมค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปทีละนิดตามจังหวะ ปากช่องโพรงนุ่มบีบรัดตอดขมิบเค้นส่วนปลายบานจนเสียวขึ้นมาวาบวับ อกอวบหนั่นแน่นบดอัดลงกับอกผม เรียวแขนรัดร่างผมกอดประทับ ปากจิ้มลิ้มจูบลงมาแนบแน่นด้วยเสน่หา พลางครางในลำคอ ผมโอบร่างกลมบางขาโพลนไว้กับตัวจูบตอบเบา ๆ ขยับสะโพกยกสวนจับจังหวะจนเหมาะเจาะ แก่นเนื้อแข็งเขม็งรุกคืบสวบมุดเข้าสู่ช่องทางคับแคบ หยาดเมือกใสหลั่งออกมาจากถ้ำโพรงเนื้อชะโลมอาบท่อนลำของผมจนทั่วและไหลย้อยลงมาตามท่อนลำ สะโพกผายยกขึ้นเล็กน้อยแล้วกดลงพรืด โพรงเนื้อนุ่มอุ่นร้อนคาบอมท่อนเนื้อของผมเข้าไปจนสุดทางบีบรัดท่อนเนื้อที่เต้นกระตุกอยู่ครามครัน นินกดสะโพกลงกับโหนกท่อนเนื้อของผมบิดส่ายไปมา สูดปากด้วยความเสียวซ่าน แล้วเริ่มจังหวะสะโพกยกกดเน้นจังหวะช้า ๆ ท่อนเนื้อผมแล่นผ่านเข้าออกช่องทางอบอุ่นสะดวกเสียววาบวับไปทั้งท่อนเนื้อแก่นกายผมหันไปดูพี่ชัยก็โดนลูกหนูขึ้นคร่อมอย่างที่ผมโดน พี่ชัยยกแขนขึ้นกอดรัดภรรยาสาวอย่างรักใคร่ ร่างสองสาวขาวโพลนกลางแสงจันทร์เคลื่อนไหวเป็นจังหวะ สะโพกงามทั้งคู่ยกขย่มลงบนสะโพกของเราสองคน นินยกร่างยันกายขึ้น ถันอวบห้อยลงเป็นพวงแกว่งไกวตามจังหวะกายที่ขยับเขยื้อนให้กลีบเนินอ้าอมคาบคายท่อนลำผมหนืดหนึบ ผมประคองสองเต้าอล่างยกศรีษะขึ้นปาดปลายลิ้นวนเวียนลงบนจะงอยเนื้อสลับวนไปมา สะโพกยกกระดกอัดสวนทางกลีบเนินอุ่นเป็นจังหวะ นินเร่งสะโพกบดใส่สะโพกผมเร็วขึ้น ผมเองก็เสียวสะท้านอยู่เฮือก ๆ ด้วยความตื่นเต้นแปลกใหม่ ท่อนลำพองตัวเบ่งบานอยู่ในช่องทางอันแน่นหนึบ เสียงลูกหนูครางฮือ ๆ พร้อม ๆ กับพี่ชัยดังจนผมต้องหันไปมอง ร่างอวบขาวของลูกหนูกระหน่ำสะโพกลงบนร่างพี่ชัยจนสั่นคลอน พี่ชัยยกมือขึ้นเค้นคลึงเต้าอวบพลางใช้ปากอมดูดถันงามอยู่อย่างเมามัน ลูกหนูขย่มสะโพกลงแน่นหนักแล้วกดแนบแน่นจนตัวสั่นสะท้าน พี่ชัยเกร็งไปทั้งตัวกอดร่างงามแน่นครางแผ่วผมต้องหันกลับมาเมื่อความรู้สึกที่ท่อนเนื้อนั้นสุดที่จะทนทาน ท่อนเนื้อโดนช่องโพรงบีบกระชับรัดแน่น สะโพกผายของนินส่ายบดจนผมเสียววาบวับ แขนเรียวกอดรัดร่างผมจนแน่น สะโพกผายกดเน้นจนผมต้องระเบิดความรักพุ่งปรี๊ดเข้าไปในโพรงนุ่มเต็มแรง นินกัดฟันแน่นกรีดเบา ๆ ในลำคอ ช่องทางบีบรัดเขม็งเครียดสะโพกกระดกยึก ๆ ร่างขาวเกร็งจนสะท้าน ขณะที่ผมก็ระเบิดหยาดรักขาวขุ่นเข้าไปในร่างภรรยาสาวเป็นจังหวะ ๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น