วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ไร้เดียงสา... เซ็กส์ของนายไมค์ 1

 


ตอนที่ ๑
 







         ผมชื่อไมค์ครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นม.2  ประวัติของชาติกำเนิดผมค่อนข้างจะยุ่งเหยิงอีรุงตุงนัง ผมจะบอกให้รู้ง่าย ๆ สั้น ๆ เป็นข้อ ๆ อย่างนี้
นะครับ

         หนึ่ง.. ตั้งแต่เกิดลืมตามาอยู่โลก คนที่เลี้ยงดูผมมาจนถึงวันนี้เป็นพ่อแม่บุญธรรม ไม่ใช่พ่อแม่จริง ๆ ของผม

         สอง.. แม่จริง ๆ ของผมก็คือน้องสาวจริง ๆ ของพ่อบุญธรรมผม

         สาม.. พ่อจริง ๆ ของผม ก็เป็นน้องชายของแม่บุญธรรมผมอีกที

         สี่.. ผมเรียกพ่อแม่บุญธรรมว่าพ่อ,แม่   เรียกพ่อแม่จริง ๆ ของผมว่า “น้า” แต่พ่อแม่จริง ๆ ของผมไม่ค่อยได้เจอกันหรอก เพราะอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง


         งงมั๊ยครับ


         สาเหตุที่พ่อแม่จริง ๆ ของผมยกผมให้กับพ่อแม่ (พ่อแม่บุญธรรม) พ่อกับแม่ผมพูดให้ผมฟังตอนที่ผมเข้าเรียนชั้นม.1 เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เพราะผม
สงสัยชื่อพ่อกับแม่ที่อยู่ในทะเบียนบ้าน มันไม่ตรงกับชื่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูผมในปัจจุบัน

         พ่อกับแม่ผมบอกว่าตอนนั้นพ่อกับแม่จริง ๆ ของผมยังเป็นวัยรุ่นกัน แม่จริง ๆ ของผมตั้งท้องผมตอนอายุสิบห้าปี พวกเขาไม่มีงานมั่นคง ไม่มีรายได้
พอเพียง พูดง่าย ๆ ว่ามีปัญญาเย็ดกันให้ผมเกิด แต่ไม่มีปัญญาที่จะเลี้ยงผมนั่นแหละ พอผมคลอดออกมาพวกเขาก็เลยยกผมให้กับพี่สาวพี่ชาย ซึ่งก็คือพ่อ
แม่ของผมที่อุปการะเลี้ยงดูผมในปัจจุบัน เพราะพ่อกับแม่ผมเป็นหมันมีลูกกันเองไม่ได้พอดี   


         ปัจจุบันผมอยู่กับพ่อแม่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่  ฐานะก็มีอยู่มีกินแบบสบาย ๆ  เพราะพ่อผมทำงานเป็นหัวหน้าช่างทองของ
ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดวโรรส ได้เงินเดือนค่อนข้างสูง  ส่วนแม่ผมทำงานเป็นหัวหน้าแม่บ้านในบ้านของเจ้านายที่มีโรงงานผลิตอาหารกระป๋องในนิคม
อุตสาหกรรมลำพูน และก็ได้เงินเดือนค่อนข้างสูงเหมือนกัน  เงินเดือนของแม่ผมสูงกว่าเงินเดือนของคนที่เรียนจบปริญญาตรีสามคนรวมกันซะอีก ผมก็เลย
สบายไป

         เจ้านายผู้ชายของแม่ผมอายุห้าสิบกว่า เจ้านายผู้หญิงอายุสี่สิบกว่า (แม่ผมบอก)  เจ้านายแม่ผมเป็นคนใจดีทั้งสองคน ชอบให้เงินผม ซื้อของให้
ผมบ่อย ๆ วันเสาร์-อาทิตย์ก็ให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนกับไอ้คุณปิ๊ลูกชาย เล่นเกมส์กับมัน พาผมไปซื้อของให้ หรือไม่ก็ให้ตังค์ผมทีละพันสองพัน ผมเคยให้
มากสุดตอนวันเกิดผมสองหมื่น แต่ผมไม่ได้จับตังค์สองหมื่นหรอก แม่ผมกินรวบหมด

         เจ้านายของแม่ผมมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อพี่ฝัน เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีนี้เป็นปีแรก ส่วนไอ้คุณปิ๊ลูกชายอายุเท่ากับผม กำลังเรียนชั้น
ม.2 เหมือนกัน เรียนโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งของเชียงใหม่เหมือนกัน  ผมขอไม่บอกนะครับว่าโรงเรียนอะไร  ผมเข้าเรียนด้วยการสอบได้ ส่วนไอ้คุณปิ๊มัน
ได้เข้าเรียนด้วยบริจาคเงินบำรุงโรงเรียน ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าจ่ายแป๊ะเจี๊ยะ หรือเอาเงินยัดเข้าเรียนนั่นแหละ

         ผมกับไอ้คุณปิ๊ลูกชายของเจ้านายของแม่ผม ผมกับมันแตกต่างกับผมอย่างสิ้นเชิง แตกต่างในที่นี้ผมหมายถึงรูปร่างหน้าตานะครับ ฐานะเกี่ยว
เพราะฐานะมันเทียบกันไม่ติดฝุ่นอยู่แล้ว ไอ้คุณปิ๊มันเป็นลูกเศรษฐีระดับร้อยล้านพันล้าน  ส่วนผมเป็นแค่ลูกชายของแม่บ้านที่ทำงานบ้านให้มัน

         ไอ้คุณปิ๊ลูกชายของเจ้านายแม่ผม มันมีรูปร่างลักษณะเหมือนเด็กในฉลากที่แปะอยู่ข้างขวดซ๊อสเด็กสมบูรณ์นั่นแหละ ไม่ต้องอธิบายให้เสียเวลา
ส่วนผมทั้งดำทั้งสูง และค่อนข้างจะผอมไปนิด

          แต่ถึงผมจะดำ เวลายิ้มเห็นแต่ฟัน และค่อนข้างจะผอมสูง ผมก็หล่อมีเสน่ห์นะครับ คือหล่อมีเสน่ห์แบบดำ ๆ ไม่ใช่ดำแล้วผอมสูงขี้ก้างดูไม่จืด
เพื่อน ๆ ผมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พูดเหมือนกันทุกคนว่าผมดำแล้วหล่อ เวลายิ้มก็มีเสน่ห์  ขนาดพ่อกับแม่ผมเองยังชมผมว่าดำแล้วหล่อ ถ้า
หากผมขาวผมอาจจะไม่หล่อ เพราะความขาวมันอาจจะไม่เข้ากับลักษณะโครงสร้างของร่างกายผม

          แล้วผมไม่ได้ดำแล้วหล่ออย่างเดียวนะครับขอบอก ควยผมก็ดำแล้วหล่อเหมือนผมด้วย ตั้งเกือบหกนิ้วแน่ะ ตอนผมเรียนอยู่ป.4-5 แม่ผมเคยลาก
ผมไปให้หมอตรวจเพราะผมควยใหญ่ยาวผิดปกติ หมอตรวจแล้วบอกว่าควยผมปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติ


         กลับมาที่เรื่องของไอ้คุณปิ๊ลูกชายของเจ้านายแม่ผมอีกนิดครับ


          ไอ้คุณปิ๊ลูกชายของเจ้านายแม่ผมนี่มันจะติดผมมาก เวลาอยู่โรงเรียนถ้าเห็นผมอยู่ที่ไหนก็จะต้องเห็นมันอยู่ที่นั่นด้วย มันเกาะติดผมทุกก้าว มัน
เหมือนเด็กแหง่ที่อยากมีคนโอ๋เอาใจอะไรแบบนั้น  แล้วมันอายุเท่ากับผมเรียนชั้นเดียวห้องเดียวกับผม ผมพูดกู ๆ มึง ๆ กับมัน แต่มันเรียกผมว่าพี่ไมค์ พูด
ครับ ๆ ผม ๆ กับผม  บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าไอ้นี่มันจะเป็นตุ๊ดรึเปล่าวะ เพราะท่าทางมันออกตุ้งติ้งแปลก ๆ ยังไงไม่รู้


         ปล.ที่ผมสาธยายเล่าให้ฟังมาทั้งหมดข้างบนนี่  ไม่เกี่ยวกับข้างล่างที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ซักนิด


         รู้เกี่ยวกับประวัติผมแล้ว ทีนี้ก็กลับมาเข้าเรื่องเสียวครั้งแรกของเด็กม.2 ที่ทั้งดำและหล่อกันได้แล้วครับ


         ที่หน้าบ้านผม มีน้าผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “น้าตอง”  น้าตองแกทำงานเป็นพนักงานขายอยู่ในร้านขายจิวเวอร์รี่ชื่อดังร้านหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาย
สันกำแพง-เชียงใหม่ แกมาเช่าบ้านตรงข้ามกับบ้านผมอยู่ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมีสามห้องนอนเหมือนกับบ้านผม  น้าตองแกมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่คนเดียว
นานแล้วครับ นานแค่ไหนผมก็ไม่รู้  แต่ผมเห็นน้าตองแกอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวมาตั้งแต่ผมเป็นเด็กเล็กแล้ว  ตอนนี้น้าตองแกอายุสามสิบแปดปีแล้ว

         น้าตองแกมีเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่ง  คือเท่าที่ผมจำได้ตั้งแต่ผมเป็นเด็กเล็ก จนกระทั่งปัจจุบันผมเรียนอยู่ชั้นม.2  ผมเห็นหน้าตองแกอยู่บ้านหลังนี้
คนเดียวมาตลอด  ผมไม่เคยเห็นมีเพื่อนผู้หญิง หรือเพื่อนผู้ชายมาเที่ยวบ้านแกแม้แต่ครั้งเดียว ญาติ ๆ ของแกเองผมก็ไม่เคยเห็นมีใครมาหาแก เหมือนกับ
ว่าน้าตองแกตัวคนเดียว แกไม่มีญาติพี่น้องอะไรแบบนั้น   

         ชีวิตประจำวันปกติของน้าตองก็คือ ตอนเช้าน้าตองแกจะขับรถเก๋งโอเปิ้ลเขียวออกไปทำงาน ตอนเย็นเลิกงานน้าตองแกก็จะขับรถกลับมาถึงหน้า
ประตูบ้าน ที่อยู่ตรงข้ามกับหน้าบ้านผมในเวลาสี่โมงครึ่งตรงเป๊ะทุกวัน  วันหยุดน้าตองแกก็จะขลุกทำโน่นทำนี่อยู่ในบ้าน  หรือไม่ก็ออกมาคุยกับพ่อแม่ผม
และคนข้างบ้านบ้างเป็นบางครั้ง  ผมไม่เคยเห็นน้าตองแกออกไปเที่ยว ไปดูหนัง หรือไปสนุกสนานเฮฮากับใคร  เหล้าแกก็ไม่กิน เหมือนกับว่าชีวิตแกมีแต่
ที่ทำงานกับที่บ้านเพียงสองที่เท่านั้นที่น้าตองแกจะอยู่จะไป

         หากย้อนเวลาจากปัจจุบันกลับไปถึงตอนที่ผมจำได้ว่าเห็นน้าตองมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่  ตอนนั้นผมน่าจะเรียนชั้นป.2 ถ้าผมจำไม่ผิด  ตอนนี้ผมเรียน
ชั้นม.2  ก็เจ็ดแปดปีที่ผมเห็นน้าตองอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ตอนเช้าแกไปทำงาน ตอนเย็นกลับบ้าน เจ็ดแปดปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือผู้ชายคน
ไหน หรือญาติพี่น้องคนไหนมาเที่ยวหาน้าตองที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียว  ผมเคยได้ยินพ่อกับแม่ผมแอบนินทาน้าตอง ว่าสงสัยน้าตองแกจะอกหักผิดหวังกับ
ความรักก็เลยเข็ด


         ถ้าจะถามผมว่าน้าตองนี่แกสวยมั๊ย


         ผมก็บอกไม่ได้ว่าน้าตองแกสวยหรือไม่สวย เพราะน้าตองแกเป็นผู้ใหญ่ ผมเป็นเด็ก ความคิดความรู้สึกของผมก็เหมือนเด็กอายุสิบสามย่างสิบสี่ปี  ดู
ผู้ใหญ่ไม่ออกว่าสวยหรือไม่สวย แต่พ่อกับแม่ผมและคนข้างบ้าน ชอบพูดกันว่าน้าตองแกสวย รูปร่างหน้าตาดี เสียดายที่อยู่เป็นสาวทึนทึกไม่เอาผัว

         น้าตองแกสูงน่าจะประมาณร้อยหกสิบแปดไม่เกินร้อยหกสิบเก้าเพราะน้าตองแกสูงกว่าผมนิดหนึ่ง ผิวขาว รูปร่างอวบนิดหน่อย ไม่ชอบแต่งหน้า ผม
เดาเอา เพราะผมไม่เคยเห็นน้าตองแกแต่งหน้าทาปาก  ยกเว้นผมยาวของแกที่ย้อมสีออกทอง ๆ หน่อย ๆ แล้วดัดเป็นลอนๆ  เท่านั้นแหละที่ผมเห็นมีสีสัน
อยู่บนตัวแก นอกนั้นธรรมชาติหมด   

         แล้วน้าตองแกจะเป็นคนสะอาดเรียบร้อยมาก บ้านแกนี่จะสะอาดสะอ้านเป็นระเรียบร้อยซอกทุกซอกทุกมุม แล้วคนที่เข้าไปเล่นในบ้านแกได้  ก็มี
เพียงผมคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถวิ่งเข้าออกได้ตั้งแต่เป็นเด็กเล็กจนถึงปัจจุบัน เพราะน้าตองแกไม่ชอบเด็ก ยกเว้นคนเดียว ทั้งที่ตอนเป็นเด็กเล็กผมสุด
แสนจะขี้เหร่สุด ๆ ดำก็ดำ ผอมก็ผอม แต่น้าตองแกก็รักเอ็นดูผม ตอนเย็นเลิกงานน้าตองแกซื้อขนมมาฝากผม เรียกผมเข้าไปเล่นในบ้านดูทีวีด้วย  หรือวัน
หยุดก็เรียกผมเอาหนังสือเข้าไปอ่านอยู่กับแกในบ้านแก ช่วยสอนหนังสือผม สอนการบ้านให้ผม จนกระทั่งผมขึ้นเรียนชั้นม.1 น้าตองถึงได้หยุดสอนหนังสือ
หยุดสอนการบ้านให้ผม น้าตองแกบอกว่าหลักสูตรสมัยนี้ไม่เหมือนกับตอนที่น้าตองแกเรียน เดี๋ยวจะทำให้ผมเขว

         ในช่วงที่ผมที่ขึ้นเรียนชั้นม.1 และม.2 นี่  น้าตองแกดีกับผมมาก น้าตองแกซื้อของขวัญวันเกิดราคาเกือบสองพันให้ผมสองปีติดต่อกัน

         เรื่องที่น้าตองแกซื้อของขวัญราคาแพงให้ผมในวันเกิดผมนี่ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับพ่อแม่ผมและคนข้างบ้าน เพราะ
น้าตองแกไม่เคยให้ของขวัญใครมาก่อน ไม่ว่าจะเนื่องในโอกาสอะไรใด ๆ ก็ตาม ก็อย่างที่พ่อกับแม่ผมแอบนินทาน้าตองกันนั่นแหละครับ น้าตองแกเก็บตัว
เป็นสาวทึนทึก ไม่มีเพื่อน ไม่คบเพื่อน ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่เคยมีญาติพี่น้องมาหา น้าตองแกไม่เคยออกไปเที่ยวเตร่เฮฮา ฉะนั้นการที่น้าตองแกให้ของขวัญ
ราคาเกือบสองพันในวันเกิดผมสองปีติดต่อกัน มันจึงเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับพ่อแม่ผมและคนข้างบ้าน


         แต่สำหรับผมไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไร น้าตองแกให้ของขวัญผม ผมก็ขอบคุณแกในฐานะเด็กที่รับของขวัญจากผู้ใหญ่เท่านั้น





         # # # # # # # # # #






         น้าตองแกรักเอ็นดูผมมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก จนกระทั่งผมขึ้นเรียนชั้นม.2 และก็ซื้อของขวัญราคาแพงให้ผมในวันเกิดผมติดต่อกันสองปี ส่วนผมก็ให้
ความเคารพน้าตองแกในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง โดยที่ไม่เคยคิดอะไรที่ไม่ดีกับแกแม้แต่ครั้งเดียว เพราะน้าตองแกดีกับผม และผมก็เห็นแกมาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก
เล็ก

         แต่ตอนผมขึ้นเรียนชั้นม.2 นี่ ผมไม่ค่อยได้เข้าไปเล่นกับน้าตองในบ้านของแกบ่อยเท่าไหร่  เพราะผมเริ่มโตแล้ว ผมอยากไปเที่ยว อยากไปเล่นกับ
เพื่อนตามประสาเด็กที่กำลังจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า  วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไอ้คุณปิ๊ลูกชายเจ้านายแม่ผมก็ขับรถเก๋งมารับผมไปเที่ยวกัน เพราะไอ้คุณปิ๊มันติดผม
อย่างที่ผมบอกไป หรือไม่ไอ้คุณปิ๊มันก็มารับผมไปนอนกับมันที่บ้านมันเพื่อเล่นเกมส์และแอบดูหนังโป๊กัน  ผมกับน้าตองก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าไหร่


         จนเมื่อวันพุธอาทิตย์ที่แล้ว มีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับผม และเปลี่ยนความรู้สึกทุกอย่างของผมที่มีต่อน้าตองไปอย่างสิ้นเชิงตลอด
กาล


         ตอนเย็นวันพุธที่แล้ว ผมเลิกโรงเรียนกลับมาถึงบ้านตามปกติ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะออกไปเล่นกับเพื่อน  น้าตองแกยังอยู่ในชุดทำงานของ
แก แกมาเรียกให้เข้าไปดูอะไรบางอย่างที่บ้านแก

         ผมถามแกว่าน้าตองเรียกไมค์ไปดูอะไร ไมค์กำลังจะออกไปเล่นกับเพื่อน  (เวลาพูดผมจะใช้ชื่อตัวเองแทนตัวเองกับทุกคน ยกเว้นเพื่อน)


         น้าตองแกบอกผมว่าไมค์อยากรู้ก็ไปดูเอง

         ผมก็ตามน้าตองเข้าไปในดูในบ้านแก นึกในใจว่าอะไรวะ ทำเป็นมีลับลมคมนัย


         !!



         !!






         ผมตามน้าตองเข้าไปดูในบ้านแก ปรากฏว่าน้าตองแกซื้อโน๊ตบุ๊กใหม่ครับ ตอนแรกผมคิดว่าน้าตองแกคงจะให้ผมสอนวิธีปิด-เปิด และวิธีใช้งานต่าง
ๆ ให้กับแก เพราะน้าตองแกไม่มีคอมพิวเตอร์ ผมรู้สึกแปลกใจที่น้าตองแกซื้อโน๊ตบุ๊กมาเล่น เพราะตั้งแต่ผมเป็นเด็กเล็ก จนผมอายุสิบสามจะย่างสิบสี่ปี
เรียนชั้นม.2 ผมไม่เคยได้ยินน้าตองแกพูดถึงเรื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กมาก่อน แต่อยู่ ๆ ทำไมน้าตองแกถึงได้ซื้อโน๊ตบุ๊กมาเล่น

         น้าตองแกถามผมว่าไมค์ชอบมั๊ย

         ผมบอกแกว่าก็สวยดี เพราะมันรุ่นใหม่ล่าสุด และถามแกเล่น ๆ ฆว่าน้าตองซื้อให้ไมค์เหรอ   

         น้าตองแกถามผมกลับว่าไมค์อยากได้รึเปล่าล่ะ

         ผมบอกแกแบบเล่นตัวนิดหน่อย เพราะกลัวน้าตองแกจะคิดว่าผมอยากได้ของแกจริง ๆ ว่าถ้าน้าตองให้ไมค์ก็เอา และพูดเสียงอ่อยกับแกว่าน้าตอง
อย่าพูดยั่วให้ไมค์อยากได้ดิ ไมค์กำลังอยากได้รุ่นนี้อยู่พอดี ไมค์อ้อนพ่อกับแม่ซื้อให้ แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ยอมซื้อให้ไมค์ซะที

         น้าตองแกหัวเราะคิกคัก แล้วถามผมอีกครั้งว่าไมค์อยากได้รึเปล่า ถ้าน้าให้ไมค์เอามั๊ย

         ผมลูบคลำโน๊ตบุ๊กบอกแกเสียงอ่อยขำ ๆ ว่าน้าตองอย่าถามไมค์แบบนี้ดิ  น้าตองถามไมค์แบบนี้เหมือนให้ความหวังไมค์นะ น้าตองถามไมค์แบบนี้
แล้วน้าตองไม่ให้ไมค์ น้าตองไม่สงสารไมค์ ไม่กลัวไมค์น้อยใจร้องไห้เหรอ

         น้าตองแกกอดไหล่ผมหัวเราะ แล้วบอกผมว่าสอนให้น้าเล่นก่อน แล้วน้าจะยกให้ไมค์ (น้าตองแกกอดผมมาตั้งแต่ผมเป็นเด็กเล็กแล้ว)

         ผมตาโตเท่ากำปั้น หัวใจเต้นแรงตุ๊บ ๆ กระเด็นออกไปอยู่หน้าบ้าน ถามแกด้วยความดีใจว่าน้าตองจะให้โน๊ตบุ๊กนี่กับไมค์จริง ๆ เหรอ  น้าตองอย่า
พูดเล่นดิ หลอกให้เด็กดีใจเก้อไม่ดีนะ ถ้าน้าตองหลอกไมค์ ไมค์จะร้องไห้นะเนี่ย

         น้าตองแกบอกผมปนหัวเราะว่าน้าจะให้ไมค์จริง ๆ น้าซื้อมาให้ไมค์ แต่ไมค์ต้องสอนให้น้าเล่นก่อนค่อยเอาไป

         ผมถามแกด้วยความดีใจ และก็ไม่อยากจะเชื่อหูว่าน้าตองซื้อมาให้ไมค์จริงเหรอ  ตัวนี้รุ่นใหม่ตั้งหลายหมื่นเลยนะน้าตอง ไมค์ถามจริง น้าตองซื้อมา
ให้ไมค์จริงเหรอ น้าตองอย่าหลอกให้ไมค์ดีใจดิ๊ ไมค์จะร้องไห้แล้วนะเนี่ย

         น้าตองแกกอดผมหัวเราะคิกๆ มองหน้าผมบอกผมปนหัวเราะว่าจริงไมค์ น้าซื้อมาให้ไมค์จริง ๆ น้าพูดจริงไม่ได้พูดเล่น น้าซื้อมาให้ไมค์จริง ๆ

         ผมกระโดดโลดเต้นตัวลอย แหกปากร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจตามประสาเด็ก แล้วกระโดดเข้ากอดหอมแก้มน้าตองขอบคุณแกไม่รู้กี่ครั้ง โดยลืมไป
ว่าตัวเองเป็นเด็กโต แล้วไม่ใช่เด็กเล็กเหมือนเมื่อก่อน แล้วตั้งแต่ผมขึ้นเรียนชั้นม.1 มาจนถึงชั้นม.2 ผมก็ไม่เคยกอดน้าตองอีกเลย เพราะผมรู้สึกว่าผมโต
แล้ว  ผมรู้สึกอายยังไงไม่รู้ที่จะกอดแก
 
         น้าตองแกหัวเราะ แล้วถามผมว่าไมค์ดีใจมากเหรอถึงกอดน้า ไมค์จำได้มั๊ย ว่าไมค์ไม่เคยกอดน้ามานานแล้วแค่ไหนแล้ว แต่น้าจำได้นะ ตั้งแต่ไมค์
ขึ้นม.1 เมื่อปีที่แล้ว ไมค์ไม่เคยกอดน้าอีกเลย

         ผมรีบปล่อยแกด้วยความรู้สึกอายแกนิดหนึ่ง แล้วถามแกด้วยความตื่นเต้นดีใจสุด ๆ ว่าน้าตองจะให้ไมค์สอนน้าตองเล่นอะไร น้าตองไม่มีเน็ตแต่
เดี๋ยวรับสัญญาณไวไฟของไมค์มั๊ยก็ได้

         น้าตองแกบอกผมว่าไมค์เล่นไปก่อนนะ น้าทำงานบ้านเอาผ้าลงเครื่องซัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไมค์ค่อยสอนน้า

         ผมบอก “ครับ”  แล้ววิ่งกลับเข้าบ้านเปิดเร้าท์เตอร์ปล่อยสัญญาณไฟไว เอาแผ่นเกมส์กับหูฟังวิ่งกลับมาลงทันที  เรื่องที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนลืม
ไปเลย  เพราะโน๊ตบุ๊กที่น้าตองแกซื้อมามันน่าสนใจกว่า มันเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดและแรงสุด ๆ ที่มีขายอยู่ตอนนี้ และก็เป็นโน๊ตบุ๊กที่เหมาะสำหรับเล่นเกมส์
กราฟฟิคหนัก ๆ ด้วย โน๊ตบุ๊กของผมสเปคและความแรงได้แค่ครึ่งเดียวของโน๊ตบุ๊กที่น้าตองแกซื้อมาเอง


         !!


         !!




         ผมลงเกมส์ด้วยความดีใจยังไม่ทันเสร็จ น้าตองก็หอบกล่องจอยสติ๊ก กับคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมส์โดยเฉพาะกับหูฟังใหม่เข้าประตูมา น้าตองแก
บอกผมว่าน้าลืมเอาออกมาจากรถ คนขายเขาแนะนำให้ซื้อ น้าก็เลยซื้อมาให้ไมค์ด้วย  มีชุดสปีคเกอร์ขยายเสียงอยู่ในรถ ไมค์ไปเอามา น้าหอบมาไม่หมด

         ผมกระโดดโลดเต้นขอบคุณแกด้วยความดีสุด ๆ อีกครั้ง ถามแกด้วยความเกรงใจและตื่นเต้นดีใจสุด ๆ ว่าน้าตองซื้อมาให้ไมค์ทำไมเยอะแยะ แค่
โน๊ตบุ๊กก็ตั้งหลายหมื่นแล้ว ไมค์เกรงใจน้าตอง

         น้าตองแกบอกผมว่าน้ารักไมค์ถึงได้ซื้อมาให้ไมค์  แล้วขมวดคิ้วมองหน้าผมถามผมยิ้ม ๆ ว่าแล้วจะไม่กอดน้าหอมแก้มน้า ขอบคุณน้าอีกหน่อยเหรอ

         ผมกระโดดเข้ากอดแกหอมแก้มแกฟอด ๆ อย่างไม่รู้สึกอายเหมือนครั้งแรก เพราะผมกำลังอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นดีใจสุด ๆ และก็ปลื้มน้าตองแกสุด ๆ
ด้วยที่น้าตองแกซื้อให้ผมครบชุดแบบนี้

         น้าตองแกกอดผม หอมแก้มผมฟอด ๆ ครางฮือ ๆ พูดพึมพำว่าน้าไม่ได้กอดไมค์ ไม่ได้หอมไมค์เต็มจมูกแบบนี้มาสองปีแล้ว แล้วมองหน้าผมบอก
ผมยิ้ม ๆ ว่าน้ารักไมค์นะถึงได้ซื้อมาให้ไมค์  เดี๋ยวน้าไปซักผ้า อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะให้ไมค์สอนเล่นเกมส์ น้าจะได้เล่นแข่งกับไมค์   



         !!



         !!





         ผมลงเกมส์เสร็จโซโลอย่างเมามันส์ เสียงดังกระหึ่มไปทั้งบ้านอย่างสะใจ เพราะน้าตองแกเป็นคนมาเร่งโวลลุ่มเสียงขึ้นผมเอง แกบอกว่าเปิดดัง ๆ
ไม่ต้องเกรงใจน้า จะได้มันส์สะใจวัยรุ่น  ผมก็เลยมันส์สุด ๆ อินสุด ๆ ไปเลย

         พ่อผมเลิกงานกลับมา ตามเข้ามาดูผมในบ้านน้าตองโวยวายเสียงดังยิ้ม ๆ ว่าซื้อมาให้มันแพงทำไมนักหนา แค่เล่นเกมส์เฉย ๆ เสียเงินเสียทอง
เปล่า ๆ ตั้งหลายหมื่น

         ผมพูดประชดพ่อว่าพ่อกับแม่ไม่ซื้อให้ไมค์ไม่ง้อแล้ว แล้วถามพ่อว่าพ่อรู้เหรอว่าน้าตองซื้อโน๊กบุ๊กมาให้ไมค์

         พ่อผมบอกว่ารู้ แม่เอ็งก็รู้แล้ว น้าตองเค้าโทรไปบอกก่อนที่จะซื้อแล้ว


         อ้าวเหรอ รู้กันหมด งั้นไมค์ก็ควายคนเดียวดิเนี่ย


         น้าตองแกเดินออกมาจากหลังบ้าน พูดกับพ่อผมยิ้ม ๆ ว่าซื้อให้ตั้งหลายหมื่นแบบนี้ต้องให้มาช่วยหนูทำงานให้คุ้มนะพี่ ไม่งั้นเอาคืน (น้าตองแกจะ
เรียกพ่อกับแม่ผมว่า “พี่” )

         พ่อผมหัวเราะหึ ๆ บอกน้าตองว่าตามสบาย ถ้าเอ็งมีปัญญาใช้มันได้ ทุกวันนี้มันทำเป็นอยู่เดียว คือแบมือขอเงิน ขนาดกางเกงในของมัน มันยังซัก
เองไม่เป็น แม่มันยังต้องซักรีดให้อยู่เลย


         โหพ่อ มากไปพ่อมากไป มากไป ไว้หน้าไมค์หน่อยดิ๊





         # # # # # # # # # # # # #





         ผมโซโลเกมส์อย่างเมามันส์อยู่คนเดียวไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เพราะผมลืมเวลาไปเลย แต่รู้สึกว่าข้างนอกมันจะเริ่มมืดแล้ว  น้าตองก็ใส่ชุดสีฟ้า ยาวถึง
เข่า ไม่มีแขน ถือขวดเครื่องดื่มสปายเดินหน้าแดงออกมา

         ผมหยุดเกมส์ถามแกด้วยความแปลกใจว่าน้าตองกินสปายเหรอ ไมค์ไม่เคยเห็นน้าตองกินสปายหรือกินเหล้ามาก่อน  ตั้งแต่ไมค์เป็นเด็กเล็กรู้จักน้า
ตองมา ไมค์ไม่เคยเห็นน้าตองแกกินเหล้า หรือกินพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์เลย

         น้าตองแกเข้ามากอดไหล่ผม หอมแก้มผม บอกยิ้ม ๆ ว่าวันนี้น้าอารมณ์ดี ฉลองซื้อโน๊ตบุ๊กให้ไมค์น้าเลยซื้อมากิน นี่เป็นขวดแรกในรอบหลายปีที่น้ากิน

          ผมถามแกว่าน้าตองจะให้ไมค์สอนอะไร ไมค์สอนได้หมด ยกเว้นเกมส์

         น้าตองแกก็มองหน้าผม เอามือเสยผมผมขึ้น ถามผมยิ้ม ๆ ว่าไมค์เรียนม.2 แล้วมีแฟนรึยัง แต่ไมค์หล่อแบบนี้ น้าว่าไมค์มีแล้วมั๊ง

         ผมแกล้งโวยวายเสียงดังด้วยความรู้สึกอายนิดหน่อยตามประสาเด็กวัยรุ่นอายุสามสิบย่างสิบสี่ว่าไม่มี  ไมค์ไม่มีแฟน ไมค์ยังเด็กเพิ่งเรียนม.2 เองจะ
รีบมีแฟนทำไม ยังมีเวลาอีกเยอะ แล้วถามแกว่าน้าตองจะให้ไมค์สอนอะไร เล่นเน็ต ท่องเน็ต ไมค์สอนได้หมด แต่ไมค์ขอน้าตอง อย่าให้ไมค์สอนน้าตอง
เล่นเกมส์ เพราะเล่นเกมส์มันใช้ทักษะส่วนตัว สอนกันไม่ได้ ต้องเล่นบ่อย ๆ เล่นประจำ ถึงจะรู้ว่าปุ่มไหน แป้นไหน มันใช้ทำอะไร แล้วเกมส์แต่ละเกมส์มัน
ไม่เหมือนกัน

         น้าตองแกมองหน้าผม บอกผมยิ้ม ๆ ว่าไมค์ไม่ต้องสอนน้าเล่นโน๊คบุ๊กก็ได้ เพราะน้าซื้อมาให้ไมค์ แล้วถามผมว่าน้าอยากให้ไมค์ช่วยทำอะไรให้น้า
อย่างหนึ่งได้รึเปล่า

         ผมบอกแกทันทีว่าได้ น้าตองจะให้ไมค์ช่วยทำอะไร น้าตองบอกไมค์มา ไมค์จะช่วยทำให้  แต่ไมค์ไม่ได้ช่วยน้าตองเพราะน้าตองซื้อโน๊ตบุ๊กให้ไมค์
นะ แต่ไมค์อยากช่วยน้าตองด้วยตัวของไมค์เอง เพราะน้าตองดีกับไมค์มาตั้งแต่ไมค์เป็นเล็กแล้ว แล้วไม้ก็รักน้าตองด้วย

         น้าตองแกยกขวดสปายขึ้นกินจนหมดวางขวดเปล่าไว้บนโต๊ะ แล้วบอกผมว่าไมค์ตามน้ามา

         ผมบอกแก “ครับ” แล้วลุกเดินตามแกเข้าไปในห้องนอนของแก พอเข้าห้องนอนของแก ผมหันซ้ายหันขวาถามแกว่าน้าตองจะให้ไมค์ช่วยทำอะไร
ยกอะไรเหรอ

         น้าตองแกปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามากอดผม มองหน้าผมพูดยิ้ม ๆ ว่าไมค์รับปากน้าแล้วนะว่าไมค์จะช่วยน้า

         ผม “ครับ” อีกอย่างงง ๆ นึกในใจว่าอะไรวะ ตกลงจะให้กูช่วยทำอะไร ให้กูช่วยยกอะไรแน่ แล้วมากอดกูทำไม หรือว่าเมา

         น้าตองแกหอมแก้มผมฟอด แล้วบอกผมยิ้ม ๆ ว่าถ้าน้าบอกไมค์ว่าน้าจะให้ไมค์ช่วยทำอะไร ไมค์อย่าตกใจนะ ไมค์รับปากน้าก่อนว่าถ้าน้าบอกไมค์
แล้ว ไมค์จะไม่ตกใจ ไมค์จะไม่เอะอะโวยวาย

         ผม “ครับ” อีกทีอย่างง ๆ แต่คราวนี้งงหนักกว่าเดิม เพราะผมนึกไม่ออกว่าน้าตองแกจะให้ช่วยทำอะไร  เรื่องลามกจกเปรตนี่ยังไม่มีในหัวผม เพราะ
ผมไม่เคยคิดอะไรที่ไม่ดีกับน้าตองแกมาก่อน ผมรักและเคารพแกด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ  ยิ่งวันนี้แกโน๊กบุ๊กราคาหลายหมื่นมาให้ผม ผมยิ่งรักและเคารพ
แกขึ้นไปอีก

         น้าตองแกมองหน้าผมยิ้ม ๆ นิ่ง ๆ แป๊บหนึ่ง แล้วหอมแก้มผม บอกผมยิ้ม ๆ น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนว่าตอนเป็นเด็กไมค์ขี้เหร่ที่สุด ดำก็ดำ ผอมก็
ผอม แต่โตขึ้นมาไมค์หล่อมากรู้ตัวรึเปล่า ถึงไมค์จะไม่ขาว แต่ไมค์ก็หล่อมีเสน่ห์มาก ไมค์หล่อจนน้าต้องทิ้งความตั้งใจ ทิ้งปณิธานที่จะอยู่เป็นโสดคนเดียว
ไปตลอดชีวิต น้าอยากขอให้ไมค์ช่วยทำให้น้ามีความสุขหน่อย น้ารู้ว่าไมค์ไม่เคย แต่ไมค์ไม่ต้องกลัว ธรรมชาติของเด็กผู้ชายมันจะสอนไมค์เองว่าต้องทำ
ยังไง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น