"กล้วย เพื่อนรัก 1"
ผมกับกลอยลางานสี่วันเพื่อไปร่วมงานแต่งของตำรวจรุ่นน้องที่อยู่โรงพักเดียวกัน โดยที่งานแต่งนั้นอยู่อีกอำเภอหนึ่งในจังหวัดเดียวกันแต่อยู่โซนใต้สุดติดชายแดนห่างจากอำเภอที่ผมทำงานอยู่เกือบสองร้อยกิโลเมตร โดยผมตั้งใจว่าจะไปเที่ยวที่บ้านเพื่อนผมด้วยเพราะงานแต่งอยู่ในอำเภอที่มันอยู่ มันชื่อ"กล้วย"
ผมกับกล้วยเป็นบั๊ดดี้กันเมื่อครั้งยังเรียนนักเรียนพลตำรวจ ด้วยอายุที่เท่ากันพอดีทำให้เราเข้ากันได้เร็ว พอเรียนจบมันก็ลงประจำการที่อำเภอนั้นเลยแล้วก็ได้เมียและลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่น ผมกับมันก็ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอโดยที่วันผมแต่งงานกับกลอยมันเองก็เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กับผม ส่วนงานขึ้นบ้านใหม่ของผมมันก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน
ผมกับกลอยรับประทานอาหารเที่ยงที่บ้านงานแต่งในตัวอำเภอเสร็จแล้วก็บึ่งรถไปที่บ้านของกล้วยซึ่งห่างออกไปประมาณสิบกิโลเมตร มันยิ้มแฉ่งรอเราอยู่ที่หน้าบ้านพร้อมพาเราไปนั่งพักที่โต๊ะไม้ใต้ซุ้มไม้เลื้อยข้างบ้าน กล้วยตัวสูงพอๆ กับผมแต่ตัวหนากว่าผิวออกดำแดง เมียเจ้ากล้วยนำน้ำออกมาต้อนรับพร้อมกับนั่งสนทนากัน
เดิมทีเมื่อครั้งยังโสดกล้วยอยู่สายตรวจตำบล มันวางแผนกับสาวครูแฟนของมันแล้วว่าจะแต่งงานกัน แต่ว่าด้วยความเมาในคืนหนึ่งมันกลับมานอนที่บ้านลูกสาวผู้ใหญ่บ้านที่มันบอกผมแค่ว่า จีบเล่นๆ ไม่ได้รักได้ชอบอะไรเลย ปรากฏว่าถูกจับได้แล้วโดนบังคับให้แต่งงานกัน มันร้องไห้กับผมเป็นวรรคเป็นเวร แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็อยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้แถมมันยังรักเมียมันมากด้วย บ้านพ่อตาเปิดเป็นร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน เมียมันเป็นลูกสาวคนเล็กมันจึงต้องอยู่บ้านพ่อตา
ตะวันบ่ายคล้อย กล้วยขับรถกระบะนำหน้าเราไปที่สวนยางพาราของมันใกล้ๆ ตีนเขาห่างจากหมู่บ้านไม่มากนัก บรรยากาศรอบๆ ข้างเรียกได้ว่าร่มรื่นด้วยต้นยางพาราและเขตชายป่าใกล้ภูเขา กล้วยได้สร้างอาคารหลังหนึ่งไว้กลางสวนยาง เป็อาคารติดพื้นก่ออิฐบล็อคฉาบปูนห้องขนาด 5x5 เมตรเอาไว้สำหรับนอนเฝ่าสวนยาง ข้างนอกต่อเพิงทำห้องครัวโล่งๆ และติดกันก็เป็นห้องน้ำ มีโต๊ะไม้และที่นั่งเล็กอยู่สามสี่ตัวอยู่ใต้ร่มต้นยางพารา เอาไว้นั่งเป็ก เจ้ากล้วยเคยบอกผมอย่างนั้น
สักครู่ใหญ่ๆ ก็มีมอเตอร์ไซด์ขับเข้ามาในสวนคันหนึ่ง มีเจ้า "แจ็ค" ขับเข้ามาโดยมีเพื่อนของมันซึ่งผมไม่รู้จักซ้อนท้ายมาด้วย ทั้งสองถือของมาพะรุงพะรังมาถึงเสร็จก็จัดการอาหารสดนั้นให้เป็นอาหารและกับแกล้มทันที
แจ็ค เป็นเด็กหนุ่มวัยยี่สิบกลางๆ มันอยู่ในครอบครับค่อนข้างขัดสนมีน้องและยายเพียงสามคนเท่านั้น กล้วยเห็นว่ามันเป็นคนขยันขันแข็งก็เลยให้มันมานอนเฝ้าสวนยางเป็นครั้งคราวหรือมีงานอะไรก็อาศัยมันให้จัดการให้ส่วนค่าแรงก็แล้วแต่จะให้ แจ็คจึงกลายเป็นผู้ช่วยของกล้วยไปโดยปริยาย ผมรู้จักกับแจ็คดีเพราะมาหากล้วยทีไรก็เจอหน้ามันประจำ ส่วนกลอยนั้นอาจจะเคยเจอหน้ากับมันบ้างแต่ยังไม่เคยสนทนากัน
แดดร่มลมตก ลาบไก่บ้านกับต้มกระดูกไก่และปลานิลย่างเกลือก็หอมฉุยเตะจมูก เหล้าสีพร่องไปเกือบกลมแล้วพวกเราจึงได้เริ่มกับแกล้มกัน เราสี่คนนั่งล้อมวงที่โต๊ะไอ้แจ็คชงเหล้าแจกจ่ายรอบวงพร้อมขอบคุณผมที่ทำให้มีเหล้าสีและโซดากินเพราะปกติกล้วยให้กินแต่เหล้าขาว เสียงเจ้ากล้วยร้องว่า เฮ้ย...มีให้กินแล้วก็อย่าบ่น มันหัวเราะแหะๆ บอกว่า ไม่ได่บ่นแค่บอกเล่า
เหล้าหมดไปสองกลมผมเริ่มจะเมาจึงขอตัวไปอาบน้ำก่อนเพราะเกรงว่าจะเมาหลับจนไม่ได้อาบน้ำส่วนกลอยก็อาบต่อจากผม เธอเดินนุ่งผ้าขนหนูออกจากห้องเพื่อจะเข้าห้องน้ำด้านนอกและเดินกลับจากห้องน้ำเข้าห้อง สายตาผู้ชายทั้งหมดจ้องมองไปยังร่างขาวผ่องของเธอตาเป็นมันแต่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อเธอสวมเสื้อก็ฬากางเกงขาสั้นออกมานั่งร่วมวงพร้อมกลิ่นแป้งและโลชั่นหอมๆ แจ้าแจ็คมันถึงเอ่ยปากบอกว่า พี่กลอยหอมจัง กลอยยิ้มๆ บอกว่า ปากหวานจังนะ แจ็คก็ได้แต่ยิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ
เวลาล่วงเลยกว่าสี่ทุ่มเหล้าขวดที่สามพร่องไปครึ่งกลมแจ็คกับเพื่อนจึงขอตัวกลับ เราสามคนก็เข้าห้องด้วยอาการมึนเมาพอสมควร กล้วยเตรียมที่นอนปิกนิคมาด้วยส่วนผมก็เตรียมผ้าห่มมาจากบ้านด้วยเช่นกัน
อากาศเดือนพฤศจิกายนปีนั้นยังไม่ถึงกับหนาวอะไรแต่ผ้าห่มนวมก็ทำให้เราอุ่นได้ ผมนอนกอดกลอยอยู่ข้างๆ กับกล้วยที่มันส่งเสียงกรนเบาๆ บ่งบอกว่ามันหลับไปแล้ว แต่ผมสิ แอลกอฮอล์ลงไข่ไปแล้วก็เกิดความเงี่ยนขึ่นมา ผมตะแคงหอมไซ้ซอกคอกลอยซึ่งเธอรับรู้ความต้องการของผมแต่คงเกรงใจกล้วยมัน เสียงเธอกระซิบว่า เดี๋ยวพี่กล้วยก็ตื่นหรอก ผมก็ว่า มันหลับแล้วไม่ตื่นหรอก แต่ผมก็วาดแผนการณ์ไว้ในใจแล้วว่ายังไงวันนี้ก็จะให้เจ้ากล้วยมันเข้าร่วมให้ได้
ผมซุกไซ้กลอยอย่างหนักมือก็เคล้นคลึงสองเต้าพร้อมกับถอดเสื้อผ้าสองเราออกจนร่างเปลือยเปล่าทั้งคู่ ผมทาบทับบนร่างกลอยพร้อมปากที่โลมเลียสองเต้างามมือก็บีบขยำเต้านุ่มนวลไปด้วย กลอยสูดปากซี๊ดด้วยความสยิวโดยอารมณ์นั้นเธอเลิกที่จะกังวลกับกล้วยแล้ว ผมละปากจากปทุมถันไล่ลิ้นลากลงมาตามร่องท้องเจาะเข้าจุดอ่อนของกลอย ผมวนลิ้นเล่นสะดือจนกลอยบิดต้วเร่าๆ สองมือเธอขยุ้มผมบนศีรษะผมแทบขาดติดมือ เสียงหายใจฟืดฟาดเสียงครางกระเส่าดังไม่ขาดระยะ
ผมชำเลืองตาดูเจ้ากล้วยนิดหนึ่งจากแสงไฟที่เปิดไว้หน้าห้องลอดเข้ามาพอให้ร่างสลัวๆ ผมเห็นมันขยับตัวเล็กน้อยดูท่าว่ามันจะตื่นแล้วจากเหตุการณ์ส่งเสียงครางดังๆ ของกลอย มันทำท่าทางเหมือนนอนหลับต่อแต่ผมชื่อว่ามันต้องแอบเผยอเปลือกตามองดูอยู่เป็นแน่แท้
ผมละปากจากสะดือกลอยเลื่อนตัวขึ้นนั่งแล้วจับกลอยลุกขึ้นนั่งก่อนที่ผมจะนอนหงายและดึงเธอนอนทาบทับบนตัวผม เราดูดปากกันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะพลิกตัวกลอยนอนหงายลงไปข้างๆ กล้วย ผมรีบซุกหน้าลงหว่างขาของกลอยพร้อมลงลิ้นแยงเข้าร่องสวาทของเธอ กลอยนอนดิ้นพล่านเมื่อเจอกับลิ้นที่ระรัว ผมลงลิ้นหนักๆ พร้อมนิ้วที่ชอนไชเข้าลึกและหมุนควง เสียงครางของกลอยสะท้อนห้องเล็กๆ จนกลบทุกสรรพเสียงที่ดังมาในความเงียบ
ผมมองเห็นกางเกงกีฬาของกล้วยมันตุงๆ ขึ้นมาจึงจับตัวกลอยพลิกอีกครั้งให้เธออยู่ในท่าคลาน ผมโย่งโก๊ะบนตัวเธอพร้อมกระซิบที่หูกลอยเบาๆ ว่า ลองจับควยกล้วยดูสิ เห็นไหมว่ามันกำลังพองตัวอยู่ใต้กางเกง แล้วผมก็ลงมาเล่นลิ้นกับร่องเสียวที่เบียดกันเป็นกลีบพูลอดออกมาทางด้านหลัง กลอยแอ่นก้นหรารับลิ้นของผมที่ตวัดเลียรูหน้าทีรูหลังที
มือของกลอยค่อยๆ เอื้อมไปลูบไล้ที่หน้าขาของกล้วย ผมเห็นควยของมันลุกพองใหญ่เต็มเป้ากางเกงเมื่อเจอมือนุ่มๆ เข้าไป กลอยครางอยู่ซี๊ดๆ พร้อมมือเริ่มคว้าเข้าสู่เป้าหมาย เธอกุมหมับเข้าที่เป้ากางเกงแล้วลูบคลำไปมา กล้วยขยับตัวนิดหน่อยคาดว่าคงเกิดความเสียวแต่ก็ยังทำทีหลับต่อไป
แล้วกลอยก็สอดมือเข้าไปใต้กางเกงด้วยความอยากรู้ มือเธอสัมผัสกับแท่งเนื้อของกล้วยแต่คาดว่าคงไม่หนำใจที่มีกางเกงอยู่ขวางกั้น เธอร่นขอบกางเกงกล้วยลงต่ำแล้วควยขนาดใหญ่ก็ดีดผึงตามออกมา
ฉายา "กล้วย" ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
เมื่อครั้งเข้าเรียนนักเรียนพลตำรวจได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เรายังไม่ทราบชื่อเล่นกันสักเท่าไหร่ส่วนใหญ่ก็จะเรียกชื่อจริงกัน ผมกับกล้วยเป็นบั๊ดดี้กันผมจึงรู้ว่ามันชื่อ "โจ้" แต่คนอื่นจะเรียกมันว่า "นิต" จากชื่อจริงของมันว่า "มานิต" ตอนนั้นกองร้อยของผมได้รับแจกชุดวอร์มเป็นกองร้อยแรกและมีงานเลี้ยงของผู้กำกับโรงเรียน พวกผมประมาณสิบคนได้รับเลือกให้ไปช่วยในงานคอยเสิร์ฟหรือชงเหล้าให้กับผู้ร่วมงานในชุดวอร์ม ผมกับกล้วยประจำอยู่ที่โต๊ะเบียร์สดก็เลยได้ดื่มเบียร์สดไปด้วยเรียกว่าเมาพอสมควรกว่างานจะเลิก ด้วยอากาศที่อบอ้าวพอถึงกองร้อยก็พากันอาบน้ำกัน ปกติเวลาอาบน้ำพร้อมกันหลายๆ คนเราก็ใส่กางเกงในกันแต่คืนนั้นเวลากว่าหกทุ่มแล้วพวกเราจึงพากันถอดกางเกงอาบน้ำ ควยไอ้กล้วยพองตัวใหญ่เต็มหน้าขามันว่า เวลาเมาทีไรควยมันลุกทุกที มันยังอวดอีกด้วยว่า นี่ขนาดยังไม่แข็งเต็มที่นะโว้ย มันเอาไหล่กระแทกผมเบาๆ บอกว่าหนอนน้อยหลบไปพญานาคมาแล้ว ผมได้ยินเพื่อนอีกคนพูดเสียงดังว่า ควยไอ้นิตนี่เหมือนกล้วยเลยว่ะ เสียงเพื่อนอีกคนสำทับมาว่า เออ...ใช่ เหมือนจริงๆ ไอ้ควยกล้วย จากนั้นมาทั้งกองร้อยก็เรียกมันว่าไอ้ควยกล้วย จนเมื่อเวลาผ่านไปก็เหลือชื่อสั้นๆ ว่ากล้วย เนื่องจากควยของมันที่งอนโค้งขึ้นข้างบนและบริเวณหัวเงี่ยงเล็กแต่ตรงกลางลำกลับอวบใหญ่ลักษณะคล้ายๆ กล้วยนั่นแหละ
กลอยจ้องมองควยกล้วยนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสมันเบาๆ มือนุ่มๆ ค่อยๆ ลูบคลึงควยอวบใหญ่โค้งงอนไปมา แล้วกลอยก็ค่อยๆ ถอกควยรูดไปมาช้าๆ ผมมองเห็นเธอค่อยๆ ก้มหน้าลงไปใช้ลิ้นเลียที่ปลายหัวแหลมเล็ก ส่วนมือก็ชักรูดควยกล้วยอยู่ช้าๆ ภาพต่อหน้าทำให้ผมอดใจไม่ไหวต้องโหย่งตัวคุกเข้าจ่อเจ้างูเขียวเข้าที่ร่องรูเสียวที่แผลมออกมาทางก้นของกลอยแล้วก็ค่อยๆ ส่งมันเข้าสู่รูเสียวช้าๆ กลอยครางอือๆ เมื่อเธอใช้ปากอมควยกล้วยอยู่ครึ่งลำ งูเขียวผมเลื้อยเข้ารูของกลอยจนมิดแล้วผมก็เริ่มโยกช้าๆ กลอยหัวคลอนไปมาแต่ปากเธอก็ยังอมดูดกับควยกล้วยไม่ขาด
มาถึงตอนนี้ผมเห็นกล้วยมันไม่แกล้งหลับอีกต่อไปแล้วเมื่อผมเห็นมือมันเอื้อมไปกดที่ศีรษะกลอยแน่นบ่งบอกถึงความเสียวที่ได้รับพร้อมเสียงครางอือๆ เบาๆ ลอยออกจากปาก ผมก็สมใจแล้วที่กล้วยมันเริ่มตามแผนที่ผมวางไว้ ผมกดเอวสาวควยยาวๆ เข้าออกด้วยอารมณ์กำหนัดที่พุ่งพล่าน เสียงกลอยครางอือๆ อยู่กับควยใหญ่ของกล้วย เธอรับรู้ว่ามันรู้สึกตัวแล้วเธอจึงไม่จำเป็นต้องกลั้นเสียงครางอีกต่อไป
ผมถอนควยออกจากร่องเสียวของกลอยแล้วจับขาเธอก้าวข้ามไปคร่อมบนตัวกล้วย สะโพกเธอลอยเด่นอยู่ตรงหน้า มันใช้สองมือคว้าหมับเข้าที่แก้มก้นของกลอยพร้อมขยุ้มขยำไปมา เนื้อเนียนนุ่มคงจะโดนใจมันเข้าแล้วเพราะผมเห็นมันทั้งลูบทั้งบีบอยู่ไม่ขาด แล้วมันก็ดึงเอวกลอยลงต่ำพร้อมกับลิ้นที่ตวัดชอนไชใส่รูเสียว กลอยส่งเสียงครางพร้อมบดโหนกเนื้อลงอัดใบหน้ากล้วยและส่ายวนเอวไปมาด้วยความเสียวซ่าน ส่วนผมก็แทรกตัวเข้านอนหงายเอาปากไปดูดเลียที่สองเต้าน้อยๆ ที่คุ้นเคย มันยิ่งสร้างอารมณ์ให้กลอยอย่างยิ่งยวด
"อ๊า...อูย...ซี๊ด....."
กลอยละปากออกจากควยกล้วยแนบหน้าลงที่หน้าท้องของมันร้องครางออกมาเสียงยาว ร่างของเธอเกร็งพร้อมกระตุกหงึกๆ ความกำหนัดที่ครอบคลุมจิตใจได้ปลดปล่อยออกไปแล้ว กล้วยละใบหน้าที่ชุ่มโชกด้วยน้ำแล้วเคลื่อนตัวออกจากใต้ร่างกลอย มันคุกเข่าประชิดก้นของเธอพร้อมมือที่สาวควยตัวเองไปมา มันจ่อควยใหญ่เข้าที่รูสวาทของกลอยแล้วก็ค่อยๆ ดันเข้าไป น้ำเงี่ยนของกลอยชุ่มเปียกอยู่เต็มร่องและหัวเงี่ยงขนาดเล็กของควยกล้วยด้วยกระมังที่ทำให้มันผลุบหายเข้าไปได้ แต่ก็แค่นั้นเพราะลำควยอวบใหญ่ยังรอให้กลอยได้ลิ้มลองอีกทั้งลำ
กลอยครางเสียงดังเมื่อกล้วยค่อยๆ โยกเอวพาลำควยใหญ่ค่อยๆ มุดรู เธอเอื้อมมือสอดเข้าไปลูบคลำลำควยใหญ่เหมือนบอกให้เจ้าตัวค่อยๆ สอดใส่ซึ่งกล้วยก็รับรู้ได้ว่าขนาดควยของมันนั้นใหญ่อาจทำให้กลอยเจ็บได้มันจึงค่อยๆ โยกเอวไปมาช้าๆ พร้อมสองมือรั้งสะโพกกลอย เสียงลมหายใจมันดังฟืดฟาดบ่งบอกว่าความเสียวที่มันได้รับนั้นมีมากขนาดไหน
"อา...ไม่นึกไม่ฝันเลย บุญของพี่จริงๆ เลยกลอยเอ๊ย อ๊า...."
กล้วยพร่ำเพ้อพร้อมกดควยพรวดเดียวจมลำจนกลอยผวาเฮือกกับความคับแน่นที่ได้รับ กล้วยแช่ควยไว้แล้วก้มตัวลงพรมจูบแผ่นหลังขาวเนียน เสียงมันเพ้อว่า เนื้อกลอยนุ่มดี หีก็ตอดอยู่ตุบๆ แล้วมันก็ขยับเอวซอยใส่แก้มก้นกลอยเสียงดังสนั่น
ผมขยับตัวนอนหงายเอาควยไปจ่อตรงหน้ากลอยและเธอก็รู้งานรีบจับมันเข้าปากทันที เธอใช้มือสาวควยไปมาปากบางก็อมเจ้างูเขียวจนจมมิดพร้อมลิ้นสวยลามเลียวนไปทั่วทำเอาผมเสียวสะท้านในขณะที่เธอเองก็เกร็งตัวต้านแรงกระแทกของกล้วยไปพร้อมกันเพราะร่างหนาใหญ่นั้นกำลังโยนเอวใส่ก้นของเธอเสียงดังตับๆ จนกลอยละปากจากควยผมแล้วร้องครางอย่างเสียวซ่าน ผมเลื่อนตัวลงไปจูบปากกับเธอพร้อมกระซิบถามว่า มีความสุขไหม? กลอยยิ้มตาเยิ้มพูดเสียงขาดหายว่า มีความสุข ผมถามต่อว่า มากไหม? เธอตอบหน้าเหยเกด้วยความเสียวว่า มาก ผมถามต่ออีกว่า เอาแรงๆ เลยไหม? กลอยได้แต่พยักหน้า ผมจึงบอกว่า ให้บอกกับกล้วยเองเลย
"อ๊า...พี่...พี่กล้วย แรง...แรงๆ ค่ะ ซี๊ด...."
กลอยหันหน้าไปบอกกับกล้วยแล้วหันมาซบลงที่อกผม กล้วยมันก็รับรู้เมื่อมันเร่งเอวเร็วและแรงขึ้นจนตัวกลอยสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อกล้วยเร่งความเร็ว เสียงหายใจ,เสียงครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อของคนทั้งสองดังชัดในความเงียบสงัด
"กลอยจ๋า...พี่จะออกแล้วนะ"
"อ๊า...จ้า ออกมาเลย กลอยก็...... ซี๊ด...."
เอวของกล้วยระรัวเร็วใส่ก้นของกลอยอย่างแรง เสียงกลอยหวีดร้องพร้อมแอ่นสะโพกงอนสวนควยของกล้วยที่สาวใส่ กล้วยเร่งเอวผับๆ อยู่สักครู่ก่อนจะร้องอู๊กเสียงดังพร้อมอัดเอวบดเข้ากับก้นงอนผายของกลอย เสียงลมหายใจหอบของคนทั้งสองดังก้องห้อง กลอยฟุบหน้าลงที่อกผมพร้อมกับทิ้งตัวนอนราบโดยมีร่างของกล้วยนาบประกบอยู่ มันฟุบหน้าลงบนแผ่นหลังขาวเนียนของกลอยพร้อมมือที่ลูบไล้ไปมาทั่วตัวของเธอ
อา...ทั้งเพื่อนรักและเมียรักของผมต่างสุขสมไปแล้วทั้งคู่ ก็เหลือแต่ผมแล้วล่ะ
ผมจะจัดการกับตัวเองยังไงขอยกยอดไปเล่าต่อในตอนหน้านะครับ
วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
เรื่องเล่าของผัวเมีย #43
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น