พอเช้ามา ผมไปทำงานตามปกติ ขณะที่นั่งไล่อ่านไลน์ทั้งงาน และอื่น ๆ ทั่วไป ทั้งกลุ่มคลิปหลุด หนังเอวี โอลี่แฟน จนมาถึงไลน์ของหญิงที่ผมเลื่อนผ่านไปแล้ว เพราะมันไม่คุยทั้งชื่อทั้งรูปโปรไฟล์ แต่เอ๊ะยังไงนะ กดเข้าไปดูหน่อยดีกว่า จะได้เลยทีเดียว แต่พอเลื่อนอ่านเท่านั้นแหละ ข้อความที่ผมคุยกับเธอก็แจ่มชัดขึ้มมาในจิตสำนึกของผมอีกครั้ง ที่อาจจะลืมเลื่อนไปด้วยเมื่อฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จางหายไป พร้อมกับพูดกับตัวเอง "ไม่น่าเลยกู เพราะเมาแล้วเงี่ยนแท้ ๆ " ผมบ่นพรึมพรำอยู่คนเดียว และตั้งใจว่าจะหยุดไม่ช่วยให้ไอ้เอสคืนดีกับหนิงแล้ว ให้มันหาทางเอาเอง เพราะผมรู้สึกว่าเรื่องที่ผมคุยกับหนิง จะไม่มีเรื่องไอ้เอสเลย แล้วส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสองแง่สองง่ามเสียด้วย ถ้าเธอบันทึกหน้าจอ แล้วเอาไปเปิดเผยผมคงจบแน่ ๆ จากนั้นมา 3 วัน ถึงวันพฤหัสบดี ในช่วงวันที่ผ่านมาทั้ง 3 วัน ผมไม่เจอไอ้เอสเลย เพราะไม่ได้เข้าไซต์งานนั้น สวนกับหนิงผมก็ไม่ไลน์ไปอีก เธอก็ไม่ไลน์มา ช่วยให้ผมคลายกังวลลงได้บ้าง เลยว่าวันนี้ดื่มเบียร์เสียหน่อยดีกว่า หลังจากหยุดมาหลายวันตั้งแต่มีเรื่อง กะว่าดื่มซักสามสี่กระป๋องก็พอ แต่เจ้ากรรมประจวบเหมาะ เจ้าของบริษัทดันมาหาผมวันนี้อีก บอกมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แกเห็นผมดื่มเบียร์อยู่ เลยจะชวนไปหากับแกล้มอะไรกินรองท้องด้วย ใจผมก็อยากไปนะ แต่กลัวจะยาวเดี่ยวไหลอีก เลยบอกว่าดื่มกันที่ตู้คอนเทนเนอร์เนี้ยแหล่ะครับ ผมอยู่ดึกไม่ได้ อยากทานกลับแกล้มอะไรก็สั่งไรเดอร์มาดีกว่าครับ แกบอกยังไงก็ได้ เราเลยนั่งดื่มกันในตู้คอนเทนเนอร์ ทีแรกก็คุยเรื่องอื่นสัพเพเหระ จนมาเข้าเรื่องงานที่จะขึ้นใหม่ แล้วแกก็บอกปัญหา คือไอ้เอสจะลาออกสิ้นเดือน แกเลยบอกให้ผมย้ายมาทำกับแกเต็มตัว ส่วนงานออกแบบแกจะจ่ายให้ต่างหากตามปกติ เสี่ยเล่นเสนอมาแบบนี้ ผมถึงกับคิดหนักเลย แต่เรื่องไอ้เอสแกบอกว่าอย่างเพิ่งบอกใคร มันขอไว้ แต่ที่แกมาคุยกับผมก่อน ก็กลัวว่างานจะล่าช้าและก็เห็นว่าผมกับเอสสนิทกัน แกก็ว่าเสียดายมันเหมือนกัน มันทำงานดีติดแค่ขี้เมากับขี้โม้สองอย่างเท่านั้น ที่เหลือไว้ใจได้ แล้วเราก็หัวเราะกันครืนเครง ทำให้ผมตกอยู่ในสถานะการเดิม คือเมาหนักแทบไม่รู้ตัวว่ากลับมาถึงห้องพักได้อย่างไร แล้วสิ่งที่หน้ากลัวก็เกิดขึ้นอีก คือผมนอนไม่หลับเมื่ออาบน้ำเสร็จ ที่สำคัญท่อนเอ็นมันพองอยู่ในกางเกงบอล สมองสั่งการโดยไม่มีการตริตรองอะไรทั้งสิ้น เมื่อมือเปิดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ เข้าแอฟไลน์ แล้วไถ่ดูชื่อในช่องสนธนา ไว้กว่าแสงก็นิ้วโป้งข้างขวาผมนี้แหละครับ มันกดสติ๊กเกอร์สวัสดีส่งไปให้หนิงอย่างอัตโนมัติ พอคิดมาทันก็อยากจะลบ แต่ช้าไปเสียแล้วหนิงอ่านแล้ว เธอส่งข้อความกลับมาทันที เหมือนเธอก็รอสวนหมัดน็อคผมอยู่แล้ว "หายไปหลายวันเลยนะคะพี่" เธอเริ่มบทสนทนาที่มันเหมือนว่าเราสนิทกัน "พอดีงานเยอะ ตึกใกล้เสร็จแล้ว" ผมก็บอกไปกว้าง ๆ เผื่อเธอจะถามถึงไอ้เอสบ้าง "ขยันจังเลย ใครได้พี่เป็นแฟนนี้โชคดีจัง" เธอเอ่ยปากชมผมอีก ยังไม่ทีท่าว่าจะพูดถึงไอ้เอสเลย "พี่เพิ่งประชุมงานกับเสี่ยเจ้าของตึกกลับมา แต่หนิงนอนดึกจัง" ผมบอกเพื่อจะตัดเรื่องของผมให้จบ แล้วคุยเรื่องของเธอดีกว่า "หนิงทำโปรเจคอยู่ค่ะ แต่วันนี้พอแหละกำลังจะนอน" เธอว่า อ๋อแบบนี้เอง เธอถึงพยายามทำตัวห่างจากไอ้เอส เธอคงมีเหตุผลของเธอเหมือนกัน ถ้าผมไม่ได้คุยกับเธอก็คงไม่รู้ แหล่ะคงมองเธอเพียงแค่ด้านเดียว เหมือนที่ผ่าน ๆ มา "ดีเหมือนกันค่ะ ได้คุยกับพี่ก่อนนอน แต่ว่าวันนี้เราคุยเรื่องอะไรกันดีค่ะ" เธอพูดอ่อนเหยื่อทำให้ผมรู้สึกดี ซึ่งมันก็ได้ผล "แต่หนิงไม่ได้โกรธพี่ใช่ไหม...เรื่องที่เออ...เออเราคุยค้างไว้" ผมรีบเคลียร์เรื่องเก่าให้หายข้องใจ ว่าจริง ๆ วันนั้นเธอรู้สึกอะไรหรือเปล่า "555 เปล่าค่ะหนูไม่ได้โกรธพี่หลอก หนูชอบเสียอีกที่พี่ชมหนู" อ้าวไงวันนี้เธอถึงว่าไปคนละเรื่องกันเลย กับวันนั้น "ก็หนูยังบอกเลยว่าพูดแบบนี้กับหนิงได้ยังไง" ผมย้ำความจำเธออีกครั้ง "ใช่ค่ะพี่พูดแบบนั้นกับหนูได้ยังไง...มันทำให้หนูเสียวค่ะ" โอ้ววว...ผมไม่ยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอบอกมา แต่มันก็ทำให้ผมเงี่ยนเข้าไปอีก ตอนนี้เรื่องที่ผมจะง้อหนิงให้ไอ้เอสเป็นอันว่าจบไปได้เลย "แต่ตอนนี้พี่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอหนิงเลย" ผมพิมพ์ไปจะดูว่าเธอจะมีลีลาขนาดไหน "ใช่หนิงไม่เจอพี่เลย หนิงก็อยากกินชาบูด้วย" เธอทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ร้านชาบู "ใช่พี่ก็อยากกินเหมือนกัน" ผมเออออตามเธอไป ดูสิว่าผมจะมีโอกาสไหม "พรุ่งนี้พี่ว่างไหม...เราไปกินกันดีกว่าสองคน" หนิงเอ่ยชวนผมก่อน ซึ่งแน่นอนผมไม่มีปฏิเสธอยู่แล้ว ผมคิดอะไร ๆ มันคงจะไม่น่าจะยาก "ได้สิ...หนิงนัดเวลามาเลย แต่ไปกันสองคนใช่ไหม" ผมถามย้ำ เพราะแอบคิดถึงไอ้เอสมันเหมือนกัน "สองคนคะพี่ แค่เราสองคน" หนิงตอบย้ำแบบมั่นใจ เธอคงจะเลิกกับไอ้เอสแล้วจริง ๆ นี้ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกับไอ้เอสใช่ไหม ผมเงียบคิดนานพักนึง จนหนิงพิมพ์กลับมาก่อน "หนูมีอะไรจะให้พี่ดูด้วย" เธอเอ่ยมาอย่างกำกวม ทำให้ผมอย่างรู้เป็นที่สุด "ดูอะไรล่ะ" ผมถามกลับไป "ดูที่พี่ชอบแหละ" เธอตอบมาแบบนี้ผมคิดไม่ถูกเลย ว่าคืออะไร ก็ไม่คิดหลอกว่าไปกินชาบูกันครั้งเดียว แล้วจะได้เย็ดกันเลย บางทีเธอก็เหมือนน้องสาว ผมไม่อยากจะหมกมุ่นมาเกินไป ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า ถึงตอนนี้ผมยังหยุดคิดไม่ได้เลย ว่าเธอจะให้ดูอะไร แล้วอะไรล่ะที่ผมชอบ เราตกลงนัดไปกินชาบูกันวันเสาร์ เวลาประมาณสักสองทุ่ม ที่สำคัญคือร้านเดิมโต๊ะญี่ปุ่นปุ่นกระจกใส งานนี้มีลุ้นแน่ อยู่ที่ว่าเธอจะแต่งตัวมาแบบไหน ผมยอมรับเลยว่าทำงานไม่รู้เรื่องเลยทั้งวัน ดีน่ะงานไม่มีอะไรแล้ว นั่งรวมแบบไว้ให้เจ้าของตึกแค่นั้น วันนี้ผมใส่กางเกงผ้ายืดมาด้วย ปกติผมจะใส่กางเกงยีนส์ผ้าดิบแข็ง แต่รู้เลยว่าวันนี้มีโอกาสที่เจ้าโลกผงาดง้ำคำกางเกงแน่ เลยใส่กางเกงผ้ายืดๆ กับบ๊อกเซอร์เท่านั้น ผมมาถึงร้านก่อนเวลานัดเกือบครึ่งชั่วโมง ผมเลือกนั่งชั้นสอง ตรงที่หลบมุม ระหว่างรอผมสั่งเบียร์มาอุ่นเครื่องก่อนพร้อมกับไลน์หาไอ้เอส เช็คก่อนว่ามันอยู่ไหน "เอสอยู่ไหน กลับมายัง" ผมไลน์ไปถามสถานะเอส "ผมยังไม่กลับเลยพี่ พี่รู้เรื่องหมดแล้วใช่ไหม" เอสเพิ่งจะเอยปากบอกเรื่องของมัน "เออ..รู้แล้ว เอ็งคิดดีแล้วรึ"ผมถามเพื่อความแน่ใจ "ดีแล้วพี่ เดี๋ยวผมจะลงใต้ ตอนผมไปเก็บของ ผมจะเล่าเรื่องทั้งหมด ให้พี่ฟังนะ" เอสบอกก่อนเราจะจบบทสนทนากัน ผมรู้สึกผ่อนคลายกับสิ่งที่ทำอยู่ ถึงเอสมันจะเล่นพี่น้อย แต่พี่น้อยก็ไม่ใช่เมียผม แต่ที่ผมจะเล่นหนิง ที่เป็นแฟนมัน ไม่รู้ว่าใครเลวกว่ากัน ก็คงจะหายกันมั้ง ที่จริงพี่น้อยก็ยังเด็ด ได้เย็ดเธอแค่ครั้งเดียวเอง จริง ๆ มันต้องมีโอกาสอีก ไอ้เอสมึงนี้แหล่ะทำให้กู กินพี่น้อยยังไม่อิ่มเลย แล้วนี้ต้องมีเสี่ยงโดนถอนหงอก ต้องมาหยั่งเชิงหนิงอีก ผมยอมรับว่าหนิงนะยังเด็ก ดูน่าเอากว่าพี่น้อย แต่ลีลานี้ดิจะสู้แม่ได้หรือเปล่า ทำไงได้สถานการณ์มาแบบนี้แล้ว ดีกว่ามือเปล่าไม่ได้อะไรเลย ผมคิดเพลิน ๆ จนเวลาเกือบ 2 ทุ่ม หนิงก็มาพอดีแวบแรกที่เห็น วันนี้แต่งชุดธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีนส์มา ผมแอบเสียดายนิด ๆ แต่ก็ยังพอทีที่เด็ดให้อ่านกินบ้าง ด้วยเสื้อยืดสีขาวที่ทั้งรัดทั้งสั้น สั้นจนเอวลอย โชว์จิ๋วที่สะดือให้เห็น เสื้อก็รัดจนนมตั้งเป็นลูกเลย แต่น่าเสียดายที่หญิงใส่เสื้อชั้นในสีขาวมา ที่เห็นเพราะเสื้อมันบางมาก ส่วนกางเกงยีนส์เป็นขาสั้น แบบสั้นแค่ปิดก้น คือก้มนี่เห็นแก้มก้นเลย ผมมองผ่าน ๆ ที่เเรกไม่กล้ามองนาน เพราะเธอก็รู้ว่าผมชอบมอง ผมคิดว่าคงได้ดูแค่นี้มั้ง หนิงยกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามผม ผมเรียกน้องพนักงานมาสั่งเนื้อและผักต่าง ๆ รอบแรก ก่อนที่เราจะเริ่มทานกันแบบเงียบ ๆ จนเป็นหนิงเองที่เริ่มบทสนทนาก่อน "หิวเหรอพี่ กินไม่คุยเลย" เธอเริ่มด้วยการแซว ผมยิ้มก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม เธอเลยว่าต่อ "กินเบียร์ด้วยดิ" เธอพูดก่อนจะเรียกพนักงานจอแก้วเบียร์ ผมรินเบียร์ให้หนิงก่อนจะเริ่มคุยกับเธอบ้าง "หนิงมายังไง ขับมอเตอร์ไซค์มาไง" ผมว่าก่อนจะมองหน้าเธอบ้าง "มาแท็กซี่ พี่จะว่าหนูแต่ตัวเป็นสก๊อยใช่ไหม" เธอจ้องหน้าผมเขม็ง จนผมต้องปล่อยขำไป "เปล่า ๆ เห็นซื้อรถใหม่นึกว่าขับมา" ผมรีบปฎิเสธ แต่ทันในนั้นเองสิ่งที่ผมเหลือบไปเห็น ถึงหนิงจะไท่ได้กระโปรง หรือเดรสมา แต่เจ้ากรรมกางเกงขาสั้นของเธอ ขามันกว้าง เวลาหนึงขยับตัวลวกชาบู ขาของเธอขยับกว้างเข้าออก สายตาอันแหลมคมของผม ก็เห็นเนื้อผ้าสีขาวที่ง่ามขา ที่ปิดคลุมก้อนเนื้อก้อนใหญ่ ๆ ผมเริ่มอยู่ไม่เป็นสุกแล้ว ถึงมันจะไม่ลุ้นเหมือนมองใต้กระโปรง แต่อะไรที่ได้เห็นถือว่าเป็นกำไรเป็นอาหารตาทั้งนั้น ตอนนี้ผมต้องบริหารสายตา กับการสื่อสารกับเธอด้วย ไม่งั้นเธอรู้แน่ ว่าผมมองหวอเธออยู่ ซึ่งเธอก็ถ่มเรื่องงานที่ตึกว่าถึงไหนแล้ว เหมือนจะเก็บข้อมูล แล้วจะคุยอะไรต่อสักอย่าง เหมือน ๆ ยังชั่งใจอยู่ว่าจะคุยดีหรือเปล่า แต่ก็จริง ๆ เหมือนยิ่งคุยยิ่งกินยิ่งดื่ม เบียร์หมดไปสามขวดแล้ว ขาหนิงก็ถ่างกว้างจนสุด ๆจนผมมองเห็นลอดช่องกางเกงเกือบจะถึง กลางโคกที่ตอนนี้เห็นยันจุดสีชมพู ที่อยู่บนกางเกงในสีขาว ผมรู้ได้เลยว่าวันนี้เธอใส่กางเกงในแบบเด็กสาว ๆ ผมไม่รู้เธอมาอารมณ์ไหน ผิดกับครั้งก่อน ๆ ที่เคยเห็นมา แต่ผมกับตื่นเต้นมากที่ได้เห็นแบบนี้ เพราะผมไม่เคยได้สัมผัสรสชาติของเด็กสาวรุ่น ๆ ใส ๆ เลย เพราะส่วนมากที่ผ่านมาจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือจะเป็นรุ่นใหญ่ขึ้นไปเลย นี้นับจะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ผมลงมาเล่นรุ่นเล็ก ซึ่งไม่เคยอยู่ในความคิดผมเลย ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็อย่างว่าละครับ คนเรากินเนื้อเปื่อยมานาน ก็ต้องอยากลองเนื้อสดบ้างแหละ ตอนนี้ผมกับหนิงเริ่มอิ่มชาบูกันแล้ว แต่เบียร์ยังดื่นกันเรื่อย ๆ เป็นหนิงเองเสียอีกที่ยกถี่ ๆ เหมือนเธอจะมีเรื่องเครียดอะไร จนผมต้องร้องบอก "เบา ๆ ค่อย ๆ ดื่ม เดี๋ยวก็เมา" เธอว่า "เมาก็ดีดิพี่ จะไม่ต้องคิดอะไร" หนิงว่าพร้อมกับทำหน้าเซ็ง ๆ "เครียดอะไร เป็นเด็กเป็นเล็ก555" ผมพูดขำขำให้เธอคลาดเครียด ซึ่งเธอก็ยิ้มก็มาเมื่อได้ยิน ตอนนี้เบียร์หมดไปหกขวดแล้ว หนิงเลยเปิดปากเรื่องของเธอ "พี่รู้เรื่องไอ้เอสกับแม่หนิงแล้วใช่ไหม" ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อในที่สุดหนิงก็พูดเรื่องที่ต่างทำเป็นไม่รู้มาเกือบเดือน "ใช่พี่รู้" ผมตอบ "ตอนนี้หนูกับไอ้เอสเลิกกันขาดแล้วพี่ ตอนนี้ไอ้เอสมันเป็นพ่อหนูแล้วพี่555" หญิงเล่าติดขำให้เหมือนตลก แต่ผมเห็นน้ำตาหนิงไหลลงมาที่แก้ม "ยังไงกันพี่งง" ผมถามกับไปเพราะงงจริง ๆ "ก็แม่หนูจะย้ายไปอยู่ภูเก็ตกับไอ้เอส" ผมแทบจะช็อค เมื่อได้ยิน "หนิงใจเย็น ๆ นะ ค่อย ๆ เล่า"ผมปลอบเมื่อเห็นว่าหนิงกำลังสะอื้น "หนูรู้นะ ว่าพี่ก็เคยเอากับแม่" ผมช๊อคต่อรองที่สอง ไม่นึกว่าหนิงจะรู้ ผมไม่ทันจะแก้ตัวหนิงก็ว่าต่อ "แต่ทำไม พี่ก็ไม่เห็นจะคบกับแม่เลย แต่ไอ้เอสมัน มันจะคบกับแม่" ตอนนี้หนิงสะอึกสะอื้นไม่หยุด ส่วนผมก็หน้าชาหน้าแหก ไม่รู้จะปลอบเธอยังไง แต่เป็นหนิงเองทีปาดน้ำตาตัวเองแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ผมนั่งงง ๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ผมค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ ว่าถึงยังไงก็ต้องรู้กันสักวันไม่ช้าก็เร็ว บอกกันไปเลยก็ดี จะได้รู้ว่าเอายังไงกันต่อ หนิงกลับมานั่งต่อ ตอนนี้อารมณ์เธอเหมือนจะปกติแล้วผมซึ่งรู้สึกครึ่ง ๆ กลาง ๆ เมื่อเธอรู้สิ่งที่ผมทำ เธออาจจะเกียจผมแล้วก็ได้ ผมจึงเปิดประเด็นอีกครั้ง "หนิงโอเคนะ เราคุยกันต่อไหม" ผมถามความพร้อมของเธอ ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับ "พี่...แม่หนิงเด็ดไหมพี่"หนิงเปิดคำถามที่ทำเอา ผมสะอึกเลยทีเดียว อันที่จริงผมไม่อยากพูดถึงเรื่องแบบนี้เลย แต่ด้วยผมก็เมาแล้วนะ ถ้าอยากรู้หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ผมจะบอกให้ "ก็เด็ดอยู่นะ" ผมตอบ "แล้วทำไมพี่ไม่คบกับแม่ต่อ" เธอถามต่อเนื่อง "จริง ๆ ถ้ามีโอกาสพี่ก็คบได้ แต่มันไม่มีโอกาส แม่หนิงเองก็เฉย ๆ กับพี่" ผมบอกตามความรู้สึกที่ผมเคยคิดไว้เหมือนกัน "ใช่พี่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก" หนิงพูดเหมือนยอมรับ "พี่รู้ไหมที่พี่เอากับแม่หนิงกับไอ้เอสแอบดูกัน" โอ้วนี้มันอะไรกันว่ะ ผมยังไม่ทันจะพูด หนิงบอกอีก "แล้วที่พี่เห็นหนูนอนเปิดก้นอะ หนูกับไอ้เอสรู้ว่าพี่มาแอบดู" เฮ้ย ๆ ผมแทนจะร้องเป็นโขน ผมรู้สึกเหมือนคนโง่ อยากจะกดโทรศัพท์โทรไปหาไอ้เอส แต่จะมีประโยชน์อะไรละ หนิงมองหน้าผม "แล้วพี่รู้ไหม ที่หนูนั่งหวอออกเหมือนตอนนี้ ให้พี่ดูน่ะ ไอ้เอสมันให้ทำ" ผมสะอึกติด ๆ กัน และก็สะอึกกับสถานการณ์ตอนนี้ด้วย ที่เธอรู้ตัว แต่ก็ปล่อยให้ผมดู ผมตอนนี้ที่ทั้งโกรธทั้งอาย ผมเริ่มคิดว่าทำไมไอ้เอสทันถึงทำแบบนี้ เราเงียบกันไปพักใหญ่ ผมคิดและคิด จนมึนสมองไปหมด ถ้าผมจะลุกหนี หรือกลับแล้วลืมทุกอย่างมันก็จบ เพราะผมก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย มีแต่ได้กับได้มากกว่า จนหนิงเอยปากทำลายความเงียบ "ไอ้เอสมันชอบให้หนูโชว์ มันจะมีอารมณ์มากตอนคนอื่นเห็นของแฟนตัวเอง" ผมพยักหน้างึก ๆ เริ่มเข้าใจในพฤติกรรมของไอ้เอส ว่าก็มีเค้าจากที่หนิงเล่ามาจริง ๆ ผมเริ่มจะชินเมื่อมองหน้าหนิงสลับกับมองเป้า แบบไม่ต้องหลบตาหรือแอบมองกันแล้ว "แล้วหนิงชอบโชว์ไหมละ" ผมถามหนิงกลับบ้าง หลังจากที่ถูกไล่ตอนมาหลายช๊อตแล้ว "ก็ไม่ถึงกับชอบหลอก แต่ถ้าคนสมควรให้ดู ก็จัดให้555" หนิงพูดพร้อมกับหัวเราะ ผมรู้สึกเงี่ยนขึ้นมาแทน อาการปวดหัวแล้ว อยากจะขยำเธอเสียจริง ๆ ตอนนี้ห้าทุ่มร้านใกล้ปิดแล้ว แต่อารมณ์ผมเริ่มจะเกิด แต่จะต่องานกันยังไง เพราะเราก็ยังไม่สนิทสนมกันมาก แล้วยังมีเรื่องชั่ว ๆ ที่ผมทำไว้อีก เมื่อเช็คบิลเสร็จโทรศัพท์หนิงก็ดังขึ้น เหมือนเพื่อนจะชวนไปกินเหล้าต่อที่ร้านแถวข้างมหาลัย ซึ่งผมก็ลุ้นอยู่ว่าเธอจะชวนผมหรือเปล่า เพราะอาการเธอตอนนี้ก็เมาเต็มที่เเล้วเหมือนกัน ปกติร้านแถวมหาลัยผมไม่เข้ามานานแล้ว เพราะอายุเริ่มเยอะมันดูแปลก ๆ เวลาเข้าไป "ไปไปพี่ พาหนิงไปหน่อย วันนี้พี่เป็นแฟนหนิงหน่อย ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวหนิงไปนอนด้วย" ผมหูพึ่งทันที เมื่อได้ยินว่าไปนอนด้วย ตอนนี้ความเงี่ยนครอบงำผมไปหมดแล้ว เราเรียกแท็กซี่จากร้านชาบูไม่ถึงสิบห้านาที ก็ถึงร้านเหล้าที่เป็นห้องกระจก ข้างในเป็นโต๊ะยืนทั้งหมด เราค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไป คนแน่นร้านเลยคืนนี้ หนิงเอามือผมจับเอวเธอไว้ แล้วเดินติดก้นเธอเข้าไป โต๊ะเพื่อนของเธอติดเวที มีสาวสองคนแต่งตัวสไตล์เดียวกับหนิงเหมือนนัดกันมา พอมาถึงโต๊ะแสงไฟสลัว ๆ มองหน้าพอเห็น สองคนนี้ไม่ใช่เพื่อนที่เจอตอนวันเกิด ทำให้ผมสบายใจไปอย่าง เดียวจะหาว่าผมกิ๊กกับแฟนเพื่อนร่วมงาน หนิงแนะนำผมกับเพื่อนเธอให้รู้จักกัน แต่เหมือนสองคนนั้นไม่ค่อยสนใจเท่าไร น่าจะเมาแล้วเต้นกันอย่างเดียวเลย ผมก็ไม่สนใจเหมือนกันเพราะหนิงตอนนี้ก็โยกตัวเอาก้นมาบดกับเป้าผม ตอนนี้ท่อนเอ็นที่ตุงทิ่มร่องก้นนิ่ม ๆ ของหนิงอย่างเพลิดเพลินยิ่งหนัก ผมไม่คิดเลยว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ ช่างสุขสมเหลือเกิน กลิ่นหอมของตัวหนิงตีเข้าจมูกผมตลอดที่เธอเต้นส่ายไปส่ายมา บางครั้งหนิงก็จับมือผมไปโอบเอวเธอ ผมละอยากจะเลื่อนมือลงไปกุ้มเข้ากับโคกโหนก ๆ ของเธอเหลือเกิน ถ้าอยู่สองคนผมทำแน่ ๆ แต่ตอนนี้แค่นี้ก็โอเคแล้ว ค่อย ๆ เร้าอารมณ์กันไปเรื่อย ๆ จนพักเดียวมีผู้ชายสองคนเดินมาที่โต๊ะ ประกบข้างเพื่อน ๆ ของหนิง แล้วสองคนนั้นก็กระซิบบอก สองหนุ่มเติมเบียร์แล้วชนแก้วกับผม ดูเป็นมิตรดีไม่มีอะไร เพราะต่างคนก็ยุ่งอยู่กับคู่ของตัวเอง นักร้องประกาศว่าครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เหล้าหมดสั่งเหล้า เบียร์หมดสั่งเบียร์ ผมเลยยกมือเรียกพนักงาน บอกสั่งเบียร์อีกชุด ตอนนี้วงดนตรีจัดเมล์เล่สามช่าชุดใหญ่ หนิงเต้นตามจนเหงื่อออกมาเปียกตัวไปหมด แล้วก็หยุดหอบเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวหันหน้ามากอดผม แล้วโน้มตัวมาว่า "กางเกงในหนิงเปียกไปหมดแล้ว กลับกันเถอะพี่" เธอกระซิบข้าง ๆ หูผมแบบสยิวสุด ผมนั้นพร้อมอยู่แล้ว เพียงแค่อดใจรอเท่านั้น "ได้จ๊ะ...เดียวพี่พาหนิงกลับเอง" ผมว่าก่อนจะชนแก้วกับเพื่อน ๆ อีกครั้ง พร้อมขอตัวกลับ ซึ่งเพื่อนหนิงก็กลับพร้อมเราเลย คงจะอาการคล้าย ๆ กัน ผมรีบเรียกแท็กซี่ ทีเเรกคิดว่าจะพาไปห้องของผม แต่มันอาจจะมีปัญหาตามมาทีหลัง เข้าโรงแรมเลยดีกว่า
วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568
อารมณ์ในรสของแอลกอฮอล์ 4
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น