ด้วยความที่อยากจะลองเขียนเรื่องราวในมุมมองของตัวละครผู้หญิงกับเขาบ้างนะครับ สุดท้ายก็เลยเอามาขยำรวมกับพล็อตที่มีในหัว จนออกมาเป็นมินิซีรีส์สั้นๆ (ไม่รู้จะสั้นจริงๆ รึเปล่า เพราะเขียนไปเขียนมาก็รู้สึกว่าชักจะยาวเกินไปแระ) อันเป็นเรื่องราวของตัวละครกุ๊กไก่ สาวหมวยคนเคยอวบ ที่กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมตัวเตรียมใจเข้าพิธีวิวาห์กับหนุ่มโจ้จอมเจ้าชู้ของเรานี่เอง ก็ถือเป็นการลองเขียนในมุมมองของผู้หญิงเป็นครั้งแรก ภาษาที่ใช้อาจจะดูซอฟท์ๆ วานิลลาๆ หน่อยๆ ยังไงก็ลองอ่าน ลองติชมกันมาได้ตามสะดวกครับ :)
==================
'วันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตคือวันอะไร?' เพื่อนๆ พอจะตอบคำถามข้อนี้กันได้มั้ยคะ? บางคนอาจจะตอบว่าวันที่ลูกเกิด วันที่ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง วันที่คุณพ่อพึ่งผ่าตัดสมองสำเร็จไปด้วยดี หรือแม้แต่วันที่ทีมฟุตบอลทีมโปรด ชนะการแข่งขันถ้วยสำคัญๆ โดยที่ตัวเองได้ไปอยู่เป็นสักขีพยานในสนามด้วย
สำหรับกุ๊กแล้ว วันที่มีความสุขที่สุด พึ่งจะผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ มันคือวันที่พี่โจ้แฟนหนุ่มรุ่นพี่ ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นเพลย์บอยเสือผู้หญิง แล้วเอ่ยปากขอกุ๊กแต่งงานนั่นเอง มันคือวันที่เราสองคนตกลงปลงใจ ที่จะร่วมแบ่งปันอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต ให้แก่กันและกัน เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า อ้าว! แล้วทำไมวันที่มีความสุขที่สุดถึงไม่ใช่วันงานล่ะ ก็แหม... นั่นเป็นเรื่องของกำหนดการในอนาคตนี่คะ กว่าจะถึงวันงานก็อีกตั้งครึ่งปีนู่น ในเมื่อเวลานั้นมันยังมาไม่ถึง เราก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเฝ้ารอ รอให้วันแห่งความสุขเป็นฝ่ายก้าวเดินเข้ามาหาเรา บนเส้นทางที่แสนจะขรุขระ ซึ่งมีปลายทางคือชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์นั่นเอง
ใครๆ ต่างก็บอกว่ากุ๊กโชคดี ที่สามารถคว้าใจพี่โจ้ได้อยู่หมัด เพราะเกียรติประวัติความเจ้าชู้มือไวใจง่ายของพ่อคุณเค้าน่ะ ขจรไปไกลสามย่านเจ็ดย่านเลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวกุ๊กเองก็ไม่เคยคิดหรอก ว่าสุดท้ายแล้วพี่เค้าจะกล้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอกุ๊กแต่งงานขึ้นมาจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขอแต่งงานภายหลังจากที่มีเรื่องทะเลาะกันรุนแรงเพราะความเจ้าชู้ของพี่โจ้ จนเราสองคนต้องห่างกันไปพักใหญ่ๆ ก็เถอะ จะเรียกว่าเป็นความโชคดีในโชคร้ายรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะถ้าไม่ได้ถอยห่างกันไปคราวนั้น ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพี่โจ้จะตัดสินใจขอกุ๊กแต่งงานแบบนั้นรึเปล่า อาจจะคบกันเป็นแฟนไปยืดยาว จนสุดท้ายก็ต้องเลิกรากันในที่สุด แต่ในเมื่อพี่แกพลาดหลุดปากออกมาแบบนี้แล้ว ก็ขอบอกเอาไว้เลยว่า จะถอนตัวตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วเฟ้ย กุ๊กไม่ปล่อยหลุดมือไปหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ!
อันที่จริงแล้ว ก็ไม่เคยคิดว่าเราสองคนจะมาคบกันได้ด้วยซ้ำ ด้วยความที่รู้จักกันในฐานะพี่น้องที่ทำงาน ต่างเป็นไม้เบื่อไม้เมากัดกันมาโดยตลอด แถมกุ๊กเองแต่ก่อนก็ค่อนข้างอวบ เอ่อไม่สิ ต้องบอกว่าอ้วนเลยแหละ หนักตั้งเกือบ 70 โล เรียกว่าหลุดจากสเป็คพี่โจ้ที่ชอบสาวๆ สวยๆ เซ็กซี่ไปคนละโลก ในขณะที่อีตาพี่โจ้เองเนี่ย ก็โคตรจะเจ้าชู้ไก่แจ้ ขี้หลีชีกอ สับรางไปทั่วจนกุ๊กเองยังอดหมั่นไส้ไม่ได้ ยิ่งมีข่าวว่าพี่แกแอบกินน้องๆ นักศึกษาฝึกงานเป็นของหวานแล้ว หยี๋ สำส่อนอ่ะ กุ๊กรับไม่ด้ายยยยยยย! ผู้ชายแบบนี้อย่าหวังเลยว่าจะมีโอกาสได้มาเป็นพ่อของลูกชั้น ถึงจะหน้าตาดูดีแค่ไหนก็เถอะ
แต่พอมีโอกาสได้เปิดใจคุยกันดู ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน ที่หัวใจตัวเองเริ่มจะลอยไปหยุดอยู่ที่พี่เค้าซะได้ ก็พี่เค้าทั้งเทคแคร์เก่ง แถมยังชอบดูแลเอาใจใส่ให้กุ๊กเคลิ้มๆ บ่อยๆ อีกต่างหาก พวกหนุ่มๆ เพลย์บอยนี่น่ากลัวจริงๆ เผลอแป๊บเดียวก็เล่นเอาเราใจสั่นทั้งๆ ที่คอยระวังอยู่แล้วแท้ๆ ส่วนพี่โจ้เอง ทีแรกกุ๊กก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่เค้าจะชอบกุ๊กบ้างรึเปล่า พอเราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น สุดท้ายแล้วความรัก มันก็จู่โจมหัวใจของเราสองคนจนตั้งตัวแทบจะไม่ทัน และที่สำคัญที่สุดก็คือ พี่เค้าเป็นผู้ชายคนแรกของกุ๊กด้วย พูดแล้วก็เขินจังเลย แฮะๆๆ คงพอจะรู้นะคะว่าสำหรับผู้หญิงแบบเราๆ แล้ว ผู้ชายคนแรกเนี่ยเป็นอะไรที่ลืมไม่ลงจริงๆ ยิ่งเป็นพวกพิเศษไส่ไข่แบบพี่โจ้ด้วยแล้ว แทบจะฝังลงไปในซิริบรัมเลยล่ะค่ะคุณ
อุตส่าห์เก็บความโสดซิงมาได้ตั้ง 29 ปี ไอ้เราก็นึกว่าสุดท้ายแล้วจะได้กอดคานยาวๆ ซะอีก ที่ไหนได้ ดันมาโดนอีตาหื่นตัวพ่อ แอบขโมยความบริสุทธิ์ไปซะได้ แถมยังสอนเรื่องทะลึ่งๆ จนกุ๊กเริ่มจะเสียคน มาใจแตกเอาตอนจะเข้าวัย 30 นี่แหละ ฮึ่ย! นึกแล้วแค้นนนน! บังอาจทำให้สาวน้อยไร้เดียงสาอย่างเรา กลายเป็นผู้หญิงก๋ากั่นไปได้ยังไงกันยะอีตาพี่โจ้เฮงซวย นั่น ยัง ยังเอามือมาบีบนมเล่นอีก ว่าแล้วก็ขอด่าหน่อยเถอะ
“อีพี่โจ้ลามก!” เสียงตวาดของกุ๊ก เล่นเอาพี่โจ้ที่กำลังบีบคลึงเต้านมด้วยความหมั่นเขี้ยวบนเตียง ถึงกับสะดุ้งหน้าหงายไปเหมือนกัน
“เอ้ย.. กุ๊ก เป็นไรอ้ะ เมนส์มาเหรอ?” ดูมันคิดได้ เฮ้อ! ฟังแล้วก็อยากจะฟาดเข้าให้ซักป๊าบ
“เมนส์บ้าบออะไรล่ะ ก็พี่โจ้อ้ะ เอาแต่แกล้งบีบ แกล้งจับนมกุ๊กอยู่ได้ บอกแล้วไงว่ามันจั๊กกะจี๋ จะนอนก็นอนไปซี่”
“อ้าววว ก็พี่เห็นแล้วอยากบีบนี่นา ก็นมกุ๊กทั้งอวบ ทั้งนิ่ม แถมยังเด้งสู้มือด้วย ถ้าไม่ให้พี่จับนมกุ๊ก แล้วจะให้พี่ไปจับนมใครล่ะคะ? หืมมม?” คำตอบของพี่โจ้ยิ่งทำให้กุ๊กปรี๊ดขึ้นมาอีก
“จะไปจับนมใครที่ไหนอีกห๊ะ!? เดี๋ยวเถอะๆ คราวที่แล้วยังไม่เข็ดใช่มะ? อยากจะเลิกกันอีกรอบใช่มะ? ได้!”
“ไม่ช่ายยยยย กุ๊กอย่าหงุดหงิดซี่ กุ๊กก็รู้ว่าพี่น่ะ ไม่เคยมองนมใครอยู่ในสายตา นอกจากสองเต้าขาวๆ อวบๆ ของกุ๊กนะจ๊ะ” พี่โจ้พูดแล้วก็ก้มหน้ามาฟัดหน้าอกกุ๊กอย่างสบายอารมณ์ โอ๊ยย ทำไมแฟนเราถึงได้หื่นขนาดนี้เนี่ยยยย
“ไอ้พี่บ้า! เนี่ย วันๆ ก็คิดแต่เรื่องทะลึ่งพวกเนี้ย ดูซิ บีบมันอยู่ได้ทุกวัน นมกุ๊กจะช้ำไปหมดแล้ว เดี๋ยวกว่าจะถึงวันแต่ง ถ้านมยานขึ้นมาอย่ามาบ่นนะ ชอบแอบใช้สินค้าก่อนซื้อดีนัก” กุ๊กบ่นใส่พี่โจ้แล้วก็ทำหน้างอนๆ
“ต่อให้กุ๊กจะนมยานถึงเข่า พี่ก็ยังรักกุ๊กเหมือนเดิมนะจ๊ะ” อีพี่โจ้ยังมาทำปากดี เออ จะว่าไปพี่แกก็ปากดีจริงๆ นั่นแหละ ทั้งรสจูบ ทั้งสัมผัสจากลิ้น ที่มักจะเล่นงานกุ๊กจนหมดสภาพอยู่เสมอ นั่นไง เผลอแป๊บเดียว พี่แกก็ก้มลงไปซุกไซร้จูบเข้าที่หน้าอกของกุ๊กอีกละ เฮ้อออออ
“อืมมม นมกุ๊กยังหวานเหมือนเดิมเลยน้า แผล่บ จ๊วบ!” พี่โจ้พร่ำเพ้อออกมาขณะกำลังเลียลิ้นไปรอบๆ เนินนุ่มโค้ง สัมผัสจากลิ้นสากๆ ผ่านเนื้อผ้า ทำเอากุ๊กแอบจั๊กกะจี้ในทีแรก ก่อนที่มันจะเริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียวบริเวณปลายถัน เมื่อถูกพี่โจ้ตวัดลิ้นดูดดุน โอ๊ยยยย พอโดนเล่นงานจุดอ่อนทีไร ตัวกุ๊กเหมือนคนจะหมดแรงทุกที
“ฮือออ พี่โจ้ ไม่เอา กุ๊กง่วงแล้วนะ” กุ๊กพูดไปก็พยายามใช้สองแขนดันหน้าพี่แกออก แต่แรงปกติก็แทบจะสู้แกไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้ด้วย ยิ่งไม่มีทางผลักอีตาหื่นนี่ออกไปได้เลย พี่โจ้ใช้มือซ้ายถลกเสื้อยืดกุ๊กขึ้นไปกองอยู่เหนือราวนม หน้าอกขาวๆ ปรากฏเด่นท้าทายสายตาหื่นกระหายที่จดจ้องอย่างไม่วางตา ครู่เดียวพี่โจ้ก็เอื้อมมือมาบีบคลึงหน้าอกกุ๊ก ซ้ายบ้างขวาบ้างสลับกัน ปากก็ตวัดลิ้นเลียยอดอกไปด้วยจนมันเริ่มที่จะแข็งเป็นไต
“พี่โจ้อ่ะ... ใจร้าย ฮือออ..” กุ๊กร้องครางออกไป หวังจะให้พี่โจ้ใจอ่อน แต่ที่ไหนได้ พี่แกดันยิ่งได้ใจ เร่งลงลิ้นที่นมกุ๊กหนักขึ้นไปอีก จนกลายเป็นกุ๊กเอง ที่ต้องแอ่นตัวบดเข้ากับหน้าแกเพื่อต้านทานความเสียว
“อูยยยย.... ซี้ดดดดดส์....ส์ พี่ กุ๊กเสียวววว” รสสัมผัสที่ได้รับจากปลายถันพุ่งตรงสู่หัวใจ สูบฉีดเส้นเลือดขึ้นไปเลี้ยงที่ใบหน้าจนแดงคั่ง ก่อนจะสูบฉีดอะไรบางอย่างให้ค่อยๆ เปียกซึมออกมาจากบริเวณกลางร่องขา อืมม ทำไงดี น้องสาวกุ๊กเริ่มจะแฉะขึ้นมาจริงๆ ซะแล้วเนี่ย ทั้งๆ ที่ง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้วแท้ๆ แต่อารมณ์ข้างในมันกลับตื่นสวนทางกันไปคนละเรื่องเลย
“อาาาาาห์......” กุ๊กหลุดครางออกไปยาวๆ เมื่อโดนพี่โจ้สอดมือเข้าไปบดบี้คลึงร่องเสียวเบาๆ ที่ด้านนอก นิ้วชี้กับนิ้วกลางสลับกันทำงานอย่างคล่องแคล่ว ประเดี๋ยวก็ปาดขึ้นลงตรงกลางร่อง เดี๋ยวก็สลับไปถูบดอยู่บริเวณเม็ดทับทิมที่กำลังบวมเป่ง ปลายลิ้นของพี่โจ้ก็ยังจู่โจมหน้าอกของกุ๊กอย่างเมามัน ความเสียวที่ได้รับจากรสสัมผัสทั้งสองทางพร้อมๆ กัน ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ให้ร่องหลืบภายในทวีความเปียกชื้นมากกว่าเดิม มันเปียกจนเปรอะเลอะไปทั้งง่ามขา ลามไปจนทั่วนิ้วพี่โจ้
“พี่โจ้... พอก่อน... มันเปียกกก” กุ๊กร้องอ้อนวอน พยายามทำเสียงให้ดูน่าสงสารที่สุด
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวพี่จะทำให้กุ๊กเสียวยิ่งกว่านี้อีกนะคะคนดี” พี่โจ้พูดพลางเร่งมือทั้งปาดทั้งคลึงไปทั่ว
“โอ๊ยย...ยยย ไม่ใช่ คือ... กางเกงกุ๊ก... มันเลอะไปหมดแล้ว... ขอถอดก่อนได้มั้ย?” กุ๊กพูดแล้วก็ชี้ให้พี่เค้าดูกางเกงขาสั้นผ้ายืดสีฟ้าอ่อน ที่ตอนนี้บริเวณเป้ากางเกงตรงกลางมีรอยเปียกเลอะเป็นดวง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดจากอะไร
“อุ้ย โทษทีจ้า งั้นเดี๋ยวพี่ถอดให้นะ” พี่โจ้ว่าจบก็ใช้สองมือค่อยๆ รูดกางเกงกุ๊กออกไปจนหลุดออกจากข้อเท้า
สภาพกุ๊กเองตอนนี้ เสื้อยืดถูกถลกเปิดโชว์หน้าอกหน้าใจขาวนวล ท่อนล่างเปลือยเปล่า มองเห็นหน้าท้องกลมกลึงเล็กๆ พงขนบริเวณท้องน้อยถูกตัดแต่งเอาไว้กำลังสวยสะอาดตา ร่องหลืบด้านล่างยังคงชิดติดกันแม้ไม่ถึงกับปิดสนิท ตรงปากทางเริ่มมีน้ำเหนียวๆ ไหลนองออกมาเป็นทาง พี่โจ้ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเขี่ยอ้าปากทางเข้าของมันจนเปิดกว้างเล็กน้อย สอดแตะนิ้วกลางเข้าไปสัมผัสปากร่องเบาๆ แล้วค่อยๆ เขี่ยขึ้นลงพอให้คราบน้ำเกาะติดตามนิ้วจนเปียกเยิ้มไปทั่ว พอมันเปียกลื่นได้ที่ พี่โจ้ก็ค่อยๆ สอดนิ้วเข้ามาสำรวจในตัวกุ๊กแบบช้าๆ แต่หนักแน่นในรสสัมผัส สองนิ้วซุกซนค่อยๆ รุกล้ำเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันสอดเข้าไปติดอยู่ครึ่งข้อพอดิบพอดี พี่โจ้จึงเริ่มที่จะสอดนิ้วเข้าออกช้าๆ โดยพยายามระมัดระวังไม่ให้กุ๊กรู้สึกเจ็บ
พี่โจ้ใช้นิ้วช่วยกุ๊กอยู่ครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆ ถอนนิ้วออก สังเกตเห็นคราบเปียกเลอะเกาะอยู่เต็มข้อนิ้วทั้งสอง พี่โจ้ค่อยๆ รูดกางเกงบอลตัวเองออกจนหมด จนเจ้ามังกรตัวดีที่กำลังแข็งปึ๋งปั๋ง กระเด้งออกมาทักทายเข้ากับสายตากุ๊กจนอดเขินไม่ได้ ความยาวของมันยาวพอๆ กับหนังสือการ์ตูนเล่มนึงเลยก็ว่าได้ ขณะที่ความกว้างนั้นก็สูสีกับกระบอกไฟฉายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงพี่โจ้ สีตรงบริเวณปลายหัวแดงโร่ ดูน่าเสียวไส้พิกล พอเห็นแล้วก็นึกย้อนไปถึงรสชาติเค็มๆ ปะแล่มของมัน ที่เกาะติดอยู่บนลิ้นทุกครั้ง เวลาที่พี่โจ้ออดอ้อนขอให้กุ๊กใช้ปากช่วยให้
“กุ๊กจ๋า ของพี่แข็งจนปวดไปหมดเลย กุ๊กลองจับดูสิ” พี่โจ้พูดแล้วก็ดึงมือซ้ายกุ๊กไปค้างอยู่บริเวณท่อนลำ จริงอย่างที่แกว่า ท่อนเนื้ออวบอ้วนกำลังเต้นตุบๆ แข็งสู้กับมือกุ๊ก ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าอวัยวะด้ามโตด้ามนี้ จะเคยมุดเข้าไปนอนเล่นอยู่ในตัวของกุ๊กมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อึ๋ยยยย แค่นึกภาพตามก็อดเสียวท้องน้อยไม่ได้แล้ว ว่าแล้วก็เลยออกแรงบีบกลางลำด้วยความหมั่นไส้ไปทีนึง จนพี่โจ้ต้องร้องอู้เสียงหลง
“โอ๊ยยยย! กุ๊ก เบาๆ หน่อย อู้ยยยยย...” พี่โจ้งอตัวเกร็งเพราะความเจ็บปวด
“นี่แน่ะ อยากรังแกกุ๊กดีนัก” มือซ้ายกุ๊กค่อยๆ ขยับรูดกำน้องชายของพี่โจ้เป็นจังหวะช้าๆ หัวบานของมันคอยโผล่พ้นฝ่ามือออกมาผลุบ ผลับ ดูคล้ายกับดอกเห็ดที่กำลังมุดเข้ามุดออกอยู่ในหลุม ยิ่งพี่โจ้สูดปากด้วยความเสียวมากเท่าไหร่ กุ๊กก็ยิ่งรู้สึกสนุก และออกแรงรูดมือเร็วขึ้น แรงขึ้นเท่านั้น เพื่อหวังที่จะให้พี่โจ้แสดงอาการออกมามากขึ้นอีก นานๆ ทีที่จะได้เป็นฝ่ายคุมเกม เล่นงานพี่โจ้จนต้องยอมให้กุ๊กชักนำไปทางนั้นทางนี้ตามใจชอบ
ครู่หนึ่งพี่โจ้ก็เอื้อมมือมาคว้าข้อมือของกุ๊กเอาไว้ ทำท่าทางคล้ายกับจะบอกให้หยุดเสียก่อน
“พอก่อนนะ รูดแรงๆ แบบนี้ เดี๋ยวพี่จะแตกซะก่อน”
“แตกซะได้ก็ดี กุ๊กจะได้นอนซักที แบร่”
“แหม พี่ไม่เชื่อหรอกว่ากุ๊กจะนอนหลับลง ก็ดูข้างล่างสิ เปียกเยิ้มขนาดนี้แล้ว” พี่โจ้ใช้นิ้วกลางปาดคราบน้ำบนปากร่องขึ้นมาโชว์ให้ดู เล่นเอากุ๊กเขินจนไม่รู้จะเถียงยังไง
“บ้า! ไม่เห็นเกี่ยวเลย ก็มัน... ก็มันเปียก แต่มันก็ง่วงนี่นา..” กุ๊กเถียงไปข้างๆ คูๆ พูดผิดๆ ถูกๆ พี่โจ้ยิ้มเยาะเบาๆ แล้วก้มลงมาจุ๊บที่ปากกุ๊ก
“งั้นเดี๋ยวพี่จะช่วยให้กุ๊กได้หลับเต็มอิ่มนะคะคืนนี้” สองมือของแกรูดเสื้อกุ๊กที่ค้างอยู่ออกไปทางหัว จับขากุ๊กอ้ากว้างขึ้น กว้างขึ้น จนเริ่มจะรู้สึกตึงๆ ช่วงก้น แล้วแกก็ค่อยๆ จ่อน้องชายเข้ามาที่บริเวณปากทาง เขี่ยถูไปมานิดนึง เพื่อให้มันซึมซับความเปียกชื้น แล้วค่อยๆ ออกแรงดันเข้ามาช้าๆ แต่ด้วยความใหญ่ของมันก็ทำให้กุ๊กต้องหลุดปากร้องอุ๊ยออกไป
“เจ็บมั้ยกุ๊ก เดี๋ยวพี่จะค่อยๆ ทำนะ” พี่โจ้บอกแล้วก็ค่อยๆ ขยับตัวประกบกับร่างกุ๊ก สอดแขนไปรองใต้ข้อพับ แล้วบรรจงออกแรงดันสอดท่อนเอ็นแข็งอุ่นเข้ามาภายในตัวลึกขึ้นอีก
“ฮือออออ.... พี่โจ้ มันใหญ่จังเลย อืออออ..”
“อีกนิดนึงนะกุ๊ก เข้าไปจะหมดลำแล้ว” กุ๊กชะโงกหน้าลงไปดู หวายย น้องชายของพี่โจ้ที่ทั้งอวบอ้วนทั้งยาวใหญ่ ขุดมุดเข้าไปเกินครึ่งลำแล้ว มันเบียดแทรกจนปากร่องด้านนอก โดนดันอ้าออกไปอยู่ด้านข้าง ไม่น่าเชื่อจริงๆ นั่นแหละ ว่าผู้หญิงจะสามารถรับเอาอวัยวะแปลกปลอมพรรค์นี้เข้าไปอยู่ในตัวได้จริงๆ ด้วย พี่โจ้ค่อยๆ ขยับตัวซอยเข้าซอยออกไปมาจนกุ๊กเริ่มจะเคลิ้มๆ รู้สึกเสียวตามไปด้วยจนตัวลอย
“กุ๊กจ๋า.....” พี่โจ้เอ่ยขึ้นขณะออกแรงโถมตัวทับอยู่ด้านบนแบบช้าๆ
“ขาาาา?” กุ๊กขานตอบทั้งๆ ที่ยังตาปรืออยู่
“ระหว่างพี่กับป้อง.... ใครเอาเก่งกว่ากันเหรอ?” คำถามของพี่โจ้เล่นเอากุ๊กสะดุ้ง นึกว่าตัวเองฟังผิด เพราะไม่คิดว่าอยู่ดีๆ พี่โจ้จะหยิบเอาชื่อผู้ชายที่กุ๊กเคยกิ๊กๆ ด้วย มาพูดถึงในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้
“พี่ป้อง... ทำไมนะ?”
“ป้องกับพี่ ใครเก่งกว่าไง” พี่โจ้ถามย้ำ ท่อนล่างยังคงตะบันเอวใส่กุ๊กไม่หยุดหย่อน
“อืออออ.... พี่โจ้...จะถามไปทำไมเนี่ยย..?”
“อ้าว ก็พี่อยากรู้นี่นา... กุ๊กบอกพี่หน่อยซี่ นะคนดี”
“โอ๊ยยย... ไม่เอา กุ๊กไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ อ๊ะ... อูยยยย”
“น่านะ บอกพี่มาเถอะ พี่เก่งกว่าใช่มั้ย ใช่มั้ยกุ๊ก?” คำถามเซ้าซี้ของพี่โจ้ บวกกับการพูดไม่ดูกาลเทศะทำให้กุ๊กหงุดหงิด จนอดที่จะตอบประชดแกไปไม่ได้
“พี่ป้องเก่งกว่า..... พอใจรึยัง” จุกเลยค่ะ คำตอบของกุ๊กทำพี่โจ้ถึงกับสะดุด หยุดซอยเอวแบบทันทีทันใด เหมือนแกคงไม่คิดว่ากุ๊กจะตอบไปแบบนั้น
“จริงเหรอ... เค้าเก่งมากเลยเหรอ?” พี่โจ้ถามเสียงอ่อย จ๋อยเลยล่ะสิ ถึงแม้ว่ากุ๊กจะอดสงสารไม่ได้ แต่เพื่อดัดนิสัยหลงตัวเองในเรื่องบนเตียงของพี่แก ก็เลยลองโกหกต่อไปอีก
“ใช่สิ พี่ป้องทำแต่ละทีนะ... กุ๊กเสร็จไปไม่ต่ำกว่าสองรอบอ่ะ... แทบจะหลับคาเตียงตลอดเลย อ้าว... ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะพี่โจ้” กุ๊กเผลอร้องแซวแก เมื่อเห็นพี่โจ้ทำหน้าเป็นหมาหงอย เหมือนกับเจ้าโบ้ หมาบ้านกุ๊กที่ชอบทำหน้าหงอยๆ หงิงๆ เวลาที่โดนคนในบ้านทำเสียงดุ สายตาเศร้าสร้อย คิ้วหางตก กับสีหน้าจ๋อยๆ ของพี่โจ้ตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรจากเจ้าโบ้เลยแม้แต่น้อย
“เนี่ย ก็ถามแล้ว พอเราตอบก็เป็นแบบเนี้ย ถึงไม่อยากจะตอบไง” กุ๊กได้ทียิ่งรุกไล่
“พี่ก็.. ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย เค้าทำกุ๊กแฮปปี้ก็ดีแล้วนิ พี่ก็ทำได้เหมือนกันนะจะบอกให้” พี่โจ้พูดพลางก้มหน้าดูดนมกุ๊กต่อด้วยความรุนแรง คล้ายกับว่าต้องการแสดงฝีมือออกมาไม่ให้น้อยหน้าพี่ป้องที่ถูกอวดอ้างถึง
กุ๊กล่ะไม่อยากจะบอกเล้ย ว่าพี่ป้องเนี่ย เทียบกันจริงๆ แล้วยังไงก็สู้พี่โจ้ไม่ได้หรอก นอกจากน้องชายเค้าที่เล็กกว่าของพี่โจ้แล้ว เรื่องของความอึดความทนก็ยังเทียบกันไม่ได้ เพราะในขณะที่พี่โจ้แกจัดหนักกุ๊กแต่ละที ไม่เคยต่ำกว่า 20-30 นาที พี่ป้องนี่แค่ 10 นาทีกว่าๆ ก็หมดฤทธิ์ซะแล้ว เออ... แต่จะว่าไปมันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกดีนะ มันเสียวๆ ประหลาดๆ แม้จะไม่ถึงขั้นสุขสมแบบเดียวกับที่พี่โจ้ทำให้ตลอด แต่รสสัมผัสของมันก็ดูจะแตกต่าง และไม่คุ้นเคยกับท่วงทำนองที่พึ่งเคยได้รับ จังหวะมันผิดแผกไปหมด คาดเดาอะไรไม่ถูกเลย
รสจูบของพี่ป้อง ออกหวานๆ ไม่ได้ดุดันและคล่องแคล่วเหมือนกับพี่โจ้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังถูกทดแทนกันด้วยความเอาใจใส่ ค่อยๆ เล้าโลม ค่อยๆ บิวท์อารมณ์ให้กุ๊กแบบนุ่มนวล สไตล์ของแกหนักไปทางหนุ่มโรแมนติกเทคแคร์แม้แต่เรื่องบนเตียง แต่ดั๊นเป็นพวกโรแมนติกที่ได้แล้วก็ชิ่งซะงั้น เฮ้อ! พูดแล้วก็เจ็บใจ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว แม้จะมีตะกุกตะกักไปบ้าง แต่พี่เค้าก็ยังพาให้กุ๊กไปถึงปลายทางของความสุขบนเตียงได้อยู่ดี นี่ล่ะมั้ง ที่เค้าว่ามันผิดกลิ่น ผิดมือ พอนึกดูดีๆ มันก็แอบเสียวๆ อยู่เหมือนกันนะ เอ้ย! กุ๊กพูดอะไรออกไปเนี่ย แฮะๆๆ อุ๊ย! ตายแล้ว เผลอคิดอะไรนอกเรื่องแป๊บเดียว พี่โจ้ก็เหมือนจะเครื่องติด จับกุ๊กพลิกเปลี่ยนท่า เข้าประกบจากทางด้านหลัง เร่งกระแทกกระทั้นใส่กุ๊กใหญ่เลย อีตานี่มันโกรธอะไรเค้าป่าวเนี่ยยย
“โอ๊ย! พี่เบาๆ หน่อย หนูจุก...”
“เป็นไง ของพี่... ใหญ่กว่า... เด็ดกว่าสิท่าาา” ยัง... เจ็บแล้วยังไม่ยอมจำนะ ได้! เดี๋ยวจะแกล้งให้ร้องหงิงๆ เลยคอยดู พอคิดได้แบบนี้กุ๊กเลยตัดสินใจจะแกล้งโกหกให้พี่โจ้เจ็บใจเล่นๆ เอ่ยปากชมพี่ป้องไปอีกชุดใหญ่
“อืออออ...อออ พี่ป้องเค้า.... ไม่ทำแบบพี่โจ้หรอกย่ะ อืมมมม... เค้าละมุนละไม... โรแมนติกกว่านี้เยอะ เค้าเรียกอร่อยจนกินซ้ำได้ไม่มีเบื่อย่ะ!”
“อ่อะ.. อ๋อเหรอ มัวแต่เย็ดเนิบๆ มันจะไปสนุกอะไร๊ ไม่เห็นจะถึงใจเลย”
“โอ๊ยยยย ดีกว่ากันแบบคนละเรื่องเลยค่า เอากับแฟนนะ ไม่ใช่ไปตีกะหรี่ เค้าก็ต้องทะนุถนอมกันแบบนั้นแหละ ก็มีแต่คนแถวนี้แหละน้า ที่เอะอะก็คิดแต่จะกระแทกๆๆๆ ให้มันเสร็จ ทื๊อทื่อ” คำพูดของกุ๊กทำเอาพี่โจ้นิ่งไปครู่นึงเลย จนแอบคิดว่าตัวเองพูดแรงไปรึเปล่าหว่า
“กุ๊ก... กุ๊กเสียวมากมั้ย ตอนที่เย็ดกับพี่ป้องน่ะ” อ้าว พอเห็นพี่โจ้ถามเสียงอ่อนแบบนี้กุ๊กก็ชักจะในคอไม่ดีแล้วนา
“เอ่อ... มันก็เสียวนะ แต่ที่พี่โจ้ทำอยู่กุ๊กก็เสียวเหมือนกันนะ ไม่สิ เสียวมากกว่าซะอีก พี่โจ้อย่าคิดมาก ตะกี้กุ๊กพูดเล่น”
“ไม่เป็นไรนะกุ๊ก กุ๊กไม่ต้องโกหกเพื่อพี่หรอก พี่รับได้... พี่ป้องเค้าควยใหญ่มากมั้ย...?” พี่โจ้ถามตรงๆ เล่นเอากุ๊กเขินปรี๊ดเลย แก้มงี้แดงเป็นลูกตำลึงแน่ะ
“ของเค้า... ก็พอๆ กับพี่โจ้แหละ อู๊ยยย พี่เบาๆ หน่อย อืมมมมม”
“เค้าเย็ดจนกุ๊กเสร็จเลยเหรอ...?”
“อึ...อืมมมม.... สะ...เสร็จ อาห์..”
“แตกในมั้ย...? กุ๊กกินยารึเปล่า..?”
“เปล่าค่ะ กุ๊กให้เค้าใส่ถุง” เอ... คำถามพี่โจ้ชักจะออกแนวล้วงลึกแล้วนะเนี่ย
“อูยยย.... เสียดายจัง พี่อยากเห็นกุ๊กเย็ดกับพี่ป้องด้วยจังเลย พอนึกว่ากุ๊กเคยโดนควยคนอื่นแล้ว พี่ก็เงี่ยนขึ้นมาทุกเลยกุ๊กจ๋า กุ๊กยัง... อยากเย็ดกับพี่ป้องอยู่รึเปล่า?” พี่โจ้พร่ำเพ้อเหมือนคนเมายา ไม่สิ เมาเซ็กส์มากกว่า
“บ้า! บ้าๆๆ! พี่โจ้พูดอะไรเนี่ย พอแล้ว ไม่เอา กุ๊กไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้วนะ” กุ๊กร้องว่าพี่โจ้ไป ตีแขนแกไปด้วย
“อืมมมม... ไม่ต้องเขินหรอกกุ๊ก พี่ไม่ว่าหรอก ถ้ากุ๊กจะแอบคิดถึงควยพี่ป้องน่ะ คิดซะว่าควยพี่เป็นควยพี่ป้องก็แล้วกันนะ” พี่โจ้พูดไปก็ออกแรงกดย้ำท่อนลำเข้ามาเร็วขึ้นเร็วขึ้น ทำอยู่ราวๆ 10 กว่านาที อารมณ์ของเราทั้งคู่ก็ไต่ขึ้นสูงจนเกินที่จะต้านทานได้
“โอ๊ยพี่โจ้... กุ๊กจะไม่ไหวแล้วนะ”
“อืมม พี่ก็... จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน กุ๊กแตกกับพี่นะคะ แตกกับพี่นะ อุ๊บ..” ไม่ทันขาดคำ พี่โจ้ก็ปล่อยกระสุนอุ่นๆ เข้ามาจนเต็มท้องกุ๊กไปหมด จังหวะกระแทกที่ค้างต่อเนื่อง ช่วยส่งอารมณ์ให้กุ๊กจนพุ่งทะยานแตะถึงขอบบนสุด
“อื๊ออออ!...... อ๊าาาาาาาาาา!” กุ๊กปล่อยเสียงหวีดหลุดออกไป ผวากอดเข้ากับร่างพี่โจ้ดังหมับ มันเป็นความรู้สึกเสียวสะท้านที่แล่นผ่านขึ้นไปถึงขั้วหัวใจ แล้วพุ่งกระจายความเสียวไปทั่วร่าง ทำได้เพียงปล่อยตัวปล่อยใจ ดิ้นเร่าๆ อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายเบื้องหน้า ผู้ชายที่กำลังจะเป็นคู่ชีวิตของกุ๊กในอีกไม่ช้านี้
เฮ้อ... กว่าจะจบแต่ละครั้ง เล่นเอาแทบตายกันไปข้างเลยนะเนี่ย
วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566
เส้นทางเจ้าสาว #1
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น