วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 4

  

 

          นุชมาอยู่กับแม่ ได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัย แม้เป็นมหาวิทยาลัยเปิด นุชก็ดีใจที่ได้เรียนต่อ เพราะตอนแรกขณะอยู่กับยาย.... หล่อนไม่มั่นใจเลยว่าตนเองจะได้มีโอกาสเรียนสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากแม่นั่นแหละ ทําให้หวั่นใจ ว่าจะไม่ส่งให้เรียนต่อ แม่มักมีปัญหาด้านการเงิน ยายมักบ่น แม่ไม่ค่อยส่งเงินให้ยายเลย
          ตั้งแต่แม่คบหากับอาแปะการ เงินของแม่ก็คงจะดีขึ้น จึงได้ให้นุชเรียนต่อ นุชเองก็เห็นใจแม่ที่ต้องหาเลี้ยงลูกลําพังคนเดียว ยังดีที่ตอนนี้พี่หนึ่งไม่ได้เรียนแล้ว พอจบปวส.พี่หนึ่งก็เริ่มหางานทํา ตอนนั้นก็เขียนจดหมายบอกนุชว่า เรียนพอแล้วจะทํางาน สงสารแม่ต้องหาเงินตัวเป็นเกลียว

          ตอนนี้พี่หนึ่งมีงานทํา มีรายได้จุนเจือครอบครัว แต่แม่ก็ไม่ได้ต้องการเงินของพี่หนึ่ง เพราะลําพังพี่หนึ่งคนเดียวเงินเดือนไม่กี่ตังค์นั้นยังไม่ค่อยจะพอใช้ ผู้หญิงสาวๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องความสวยความงาม เสื้อผ้ากระโปรงแต่ละชุดไม่ใช่ถูกๆ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสําอางอื่นๆ อีกล้วนแต่ต้องใช้เงินทองซื้อมาทั้งสิ้น

          นุชไม่ค่อยสบายใจนัก เวลาที่อาแปะมาบ้าน เขาชอบมองหล่อนด้วยสายตาที่ไม่น่าวางใจ แม้แต่พี่หนึ่งเอง ก็ถูกสายตาแบบนั้นจ้องมองเช่นกัน ปากส่งเสียงหัวเราะหัวใคร่ แต่สายตานั้นร้ายนัก และใจล่ะคิดอะไรอยู่ ...มันน่ากลัวเหลือเกิน ทําไมเขาจะต้องมาคิดมิดีมิร้ายกับลูกสาวสองคนของแม่ด้วย ในเมื่อเขาก็ได้แม่ไปครอบครองทั้งคน ก็น่าเพียงพอ ...จะทําตัวเป็นพญาเทครัวหรืออย่างไร
          บางคืน อาแปะก็มานอนค้างที่บ้าน แม้ไม่ตั้งใจฟังก็ยังได้ยินเสียงแม่กับอาแปะอยู่ดี ทั้งสองทําบางสิ่งบางอย่างกัน ไม่ต้องมีใครบอกนุชก็รู้ว่าเขาทําอะไรกัน ก็เป็นอย่างที่พี่หนึ่งเล่านั่นแหละ
แม่ออกจะส่งเสียงดังมากเกินไปหน่อย ห้องแม่เก็บเสียงไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนข้างบ้านเขาจะได้ยินกันบ้างหรือเปล่า แม่ไม่น่าปล่อยอารมณ์ออกมามากมายขนาดนั้น ฟังแล้วทําให้เกิดความรู้สึกประหลาดๆ
          ตอนนี้มีเตียงนอนเป็นส่วนตัว แม่ซื้อเตียงใหม่มาเพิ่ม นอนอยู่คนละมุมห้องกับพี่หนึ่ง มองเห็นพี่สาวนอนอยู่ ราวกําลังฟังเสียงที่ดังมาจากห้องของแม่แต่พี่หนึ่งก็ไม่ได้พูดอะไร  ...พี่หนึ่งอาจได้ยินเสียจนเกือบจะเบื่อฟังแล้วก็ได้

          แม่จะทําอย่างไร ไม่มีใครเตือนแม่ได้ เพราะแม่เป็นแม่ และแม่ไม่ฟังเสียงใครด้วย อยากทําอะไรแม่ก็ทําตามใจตัวเอง ...อาแปะก็เหมือนกัน คงทํากับแม่อย่างไม่ยั้ง แม่จึงส่งเสียงครวญครางดังมาก เขาทําราวแกล้งจะให้นุชกับหนึ่งได้ยินอย่างนั้นแหละ  เขาทําเหมือนต้องการให้เสียงนั้นมันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกหล่อน เขาไม่น่าจะทําอย่างนั้น แม่ก็น่าจะยั้งปากยั้งเสียงเอาไว้บ้าง ไม่น่าปล่อยอารมณ์ออกมาจนหมดไม่อายลูกเต้าบ้างเลย

          บางครั้ง นุชก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องน้ำ แม่กับอาแปะไปทําอะไรกันในนั้นอย่างผิดที่ผิดทาง ก็ไม่ทราบว่าไปทํากันท่าไหน นุชนึกแล้วก็นึกไม่ออก เพราะประสบการณ์ของเธอก็ยังน้อยนิด เพียงแต่เคยได้ยินได้ฟังเพื่อนๆ พูดกันเท่านั้น และเคยเห็นหนังสือโป๊บ้างแต่ไม่มากนัก เคยอ่านเพียงเล่มสองเล่มที่บ้านเพื่อน

          ก่อนนั้น หล่อนคิดว่าเรื่องยังงี้มันเป็นเรื่องต้องห้ามเป็นเรื่องลามก สกปรกไม่บังควรจะแตะต้องสัมผัส แต่แล้วความอยากรู้อยากเห็น ก็ทําให้ต้องลองอ่านหนังสือพรรค์อย่างว่าดู หล่อนจําได้ดีถึงความรู้สึกในตอนนั้น ฉ่ำไปหมดทั้งหลืบลับ วาบหวิว และอยากๆ อย่างไรชอบกลอยู่

          หนึ่งก็ได้ยินเสียงนั้น เสียงแม่กับอาแปะเล่นรักกัน หล่อนนอนนิ่งก็จริงอยู่ แต่หูเงี่ยฟังตลอด หัวใจเต้นแรง ทําให้นึกถึงตอนได้ดูหนังเอ็กซ์ ไม่แน่ใจว่าทั้งสองจะทํากันแบบในหนังโป๊หรือไม่ เป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างนั้น เพราะอาแปะ เลื่องลือเกี่ยวกับเรื่องทํานองนี้ ว่าเก่งกาจนักหนา หล่อนเคยได้ยินเขาคุยกัน ลือกันไปทั่วว่าอาแปะคิดดอกแบบพิเศษกับใครแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจะต้องติดใจอาแปะลืมไม่ลง
          แม่เป็นคนหนึ่งที่กู้เงินอาแปะมา ก็เชื่อได้ว่ามีการคิดดอกแบบถึงเนื้อถึงตัว จึงได้เกิดติดพันนัวเนีย สางไม่ออก
          มันก็แปลก ที่อาแปะติดใจมารดาของหล่อน แม่มีอะไรดีอย่างนั้นหรือ หนึ่งไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่าแม่นั้นเสน่ห์แรง ผู้ชายหลายคนติดพันแม่ เกี้ยวพาราสีแต่ก็ไม่เห็นแม่สนใจใคร ก็มีอาแปะนี่แหละ
          ดูไปแล้ว อาแปะก็ไม่ได้เป็นชายเจ้าเสน่ห์อะไรเลย ก็เป็นเพียงผู้ชายจีนสูงอายุคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาก็ธรรมดา เพียงแต่เขาแข็งแรง กระฉับกระเฉง ไม่เหมือนคนสูงวัยทั่วไป
          มันอาจเป็นเพราะฐานะของอาแปะก็ได้ จึงทําให้แม่สนใจ หรือไม่แน่แม่อาจสนใจอย่างอื่นนอกเหนือจากเงินทองของอาแปะก็เป็นไปได้ แต่ก็ไม่อยากจะคิดไปในทางนั้น มันคงไม่ใช่หรอกน่า แม่น่ะหรือจะสนใจอาแปะเพราะคําเล่าลือเรื่องพลังเซ็กซ์ของอาแปะ

          แม่ไม่น่าจะเป็นคนอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อ แต่ตอนนี้ สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ มันก็ทําให้ไม่ค่อยจะแน่ใจ เพราะแม่ส่งเสียงครวญครางดังเหมือนกับในหนังเอ็กซ์ และมันจะดังอยู่ตั้งนานสองนาน แสดงว่าอาแปะใช้เวลาสนุกสนานนานมาก นานนับชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเรียบร้อย

          ถ้าเป็นในหนังโป๊ ก็จะเปลี่ยนท่ากันตั้งหลายท่า ก็ล้วนแต่ท่าที่โลดโผนทั้งนั้น แล้วอาแปะมีชื่อเสียงทางด้านนี้ ...ก็คงจะเล่นท่าแปลกๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งคิดก็นึกเห็นภาพที่เกิดขึ้น ว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ความรู้สึกของหนึ่งไม่ค่อยดีสําหรับเรื่องนี้ ที่ผู้หญิงคนนั้นคือมารดาของตน เกือบจะทําให้เกิดความเสื่อมเรื่องนับถือ ตลอดมาในความรู้สึกของหนึ่ง...แม่ไม่ใช่คนพรรค์อย่างนั้น

          แต่ปีนี้ แม่ก็อายุย่างเข้าสามสิบแปดปีแล้ว ก็อาจเป็นไปได้ว่าแม่จะใช้ชีวิตสาวใหญ่ให้คุ้มค่ากับที่เกิดมา จึงได้ทําลงไปอย่างนั้น หนึ่งเคยได้ยินหรือได้อ่านมาว่า สาวใหญ่ที่เลิกร้างกับสามี หรือเป็นม่ายเพราะสามีตายนั้น อาจจะมีความรู้สึกทางเพศที่รุนแรง คือจะเกิดอาการคันในช่องสวรรค์ อาการคันนั้นจะบรรเทาได้ก็ด้วยการร่วมเพศ แม่เป็น อย่างนั้นหรือเปล่าหนอ ถ้าเป็นก็นับว่าน่าเห็นใจอย่างยิ่ง

          การได้ยินเสียงการร่วมรักเหล่านั้น มันทําให้หนึ่งเกิดอารมณ์มาก ถึงขั้นต้องสําเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นก็จะรู้สึกทรมานอย่างยิ่ง ในหลืบเร้นลับนั้นจะฉ่ำแฉะจนเยิ้มไปหมด สิ่งหล่อลื่นออกมาเต็มอย่างนั้น มันบอกให้รู้ว่าหล่อนมีอารมณ์มากพร้อมที่จะได้รับการร่วมเพศจากผู้ชายสักคน

          ไปหาเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกัน ก็อดที่จะระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจไม่ได้ ทั้งที่ไม่สมควรเล่า แต่เพื่อนคนนี้ก็สนิทกันมาก มีอะไรก็ปรับทุกข์กันเสมอๆ เป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สนิทกันอย่างแน่นแฟ้น เรียกได้ว่าไม่เคยมีความลับต่อกัน

           เล่าเรื่องแม่นั่นแหละให้เพื่อนฟัง น้ำทิพย์รับฟังอย่างสนใจ และส่ายหน้าว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ เพราะน้ำทิพย์เองก็เคยไปบ้านของหนึ่งมาแล้ว เคยได้พบกับแม่ของหนึ่ง ไม่น่าเป็นไปได้อย่างนั้น ถ้าหนึ่งไม่พูดก็จะไม่เชื่อเป็นอันขาด

          “เป็นไปได้ยังไงล่ะหนึ่ง แม่เธอเป็นคนดีนะ ไม่ใช่คนที่จะทําอะไรยังงั้น บอกตามตรงนะไม่อยากเชื่อ”
          ...หนึ่งมองใบหน้าสวยของเพื่อน น้ำทิพย์ไม่อยากเชื่อ หล่อนเองก็เช่นกัน ถ้าไม่ได้ยินกับหู ก็ไม่เชื่อเด็ดขาด
          “แต่เป็นความจริง  ...เสียงครางของแม่ยังดังติดหูอยู่เลย”
          “อาแปะคนนี้ใช่ไหมล่ะ ที่เคยเล่าให้ทิพย์ฟังก่อนนั้นน่ะ ว่าเขาเก่งเรื่องบนเตียง ปล่อยเงินกู้แล้ว ชอบพาลูกหนี้ไปคิดดอกในโรงแรม
          “ใช่จ้ะ คนนี้แหละ คิดดอกแล้วลูกหนี้มักติดใจ บางคนถึงกับจะเลิกกับผัวก็มีนะ ลองคิดดูก็แล้วกันว่าอาแปะขนาดไหน”
          “ถามตรงๆ เลยนะ แม่เธอด้วยหรือหนึ่ง”
          “ก็คิดว่ายังงั้นแหละ เพราะแม่ก็เป็นลูกหนี้ของอาแปะด้วย”
          “เฮ้อ...เรื่องยังงี้นะหนึ่ง มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราเป็นเด็กไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้ใหญ่หรอก ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขาผ่านชีวิตมามาก เราเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ไม่แน่ว่าต่อไปเมื่อเราอายุเท่ากับพวกเขา เราก็อาจจะเป็นอย่างนั้นบ้างก็ได้”

          หนึ่งถอนหายใจยาว ส่ายหน้าไปมา มองหน้าน้ำทิพย์ เพื่อนรักของหล่อนก็มองหล่อนอยู่อย่างสนใจ
          “มีอะไรอีกหรือหนึ่ง หนักอกเรื่องอะไร เรื่องยังงี้เราจัดการอะไรไม่ได้หรอก เราเป็นลูก”
          “ก็รู้จ้ะทิพย์ แต่ที่ถอนใจนี่นะ อาแปะน่ะซี ทําท่าแปลกๆ กับหนึ่งด้วย น้องสาวของหนึ่งก็เหมือนกันเจอด้วย จะไม่ให้หนึ่งถอนหายใจยังไงล่ะ เขาทําท่าเหมือนกับว่าหนึ่งกับนุชน่ะ ต่างก็เป็นลูกหนี้ของเขา”
          น้ำทิพย์ส่ายหน้า
          “ยังงี้ใช้ไม่ได้นะ จะมาเป็นพ่อเลี้ยง หรือจะมาเป็นพญาเทครัวกันแน่”
          “ก็นั่นน่ะซีทิพย์ ถึงกลุ้มใจอยู่นี่ ถ้าเขามาที่บ้านนะแล้วแม่ไม่อยู่ บางทีหนึ่งกับน้องต้องขี่จักรยานออกนอกบ้านเลย ไม่ไว้ใจ มีบางครั้งนะเขามาแล้วน้องไปเรียน หนึ่งกลับจากทํางานเจอเข้า แม่ก็ยังไม่กลับ หนึ่งเผ่นเลยล่ะ ไม่ว่าจะน่าเกลียด หรือไม่มีมารยาทยังไงก็ตาม แต่เอาตัวรอดไว้ก่อน เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือจ๊ะทิพย์”
          “ก็ใช่น่ะซี เรื่องอะไรจะยอมเสี่ยงกับคนพรรค์นั้น ทุเรศจัง ทําตัวน่ารังเกียจ ทําไมไม่บอกให้แม่เธอรู้เอาไว้บ้างล่ะหนึ่ง ว่าอาแปะนั่นน่ะทําท่าประหลาดๆ เหมือนจะปล้ำเธอกับน้องน่ะ”
          “แม่ก็น่าจะรู้นะ เพราะตอนอยู่ต่อหน้าแม่ เขาก็ยังทํากะลิ้มกะเหลี่ยเลยไม่เกรงใจแม่เลย แม่ก็ทําไมจะไม่เห็น
แม่ยังเคยทํากระแอมกระไอ เขาก็ว่าเขาไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดอะไรทําไมมองตาเป็นมันยังงั้น เด็กอมมือมองเห็นก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่ จริงไหมทิพย์”
          “ทิพย์น่ะเห็นด้วยอยู่แล้ว ถ้าบ้านไม่ปลอดภัยนะ มาอยู่กับทิพย์ก็ได้ นุชน้องของหนึ่งด้วย มาเลย บ้านนี้ยินดีต้อนรับจ้ะ”
          “ขอบใจจ้ะทิพย์ แต่ยังไม่มีอะไรร้ายแรงถึงขนาดนั้น ยังทนได้อยู่จ้ะ แล้วหนึ่งก็คิดว่าแม่ไม่ยอมให้มันเกิดเรื่องยังงั้นขึ้นกับลูกของแม่หรอก”
          “ถึงยังงั้นก็เถอะ หนึ่งกับน้องน่ะ ต้องระวังตัวให้มากๆ ห่างเขาดีที่สุด”
          “จ้ะ...หนึ่งกับนุชก็ทํากันอยู่ แล้ว”


          เช้าวันนี้มะลิรู้สึกกระวนกระวายใจ หล่อนเป็นแม่ค้าขายส้มตําไก่ย่าง อาแปะจะต้องมาเก็บดอกตอนสายๆ จะเอาอะไรให้เขา เงินที่ค้าขายได้ก็เอาไปเล่นหวยเสียหมดแล้ว ทุนจะขายส้มตําวันนี้ยังไม่มี หวยระยําทุ่มแทงไปหมดตัวนึกว่าจะถูก แต่ดันพลาด ซวยจริง ๆ
          ผัวก็ไม่อยู่เสียด้วย งานบ้าๆต้องออกต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น ไม่รู้แอบไปมีเมียน้อยเอาไว้ที่ไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังสงสัยอยู่ เห็นทําท่าแปลกๆ เวลากลับมาบ้านก็ไม่ค่อยจะสนใจหล่อน ทํานอนหันหลัง บอกเหนื่อย สะกิดก็ไม่ยอมหัน แถมยังพูดอีกว่าระงับอกระงับใจเสียบ้าง

          จะให้หล่อนยั้งใจ หล่อนยังไม่แก่เลย อายุเพิ่งจะยี่สิบสี่ จะให้หมดไฟได้อย่างไร ไม่ใช่แม่ชีนี่ จึงจะไม่รู้สึกรู้สา ความอยากยังมีอยู่ ผัวก็น่าจะรู้ตัว เขาเองก็ไม่ใช่แก่เฒ่าเพิ่งจะสามสิบห้า ยังแข็งแรงบึกบึน ก่อนนั้นทําไมทําได้วันละสามเวลา แต่มาตอนนี้ อยู่กินกันแค่สามปีเท่านั้น จะหมดท่าเสียแล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอก เขาต้องแอบไปมีเมียเอาไว้ที่ไหน ไปลงหลุมนังนั่นมาจนหมดแรง กลับบ้านก็เลยไม่มีพลังหลงเหลือเผื่อให้หล่อนที่เป็นเมียใหญ่
          ...อย่าให้รู้ก็แล้วกัน เป็นเรื่องแน่!!

          แต่เรื่องเฉพาะหน้าที่หนักอกอยู่วันนี้ ก็คืออาแปะนั่นแหละ จะทําอย่างไรดี ท่าทางของอาแปะก็อยากจะพาหล่อนไปคิดดอกแบบกันเองเสียด้วย มองตาเป็นมันอยู่หลายครั้งหลายหนแล้ว และทําพูดแบะท่าว่าไม่มีดอกเบี้ยจ่ายก็ไม่เป็นไรคุยกันได้ มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญแต่อย่างใด

          อาแปะก็คงจะอยากลิ้มลองรสชาติแม่ค้าส้มตําอย่างหล่อนบ้าง ข่าวลือเรื่องนั้นของเขามันเข้าหูหล่อนไม่ว่างเว้น ข่าวว่าแข็งแรงเหมือนม้า แถมเครื่องเคราก็ยังเหมือนของม้าอีกด้วย ทั้งยาวทั้งใหญ่ มีความอึด ทําได้นานนับชั่วโมง อีกทั้งเล่นท่าโลดโผนโจนทะยานอีกด้วย และลิ้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย สากยิ่งกว่ากระดาษทราย

          เรื่องลิ้นนี่ ผัวก็เคยทําให้บ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่บ่อยนัก เขาค่อนข้างจะรังเกียจๆ อยู่ไม่น้อย ทําแบบไม่ค่อยเต็มใจ ขยักขย่อนอย่างไรพิกล เหมือนกล้าๆ กลัวๆ มันยังงั้นแหละ เลียแบบไม่เต็มใจ ความมันส์ก็เลยไม่เคยมี แต่เขาว่าอาแปะเลียได้จั๋งหนับ ก็แสดงว่าเขาเต็มที่เลย อย่างนี้อยากเจอเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะอร่อยสักแค่ไหน คงจะอร่อยดี เห็นเขาว่าก้นลอยเลยเชียวเมื่อโดนลิ้นของอาแปะเข้าไป ก้นไม่แตะที่นอนเพราะเสียวมาก เลยร่อนค้างเอาไว้เพื่อแอ่นรับลิ้นของอาแปะ

          แล้วไอ้ชนิดที่เล่นนานเป็นชั่วโมง มันเป็นยังไงบ้างหนอ ก็ยังไม่เคยเจอเหมือนกัน เคยเจอแต่ห้านาทีจอด แล้วก็ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมาย เล่นท่าเหมือนกันแต่ไม่ค่อยถึงใจ
          เอ...ถ้าโดนของอาเปะเข้าไป จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ...มะลิคิด ตัวหล่อนเองก็ยังสาวอยู่ รูปร่างหน้าตาก็สวย แม้เป็นสาวอีสาน แต่ดั้งก็ไม่ได้หักเหมือนกับสาวอีสานทั่วไป จมูกของหล่อนสวยโด่งงามไม่แฟบ ผิวขาวสะอาดสะอ้าน ก่อนนั้นตอนทํางานอยู่โรงงานทอผ้ามีหนุ่มๆ มาติดเยอะ แต่ไม่ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับใคร ปล่อยให้หนุ่มๆโรงงานน้ำลายไหลกันไป จนมาเจอกับตัวนี่แหละ ไม่รู้เป็นไงยอมเขาได้ เขาก็เลยพาเข้าโรงแรมม่านรูดปล้ำอยู่นาน ไม่ยอม ง่ายๆ

          ...เขาเป็นคนรูปหล่อ พูดจาสุภาพ แสดงความรักห่วงใยหล่อน เวลาไม่สบายก็พาไปหาหมอ เอาใจเก่ง และยอมหล่อน ทําให้หล่อนรักเขา ถึงไม่มากแต่ก็เรียกว่ารัก

          หล่อนจําได้เขาพาเข้าโรงแรม และปล้ำข่มเหง เจ็บเหลือเกิน เขาทิ่มเข้าไปตรงซอกขา เลือดไหลด้วย เลือดจางๆเป็นเลือดสาวที่โดนลําเนื้อหนุ่มบุกเข้าไปกลีบอ้าออกจากกัน ยังไม่เคยโดนแหวกมาก่อนก็โดนเสียแล้ว มันเข้าไปคาอยู่เต็มที่เต็มทาง ตอนนั้นรู้สึกว่าของเขามันช่างยาวใหญ่น่ากลัวที่สุด มันเคลื่อนตัวอยู่ในช่องกลีบ เกิดความรู้สึกเสียวซ่านอย่างประหลาด มันเป็นไปได้อย่างไร ขนาดของมันไม่น่าเข้าไปในนั้นของหล่อนได้ แต่มันก็เข้าแล้วเหมือน ความฝันเสียวดีเสียด้วย ความเจ็บมลายหายไปสิ้น เหลือเอาไว้เพียงความซ่านสยิวเท่านั้น

          ครั้งแรกที่เสียตัวก็ติดใจเสียแล้ว เมื่อเขาสะกิดอีกครั้งก็โอเคทันที ร่วมรักกันอย่างสนุก ไม่ได้นอนหลับเอาแรงเลยแต่แรงก็มีอยู่ เป็นแรงร้อนของความพิศวาสที่เหมือนไฟ ร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีเหน็ดเหนื่อยเบื่อหน่ายยังคงเล่นกันต่อไปได้จนวันใหม่มาเยือน

          วันใหม่มาเยือนแล้ว แต่ในห้องมันมืดรู้จากนาฬิกาข้อมือของเขาว่ามันหกโมงเช้าแล้ว ต้องยอมรับว่าความมันส์ทําให้ลืมเวล่ำเวลาไปเลย รสชาติอย่างนี้ไม่เคยพบเคยเจอ ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อยเอร็ดติดใจลืมไม่ลง
          หลังจากที่ตกเป็นของเขาแล้ว เขาชวนหล่อนไปหาความสุขกันอยู่ไม่ได้ขาด บางครั้งหล่อนก็แกล้งทําเป็นปฏิเสธเขาบ้าง เพราะเกรงเขาจะหาว่าเป็นผู้หญิงเซ็กซ์จัดอะไรทํานองนั้น แต่เขาก็อ้อนวอนขอให้หล่อนไปกับเขาเพราะเขาทนไม่ไหวจริงๆ อยากจะนอนกับหล่อนใจแทบขาด

          เป็นแต่เขาเมื่อไรที่อยากจะสนุก หล่อนเองด้วย แต่ทําใจแข็งไปอย่างนั้น ...แล้วหล่อนก็จะทําเป็นแกล้งขัดเขาไม่ได้ การจะไปนอนกันส่วนใหญ่จะเป็นคืนวันเสาร์ เพราะวันอาทิตย์ตอนเช้าหยุดงาน จะได้สนุกกันเต็มที่ มักจะไปกันตอนค่ำ ออกจากหอพักแล้วก็ไปหน้าโรงงาน เรียกแท็กซี่แล้วก็ไปขึ้นสวรรค์กัน

          ได้เสียกันใหม่ๆ เขายังไม่เล่นท่า แต่สองสามครั้งต่อมาก็เลียนแบบจากในหนังเอ็กซ์ โรงแรมมีหนังพรรค์อย่างว่าให้ดูด้วย นอนอยู่บนเตียงดูไปเล่นกันไปสนุกอย่าบอกใคร ยิ่งดูก็ยิ่งคึกยิ่งดูก็ยิ่งมันส์ และทําให้อยากเอาอย่างในหนังก็เลยลองกันดู ปรากฏว่ามันส์ไม่หยอกเหมือนกัน

          ...ในตอนนั้น ผัวของหล่อนเซ็กซ์จัด อยากอยู่เรื่อย ทําแล้วทําอีก บางทีทําสองครั้งติดต่อกันไปเลย แม้ว่าครั้งละไม่ค่อยนาน แต่เขาก็ทําได้ แล้วตัวมะลิเองก็ยังไม่รู้ว่าผู้ชายเขาจะทํากันนานสักขนาดไหน ก็นึกว่าเขาทํานั่นน่ะมันสุดยอดแล้ว
          แต่ในหนังนั้น เขาทํากันนานมาก หล่อนยังนึกอยู่ว่ามันเป็นแค่หนัง และเขาก็บอกว่าที่เขาทํากันนานๆ นั้น เขาเอามาตัดต่อกันให้มันส์มากๆ เข้า แท้จริงเขาก็ทํากันไม่นานหรอก

          ต่อมา เขาก็รบเร้าให้หล่อนแต่งงานกับเขา ...ในช่วงที่เขาจะเปลี่ยนงานใหม่ เนื่องจากเขาไปสมัครงานใหม่และเขาได้ทํางานที่บริษัทนั้น เขาเกรงว่าหล่อนจะเปลี่ยนใจ จึงขอแต่งงานกันก่อน
          การแต่งงานมีขึ้น หลังจากแต่งงานแล้ว เขาก็หวั่นเกรงต่อไปว่าจะมีคนมายุ่งกับหล่อน จึงให้หล่อนลาออกจากโรงงาน เพื่ออยู่กับเขา เป็นแม่บ้านให้เขา โดยไม่ต้องทํางานอะไร แล้วก็พากันมาเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้าน หล่อนเห็นว่าที่หมู่บ้านนี้พอจะทํามาหากินได้ จึงช่วยแบ่งเบาภาระของเขา ด้วยการขายส้มตําไก่ย่าง ซึ่งหล่อนพอมีฝีมืออยู่บ้าง

          ในสังคมแม่ค้า ทําให้หล่อนเปลี่ยนไป เล่นหวย เล่นไฟ เข้าชมรมนินทาคนอื่น มันเป็นไปเอง และต้องเป็นหนี้เป็นสินอาแปะ เพราะเงินขาดมือ แล้ววันนี้เดี๋ยวอาแปะก็จะมา จะทําอย่างไรก็ยังไม่ทราบ ผัวก็ไม่อยู่เสียด้วย เงินก็หาหยิบยืมใครไม่ได้เลย ไม่แคล้วโดนอาแปะคิดดอกแบบพิเศษเสียก็ไม่รู้

          ...ถ้าอาแปะจะเอาอย่างนั้น หล่อนจะทําอย่างไร นึกวาดภาพเครื่องเคราของอาแปะแล้ว สงสัยว่าจะรับไม่ไหวแน่เลย!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น