วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

รักร้อนซ่อนราคะ 1



ปกรณ์หลับตาไม่กล้ามองภาพเบื้องหน้าขณะกำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถูไปตามเรือนร่างเปลือยที่สวยสมบูรณ์แบบของรัตติกาล ที่ไม่กล้านั้นก็เพราะเขาเกรงว่าหากตนเองเผลอมองเข้าอาจจะสะกดห้ามอารมณ์หื่นของตนเองเอาไว้ไม่ได้ เขาไม่กล้าพาเธอไปโรงพยาบาล เพราะอาจจะซวยได้ ก็เลยต้องพาเธอกลับเข้ามาในห้อง แล้วให้กินยาแก้ไข้ยาลดปวด แก้อักเสบ และยาคุม พร้อมกับคอยนั่งเฝ้าใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถูตัวลดความร้อนให้ตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนบ่ายยันฟ้ามืด จนเธอสร่างไข้แล้วนั่นแหละ เขาถึงค่อยหยุดพัก แล้วนั่งหลับอยู่ข้างเตียง พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ค่อยเห็นว่ารัตติกาลกำลังนอนมองเขาด้วยดวงตาอันใสแจ๋ว
"ขอบคุณค่ะ ... คุณ ..."
"เอ่อ ... ผม ... ผมชื่อกรณ์ ..."
"ขอบคุณที่ช่วยดูแลให้รัตหายไข้นะคะ ... แล้วก็ที่สำคัญ ... ขอบคุณที่คุณปิดตาไม่มองตอนเช็ดตัวให้ด้วย"
"ครับ ... ไม่เป็นอะไรหรอก ... กินข้าวต้มหน่อยมั้ย"
ชายหนุ่มตอบแบบเขินกระดาก รู้สึกไม่กล้ารับคำขอบคุณ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเธอช่วงที่เธอมีไข้ แต่ก็เป็นเขาเองนี่แหละปู้ยี่ปู้ยำเธอตอนที่มีอาการเพราะยาสวาทจนเธอบอบช้ำซะขนาดนี้ ก็เลยพูดเปลี่ยนเรื่อง
"กลิ่นหอมน่ากินจัง ... แต่รัตยังกินไม่ไหวหรอกค่ะ ... ไม่มีแรงขยับตัว ..."
"ไม่เป็นไรหรอก สบายมาก ผมป้อนให้เอง"
ชายหนุ่มไม่คิดอะไรมาก ก็หันไปประคองหญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง โดยมีผ้าเช็ดตัวห่มคลุมร่างของเธอเอาไว้ จากนั้นก็ตักข้าวต้มมาเป่าแล้วค่อย ๆ ป้อนให้เธอกินทีละคำ รัตติกาลหน้าแดงทำตัวไม่ถูกในทีแรกไม่กล้าอ้าปากงับด้วยซ้ำ แต่เมื่อเขาคะยั้นคะยอเข้าก็ค่อยอ้าปากกินข้าวต้มอันอุ่นร้อนที่เขาป้อนให้
แววตาอันซึมเศร้าของสาวสวยทอประกายสดใสน้อย ๆ ออกมา ในช่วงเวลาที่สภาพจิตใจของเธอตกต่ำที่สุด กลับได้พบกับชายหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยนเอาใจใส่อย่างไม่น่าเชื่อ เธอแอบมองใบหน้าของเขาด้วยแววตาที่ไม่เคยใช้มองดูชายหนุ่มคนใด และในขณะเดียวกันนั้นร่างของเธอก็เริ่มร้อนวูบขึ้นมาอีกครั้ง อารมณ์อันวาบหวิวของยาสวาทที่หลงเหลืออยู่เริ่มโดนกระตุ้นจนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
"ขอบคุณค่ะ ... อืออออ"
"อยากได้อะไรอีกมั้ย เดี๋ยวผมไปหามาให้ ... หรือจะนอนพักซักหน่อยดี?"
"รัตอยาก ... เอ่อ ... อืมมมม ... อยาก ... อืออ"
รัตติกาลร่างสั่นเทิ้มระริก ร่างเลือดเนื้ออันสาวสะคราญที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มสีขาวผืนบางนั้นกำลังตื่นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อารมณ์ทางเพศแผ่ซ่านกระจายไปทั่วทั้งร่างจนปลายถันแข็งเต่ง ร่องรักที่แดงช้ำขมิบหนุบหนับอย่างหิวโหยอยากได้สิ่งเติมเต็ม และถึงแม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเธอจะมึนงงจนแทบจำอะไรไม่ได้นอกจากเสียงครางอันแหบแห้งหื่นกระหายของชายปริศนาคนนั้น แต่เธอก็เรียนรู้แล้วว่าเมื่อเกิดอาการเช่นนี้ สิ่งที่จะช่วยเธอได้นั้นคืออะไร
"รัต ... รัต ... เป็นเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว ... ร้อน ... ร้อน ... อืมมม ..."
ไม่ทราบว่ารีดเค้นเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน แต่รัตติกาลก็โผขึ้นไปโอบกอดกับร่างของชายหนุ่มที่เฝ้าไข้ดูแลเธอเสียแล้ว สำหรับเธอแล้ว ชายหนุ่มคนนี้เป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริงที่ไม่ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเธอ อีกทั้งยังคอยเฝ้าดูแลเธออยู่ไม่ห่างราวกับว่าเธอเป็นคนรักของเขา และความรู้สึกดี ๆ นั้นเองที่ทำให้รัตติกาลไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อยที่จะปล่อยให้เขาเป็นผู้ชายคนที่สองของเธอ
สุภาพบุรุษจอมปลอมที่โดนสาวสวยสวมกอดได้แต่ยืนนิ่งไม่ทราบควรทำตัวอย่างไรดี เพราะแม้ว่าเขาจะรู้สึกหื่นอยากมีอะไรกับสาวสวยอีกสักหลายครั้ง แต่ว่าเมื่อคืนเขาก็หักโหมมากเกินไปจนดุ้นเอ็นอ่อนแรงแทบลุกไม่ไหวอีกทั้งยังรู้สึกสงสารสาวสวยที่โดนเขาทำเสียจนบอบช้ำอีกต่างหาก กระนั้นเมื่อสาวสวยสวมกอดและซุกไซร้ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ต้องกอดรัดลูบไล้เรือนร่างสุดเซ็กส์ซี่ของดาวมหาลัยแสนสวยคนนี้
สาวสวยกอดก่ายซุกไซร้ร่ำร้องครวญครางเว้าวอน หากชายหนุ่มที่หมดแรงจนฟ้าเกือบเหลืองอ๋อยกลับได้แต่กอดจูบลูบไล้แล้วแหย่แยงนิ้วสอดใส่เข้าไปในร่องรักของหญิงสาวอย่างระรัวเร็ว รัตติกาลนอนบิดตัวพลิกพลิ้วไปมาอยู่บนเตียงด้วยความหฤหรรษ์แห่งรสรัก กระนั้นเสียงเรียกร้องโหยหาของเธอกลับแสดงมาอย่างชัดเจนว่าเธอต้องการมากกว่านั้น หลายครั้งที่เธอคว้ามือไปจับดุ้นเอ็นของเขาแล้วขยับร่อนสะโพกเข้าหา เหมือนพยายามจะจับมันยัดใส่เข้าไปในร่างของเธอ หากชายหนุ่มกลับบ่ายเบี่ยงเพียงใช้นิ้วมืออันเล็กสั้นตอบสนองความกระหายอันร้อนแรง
รัตติกาลเด้งสะโพกผายส่ายร่อนระริก ปากร้องครวญครางร้องขอความเป็นชายของเขาไม่ขาดปาก หากมีเพียงเสียงเจ๊าะแจ๊ะอันแผ่วเบาจากปลายนิ้ว และเสียงดูดจ๊วบจากริมฝีปากของเขาเป็นคำตอบ จวบจนกระทั่งร่องรักของสาวสวยตอดดูดปลายนิ้วของเขา ชายหนุ่มก็ก้มตัวลงไปกอดแบะจูบบดปากกับดาวมหาลัยแสนสวยที่ดิ้นเร่าสั่นสะท้านระริกด้วยถึงจุดสุดยอดแห่งอารมณ์รัก และก็เป็นปกรณ์ที่คอยช่วยเหลือตอบสนองเธอด้วยนิ้วมือจนเธอเสร็จสมติดกันอีกหลายรอบ โดยมิได้สอดใส่ของเขาเข้าไปในร่องของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สำหรับชายหนุ่มแล้วเขามิได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่ตัวเองเหนื่อยจนทนไม่ไหว จึงมิได้สอดใส่ให้เสร็จสมหากทว่าสำหรับสาวสวยไร้เดียงสาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ใคร่อย่างรัตติกาลนั้นกลับเอาไปคิดต่าง ๆ นา ๆ ในทั้งทางบวกและลบ หนึ่งนั้นเธอชื่นชมที่เขาเป็นสุภาพบุรุษไม่อยากเอาเปรียบเธอและรู้สึกดีกับเขาไม่น้อย กระนั้นในอีกห้วงอารมณ์ที่หลบซ่อนนั้นเล่า เธอกลับพบว่าตนเองแอบคิดจินตนาการถึงความรู้สึกหฤหรรษ์อันดิบเถื่อนกับชายหนุ่มเสียงแหบแห้งที่เป็นคนพรากพรหมจรรย์ของเะอเมื่อคืนอย่างมิอาจหักห้ามใจได้ไหว
...............................................................
ปกรณ์รู้สึกราวกับว่าตัวเองลอยล่องอยู่บนสรวงสวรรค์ก็มิปาน เวลาผ่านไปสามเดือนแล้วจากค่ำคืนนั้นที่เขาได้มีอะไรกับรัตติกาลสาวสวยดาวเด่นประจำมหาลัย เขาขอเธอคบหากันเป็นแฟนในค่ำคืนนั้น และเธอก็ไม่ปฎิเสธ เขาจึงกลายเป็นชายผู้แสนโชคดีที่ได้ควงรัตติกาลโดยที่หนุ่มอื่นได้แต่มองด้วยความริษยา ตลอดเวลาที่คบหากันเป็นแฟนนั้น ปกรณ์เอาใจใส่ดูแลเธอจนสุดกำลังเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่รัตติกาลเองก็เหมือนจะเปิดประตูหัวใจให้เขาอย่างเต็มที่ เกือบทุกค่ำคืน เธอจะหอบเสื้อผ้าไปนอนกับเขาที่อพาร์ทเม้นรูหนู
ด้วยความรู้สึกผิดที่่ยังคงตกตะกอนอยู่ในใจ ทำให้ชายหนุ่มทะนุถนอมรัตติกาลราวกับแก้วเนื้อบาง ไม่เว้นแม้แต่ตอนร่วมรักที่เขาพยายามเก็บรั้งออมอารมณ์หื่นเอาไว้มิให้หญิงสาวที่ตนเองหลงรักรับรู้ เขารั้งกำลังมิกล้าปลดปล่อยอารมณ์ดิบทุกคราที่เสพสมราคะกับสาวสวย เพียงกระทำอย่างนุ่มนวลจนต่างฝ่ายต่างเสร็จสม

นิสัยและความชอบของคู่รักต่างชนชั้นนั้นเข้าหากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนฟ้าจะลิขิตขีดเขียนเอาไว้แล้วว่าเธอต้องคู่กับเขา และเขาต้องคู่กับเธอ ต่างฝ่ายต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความห่วงใยอันน่าอิจฉากระนั้นท่ามกลางความสุขล้นชายหนุ่มกลับรู้สึกได้ถึงเงื่อนปมอะไรบางอย่างที่ค้างคา อะไรบางอย่างที่เขานึกคิดหาคำอธิบายไม่ได้
เย็นวันนั้น คลาสเรียนของปกรณ์ถูกยกเลิกกระทันหัน เขาจึงกลับไปยังห้องพักกะจะแกล้งเซอร์ไพรส์รัตติกาลที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ที่ห้องเพราะไม่มีคลาสเรียน แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปชายหนุ่มกลับได้แต่ยืนตาค้าง
ร่างขาวโพลนอวบอิ่มของรัตติกาลนั่งเปลือยแผ่หราอ้าสองขาอยู่บนเก้าอี้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงมุมห้อง สองตาของเธอหรี่ปรือจับจ้องมองภาพเคลื่อนไหวของเกมกามบนหน้าจอแทบไม่กระพริบขณะกำลังเล้าโลมช่วยตัวเอง เธอสวมใส่หูฟังครอบเอาไว้จึงมิได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาของชายหนุ่ม ร่างของเธอสั่นสะท้านระริกไม่หยุดขณะที่ลูบไล้ฝ่ามือของตัวเองบีบขยี้ไปตามเนื้อตัวอันเนียนนิ่ม ในขณะที่อีกมือหนึ่งนั้นก็จับแท่งโรลออนขยับวิ่งเข้าวิ่งออกกลีบอูมที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมิกล้าใช้งานเกินควรจนกลีบปลิ้นยับยู่ย่น
ดาวมหาลัยแสนสวยสูดปากส่งเสียงครางซี้ดซ้าดอย่างเสียวซ่านสาแก่ใจ ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอคอมนั้นชายหนุ่มจดจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นหนังเอ็กซ์ที่นางเอกสุดสวยโดนชายร่างล่ำบึ้กวางยาแล้วข่มขืนจนน้ำแตกน้ำแตน มาตอนนี้จึงค่อยได้รู้สาเหตว่าทำไมซีดีหนังโป๊ที่เขาแอบซ่อนไว้ถึงมักจะโดนรื้อออกมา
รัตติกาลร้องครางหนักขึ้นขณะใช้มือบีบขยี้สองเต้าเต่งของตัวเองจนบี้แบน บัดนี้เธอหลับตาพริ้มขยับโยกแท่งโรลออนเข้าออกอย่างถี่ยิบ สะโพกผ่องผายเด้งร่อนส่ายวนไปมาอย่างแรดร่าน เธอส่งเสียงร้องโอดโอยเรียกหาคุณขา คุณขา ไม่ขาดปาก เห็นได้ชัดว่าสาวสวยอารมณ์เปลี่ยวนั้นใกล้จะถึงจุดสุดยอดในอีกไม่ช้านี้แล้ว
ปกรณ์ แม้จะตื่นตกใจกับลีลาร่านสวาทที่ยังไม่เคยพบเห็นจากแฟนสาวของตนเอง กระนั้นเมื่อได้มองในระยะใกล้ถึงเพียงนี้ก็อดไม่ได้ต้องเกิดอารมณ์หื่นขึ้นมาจนควยลุกโด่ เขาบีบขยำเป้ากางเกงขณะค่อย ๆ เดินเข้าไปหาดาวมหาลัยร่านสวาทด้วยความตั้งใจว่าจะจัดหนักให้เธอเสียหน่อย กระนั้นเมื่อรัตติกาลเด้งแอ่นเอวกระตุกเฮือกเพราะถึงจุดสุดยอด คำพูดที่เธอเผลอร้องครางออกมาก็ทำให้เขาถึงกับต้องหยุดชะงักงัน
"ซี้ดดด ผัวขา ได้โปรด ... รัตอยาก ... อยากโดนเหมือนคืนนั้น อะ อะ อี๊อออออ ซี้ดดดสสสสส ... อะ ซี้ดดสส"
ปกรณ์ที่กำลังหื่นจัดจนไฟลุกโชนถึงกับต้องหยุดนิ่งราวกับโดนน้ำเย็นราดรดใส่ อย่างแรกก็คือ รัตติกาลไม่เคยเรียกหาเขาว่า ผัว เลยแม้แต่เพียงคำเดียว และอย่างที่สองก็คือ แฟนสาวที่แสนจะสวยหวานเรียบร้อยของเขานั้นกลับร่ำร้องเรียกหาชายคนที่ได้เปิดซิงเธอในค่ำคืนเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
ขณะที่รัตติกาลยังคงนอนหอบหายใจกระเส่าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น ประตูห้องก็โดนปิดลงอย่างเงียบงัน ชายหนุ่มเดินล่าถอยออกมาจากห้อง แล้วยืนพิงผนังปูนด้วยความรู้สึกสับสนอลหม่าน ความรู้สึกแรกของเขาก็คือสับสน จากนั้นก็ตามมาด้วยความรู้สึกโกรธ แค้น ริษยาต่อตัวเอง ถัดจากนั้นก็เป็นความตื่นเต้นยินดีที่ไม่ทราบสาเหต ชายหนุ่มไม่ทราบเหตผล รู้แต่เพียงว่านั่นก็ทำให้เขาตัดสินใจทำเรื่องบ้า ๆ อะไรบางอย่างลงไป
ซิมโทรศัพท์เบอร์ใหม่โดนเอามาเสียบในโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มส่งเสียงกระแอมสองสามครั้ง พยายามดัดเสียงตัวเองให้แหบแห้งคล้ายกับค่ำคืนนั้นที่เขาเจ็บคอไม่สบาย จากนั้นก็กดโทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของรัตติกาล เขาไม่เสียเวลาอะไรมากความ เพียงข่มขู่นัดหมายบอกให้เธอไปหาเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะนำคลิปเปิดซิงขึ้นเนต
ชายหนุ่มกดวางสายเสร็จก็ไอแค่ก ๆ ออกมาขณะกดปิดเครื่อง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้กล้าทำเรื่องบ้าบอแบบนี้กับผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด รู้แต่ว่าในใจนั้นรู้สึกตื่นเต้นระทึกชะมัด และแม้จะยังนึกหาเหตผลให้รัตติกาลเดินทางไปตามนัดไม่ออกสักข้อ แต่ในใจนั้นปกรณ์กลับเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเธอต้องไปอย่างแน่นอน

เมื่อมองเห็นร่างนางแบบของนักศึกษาสาวเปิดประตูแล้วเดินอย่างเชื่องช้าลังเลไปยืนเกาะอยู่กับราวระเบียงของดาดฟ้าบนตึกสูง ปกรณ์ก็หยิบน้ำหอมออกมาพรมไปทั่วตัวเพื่อมิให้เธอจดจำกลิ่นกายของเขาออก จากนั้นจึงค่อยเริ่มขยับตัวออกมาจากแหล่งซุ่มซ่อนอันลับสายตา สถานที่อันมืดร้างไร้ผู้คนแห่งนี้เขาเคยมากินเหล้ากับเพื่อนสองสามครั้งแล้ว จึงค่อนข้างแน่ใจได้ว่าจะไม่มีมือที่สามมาเป็นก้างขวางคอ และก็เป็นสถานที่อันแสนจะเหมาะสมสำหรับการนัดหมายแฟนสาวมาพบหาในฐานะโจรสวาทเสียงแหบแห้ง
สาวสวยคล้ายได้ยินเสียงขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวของเขา เงาร่างของเธอจึงหันขวับกลับมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันกริ่นเกรงสงสัย ปกรณ์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะทำใจดีสู้เสือเดินตรงเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า บนดาดฟ้าแห่งนี้มืดมาก มืดเสียจนแทบไม่เห็นอะไร เขาเองก็มองเห็นรัตติกาลเป็นเพียงเงาอันรางเลือน และเธอเองก็สมควรที่จะมองไม่ออกว่าที่แท้แล้ว เขาน่ะคือแฟนหนุ่มของเธอเอง
เมื่อชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหาโดยมิตอบคำ เงาร่างอันอ้อนแอ้นของรัตติกาลก็ขยับถอยหลังอย่างระแวดระวังจนแผ่นหลังชนเข้ากับกับราวกั้น เมื่อไร้ซึ่งทางถอยหนีร่างกำยำที่เห็นเป็นเพียงเงาดำมืดของชายหนุ่มก็ขยับเข้าไปจนแทบแนบประชิดกับร่างของเธอ
ปกรณ์ที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแสนดีมาตลอดเวลา ไม่ทราบพกพาความหื่นกระหายมาจากไหน เพียงได้กลิ่นหอมจางจากร่างของรัตติกาล เขาก็เอื้อมสองมือออกไปจับที่หัวไหล่กลมมนนุ่มนิ่มของสาวสวย ตอนนี้เขาจึงค่อยได้รู้ว่าร่างของเธอกำลังสั่นสะท้านระริก หากมิทราบว่าด้วยความกลัวหรือว่าความตื่นเต้นกันแน่
ไม่ต้องพูดจาให้เสียเวลา ชายหนุ่มขยับลูบสองมือเลื่อนลงต่ำมาเกาะกุมขยำที่สองเต้าอวบใหญ่กลมดิกของสาวสวย ก่อนจะต้องตกใจที่รัตติกาลมิได้สวมใส่ยกทรงมาอย่างที่เขาได้สั่งการเอาไว้ อีกทั้งตอนนี้ขณะที่ยังมิได้ทำอะไรมากมาย หัวนมของแฟนสาวก็แข็งเต่งเป็นเม็ดขึ้นมาเสียแล้ว และนี่ก็แสดงว่าเธอกำลังมีอารมณ์ทางเพศแล้ว
"ไม่ใส่ยกทรงแบบนี้ดีมาก ... อูยยย นมใหญ่จัง บีบโคตรมันส์"
ชายหนุ่มดัดน้ำเสียงเป็นแหบแห้งก่อนจะพูดออกมาด้วยความหื่นกระหาย ขณะเดียวกันนั้นสองมือก็บีบขยำขยี้กับก้อนเนื้ออันนุ่มหยุ่นแน่นเปรี๊ยะของสาวสวยจนเธอส่งเสียงครางซี้ดซ้าดออกมาไม่หยุด
"อะ อะ อืมมม คะ คุณ ... ใช่คุณจริงด้วย คุณชื่ออะไรคะ … อืมมม อะ ... ซี้ดดสสส"
ปกรณ์ที่กำลังหื่นกระหายหาได้สนใจคำถามของเธอไม่ เขาเพียงจับเธอหมุนตัวหันหน้าออกไปด้านนอกอาคาร แล้วสวมกอดเธอจากด้านหลัง สองมือบีบคลึงหน้าอกไม่หยุด ปากก็ซุกไซร้จูบไล้ไปตามซอกคอขาวเนียนอย่างหิวโหย แม้จะเคยร่วมรักกับร่างงามนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ชายหนุ่มเพิ่งจะตระหนักได้ว่าการสวมบทบาทชายชู้นั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ดีจนไม่มีครั้งใดเทียบติด
รัตติกาลหอบหายใจฟืดฟาด ทิ้งตัวอ่อนระทดระทวยอยู่ในอ้อมกอดของชายชู้โดยมิมีท่าทีต่อต้านขัดขืนแม้แต่น้อยนิด และก็กลับกันเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอกำลังแอ่นอกอวบเข้าหาฝ่ามือของชายชู้ด้วยกิริยาอันเร่าร้อนในแบบที่ไม่เคยแสดงออกมาก่อนขณะร่วมรักกับปกรณ์ในฐานะแฟนหนุ่ม
ชายหนุ่มกระชากดึงเสื้อนักศึกษาของเธอจนกระดุมเสื้อปลิวว่อน ก่อนจะลงมือขยำขยี้ฟอนเฟ้นสองเต้าอวบอย่างดิบเถื่อนรุนแรงเท่าที่สุดที่เขาเคยกระทำกับเธอ หากหญิงสาวร้อนรักกลับร่ำร้องครวญครางออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มหลงไหล ยิ่งเมื่อเขาล้วงมือลอดกระโปรงนักศึกษาลงไปแล้วคว้าหมับเข้ากับตรงกลางหว่างขาของเธอ สาวสวยก็ถึงกับผวาเฮือกเด้งสะท้าน ร่ำร้องเรียกหาผัวขาจนเสียงหลง
ปกรณ์แทบจะไม่รู้สึกประหลาดใจอีกแล้วที่ได้พบว่ารัตติกาลมิได้สวมใส่กางเกงในมา หนำซ้ำที่ปลายนิ้วของเขานั้นกลับมีแต่ความชุ่มฉ่ำเปียกชื้น เมื่อบดปลายนิ้วเขี่ยบดคลึงหมุนวนไปตามติ่งแตด สาวสวยก็ถึงกับเด้งสะโพกโยกไหวอย่างรุนแรงในแบบฉบับที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
รัตติกาลร่ำร้องด้วยน้ำเสียงอันอ่อนหวานขณะเอื้อมมือมาด้านหลังขยำเข้ากับเป้ากางเกงของเขาราวหญิงสาวร่านสวาท เธอขยำความเป็นชายของเขาจนชายหนุ่มครางซี้ดออกมา ลีลาร่านสวาทของแฟนสาวทำเอาอารมณ์ของปกรณ์ที่เดือดพล่านอยู่แล้วถึงกับแทบระเบิดออกมา เขาบีบขยำสองเต้าสวยนั้นแรงขึ้น พร้อมกับสอดนิ้วแหย่แยงเข้าไปในร่องสวาทโดยมิคิดสนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่อย่างไร
ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มรูดซิปกางเกงของเขาลง ก่อนจะขยับไปปลดตะขอกางเกงออก แล้วล้วงวูบไปบีบขยำท่อนเอ็นที่แข็งเกร็งรอคอยการปลดปล่อย เธอจับมันแล้วลูบไล้อย่างโหยหา ก่อนจะรูดกระถอกยุกยิกด้วยลีลาอันเร่าร้อนจนชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือรัตติกาลแฟนสาวแสนหวานของเขา กระนั้นชายหนุ่มก็แอบจดจำได้ว่าฉากรักนี้กลับเหมือนกับฉากหนึ่งในหนังโป๊ที่อยู่ในห้องเปี๊ยบ
ความหื่นที่ผสานผสมกับความคับแค้นในใจทำให้ชายหนุ่มยิ่งอดใจตัวเองไม่อยู่ ในท่วงท่ายืนกอดจากด้านหลังนั้น ชายหนุ่มจับสองขาของเธอถ่างแยกออกจากกัน จากนั้นก็จับท่อนเอ็นอันเขื่องไปที่ปากร่องเสียวของเธอ ก่อนจะกระดกเอวเสียบพรวดเข้าไปสุดแรงแบบทีเดียวมิดด้าม จนสาวสวยหวีดร้องสะดุ้งเฮือกออกมา
ชายหนุ่มบีบขยี้สองเต้าของเธอไปพลาง เดินเครื่องควงบั้นเอวกระแทกดุ้นเอ็นเข้าใส่ร่องรูของเธอไปพลางอย่างต่อเนื่องราวลูกสูบรอบจัด สาวสวยส่งเสียงหวีดร่ำร้องอย่างสุขเสียว ไปพร้อมกับเด้งร่อนสะโพกเข้าสู้กับแรงกระแทกของเขา เล็บมือของเธอจิกกำระบายความเสียวเข้าไปที่ข้อมือของเขาอย่างแรงจนเลือดซิบหากชายหนุ่มก็หาได้สนใจไม่ ในหัวมีแต่เพียงความหฤหรรษ์ที่ได้กระเด้าเย็ดดาวมหาลัยแสนสวยแบบไม่ต้องอัดอั้นรั้งออม
สาวสวยเป็นฝ่ายหวีดร้องออกมาก่อน ร่างของเธอกระตุกเฮือกสั่นระริกเมื่อถึงจุดสุดยอด หากชายหนุ่มยังคงเพิ่งไปได้เพียงครึ่งทางจึงกระเด้าเอวต่อแบบไม่สนใจอะไร จวบจนกระทั่งเมื่อท่อนเอ็นของเขากระฉูดน้ำกามออกมา รัตติกาลก็ถึงจุดสุดยอดเป็นรอบที่สองพอดี
ต่างฝ่ายต่างยืนกอดก่ายสงบนิ่งหอกฮั่กอย่างเหนื่อยอ่อน หากในน้ำเสียงอันเหน็ดเหนื่อยนั้นกลับเป็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขหฤหรรษ์ยิ่งกว่าครั้งใด สำหรับปกรณ์แล้ว ความตื่นเต้นอย่างแรกคือการได้ร่วมรักในฐานะชายชู้ อย่างที่สองก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่รัตติกาลตอบสนองลีลารักของเขาอย่างเร้าอารมณ์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และอย่างสุดท้ายก็คือ นี่เป็นเซ็กส์นอกสถานที่ครั้งแรกที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะได้ทำ
หนุ่มสาวร้อนสวาทต่างบรรเลงเพลงกามจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ชายหนุ่มแทบไม่ได้เอ่ยปากพูดสนทนากับเธอ แต่รัตติกาลก็ไม่ได้สนใจจะเอ่ยถามแต่อย่างใด ราวกับว่าขอแค่มีเซ็กส์กันก็เพียงพอแล้ว เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอนัดเจอกับเขาอีกครั้งเองเสียด้วยซ้ำ ด้านชายหนุ่มแม้จะรู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีไปพร้อมกัน จึงรับปากนัดหมายกับสาวสวยเพื่อมีเซ็กส์กันอีก และความสัมพันธ์นี้เองที่ดำเนินไปอย่างหลบๆ ซ่อน ๆ อีกนานหลายปี จนบังเกิดเป็นความสัมพันธ์รักฉันท์ชู้สาวที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างน่างุนงง
.......................................................................
"เรื่องราวมันก็เป็นอย่างงี้แหละว่ะ ตอนนี้ข้าก็เลยไม่รู้จะเอาไงดี ปล่อยไปแบบนี้จะดีมั้ยวะไอ้หมอโรคจิต"
ปกรณ์ในวัย 26 ปี คลายเนคไทสีดำสนิทออกเล็กน้อย ก่อนพูดพลางเหม่อมองใจลอยไปยังสวนสีเขียวที่อยู่นอกหน้าต่างของโรงพยาบาล
"เอ๊ะไอ้เหี้ยกรณ์ ข้าเป็นหมอบำบัดโรคจิตนะโว้ย ไม่ใช่หมอโรคจิต เดี๋ยวปั๊ดไม่ให้คำปรึกษาซะเลยนี่"
ชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกันในชุดแพทย์สีขาว เงยหน้าจากการจดบันทึกข้อมูลขึ้นมาส่งเสียงโวยวายประท้วงด้วยรอยยิ้มของเพื่อนสนิท
"ฮ่า ฮ่า เออ ไม่เรียกก็ไม่เรียก ... แล้วเท่าที่เล่าให้เอ็งฟังนี่ เอ็งคิดว่าไงวะ คุณหมอบำบัดโรคจิต"
"เคสของเอ็งเหรอวะ ... ข้าว่าแบบนี้มันอาการโรคจิตชัด ๆ"
"เฮ้ย ไอ้หมอ อย่ามาว่าเมียข้านะเว้ย"
"เปล๊า กูไม่ได้ว่าเมียเอ็ง แต่ว่าเอ็งนั่นแหละ ไอ้โรคจิต ทำเป็นรักษาภาพต่อหน้าเมีย แต่ลับหลังเสือกเป็นโจรบ้ากาม ข้าล่ะสงสารคุณรัตจริงจริ๊ง สวยก็สวย เอ็กซ์ก็เอ็กซ์ ไม่น่าไปแต่งกับเอ็งเลยว่ะ"
"ไอ้หมอเวร ข้ามาขอคำปรึกษานะเอ้ย ไม่ใช่มาให้ถล่มซ้ำ"
"อ้าว เรอะ ลืมไป นึกว่าเอ็งกะจะมาให้ข้าด่า ... เออ เออ งั้นเอาแบบนี้ เท่าที่ฟังเรื่องราวมาเอ็งมี 3 ทาง หนึ่ง ... ปล่อยไปแบบนี้ เอ็งก็เป็นทั้งสามีและชู้แบบทูอินวัน เพราะดูเหมือนเอ็งก็ชอบ เมียเอ็งก็ชอบ ไม่มีอะไรเสียหาย"
"ถ้าข้าชอบ จะมาปรึกษาเอ็งเหรอวะ ไอ้หมอ"
"จริงเรอะ ข้าว่าเอ็งชอบอยู่นะ งั้นข้อสอง ใช้เวลาหน่อย เอ็งค่อย ๆ ใช้เวลาสารภาพความลับกับเมียเอ็งซะยังไงเมียเอ็งก็รักเอ็ง มีลูกแล้วอีกต่างหาก ยังไงก็คงไม่โกรธเกลียดแกจนแบบรับไม่ได้หรอกมั้ง"
"... อืม อันนี้ข้าก็กะจะลองทำดูอยู่ว่ะ แต่ ..."
"แต่อะไร ? ฮั่นแน่ เอ็งเสียดายอ่ะดิ ที่อาจจะไม่ได้ปล้ำเมียเอ็งแบบเถื่อน ๆ อีก"
"ไอ้หมอ เอ็งนี่มันคิดแต่ละเรื่อง ... เออ ... แต่ว่าเอ็งคงพูดถูกว่ะ ... แล้วทางที่สามล่ะวะ"
"ทางที่สาม ... จริง ๆ ข้าไม่ค่อยอยากจะแนะนำเท่าไหร่ ... ต้องย้อนความกลับไปก่อน ว่าอาการของเมียเอ็งน่ะในทางแพทย์เรียกกันว่า Deep Imprint หรือ ความประทับใจฝังแน่น แรกเริ่มก็โดนยาปลุกเซ็กส์ที่มีฤทธ์ยากล่อมสมองอยู่ในตัว เธอทนทรมาณอัดอั้น จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาช่วย แถมยังทำซะเธอสุขสมใจแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เธอก็เลยเกิดอาการประทับใจว่าผู้ชายคนนี้แหละที่เป็นฮีโร่ของเธอ พูดง่าย ๆ ก็คือ อาการคล้ายคนติดยา ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เสพแล้วสุขสม ... ส่วนแกไอ้กรณ์ แกเองก็เป็นฮีโร่ของคุณรัตเค้าเหมือนกันแต่เป็นไปในอีกทาง คุณรัตเค้าคงวางแกไว้เป็นคู่ชีวิต ที่เน้นความรักบริสุทธ์ แกไม่ต้องสงสัยเลยว่าเค้ารักแกแน่นอน เพียงแต่สำหรับชายชู้คนนั้น เป็นเหมือนรสชาตอันท้าทายในชีวิต ... "
"... แล้วต้องทำยังไงวะ?"
"ต้องบอกก่อนว่าข้าไม่แนะนำนะเว้ย เพราะมันคาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก แต่หลักการก็คือ หากเอ็งสามารถสร้างความประทับใจครั้งใหม่ ที่รุนแรงกว่าครั้งแรกได้ คุณรัตก็จะประทับตราตรึงตัวแกไปในอีกทางอีกรูปแบบ ถ้าจะพูดสั้น ๆก็คือ การให้ 'ยาแรง' นั่นแหละ"
ปกรณ์บ่นพึมพัมคำว่ายาแรงซ้ำไปซ้ำมา ขณะกุมสองมือเข้าหากันจนแน่น ในหัวของชายหนุ่มมีแต่เพียงสองคำนี้ลอยวนไปวนมารอบแล้วรอบเล่า โดยมิได้คิดสนใจจะรับฟังคำพูดสนทนาของหมอเพื่อนรักอีกเลยแม้แต่คำเดียว


"Ladies and gentle men, My name is Ruttikal, CEO and Executive Director of the company ..."
ปกรณ์คลายปมของเนคไทออกเล็กน้อย ก่อนจะนั่งเอนหลังมองรัตติกาลภรรยาสาวแสนสวยพูดกล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประชุมด้วยความรู้สึกอันลุ้นระทึก ยิ่งเห็นเธอหยิบแก้วน้ำผสมยาปลุกเซ็กส์แล้วดื่มลงคอไป ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความกระสันที่กำลังก่อตัวอยู่ในร่าง ไม่ทราบว่าเพราะความตื่นเต้นไปกับการจัด'ยาแรง' หรือเปล่า แต่วันนี้เขากลับรู้สึกมีอารมณ์มองเห็นภรรยาของเขาที่สวยเซ็กส์ซี่น่าฟัดอยู่แล้ว กลับสวยเย้าเร้าใจขึ้นไปอีก
ชายหนุ่มกวาดตามองไล่ไปยังหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติทั้งหกคนที่นั่งเรียงกันอยู่ในห้องทำงานของประธานกรรมการใหญ่ ทุกคนในกลุ่มที่เขาแสร้งอุปโลกน์อ้างเป็นกรรมการบริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่นั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นกลุ่มนายแบบนางแบบที่ใช้เงินจัดฉากซื้อหามาทั้งสิ้น สองในนั้นเป็นสาวสวยหุ่นเอ็กซ์นางแบบนิตยสารปลุกใจ สาวผิวขาวเหลืองร่างเล็กบอบบางคนนั้นเป็นสาวญี่ปุ่นชื่ออาโออิ ส่วนอีกคนเป็นสาวอเมริกันผมบลอนด์ทองชื่อซินดี้
ด้านชายหนุ่มทั้งสี่นั้นก็หล่อเหลาเหมือนนายแบบเช่นเดียวกัน คนแรกเป็นคนอังกฤษชื่อบอนด์ผิวขาวสูงโย่งหล่อเท่ห์ คนที่สองผิวสีแทนชื่อราฟาเอลเป็นชาวบราซิลหน้าตายิ้มแย้มร่าเริง คนที่สามเป็นคนเกาหลีผิวขาวชื่อปาร์คหน้านิ่งเงียบเหมือนนักร้องบอยแบนด์ที่สาวไทยคลั่งไคล้ และคนสุดท้ายนั้นเป็นชายผิวดำหุ่นกำยำล่ำบึ้กชื่อเอธาน
ยิ่งเวลาผ่านปกรณ์ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นเร้าใจ สี่หนุ่มต่างชาติที่เขาจัดฉากมานั้นล้วนแล้วแต่กำลังจับจ้องมองไปยังรัตติกาลภรรยาของเขาด้วยสายตาหื่นกระหายหมายมาดราวกับว่าไม่เคยพบเห็นผู้หญิงคนไหนสวยเซ็กส์ซี่แบบเมียเขามาก่อน
รัตติกาลเริ่มพูดจาตะกุกตะกักยืนส่ายศรีษะไปมา มิทราบว่าเธอรู้ตัวหรือไม่ แต่ตอนนี้ประธานสาวแสนสวยกำลังถอดเสื้อสูทสีดำออกจนหลุดลุ่ย แล้วใช้สองมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างอวบอิ่มด้วยกิริยาแสนเย้ายวนใจปกรณ์แทบอยากจะจับเธอมาขย่มตั้งแต่ตอนนี้เสียให้หายอยาก แต่เมื่อสองสาวนางแบบซินดี้และอาโออิหันมามอง ชายหนุ่มจึงค่อยได้สติส่งสัญญาณให้เริ่มแผนการได้
รัตติกาลที่กำลังเคลิบเคลิ้มถึงกับสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เพราะสองสาวต่างเชื้อชาติอาโออิและซินดี้ลุกขึ้นมายืนประกบแล้วใช้มือลูบไปตามไหล่และแขนของเธอ ประธานสาวแสนสวยเบิกตามองพวกเธออย่างตื่นตกใจ ทั้งพยายามจะดิ้นรนออกจากอ้อมกอดที่ถาโถมเข้ามา หากทว่าเมื่อโดนฝ่ามือทั้งสี่ข้างลูบไล้ไปตามสะโพกผายงอน และบีบขยำที่ทรวงอกอวบ รัตติกาลก็ถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรงส่งเสียงครางอูวอาออกมาอย่างมิอาจกักเก็บไว้ได้
รัตติกาลที่ตอนหนี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอยากพยายามส่งเสียงร้องห้ามและหันไปขอความช่วยเหลือจากปกรณ์ที่นั่งมองตาแป๋วอยู่ด้านข้าง หากชายหนุ่มเพียงส่งยิ้มตอบและนั่งนิ่งมองดูเธออยู่เช่นเดิม เธอจึงได้แต่ร้องห้ามออกมาเสียงหลง เมื่อเสื้อและยกทรงของเธอโดนปลดออกจนสองเต้านมอวบสวยเด้งทะลักออกมาสะท้อนกับแสงไฟสีขาว จากนั้นก็ร้องครางซี้ดซ้าดออกมาเป็นชุดเมื่ออาโออิ และซินดี้แบ่งหน้าที่อ้าปากงับดูดเลียเต้านมคนละข้าง
ร่างที่สั่นสะท้านระริกด้วยความหฤหรรษ์ในลักษณะคล้ายจำยอมมิขัดขืน ทำให้ปกรณ์ยิ่งรู้สึกคลั่งขึ้นมากว่าเดิม เขาพยักหน้าส่งสัญญาณให้สี่หนุ่มนายแบบ จากนั้นชายทั้งสี่ และตัวเขาเองก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ไม่ทราบว่าเพราะอารมณ์ทางเพศที่ตื่นตัวขึ้นมาหรืออะไรที่ดลใจให้รัตติกาลไม่ขยับตัวขัดขืนเมื่ออาโออิและซินดี้ทำการปลดกระโปรงและดึงรั้งกางเกงในของเธอลงไปเบื้องล่างจนเธอเปลือยกายล่อนจ้อน
รัตติกาลถึงกับหอบหายใจกระเส่าไปกับจินตนาการอันแสนวาบหวิว แม้ไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรแต่เธอก็คิดไม่ได้ว่าหากต้องโดนสี่หนุ่มต่างเชื้อชาติมารุมกระหนาบกอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอจะเสียวสยิวซาบซ่านสะท้านทรวงถึงเพียงไหน ดวงตากลมโตของเธอไปหยุดนิ่งอยู่ที่สามีสุดที่รักครู่ใหญ่ เธอเพิ่งตระหนักเดี๋ยวนี้เองว่า ที่แท้แล้วสามีของเธอนั้นก็ยาวใหญ่ไม่แพ้ใคร เรียกได้ว่าไซส์พอ ๆ กันกับเอธานหนุ่มผิวดำหุ่นล่ำคนนั้นเลยทีเดียว และไม่ทันไรอาโออิกับซินดี้ที่ถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนแล้วนั้นต่างก็โผพุ่งเข้าไปจับเอาดุ้นเอ็นของปกรณ์มาแย่งกันดูดเลียเสียแล้ว
รัตติกาลมิทันจะได้แสดงอารมณ์หึงหวง สี่หนุ่มต่างเชื้อชาติก็ล้อมกรอบเข้ามาหาเธอ ฝ่ามืออันหยาบกร้านทั้งแปดข้างล้วงเขามาลูบไล้เนื้อตัวของเธออย่างไม่เกรงอกเกรงใจจนเธอตัวเกร็งเด้งหน้าเด้งหลังเสียอุตลุต บ้างบีบตะโปมสะโพกก้นของเธอ บ้างขยำขยี้สองเต้า บ้างแหย่นิ้วชอนไชเข้าไปในร่องรูสวาท และรูก้นด้วยลีลาอันแสนจะช่ำชอง คำผรุสวาทหื่นกระหายต่างภาษาออกมาจากปากสี่หนุ่มอย่างไม่หยุดยั้ง
รัตติกาลพยายามรวบรวมสติส่งเสียงร้องห้ามออกมา แต่เมื่อเธออ้าปากเอธานหนุ่มผิวดำก็แหย่นิ้วเข้ามาในโพรงปากของเธอ จากที่จะทำการส่งเสียงร้อง เธอจึงได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ แล้วก็อดไม่ได้ต้องดูดเลียนิ้วสีดำมะเมื่อมของเอธาน และขณะเดียวกันนั้นสองตาก็ได้แต่จับจ้องมองสามีที่ร้องครวญครางเพราะโดนสองสาวรุมขนาบหน้าหลัง
ทันใดนั้นโลกของเธอหมุนคว้างไปมา สี่หนุ่มจับอุ้มประคองร่างอวบอิ่มของเธอขึ้นไปนอนหงายอวดเรือนร่างอะล่างฉ่างอยู่บนโต๊ะทำงาน จากนั้นก็เป็นความเสียวแปลบปลาบที่โจมตีเข้ามาอย่างหนักหน่วงจนสะโพกของเธอลอยไหวส่ายไปมาไม่ติดพื้นโต๊ะ เพราะปาร์คหนุ่มเกาหลีหน้าหล่อนั้นกำลังซุกหน้าลงไปเลียร่องสวาทของเธอเข้าเสียแล้ว เท่านั้นยังไม่พอเอธานหนุ่มผิวดำก็ขยับขึ้นมานั่งคร่อมแล้วจับเอาดุ้นเอ็นยาวใหญ่ดำมะเมื่อมยัดใส่เข้ามาซอยยิก ๆ ในปากแบบไม่ยั้ง ตามด้วยสองหนุ่มบอนด์และราฟาเอลที่ขนาบเข้ามาจากทางซ้ายและขวา ขยับดุ้นเอ็นมาทิ่มแทงที่แก้มของเธอ พร้อมกับจับมือของเธอให้บีบกำดุ้นของพวกเขาแล้วรูดถอกยิก
รัตติกาลไม่รู้ และไม่สนใจอีกแล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร อารมณ์ของเธอกำลังพลุ่งพล่านจนแทบระเบิดปากของเธออ้าออกดูดเลียดุ้นเอ็นสีดำยาวใหญ่ของเอธานอย่างช่ำชองมากลีลา ด้านสองมือนั้นก็บีบกระชับรูดถอกเข้าใส่ดุ้นเอ็นต่างไซส์ต่างสีของบอนด์และราฟาเอลแบบถี่ยิบ
เรือนร่างงามกระตุกเฮือกสั่นระริกเพราะถึงจุดสุดยอดไปแล้วสามรอบ ลีลาลิ้นของปาร์คหนุ่มเกาหลีที่ดุ้นเล็กสั้นคนนั้นช่างร้ายเหลือจนมิอาจทานทนไหว อารมณ์ร่านสวาทเร่งเร้าให้เธอออกแรงดูดดุนแรงขึ้นพร้อมกับกระตุกมือเร็วยิกจนสามหนุ่มครางอูววว และพากันกระฉูดน้ำกามเข้าใส่ใบหน้าและปากของเธอจนเปรอะเลอะเต็มไปทั่วทั้งใบหน้า สองตาได้แต่หลับพริ้มลืมไม่ได้เพราะน้ำกามยังคงเอ่ออยู่ตรงนั้น ในจมูกและปากมีแต่กลิ่นอันคาวคลั่กข้น
ปกรณ์ยืนมองภาพเมียสาวของตนโดนชายสี่คนกลุ้มรุมด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย หนึ่งนั้นเจ็บแปลบหึงหวงแทบทนรับไม่ได้ กระนั้นอีกความรู้สึกนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นเต้นกระสันเร้าใจ สองเต้าขาวอวบที่เขาเคยยึดครองแต่เพียงผู้เดียว กำลังโดนชายอื่นบีบขยี้เคล้นคลึงสลับกับใช้ปากดูดเลียที่ปลายถัน ร่องสวาทที่มีแต่เขาที่เคยรุกล้ำกำลังโดนไอ้หนุ่มเกาหลีดูดเลียอยู่อย่างตายอดตายอยาก
อารมณ์อันกลัดมันทำให้ปกรณ์ผลักไสร่างของสองสาวที่กำลังแย่งกันดูดเลียดุ้นเอ็นของเขาออกไปจากนั้นจับซินดี้ลงนอนแผ่หราบนพื้นห้อง แล้วขึ้นคร่อมกระเด้ากระแทกเอวใส่แบบไม่ยั้ง นางแบบสัญชาติอเมริกันมิทราบไม่เคยโดนของใหญ่แบบนี้มาก่อนหรือไม่ เธอถึงกับตาเหลือกอ้าปากค้างในตอนแรก แต่จากนั้นไม่นานเธอก็สูดปากสบถร้องครางอย่างสุดหฤหรรษ์ออกมา
รัตติกาลแว่วได้ยินเสียงร้องครางเยส ฟักมี มอร์ของซินดี้ออกมาดังลั่น เธอเกิดความรู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ เมื่อคิดไปว่าสาวฝรั่งผมทองคนนั้นคงจะโดนของดีของปกรณ์เล่นจนถึงสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทันไรร่างของเธอก็พลิกหมุนติ้วไปมาอีกครั้ง ตอนนี้เธอโดนจับมายืนโก้งโค้งหน้าคว่ำแนบอยู่กับโต๊ะทำงานของเธอ
ถัดจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องครางกระเส่าอารมณ์ของซินดี้และอาโออิดังมาจากด้านข้าง ที่แท้พวกเธอทั้งสามคนโดนจับมายืนโก้งโค้งเรียงเป็นแถวให้บรรดาชายหนุ่มอารมณ์หื่นทั้งหลายได้ขึ้นขย่มกันนั่นเองรัตติกาลกระตุกเฮือกเมื่อมีดุ้นของใครบางคนสอดพรวดเข้ามาจากทางด้านหลัง ขนาดที่ทั้งยาวและใหญ่ของมันทำให้เธอคาดเดาไม่ถูกว่าเป็นของใคร แต่จะว่าไปตอนนี้เธอก็ไม่คิดสนใจอยู่แล้วว่าจะเป็นดุ้นของใคร
ประธานสาวสวยเด้งหน้าเด้งหลังไม่หยุด ใครคนนั้นกำลังกระแทกเธอแบบรุนแรงเหลือเกิน หากทว่าเธอกลับช่างรู้สึกสุขสมหฤหรรษ์สาแก่ใจที่สุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความกระสันที่โดนกลุ้มรุมทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังปลุกเร้าจนร่างของเธอกระตุกเกร็งสะท้านถึงจุดสุดยอดได้อย่างรวดเร็ว หากทว่าสองหนุ่มยังคงขยับกระแทกเข้าใส่ต่อแบบไม่มียั้ง จนเธอเสร็จอีกรอบนั่นแหละ เธอถึงค่อยได้รับรู้ถึงน้ำกามอันร้อนวูบที่ไหลทะลักเข้าไปในร่าง

เรือนร่างเปลือยเปล่าขาวสะพรั่งของเธอโดนจับพลิกหมุนอีกครั้งจนอยู่ในท่านอนหงาย หากดุ้นเอ็นของใครคนนั้นยังคงสอดใส่ค้างคาอยู่เต็มร่องเช่นเดิม เธอค่อยลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะพบว่าเจ้าของดุ้นที่เพิ่งมอบความสุขเสียวแบบสุด ๆ ให้กับเธอนั้นก็คือปกรณ์สามีของเธอนั่นเอง
ชายหนุ่มพูดจาด้วยน้ำเสียงหื่นกามในแบบที่ไม่เคยทำกับเธอมาก่อนจนรัตติกาลรู้สึกอายมิกล้ามองหน้าสบตากับเขา หากชายหนุ่มหาได้สนใจความคิดของเธอไม่ เพียงจับสองขาของเธอถ่างอ้าออกจนสุดแล้วกระเด้าใส่แบบเต็มเหนี่ยวจนเธอหวีดร้องเสียงหลง ร่องสวาทของประธานสาวแสนสวยจึงโดนดุ้นของสามีกระแทกจนพลิกปลิ้นไปปลิ้นมาอีกหลายรอบ และพร้อมกันนั้นด้านซ้ายและขวาของเธอ อาโออิ และซินดี้ ก็กำลังโดนรุมแบบสองต่อหนึ่งจนร้องเสียงหลงไปพร้อมกัน
รัตติกาลหวีดร้องออกมาสุดเสียงอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มกระแทกเอวสุดแรงดังป้าบ ดุ้นอันยาวใหญ่ของปกรณ์อัดเข้าไปในร่องของเธอลึกเข้าไปจนสุดทาง ขณะที่เขากระฉูดน้ำกามเข้าไปในร่อง เธอก็บิดเกร็งไปทั้งตัวด้วยความเสียวสยิวสุดชีวิต และเมื่อเขาถอนแก่นกายออกไป เธอก็ถึงกับต้องเด้งร่อนสะโพกตามด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย
อาโออิกับซินดี้ แทบจะโผเข้าไปหาปกรณ์ทันทีที่เขาผละออกจากร่างของรัตติกาล สองสาวต่างกอดรัดนัวเนียรูดถอกดุ้นเอ็นของชายหนุ่มอย่างหิวโหย รัตติกาลขมวดคิ้วมองด้วยความรู้สึกขัดใจหึงหวง เธอค่อยพบว่าสี่หนุ่มต่างชาติตอนนี้กำลังนั่งหอบหายใจกันอย่างถ้วนหน้า เหลือก็แต่เพียงสามีของเธอที่ยังมีน้ำอดน้ำทนดีเยี่ยมอยู่
เมื่อมองสองสาวสัญชาตญี่ปุ่นและอเมริกันร่วมมือกันกลุ้มรุมสามีตนเองราวกับตายอดตายอยากแล้วรัตติกาลกลับยิ่งรู้สึกวาบหวิวแปลก ๆ และสุดท้ายกำแพงแห่งจริตมารยาที่เพียรสร้างเอาไว้ก็พังทลายลงไปอย่างไม่มีชิ้นดีประธานสาวสวยที่มิอาจทานต่อความกระสัน เป็นฝ่ายโผพุ่งเข้าไปหา กระชากร่างเล็กบอบบางของอาโออิที่กำลังจะขึ้นคร่อมขย่มสามีของเธอออกจนพ้นทาง แล้วรีบโผขึ้นไปนั่งคร่อมโยกเอวขย่มใส่ดุ้นเอ็นของสามีแบบไม่มียั้ง
ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ ผมยาวสลวยสะบัดพริ้วไหวไปมาอย่างน่าดูชม เธอร่ำร้องเรียกหาปกรณ์ว่าผัวขาซ้ำไปซ้ำมาขณะที่ขย่มเข้าใส่ดุ้นเอ็นที่ยังคงแข็งแกร่งดุจท่อนไม้ และเมื่อความเสียวถึงขีดสุดเธอก็หวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วฟุบลงไปบนแผงอกกำยำ กอดก่ายกับสามีสุดที่รักอย่างหวงแหนแนบแน่น
ปกรณ์ถึงกับยิ้มกริ่มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ รัตติกาลไม่เคยแสดงอารมณ์รักร้อนแรงขนาดนี้กับเขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่เขาสวมบทบาทเป็นชู้รักของเธอ และนั่นก็ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า 'ยาแรง' ของเขาจะได้ผลลัพธ์ออกมาแบบไหนกันแน่ รู้แต่ว่าตอนนี้รัตติกาลกำลังกอดจูบแลกลิ้นอย่างเคลิบเคลิ้มกับซินดี้ พลางโยกสะโพกขย่มเข้าใส่เขาแบบไม่ยั้ง โดยที่ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าอารมณ์ร้อนรักของรัตติกาลจะสงบลงเมื่อไร
...................................
หลังจากผ่านเกมกามอันแสนหฤหรรษ์ ปกรณ์กลับต้องรู้สึกเหมือนหัวใจหล่นวูบหายไป เพราะ 'ยาแรง' ที่เขาจัดให้นั้นทำให้รัตติกาลนิ่งเงียบไม่มองหน้าพูดคุยกับเขาแม้แต่คำเดียว ตั้งแต่ขับรถออกมาจากบริษัทจนกลับถึงบ้านเขาพยายามพร่ำบอกรัก และขอโทษที่ทำเกินไป แต่รัตติกาลก็ยังคงนิ่งเงียบเสียจนเขาใจเสีย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงได้เพราะว่า เป็นเขาเองที่คิดและกระทำเรื่องบ้าบอแบบนั้นลงไป
วันรุ่งขึ้นเมื่อเขาตื่นนอนก็พบว่ารัตติกาลออกจากบ้านไปเสียแล้ว อีกทั้งยังไม่รับโทรศัพท์ของเขาเสียด้วย เขาจึงรีบออกจากบ้านตระเวณตามหารัตติกาลไปทั่วเมือง แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวไม่เจอเธอแม้แต่เงา จนต้องยอมแพ้กลับไปตั้งหลักใหม่ที่บ้าน หากเมื่อกลับถึงบ้าน ก็พบว่ารัตติกาลนั้นกำลังนั่งรอคอยอยู่ในห้องรับแขก พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าหลายใบวางอยู่ !!!!
"รัต ... เก็บเสื้อผ้าจะไปไหนน่ะ? ...ผมขอโทษ ... อย่าถึงกับต้องย้ายบ้านแยกกันอยู่เลยนะ"
เมื่อเธอเงียบไม่ตอบคำ ปกรณ์ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแปลบอย่างยากจะทานทนไหวจนแทบจะทรุดลงไปนั่งกองกับพื้นรู้สึกไม่อยากเชื่อว่าตนเองทำเรื่องบ้าบออะไรลงไปจนทำลายครอบครัวแสนสุขของตนเองลงไปแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จึงได้แต่ทอดถอนใจ แต่ทันใดนั้นสายตาของเขากลับสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
รัตติกาลที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นสวมใส่เสื้อกล้ามสีขาวคอเว้าลึกเปิดเผยในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เธอนั่งโน้มตัวมาเบื้องหน้าน้อย ๆ จนมองลอดคอเสื้อเข้าไปเห็นสองเต้าได้เสียเกือบครึ่ง แถมมันยังบางเฉียบเสียจนสามารถเห็นปลายถันสีสวยที่กำลังแข็งเต่งเป็นเม็ดดันเสื้ออยู่อีกด้วย ... ที่แท้เธอไม่ได้ใส่ยกทรง !!!
นอกจากนั้นแล้วกระโปรงที่เธอสวมใส่อยู่ก็สั้นจู๋ขึ้นไปจนถึงไหนต่อไหน ยิ่งเธอนั่งถ่างอ้าสองขาออกน้อย ๆ ด้วยแล้วปกรณ์ก็ยิ่งมองเห็นลอดลึกเข้าไปถึงโคกสวาทเลยทีเดียว และนั่นก็แปลกว่าภรรยาสาวแสนสวยของเขาไม่ได้สวมใส่กางเกงในด้วย !!!!!
ชายหนุ่มที่เพิ่งจะอยู่ในอารมณ์เศร้าเสียใจอยู่แหมบ ๆ ถึงกับต้องหอบหายใจฟืดฟาดด้วยความกลัดมัน เพราะไม่เคยเห็นภรรยาของตัวเองแต่งตัวยั่วเย้าล่อใจชายแบบนี้มาก่อน อีกทั้งเมื่อลองสังเกตให้ดี ๆ ท่าทีของเธอนั้นจะใช้คำว่านิ่งเงียบเฉยชาก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะเธอเองก็เหลือบตาขึ้นมามองเขาเป็นระยะ ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองพื้นคล้ายกับขัดเขินเอียงอาย
"คนโง่!!! ... รัตไม่ได้พูดซักคำนะ ว่าจะแยกกันอยู่ รัตจะชวนไปเที่ยวระยองต่างหาก มัวแต่มองอยู่ได้ รัตเขินนะ ..."
ประโยคเสียงหวานสดใสที่มาพร้อมกับการมองค้อนอย่างแง่งอนน่ารักน่าเอ็นดู คล้ายกับมือที่ฉุดดึงชายหนุ่มขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็งอันเย็นเยียบ แม้จะยังงงอยู่บ้างแต่สมองของเขาค่อยเริ่มหมุนติ้วทำงานประมวลผลอีกครั้งแล้ว
"อ้าว ก็กระเป๋าเสื้อผ้า?"
"รัตก็ไม่ได้จะไปคนเดียวซะหน่อย นั่นไงกระเป๋าเสื้อผ้าของคุณ เราไปด้วยกัน"
"... รัตไม่ได้โกรธเหรอ ... ก็เมื่อคืน เห็นไม่ยอมคุยกันเลย"
"เปล่าค่ะ ... รัตก็แค่ทำตัวไม่ถูก ... อุตส่าห์ไม่ใส่เสื้อผ้านอนรอให้สามีมาง้อ ...แต่คุณสามีก็ ไม่ยอมเข้าหาซักที"
ปกรณ์พูดอะไรไม่ออก จากอารมณ์อันแสนย่ำแย่ กลับกลายเป็นโล่งอก จากนั้นก็ผันเปลี่ยนไปเป็นความปิติยินดีอย่างสุดแสน เขาไม่พูดไม่จาอะไรอีกแล้ว เดินตรงดิ่งเข้าไปกอดจูบกับภรรยาสาวแสนสวยอย่างดูดดื่ม เธอก็กอดตอบและสนองเสนอจูบอันเร่าร้อน สองหนุ่มสาวคล้ายสามีภรรยาที่เพิ่งได้ร่วมเรียงเคียงหมอนเป็นคืนแรก
"ซี้ดดดสสสส ผัวจ๋า อะ อ๊ายยย อะ อะ อือออออ ซี้ดดสสสส ผัวจ๋า"
รัตติกาลส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างหฤหรรษ์ขณะที่ชายหนุ่มเบียดแทรกร่างผสานผสมเข้ากับเรือนร่างของเธอทุกการเคลื่อนไหวอันหนักแน่นแข็งขันของชายหนุ่มสรรสร้างความเร้าใจอย่างสุดแสนให้แก่หนุ่มสาวทั้งคู่ เขาเด้งรุก เธอเด้งรับ เขาขยับ เธอรับต่อ ต่างคนต่าง ร้องอือออ สุขสมหมาย มิรู้พอ
"รัตจ๋า เมียจ๋า ผัวรักเมียที่สุดเลยจ้ะ ..."
"รัตก็รักกรณ์ค่ะ เมียคนนี้รักผัวที่สุดในโลกเลย"
สองหนุ่มสาวต่างหอบกระเส่าพูดจาเสียงหวานขณะต่างกอดรัดร่างร้อนผ่าวที่เพิ่งถึงจุดสุดยอดของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างแนบแน่น สำหรับปกรณ์แล้ว รัตติกาลในยามนี้จึงเป็นที่สุดแห่งความรักและหลงผสานผสมรวมกัน เธอมิใช่ภรรยาสาวหัวโบราณที่ทำตัวเหมือนตุ๊กตายางอีกต่อไป อีกทั้งยังมิใช่ชู้รักที่ร่านสวาทจนไร้จริตมารยา หากทว่าตอนนี้เธอกลับมีส่วนผสมระหว่างทั้งสองอย่างด้วยความลงตัว
สำหรับรัตติกาลแล้ว เธอก็คิดในแบบเดียวกัน การได้ร่วมรักร่วมใคร่จนสุดอารมณ์มิต้องเก็บกดกับผู้ชายที่เธอรักที่สุดในโลกนั้นสุดยอดยิ่งกว่าสิ่งใดที่เธอเคยพบเจอ บทรักที่ว่าเผ็ดร้อนกับชายชู้ปริศนานั้นก็ยังเทียบไม่ได้
"กรณ์ขา ... ทำอีกรอบนะ ... รัตน์อยากอีกแล้ว..."
รัตติกาลพูดจาออดอ้อนเสียงหวานฉ่ำ ขณะกระดกสะโพกขึ้นยั่วเย้ายุกยิก ทำเอาชายหนุ่มอดรนทนไม่ไหวต้องดึงบั้นเอวออกแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่แบบถี่ยิบ
"มัวแต่เอากันแบบนี้ ไม่ไประยองแล้วเหรอจ๊ะ ?"
"ปะ ไปซิคะ ... ซี้ดดสสสส ... แต่ว่าทำให้เสร็จก่อน .... อูยยย ผัวขาาาาาา แรงอีกหน่อยนะคะ ซี้ดดสสส"
ปกรณ์ตอบรับคำขอของภรรยาสาว ด้วยการจับสะโพกของเธอลงไปนอนอยู่บนขอบโซฟาจนโคกสวาทลอยเด่นเล่นอยู่กับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านกระจกใสลงมา ร่างของรัตติกาลคล้ายเปล่งประกายเปิดเผยเสน่ห์อันเร่าร้อนออกมาอย่างทะลักล้น ชายหนุ่มจับสองขาของเธอชี้ขึ้นฟ้าแล้วก็เสียบพรวดเข้าไปจนสุดลำ จากนั้นก็เดินหน้ากระแทกเข้าใส่อย่างเร่าร้อนหักโหม
สองหนุ่มสาวต่างปล่อยวางอดีตที่เก็บซ่อนเร้นอัดอั้นไว้ทิ้งไปจนหมดสิ้น เหลือแต่เพียงความรักและความใคร่ที่ผสานผสมปนเปกันอย่างมิอาจแยกออก และนั่นก็ทำให้หนุ่มสาวคู่นี้กลายเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุขหฤหรรษ์ทั้งเรื่องบนเตียงและเรื่องครอบครัวจวบจนกระทั่งแก่เฒ่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น