วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

[Side Story] เรื่องเล่าของนายโจ้ยอดชาย : พี่หน่อย #2


=======================================


“พี่หน่อยครับ?” ผมใช้มือลูบไปที่แก้มเธอเบาๆ พลางร้องเรียกอยู่ครู่หนึ่ง พี่หน่อยได้แต่ครางฮือเบาๆ เป็นคำตอบ ไม่รู้ว่าเพราะรำคาญผมรึเปล่า แต่เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีอาการต่อต้านใดๆ ตอบกลับมา ผมจึงเอ่ยปากพูดต่อไป
“ผมขอนะครับพี่” พูดจบผมก็ใช้มือรูดกางเกงในลายลูกไม้สีน้ำตาลอ่อนของพี่หน่อยลงไปกองไว้ที่ข้อเท้าซ้าย จับสองขาเธอแหกอ้าออกจากกัน จนมองเข้าไปเห็นพลูหีสีแดงแจ๋ของเธอที่แบะอ้ารออยู่ พอลองเพ่งดูดีๆ ก็เห็นว่ามีคราบน้ำเหนียวๆ ใสๆ ติดซึมออกมาจากบริเวณปากร่องของเธออยู่นิดนึง ไม่นึกว่าพี่หน่อยแกจะมีอารมณ์ขึ้นมาได้ทั้งๆ ที่ผมยังแทบไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลยด้วยซ้ำ

พอเห็นแบบนี้แล้วผมก็เลยมั่นใจล่ะครับ ว่ายังไงคืนนี้ต้องได้เย็ดเธอแน่ๆ ถึงแม้ปากเธอจะพูดอยู่ปาวๆ ว่าให้หยุดมือก็เถอะ จัดแจงก้มลงไปดูดเม้มหน้าอกของเธออย่างเอร็ดอร่อย พร้อมๆ กับใช้นิ้วบี้คลึงเขี่ยแยงรูหีของเธอไปด้วยเพื่อปลุกอารมณ์ ผมเล้าโลมได้ไม่ถึง 5 นาที หีพี่หน่อยก็แฉะชื้นซะจนเหนียวเยิ้มติดมือผมไปทั่ว ได้ยินเสียงครางสูดปากอิ๊อ๊ะของเธอออกมาเป็นระยะๆ พี่หน่อยตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายฉีกขาอ้าออกกว้างด้วยตัวเอง ใบหน้านิ่วคิ้วขมวด นอนหลับตาปี๋มีอาการบิดเกร็งเร่าๆ มือก็คว้าจิกผ้าปูที่นอน คอยรับการปลุกเร้าจากริมฝีปากและปลายนิ้วของผมไปพร้อมๆ กัน

“อ๊ะ...! อืมมม...มมม โจ้.... อือออ.... ไม่เอาาา....” พี่หน่อยละล่ำละลักส่งเสียงร้องห้ามออกมาเป็นคำๆ แต่มันสายไปแล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมเงี่ยนขึ้นสมองจนลืมเรื่องเหตุผลและความถูกต้องไปหมดแล้ว
“พี่หน่อยครับ คืนนี้ผมขอเถอะนะ” ผมเลื่อนหน้าขึ้นไปกระซิบอย่างอ่อนโยนที่ข้างหูเธอ ใช้ปากงับเบาๆ ไปที่หลังหูแล้วกวาดลิ้นเลียไปรอบๆ จนเธอสั่นสะท้านตัวเกร็งเฮือก
“โจ้... แก...... อย่าทำแบบนี้... ไม่เอาาา” เนื้อตัวพี่หน่อยตอนนี้อ่อนปวกเปียกไปหมด ตรงกันข้ามกับท่อนลำของผมที่กำลังแข็งดีดเป็นหิน และกำลังบดเบียดถูไถอยู่กับหน้าขาเนียนนุ่มของเธอ
“โจ้....อ...อุ๊บบบ! อื๊อออ” เสียงร้องห้ามของพี่หน่อยขาดห้วงไป เมื่อโดนผมประกบอุดปากเธอด้วยรสจูบอันร้อนแรง สองมือผมก็บีบขยำเต้านมอวบของเธอไปด้วย

ผมดูดปากเธอจนเคลิ้มอยู่ราวๆ 2-3 นาทีก็ค่อยๆ ถอนปากออก คราบน้ำลายของเราสองคนผสมปนเปกันจนเหนียวหนืดยืดออกมาเป็นสาย พี่หน่อยได้แต่นอนตัวสั่นริกๆ อยู่บนเตียง หมดเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านและขัดขืนผมอีกต่อไป เธอไม่มีแรงแม้แต่จะร้องห้าม ได้แต่จำยอมให้ผมจับตัวเธอพลิกตะแคงข้าง ใช้มือรองช้อนขาข้างที่อยู่ด้านบนของเธอขึ้นชี้ฟ้าค้างเอาไว้ ก่อนจะจับจรดปลายควยจ่อทิ่มมุดเข้าไปในร่องหีอันเปียกชื้นของเธอ ด้วยวัยและประสบการณ์ที่ผ่านมาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว แน่นอนว่ารูหีของเธอย่อมไม่ได้รัดแน่นฟิตเปรี๊ยะเหมือนอย่างร่องรูของสาวๆ วัยแรกรุ่น แต่ด้วยความที่มันคือรูหีของพี่หน่อย เจ้านายที่ผมทั้งรักและเคารพเหมือนพี่สาวคนนึงมาตลอด จึงทำให้ผมรู้สึกคึกคักและเงี่ยนควยมากเป็นพิเศษ ออกแรงตะบันกดควยทิ่มลึกเข้าไป

ยิ่งได้เห็นอาการของพี่หน่อยตอนที่โดนควยผมมุดแยงรูหี เวลาที่เธอเริ่ดหน้า ทำเปลือกตากระตุกไปมา ยิ่งกระตุ้นให้ผมกระแทกควยเข้าออกแรงขึ้นอีก ทุกครั้งที่ท่อนควยของผมครูดผ่านหรือเฉี่ยวไปโดนเม็ดแตดของเธอ ร่างของพี่หน่อยจะกระตุกเฮือก แอ่นหีเข้าบดสู้ควยของผมอย่างร้อนรนเหมือนคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พอผมสอดควยมุดเข้าไปได้จนเกือบจะสุดลำแล้ว ก็ค่อยๆ โหย่งก้นถอนควยออกมาช้าๆ ยาวๆ จนมันเกือบจะหลุดออกมาจากร่องโพรงหี เสร็จแล้วก็ออกแรงกดกระเด้าควยเย็ดหีเธอกลับเข้าไปพรืดเดียวอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น ได้ยินเสียงพี่หน่อยครางซี้ดดดดดส์เสียงดังในจังหวะที่ลำควยกำลังมุดพร่วดๆ เข้าไปในรูหี

ผมกระเด้าเย็ดพี่หน่อยในท่านอนตะแคงด้วยจังหวะเนิบๆ แบบนี้ได้แป๊บเดียว ยังไม่ทันที่จะจับเธอพลิกตัวเล่นท่าอะไรต่อ พี่หน่อยก็เหมือนจะมีอาการตัวเกร็ง ร่างสั่นริกๆ ปล่อยเสียงครางหวีดแหลมออกมายาวๆ คล้ายกับว่ากำลังจะน้ำแตกเพราะถึงจุดสุดยอดขึ้นมาซะเฉยๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าเธอนั้นค่อนข้างร้างลาจากเรื่องเสียวๆ แบบนี้มาพักใหญ่แล้ว พอมาโดนผมเล้าโลมหนักๆ จนหีเปียก สอดใส่เข้าไปได้ไม่กี่นาที เธอจึงชิงออกอาการกระตุกตอด หีเต้นขมิบตอดควยตุ้บๆๆ น้ำเงี่ยนทะลักออกมาอาบควยผมอย่างไม่ขาดสาย

“อ๊ายยยยยย...ยยยยย ซี้ดดดดดดดส์......! อ๋าาาาาาาา....าาาา” พี่หน่อยร้องครางหลับตาปี๋ ใช้มือขยุ้มจิกเกร็งผ้าปูไว้แน่น ผมเห็นเธอกำลังทะยานถึงจุดสุดยอดโดยที่ยังไม่ทันได้ลิ้มรสท่อนควยของผมแบบเต็มอิ่มซักเท่าไหร่ จึงรีบเร่งออกแรงตะบันท่อนควย กระเด้าเย็ดหีเธอรัวๆ เพื่อช่วยให้เธอเสียวซ่านแบบสุดๆ ในจังหวะไคลแม็กซ์ เสียงหน้าขาผมกระทบเข้ากับก้อนเนื้อบริเวณแก้มก้นของเธอดัง ปั้บ...! ปั้บ...! ปั้บ...บบบบ! ปั้บ...บบบบบบบ!
“อุ๊ย ซี้ดดดดส์... แก.... พอแล้วววว..ววว ชั้นไม่ไหว.... แล้ววววว..ววววว อ๋อยยยย...ยยยย” พี่หน่อยร้องกรี๊ดออกมาอย่างอร่อยรูหี เมื่อโดนผมกระเด้าเย็ดหนักๆ ส่งเธอลอยขึ้นสวรรค์ชั้น 7 ไปแบบน้ำแตกต่อเนื่อง 2 ทีติดต่อกัน จังหวะที่ผมเผลอดึงสโตรคถอนควยเข้าออกยาวเกินจนมันหลุดออกมา หีพี่หน่อยก็เกิดสั่นกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระฉูดน้ำใสๆ คล้ายฉี่ พุ่งออกมาเป็นน้ำพุจนเปรอะเลอะที่นอนเป็นวงกว้าง โอ้โห อันบีลีฟเอเบิ้ลลล! ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสาวใหญ่วัย 40 อัพอย่างเธอ จะสามารถถึงจุดสุดยอดแบบ Multiple Orgasm ได้ถึงใจขนาดนี้... เล่นเอาผมนี่อึ้งไปเลยย้ง!

พอน้ำแตกสบายตัวไปแล้ว พี่หน่อยก็ถึงกับหมดแรง นอนสลบฟุบหน้าคว่ำลงไปกับที่นอนทันที ทิ้งให้ผมที่กำลังนั่งควยโด่หงึกๆ ต้องค้างคาด้วยความเงี่ยนอยู่คนเดียว โธ่เอ๊ย... เธอชิงหลับปุ๋ยไปแบบนี้ผมก็อดเล่นท่ากันพอดีสิครับ ไอ้ความคิดที่ว่าอยากจะเห็นพี่หน่อยเป็นฝ่ายร่อนเอว ขย่มควยป้าบๆ ก็ดูจะเป็นไปไม่ได้แล้วในตอนนี้ ก็เลยได้แต่จับเธอนอนหงายถ่างขา แล้วยัดท่อนควยเย็ดหีเธอในท่ามิชชันนารีไปแบบจืดๆ

“อูยยย พี่หน่อยครับ... หีพี่อุ่นดีจังเลย อืมมม” ผมครางเพ้ออยู่คนเดียว ทั้งที่รู้ว่าพี่หน่อยคงไม่ได้ยินที่ผมพูดหรอก จ้องมองไปที่ใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับพริ้มของเธออย่างพินิจพิเคราะห์ แม้จะมีริ้วรอยของความเหี่ยวย่นปรากฏอยู่บ้างตามวัยที่กำลังร่วงโรย แต่เธอก็ยังจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สะสวยคนหนึ่ง ซ้ำยังทั้งเก่งและฉลาด รวมถึงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานไม่แพ้ใคร แต่ในเรื่องของความรักแล้วมันกลับกลายเป็นเรื่องราวที่ตรงกันข้ามอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

ผมเคยได้ฟังพี่หน่อยบ่นระบายเรื่องแฟนคนก่อนๆ ของแก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็มักจะคบหากันอย่างจริงจังเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี โดยเฉพาะแฟนคนแรกของเธอที่นับนิ้วดูก็ปาเข้าไปตั้ง 11 ปีแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังต้องเลิกรากันไปด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าแฟนเธอดันไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องนั่นเอง เรียกได้ว่าตอนที่เลิกกันใหม่ๆ นี่ เธอถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นเดือนๆ กว่าที่จะยอมทำใจเปิดรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้ก็หลังจากนั้นอีกเป็นปีๆ... และแม้แต่แฟนคนที่เลิกรากันเร็วที่สุดก็ยังคบกันได้นานถึง 4 ปีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว... ความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชายพวกนั้น ก็มักจะต้องยุติลงในตอนท้ายอยู่ดี พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วผมก็อดสงสารพี่หน่อยขึ้นมาไม่ได้ เพราะแม้ว่าเธอมักจะแสดงท่าทางไม่รู้สึกรู้สา และพร่ำบอกว่าตัวเองทำใจได้แล้วกับการที่ต้องอยู่เป็นโสดคนเดียวไปจนตาย แต่ผมน่ะรู้ดีว่าในใจลึกๆ แล้วเธอเองก็คงแอบเหงาอยู่บ้างเหมือนกัน เมื่อเห็นเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน หรือแม้แต่รุ่นน้องคนอื่นๆ แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวกันไปหมดแล้ว
(ย่อหน้าข้างบนนี้คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในหัว ขณะกำลังกระเด้าเย็ดหีเธออย่างเมามันนะครับ อิอิอิ)

ผมเย็ดเธอในท่านี้อีกราวๆ ไม่ถึง 10 นาทีก็เริ่มรู้สึกเสียวจนทนไม่ไหว เร่งกระแทกเอวอัดกับหน้าขาของเธอยิกๆ จนในที่สุดก็รู้สึกเสียบแปร๊บบริเวณหัวควย ถอนท่อนลำหลุดออกจากหีเธอดังผั๊วะ ใช้มือถอกรูดควยเร็วๆ อีก 3-4 ทีก็น้ำแตก กระฉูดน้ำรักขาวขุ่นพุ่งเลอะไปติดอยู่บริเวณราวนมข้างขวา ก่อนจะกระฉอกระลอกที่ 2 และ3 ตามมาติดๆ ราดเยิ้มลงไปบนหน้าท้องขาวเนียนไร้ไขมัน กับสะดือร่องสวยของเธอ ในใจก็นึกเสียดายเหมือนกันครับที่ไม่ได้แตกในคาหีเธอให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่นึกไปนึกมาก็อย่าเสี่ยงดีกว่า เพราะผมค่อนข้างมั่นใจว่าเธอคงไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากแล้ว ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเธอย่อมไม่ได้ทานยาคุมป้องกันเอาไว้แน่ๆ และหากเกิดแจ็คพ็อตแตกขึ้นมา เผลอๆ เราสองคนจะได้สวมบทบาทพ่อแม่ลูกกันอย่างเป็นทางการล่ะครับงานนี้ แค่นึกก็เสียวสันหลังวาบแล้วเนี่ย

ผมนอนพักเหนื่อยอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง ก่อนจะจัดแจงลุกขึ้นไปหยิบทิชชู่เปียกที่วางอยู่บริเวณโต๊ะหัวเตียงขึ้นมา ดึงทิชชู่ออกมาปื้ดๆๆ แล้วค่อยๆ วางซับลงไปบนร่างเปลือยเปล่าของพี่หน่อย บริเวณที่มีคราบน้ำกามเลอะเปรอะเปื้อนติดอยู่ ผมใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดคราบไคลให้เธอจนทั่ว ปาดเช็ดกลีบแคมของเธอจนมันแห้งสะอาด แม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นล้วงคว้านเข้าไปทำความสะอาดภายในให้เธอก็ตาม เสร็จแล้วผมก็ลุกไปล้างท่อนลำที่เปียกเยิ้มเป็นมันในห้องน้ำ หยิบเอาเสื้อผ้าตัวเองติดเข้าไปแต่งตัวด้วยจนเสร็จ พอเดินออกมาก็เห็นพี่หน่อยยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องด้วยความอ่อนเพลีย ผมเดินไปหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ก้มไปดึงเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเธอไว้ ใช้รีโมทเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำไปทั่วห้อง ตรวจเช็คล็อคประตูให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ด้วยความขี้เกียจผสมกับความเหนื่อยอ่อน ผมจึงตัดสินใจโบกแท็กซี่แล้วนั่งกลับคอนโดตัวเองไปเลย โดยที่ทิ้งรถเอาไว้ให้ยามเฝ้าเล่นๆ ที่บริษัทซักคืนนึง พอเปิดประตูถึงห้องก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แล้วหลับไปเลยโดยไม่ยอมลุกไปอาบน้ำ กว่าที่จะสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไปเกือบ 9 โมงแล้ว

ผมคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็เดินมานั่งชงกาแฟดื่มที่โต๊ะอาหารซึ่งตั้งอยู่ติดกับเคาท์เตอร์ครัว ในหัวตอนนี้ก็คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน... ชิบหายแล้วเนี่ย ผมทำอะไรลงไปวะ? นี่ผมพึ่งจะข่มขืน... ไม่สิ ลักหลับพี่หน่อย เจ้านายตัวเองไปเมื่อไม่ถึงชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา โดยที่เธอเองก็เอ่ยปากร้องห้ามผมแล้วแท้ๆ แต่ผมดันขาดสติ ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีๆ ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธและเกลียดผมมากขนาดไหนแล้วในตอนนี้ ผมหยิบมือถือขึ้นมา กะว่าจะโทรไปขอโทษเธอ แต่แล้วก็เกิดลังเลขึ้นมา กลัวจะโดนเธอด่าสวนกลับมาทางโทรศัพท์แล้วจะพูดอะไรไม่ออก ก็เลยลองส่งไลน์ไปหาเธอก่อนดีกว่า

“พี่หน่อยครับ ตื่นรึยังครับพี่”  เงียบ.... ไม่มีคำพูดใดๆ ตอบกลับมา เธอไม่แม้แต่จะเปิดอ่านมันด้วยซ้ำ... มองในแง่ดี พี่หน่อยอาจจะยังคงหลับสนิทอยู่ในตอนนี้ และยังไม่ได้ลุกขึ้นมาดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองก็เป็นได้ หรือว่า... เธออาจจะตื่นขึ้นมาแล้ว และกำลังเตรียมตัวที่จะเอาเรื่องกับผมให้ถึงที่สุด.... โอย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ผมตัดสินใจว่าจะขอคุยกับเธอให้รู้เรื่องซึ่งๆ หน้าไปเลยดีกว่า รีบโบกแท็กซี่จากหน้าคอนโดพาตัวเองมาถึงออฟฟิศในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ชะเง้อดูห้องทำงานมองหาพี่หน่อยก็ยังไม่เห็นตัว ก็เลยได้แต่นั่งทำงานรอเธอไปเรื่อยๆ จนชักจะเริ่มสายมากๆ ผมถึงตัดสินใจลองเดินไปกระซิบถามพี่แอน เลขาสุดสวยที่นั่งอยู่หน้าห้องทำงานพี่หน่อย

“พี่แอน วันนี้พี่หน่อยไม่มาเหรอพี่?” ผมเอ่ยถามเธอที่กำลังก้มหน้าทำเอกสารอยู่ยิกๆ
“เออ เจ๊แกไม่สบายว่ะ ลาครึ่งเช้า เดี๋ยวก็คงเข้ามาบ่ายๆ มั้ง ทำไม มีงานด่วนเหรอ?” พี่แอนร่ายยาวโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมซักนิด
“อ๋อ อาฮะๆ ไม่มีไรพี่ ขอบคุณมาก” ผมเดินถอยกลับมานั่งที่โต๊ะ ความคิดในหัวยิ่งพาลให้ไม่สบายใจหนักขึ้นไปอีก แม่งไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนี่หว่า.... ทำไงดีวะกู? สรุปก็ทำงานแทบไม่รู้เรื่องเลยล่ะครับวันนั้น จนกระทั่งตัวเลขนาฬิกาบนจอคอมแสดงบอกเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ผมก็เห็นร่างเพรียวบางระหงส์ของพี่หน่อย เดินเข้ามาทางหน้าประตูออฟฟิศ จังหวะการก้าวเท้าของเธอดูจะฝืนๆ อยู่บ้างเวลาลงน้ำหนัก จนผมแอบจับสังเกตได้ ดูท่าว่าเธอจะยังคงมีอาการปวดๆ หน่วงๆ บริเวณหว่างขาหลงเหลืออยู่ไม่มากก็น้อย... ผมทำท่ายกไม้ยกมือจะโบกเรียกเธอ แต่เหมือนพี่หน่อยจะไม่สนใจ เดินก้าวยาวๆ เข้าประตูห้องทำงานไปโดยไม่หันมาสบตากับผมด้วยซ้ำ โอ้โห ใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มเลยครับนาทีนั้น

ช่วงบ่าย 3 ครึ่ง พี่หน่อยก็เรียกทีมงานทุกคนเข้าประชุมกันตามตารางที่ยิงนัดไว้ ซึ่งทุกคนที่ว่าย่อมรวมถึงผมด้วย ระหว่างนั่งประชุมอยู่ในห้อง ผมพยายามสบตาสังเกตอาการและท่าทีของพี่หน่อยอยู่เป็นพักๆ น่าแปลกที่เธอกลับนิ่งสงบ และไม่แสดงอาการร้อนรนหรือแม้แต่จะโกรธเคืองใดๆ ออกมาผ่านทางสีหน้าและแววตา คำพูดของเธอยังคงเสียงดังฟังชัดเหมือนปกติ บางจังหวะก็หัวเราะร่าไปกับมุกตลกที่ใครบางคนปล่อยออกมา เวลาหนึ่งชั่วโมงที่ประชุมกันผ่านพ้นไปด้วยดี จนผมเริ่มที่จะโล่งใจและคิดว่าเธอคงพอจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว แถมยังแอบคิดเข้าข้างตัวเองแบบสุดโต่งอีกด้วยว่า บางทีเธออาจจะรู้สึกติดอกติดใจลีลาที่ผมประเคนใส่เธอไปเมื่อคืนซะด้วยซ้ำ

จนกระทั่งเกือบจะเลิกงานนั่นแหละครับ ผมถึงได้เลิกฝันหวานคิดเข้าข้างตัวเอง ทันทีที่พี่หน่อยชะโงกหน้าออกมาจากประตูห้องทำงาน เธอก็เอ่ยปากร้องเรียกให้ผมเข้าไปคุยกันเป็นการส่วนตัว ความเครียดบังเกิดล่ะครับทีนี้... ผมเดินตัวลีบคอตกเข้าไปในห้องทำงานของเธอแล้วก็รีบปิดประตูเพื่อกันไม่ให้มีเสียงหลุดเล็ดลอดออกไป ในกรณีที่พี่หน่อยเกิดเม้งแตกตะโกนด่าผมขึ้นมา ซึ่งด้วยความที่ห้องของเธอนั้นถูกออกแบบมาให้สามารถเก็บเสียงได้ สำหรับเอาไว้ใช้เป็นห้องประชุมสำรอง ก็เลยพอจะช่วยให้มั่นใจได้บ้าง ว่าอย่างน้อยๆ พี่แอนเลขาที่ยังนั่งทำงานอยู่ข้างหน้าห้อง จะไม่มีทางได้ยินถ้อยคำผรุสวาทที่พี่หน่อยเป็นคนตะเบ็งออกมาแน่นอน.... แต่ผิดคาดครับ พี่หน่อยกลับมีท่าทีที่ยังนิ่งสงบเหมือนเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผมเลยเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะพี่หน่อยพอดิบพอดี ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“โจ้รู้ใช่มั้ยว่าพี่เรียกเราเข้ามาคุยเรื่องอะไร?” ประโยคเปิดหัวของเธอทำให้ผมแอบใจสั่นนิดๆ สรรพนามที่เธอใช้เรียกแทนตัวเองว่าพี่ก็ดูจะเป็นทางการยังไงชอบกล แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังพยายามทำใจดีสู้เสือ กลืนน้ำลายอึกๆ ก่อนจะตอบเธอไป
“รู้ครับพี่...”
“งั้นก็รู้ใช่มั้ยว่าสิ่งที่เราทำลงไปเมื่อคืนน่ะ... มันทำให้พี่ผิดหวังมาก” เธอพูดกอดอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เข้าใจครับ...”
“แล้วมีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?” คำถามของเธอทำเอาผมนิ่งไปพักใหญ่ๆ ไม่รู้จะตอบเธอว่ายังไงดี
“คือ... ผมขอโทษครับพี่... เมื่อคืนผมเมามากไปก็เลย...” ผมยังแก้ตัวไม่ทันจบพี่หน่อยก็พูดขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“เมาอะไร!? ชั้นรู้นะว่าเมื่อคืนน่ะแกยังมีสติอยู่ตลอด ตั้งแต่กลับจากที่ร้านมาจนถึงห้อง ถึงชั้นจะสะลึมสะลืออยู่แต่ก็รับรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง แกอย่ามาโกหกจะดีกว่านะโจ้” น้ำเสียงพี่หน่อยเคร่งเครียดขึ้นไปอีกเมื่อพยายามจะคาดคั้นจับโกหกผมให้ได้ สรรพนามที่ใช้ก็กลับมาดุดันเหมือนเดิม ผมเองตอนนี้อับจนหนทางแล้ว ได้แต่ยืนบ้าใบ้พูดอะไรไม่ออก

“เสียแรงที่ชั้นเคยไว้ใจแกมาตลอดนะโจ้ แกจะให้ชั้นไล่แกออก... หรือจะให้ชั้นแจ้งตำรวจมาจับแก เลือกเอาเลย” พี่หน่อยยื่นคำขาดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ผมฟังแล้วก็แทบจะวูบไปกองกับพื้น ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่เคยกังวลไว้ ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของตัวเอง นึกย้อนไปถึงความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างเราสองคนที่สนิทสนมกันมาเป็นปีๆ ต่อไปนี้คงเข้าหน้ากันได้ไม่ติดอีกแล้ว...
“ผมขอโทษจริงๆ ครับพี่...” ผมพูดออกไปได้แค่นั้นแล้วก็ก้มหน้านิ่งมองพื้น ไม่กล้าสบตากับเธอ
“ก้มหน้าทำไม? ทีตอนนี้พึ่งมาอายหรือไง แหม... ทำไมตอนทำเมื่อคืนไม่รู้จักละอายแบบนี้มั่งล่ะ” พี่หน่อยพูดประชดประชัน
“ไม่ต้องมาหลบตา! ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับผลสิ เงยหน้ามองชั้นนี่... ชั้นกำลังคุยกับแกอยู่นะโจ้!” เสียงพี่หน่อยชักจะดังขึ้นทุกที จนผมเริ่มกลัวว่าพี่แอนอาจจะได้ยินเสียงเธอเข้าจนได้ จึงรีบเงยหน้าขึ้นตามที่เธอสั่ง และเพราะแบบนั้นแหละครับ ผมถึงได้เห็นสีหน้าพี่หน่อยตอนนี้แบบชัดๆ ใบหน้าของเธอกำลังอมยิ้มนิดๆ เหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ดูไม่น่าจะใช่คนๆ เดียวกันกับที่พึ่งจะตะคอกใส่หน้าผมเมื่อครู่... อะไรวะเนี่ย??

“ไงล่ะแก ตัวสั่นเป็นลูกนกเลยนะ ฮึ สมน้ำหน้า!” พี่หน่อยพูดเยาะเย้ยเสร็จแล้วก็หัวเราะชอบใจ ผมเองชักจะตามไม่ทันเลยถามเธอไปซื่อๆ
“เอ่อ... พี่หน่อยไม่ได้โกรธผมเหรอครับ?”
“โกรธสิยะ! ใครบ้างเจอแบบนี้แล้วจะไม่โกรธ แกรู้มั้ย? ตอนที่ชั้นตื่นขึ้นมาเห็นสภาพตัวเองนอนเปลือยอล่างฉ่างอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนก็ยับยู่ยี่มีรอยเปียกเป็นคราบ ชั้นนี่แทบจะกรี๊ดออกมาดังๆ เลย และที่เคืองที่สุดก็คือ... แกเล่นเย็ดชั้นซะหนำใจ จนชั้นทั้งปวดทั้งแสบระบมหีไปหมด แค่จะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำยังปวดจนแทบก้าวขาไม่ไหว กว่าจะตั้งหลักได้ก็เสียเวลาไปตั้งครึ่งค่อนวันเลยเนี่ย รู้บ้างมั้ยห๊ะไอ้บ้า!?” พี่หน่อยวีนใส่ผมแว้ดๆ เสียงแหลม ฟังจากน้ำเสียงและใจความแล้ว ดูท่าว่าเธอจะไม่ได้โกรธผมจริงจังเท่าไหร่แฮะ พอเห็นแบบนี้ผมก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

“ผมนึกว่า... ผมจะโดนพี่ด่ายับซะอีก...” ผมสารภาพความรู้สึกออกไปตรงๆ
“ตอนแรกชั้นก็ตั้งใจว่าจะเข้าออฟฟิศมาด่าแกโดยเฉพาะนั่นแหละ แต่พอได้เห็นหน้าแกจ๋อยๆ ตอนบ่ายแล้วก็เลยเปลี่ยนใจ กะว่าจะขอแกล้งแกให้หนำใจซักหน่อยเถอะ” พี่หน่อยตอบด้วยน้ำเสียงเริงร่า
“โห..... ใจร้ายอ่ะ เมื่อกี้ผมเกือบน้ำตาซึมแล้วนะพี่”
“ดี สม! ไอ้คนหื่นกามแบบแกน่ะ เจอแบบนี้มันยังน้อยไปย่ะ เสียดาย ชั้นดันหลุดขำออกมาซะก่อน ไม่งั้นนะจะเล่นแกให้น้ำตานองหน้าเลย”
“แล้วนี่พี่... หายโกรธผมแล้วเหรอครับ?” ผมถามไปซื่อๆ ยังแอบหวั่นๆ อยู่นิดๆ เพราะปัญหาทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายลงง่ายดายเหลือเกิน จนยากที่จะเชื่อได้

“ก็... บอกตรงๆ นะชั้นเองก็ไม่ได้ถึงกับโกรธอะไรแกมากมายหรอกว่ะโจ้ มีแค่อึ้งๆ เคืองๆ นิดหน่อยตอนที่ตื่นขึ้นมาเมื่อเช้านั่นแหละ แต่พอได้ลองคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่างดู ทั้งจากนิสัยที่เอาดะไปทั่วของแก แล้วก็สถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาระหว่างเราสองคน ซึ่งพูดตรงๆ นะว่าแม่ง 'โคตรจะล่อแหลม' ... ชั้นว่าสุดท้ายแล้วถ้ามันจะต้องลงเอยแบบนี้เข้าซักวันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ไอ้ที่แปลกจริงๆ น่ะคือที่ผ่านมาแม่งแคล้วคลาดกันมาได้ยังไงตั้งนาน... ส่วนเรื่องเมื่อคืน ชั้นเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันที่ไม่รู้จักระมัดระวังตัว เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” พี่หน่อยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แต่ประโยคสุดท้ายของเธอกลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดไปกันใหญ่
“ผมขอโทษจริงๆ ครับพี่ ครั้งหน้าผมจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว ผมสัญญา” ผมรีบชิงพูดขอโทษเธออีก พี่หน่อยฟังแล้วก็นิ่งไปไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ผมเองกลับรู้สึกถึงสัมผัสแปลกๆ บริเวณปลายขา พอก้มลงไปดูก็เจอเข้ากับปลายเท้านุ่มๆ ของพี่หน่อยที่ปราศจากรองเท้า กำลังเขี่ยลูบไล้ไปมาอยู่บริเวณน่องขาของผมอย่างเพลิดเพลิน ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอแบบงงๆ

“ชั้นบอกแกเหรอว่ามันจะไม่มีครั้งหน้าอีก...” พี่หน่อยพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนกำลังวางแผนอะไรอยู่ ปลายเท้าเปลือยเปล่าของเธอค่อยๆ เลื่อนไล้ไต่สูงขึ้นมา จนเฉียดที่จะชนเข้ากับกล่องดวงใจของผมอยู่รอมร่อ
“พี่หน่อยหมายความว่า....” ผมเว้นช่วงรอคำตอบจากเธอ พี่หน่อยจ้องสบตากับผมอยู่ครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆ ลดฝ่าเท้าลง ขยับลุกจากเก้าอี้ เดินอ้อมไปกดบิดล็อคประตูห้อง ก่อนจะเดินกลับมาหยุดอยู่ข้างๆ จับเก้าอี้ผมให้หมุนหันออกไปทางหน้าประตู
“พี่หน่อยครับ...” ผมพูดออกไปได้แค่นั้น พี่หน่อยก็ขยับลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น ใช้มือจับแยกขาผมให้อ้าออกจากกัน ปลดหัวเข็มขัดจนหลุด ก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเรียวยาวแกะปลดตะขอพร้อมกับรูดซิปกางเกงผมออกจนมันหล่นไปกองอยู่ที่ข้อเท้า

พี่หน่อยยื่นมือมาวางลงไปบนท่อนเนื้อของผมที่เริ่มจะตื่นตัวจากความตื่นเต้น แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงขั้นแข็งตัวเต็มที่ แต่ก็พอจะมองเห็นได้เลาๆ ว่า ไอ้เจ้าท่อนเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงในผ้าฝ้ายสีขาวนั้น กำลังเริ่มที่จะยืดขยายตัวออก จนเห็นเป็นท่อนลำยาวใหญ่ที่คับตุงแน่นกางเกงในอยู่ในขณะนี้ เธอค่อยๆ ลูบไล้พลิกฝ่ามือไปมารอบๆ แท่งเอ็นแกร่งเหมือนกำลังสำรวจวัตถุแปลกปลอมบางอย่าง พอลูบสัมผัสจนพอจะคาดเดารูปร่างและขนาดของมันได้แล้ว พี่หน่อยก็ค่อยๆ สอดมือล้วงเข้าไปจับมันจากด้านบน ก่อนที่จะกระชากดึงท่อนควยบานเขื่องของผม จนมันโผล่หน้าออกมาทักทายไปรอบๆ ห้อง

“อืมมม... ทำไมมันใหญ่แบบนี้นะ....” พี่หน่อยพร่ำเพ้องึมงำอยู่คนเดียว ขณะใช้มือถอกรูดลำควยผมไปมาอย่างมันเขี้ยว เธอจ้องมองมันตาโตจนผมอดเขินไม่ได้ เพราะแม้ว่ากระจกห้องทำงานของเธอจะติดเป็นสติกเกอร์ซีทรูแบบด้านเดียว ซึ่งคนข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นด้านในได้ แต่การที่ผมต้องมานั่งกางแข้งกางขาอ้าควยให้พี่หน่อยชักว่าวเล่น โดยที่ยังมองเห็นพี่แอนนั่งเซ็นเอกสารอยู่งกๆ หน้าห้อง ห่างออกไปแค่ไม่ถึง 3 เมตรเนี่ย ก็ทำให้ผมอดประหม่าหัวใจเต้นตูมตามไม่ได้
“พี่หน่อยครับ.... เดี๋ยวมีใครมาเห็นนะครับ...” ผมพูดหยั่งเชิงออกไป
“ชั้นล็อคประตูแล้วย่ะ แกอย่ามาอ้างซะให้ยาก” แล้วเธอก็จับรูดกางเกงในผมออกจนพ้นหน้าขา ดึงมันลงไปกองรวมไว้กับกางเกงสแล็คด้านล่าง

พี่หน่อยกลับมาให้ความสนใจอยู่กับเจ้าท่อนเนื้อบานอวบกลางลำตัวของผมอีกครั้ง เธอใช้นิ้วเขี่ยเล่นไปมาตรงบริเวณปลายหัวควย มันมีน้ำใสๆ ซึมติดนิ้วเธอจนยืดเป็นสาย พี่หน่อยมองดูมันอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหลับตาห่อริมฝีปากเข้าไปจ่อที่บริเวณปลายหัวบานสีแดงเข้มของผม เธอสบตากับผมแว้บหนึ่งแล้วก็อ้าอมมันเข้าไปจนมิด ผมครางอู้ออกมาเพราะรู้สึกเสียววาบที่บริเวณปลายเงี่ยง พี่หน่อยใช้ปากเม้มดูดแรงๆ ก่อนจะรูดปากอมท่อนควยลงไปจนเกือบจะสุดโคนคอหอย เสร็จแล้วก็ใช้ลิ้นเลียวนไปมารอบๆ บริเวณท่อนลำ ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของมันจึงทำให้เธอเลียได้ไม่สะดวกนัก เธอจึงค่อยๆ ถอนปากออกจนหัวควยผมเกือบจะหลุดออกมา แล้วก็กลับมาใช้ลิ้นเลียจู่โจมไปที่บริเวณรอยหยักตรงปลายหัวเน้นๆ กดจี้เข้าไปเหมือนกับว่าตั้งใจจะคว้านมันให้แหกอ้าออก จนผมถึงกับร้องครางซี้ดซ้าดออกมาอย่างห้ามอกห้ามใจไม่ได้

ผมโดนเธอใช้ปากเล่นงานแบบนี้ก็ได้แต่นั่งตัวเกร็ง ถ่างขาอ้าออกกว้างเพื่อช่วยให้เธอขยับดูดควยได้ถนัดๆ พี่หน่อยเห็นแบบนั้นก็เลยใช้มือดึงร่างของผมให้เอนไหลลงไปอีก จนก้นผมยื่นเลยออกมาจากเบาะที่นั่ง แล้วเธอก็ก้มลงไปโม้กควยให้ผมอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง มือซ้ายเธอก็รูดกระถอกท่อนลำผมไปพลางๆ ส่วนมืออีกข้างก็คลึงเล่นถุงไข่ของผมไปมารัวๆ สองมือผมเกาะเกร็งยึดแขนเก้าอี้เอาไว้แน่น แหงนหน้าหลับตาด้วยความกระสันต์เสียว พยายามข่มเสียงครางเอาไว้ให้ค้างอยู่แค่ในลำคอ พอตั้งสติได้ก็รีบเลื่อนสายตามองไปยังหน้าห้อง แต่ก็ไม่เห็นตัวพี่แอนแล้ว เธออาจจะเดินไปเข้าห้องน้ำ หรืออาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้ พอเห็นแบบนี้ผมเลยกล้าที่จะปล่อยเสียงครางออกมาบ้าง

พี่หน่อยดูดควยผมหนักขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ  ผมรู้ตัวเลยว่าคงฝืนเอาไว้ได้อีกไม่นาน สูดพ่นลมหายใจแรงๆ เป็นจังหวะ ส่งเสียงครางฮืมมมออกมายาวๆ จนพี่หน่อยจับสังเกตได้ว่าผมใกล้จะแตกเต็มทีแล้ว เธอยกมือขวาที่กำลังเล่นไข่ผมอยู่ขึ้นมา ใช้ปากดูดเลียนิ้วกลางของตัวเองจนมันเปียกเยิ้ม ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนนิ้วลงไปจ่อไว้กับช่องประตูหลังของผม และก่อนที่ผมจะทันรู้ตัวว่ากำลังจะโดนอะไร จู่ๆ เธอก็กดนิ้วกลางลงไปพรวดเดียว มุดหายเข้าไปในก้นผมครึ่งข้อ

“อู๊ยยยยย.... ซี้ดดดดส์!”  ผมร้องเสียงหลงเมื่อโดนเธอแหย่นิ้วเข้ามาสำรวจตรวจภายในโดยไม่ทันตั้งตัว พี่หน่อยควานนิ้วไปมาเพื่อหาจุดศูนย์รวมความเสียวที่ประตูหลัง พอเจอแล้วเธอก็ชักนิ้วรูดเข้ารูดออกก้นผมอย่างเมามันเหมือนโกรธเคืองกันมาแต่ชาติปางก่อน พร้อมๆ กับใช้ปากโม้กควยด้วยจังหวะต่อเนื่อง เล่นเอาผมแอ่นก้นตัวลอยแทบไม่ติดเก้าอี้ ผมรู้เลยว่าเธอตั้งใจเอาคืนจากเรื่องเมื่อวานแน่ๆ

“โอ๊ะ...! โอ๊ยย...ยย พี่หนะ.. หน่อยครับ... เบาๆ ครับพี่... ผมจะแตกอยู่แล้ว” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พี่หน่อยยิ่งทั้งดูดทั้งคว้านหนักขึ้นอีกจนผมทนไม่ไหว ส่ายร่อนเอวไปมาเพื่อเตรียมจะกระฉูดน้ำรักเข้าปากเธอแบบเต็มคราบ จังหวะที่ผมกำลังจะน้ำแตกอยู่นั้นเอง สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างอวบอัดสุดสะบึมของพี่แอนคนสวย ที่กำลังเดินดุ่มๆ กลับมาจากทางห้องน้ำ ผมรีบสะกิดบอกพี่หน่อยเป็นสัญญาณ พี่แกเหลือบไปมองแค่แว้บเดียว แล้วก็หันกลับมาก้มหน้าก้มตาโม้กควยผมต่อ พี่แอนเดินกลับมาถึงโต๊ะแล้วก็ก้มลงไปเก็บโน้ตบุ๊คและเอกสารใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน เสร็จแล้วก็ลุกเดินตรงมาที่หน้าประตูห้องทำงานพี่หน่อยเหมือนว่ากำลังจะเปิดเข้ามา ผมเห็นแบบนั้นก็พยายามจะขืนตัวลุกขึ้น แต่โดนพี่หน่อยใช้ข้อศอกกับท่อนแขนกดล็อคหน้าขาเอาไว้ ออกแรงโม้กซะจนท่อนควยผมแทบจะหลุดตามเธอไปด้วย

เมื่อไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้อีก ผมจึงต้องยอมปล่อยตัวปล่อยใจ กระฉูดน้ำรักเหมือนเขื่อนแตกพุ่งปรี๊ดเข้าไปเต็มปากพี่หน่อย ก่อนจะตามอีกเป็นระลอกๆ ผมถอนหายใจออกมายาวๆ ดังเฮ้อออ ในจังหวะเดียวกันกับที่พี่แอนพยายามบิดประตูเข้ามาพอดี เสียงบานประตูขยับดังคึ่กๆๆ เพราะติดล็อคอยู่ พี่แอนจึงใช้มือเคาะที่ประตูเบาๆ เพื่อขออนุญาต เราสองคนผละตัวออกจากกันทันที พี่หน่อยผุดลุกขึ้น กลั้นหายใจกลืนน้ำรักของผมลงคออึกใหญ่แบบทีเดียวจนหมด ใช้หลังมือปาดเช็ดคราบเลอะรอบๆ ปากออก แล้วชี้ไม้ชี้มือทำสัญญาณให้ผมรีบไปแอบ ผมขยับลุกดึงกางเกงพรวดเดียวแบบลวกๆ พุ่งตัวไปยืนแอบอยู่ที่มุมห้องซึ่งเป็นมุมอับอยู่ด้านหลังประตูห้องทำงานพอดี พยายามกลั้นหายใจให้เงียบที่สุด พี่หน่อยค่อยๆ เดินมาปลดล็อคประตูช้าๆ ก่อนจะเปิดมันอ้าออกกว้าง จนบานประตูพับปิดเข้ากับมุมห้องที่ผมยืนอยู่พอดิบพอดี ไม่มีทางที่พี่แอนจะมองเห็นผมแน่ๆ

“ว่าไงแอน?” พี่หน่อยเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เดี๋ยวหนูจะกลับแล้วนะคะพี่ อันนี้เป็นสัญญาที่พี่สั่งเมื่อตอนบ่าย หนูลองร่างคร่าวๆ ยังไงพี่ช่วยตรวจให้ทีนะคะ ส่วนอันนี้เป็นเอกสารสำเนาเบิกจ่ายของพี่ชัยค่ะ หนูตรวจสอบตัวเลขแล้ว ก็ตรงตามราคาที่คุยกันไว้เมื่อวาน” พี่แอนพูดแล้วก็ยื่นส่งแฟ้มเอกสารชุดนึงมาให้พี่หน่อยที่รับไว้อย่างง่ายๆ
“ขอบใจมากแอน นี่พี่ก็พึ่งจะเคลียร์ธุระเสร็จพอดี อีกซัก 10 -20 นาทีก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน”
“อ๋อค่ะพี่ แล้วนี่อีโจ้มันกลับไปแล้วเหรอคะ หนูไม่เห็นมันข้างนอกเลย นึกว่ายังคุยธุระอยู่ในห้องพี่ซะอีก” คำถามของเธอเล่นเอาผมเสียวแว้บ
“ไอ้โจ้เหรอ เห็นมันกลับไปแล้วนะ สงสัยสวนออกไปตอนที่แอนเข้าห้องน้ำพอดีมั้ง” พี่หน่อยพูดแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ ไม่แสดงท่าทีร้อนรนออกมาจากน้ำเสียงแม้แต่นิดเดียว โอ้โห เธอนี่ตัวแม่จริงๆ ครับ
“ค่า งั้นหนูไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะพี่” พี่แอนไหว้ลาพี่หน่อยแล้วสะพายกระเป๋าเดินออกประตูไป ผมเป่าปากโล่งอก จัดเสื้อผ้าท่อนล่างของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วทิ้งตัวลงไปนั่งบนเบาะโซฟารับแขกอย่างเหนื่อยอ่อน

“เมื่อกี้ผมเกือบหัวใจวายตายเลยนะครับพี่...” ผมบ่นกระปอดกระแปดใส่พี่หน่อย เธอเพียงแต่ยักคิ้วตอบกลับมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“สมน้ำหน้า เล่นกับใครไม่เล่น จะลองดีกับชั้นน่ะ ยังเร็วไปสิบปีย่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสะใจสุดๆ
“แล้ววว... สรุปเรื่องของเรา... จะเอาไงต่อดีครับ?” ผมเอ่ยถามเธอเพราะยังรู้สึกคาใจลึกๆ แอบกลัวว่าเธออาจต้องการคบหากับผมจริงจังขึ้นมาก็ได้
“ก็ไม่เห็นต้องเอายังไงเลยนี่ แกก็ใช้ชีวิตของแกต่อไป ชั้นก็ใช้ชีวิตของชั้น เราสองคนก็ยังเป็นเจ้านาย-ลูกน้องกันเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องทำตัวอะไรให้วุ่นวาย... เบื่อก็ไปกินเหล้า เหงาก็...”
“ไปกินตับ” ผมยิงมุกแทรกขึ้นมา พี่หน่อยอมยิ้มอย่างชอบใจแล้วพูดต่อ
“เหงาก็ค่อยมาใช้เวลาสนุกๆ ร่วมกันย่ะ”
“อ๋อ แฮะๆๆ”

“สรุปง่ายๆ ก็คือ พี่กับผม เราจะกลายเป็น 'Sexfriend' กันใช่มั้ยครับ?” ผมเอ่ยถามเสียงร่าเริง
“ทุเรศ ใช้คำให้มันดีๆ หน่อย เค้าเรียกว่า 'Friend with Benefits' ย่ะ... อ้อ! ไม่สิ ชั้นเป็นเจ้านายแกนี่นา ถ้างั้นก็ต้องเรียกว่า 'Boss with Benefits' ต่างหาก” พี่หน่อยพูดยิ้มๆ
“จะเรียกยังไงก็ช่างเหอะ แต่แปลว่าผมกับพี่ เรายังจะได้เย็ดกันอีกใช่มั้ยครับ?” ผมแกล้งถามไปซื่อๆ
“อีห่า! แกจะถามทำไมยะ... ก็เออไง หรือจะไม่เอาก็ได้นะ ชั้นก็ไม่ได้ง้อ” พี่หน่อยบ่นอุบอิบ
“โหย เอาสิคร้าบ ได้เย็ดกับเจ้านายคนสวยแบบนี้ทั้งที ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว” ผมพูดแล้วรีบเข้าไปกอดหอมแก้มเธอ
“อะไรๆ ไปไกลๆ เลย ใครใช้ให้แกมาทำรุ่มร่ามยะ? บอกไว้ก่อนนะว่าเวลาอยู่บนเตียงน่ะ แกต้องทำตามที่ชั้นสั่งเท่านั้น ห้ามทะลึ่งทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด ไม่งั้นอด...  รู้เปล่า?” พี่หน่อยชี้นิ้วทำหน้าดุ

“งั้นถ้าเราเย็ดกันที่อื่นนอกจากเตียง ผมจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ? อิอิอิ” ผมพูดหน้าทะเล้น
“โอ๊ย อีบ้า! ไปๆๆ จะไปไหนก็ไปเลยไป๊ ชั้นจะกลับบ้านแล้ว คุยกับแกแล้วปวดกบาล แล้วเรื่องของเราสองคนอ่ะ รูดซิปปากให้ดีเลยนะ อย่าให้หลุดไปถึงหูคนในออฟฟิศเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าชั้นไม่เตือน คราวหน้าจะไม่ใช่แค่แกล้งขู่แบบนี้แล้ว”
“ครับพี่ รู้แล้วคร้าบ” ผมพยักหน้าหยอยๆ อย่างว่าง่าย ก่อนจะขอตัวลาเธอกลับพร้อมกับจิตใจที่ปลอดโปร่งแบบสุดๆ ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะครับ... จากที่เคยกังวลหัวแทบแตกว่าจะโดนพี่หน่อยรังเกียจเอา แต่ผลกลับตาลปัตร กลายเป็นว่าเธอดันมาติดใจดุ้นควยของผม ที่เคยฝากลีลากระเด้าเย็ดเธอจนน้ำแตกแบบสองครั้งสองคราติดต่อกัน จนเราจับผลัดจับผลู กลายมาเป็นคู่ขากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ผมคงแอบลักหลับเธอไปตั้งนานแล้ว อิอิอิ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น