วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เพื่อนรักหักเหลี่ยมสวาท ตอนที่12




"บี...เราถามอะไรสักเรื่องได้มั๊ย...ถ้าบีไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ..." หลังจากที่ยัยบีกับผมนอนกันอยู่นเตียงไปได้พักใหญ่ ก็ยัง
ไม่มีทีท่าว่าพี่เกศจะกลับบ้าน

"ได้สิชัย...เธอเป็นผู้ชายคนเดียวที่บีไว้ใจนะ..ถามมาเถอะ บีจะตอบทุกคำถามเลย..."

ยัยบีจากท่านอนหงายก็ขยับมานอนตะแคง แต่เธอช่างไม่ระมัดระวังตัวเสียบ้างเลย จังหวะที่พลิกตัวตะแคงหันมาทางผมนั้น มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหันศรีษะไปทางด้านเธอพอดี แล้วไอ้ชุดนอนแบบชุดยาวๆ สีอ่อนๆ ผ้าพริ้วๆลื่นๆนั้น เวลานอนตะแคงข้าง คอเสื้อมันก็ย้วยห้อยตกลงมาจนอกอวบกลมที่ดูเหมือนจะไม่มีบราสวมอยู่ด้านในเสียด้วย มันก็เลยปลิ้นหลุดออกมายั่วสายตาผมเกือบครึ่งเต้า
ดีนะที่ยังไม่เห็นหัวจุกสีแดงๆของเธอ แต่แค่นั้มันก็ทำให้ผมตื่นเต้นจนรีบหันหน้ากลับมาตามเดิม

"เอ่อ....บีย้ายมาอยู่แบบนี้ ไม่กลัวพ่อแม่รุ้หรอ..."

ผมถามไปด้วยความอยากรู้ รอสักครู่ยัยบีก็ยังไม่ตอบกลับมา ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิด มันนานจนผมนึกว่าเธอคงไม่อยากตอบ ผมเลยหันหน้ากลับไปมองหน้ายัยบีอีกครั้ง  คราวนี้ก็ได้เห็นว่านัยต์ตาเธอกำลังแดงๆ เหมือนกำลังจะร้องไห้ ผมตกใจรีบกล่าวขอโทษเธอ แล้วบอกว่าไม่ต้องตอบคำถามก็ได้ แต่สักครู่ยัยบีก็เริ่มเล่าเรื่องราวให้ผมฟัง

"บี..ไม่มีพ่อแม่แล้วละชัย..." เธอพูดแล้วหยุดชะงัก จนผมได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ  แต่ผมก็ยังไม่แทรก ปล่อยให้เธอระบายความรุ้สึกอัดอั้นออกมาก่อนจนหมด

"บีอยู่กับแม่มาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ..จนบีได้สัก10ขวบมั้ง..แม่ก็มีพ่อใหม่ให้บี..แม่มีน้องชายกับน้องสาวอีกอย่างละคนกับพ่อใหม่ของบี..พ่อเลี้ยงไม่ค่อยดีกับบีนักหรอกค่ะ..เขาไม่สนับสนุนเรื่องที่บีต้องการมาเรียนต่อในกรุงเทพ..แต่แม่บีสนับสนุน แต่ก็ไม่มีเงินทองส่งเสียบี ช่วงที่บีจบมอปลายแล้วเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย บีก็เลยออกทำงานเพื่อเก็บเงิน..มาเรียนต่อ...บีทำงานในผับที่เชียงใหม่ เอ้อ...เป็นสาวนั่งดริ้ง.." คราวนี้ยัยบีหยุดนิ่งไปเป็นช่วงๆ

"มันก็ได้เงินดีนะชัย แต่บีไม่ออกไปกับแขกที่มาเที่ยว..ชัยพอรู้มั๊ยว่าสาวนั่งดริ้งเขาทำอะไรบ้าง.."

เมื่อผมสั่นหัวเพราะในชีวิตนี้ไม่เคยเข้าไปเที่ยวในสถานที่แบบนั้นแม้สักครั้ง แต่ก็พอคาดเดาได้จากชื่อตำแหน่ง..สาวนั่งดริ้ง..ก็คงนั่งเป็นเพื่อนดื่มเหล้ากับแขกหรือชงเหล้าให้แขกทำนองนั้นแน่

"ก็นั่งเป็นเพื่อคนที่มาเที่ยวน่ะ..ชงเหล้าให้เขาบ้าง ดื่มเป้นเพื่อนเขาบ้าง..เราก็ได้ค่าคริ้งตามจำนวนเวลาที่เรานั่งกับแขก.."

"อืมมมม..แค่นั้นเองหรอ..ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่..." ผมพูดออกไปเพราะความไม่เข้าใจจริงๆ

"มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกชัย..แขกที่มาเที่ยวผับแบบนี้ ชัยรู้มั๊ยว่าเขาไม่ได้มาเพื่อดื่มเหล้าเท่านั้น..เขามาเพื่อ...เอ้อ..จับเด็กไปนอนด้วย..ถ้าใครไม่ไปเขาก็จะไม่ค่อยเรียกมานั่งดื่ม...ตะ..แต่บีโชคดี ที่สาวกว่าสวยกว่าพนักงานที่อยู่ในร้าน เลยมีแขกมาหาบีเยอะ แม้จะรู้ว่าบี
ไม่ออกไปกับแขกที่มาเที่ยว..ตะ..แต่เขาก็ลวนลามบีตลอดเวลาที่ยังนั่งกับเขา.." เสียงของยัยบีช่างเศร้าเสียเหลือเกิน

"บีทนทำงานเพื่อเก็บเงินได้สองเดือนก็พอได้ค่าใช้จ่ายเพื่อมาเรียนต่อ พร้อมทำเรื่องกู้เงินกยศ.มาไว้จ่ายค่าหน่วยกิต..แต่ค่าเช่าหอ
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนั้น บีก็อาศัยเงินที่หามาได้ตอนเป็นเด็กนั่งดริ้งนั่นแหละ..แต่พอใกล้จะเข้ามาเรียน แม่ของบีก็เสีย.."

คราวนี้ผมได้ยินเสียงยัยบีร้องไห้สะอื้นออกมาดังๆ เมื่อเล่าถึงตอนที่แม่ของเธอเสีย จนผมต้องขยับตัวนั่งเอนพิงพนักหัวเตียง เอื้อมมือไปลูบผมของยัยบีเบาๆ ด้วยความรู้สึกสงสารชีวิตของเธอจับใจ นึกว่าเรื่องร้ายๆกับเธอคงมีเพียงเท่านี้ จนเธอหายสะอื้น ก็เอื้อมมือมา
จับมือผมบีบ ส่งยิ้มแสนเศร้าให้กับผม แล้วเล่าเรื่องต่อ[/post]"หลังจากทำงานศพแม่เรียบร้อย พ่อเลี้ยงของบีก็เข้ามาหาบีในห้องในคืนวันก่อนที่บีจะเดินทาง..เขายื่นข้อเสนอว่าถ้าบียอมเป็นเมียเค้า เขาก้จะส่งเสียให้บีเรียนต่อได้..แต่บีไม่ยอม..เขาก็ปล้ำบี..บีสู้แรงเขาไม่ได้ก็ส่งเสียงร้อง พอดีน้องตื่นเลยเดินเข้ามาดู พ่อเลี้ยงก็เลยหยุดการกระทำ พอรุ่งเช้าบีก็หนีมาอยู่ที่กรุงเทพ แล้วก็มาพักอยู่ที่หอนั่นแหละ.."

พอยัยบีเล่าเรื่องจบ เธอก็ถอนหายใจเอือกมือที่จับมือผมนั้นบีบกระชับเบาๆ ส่งสายตายิ้มๆ แต่ดูแล้วมันทั้งเศร้าทั้งเหงาเสียยิ่งนัก จนผมต้องบีบมือกลับให้กำลังใจหล่อน

"แล้วชัยล่ะ..เป็นเพื่อกับพี่เอกแบบไหน ดูๆแล้วเหมือน.เอ่อ..ชัย.."

ยัยบีไม่กล้าพูดต่อซึ่งผมคาดว่าเธอคงจะถามว่า เหมือนชัยเป็นขี้ข้าไอ้คุณเอกมากกว่าเป็นเพื่อนกัน ผมก็เลยเล่าเรื่องของผมตามความจริงให้ยัยบีฟังทั้งหมด หลังจากที่เล่าจบผมก็คิดว่าชีวิตของตนเองกับยัยบีนั้นหาได้แตกต่างกันเลย ผมเป็นทาสรับใช้ไอ้คุณเอก ส่วนยัยบีเป็นทาสกามของมัน

"แล้วช่วงที่เปิดเทอม..นี่บีกินอยู่ยังไงหรอ..." หลังจากที่ผมฟังคำเล่าต่อของยัยบีแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธออดทนใช้ชีวิตแบบนี้ได้อย่างไรจนผ่านมาได้เกือบครึ่งปี

"บีก็ใช้เงินที่หามาได้จ่ายเฉพาะค่าหอ เก็บไว้ใช้ไว้กินเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็เป็นมาม่านั่นแหละอิอิ..แต่ก็ยังดีนะที่มีผุ้ชายมาเป็นสปนอร์เซอร์เลี้ยงข้าวเลี้ยงอาหารให้บีบ่อยๆ..ก็พวกนิสิตชายนั่นแหละชัย..มาจีบบี พาไปเลี้ยงข้าว ซื้อของมาให้ใช้บ้าง อะไรแบบนี้.."

เล่ามาถึงช่วงนี้ยัยบีค่อยดูสดใสขึ้น เล่าไปขำไปน้อยๆ คงนึกถึงเรื่องที่บรรดาผู้ชายที่มาจีบเธอนั่นแหละ..ที่พยายามเอาอกเอาใจพาไปเลี้ยง พาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนาที่จำเป็น

"แล้วทำไมบีถึงมาคุยกับคุณเอกเขาล่ะ...รู้จักกันตอนไหนหรอ..ชัยไม่เห้นเคยรู้มาก่อน..."

"ก็หลายเดือนแล้วละ..ที่พี่เอกมาจีบมาคุยกับบี แต่ส่วนมากจะคุยกันทางโทรศัพท์.. "

"แล้วบีไม่รุ้มาก่อนรึว่าเอ้อ...คุณเอกมีผู้หญิงเยอะ..."

"ก็พอรู้นะ...แต่ก็นะ..บีไม่มีช้อยให้เลือกมากนัก...ก็พยายามคุยกับพี่เอกเค้าแบบระวังตัวเช่นกัน ไม่เคยไปไหนกันมาก่อนเลยสักครั้ง จนมาครั้งนี้แหละที่บีพลาด..."

ผมไม่กล้าซักถามว่าไอ้คุณเอกมันเสนออะไรให้ยัยบีบ้าง แต่ก็คงมากพอจนเธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กับมันแน่ ที่สำคัญเธอก็รุ้อยู่ว่าการมาอยู่แบบนี้ยังมีพี่เกศที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของไอ้คุณเอกมันอยู่ทั้งคนคอยขัดขวาง

"ชัยคะ...บีไม่คิดอะไรหรอกค่ะ จุดมุ่งหมายในชีวิตของบี คือต้องการเรียนให้จบ แม้ว่าพี่เอกจะให้ทำอะไรวิตถารไปบ้าง บีก็ไม่สน"

"ไม่สน..ไม่สนถึงกับยอมให้คุณเอกบังคับให้เอ่อ...ทำกับเราแบบนั้นเลยหรือ.."

คราวนี้ยัยบีถึงกับอึ้งไปสักพักเมื่อผมถามถึงเรื่องที่ข้องใจว่าการที่เธอยอมทำกับผมขนาดนั้น เพราะเธอเพียงต้องการทำเพื่อเอาใจไอ้คุณเอกมันเท่านั้นเองหรือ แต่คำตอบที่ผมได้รับนั้น ถ้ายอนเวลาได้ ผมคงไม่ถามไปแน่ เพราะมันทำให้ผมรุ้สึกอึดอัดใจที่ได้ยิน

"กับผู้ชายคนอื่น บีคงไม่ยอมตามใจพี่เอกเขาขนาดนั้นหรอกชัย...แต่กับชัย..บีเอ้อ..ไม่บอกได้มัยคะ..."

ยัยบีไม่ยอมพูด แต่มือกลับบีบกระชับกับมือผมรุนแรงขึ้น ใบหน้าขาวใสก็แดงระเรื่อ เห้อออยัยบีเอ๊ยยยย..รุ้มัยว่าทำแบบนี้ ใจไอ้ชัยมันตื่นเต้นแค่ไหน ผมแอบเอื้อมมือไปหยิกท้องน้อยของตนเองจนเจ็บจี๊ดดดด จากนั้นก็หันกลับมานอนหงายก่ายหน้าผากอีกครั้ง แต่มือของผมยังโดนมือยัยบีบบีบกระชับไม่คายปล่อย

จนผมเกือบจะเริ่มเคลิ้มหลับแต่ยัยบีนั้นนอนตะแคงกอดหมอนข้างหลับปุ๋ยไปเสียนานแล้ว ผมเลยค่อยๆ แกะมือเธอออกแล้วขยับลุกขึ้นนั่ง เพิ่งมองใบหน้าสวยหวานของยัยบี แล้วเกิดความรู้สึกสงสารเธอจับใจ ชีวิตของเธอกับผมต่างต้องยอมตนเป็นทาสให้ไอ้คุณเอกทั้งคู่ เพราะจุดมุ่งหมายสำคัญในชีวิตที่เราจำต้องอดทน

ผมโชคดีกว่าที่เป็นผู้ชาย ยอมรับใช้มันแบบทาส ทำทุกอย่างให้มัน แต่ยัยบีเป็นผู้หญิง เธอจะตกเป็นทาสกามารณ์ของมันอีกนานแค่ไหน และนานวันไปมันจะยิ่งวิตถารมากขึ้นหรือเปล่า..ผมสาบานกับตัวเองว่า ถ้าผมยังอยู่ ยังใช้ชีวตอยู่ในแวดวงของไอ้คุณเอกกับยัยบี ผมจะไมมีวันยอมให้มันทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้ในแบบวิตถารเด็ดขาด

ผมขยับลุกขึ้นไปอาบน้ำ พยายามทำตัวให้เงียบที่สุดจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องนอน พอเข้าห้องน้ำได้ชั่วครุ่ได้ยินเสียงก็อกแก๊กๆ
ที่ห้องรับแขก จึงเปิดประตุห้องน้ำแง้มชะโงกหน้าออกมาดู เห็นพี่เกศกำลังกลับบ้านเธอพอดี โดยมีไอ้คุณเอกเดินออกมาส่งที่หน้าประตุห้อง พอพี่เกศพ้นออกจากประตุไปแล้วไอ้คุณเอกก็จะเดินมาเข้าห้องน้ำ จึงเห็นผมพอดี มันยักคิ้วให้อย่างทะลึ่งทะเล้น แล้วเดินกลับไปทางห้องนอนของผม ส่วนผมก็ไม่ได้สนใจอาบน้ำต่อไปอย่างช้าๆพร้อมความคิดที่โลดแล่นเรื่อยเปือย จนอาบน้ำเสร็จ แต่งตัวที่ในห้องน้ำจนเรียบร้อยด้วยบล็อคเซอร์ยานๆย้วยๆตัวเก่งที่ชอบใส่นอนเสมอกับเสื้อยืดบางๆ แล้วจึงเดินกลับไปที่ห้อง พอเปิดประตุเข้าไปก็เห็นไอ้คุณเอกมันกำลังขึ้นคล่อมยัยบีบนเตียงนอนของผม ผมรู้โดยไม่ต้องมีคนมาบอก ว่าไอ้คุณเอกมันกำลังลักหลับยัยบีอย่างแน่นอน

"ไปทำที่ห้องคุณเอกสิ...." ผมกระซิบบอกมันไปเบาๆ แต่ไอ้คุณเอกยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากส่งสัญญาณให้ผมเงียบๆ จากนั้นค่อยๆขยับเอวขยับก้นเปลือยดันท่อนลำเข้าไปที่หอยอวบอุมของยัยบีช้าๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น