วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ศึกสองนางพญา ตอนที่ 1 ขันทีโฉด

 


รัชกาลฉุงเจิงฮ่องเต้ แผ่นดินเกิดทุพภิกขภัย ทางการยังเก็บภาษีเพิ่มประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เหล่าโจรปล้นชิงทรัพย์ ขันทีโฉดครองเมือง กองกำลังแมนจูทางภาคเหนือยังรุกรานเข้ามา สั่นคลอนต่อบัลลังก์ มังกรอย่างรุนแรง


ปีที่สิบห้าในรัชกาลฉุงเจิงฮ่องเต้


ณ ตึกผู้บัญชาการค่ายตะวันออก ยามวิกาล แสงโคมสองดวงส่องตรง ป้ายขวางคฤหาสน์ตระกูลเฉา


ที่นี่เป็นที่พักของ เฉาฮั่วฉุน ขันทีกังฉินที่มักใหญ่ใฝ่สูงและเกาะกุมขุมกำลังใหญ่ มีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ความเข้มงวดของมาตรการป้องกันตึก หาได้ด้อยกว่าในวังหลวงไม่
ช่วงราตรีที่องครักษ์พิทักษ์ตึกกำลังสับ เวรกัน เงา ร่างดำอ้อนแอ้นสายหนึ่งโลดลิ่วจากกำแพงตึกทิ้งตัวลงพื้นโดยปราศจากสุ้มเสียง ผิดปกติ แล้ว ลอบเข้าคฤหาสน์ตระกูลเฉาโดยปราศจากผู้พบเห็นใดๆ


บนเตียงกว้างใหญ่ในห้องนอนเฉาฮั่วฉุน นอนไว้ด้วยชายชราผมขาว โพลงดุจไหมเงิน รูปกายอ้วนฉุราวสุกร สวมเสื้อกางเกงสีขาวผู้หนึ่ง เนื่องเพราะหันหลังจึง ไม่อาจเห็นโฉมหน้าแท้จริงได้


ที่ข้างเตียงนอน แยกย้ายยืนขึ้นด้วยหญิง รับใช้สองนาง ทั้งคู่เห็นเฉาฮั่วฉุนหลับสนิทแล้ว ก็ปลดม่านมุ้งลงแล้วเดินออกจากห้องแยก ย้ายไปพักผ่อน


วิกาลคล้อยดึก ทันใดม่านประตูเลิกวูบ คนชุดดำที่ลอบเข้าคฤหาสน์สืบเสาะมาถึงห้องนอนเฉาฮั่วฉุน เท้าของคนชุดดำไม่สัมผัส พื้นเลย ร่างอ้อนแอ้นไต่ไปตามประตูวงเดือนลอบเข้าห้องไป
เมื่อมองลอดม่านมุ้งเข้าไป เห็นขันทีโฉดพลิกตัวนอนหงาย ปกเสื้อแบะอ้าสยายออก คนชุดดำขยับแขนขา เคลื่อนกายบนเพดาน จากนั้นห้อยหัวลงมา เลิกม่านมุ้งออกชักกระบี่สั้นออกมาเล่มหนึ่ง


ในความมืดคนชุดดำคุมกระบี่แทงปราดเข้าใส่ ท้องที่นูนออกมาของเฉาฮั่วฉุนดุจสายฟ้า ปลายกระบี่จมลงในเนื้อท้องวูบหนึ่งจากนั้นดีดกลับออกมา


ท่าสังหารที่แม่นยำ กลับไม่อาจทำร้ายเฉาฮั่ว ฉุนได้!


ร่างอ้อนแอ้นของคนชุดดำถูกกระแทกกลิ้งไป ตามพื้นดินทอดหนึ่ง รีบดีดกายขึ้นทะลวงม่านประตูออกไป


เฉาฮั่วฉุนกระโดดปราดขึ้นจากเตียง ตะโกนว่า
มีคนร้าย”
เสียงร้องพอดัง หัวหน้าองครักษ์ก็พาองครักษ์กรูเข้ามา อย่างเร่งร้อน
เฉากงกง คนร้ายเล่า?”
เฉาฮั่วฉุนกระชากเสียงว่า
ยังมิรีบไปค้นหาอีก โจรผู้นี้ยังหนีไปไม่ไกล แน่”
หัวหน้าองครักษ์รีบโบกมือนำองครักษ์ พิทักษ์ตึงหลายคน เร่งรุดออกจาห้องอย่างรวดเร็ว
เฉาฮั่วฉุนเหลียวไปยังหัวหน้าองครักษ์อีก ผู้หนึ่ง สั่ง ว่า
จินเปียว ตามตัวผู้พิทักษ์ที่สิบสี่มาพบเราในบัดดล”
หัวหน้าองครักษ์จินเปียวรับคำ


...................................................................................


ผู้พิทักษ์ที่สิบสี่มีนามจั่วหวินหลิง เป็นลูกเลี้ยงของเฉา ฮั่วฉุน บุรุษหนุ่มอายุเยาว์ แต่ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย มีวิทยายุทธสูงล้ำ ทั้งมีความคิดอ่านลึกซึ้งชั่วร้าย หาด้อยกว่าบิดาเลี้ยงไม่


ยามนี้จั่วหวินหลิงนั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่ โต๊ะกลางห้อง มี คนรับใช้ยืนอยู่ด้านข้าง
สตรีนางหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับย่อกายคำนับ
นายน้อย”
จั่วหวินหลิงเงยหน้ามองก็กระจ่างตาวูบ สตรีนางนี้ช่างงดงามนัก นางน้อมคำนับแล้วเดิน เข้าไปในห้องนอน


จั่วหวินหลิงหันไปทางคนรับใช้ที่ยืนอยู่ ด้านข้าง
นางเป็นใคร เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
คนรับใช้รีบน้อมกายตอบ
นางมีนามว่า เฉินอี้หลิง เดิมเป็นธิดาของเชื้อพระ วงศ์ชั้นสูงพระองค์หนึ่ง แต่สามีนางทำผิดถูกลงโทษขับไล่ออกจากวัง ทรัพย์ถูกยึด กงกงจึงส่งนางมาเป็นคน รับใช้ของนายน้อย”
มิน่า กิริยาท่วงทีจึงผิดจากสาวรับใช้ทั่วไป”
จั่วหวินหลิงรำพึง จากนั้นจึงเผยอยิ้มอย่าง ชั่วร้าย โบกมือไล่คนรับใช้ออกไป แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน เห็นเฉินอี้หลิงกำลังจัด เตรียมที่นอน เรือนร่างของนางบอบบาง เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกว้าง จั่วหวินหลิงถึงกับใจเต้นระทึกด้วยความเร่าร้อน เสียงฝีเท้ากระตุ้นให้เฉินอี้หลิงรู้สึก ตัวเหลียวมามอง
นายท่าน”
เฉินอี้หลิงอุทาน จั่วหวินหลิงตรงเข้าไป สวมกอดร่างของนางไว้
นายท่าน ...อย่า..”
เฉินอี้หลิงร้องห้ามด้วยความร้อนรุ่ม นางทราบว่าจั่วหวินหลิง ตระเตรียมระบายอารมณ์ใคร่ใส่นาง แต่ครอบครัวนางแตกสลาย บิดาถูกขับไล่ มารดา ตลอดจนพี่น้องที่เป็นสตรีก็ถูกส่งไปเป็นหญิงรับใช้ตามที่ต่างๆ นางย่อมไม่สามารถจะขัด ขืนได้ ได้ แต่ร่ำร้องวิงวอน
นายท่าน..อย่ารังแกผู้น้อย”


แต่จั่วหวินหลิงหารับฟังไม่ ก้มลงจูบไซร้ไปทั่วใบ หน้าของนาง เฉิน อี้หลิงแสดงอาการตื่นตกใจอย่างเต็มที่พร้อมกับเบือนหน้าหนี จั่วหวินหลิงจูบไซร้ไป บริเวณซอกคอและติ่งหูมากขึ้น ในขณะที่มือก็บีบเคล้นที่ปทุมถันหยุ่นมือที่ยังไม่ใหญ่ นักแ พัก เดียวเท่านั้นเฉินอี้หลิงก็เริ่มพ่ายแพ้แก่อารมณ์ที่บุรุษหนุ่มป้อนให้ ถึงกับอ่อนปวกเปียกอยู่ ในวงแขน จังหวะนั้นจั่วหวินหลิงจึงอุ้มตัวนางเข้าไปในห้องนอน ก่อนวางนางลงบนที่ นอนอย่างแผ่วเบา เฉินอี้หลิงมองอย่างตื่นตระหนก ร้อนรุ่มใจจนน้ำตาหลังไหลออกมา จั่วหวินหลิงเห็นน้ำตา นางกลับมีอารมณ์ใคร่พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างประหลาด โน้มหน้าลงจูบริมฝีปาก นาง ลิ้มรส เค็มกร่อยของน้ำตาบนใบหน้านาง..จูบไซร้จากบริเวณหน้าลงมาเรื่อย ๆ สองมือที่เกาะกุมอยู่ ที่ปทุมถันเต่งตึงของนาง ก็เคล้นคลึงอย่างเมามัน


เฉินอี้หลิงร้อนรุ่มใจแต่ไม่กล้าขัดขืน ได้แต่หลับตาลง ปล่อยให้จั่วหวินหลิงปลดเปลื้องเสื้อของนางออก น้ำตายังไหลพรั่งพรูอาบ นวลแก้มไม่ขาดสาย


เฉินอี้หลิงยังเยาว์วัย ทรวงอกอูมทั้งสองคล้าย บัวตูมกลางสระ องค์เอวคอดกิ่ว แผ่นท้องแบนราบ กระโปรงของนางถูกมือของจั่วหวินหลิงถลก ขึ้นมาเห็นเป็นช่วงขาที่เรียวงามกลมกลึง


จั่วหวินหลิงสวมกอดนางอย่างรุนแรง สองมือไม่คลาดคลาจาก ปทุมถันน้อยคู่นั้น ตะโบมโลมเล้าทุกส่วนสัดทั่วเรือนกายของนาง ร่างบริสุทธิ์ของเฉินอี้ หลิงไม่เคยต้องมือชายมาก่อน พอถูกตะโบมอย่างรุนแรงก็เจ็บปวดจนกรีดร้องออกมา จั่วหวินหลิงหัวเราะชอบ ใจ
นายท่าน บ่าวเจ็บ...”
อย่ากลัวไปเลยอี้หลิง ข้าจะสอนให้เจ้ารู้จัก ความสุข...”
พูดจบก็หัวร่อฮาๆ จ้องมองไปที่ทรวงอก เม็ดแดงที่ปลายถันเป็น สีชมพูระเรื่อ จั่วหวินหลิงก้มลงดูดเลียอย่างหื่นกระหาย
นายท่าน..นายท่าน...”


จั่วหวินหลิงฝังศีรษะกับทรวงอกน้อย ขบกัดปลายถันสีแดงสดของ นาง กลิ่น หอมกรุ่นของสาวบริสุทธิ์โชยเข้าจมูกสร้างความเร่าร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องเผลอขบฟันงับลงไป อย่างรุนแรง
นายท่าน..บ่าวเจ็บ..”
เฉินอี้หลิงคิดผลักไสอีกฝ่ายหนึ่งพ้นจาก กาย แต่สอง แขนอ่อนล้าไม่สามารถผลักไสได้ นางเจ็บปวดจนน้ำตาไหลรินหลั่ง แต่ได้แต่ขบกรามกล้ำกลืน รับไว้


จั่วหวินหลิงหลังดูดดื่มความหอมหวานจากยอด ถันของเฉินอี้หลิงจนพอใจแล้ว ก็หันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง พร้อมกับเริ่มปลดเสื้อ ผ้าชิ้นสุดท้ายของนางออกเช่นกัน ทันใดนั้น เรือนร่างอันเปลือยเปล่าของเด็กสาวที่อวบอิ่มและโหนก นูน ก็ปรากฏ แก่สายตา


อารมณ์ของจั่วหวินหลิงยิ่งพลุ่งพล่านมาก ขึ้น เริ่ม ใช้นิ้วกระตุ้นอารมณ์บริเวณเนินสวรรค์ของนาง ทันทีที่นิ้วสัมผัส เฉินอี้หลิงก็สะดุ้ง ขึ้นมาทันที
\"ไม่...\" เฉินอี้หลิงร่ำร้อง แต่ร่องสวรรค์ของนางตอน นี้มีน้ำทิพย์ฉ่ำเยิ้มออกมามากมาย ในขณะที่ปากของจั่วหวินหลิงก็ไล่ดูดงับบริเวณเนินอก สลับไปมาทั้งสองข้าง หน้าท้องของนางเกร็งตัวด้วยความปั่นป่วน จากการโจมตีทั้งบนและล่าง ริมฝีปากบางก็ร้องครวญครางอย่างลืมตัว


จั่วหวินหลิงขยับตัวนำท่อนเนื้อที่แข็งตัว จนแทบจะระเบิดจับมันจ่อบริเวณร่องสวรรค์ที่ดกดำของนางแล้วเขี่ยขึ้นลงเพื่อ ให้น้ำหล่อลื่นของเธอที่หลั่งออกมาชโลมท่อนเนื้อให้ทั่ว เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บ เกินไปนักเวลาสอดเข้าไป ทันทีที่สัมผัส เฉินอี้หลิงก็สะดุ้งทันทีพร้อมกับร้องออกมาอย่างตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง จ้องมองมังกรร้ายอย่างตื่นตระหนก....




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น