วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

คู่ชีวิต (ชีวิตคู่ 2) รักแท้ที่รอคอย EP.5

 

 
หลังจากที่หนูตัดขาดความสัมพันธ์กับปลื้ม เวลาก็ผ่านไปได้ 6 เดือน หนูใช้ชีวิตตามปกติทำงานหาเงินไปวันๆจนรู้สึกเบื่อหน่าย รู้สึกเหนื่อย เหมือนคนกำลังหมด Passions ในการทำงาน หนูจึงลาพักร้อน 3 วัน ระหว่างที่พักร้อนหนูก็ไม่รู้จะไปไหน เพราะไปมาหมดแล้วทั้งต่างประเทศและในประเทศ

มันเบื่อจนไม่รู้จะทำอะไร เบื่อไปซะทุกอย่าง จนกระทั่งมีแชทหนึ่งเด้งขึ้นมา หนูเปิดอ่านแล้วก็แปลกใจที่รักแรกของหนู มาร์คติดต่อมา เราก็คุยกันจนรู้ว่าตอนนี้เขามาเที่ยวกับครอบครัวที่หัวหิน เขาชวนหนูให้มาเที่ยวด้วยกัน หนูก็เลยเดินทางไปที่หัวหินโดยไปในฐานะเพื่อน ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้น

เมื่อมาถึงหนูทักหาเขาๆบอกว่าอยู่ร้านอาหารแล้วส่งโลเคชั่นมาให้ หนูก็เดินตามจนถึงร้าน มาร์คยืนรออยู่ที่ร้านเราก็ทักทายกันแบบสากล จับมือแล้วกอดเบาๆ เอาแก้มซ้ายชนกันก่อนแก้มขวา ทำปากเหมือนจูบอากาศ

"Thank you for waiting" หนูพูดกับเขาด้วยภาษาอังกฤษ

"Thank you for coming .. Are you well?" มาร์ค

"I’m fine .. Thank you and you?" หนู

"I’m fine … Let's go inside" มาร์คพูดแล้วก็เปิดประตูให้หนูเข้าไปก่อน

หนูก็ถามเขาว่ายังพูดภาษาไทยได้อยู่ไหม "Thanks You ... Do you still speak Thai?"

"Ahh … พูด… พูดได้ นิดโหน่ย" แล้วเราก็หัวเราะกัน

มาร์คนำหน้าหนูไปถึงโต๊ะของเขานั้นทำให้หนูถึงได้รู้ว่าเขามีภรรยาและมีลูกแล้ว 3 คน มาร์คแนะนำให้หนูรู้จักกับภรรยาของเขา

"Jen … this person is Beam and this Beam is Jennifer.

"Hello Nice to meet you"

"Nice to meet you too"

เจนนิเฟอร์ลุกขึ้นทักทายหนูแบบสากล กอดเบาๆ เอาแก้มซ้ายชนกันก่อนแก้มขวา ทำปากเหมือนจูบอากาศ

"Mark told me a lot about you"

"Really?"

"Yes"

หนูยิ้มแล้วหันไปมองมาร์คอย่างเขินๆ จากนั้นเราก็นั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว หนูกับเจนเราคุยกันถูกคอมากๆ พูดถึงการใช้ชีวิต การพบกันของเธอกับมาร์ค เธอเล่าให้หนูฟังว่าเธอเจอกับมาร์คที่บาร์ในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 2 ปีก่อน เธอกับเขาสบตากันแล้วรู้สึกว่าเป็นของกันและกัน เหมือนว่าโลกนี้มีแค่เธอกับเขา มันโรแมนติกมากๆจนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน

หนูชอบประโยคที่เจนพูดกับหนู "If you look into someone's eyes and feel like the world stops turning … Feeling like there's only us in this world … That is true love"

มันอาจจะฟังดูน้ำเน่าแต่ก็โรแมนติกดี หนูออกมานั่งเล่นที่ชายหาด มองดูผู้คนที่กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ดูนกที่บินไปมา เสียงคลื่นทะเลซัดเข้าชายฝั่ง มันทำให้หนูรู้สึกผ่อนคลาย

สักพักหนึ่งมาร์คก็เดินเข้ามาหนู "Hey .. Can I sit here?"

"Hey … Up to you" หนูทักตอบแล้วเขาก็นั่งลงข้างๆหนู แล้วมาร์คก็นั่งลงชันเข่าข้างๆหนูพร้อมยื่นขวดเบียร์ให้ "Thanks You"

"How are you?"

มาร์คถามถึงชีวิตหนูที่ผ่านมา หนูก็เล่าให้เขาฟังเท่าที่อยากจะให้รู้ เขาก็ให้กำลังใจหนู "It’s Ok"

"Good"

แล้วก็เรานั่งชมวิวบรรยากาศไม่พูดอะไร สักพักหนูก็ถามเขาถึงเรื่องวันวาน "Do you still remember our story?"

"I never forget you … You're still inside" เขาพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่อกข้างซ้ายกับขมับข้าง

หนูก็เลยเล่นมุขไปว่า "What… tits?"

เขาหัวเราะขึ้นมาทันทีเขายังคงจำมุขตลกของคนไทยได้ "Thai Joke .. หัว .. หัว …"

"หัวนม"

"Yeah Yeah หัวโนม"

เรามองหน้ากันสื่อถึงมิตรภาพไม่ได้มีเรื่องชู้สาว มาร์คเขาก็พูดว่า "You will always be in my memory ... I will never forget you"

"Thanks You"

มาร์คตบไหล่หนูเบาๆสักพักเสียงเด็กก็ดังเรียกเขาและวิ่งมาหาเขา "Daddy"

"Hey~"

เด็กคนนั้นคือลูกของมาร์คกับเจนนิเฟอร์ หน้าตาน่ารักมาก มาร์คก็เเนะนำลูกของเขากับหนู "Poppy say hello to her"

ลูกของมาร์คเขาหันมามองหน้าหนูแล้วไหว้แบบคนไทย "สาวัดดีขับ"

หนูรับไหว้แล้วยิ้มให้ลูกของเขา สักพักลูกของมาร์คก็ดึงตัวเขาไปเล่นด้วย มาร์คจึงบอกลาหนูตรงนั้น "Good Luck Beam"

"Good Luck Mark"

แล้วมาร์คก็ลุกขึ้นจูงมือลูกของเขาเดินไปตามแนวชายหาด หนูมองตามแล้วยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้า รักแรกของหนูมีครอบครัวที่อบอุ่มมีภรรยาที่ดี และหนูก็พูดส่งท้ายเขา "Good Bye Mark"

หนูนั่งชมวิวอยู่อีกสักพักก็ลุกขึ้นเดินกะว่าจะไปที่พัก อยู่ที่นี่อีก 2 วันก็ค่อยกลับ แต่จังหวะที่หนูกำลังเดินขึ้นบันไดจังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าขึ้น ด้วยความที่เม็ดทรายละเอียดอยู่ตามพื้นมากมันจึงทำให้หนูลื่น หนูเสียหลักเกือบจะล้มหน้าหงาย "ว๊ายย!!!"

แต่จังหวะนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่เดินตามหลังขึ้นมาเขาก็ช่วยจับพยุงหนูไว้ "เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"

หนูที่ค่อยๆลืมตาพอได้สบตากับผู้ชายคนนั้นเข้า คำพูดของเจนก็ผลุดขึ้นมาในหัว แปลเป็นไทยก็แปลว่า "หากมองตาใครสักคนแล้วรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน … รู้สึกเหมือนโลกนี้มีเพียงเราเท่านั้น นั่นคือความรักที่แท้จริง"

หนูที่เหนื่อยล้ากับเรื่องความรักเมื่อได้สบตาเขาจู่ๆหัวใจหนูก็เต้นแรงและหน้าแดงขึ้นมาทันที

"เอ่อ… คุณครับ … เป็นอะไรรึเปล่าครับ โอเคไหม?" เขาพูดกับหนูโดยที่เขากอดพยุงหนูไว้อยู่

"คะ..ค่ะ ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอบคุณนะคะ" แล้วหนูก็รีบออกจากวงแขนเขามายืนอยู่ข้างๆเขา และขอบคุณเขาอีกรอบ

"ครับ"

จากนั้นหนูก็กำลังจะเดินออกไปแต่เขาก็เรียกหนู "เดี๋ยวครับ เราเคยเจอกันรึเปล่าครับ?"

"อืม ไม่น่าจะเคยเจอกันนะคะ"

"งั้นเหรอครับ ผมคุ้นหน้าคุณมากๆเลย มาเที่ยวหัวหินบ่อยไหมครับ"

"ไม่ค่อยบ่อยค่ะ นานๆมาที"

"อืม งั้นผมน่าจะจำผิดคน ขอโทษนะครับ"

เขาพูดจบแล้วก็ทำมือให้หนูเดินก่อน หนูก็อ้ำๆอึ้งๆไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกรนรานอย่างนี้ ทำได้แต่เดินนำหน้าเขาไปก่อนๆที่จะหันมาถามชื่อเขา "ว่าแต่คุณชื่ออะไรค่ะ?"

"ผมตะวันครับ"

"บีมค่ะ"

แล้วเราก็เริ่มคุยกันตั้งแต่ตอนนั้น มันน่าอัศจรรย์มาก เขาคือเด็กผู้ชายในตอนนั้นที่เข้ามาช่วยหนูที่โรงพยาบาลตอนที่ลื่นเกือบล้ม หนูถามเขาหลังจากที่ผ่านไป 4 เดือน เขาตอบว่าใช่ และที่โรแมนติกไปกว่านั้น เขาพูดกับหนูว่า "ผมรอบีมมาทั้งชีวิตเลยครับ"

ตะวันทำงานเป็นไกด์อยู่ที่หัวหินเขาพูดได้หลายภาษา ชีวิตของเขาผ่านผู้หญิงมาก็เยอะแต่ไปกันไม่รอดสักคน แล้วจังหวะที่หนูได้พบกับเขา เราต่างก็โสดกันทั้งคู่ แล้วจะรออะไรอยู่ละค่ะ อายุเราก็เข้า 35 ปีกันแล้ว ไม่ต้องพิธีรีตองไม่ต้องรอแล้วค่ะ คบกันได้ระยะหนึ่งหนูก็แต่งงานกับเขา โดยเขาลงทุนพาหนูไปเที่ยวที่ปารีส คุกเข่าขอหนูแต่งงานที่หน้าหอไอเฟลในช่วงปีใหม่

เรื่องบนเตียงของเราก็แซ่บแบบแซ่บมาก ตะวันเขาทั้งดุดันแต่ก็อ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เราต่างคนต่างปรนเปรอให้กันและกันได้ดีมาก

ในวันก่อนแต่งงานแน่นอนว่าหนูก็ต้องเชิญป๊ะป๋ากับแม่ และ น้องชายมาร่วมเป็นสักขีพยาน โดยหนูกลับไปหาพวกท่านที่บ้านหลังเดิมที่หนูเกิด ตะวันรู้เรื่องสถานการณ์ที่บ้านหนูว่าเกิดอะไรขึ้น หนูรู้สึกอะไรรู้ เขารู้ดีเพราะหนูเป็นคนเล่าให้ฟัง เเต่เขาก็เป็นเปลี่ยนใจหนูให้กลับมาบ้าน ทั้งๆที่ตลอดหลายปี หนูไม่เคยคิดที่อยากจะมาเยี่ยมหาพวกท่านเลย เพราะปมเรื่องพ่อแท้ๆของหนู

แต่ตะวันกลับเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนใจหนู "เธอรู้ไหมเธอยังดียังได้มีพ่อมีแม่ ถึงพ่อจะเป็นพ่อเลี้ยงก็เถอะ เธอดูเค้าซิเกิดมาหน้าตาพ่อเเม่ยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ จะมีแต่ปู่กับยายที่เลี้ยงมา แล้วตอนนี้ก็กลับสวรรค์ไปกันหมดแหละ"

หนูที่นั่งฟังก็เอาเก็บไปคิดยังไม่พูดอะไร ตะวันก็ขยับมือมากุมมือหนูไว้ "ไปเยี่ยมพวกท่านกันเถอะ"

จริงอย่างที่เขาพูดเรื่องเลวร้ายในอดีตมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ถึงหนูจะยังคงมีอคติกับพวกท่านอยู่ลึกๆ แต่ว่าอคติไปมันก็ได้แต่ทำให้หนูดิ่งจมอยู่กับอดีต ทั้งๆที่ชีวิตหนูตั้งแต่เกิดมาป๊ะป๋ากับแม่ก็เลี้ยงดูสนับสนุนหนูอยู่ทุกเรื่อง ชีวิตหนูไม่เคยลำบาก อยากทานอะไรก็ได้ทาน อยากเที่ยวไหนก็ได้เที่ยว อยากได้อะไรก็ได้ไม่เคยมีปัญหา และตอนนี้อยู่อายุ 35 อีกไม่นานก็จะ 36 พวกท่านตอนนี้ก็ 60 ปีขึ้นไปแล้ว หนูควรจะกลับไปเยี่ยมพวกท่านตอนเป็นดีกว่าไปเจอกันอีกทีตอนตาย

ตะวันเป็นคนขับรถพาหนูมาโดยหนูเป็นคนบอกทาง เมื่อถึงหน้าบ้านหนูก็ทำใจอยู่นานกว่าจะลงจากรถ กดออดเรียกคนในบ้านสักพักหนึ่งป๊ะป๋าหนูก็เดินมาดู ท่านชราลงมากแล้วแต่ก็ยังแข็งแรงดูสมาทเหมือนเดิม

ท่านดีใจมากที่หนูมาเยี่ยม "กลับมาแล้วเหรอบีม"

"สวัสดีค่ะป๋า" หนูยกมือไหว้ท่านๆก็รับไหว้ แล้วตะวันก็ลงมาจากรถ ท่านก็มองแล้วรับไหว้ แล้วกนูก็แนะนำให้ป๊ะป๋ารู้จัก

"แม่อยู่บ้านไหมค่ะป๋า?"

"อยู่ๆ เข้ามาข้างกันก่อนเถอะ ทานข้าวทานปลากันมารึยัง? มาเดี๋ยวป๋าช่วยถือ" ป๊ะป๋ายังคงมีน้ำใจเสมอ

พวกเราเดินเข้าไปในบ้านแม่ของหนูกำลังนั่งดูทีวี "ใครมาเหรอค่ะคุณ?"

แม่พูดแล้วก็หันมามองที่หน้าประตูทางเข้าพอเห็นหน้าหนู ท่านก็ยิ้มลุกขึ้นเข้ามาหาหนูทันที หนูก็ยกมือไหว้แม่ "สวัสดีค่ะแม่"

"หนูเป็นยังไงบ้างลูก ทานข้าวทานปลากันรึยัง?" แม่จับมือขณะที่หนูกำลังพนมมือไหว้

"เรียบร้อยแล้วค่ะแม่"

หนูสบตากับแม่สักพักก็น้ำตาคลอทั้งคู่แล้วเราก็กอดกันด้วยความคิดถึง "แม่คิดถึงหนูนะลูก"

"หนูก็คิดถึงแม่ค่ะ" แล้วน้ำตาของเราก็ไหล

สักพักหนึ่งแม่ก็ถามว่าคนนี้ใคร หนูก็แนะนำตะวันให้พวกท่านอย่างเป็นทางการ และบอกข่าวดีว่าเราจะแต่งงานกัน พวกท่านพอรู้เรื่องเข้าก็ดีใจมากๆที่หนูจะได้แต่งงาน

หนูกับแม่เราออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะหมู่บ้าน นั่งคุยกันในเรื่องต่างๆที่ผ่านมาในชีวิต หนูจึงถามแม่ถึงเรื่องพ่อต้น

"แม่เล่าให้หนูฟังได้ไหมค่ะ"

"เรื่องอะไรเหรอ?"

"เรื่องพ่อต้น"

แม่หน้าอมทุกข์ขึ้นมาทันทีแต่ก็ยอมเล่าให้ฟัง …

เรื่องของพ่อต้นพ่อแท้ๆแท้ๆของหนู หลังจากที่หนูรู้เรื่องหนูก็ตามหาความจริงเรื่องพ่อของหนู และความจริงที่หนูรู้ สาเหตุการตายของพ่อต้นมันไม่ใช่แค่เรื่องที่ป๊ะป๋ากับแม่ทำกับพ่อเท่านั้น มันมีเรื่องการโกงเงินในธุรกิจ พ่อของหนูถูกเพื่อนของเขาโกงเงินไปจนหมด เขาต้องใช้หนี้ธนาคาร …

ในวันที่เซ็นใบหย่า ต้นได้พูดกับแพรก่อนจะปล่อยเธอไปอยู่กับวิน "แพร ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของเราสองคน ดูแลเขาแทนพี่ด้วยนะ"

"พี่จะไปไหน?"

"พี่ถูกเพื่อนโกงเงินบริษัทไป พี่ต้องใช้หนี้"

"อะไรนะ! แล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกแพรเรื่องนี้!"

"ขอโทษนะแพร แต่ตอนนี้แพรก็มีความสุขกับคนใหม่แล้วนี่"

แพรเงียบไม่พูดอะไร จากนั้นต้นก็บอกกับแพรว่า "ขอให้รักกันนานๆนะ พี่อโหสิกรรมให้แพร ต่อจากนี้อย่าทำอะไรแบบนี้อีก ถือว่าพี่ขอนะ"

"แพรขอโทษ แพรขอโทษนะพี่" แพรยกมือไหว้และร้องไห้หนัก

"ไม่เป็นไรแพร ไม่เป็นไร"

เป็นความจริงที่มีเพียงแพรกับต้นเท่านั้นที่รู้ และหลังจากนั้นต้นก็ทนรับภาระอันหนักอึ้งไว้ไม่ได้ จึงคิดสั้นจบชีวิตของตัวเอง

"มันเป็นตราบาปของแม่ แม่ขอโทษนะบีม" แม่พูดขอโทษหนูพร้อมกับน้ำตาไหล

แม่เล่าความจริงให้หนูฟังหลังจากที่หนูกลับบ้านมาบอกพวกท่านว่าหนูจะแต่งงาน หนูที่ซึ่งตอนนี้สามารถรับเรื่องนี้ได้แล้ว หนูจะโกรธจะเกลียดแม่กับป๊ะป๋าไปมันก็คงไม่ช่วยให้พ่อต้นฟื้นกลับมาได้ อีกอย่างหนึ่งป๊ะป๋ากับแม่ของหนูก็ต้องทนทุกข์จากการถูกญาติๆและผู้คนครหา ตีตราไปแล้วว่า เเม่ทิ้งพ่อไปเพราะมีชู้ มันเป็นตราบาปที่จะอยู่ติดตัวแม่กับป๊ะป๋าไปตลอดชีวิตของพวกท่าน

ด้วยความที่หนูนับถือศาสนาคริสต์ ตามพิธีส่งตัวเจ้าสาวต้องให้พ่อเป็นผู้เดินส่งตัว พ่อเลี้ยงอย่างป๊ะป๋าวิน เรื่องที่ท่านทำกับพ่อของหนูมันก็เกินจะให้อภัยจริงๆ แต่ว่าท่านก็เลี้ยงดูหนูมาตั้งแต่เด็ก ที่หนูได้ดิบได้ดีก็มาจากการเลี้ยงดูของท่าน ทั้งๆที่ไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนั้นก็ได้ แต่ท่านก็ทำทุกอย่างเพื่อชดใช้บาปที่ตัวเองทำลงไป คือการเลี้ยงหนูให้เติบโต และ ใช้ชีวิตอยู่ในศีลในธรรมมากกว่าที่ท่านเป็น ไม่อยากให้หนูเดินตามรอยที่ท่านเคยทำให้ชีวิตครอบครัวหนึ่งพังไป ด้วยการแย่งเมียชาวบ้านมาเป็นของตัวเอง

"ป๋าค่ะ ป๋าส่งตัวหนูได้ไหมค่ะ"

"…." ป๊ะป๋าเงียบอย่างลังเล

"เรื่องที่เกิดขึ้นหนูอโหสิกรรมให้ค่ะ ขอบคุณป๋ามากนะคะที่ทำหน้าที่พ่อเลี้ยงแทนพ่อแท้ๆของหนู"

ป๊ะป๋าวินเมื่อได้ยินคำขอของหนูเขาก็น้ำซึมอย่างปลื้มปริม "ป๋า … ป๋าขอโทษนะลูก"

เมื่อเคลียร์ใจกันแล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ในวันแต่งงานของหนูป๋าวินเป็นผู้เดินมาส่งตัวเจ้าสาว "ฝากดูแลเธอ ดูแลเธอให้เหมือนเจ้าหญิงนะ"

"ครับ คุณพ่อ ผมสัญญาว่าจะดูแลเธอดุจเจ้าหญิงครับ"

ป๋าวินหันมาพูดกับหนู "ขอให้หนูโชคดีกับชีวิตคู่ครอบครัว ขอบคุณ…สำหรับทุกอย่าง"

"ค่ะป๊ะป๋า"

หนูกับตะวันเอ่ยคำสัญญาต่อหน้าบาทหลวง และเสียงระฆังก็ดังขึ้น เราจูบกันท่ามกลางเสียงปรบมือยินดีของแขกผู้มีเกียรติ และแน่นอนเมื่อส่งตัวเข้าเรือนหอ …

จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบบบบ… "ฮ่อยย.. ซี๊ดดด อื้มมมม"

ทั้งคู่ถอดชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวออกเหลือแต่ชุดบางๆของบีม กับ กางเกงในของตะวัน พวกเขาจูบกันก่อนที่ตะวันจะวางบีมลงบนเตียง เธอดูหัวนมเขาจูบและเล่นตรงนั้น จนหัวนมของตะวันเเข็งชูชัน



จากนั้นตะวันก็ถอดชุดของบีมออกแล้วลุกขึ้นดูดเลียหัวนมของเธอ บีมหลับตามือลูบไล้ผมของเขา กัดริมฝีกปากทำหน้าเสียวและครางกระเส่าเบาๆ "อื้มม…มม.. อ่าส์"

จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ….



บีมดันตัวของตะวันลงแต่เขายังดูดเลียตรงหัวนมของเธออยู่ เธอเสียวจนน้ำเดินจึงใช้มือช่วยแล้วอ้าปากครางกระเส่าหลับตาปริบ "อ่าาา…าา…ส์ ซี๊ดด…ดด…อู๊ยยย..ยย"



เสียงครางดังขึ้นอยู่เป็นละลอก ทั้งสองปรนเปรอกันเป็นอย่างดี ใช้มือรูดจนแข็งสู้มือเธอ ตะวันหน้าเหยเกอย่างเสียวซ่าน จากนั้นบีมก็ขยับลงต่ำมาตรงลำท่อนของเขา จับหัวบานมาเขี่ยเล่นที่หัวนมจนเขาเกรงไปทั้งตัว และ ใช้เต้าถูไถ่ไปกับลำท่อนที่กำลังเเข็ง

"ซี๊ดดด..ดด..อูยยย…" ตะวันซู๊ดปากร้องคราง

"ชอบมั้ยย..ยย"

"ชอบสิ..อ่าส์"

บีมยิ้มอย่างภูมิใจแล้วเร่งจังหวะจนตะวันนอนเกรงไปทั้งตัว "อูยยย…อ่าส์ ซี๊ดดด…ดด อู๊ววๆ"



บีมทำอยู่ประมาณ 10 นาทีปกติแล้ว บรรดาแฟนเก่าส่วนมากจะทนท่านี้ของเธอไม่ไหว 3 - 5 นาทีก็เสร็จนำเธอไปก่อนแล้ว เรียกว่าเป็นท่าตัดกำลังของเธอโดยเฉพาะ แต่ตะวันกลับอึดทนพอๆกับปลื้ม แต่ของตะวันนั้นใหญ่และยาวกว่าเป็นรองแค่มาร์คเท่านั้น

"อื้มม" บ๊วบบ จ๊วบบ แผล่บๆ … บีมเลิกทำแล้วลงมาจูบดูดเลียอมลำท่อนของเขาแทน ตะวันได้แต่นอนอ้าปากเสียวครางอย่างสบายใจ ทั้งคู่สบตากันอย่างหวาดเยิ้ม ปล่อยให้เธอใช้ปากตรงลำท่อนอย่างเมามันส์

บ๊วบๆๆ อ็อคๆๆ … แผล่บๆ จ๊วบๆ



"ซี๊ดด อ่าาส์ๆๆๆ" ตะวันครางเสียงหลงรอให้บีมใช้ปากอย่างหนำใจ ไม่นานเธอก็ตายปากออกมาน้ำลายเยิ้มไหลตามเคลือบลำท่อนเป็นมันวาว

จากนั้นถึงลุกขึ้นเปลี่ยนให้บีมนอนลง และก้มลงใช้ปากที่กลีบสาวกลิ่ยหอมยั่วยวนใจของเธอ

จุ๊บบ.. จ๊วบบ..ๆ แผล่บๆ "ซี๊ดด อ๊ะโฮ่ยยย อื้มมมม… อ่าาา…าาส์" บีมหลับตามืออยู่ไม่เป็นสุข นอนครางเสียงหลงหลับตาปริบ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็ตัวกระตุกเสร็จไปก่อนเขา

"อร๊างงงงงง…งงง…งง"



ตะวันจับยกซดเหมือนน้ำก๋วยเตี๋ยวในชาม เขากลืนน้ำรักของบีมทุกหยาดหยด แล้วค่อยๆวางสะโพกเธอลงอย่างทะนุถนอมที่สุด ปากของเขาเป็นมันวาวสะท้อนแสงไฟในห้อง

เขาค่อยๆยื่นหน้าจูบปากดูดดื่มกับเธอๆจูบตอบอย่างไม่รังเกียจ สักพักก็เริ่มสอดลิ้นแลกกันพัลวัน เสียงพ่นลมหายใจดังที่ปลายจมูกทั้งสอง สักพักหนึ่งบีมก็ลุกขึ้นกดเขาลงนอน ขึ้นคร่อมบนตัวเขาแล้วใช้มือจับลำท่อนเขี่ยๆถูๆที่ปากร่อง เธอครางกระเส่าก่อนที่จะสอดใส่เขาไปอย่างง่ายดาย

"อร๊างงงงง…งงงง…งง นะ..แน่นไปหมดเลย อุ๋ยย…ย เสียวว อ๊ะฮ้าาส์!!!!"

เธอแช่ค้างเอาไว้สักพัก ก่อนจะค่อยๆร่อนเอวใส่ลำท่อนที่แข็งอยู่ภายในช่วงล่างของเธอ ค่อยๆไตร่ระดับช้าไปเร็ว จนเตียงสั่นไปตามจังหวะควบม้าของเธอ

"อ่าส์ ซี๊ดดดด" ทั้งคู่ครางเร่งเร้ากันและกัน

ตะวันใช้สองมือจับขยำเต้านมของเธออย่างเต็มไม้เต็มมือ

ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ๆๆๆๆๆๆ

"ซี๊ดด โฮ่ยยย..ยย อ่าาส์ๆๆๆ"

บีมเร่งจังหวะเพราะใกล้เสร็จไม่นานเธอก็กระตุกเสร็จไปอีกรอบหนึ่ง ตะวันขยับขึ้นมาจูบแล้วไซร้าแถวต้นคอ ลงที่หัวนมจับดูดเคล้นจนเป็นรอยจ้ำๆที่เต้า



สักพักบีมก็ขย่มจมมิดด้ามพร้อมร้องเสียงหลงระงมไปทั่วห้องของพวกเขา

"อิย๊าาา…าาา..าา อ๊าาๆๆๆๆ โอ้ยยย…ยยๆๆ ซี๊ดด อร๊างงงงงงงง..งงง…งงๆๆๆๆ!!!!"



ตะวันทำท่าจะลุกขึ้นมาแต่บีมก็โน้มลงล็อคแขนเข้าไว้ เพราะเธอเสียวมากๆไม่อยากให้ขัดจังหวะแล้วเร่งจังหวะเเรงๆ ปั๊บๆๆๆๆๆๆ

"โฮ่ยยย…ยยย!!!! จะเสร็จแล้วๆๆ อึ้กๆๆ กรี๊ดดดดดดด..ดดด อ่าาาาาา..าา…" บีมกระตุกอย่างรุนแรงเสร็จไปอีกครั้ง



ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ๆๆๆๆๆ เสียงแห่งความสุขของบ่าวสาวดังขึ้นไม่เบาแผ่ว หนักหน่วงผสมปนเปกับเสียงหายใจที่ไม่ได้จังหวะ

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าาาา…..ซี๊ดดด…อะอ๊าาา…าา… อ๊า อ๊า อ๊าาาา"

สองร่างกายสวมสอดกันอยู่อย่างเต็มอารมณ์ จูบกันอย่างดื่มด่ำความสุขที่ปรนเปรอกันและกัน เปลี่ยนท่าทางไปเรื่อยๆตามแต่ใจปรารถนา แต่ทีเด็ดที่สุดของทั้งคู่คือท่าหมา ท่าที่ตะวันกระแทกอัดเข้ามาอย่างไม่บันยะบันยัง

ตับ ตับ ตับ ตับ ๆๆๆๆๆๆ!!!!

"อร๊างงงง..งง อ๊าา อาาาา อ่าาาๆๆๆ!!!!"



บีมครางระงมจนคว้ำหน้าลงที่นอนโดยแอ่นก้นโด่งปล่อยให้สามีป้ายแดงของเธอ กระแทกเข้ามาเรื่อยๆจนเธอกระตุกเสร็จไปอีกรอบ

ตะวันค่อยๆสาวเนิฟๆช้าๆรอภรรยาป้ายแดงพักให้หายเหนื่อย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับหัวไหล่ขาวๆของเธอแล้วกระแทกต่ออย่างเมามันส์ บีมส่งเสียงครางเอ้งเอวสวนกลับอยู่เกือบ 20 นาทีในท่านี้ และเธอก็เสร็จไปอีกครั้งในเวลาต่อมา …



จากนั้นบีมก็พลิกตัวมานอนลงโดยที่ลำท่อนของตะวันยังคารูอยู่ เมื่อจัดแจ้งท่าต่อไปในตำแหน่งที่เหมาะสมเสร็จแล้ว เขาก็รั้งแขนของเธอเอาไว้แล้วสอยเอวใส่ถี่ๆ ท่านี้จะทำให้เธอหน้าอกสวยๆของบีมเบียบกันเป็นทรงสวย

ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ๆๆๆๆๆๆ

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาา….."



แรงกระแทกของเขารุนแรงถี่รัว ทำเอาบีมหลังแอ่นลอยไม่ติดที่เตียง เขากระแทกอย่างเมามันส์จนทำเอาเตียงสั่นสะเทือนโครมคราม ดังปนไปกับเสียงกระแทกเนื้อของพวกเขา

ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ๆๆๆๆ

"ซี๊ดดส์.. ไม่ไหวแล้ว.. ไม่ไหวแล้ว.. ซี๊ดดดส์" ตะวันส่งเสียงบอก แล้วกระเเทกไปตามอารมณ์ที่กำลังจะถึงจุดสุดยอด

ทำบีมหน้าเหยเกได้แต่รับแรงกระแทกกระทั้น ไม่นานเธอก็กรีดร้องดังลั่นก่อนจะกระตุกเสร็จ และ ตะวันก็ปล่อยน้ำเชื้ออุ่นๆเข้าไปแบบเต็มแรง



เขาแช่เอาไว้อยู่อย่างนั้นหลังปล่อยน้ำเชื้อที่เก็บเอาไว้นานเป็นเดือน เพื่อวันนี้โดยเฉพาะ น้ำของเขาที่ปล่อยไปพุ่งแรงมากๆจนบีมสัมผัสได้ ทั้งสองจึงจูบกันในท่านั้น และ ตะวันก็ถอนลำออกมาน้ำเชื้อ

"หู๊ยยย..ยย น้ำเยอะมาก" บีมครางกระเส่า

"ก็ไม่ได้มีอะไรกันเลยนี่นา" ตะวันบอก

บีมก็หัวเราะคิกคัก "ก็ใช่ซิ ไม่มีอะไรกันตั้งเดือนหนึ่งก่อนแต่งงานเลยนิ"

ตะวันก็ยิ้มรับแล้วลงไปจูบกับบีมอีกครั้ง "รักนะครับ…ที่รัก"

"รักเหมือนกันนะ…คุณสา..มี…"



หลังจากวันแต่งงานผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ต่อมาหนูก็ตั้งท้อง ตะวันตื่นเต้นที่จะได้เป็นพ่อคนเขาดูแลหนูอยู่เคียงข้างหนูยันตอนคลอด "อุแว๊ อุแว๊"

"ผู้ชาย!"

อีก 2 ปีต่อมาก็มีลูกคนที่ 2 "อุแว๊ อุแว๊"

"ผู้หญิง!"

และคนสุดท้ายท้ายปี "อุแว๊ อุแว๊"

"ผู้ชาย!"

จากนั้นหนูก็ทำหมันปิดอู่ทันที เพราะไม่ไหวแล้วอายุมากแล้วมีลูกเยอะไม่ดี ปัจจุบันนี้หนูก็เป็นแม่บ้านส่วนตะวันก็ออกจากการเป็นไกด์ เราเปิดธุรกิจครอบครัวร่วมกันที่บ้านของเรา และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป..



ก่อนจากกันไปหนูก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกนะคะ "จงอย่าจมดิ่งไปกับความรักที่ล้มเหลว มันไม่สำคัญเลยว่าเราจะเคยผ่านผู้ชาย หรือ ผู้หญิงมาแล้วกี่คน ถ้าไม่ใช่ก็แค่ปล่อย และ หาใหม่ ผู้ชายหรือผู้หญิงมีอยู่ตั้งมากมาย ต้องมีสักคนหนึ่งที่เป็นคู่ชีวิตของเรา ไม่ใช่ชีวิตคู่" …

“แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีเงิน เวลา ความรัก และเซ็กส์ที่ถึงใจด้วยนะคะ"





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น