“เป้.... เป้เรียกชื่อน้องเค้านะ... ลองเรียกชื่อน้องต้นนะ ครั้งเดียวก็พอ” ผมข่มใจพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พร้อมกระดกบั้นเอวยิกๆๆ เพื่อสร้างความเสียวซ่านจนเธอกล้าที่จะพูดชื่อต้นออกมา
“อืมมมม์...... ตะ.. ต้น.... ต้นจ๋า....”
“ว่าไงครับเป้... เป้เสียวมั้ย?”
“อื้อออ... เค้าเสียวว... ”
“ต้นก็เสียวควยเหมือนกัน เดี๋ยวต้นจะเย็ดเป้แรงๆ กว่านี้นะ” ผมหลุดคำหยาบออกมากะว่าจะช่วยบิวท์อารมณ์เธอให้เงี่ยนถึงขีดสุดไปเลย
“ไม่เอาอ่ะบอย... เป้ไม่ชอบคำหยาบอ้ะ” ชิบหายล่ะครับ กลายเป็นว่าไปทำให้เธอเสียอารมณ์ซะงั้น ถึงกับลืมเรื่องน้องต้นไปเลย ผมเลยต้องบิวท์ใหม่ด้วยความนุ่มนวลกว่าเดิม
“โอเค ต้นไม่พูดแล้ว เป้เสร็จพร้อมต้นนะ” เธอพยักหน้าตาปรือ ก่อนจะจูบปากแลกลิ้นกับผมไปด้วย ผมจับเธอนอนหงายพาดกับเค้าท์เตอร์ ช้อนขาเธอมาไว้ตรงข้อศอก แล้วออกแรงดันควยเข้าไปด้วยความรวดเร็ว คราวนี้เป้เริ่มครางชื่อต้นออกมาได้เต็มเสียงแล้วครับ ซอยอยู่พักนึง เธอก็เริ่มมีอาการตะกายเหมือนคนจะจมน้ำ
“อืมมมม.... อาาาา..... อ๊าาาาา...อ๊ะะ... ต้น..... ต้นนน.... เค้าไม่ไหวแล้วนะ...”
“เอาเลยเป้ แตกเลย แตกกับต้นนะ” ผมเร่งอัดควยบดก้นยิบๆๆ ขณะที่เป้ก็พยายามเด้งเอวสวนขึ้นมาเท่าที่จะทำได้
“อ๊ะะะะ.... อ๊ะะะ.... อ๊าาาาา...!” แล้วเป้ก็กระตุกตัวเกร็งด้วยความรุนแรง จนผมต้องโน้มตัวลงไปให้เธอกอดได้ถนัดถนี่ พยายามเด้าควยเป็นจังหวะเนิบๆ ช้าๆ ทำได้อีกไม่กี่ทีก็ต้องน้ำแตกตามเป้ไปในที่สุด แล้วเราก็ล้างเนื้อล้างตัว มานอนกอดกันบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน
“สุดยอดเลย...เป้” ผมพูดออกมาด้วยความลิงโลดจนเป้ต้องตีแขนด้วยความหมั่นไส้
“ไอ้บ้า! ให้เป้พูดอะไรก็ไม่รู้ ดูซิ ถ้าน้องมันรู้นะว่าเราพูดอะไรกันเนี่ย อายเค้าตายเลย” เธอตีแขนผมใหญ่
“โหย ก็เห็นเป้เสียวออกจะตาย อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ไม่ชอบนะ อิอิ”
“พอเลยๆ ไม่คุยด้วยแล้ว นอนแล้ว คนบ้า ถ้ารู้ว่าหื่นแบบนี้นะ ไม่ต่งไม่แต่งด้วยหรอก ฮึ!” เธอนอนตะแคงหันหลังให้ผม ก้มหน้างุดๆ ทำเป็นงอน
“โอ๋ๆๆ เขินๆๆ อ่ะๆ บอยไม่แซวละ แต่ขอถามอะไรจริงจังหน่อยได้มั้ย?” ได้ผลครับ เธอหันหน้ามาคุยกันจนได้
“ว่าไงเหรอ?”
“คือบอยอยากบอกว่า ที่คุยกัน ที่ทำกันในห้องน้ำเมื่อกี้น่ะ บอยมีความสุขมากๆ นะ บอยดีใจที่เป้ยอมทำตามที่บอยร้องขอ แทนที่จะโกรธหรือเกลียดบอยไปเลย”
“เฮ้ย เป้จะเกลียดบอยทำไมอ้ะ บอยไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”
“ก็นั่นแหละ บอยรู้ว่าเป้ก็ไม่ใช่คนที่สนใจอะไรเรื่องพวกนี้จริงจัง ที่ทำไปเมื่อกี้ก็แค่อยากตามใจให้บอยมีความสุขเฉยๆ แต่ขอให้รู้ไว้นะว่าบอยรักเป้จริงๆ และบอยก็รับได้ถ้าเป้จะลองคุยๆ กับน้องต้นดู เพราะยังไงบอยก็เชื่อว่าเป้ก็รักบอย และมั่นคงพอที่จะไม่ทำให้ชีวิตคู่ของเราพัง”
“บอย... ” เป้เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหมือนยังนึกคำพูดไม่ออก หรือเธออาจจะไม่กล้าพูดออกมาก็ได้ ผมจึงพยายามช่วยผลักดันเธออีกสักครั้ง
“จริงๆ นะ บอยไม่ได้จะขับไล่ไสส่งเป้ออกไปไหนหรอก บอยแค่อยากให้เป้ได้ลองคุยกับคนอื่นดูบ้างเฉยๆ แค่กิ๊กๆ กันให้มันสนุกๆ อย่าไปเครียดเลย เป้ก็เห็นแล้วนี่ว่าเมื่อกี้บอยมีอารมณ์มากกว่าปกติอีก ทั้งที่ที่ผ่านมามันมีปัญหามาตลอด บางทีก็ทำให้เป้ไม่เสร็จด้วยซ้ำ เราว่าส่วนนึงก็เพราะความหึงนี่แหละ ที่น่าจะช่วยกระตุ้นให้เซ็กส์ของเรามันกลับมามีสีสันเหมือนเดิมนะ”
“บอยแน่ใจแล้วเหรอ ว่าจะไม่น้อยใจจริงๆ ใช่มั้ย? เป้กลัวว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำ มันจะทำให้ชีวิตคู่ของเรามีปัญหาขึ้นมาน่ะสิ ทั้งที่ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้วนะ เป้โอเคนะกับเรื่องเซ็กส์ที่ผ่านมาของเรา”
“ก็ใช่แหละ แต่สำหรับบอย บอยรู้สึกแย่ไงที่ทำให้เป้ได้ไม่เต็มที่ มันอึดอัดน่ะเป้ ยังไงเป้ก็ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ เราไม่ได้บอกให้เป้ไปมีอะไรกับน้องเค้า แต่แค่คุยจีบกันเฉยๆ แบบนี้เรายังรับได้สบายมาก”
“ถ้าบอยยืนยันอย่างนั้นก็ตามใจ”
เราคุยกันเรื่องน้องต้นอยู่เกือบสามอาทิตย์ กว่าที่ในท้ายที่สุดแล้ว เป้จะเริ่มมั่นใจและรู้ว่าผมนั้นจะไม่มีวันโกรธหรือเกลียดเธอในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญก็คือ มันยังเป็นความต้องการลึกๆ ของผมเองอีกด้วย เราจึงตกลงกันไว้คร่าวๆ ว่า ทุกครั้งที่ต้นชวนเธอไปเที่ยวหรือไปกินอะไร เธอจะต้องกลับมาเล่าให้ผมฟังเสมอ ห้ามโกหกและปิดบังกัน ถ้ามีครั้งไหนที่ผมไม่เห็นด้วย เธอก็จะปฏิเสธน้องไปเลยตรงๆ ซึ่งที่ผ่านมามันก็ไม่เคยมีหรอกครับ
และสองก็คือ เกือบทุกครั้งเวลาที่เรามีอะไรกัน เรามักจะใช้น้องต้นนี่แหละ เป็นตัวช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้มันเร่าร้อนขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการจินตนาการว่าต้นกำลังแอบดูเราเย็ดกันอยู่ และแอบชักว่าวตามจนเสร็จ จินตนาการว่าเป้กำลังเย็ดกับต้นลับหลังผม หรือแม้แต่การจินตนาการว่าเราสามคนกำลังสวิงกิ้งกันอย่างเมามัน โดยที่ผมกระเด้าเธอจากข้างหลังในท่าด็อกกี้ ส่วนน้องต้นนั้นก็ยืนแอ่นควยให้เป้ดูดกลืนอย่างหิวกระหาย
เป้ค่อยๆ มั่นใจที่จะปลดปล่อยความอยากภายในลึกๆ ออกมา โดยมีตัวช่วยที่ผมหามาอย่างดิลโด้ขนาดไม่ใหญ่นัก ราวๆ 5x5 เอาไว้ใช้เป็นตัวแทนของรุ่นน้องหนุ่มสุดหล่อ ให้เธอดูดเลียแก้กระหาย ดับความร้อนร่านได้เต็มอิ่มนักแล แรกๆ เธอก็ไม่กล้าใช้หรอกครับ ก็แหม เคยโดนแต่ควยเนื้อๆ มาตลอด แถมบ่นทุกครั้งว่ามันหน้าตาน่าเกลียด แต่พอรบเร้าอ้อนเข้าหลายๆ ที สุดท้ายก็เห็นยอมอมตลอด แม้ว่าจะไม่ยอมให้ผมใช้มันกับรูรักของเธอก็ตาม
ช่วงหลังๆ ยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีก บางครั้งเวลาที่น้องต้นโทรมาหา ผมก็มักจะให้เป้แกล้งบอกว่าผมไม่อยู่บ้าน และอนุญาตให้เธอคุยจีบกันได้ตามสบายเลย ในขณะที่ผมนั้นมุดลงไปจู่โจมเล่นงานจุดรักของเธออย่างสาสมใจ แม่งตื่นเต้นโคตรๆ เลยครับ ที่เห็นภรรยาตัวเองต้องคอยกลั้นเสียงครางเวลาคุยกับผู้ชายที่เข้ามาจีบเธอเนี่ย
“จ๋า... อ๋อ พี่บอยไม่อยู่จ้า พาลูกไปซื้อของเล่นน่ะ...”
“เหรอครับ งี้พี่เป้ก็อยู่บ้านคนเดียวเหงาแย่เลยสิ” เสียงหนุ่มรุ่นน้องดังลอดออกมาผ่านสปีคเกอร์ที่เป้เปิดไว้
“อืมมมมม์..... จ้ะ แล้วนี่..... ต้นทำอะไรอยู่เหรออ หืมม...มม์?” แป้งเม้มปากข่มเสียง ในจังหวะที่ผมแหวกกลีบหีเธอออก แล้วคว้านลิ้นเข้าไปจี้ดุนรูรักด้านใน
“ก็นั่งดูหนังที่ซื้อมานี่แหละครับ แล้วพี่เป้ล่ะ ทำไรอยู่”
“พี่กำลัง.... แก้งานอยู่น่ะจ้ะ ว่าจะทำ.... ให้เสร็จก่อนไปพรีเซนท์วันจันทร์...” เสียงเธอเริ่มขาดช่วงเว้นระยะ
“อ๋อ โอเคครับ งั้นพี่ทำงานเถอะ ผมไม่กวนแล้ว ไว้เจอกันที่ออฟฟิศครับพี่”
“จ้า.... แล้วเจอกันนะ... อืมมม์ ” เป้กดตัดสายแล้วหันมาตีแขนผมดังเพี๊ยะ
“เดี๋ยวเถอะบอย! เมื่อกี้เป้เกือบจะกลั้นเสียงไม่อยู่จริงๆ แล้วนะ บอกแล้วไงว่าอย่าแกล้งกันแบบนี้ เดี๋ยวน้องเค้ารู้”
“โธ่ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกวันนี้เป้ก็อึ๊บๆ กับต้นทุกวันอยู่แล้ว น้องเค้าก็เป็นผัวเป้ในจินตนาการอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อิอิ” ว่าแล้วก็โดนเข้าอีกหนึ่งผั๊วะ
แต่จนแล้วจนรอดเป้ก็ไม่ยอมไปมากกว่านั้นครับ เรายังคงเอากันโดยมีน้องต้นเป็นเครื่องมือช่วยปลุกอารมณ์ทางเพศเหมือนเดิม เป้เต็มใจที่ครวญครางไปกับน้องต้นตัวปลอมที่สวมบทโดยผมทุกครั้ง แต่ถ้าลองเอ่ยปากถามเธอว่าอยากที่จะลองมีอะไรกับตัวจริงมั้ย ก็ได้รับคำตอบเดิมๆ คือ 'ไม่มีทาง' ทุกที แม้ว่าผมจะลองถามความคืบหน้าทุกครั้งที่เป้ออกไปเที่ยวไปดื่ม หรือดูหนังกับต้น แต่เธอก็ยืนยันกลับมาแบบจริงจังทุกทีว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น ซึ่งผมก็ค่อนข้างเชื่อใจเธอ ด้วยว่าเราเปิดเผยกันมาไม่น้อยแล้ว ถ้าเธอจะมีอะไรกับน้องเค้าจริงๆ คงบอกผมไปแล้ว เพราะผมนี่แหละคอยยุยั่วเธออยู่ทุกวัน
จนกระทั่งวันนึง เป้ ก็บอกผมด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ว่า ต้นกำลังจะลาออก และย้ายกลับไปช่วยกิจการที่บ้าน เพราะพ่อป่วยหนัก ผมพอจะสังเกตได้ว่า เป้คงจะเสียดายความสัมพันธ์อยู่ไม่น้อย เพราะว่าเธอกับต้นก็ถือว่าผูกพันธ์กันในระดับหนึ่ง เรียกว่าเป็นผู้ชายอันดับสองรองจากผมก็ได้ ที่เป้ดูจะมีใจให้ แม้ว่าเธอจะพยายามไม่แสดงท่าทีออกมาก็ตาม ส่วนผมเองนี่ยิ่งกว่าเสียดายซะอีก เพราะถ้าหมดน้องต้นไปก็ไม่รู้ว่าจะมีใครที่ทำให้เธอเปิดใจยอมให้มากขนาดนี้อีกมั้ย
“ศุกร์หน้าจะเลี้ยงส่งน้องแล้วล่ะ น่าจะกินกันที่ร้านอินดี้ซีบาร์ตรงใกล้ๆ แยกแจ้งวัฒนะนั่นแหละ”
“อืม แล้วกลับดึกมั้ยล่ะ?”
“คงไม่เกินเที่ยงคืนหรอก เค้าฝากตัวดูลูกกับแม่คืนนึงนะ ขอส่งน้องหน่อย มันจะไปแล้ว”
“อื้ม ไม่เป็นไรหรอก ตามสบายเลย ยังไงระวังๆ เรื่องดื่มหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะขับรถไม่ไหว เจอด่านอีกจะยุ่งเลย”
“จ้า ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวให้ต้นมันขับมาส่งก็ได้ ต้นมันไม่ดื่ม”
“กลัวว่ามันจะไม่ได้ขับมาส่งที่บ้านอ่ะดิ ฮ่าๆๆๆ”
“โว๊ะ บอยนี่เลอะเทอะ”
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา เราสองคนเลยไม่ได้มีโอกาสโจ๊ะพรึมๆ กันอีก ส่วนหนึ่งเพราะว่าเป้เองก็เหมือนจะเซ็งๆ เรื่องที่ต้นกำลังจะออกด้วย จะให้มานั่งพูดถึงชื่อน้องเค้าตอนเอากันมันก็คงกร่อยๆ พิลึก ผมก็เลยไม่อยากจะไปฝืนความรู้สึกเธอ เพราะถึงเอากันเองก็คงไม่แคล้วได้ครึ่งๆ กลางๆ เหมือนเดิมแน่ และที่สำคัญก็คือ ผมอยากให้เธอเก็บสะสม 'ความเงี่ยน' เอาไว้รอไปปลดปล่อยอารมณ์ทีเดียววันศุกร์เลย เผื่อว่าจะมีอะไรดีๆ ระหว่างสองคนนั้นเกิดขึ้น ฮิฮิ ว่าแล้วก็เลยได้แต่แอบชักว่าวคนเดียวอยู่ทุกคืนในห้องน้ำ เฮ้อออออ
และแล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา เรื่องกุ๊กกิ๊กระหว่างเป้กับน้องต้นเองก็เช่นกัน จำได้เลยว่าเช้าวันนั้นเป็นอีกหนึ่งวัน ที่ใจเต้นโครมครามสุดๆ ขณะกำลังนั่งดูเป้แต่งตัวก่อนไปทำงาน เป้เลือกเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีขาวมีระบายพริ้วๆ ตรงหัวไหล่ เนื้อผ้าบางนิดๆ แอบเว้าหลังหน่อยๆ ไม่ถึงกับโป๊มากนัก สวมกางเกงสแล็คผ้านิ่มสีดำลายทางเทาๆ มัดผมรวบไว้ข้างหลังดูเรียบร้อย ช่วยเผยให้ต่างหูมุกสีขาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นไปอีก ส่วนชุดชั้นในของเธอนั้นไม่ค่อยเซ็กซี่เท่าไหร่ เป็นแค่ยกทรงกับกางเกงในเข้าคู่สีครีมผ้าลื่นธรรมดาๆ ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาอะไรมากมาย
“กลับดีๆ นะเป้ ถ้าดึกมากหรือเมามากก็แวะค้างคืนก่อนก็ได้นะ” ผมพูดยิ้มๆ แซวเธอแบบรู้กัน
“รู้นะหมายความว่าไง ฝันไปเถอะย่ะ! เดี๋ยวจะตรงดิ่งกลับบ้านเลย รอเปิดประตูให้ด้วย อ้อ! อย่าลืมเอาบิลไปจ่ายด้วยนะ เดี๋ยวเลยวันซะก่อน ไปละ” เธอตอบกลับมาแบบไม่ได้ใส่ใจมากนัก ผมเองก็ไม่อยากจะไปเซ้าซี้แหย่เธอมากไป เพราะรู้ว่าวันนี้ถือเป็นอีกวันที่อารมณ์ของเธอกำลังคงตีกันวุ่นวายไปหมด ทั้งโหยหา เสียดาย ลังเล และอาจจะโล่งใจอยู่ก็ได้
แน่นอนครับ วันนั้นก็เป็นอีกวันที่ผมทำงานไม่รู้เรื่องอะไรเลย ในหัวคิดแต่ว่าที่ทำลงไปนี่มันถูกแล้วเหรอวะ กูตัดสินใจอะไรโง่ๆ ลงไปโดยไม่ทันไตร่ตรองดีรึเปล่า ถ้ามันมีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นจริงๆ เราจะรับได้มากน้อยแค่ไหน ในเมื่อครั้งนี้มันคือเรื่องของเค้าสองคน ไม่ใช่เรื่องของผมกับเป้เหมือนที่ผ่านๆ มา ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ได้แต่รีบปิดงานช่วงเช้าให้เสร็จ แล้วตัดสินใจขอหัวหน้าลาช่วงบ่าย อ้างว่าปวดไมเกรน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร พอออกจากออฟฟิศขึ้นรถมา ผมเลยรีบต่อสายโทรหาไอ้โจ้ รุ่นน้องขี้เงี่ยน กะจะแวะเข้าไปหามันช่วงบ่ายๆ เพื่อระบายเรื่องนี้ให้มันฟังซักหน่อย เพราะยังไงแม่งก็คอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องบนเตียงให้ผมมาโดยตลอด
“ไอ้โจ้ มึงยังลาพักร้อนอยู่ป่าววะ กลับกรุงเทพยัง?”
“อยู่คอนโดแล้วพี่ พึ่งมาถึงเมื่อคืนเอง กำลังจิบเบียร์เพลินๆ เลย พี่จะชวนผมไปนั่งร้านไหนมั้ยล่ะเย็นนี้ คิดถึงว่ะ”
“เดี๋ยวกูแวะไปคอนโดมึงตอนนี้เลยเนี่ย ถึงแล้วเดี๋ยวโทรหา” ผมใช้เวลาขับรถประมาณเกือบชั่วโมง ก็มาถึงหน้าคอนโดมันแถวย่านลาดพร้าว
“ไปไงมาไงพี่ ไม่ทำงานเหรอวันนี้?”
“ลาบ่ายว่ะ แม่งมีเรื่องคาอยู่ในหัว ทำงานไม่รู้เรื่องเลย กูเลยจะมาระบายกับมึงเนี่ย” ผมพรั่งพรูสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกไปให้รุ่นน้องคนสนิทฟังจนหมดสิ้น พอเสริมด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ไหลลงกระเพาะ ก็เลยพอจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้างไม่มากก็น้อย
วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566
ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว 6
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น