วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เมียผม ตอนที่ 6





มันเป็นภาพที่ที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำไมพนักงานหญิงสองคนถึงเกี่ยงกันเคาะประตูห้องเมียผมและทำไมท่าทางท่าทีนี้ถึงเกิดขึ้น ตัวผมเองที่นั่งแอบมอง กำลังนั่งคิด พิจารณาว่าทำไม...
“แก่สิเคาะ แก่นั้นละ...ไก่ ...แก่สนิทกับซ้อ” พนักงานหญิงอีกคนพูด
“แก่อ่ะ... ถ้าแก่ไม่เคาะ ฉันก็ไม่เคาะฉันก็จะนั่งรอให้ซ้อออกมา...” พนักงานหญิงชื่อไก่พูด
ก่อนที่ทั่งสองจะเดินมานั่งยังเก้าอี้หน้าห้องผมพร้อมกับเสียงหัวเราะ เบาๆประมาณยื้อแย่งกันพลักดันกันอยู่อย่างนั้น...
“ครั้งก่อนที่แก่เจอ แก่เจออะไรมุก...” เสียงของไก่พูดขึ้น
“ก็เจอแบบนั้นละแก่... อย่าให้เล่าเลย...เทอก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนี้...” มุกเพื่อนหญิงอีกคนพูด
“ซ้ออยู่กับใคร... ตอนนั้นแก่เจอใคร” ไก่ยังไม่เลิกซักถาม
“แก่รู้จักพี่คมสันต์ใช่ป่ะ... คนนั้นละและลูกน้องเขาอีก4 คนที่เป็นคนงานพม่า...กำลัง...แบบนั้น” มุกเล่าไปด้วยหยุดไปด้วยน้ำเสียงสั่นคลอ ออกอาการอายๆๆ
“ก็คนเดียวกัน ฉันเองก็เคยเจอ... นะ” ไก่พูดตอบและมองหน้ากันและยิ้ม และปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบง่ำสำหรับผมที่ได้ได้ยินได้รู้มัน มันอยู่นิ่งไม่ได้สิครับเล่นมานั่งพูดนั่งคุยกันหน้าห้องผมอย่างนี้...
“ไม่ใช่แต่พวกเราหรอกที่เจออ่ะ..แก่พีอ้อยกับพี่มนก็เจอ ก็เห็นบ่อยๆๆ แต่แค่ไม่พูดกันเท่านั้น...”ไก่พูดต่อ
“เหรอ... ซ้อแก่ก็กล้านะ รับได้ไง...ตั้งหลายคน...”มุกพูดออกมาลอยๆๆๆ
“ไม่รู้สิแก่ แก่ก็ไปถามซ้อดูสิ...” ไก่พูด
“บ้า...ฉันไม่กล้าหรอก แต่แค่อดสงสัยไม่ได้เท่านั้นเอง...”มุกพูด
“สงสัยอะไรวะแก่...” ไก่ถาม
“ก็สงสัยสิแก่... ซ้อโดนบ่อยขนาดนั้น หีคงบาน แคมคงยื่น คงน่าเกลียดน่าดู...” มุกพูดและยิ้มๆๆๆ
“นั้นนะสิ...แต่ที่ฉันรู้จากพวกคนงานผู้ชายนะ เขาว่าซ้ออ่ะ ไปรีแพร์หีมาใหม่แล้วนี้...”ไก่พูด
“ว๊าย....แก่ ...อิอิ “ มุกร้องและหัวเราะ มองหน้ากันและกัน
ผมเองถึงกับอึ้ง พูดไม่ออกหน้าร้อนฉ่า เหงื่อชุ่มที่มือ แม้มันจะไม่น่าฟัง ไม่น่ายินดีกับสิ่งที่ได้ยินได้ฟังพนักงานของตัวเองกำลังนินทา เมียผมอยู่นั้น แต่ทว่าลึกมันกับรู้สึกสะใจ ยังกับข้างในตัวผมมันมีอีกคนที่หลับอยู่และมันกำลังจะตื่นขึ้นในไม่ช้ายังไงยังงั้น...
“พูดก็พูดนะแก่...ตั้งแต่เฮียออกจากโรงพยาบาลมา ฉันไม่เคยเห็นเฮียออกจากห้องนี้เลย...”มุกพูดขึ้นดูจะเป็นห่วงผม มันทำให้ผมดีใจที่มีพนักงานเป็นห่วงเป็นใย
“คงไม่ได้โดนซ้อวางยานอนหลับ หรือไม่ก็ให้ยากิน เป็นง้อยอยู่ในห้องหรอกนะ...”เสียงของไก่พูดขึ้นทำเอาผมเสียวสันหลังวาบ   เมียผมคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่ทำอย่างนั้นหรอก... ผมคิดและตอบในใจ
แกร๊ก.... ประตูห้องเมียผมเปิดออกมาทำให้พนักงานหญิงสองคนนั้น หยุดพูด หยุดนินทา และเดินตรงไปหาเมียผม พร้อมกับเอกสาร เดินเข้าห้องไป และเดินออกมา...
อ้อ เมียผมก็เดินตรงออกจากห้องเดินมาห้องผมต่อ แต่ที่มืออ้อถืออะไรสักอย่างติดมือมาด้วย ผมเองรีบกระโจนขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างไว พร้อมกับความรู้สึก ที่กลัวอยู่ในใจลึกๆๆเพราะคำพูดของสองคนนั้น ทำให้ผมคิดฟุ้งซ่าน...
“เฮีย...เฮีย... ตื่นๆๆคะ ได้เวลาทานข้าวแล้ว ออกไปทานข้าวกัน..เฮียเดินไหวไหม พอเดินได้ไหม?”เสียงเมียผมพูดอย่างเป็นห่วง ทำเอาผมค่อยๆๆลดและคลายความระแวงไป พอกินข้าวเสร็จก็เดินกลับเข้ามานอนในห้องต่อ
พอผมเข้าห้องได้สักพัก ยังไม่นานเท่าไรนั้นเสียงเรียกก็ดังขึ้น...
“ซ้อ... ซ้อ...”เสียงเรียกปริศนาทำเอาผมต้องรีบลุกออกมาแอบดู ผมรู้สึกไม่คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้เลย แต่ดูท่าทางคงเป็นเด็กในโรงงานผม... ไม่นานเท่าไรเมียผม ก็เดินออกมาในชุดวันเกิด...
“ไปได้แล้วซ้อ... “ผู้ชายคนนั้นพูด พร้อมกับเดินอ้อมาข้างหลังเมียผม แล้วเอาเชือกมัดมือไขว่หลัง ทำเอาผม งง และทำอะไรไม่ถูก นี้มันทำไมมัดมือเมียผมงี้ละ... พอมันมันมือเสร็จมันยังเอาผ้าปิดตาเมียผมอีก...ทำยังกับเป็นนักโทษคดีอุกฉกาจยังไงยังงั้น แต่มันก็ยังไม่พอ มันให้เมียผมนั่งลงแยกขาอ้าขาออก ..
เผยให้เห็นร่องหี กลีบหีที่อ้าออก...แล้วมันก็เขียนคำหยาบ คำพูดนั้นลงที่ต้นขาด้านในนั้น...เย็ดฟรีที่นี้... ทำเอาผมถึงกับพูดไม่ออก มองดูการกระทำของมัน มันไม่ได้เขียนแต่ที่ตรงนั้นมันยังวาดรูปควยอันใหญ่ลากลงมายังหีเมียผม และวาดรูปควยบนหน้าผากอีก...
ก่อนที่ชายคนนั้น มันจะเดินประครองร่างเมียผมเดินออกไป... ระหว่างนั้นก็มีพนักงานหญิงคนอื่นเดินเอาเอกสารมาส่งที่ห้องเมียผม และมองเมียผม และยิ้มเล็กๆๆๆ พอเมียผมเดินลับออกไปจากห้อง...
“นี้แก่... ซ้อกระหรี่ของเราไปให้คนงานเล่นอีกแล้ว...วันนี้แล้วสินะที่เราจะได้ดูถ่ายทอดสด”พนักงานหญิงคนนั้นพูด ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเงียบลง...
มันทำเอาผมนั้นสงสัย อยากดู อยากรู้ อยากเห็น ทรมานไม่น้อย เมื่อได้ยินขนาดนี้ แต่กลับออกไปดูไม่ได้แอบดูไม่ได้... ที่มาพร้อมกับความรู้สึกบั่นทอนจิตในนั้นก็ด้วย ขณะที่ผมกำลังคิดและวิตกอยู่นั้นผมแอบมองเห็นพนักงานคนอื่นๆเดินไปทางที่เมียผมเดินไป...
และผมเองก็ถือโอกาสที่ว่าถ้าเดินออกไปตอนนี้ คงไม่มีคนเห็น คงไม่มีคนสงสัยอะไร... ผมเลยรีบหาเสื้อผ้าเก่าๆมาใส่ ที่มันคล้ายๆๆกับชุดพนักงาน และใส่หมวกปกบิดบังใบหน้าผมอีกที...ผมค่อยๆเดินไปตามทางที่มีพนักงานมุงดู และพนักงานเดินเข้าๆออก
ระหว่างทางนั้นผู้คนพนักงานคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนงานผู้ชาย ต่างพากันยิ้มเล็กยิ้มน้อย และพากันเดินจับกลุ่มกันเข้าไป ส่วนผู้หญิงที่มีอยู่ 10 กว่าคนก็มีเดินตามกลุ่มเข้าไปด้วย สีหน้าแต่ละคน นั้นบ่งบอกความรู้สึกต่างๆนาๆ
ส่วนออฟฟิตที่มีอยู่ 4 คนนั้นก็นั่งมุงดูที่หน้าจอทีวี สงเสียงกันเจี้ยวเจ้า...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น