หลังจากเมื่อคืนที่เค้ารับก้อยมาเสพสม กันอย่างสุดเหวี่ยง เช้ามานายเคก็อาษาไปส่งก้อย ที่บริษัทที่ต้องไปเสนอสิ้นค้าตัวใหม่ ก้อยก็เลยแต่งตัวเยอะกว่าปกติหน่อย เพราะบริษัทเนี้ยมีวิศวกรหนุ่ม ๆ รุ่น ๆ เยอะเลย ใส่กระโปรงหนังทรงจีบสีดำ ส่วนเสื้อซับก็ใส่แบบสายเดี่ยวคอกว้าง คือก้มนี้เห็นนมแน่ ๆ ก้อยเลยใส่บราปีกนกด้วยเลย แล้วใส่เสื้อสูททับอีกที มองดูตัวเองในกระจกก็แซ่บอยู่นะ ขายของได้แน่นอน แต่เอาให้สุดไปเลยดีกว่า ใส่ถุงน่องด้วยเลย ก้อยตัดสิ้นใจใส่ถุงน่องแบบถุงเท้า ที่มันยาวถึงขาอ่อน ถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้ แต่ถ้ามันร่นเวลานั่งก็จะมองเห็นเลยคะ ว่ามันไม่ใช่แบบกางเกงที่สวมทับ ที่สำคัญก้อยใส่สีดำไปเลย วันนี้รู้สึกมั่นยังไงก็ไม่รู้ อาจจะเพราะมีหนุ่ม ๆ ที่แอบเล็งไว้ด้วย เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพ นายเคที่สตาร์ทรถรออยู่ กำลังยืนเช็คน้ำมันเครื่องรถอยู่ เค้าถึงกับมองก้อยตาค้างเลย แหม่ก็แต่งเต็มขนาดนี้ ขณะก้อยจะเปิดประตูรถ นายเคก็ว่า "ก้อยมาขับก่อน...เราเพลียหน่อย ๆ " ก้อยเลยต้องย้ายไปขับให้เค้าก่อน เวลานั่งรถด้วยกันนั้น สังเกตดูเค้าจะมีอารมณ์อยากด้วย เพราะเมื่อก้อยแอบเหลือบมองที่เป้ากางเกงเขา ก็ต้องรู้สึกผิดสังเกตเพราะว่าตรงกลางเป้านั้น มันตุงขึ้นมาอยู่บ่อยครั้ง ทำเอาความรู้สึกความต้องการทางเพศของก้อยมันลุกโชนขึ้นมาอย่างรู้สึกได้เลย เพราะซอกหว่างขาของก้อยนั้น กลับมีความชื่นแฉะตรงบริเวณร่องเสียว ก้อยก็ขับรถไปยังที่หมายคือบริษัทลูกค้า และก็มีเรื่องให้ปวดหัว เมื่อน้องที่จะเป็นคนไปรับสินค้าตัวใหม่ มาสาธิตให้ลูกค้าดู เกิดมีธุระด่วน มาไม่ได้ก้อยถึงกับไปไม่เป็นเลย เพราะบริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ด้วย เลยปรึกษากับนายเคที่มาส่งว่าจะเอายังไงดี นายเคก็แนะนำว่าให้ บอกลูกค้าไปตรง ๆ อาจจะเข้าไปพบเขาหน่อย ว่ามันสุดวิสัยจริง ๆ เพราะสินค้าตัวนี้เราเพิ่งนำเข้ามา มีอยู่ชุดเดียว แล้วก็อยู่ที่น้องคนนั้นด้วย ก้อยก็เลยทำตามที่นายเคแนะนำ เข้าไปพบผู้จัดการคนเดียว นายเครออยู่ในรถ มีอาการเหมือนปวดหัวเค้าเอามือกุ้มหัวตลอด ก้อยจึงรีบไปพบลูกค้า และชี้แจงถึงสาเหตุ พร้อมกับขอเลื่อนไว้คราวหน้า ซึ่งพี่วิทย์ผู้จัดการ แกก็ใจดีมากบอกว่าไม่เป็นไร พร้อมเมื่อไรก็นัดมา แต่ถ้าเป็นไปได้ให้มาช่วงบ่ายดีกว่า ตอนเย็นจะได้ไปหาอะไรกินกัน สายตาพี่วิทย์อ่านกินก้อยตลอด ไม่ละสายตาเลย ก้อยเลยนั่งไพร่ขาให้กระโปรงมันร่น ๆ จนเห็นขอบถุงน่อง พี่วิทย์ถึงกับลูบปากลูบเคราตัวเองตลอด ระหว่างที่เราคุยกัน ก่อนที่ก้อยจะลาขอตัวกลับก่อนแล้วก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติของเรา เมื่อก้อยขับออกมาจากบริษัทลูกค้า ยังไม่เข้าเขตตัวเมืองดีพอรถติดไฟแดง ตอนนั้น ส่าย ๆ รถถนนเลี่ยงเมืองไม่เยอะ เขานายเคมองที่ก้อยแล้วพูดว่า "ขาก้อยสวยจัง อยากขอจับหน่อยได้ไหม เค้าพูดแบบเล่น ๆ ก้อยได้ฟังก็รู้สึกตื่นเต้นที่เค้าพูดจาโอ้โลมแบบนี้ แต่ด้วยความที่ห่วงงานจึงแกล้งดุเขาว่า "อะไรกัน เธอจะบ้าเหรอ นร่มันใช่เวลาไหม" แต่ดิฉันพูดแบบไม่จริงจัง เขาก็ยิ้มและดูเขาเขิน ๆ อาย ๆ จนไม่ค่อยกล้าจะมองมาที่ขาก้อยอีก แต่มันไม่ตลอดน่ะสิคะ….ใจจริงก้อยก็รู้สึกตื่นเต้นและมีความต้องการลึก ๆ ในเรื่องอย่างว่าขึ้นมาทันทีเลย เพราะแค่คำพูดมันก็ไม่เท่าไหร่หรอกคะ แต่เพราะเป้ากางเกงของเค้าน่ะสิคะ ที่มันแสดงออกมาจนตุงเต็มกางเกงเลยน่ะ ทำให้อารมณ์พิศวาสในกายของก้อยลุกโชนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลย ความอยากในเรื่องเพศ กลับถูกกระตุ้นอย่างที่ก้อยก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คำพูดแถะโลมของเค้าจึงทำให้ก้อยมีอารมณ์ได้ขนาดนั้น จึงได้แต่นั่งขับรถต่อไปทั้งที่ตอนนั้นยอมรับจริง ๆ คะ ว่าซอกกลางหว่างขาของ ก้อยนั้นมันชื้น ๆ จนรู้สึกได้แล้ว แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะยังไงต้องรีบไปเอาสินค้าตัวอย่างที่น้องพนักงานอีกคน ทำให้ก้อยต้องวางตัวมากขึ้น ไม่กล้าทำอะไรที่เกินงาม จึงได้แต่ยั้งใจตัวเองไว้ แต่แล้วเมื่อขับไปได้สักพัก นายเคเค้าก็เอามือเขามาจับที่ขาที่ส่วมถุงน่องของก้อย แบบไม่ให้ก้อยได้ตั้งตัว เค้าเล่นเลื่อนมือขึ้นมาจนถึงขอบชายกระโปรงหนัง พร้อมกับลูบขึ้นลง อย่างไม่เกรงใจคำพูดก้อยเลย ซึ่งก้อยก็หันไปมองหน้าเค้าแบบงง ๆ ปนสยิวเล็ก ๆ ซึ่งเค้าก็ยิ้มแบบเขินแต่ก็ไม่เอามือออกห่าง และสิ่งไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้นกับก้อย นายเคยิ่งได้ใจเมื่อเห็นก้อยไม่พูดด่าว่า หรือตำหนิการกระทำของเค้า นายเคก็แอบเอาปลายนิ้วล้วงเข้าไปกระโปรงของก้อย จนปลายนิ้วเลื่อนไป ลูบสัมผัสกับกางเกงในของก้อย เค้าลูบเป้าของก้อยขึ้นลง อย่างเบา ๆ ก้อยเริ่มมีอารมณ์กับสิ่งที่เค้าทำ แต่ต้องเก็บอาการขับลงไปอย่างเกร็ง ๆ ตอนนี้ขาของก้อยอ้าออกจนสุด ๆ จนรู้สึกว่ามันเหมือนจะสัมผัสกับเนินเนื้อแท้ของก้อยเลย ตอนนั้นบอกตามตรงว่าตรงใจ ตื่นเต้นผสมกับงง ๆ กับสิ่งที่เค้ากล้าทำกับก้อย ซึ่งก้อยก็ไม่ได้ปัดป้องหรือขัดขืนเค้าด้วยสิค่ะ เพราะความรู้สึกตอนนั้นอย่างที่บอกทั้งตื่นเต้น และที่สำคัญมันเสียวมาก เสียวสุด ๆ น้ำเสียวในซอกเหลือบกลางหว่างขานั้น เยิ้มหยาดออกมาอย่างรวดเร็วเต็มไปหมด ก้อยพอเริ่มตั้งสติได้ ก็พยามจะพูดห้ามปรามเค้า นายเคกลับยิ่งล่วงลึกเข้าไปในขอบกางเกงในก้อย จนปลายนิ้วสัมผัส กับเนินโหนกของก้อย ซึ่งเมื่อเขาสอดแทรกนิ้วแซะเข้าไปในกางเกงในก้อย เค้าก็ยิ่งรุกหนักอย่าง รวดเร็วด้วยการขยับปลายนิ้ว และมือให้เข้าลึกจนเนินเสียวของก้อยได้สัมผัส ตอนนั้นก้อยทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ พยามจะห้ามปรามเค้าก็ไม่สำเร็จ จนในที่สุดปลายนิ้วเขาก็แซะที่บริเวณร่องเสียว และขยับไปโจมตีบริเวณติ่ง เสียวกลางร่องรูรักของก้อยอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้ก้อยตัวอ่อนเลยค่ะ คำพูดห้ามปรามค่อย ๆ สั่น ๆ เปิดทางให้เค้าสามารถสอดมือเข้าไปสัมผัสกับเนื้อแท้ ของเนินโหนกของก้อยได้ บอกตามตรงเลยว่าตอนนั้นก้อยเสียวไปหมด เมือกลื่นไหลออกมาเนืองนองจนรู้สึกได้ ซึ่งก้อยคิดว่าเค้าเองก็คงสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นครั้งนี้ของก้อย เค้าจึงพูดบอกก้อยอย่างไม่อายว่า "ก้อยจ๋า...เราว่าจอดรถข้างทางเถอนะ..ขับต่อไปไม่ไหวหรอกแบบนี้นะ..น่ะ….นั้นแหละ..ตรงนั้นดีกว่า..เลี่ยวเข้าไปเลย.." เสียงคำพูดของเค้าเหมือนเป็นมนต์สะกดให้ก้อยทำตาม เมื่อขับไปเห็นพื้นที่ข้างทางที่มีถนนเล็ก ๆ สำหรับขี่จักรยานเข้าไปในทาง มีบริเวณพอให้จอดพักรถได้ ซึ่งก้อยก็หักเลี่ยวเข้าไปตามที่เค้าสั่ง อย่างคนต้องมนต์ ซึ่งหากใครไม่รู้ก็คงคิดว่าพักรถซะมากกว่า ซึ่งบริเวณดังกล่าวเมื่อจอดรถ ต้องยอมรับว่ามันช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ เพราะคงไม่มีใครผ่านไปมาเรียกว่าเปลี่ยวใช่ได้เลยละ ก้อยจึงยอมทำตามที่เค้าบอก เลี้ยวเข้าไปทำเป็นพักรถ ทันที่เข้าพักจอดรถสนิท นายเคก็จู่โจมก้อยอย่างรวดเร็ว เค้าเข้ามากอดจูบก้อยมั่วไปหมดเหมือนคนกระหาย มือไม้ของเค้าก็โจมตีจุดเสียวของก้อยอย่างรุนแรง ด้วยการคลึงจี้บี้ติ่งเสียวไปมาจนก้อยหมดเรี่ยวหมดแรง เสียงร้องห้ามปรามก็แทบจะเลือนหายไปจนหมด ไม่รู้เลยว่าเค้า แอบมาปลดปรับเบาะให้เอนราบจนเหมือนเตียงตอนไหน มารู้ตัวอีกที่ ก็เมื่อตัวก้อยนอนราบกับเบาะโดยเค้าก้มไปแทรกกลางหว่างขาแล้ว และเค้าก็ก้มเลียเนินโหนกของก้อย ที่ยังมีกางเกงในตัวบางกาง กั้นอย่างมูมมาม "ก้อยใส่แบบนี้...จะใส่ไปยั่ววิศวกรไง" เค้าพูดเมื่อถอนปากจากหว่างขาของก้อย "ไม่...ไม่ใช้แบบนั้น" ก้อยแก้ตัวไปทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแบบนั้น แต่ลืมไปว่านายเคยังไม่กลับไป "แล้วทำไมต้องแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ ที่อยู่กับเรายังไม่แต่งแบบนี้เลย"นายเคว่าก่อนจะมุดหน้าลงไปไล่ไซร้ที่ขาอ่อนทั้งสองข้าง "เค...อย่าคิดมากสิ...ก้อยมาทำงานนะ...มันเป็นวิธีของก้อย...แล้วเคชอบเปล่าละ" ก้อยว่าอธิบายให้เขาฟัง แต่เค้ายังไม่ตอบ ได้แต่ไซร้ขาอ่อนแบบหื่นมาก ๆ ก้อยเสียวแบบสุด ๆ ซึ่งมันทำให้ก้อยเสียวซ่านจนไร้สิ้นเรี่ยวแรง ก้อยถึงกับอ่อนแรงปล่อยให้เค้าจับปลายขาที่ยังส่วมถุงน่องทั้งสอง ถ่างอ้าออกจากกันเปิดทางให้ ใบหน้าของเค้าก้มซุกเลียอย่างไร้แรงต้านทาน นายเคเลียกางเกงในของก้อยจนชุ่มโชกไปหมด "ใส่กางเกงในบาง ๆ แบบนี้...กลัวหอยเหม็นไง" นายเคว่า เมื่อเค้ากระหนำเลียจนก้อยแข้งขาอ่อนไปหมด "มันไม่ใช่...แบบที่นายคิดน่ะ" ก่อนพูดแก้ต่างให้ตัวเอง แล้วเค้าก็ดึงถอดกางเกงในออกจากตัวก้อย ที่ยกก้นช่วยให้ถอดง่าย ก้อยรู้สึกเสียวแปลบ ก็เมื่อร่องเสียวของตัวเอง โดนปลายลิ้นสากของนายเค สัมผัสประกบแนบแน่น ซึ่งก้อยเสียวไปหมด "โอ้ยยย...โอ้ยย...ก้อยเสียว...เสียวที่หอย" ก้อยร้อง เพราะเค้านั้นสร้างความเสียวความสุขให้มากมายถึงเพียงนี้ ยิ่งเค้าระรั่วลิ้นปลายติ่งเสียวกลางร่องเสียว มากเพียงใดความเสียวความ ตื่นเต้นก็ยิ่งมากเป็นทวี "อูยยย....อูยยย...ก้อยย่อมแล้ว...ต่อไปก้อยไม่กล้ายั่วแล้ว...เย็ด ๆ เถอะ" ก้อยไม่อาจทนอีกต่อไป ก้อยร้องครางลั่นด้วยความเสียว ที่เค้ามอบให้อย่างต่อเนื่อง ความเสียวที่ได้รับจากเค้านั้น ก้อยกลับรู้สึกต้องระบายออก ด้วยเสียงดัง ๆ อย่างเพราะความ เสียวที่มีมากสุด ๆ ตั้งแต่เคยสัมผัสจากเค้า ไม่เคยคิดเลยว่าลีลารักครั้งนี้ มันจะตื่นเต้นและสร้างความเสียวสุขได้มากเพียงนี้ ทำให้ก้อยร้องครางครวญอย่างเต็มอารมณ์ ไม่ช้าไม่นานน้ำรักก็ทะลักทลายของก้อยนั้นก็โดนปลายลิ้น และปากของเค้าทะลวงจนมันเหมือนกับเขื่อนแตก เพราะก้อยเสียวเกร็งกระตุกตัว น้ำเสียวที่ทะลักออกมาอย่างมากมายไม่รู้ ซึ่งทำให้ก้อยเผลอตัวเอามือไปกดหัวเค้า ให้ซุกจมแนบแน่นกับเนินโหนกอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเค้าก็ดูเหมือนจะไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นมาเหมือนกัน เพราะเขายิ่งระรั่วลิ้นดูดกลืนเมือกเสียวที่ไหลออกมาอย่างท่วมท้น อย่างไม่หยุดไม่หย่อน เฉกเช่นเดียวกัน บัดนี้ก้อยได้ถึงสวรรค์อีกครั้งแล้ว มันช่างเป็นความสุขเกินบรรยายจริง ๆ ซึ่งทำให้ก้อยอ่อนล้า หมดเรี่ยวหมดแรงเลยทีเดียว แต่เค้าดูเหมือนจะยังไม่พอใจ เพราะเค้ายังคงโลมเลีย มันอย่างไม่หยุดไม่หย่อน คล้ายคนกระหายน้ำยังไงยังงั้น "ก้อย...วันนี้ทำไมหอยหอมจัง...เลียไม่เบื่อเลย...อย่าให้รู้นะว่าใส่อะไรไปหาพวกนั้น" นายเคว่า ใจนึงของก้อยก็ดีใจ อีกใจก็นึกว่าเค้าน่าจะเมาหอยก้อยแล้ว ก็มีเค้าทั้งดมทั้งเลียอยู่คนเดียว ผัวก้อยยังไม่ได้ยุงเลย แต่ก้อยก็บอกไป "หอมเหรอ...หอมก็เลียบ่อย ๆ นะ" ก้อยปล่อยอารมณ์ปล่อยกาย โดยไม่รู้เลยว่าเค้าปลดเข็มขัดกางเกงจนท่อนล่างเปลื่อยเปล่าไปแล้ว เค้าก็เงยหน้าออกจากร่องเสียวที่เปียก ชุ่มแฉะของก้อย ซึ่งก้อยก็อายที่จะเปิดตามองเค้าในตอนนั้น ความอ่อนล้ายังไม่ทันคลายจนหมดสิ้น ก้อยก็ต้องรู้สึกเหมือนมีอะไรมาถูไถที่กลางร่องเสียวของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งสัมผัสนั้นมันบอกว่าไม่ใช้ปลายลิ้นหรือปลายนิ้ว ทำให้ก้อยตกใจเลยเปิดตาก้มมองสิ่งที่กำลังพยามรุกลำอาณาเขตที่สงวน แล้วก้อยก็ต้องสะดุ้งกายทันที เพราะปากร่องรูของก้อยนั้น กำลังโดนท่อนลำเขื่อนจ่ออย่างน่ากลัว นายเคจ่อและดันปลายบานหยักของหัวควยลำนั้น จมลึกเข้ามาในร่องเสียวของก้อยอย่างเต็มแรง จนแท่งลำนั้นพรวดเข้ามาในร่องเสียว จนหมดสิ้นแล้ว พร้อมกับเสียงเค้าพูดอ่อดอ้อนว่า "อูยส์..ๆ…ซี๊ด..อ๊า..ก้อยจ๊า…หีทำไมฟิตแบบนี้…อูยส์…ทั้งแน่น ทั้งหนึบรัดควย...แบบนี้…อูยส์…ซี๊ด…อ๊า..ๆ…อ๊า..ก้อย…จ๊า…อ๊า..ๆ..ซี๊ด..ๆ..อ๊า…" คำพูดหยาบคายของเค้านั้น ทำเอาก้อยทั้งเสียวทั้งมันส์ และสิ่งที่เค้าบรรยายนั้นก็จริง เพราะร่องเสียวของก้อยนั้นก็ตอดรัดแท่งของเข้าอย่างตุ๊บ ๆ ๆ จนก้อยเองยังรู้สึกเลยนั้นมันคงทำให้เค้าเสียว และสุขไม่น้อยเฉกเช่นเดียวกับก้อย แม้มันจะตึง ๆ ในตอนแรกเริ่มแต่เมื่อมันผลุบหายเข้าไปช้า ๆ จนในที่สุดหนอกขนดกของเขาได้สัมผัสกับโหนกนูนขนอ่อนของก้อยจนแนบแน่นแล้วนั้น ก้อยก็ยิ่งรู้สึกถึงความสุขความตื่นเต้น ระคนความกระสันในรสชาติของเพลิงพิศวาสที่แตกต่าง มันเสียวอย่างบอกไม่ถูก นี้เป็นครั้งแรกที่มีเซ็กซ์ในรถ แถมยังกลางวันแสก ๆ เค้าเพิ่มความถี่ในการซอยกระแทกแบบเร็วจี้ ยิ่งทำให้ก้อยลืมความกังวลเรื่องงานไปจนหมดสิ้น ลืมไปเลยว่ากำลังรีบไปเอาของ ระยะเวลาเพียงไม่นาน ตั้งแต่เค้าเริ่มต้นจากการลูบขาที่สวมถุงน่องของก้อยนั้น มันคงไม่ถึง 10 นาที บัดนี้ก้อยได้รวมรักกับเค้า ทั้งขยับก้นและสะโพกเด้งลอยเก้งสู้ พร้อมถ่างขาอ้าออกมากว้างสุด ๆ เพื่อให้เค้าได้ทำในสิ่งที่ต้องการอย่างไม่รู้ตัว มือทั้งสองกลับจิกเกร็งกอดรักเค้าอย่างเผลอตัวอยู่บ่อย ๆ ก้อยบดปากประกบแลกลิ้นกับนายเคอย่างลืมตัว ยิ่งช่วงที่เค้าออกแรงซอยกระแทกเข้าออกถี่มากเท่าไร มือไม้ก้อยก็ค่อยโอบกอดรั้งให้เข้าประกบทาบกายอย่างสุขสม เรี่ยวแรงเค้ามีเท่าไรยิ่งประเคนสาดใส่ร่องเสียวของก้อยอย่างไม่มีความปราณี ทุกครั้งที่มันเข้ากระแทกภายในมดลูกก้อยนั้น มันช่างสร้างความเสียว ทำให้ก้อยเสียวสุด ๆ เวลาผ่านไปนานเพียงใดก้อยไม่รู้ แต่ก้อยรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นร้องครางลั่นดัง ๆ ไปแล้วถึง 2 ครั้งติด ๆ กันแล้ว จนความเสียวเกร็งใกล้มาเยือนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เค้ากลับเร่งซอยกระแทกอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม พร้อมเร่งถี่ยิบจนในที่สุดความเสียวอย่างสุดกั้นนั้นก็ทำให้ก้อยต้องร้อง ลั่นออกมาอีกครั้งติด ๆ พร้อมกับแรงโหมกระหน่ำของนายเค ที่เร่งถี่ยิบจนเค้าสุดกั้น เช่นเดียวกันจนต้องร้องครางออกมาตาม ซึ่งก้อยต้องสะดุ้งกาย และร้อนทั่วท้องน้อยไปหมด เมื่อน้ำรักร้อน ๆ ของเค้าได้พุ่งกระทบราดลดทั่วปากมดลูกของก้อย จนรู้สึกถึงไออุ่นของมันได้เลย แต่ก้อยตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น เพราะตนเองก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรงเช่น เดียวกับเค้า น้ำรักของดิฉันหลั่งออกมาติด ๆ กันถึง 3 ครั้ง ในขณะที่เค้าปลดปล่อยออกมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อทุกอย่างถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เราทั้งสองต่างหอบเหนื่อยล้าด้วยกันอย่างรู้สึกได้จากลมหายใจที่เข้าระบาย ออกข้างกายข้างหูก้อย นายเคจูบไล้ตามใบหน้า และซอกคอและประกบปากจูบก้อย รอบนี้เค้าเน้นช่วงล่างของก้อยอย่างเดียว จนไม่สนใจส่วนบนเลย ก้อยลุกขึ้นถอดเสื้อสูทที่ยับออกโยนไปด้านหลัง ตอนนี้ตัวก้อยเหลือแต่เสื้อสายเดี่ยวคอกว้างตัวเดียว กับถุงน่อง นายเคมองพร้อมกับทำท่าเลียริมฝีปาก ก้อยรีบเอากระดาษเปียกเช็ดหอย ก่อนจะเอากางเกงในมาใส่ กำลังจะเอากระโปรงที่ถอดออกมาเช็ดน้ำที่เปื้อน แต่นายเคคว้าไว้ก่อน แล้วว่า "ที่หลังอย่าทำให้หึง....ถ้าทำจะโดนแบบนี้...แต่ใส่แบบนี้ก็เซ็กซี่" นายเคพูดออกมา แล้วแบบนี้ก้อยจะต้องกลัวหรือเปล่านี้
วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2567
เธอชื่อก้อย 7 (ก้อยเล่าเอง)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น